ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณมีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่หรือไม่ และดูประวัติการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ในเว็บไซต์
หากเว็บไซต์มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ บางส่วนหรือทุกส่วนของเว็บไซต์จะไม่แสดงในผลการค้นหาของ Google
เปิดรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
รายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ใน Search Console - การฝึกอบรม Google Search Console
การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่คืออะไร
Google จะใช้การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่กับเว็บไซต์เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของ Google เห็นว่าหน้าเว็บไม่สอดคล้องกับนโยบายสแปมของ Google ส่วนใหญ่แล้วการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่จะช่วยจัดการกับความพยายามที่จะควบคุมดัชนีการค้นหาของเรา ปัญหาส่วนใหญ่ที่ระบุในรายงานนี้จะส่งผลให้หน้าเว็บหรือเว็บไซต์ได้รับอันดับที่ต่ำลง หรือไม่แสดงในผลการค้นหาโดยไม่มีการแสดงให้ผู้ใช้ทราบ
หากเว็บไซต์ของคุณได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ เราจะแจ้งให้คุณทราบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่และที่ศูนย์ข้อความใน Search Console
เหตุใดจึงมีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
นับตั้งแต่ที่มีการใช้เครื่องมือค้นหา มีคนบางกลุ่มที่พยายามหาวิธีพลิกแพลงเพื่อทำให้เว็บไซต์ของตนปรากฏอยู่ด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหา การทำเช่นนี้เป็นผลเสียต่อผู้ค้นหาเพราะเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องมากกว่าจะถูกฝังอยู่ใต้ผลการค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้อง และยังเป็นผลเสียต่อเว็บไซต์ที่ปฏิบัติตามกฎ เพราะจะทำให้ค้นหาเว็บไซต์เหล่านี้ได้ยากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ดำเนินการเพื่อต่อต้านนักส่งสแปมตลอดมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของ Google เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นคำตอบที่ต้องการเจอ และช่วยเพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ที่ปฏิบัติตามกฎจากการค้นหา
Google ดำเนินการเพื่อปรับปรุงการค้นหาอยู่เสมอ เราใช้ข้อมูลเป็นหลักในการดำเนินการและว่าจ้างนักวิเคราะห์ นักวิจัย และนักสถิติให้ประเมินคุณภาพการค้นหาแบบเต็มเวลา การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอัลกอริทึมของเราต้องผ่านการประเมินผลด้านคุณภาพอย่างครอบคลุมก่อนที่จะเผยแพร่ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัลกอริทึมของเรา
อัลกอริทึมของเราทำงานได้ผลดีเยี่ยมในการตรวจจับสแปม และในกรณีส่วนใหญ่แล้ว เราค้นพบสแปมและนำออกไปจากผลการค้นหาได้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การจัดทำดัชนีมีคุณภาพอยู่เสมอ เราจะยังคงใช้การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ควบคู่ไปด้วยเพื่อนำสแปมออกจากผลการค้นหา
เว็บไซต์ของฉันมีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่บ้างไหม
คุณจะเห็นจำนวนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่บนเว็บไซต์ของคุณที่ด้านบนของรายงาน หากเว็บไซต์ไม่มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ คุณจะเห็นเครื่องหมายถูกสีเขียวและข้อความอธิบาย
หากคุณเพิ่งซื้อเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบายสแปมก่อนที่คุณจะเป็นเจ้าของ ให้แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่แสดงในรายงานนี้ แล้วแจ้งให้เราทราบในคำขอให้พิจารณาใหม่ว่าคุณเพิ่งได้เว็บไซต์มาและตอนนี้เว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว
หน้าเว็บใดบ้างที่ได้รับผลกระทบ
ขยายคำอธิบายการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่เพื่อดูรายการรูปแบบของหน้าเว็บที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจเป็นเฉพาะบางส่วนของเว็บไซต์หรือทั้งเว็บไซต์เลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นที่หน้าเว็บทุกหน้าที่ตรงกับรูปแบบจะต้องได้รับผลกระทบ
เช่น
https://example.com/real-estate/*
– หน้าเว็บบางส่วนหรือทั้งหมดภายใต้ไดเรกทอรีreal-estate/
ได้รับผลกระทบ- ส่งผลกระทบต่อทุกหน้า – การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ที่มีคำอธิบายนี้มีผลกระทบต่อทั้งเว็บไซต์
จะแก้ปัญหาได้อย่างไร
ในการแก้ไขการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ในเว็บไซต์ของคุณ ให้ทำดังนี้
- ขยายแผงคำอธิบายการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ในรายงานเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
- ดูว่าหน้าใดบ้างที่ได้รับผลกระทบ
- ดูประเภทและคำอธิบายสั้นๆ ของปัญหา และคลิกลิงก์ "ดูข้อมูลเพิ่มเติม" เพื่อดูข้อมูลโดยละเอียดและขั้นตอนในการแก้ไขปัญหา (ดูข้อมูลโดยละเอียดสำหรับแต่ละการดำเนินการได้ที่ด้านล่างของหน้านี้)
- แก้ไขปัญหาในหน้าเว็บที่ได้รับผลกระทบทุกหน้า การแก้ไขปัญหาเฉพาะบางหน้าไม่ได้ช่วยให้บางส่วนของเว็บไซต์กลับเข้าไปแสดงในผลการค้นหาได้ หากเว็บไซต์มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่หลายรายการ โปรดอ่านและแก้ไขปัญหาทั้งหมด
- ตรวจสอบว่า Google เข้าถึงหน้าเว็บได้ หน้าเว็บที่ได้รับผลกระทบไม่ควรให้มีการเข้าสู่ระบบ อยู่หลังเพย์วอลล์ หรือถูกบล็อกโดย robots.txt หรือคำสั่ง noindex คุณทดสอบการเข้าถึงได้โดยใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL
- เมื่อปัญหาทั้งหมดที่ระบุในรายงานได้รับการแก้ไขแล้วทุกหน้า ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานนี้ โดยอธิบายการแก้ไขของคุณในคำขอให้พิจารณาใหม่ คำขอที่ดีควรประกอบด้วย 3 สิ่งต่อไปนี้
- อธิบายปัญหาด้านคุณภาพที่พบบนเว็บไซต์อย่างชัดเจน
- อธิบายขั้นตอนที่คุณใช้ในการแก้ปัญหา
- บันทึกผลจากการพยายามแก้ปัญหาของคุณ
- การตรวจสอบคําขอให้พิจารณาใหม่อาจใช้เวลาพอสมควร (ดูด้านล่าง) คุณจะได้รับแจ้งถึงความคืบหน้าทางอีเมล เมื่อส่งคำขอแล้ว คุณจะได้รับข้อความยืนยันว่าเรากำลังดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ โปรดอย่าส่งคำขอเข้ามาอีกจนกว่าจะได้รับผลการตรวจสอบของคำขอที่ส่งไป
การตรวจสอบคำขอให้พิจารณาใหม่จะใช้เวลานานเท่าใด
การตรวจสอบคําขอให้พิจารณาใหม่ส่วนใหญ่อาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ในบางกรณี เช่น คําขอให้พิจารณาใหม่ที่เกี่ยวข้องกับลิงก์อาจใช้เวลาในการตรวจสอบนานกว่าปกติ คุณจะได้รับแจ้งทางอีเมลเมื่อเราได้รับคำขอของคุณ เพื่อให้คุณรู้ว่าเรากำลังดำเนินการอยู่ และคุณจะได้รับอีเมลแจ้งเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น โปรดอย่าส่งคำขอเข้ามาอีกจนกว่าจะได้รับผลการตรวจสอบของคำขอที่ส่งไป
รายการการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
ต่อไปนี้เป็นรายการการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ซึ่ง Google อาจใช้และวิธีการแก้ไข
การดำเนินการที่แนะนำ
ดูนโยบายสแปมของ Google ในหัวข้อสแปมที่ผู้ใช้สร้างขึ้น รวมถึงเอกสารประกอบเกี่ยวกับการป้องกันสแปมความคิดเห็นและสแปมของโฮสต์ฟรี ตลอดจนวิธีแก้ไขหน้าที่ถูกแฮ็ก จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจหาและแก้ไขการละเมิดในเว็บไซต์ของคุณ
- ระบุหน้าในเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ ผู้เข้าชม หรือบุคคลที่สามอื่นๆ อาจเพิ่มเนื้อหาหรือโต้ตอบด้วย ซึ่งอาจเป็นหน้าฟอรัม สมุดเยี่ยม แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เครื่องมืออัปโหลดไฟล์ บริการโฮสต์ติ้งฟรี หรือหน้าค้นหาภายในที่ผู้ใช้ส่งคำค้นหาไปให้
- ตรวจสอบ URL ตัวอย่างในข้อความที่ได้รับใน Message Center ของ Search Console หรือทางอีเมล เพื่อทำความเข้าใจว่าเนื้อหาสแปมปรากฏอยู่ที่ใด นอกจากนี้ โปรดค้นหาเนื้อหาที่ไม่คาดคิดหรือที่เป็นสแปมในเว็บไซต์โดยใช้โอเปอเรเตอร์ "site:" ใน Google Search เพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงโฆษณาหรือคีย์เวิร์ดสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อในเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น ค้นหา [site:your-domain-name viagra] หรือ [site:your-domain-name free movie watch online] เพื่อหาเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ของคุณ ค้นหาสิ่งต่างๆ เช่น
- ข้อความที่ไม่ตรงบริบทหรือลิงก์ที่ไม่ตรงประเด็นซึ่งมีจุดประสงค์เพียงเพื่อโปรโมตเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม (เช่น "ดาวน์โหลดภาพยนตร์ฟรี" หรือ "ดูออนไลน์")
- คำที่ไม่มีความหมายหรือข้อความที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ
- ความคิดเห็นหรือข้อมูลที่ส่งมาโดยผู้ใช้ซึ่งมีคีย์เวิร์ดที่ฟังเหมือนเป็นเนื้อหาเชิงพาณิชย์ที่เกินจริง กล่าวคือชื่อผู้ใช้อย่างเช่น "Discount Insurance" ที่ฟังดูไม่เหมือนชื่อผู้ใช้จริง และลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง
- ผลการค้นหาภายในที่คําค้นหาของผู้ใช้แสดงขึ้นเพื่อโปรโมตเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
- ตรวจสอบไฟล์บันทึกของเว็บเซิร์ฟเวอร์เพื่อหาการเข้าชมที่ไม่คาดคิดหรืออธิบายไม่ได้ซึ่งเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหน้าที่สร้างใหม่ ค้นหา URL ที่มีคีย์เวิร์ดในรูปแบบ URL ซึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์โดยสิ้นเชิง คุณดูหน้าเว็บที่มีจำนวนการคลิกสูงสุดใน Google Search ได้โดยใช้รายงานประสิทธิภาพสําหรับ Search
- นําเนื้อหาไม่เหมาะสมและบล็อกเนื้อหาของบุคคลที่สามที่ไม่เหมาะสมอย่างชัดเจนออกจากการเผยแพร่บนแพลตฟอร์มของคุณ พร้อมทั้งรายการคําที่เป็นสแปม (เช่น สตรีมมิง ดาวน์โหลด ผู้ใหญ่ การพนัน หรือร้านขายยา)
- โปรดใช้คำแนะนำเหล่านี้ตามความเหมาะสม
- พิจารณาการรวมเนื้อหาแบบอินเทอร์แอกทีฟของคุณไว้ในเส้นทางไฟล์รวม เพื่อให้บำรุงรักษาและตรวจจับสแปมได้ง่ายขึ้น
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ในระหว่างนี้ เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบและกำจัดเนื้อหาที่เป็นสแปมดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงปรับปรุงระบบเว็บไซต์และแก้ไขช่องโหว่ของระบบเพื่อป้องกันสแปมดังกล่าวในอนาคต
Google ตรวจพบสแปมบนหน้าเว็บที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่งมา โดยปกติแล้ว สแปมรูปแบบนี้จะพบในหน้าฟอรัม สมุดเยี่ยม หรือในโปรไฟล์ผู้ใช้
Matt Cutts explains the "User-Generated Spam" manual action
การดำเนินการที่แนะนำ
ดูนโยบายของ Google เกี่ยวกับสแปมที่ผู้ใช้สร้างขึ้น จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจหาและแก้ไขการละเมิดในเว็บไซต์ของคุณ
- ผู้ใช้มักจะเพิ่มเนื้อหาลงเว็บไซต์ต่างๆ ในฟอรัม ความคิดเห็นในบล็อก และโปรไฟล์ผู้ใช้ มองหาหน้าในเว็บไซต์ของคุณซึ่งผู้ใช้อาจเพิ่มเนื้อหาไว้
- มองหาโปรไฟล์ที่มีชื่อผู้ใช้ในเชิงโฆษณา เช่น “Discount Insurance” หรือโพสต์ที่มีโฆษณา ลิงก์ที่ไม่ตรงประเด็น หรือข้อความที่ไม่มีความหมาย โดยตรวจสอบตามนี้
- โพสต์หรือโปรไฟล์ที่ดูเหมือนโฆษณา
- โพสต์หรือโปรไฟล์ที่มีลิงก์ซึ่งไม่ตรงบริบทหรือไม่ตรงกับหัวข้อ
- โพสต์หรือโปรไฟล์ที่มีชื่อผู้ใช้ในเชิงโฆษณา เช่น “Discount Insurance” ซึ่งไม่เหมือนชื่อคน และลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง
- โพสต์หรือโปรไฟล์ที่ดูเหมือนสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ (ไม่ได้เขียนโดยผู้ใช้จริง)
- ค้นหาเนื้อหาที่ไม่คาดคิดหรือที่เป็นสแปมในเว็บไซต์โดยใช้โอเปอเรเตอร์
site:
ใน Google Search เพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงโฆษณาหรือคีย์เวิร์ดสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อในเว็บไซต์ เช่น ค้นหา [site:example.com ไวอากร้า] เพื่อค้นหาคำว่า "ไวอากร้า" ในเว็บไซต์ของคุณ - นำเนื้อหาไม่เหมาะสมออก
- ลองนำมาตรการป้องกันสแปมที่ผู้ใช้สร้างขึ้นมาใช้
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
เว็บไซต์จำนวนมากที่โฮสต์บนบริการเว็บโฮสติ้งฟรีของคุณเป็นสแปม
Google พยายามดำเนินการอย่างเจาะจงเมื่อใช้การดำเนินการกับสแปมโดยเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีสแปมในหน้าต่างๆ จำนวนมากบนบริการเว็บโฮสติ้ง เราอาจใช้การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่กับบริการนั้นทั้งบริการ
การดำเนินการที่แนะนำ
- รับเคล็ดลับในการป้องกันและระบุการใช้บริการของคุณอย่างไม่เหมาะสม
- นำบัญชีสแปมที่มีอยู่ออกจากบริการของคุณ
- ติดต่อทีมเทคนิคของบริการโฮสติ้งของคุณเพื่อแจ้งเกี่ยวกับการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์เป็นไปตามนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
Google ตรวจพบว่ามาร์กอัปบางส่วนในหน้าเว็บอาจกำลังใช้เทคนิคที่อยู่นอกเหนือหลักเกณฑ์เกี่ยวกับข้อมูลที่มีโครงสร้าง เช่น การมาร์กอัปเนื้อหาที่ผู้ใช้มองไม่เห็น การมาร์กอัปเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องหรือที่ทำให้เข้าใจผิด หรือพฤติกรรมที่มีการควบคุมจัดการอื่นๆ
ต่อไปนี้คือปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลที่มีโครงสร้างบางส่วนที่อาจมีผลกับเว็บไซต์ของคุณ
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
เนื้อหาในหน้าแตกต่างจากข้อมูลที่มีโครงสร้าง | พบข้อมูลที่มีโครงสร้าง JobPosting ในหน้าที่ไม่มีเนื้อหาการประกาศรับสมัครงาน ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ส่งใบสมัครในหน้ารับสมัครงานไม่ได้ | พบว่าเนื้อหาในหน้าแตกต่างจากข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้า ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ข้อมูลที่มีโครงสร้างไม่ตรงกับเนื้อหา | พบว่าเนื้อหาในหน้าแตกต่างจากข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้า ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
มีการเรียกเก็บเงินค่าสมัครงาน | หน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้าง JobPosting เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครงาน ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
พบคำขอทำงานในหน้ารับสมัครงาน | หน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้าง JobPosting เป็นหน้าที่มองหางาน ไม่ใช่หน้ารับสมัครงาน ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
สถานที่ทำงานที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด | หน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้าง JobPosting มีช่องสถานที่ทำงานที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ผู้ประกาศรับสมัครงานไม่ว่าจ้างงาน | หน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้าง JobPosting มีการรวบรวมใบสมัครแต่ไม่มีการว่าจ้างงาน ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้ารายการ | หน้าที่มีรายการต่างๆ แสดงอยู่หลายรายการจะต้องมาร์กอัปแต่ละรายการแยกกัน การรวมข้อมูลจากหลายรายการลงในองค์ประกอบ Structured Data รายการเดียวขัดต่อนโยบายสแปม ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ข้อมูลที่มีโครงสร้าง JobPosting ในหน้ารายการ | หน้ารายการต้องไม่มีข้อมูลที่มีโครงสร้างสำหรับงานแต่ละตำแหน่ง ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
Structured Data สำหรับ JobPosting ในงานที่หมดอายุแล้ว | ใช้มาร์กอัป JobPosting ในงานที่หมดอายุแล้วโดยไม่มีการตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ validThrough มาก่อน ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
เนื้อหาในหน้าแตกต่างจากข้อมูลที่มีโครงสร้าง | พบข้อมูลที่มีโครงสร้าง ClaimReview ในหน้าที่ไม่มีการตรวจสอบคำกล่าวอ้าง ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ClaimReview ไม่มีข้อมูลอ้างอิง หรือข้อมูลอ้างอิงไม่ตรงกับผลการตรวจสอบ | หน้าที่มีข้อมูลที่มีโครงสร้าง ClaimReview ไม่มีแหล่งที่มาหรือข้อมูลอ้างอิงสนับสนุน ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
พบข้อมูลที่มีโครงสร้างในเนื้อหาที่ซ่อน | พบข้อมูลที่มีโครงสร้างในองค์ประกอบที่ผู้ใช้มองไม่เห็น ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์ของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ไม่มีกลไกสำหรับการส่งรีวิวใหม่ | หากในหน้ามีรีวิว หน้านั้นจะต้องมีช่องทางให้เขียนรีวิวหรือแสดงที่มาของรีวิวไว้อย่างชัดเจน ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ทำเครื่องหมายบริษัทว่าเป็นผลิตภัณฑ์ | ติดป้ายกำกับบริษัทว่าเป็นผลิตภัณฑ์ในข้อมูลที่มีโครงสร้าง ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ติดป้ายกำกับสิ่งที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ | ทำเครื่องหมายรายการทั่วไปที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
รีวิวเขียนขึ้นเองโดยเว็บไซต์หรือผู้ที่ให้บริการ | ธุรกิจหรือผู้ให้บริการเนื้อหาต้องไม่เขียนหรือจัดทำรีวิวขึ้นเอง เว้นแต่จะเป็นรีวิวจากลูกค้า รีวิวอิสระ และรีวิวจากกองบรรณาธิการที่ไม่ได้รับค่าจ้าง ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ข้อมูลที่มีโครงสร้าง Event ที่จริงแล้วเป็นการโปรโมต | ข้อความที่มองเห็นหรือคำอธิบายข้อมูลที่มีโครงสร้างมีเนื้อหาเป็นการโปรโมตหรือการขายมากกว่าการอธิบาย ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ติดป้ายกำกับสิ่งที่ไม่ใช่กิจกรรมว่าเป็นกิจกรรม | ทำเครื่องหมายรายการที่ไม่ใช่กิจกรรมว่าเป็นกิจกรรม เช่น วันหยุดหรือคูปอง ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ทำเครื่องหมายรายการที่ไม่ใช่สูตรอาหารว่าเป็นสูตรอาหาร | ทำเครื่องหมายรายการที่ไม่ใช่สูตรอาหารว่าเป็นสูตรอาหาร สูตรต้องเป็นสูตรอาหารและมีทั้งส่วนผสมและขั้นตอนการทำ ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
การละเมิดนโยบายข้อมูลที่มีโครงสร้าง | คุณละเมิดนโยบายข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้าเว็บอย่างน้อย 1 หน้า ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
ข้อมูลนายจ้างไม่ถูกต้อง | ข้อมูลนายจ้างในช่อง hiringOrganization ควรจะตรงกับข้อมูลนายจ้างในประกาศรับสมัครงาน ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
รายละเอียดงานที่ไม่สมบูรณ์ | ช่องรายละเอียดงานไม่สมบูรณ์หรือเข้าใจยาก ดูข้อมูลเพิ่มเติม |
การดำเนินการที่แนะนำ
- ตรวจสอบว่ามาร์กอัปในเว็บไซต์เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับข้อมูลที่มีโครงสร้างของ Google หากต้องการให้ปรากฏในผลการค้นหาของ Google โดยคุณอาจต้องอัปเดตมาร์กอัปที่มีอยู่หรือนำมาร์กอัปที่ละเมิดหลักเกณฑ์ออก
- เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดหลักเกณฑ์แล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
Google ตรวจพบว่าลิงก์ที่ชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณมีรูปแบบลิงก์ที่ผิดปกติ แปลกปลอม หลอกลวง หรือมีการควบคุมบงการ การซื้อลิงก์หรือมีส่วนร่วมในรูปแบบลิงก์เพื่อปรับแต่งการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google Search เป็นการละเมิดนโยบายสแปม ซึ่งอาจส่งผลให้บางส่วนของเว็บไซต์หรือทั้งเว็บไซต์มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
Matt Cutts and Alex explain the "Unnatural links to your site" manual action
การดำเนินการที่แนะนำ
ก่อนอื่น ให้อ่านนโยบายสแปมลิงก์ของ Google
จากนั้น ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อระบุและแก้ไขการละเมิด
- ดาวน์โหลดรายการลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณจาก Search Console คุณสามารถดาวน์โหลดลิงก์ได้ทั้งแบบจัดเรียงตามชื่อโฮสต์ (เว็บไซต์ยอดนิยมที่ลิงก์ > ส่งออก) หรือแบบจัดเรียงตามลำดับเวลา (รายงานลิงก์ > ส่งออกลิงก์ภายนอก > ลิงก์ล่าสุด)
- ตรวจดูว่ามีลิงก์ใดในรายการนี้ที่ละเมิดนโยบายสแปมลิงก์ หากลิงก์มีจำนวนมาก ให้เริ่มจากมองหาเว็บไซต์ที่ลิงก์ไปที่คุณมากที่สุด หรือลิงก์ที่สร้างขึ้นมาล่าสุด (ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา)
- สำหรับลิงก์ใดก็ตามที่ละเมิดนโยบายสแปมของเรา โปรดติดต่อเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าว และขอให้นำลิงก์ออกไปหรือป้องกันไม่ให้มีการส่งลิงก์ผ่านเพจแรงก์ เช่น ด้วยการเพิ่มแอตทริบิวต์ rel=”nofollow” หรือแอตทริบิวต์ที่เจาะจงยิ่งขึ้น
- ใช้เครื่องมือปฏิเสธลิงก์ใน Search Console เพื่อปฏิเสธลิงก์ใดก็ตามที่คุณนำออกไม่ได้ เรามักพบว่ามีการใช้เครื่องมือปฏิเสธลิงก์อย่างไม่ถูกต้อง จึงควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้เสมอเมื่อใช้เครื่องมือดังกล่าว
- หากคุณนำลิงก์ย้อนกลับออกได้ ให้พยายามอย่างดีที่สุดในการนำลิงก์นั้นออกก่อน การเพิ่มลิงก์ย้อนกลับทั้งหมดไปยังไฟล์การปฏิเสธโดยไม่ตรวจสอบเลยจะถือว่าไม่ใช่การพยายามอย่างดีที่สุด และไม่เพียงพอที่จะทำให้คำขอให้พิจารณาใหม่ประสบความสำเร็จ
- สำหรับลิงก์หลายลิงก์จากโดเมนเดียวกันที่ชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณ ให้ใช้โอเปอเรเตอร์ "domain:" ในไฟล์การปฏิเสธเพื่อความสะดวก
- ตรวจสอบว่าคุณไม่ได้ปฏิเสธลิงก์ปกติที่ชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณ
- การปฏิเสธลิงก์ย้อนกลับทั้งหมดโดยไม่พยายามนำลิงก์ออกอาจนำไปสู่การปฏิเสธคำขอได้
- เมื่อคุณนำลิงก์ปลอมออกหรือปฏิเสธลิงก์แล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ อย่าลืมแนบหลักฐานประกอบลิงก์ที่คุณนำออก และเขียนคำอธิบายหากมีลิงก์ใดที่นำออกไม่ได้ เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาคำขอของคุณ
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
Google ตรวจพบว่าลิงก์ขาออกในเว็บไซต์ของคุณมีรูปแบบลิงก์ที่ผิดปกติ แปลกปลอม หลอกลวง หรือมีการควบคุมบงการ การซื้อลิงก์หรือมีส่วนร่วมในรูปแบบลิงก์เพื่อปรับแต่งการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google Search เป็นการละเมิดนโยบายสแปมของ Google
Matt Cutts and Sandy discuss the "Unnatural links from your site" manual action.การดำเนินการที่แนะนำ
ก่อนอื่น ให้อ่านนโยบายสแปมลิงก์ของ Google
จากนั้น ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อระบุและแก้ไขการละเมิดในเว็บไซต์
- ระบุลิงก์ทั้งหมดในเว็บไซต์ที่ได้รับค่าตอบแทนหรือที่ดูเหมือนจะละเมิดนโยบายสแปมลิงก์ เช่น มีการแลกเปลี่ยนลิงก์มากเกินไป
- นำลิงก์เหล่านี้ออกหรือเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้มีการส่งลิงก์ผ่านเพจแรงก์อีก เช่น ด้วยการเพิ่มแอตทริบิวต์ rel=”nofollow” หรือเปลี่ยนเส้นทางผ่านหน้าเว็บที่ถูกบล็อกโดย robots.txt
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ แสดงตัวอย่างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมที่นำออกไปและเนื้อหาที่ดีที่เพิ่มเข้ามา
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
Google ตรวจพบหน้าที่มีคุณภาพต่ำหรือหน้าที่มีเนื้อหาน้อยในเว็บไซต์ของคุณ นี่คือตัวอย่างหน้าที่พบโดยทั่วไปซึ่งมักมีเนื้อหาที่มีรายละเอียดน้อยและมีคุณค่าเพิ่มเติมน้อยมากหรือไม่มีเลย
- หน้าแอฟฟิลิเอตเนื้อหาน้อย
- เนื้อหาจากแหล่งที่มาอื่นๆ เช่น เนื้อหาที่คัดลอกมาหรือบล็อกโพสต์คุณภาพต่ำของผู้เยี่ยมชม
- ดอร์เวย์
เนื้อหาส่วนใหญ่ที่ได้จากเทคนิคเหล่านี้ไม่ใช่เนื้อหาต้นฉบับหรือไม่มีคุณค่ามากนักสำหรับผู้ใช้ และยังละเมิดนโยบายสแปมด้วย
Matt Cutts explains the "Thin Content with little or no added value" manual action.
การดำเนินการที่แนะนำ
ก่อนอื่น ให้อ่านส่วนต่อไปนี้ของนโยบายสแปม
จากนั้น ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อระบุและแก้ไขการละเมิดในเว็บไซต์
- ตรวจสอบเว็บไซต์ว่ามีเนื้อหาซ้ำกับเว็บอื่นไหม
- ตรวจสอบหน้าเนื้อหาที่มีรายละเอียดน้อยซึ่งมีลิงก์แอฟฟิลิเอตบนเว็บไซต์
- ตรวจสอบหน้าดอร์เวย์ในเว็บไซต์
- หากเว็บไซต์มีเนื้อหาดังกล่าว ลองพิจารณาว่าเว็บไซต์ได้ให้คุณค่าเพิ่มเติมที่สำคัญกับผู้ใช้หรือไม่
เคล็ดลับ: ขอให้เพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว หรือคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณลองใช้หรือวิจารณ์เว็บไซต์เพื่อให้เกิดไอเดียในการพัฒนาเว็บไซต์ต่อไป - ปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อมอบคุณค่าที่สำคัญให้กับผู้ใช้
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ แสดงตัวอย่างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมที่นำออกไปและเนื้อหาที่ดีที่เพิ่มเข้ามา
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
หน้าที่เว็บไซต์ของคุณแสดงต่อผู้ใช้ต่างจากหน้าที่แสดงต่อ Google หรือเว็บไซต์เปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังหน้าเว็บซึ่งต่างจากที่ Google เห็น การปิดบังหน้าเว็บจริงและการแอบเปลี่ยนเส้นทางเป็นการละเมิดนโยบายสแปมของ Google
การสมัครใช้บริการและเนื้อหาเพย์วอลล์: ผู้เผยแพร่เนื้อหาควรใส่เนื้อหาเพย์วอลล์ไว้กับข้อมูลที่มีโครงสร้างเพื่อช่วยให้ Google ทราบว่าเนื้อหาเพย์วอลล์นี้ไม่ใช่การปิดบังหน้าเว็บจริง ซึ่งเนื้อหาที่แสดงต่อ Googlebot จะแตกต่างจากเนื้อหาที่แสดงต่อผู้ใช้
การดำเนินการที่แนะนำ
ก่อนอื่น ให้อ่านนโยบายสแปมของ Google เกี่ยวกับการปิดบังหน้าเว็บจริงและการแอบเปลี่ยนเส้นทาง
จากนั้น ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อระบุและแก้ไขการละเมิดในเว็บไซต์
- ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL ใน Search Console เพื่อดึงหน้าเว็บจากพื้นที่บนเว็บไซต์ที่ได้รับผลกระทบ
- เปรียบเทียบเนื้อหาที่ Google ดึงข้อมูลมากับเนื้อหาที่ผู้ใช้ (คุณ) เห็นเมื่อเข้าชมเว็บไซต์
- หากเนื้อหาแตกต่างกัน ให้ระบุและนำเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่แสดงให้กับ Google และผู้ใช้ไม่เหมือนกันออก คุณจะต้องตรวจสอบโค้ดของเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์
- ตรวจหา URL บนเว็บไซต์ที่เปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังหน้าอื่นแทนหน้าที่พวกเขาต้องการ
- ตรวจหา URL บนเว็บไซต์ที่เปลี่ยนเส้นทางตามเงื่อนไข เช่น จะเปลี่ยนเส้นทางเฉพาะผู้ใช้ที่มาจาก Google Search เท่านั้น หรือเฉพาะผู้ใช้ที่มาจากที่อยู่ IP บางช่วง
- หากเว็บไซต์ของคุณเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ในลักษณะเหล่านี้ ให้ระบุและนำส่วนที่สร้างการเปลี่ยนเส้นทางดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ คุณจะต้องตรวจสอบโค้ดของเว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์
เคล็ดลับ: การเปลี่ยนเส้นทางประเภทนี้มักใช้ภาษา JavaScript หรือเขียนไว้ในไฟล์ .htaccess คุณอาจต้องตรวจสอบระบบจัดการเนื้อหาและปลั๊กอินด้วย - เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
ดูเหมือนว่าเว็บไซต์จะใช้เทคนิคสแปมที่รุนแรง เช่น การใช้เนื้อหาปริมาณมาก การปิดบังหน้าเว็บจริง และ/หรือการละเมิดนโยบายสแปมของ Google ซ้ำๆ หรืออย่างร้ายแรง
การดำเนินการที่แนะนำ
- อัปเดตเว็บไซต์เพื่อไม่ให้ละเมิดนโยบายสแปมของ Google อีก
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ แสดงตัวอย่างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมที่นำออกไปและเนื้อหาที่ดีที่เพิ่มเข้ามา
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
รูปภาพบางรูปของเว็บไซต์อาจแสดงผลในหน้าผลการค้นหาของ Google ต่างออกไปจากที่แสดงในเว็บไซต์ของคุณ การปิดบังหน้าเว็บจริงเป็นการนำเสนอให้ผู้ใช้ที่เป็นตัวบุคคลเห็นเนื้อหาที่แตกต่างออกไปจากเครื่องมือค้นหา การปิดบังหน้าเว็บจริงถือเป็นการละเมิดนโยบายสแปมของ Google เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากสิ่งที่ผู้ใช้คาดคิด รูปภาพที่ปิดบังหน้าเว็บจริงอาจทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานผลการค้นหารูปภาพของ Google ที่ไม่ดี เนื่องจากรูปภาพที่ไม่ชัดเจนและภาพขนาดย่อที่ไม่ตรงกันไม่ได้นำเสนอรูปภาพที่ผู้ใช้กำลังค้นหาอยู่
ตัวอย่างของรูปภาพที่ปิดบังหน้าเว็บจริง
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของพฤติกรรมการปิดบังหน้าเว็บจริงด้วยรูปภาพ
- การแสดงรูปภาพใน Google ที่ถูกบดบังด้วยรูปภาพอื่น เช่น กลุ่มข้อความที่บล็อกรูปภาพ
- การแสดงรูปภาพใน Google ที่แตกต่างจากรูปภาพที่แสดงให้ผู้เข้าชมหน้าเว็บเห็น
หากต้องการบล็อกรูปภาพจากผลการค้นหาของ Google ให้ใช้วิธีการที่อธิบายไว้ด้านล่าง
การดำเนินการที่แนะนำ
- ตรวจสอบว่ารูปภาพที่เว็บไซต์แสดงให้ผู้ใช้เห็นในเว็บไซต์ตรงกันทุกประการกับที่แสดงในผลการค้นหาของ Google การปิดบังหน้าเว็บจริงยอมรับได้เฉพาะสำหรับการเลือกไม่ใช้การลิงก์แบบในหน้าของการค้นหารูปตามรายละเอียดด้านล่างเท่านั้น
- เมื่อแน่ใจว่ารูปภาพในเว็บไซต์ตรงกันทุกประการไม่ว่าจะดูในเว็บไซต์โดยตรงหรือดูจากผลการค้นหาของ Google ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
ย่อหรือบล็อกรูปภาพในผลการค้นหา
- หากต้องการป้องกันไม่ให้รูปภาพขนาดเต็มแสดงในผลการค้นหาของ Google ให้เลือกไม่ใช้การลิงก์แบบในหน้า
- หากต้องการป้องกันไม่ให้รูปภาพแสดงในผลการค้นหาเลย ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้
วิธีเลือกไม่ใช้การลิงก์แบบในหน้า
- เมื่อมีการขอรูปภาพ ให้ตรวจสอบส่วนหัว URL ที่มาของ HTTP ในคำขอ
- หากคำขอนั้นมาจากโดเมนของ Google โปรดตอบกลับด้วย HTTP 200 หรือ 204 โดยไม่มีเนื้อหา
Google จะรวบรวมข้อมูลหน้าเว็บและเห็นรูปภาพนั้นอยู่ต่อไป แต่จะแสดงภาพขนาดย่อที่สร้างขึ้น ณ เวลาที่รวบรวมข้อมูลในผลการค้นหา การเลือกไม่ใช้นี้ทำได้ทุกเมื่อและไม่ต้องมีการดำเนินการกับรูปภาพของเว็บไซต์อีกครั้ง ลักษณะการทำงานนี้ไม่ถือว่าเป็นการปิดบังหน้าเว็บจริงด้วยรูปภาพ และจะไม่ส่งผลให้มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
หน้าเว็บบางหน้าอาจมีข้อความที่ถูกซ่อนหรือมีการใช้คีย์เวิร์ดในทางที่ผิด ซึ่งเป็นเทคนิคที่นโยบายสแปมของ Google ไม่อนุญาตให้ใช้
การดำเนินการที่แนะนำ
ก่อนอื่น ให้อ่านนโยบายสแปมของ Google ในหัวข้อข้อความที่ถูกซ่อนและการใช้คีย์เวิร์ดในทางที่ผิด
จากนั้น ทำตามขั้นตอนด้านล่างเพื่อระบุและแก้ไขการละเมิดในเว็บไซต์
- ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL ใน Search Console เพื่อตรวจหาเนื้อหาที่โปรแกรมรวบรวมข้อมูลมองเห็นแต่ผู้ใช้ (เช่นคุณ) ไม่เห็นเมื่อเข้าชมเว็บไซต์
- ตรวจสอบข้อความที่มีสีเหมือนหรือคล้ายกันกับพื้นหลังของหน้าเว็บ
เคล็ดลับ: คุณแสดงข้อความดังกล่าวได้โดยเลือกข้อความทั้งหมดในหน้าเว็บ เช่น ด้วยการกด Ctrl + A หรือ Command + A - ตรวจสอบข้อความใดๆ ที่ซ่อนอยู่โดยใช้การจัดรูปแบบหรือตำแหน่งด้วย CSS
- ลบหรือเปลี่ยนรูปแบบข้อความที่ซ่อนอยู่เพื่อให้ค้นหาได้ทั้งโดยโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาและโดยผู้ใช้
- ตรวจสอบรายการหรือย่อหน้าที่มีคำซ้ำๆ โดยไม่มีบริบท
- ตรวจสอบแท็ก
<title>
และคำอธิบายภาพสำหรับสตริงของคำซ้ำ - นำคำต่างๆ เหล่านั้นออกหรือคำอื่นๆ ที่เป็นการใช้คีย์เวิร์ดในทางที่ผิด
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
มีความแตกต่างระหว่างเนื้อหาของเวอร์ชัน AMP และหน้า Canonical
เนื้อหาของเวอร์ชัน AMP และหน้า Canonical โดยพื้นฐานแล้วต้องเหมือนกัน ซึ่งข้อความไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แต่หัวข้อควรจะเหมือนกัน และผู้ใช้ควรจะทำงานที่เหมือนกันได้จากทั้งหน้า AMP และหน้า Canonical
หน้า AMP ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่นี้จะไม่แสดงใน Google Search แต่หน้า Canonical จะแสดงขึ้นแทน
การดำเนินการที่แนะนำ
- ตรวจสอบว่า AMP กำลังอ้างอิงหน้า Canonical ที่ถูกต้อง
- ตรวจสอบว่าเนื้อหาทั่วไปของหน้า AMP และหน้า Canonical เหมือนกัน
- ตรวจสอบว่าการแสดงผลหน้าเว็บที่ Google เห็นเหมือนกับที่ผู้ใช้เห็นโดยใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL สำหรับทั้งหน้า AMP และหน้า Canonical เนื้อหาที่ไม่ตรงกันอาจเกิดขึ้นได้เมื่อไฟล์ robots.txt บล็อกทรัพยากรที่สำคัญในหน้าใดหน้าหนึ่ง ทรัพยากรที่ถูกบล็อกจะปรากฏในเครื่องมือตรวจสอบ URL ด้วย
- เมื่อหน้า AMP และหน้า Canonical เหมือนกันโดยพื้นฐานแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
หน้าบางหน้าในเว็บไซต์นี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปยังเนื้อหาที่ Crawler ของเครื่องมือค้นหาเข้าถึงไม่ได้ การแอบเปลี่ยนเส้นทางเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดนโยบายสแปมของ Google ทีมพัฒนาคุณภาพการค้นหาของ Google จะดำเนินการกับเว็บไซต์ดังกล่าวได้ รวมถึงนำ URL ออกจากดัชนีของเรา เพื่อดูแลให้ผู้ใช้ได้รับผลการค้นหาที่มีคุณภาพ
ภาพรวม
ในหลายกรณี คุณสามารถแสดงเนื้อหาที่แตกต่างกันเล็กน้อยบนอุปกรณ์ที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับหน้าจอสมาร์ทโฟนซึ่งมีพื้นที่เล็กกว่าอาจหมายความว่าจะมีการดัดแปลงเนื้อหาบางส่วน เช่น รูปภาพ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนเส้นทางบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น การเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มักจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ (เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่จาก example.com/url1 ไปยัง m.example.com/url1) อย่างไรก็ตาม การแอบเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปยังเนื้อหาอื่นถือเป็นประสบการณ์การใช้งานที่แย่
เจ้าของเว็บไซต์อาจตั้งใจทำให้เกิดการแอบเปลี่ยนเส้นทางบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่ในบางกรณีเจ้าของเว็บไซต์เองก็ไม่ทราบว่ามีการแอบเปลี่ยนเส้นทางเกิดขึ้นเฉพาะในอุปกรณ์เคลื่อนที่ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการกำหนดค่าที่อาจทำให้เกิดการแอบเปลี่ยนเส้นทางบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- การเพิ่มโค้ดที่สร้างกฎการเปลี่ยนเส้นทางสำหรับผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- การใช้สคริปต์หรือองค์ประกอบเพื่อแสดงโฆษณาและสร้างรายได้จากเนื้อหาที่เปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- สคริปต์หรือองค์ประกอบที่แฮ็กเกอร์เพิ่มเข้ามาซึ่งเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปยังเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
การดำเนินการที่แนะนำ
- หากคุณไม่ได้มีส่วนร่วมในพฤติกรรมนี้โดยเจตนา ให้ปฏิบัติดังนี้
- ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ได้ถูกแฮ็ก
ตรวจสอบรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยเพื่อดูว่า Google คิดว่าคุณถูกแฮ็กหรือไม่
- ตรวจสอบสคริปต์/องค์ประกอบของบุคคลที่สามบนเว็บไซต์
หากเว็บไซต์ไม่ได้ถูกแฮ็ก เราขอแนะนำให้สละเวลาตรวจสอบสคริปต์หรือองค์ประกอบของบุคคลที่สามว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนเส้นทางหรือไม่ โดยทำดังต่อไปนี้
- นำสคริปต์หรือองค์ประกอบของบุคคลที่สามที่คุณไม่ได้เป็นผู้ควบคุมออกจากหน้าการเปลี่ยนเส้นทางทีละรายการ
- หลังจากนำสคริปต์หรือองค์ประกอบแต่ละรายการออกแล้ว ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเว็บไซต์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือในโปรแกรมจำลองอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Chrome (หรือใช้โปรแกรมจำลองอื่นๆ) เพื่อดูว่าไม่มีการเปลี่ยนเส้นทางแล้ว
- หากคุณคิดว่าสคริปต์หรือองค์ประกอบรายการใดทำให้เกิดการแอบเปลี่ยนเส้นทาง ให้ลองนำรายการดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ และแก้ปัญหาร่วมกับผู้ให้บริการสคริปต์หรือองค์ประกอบดังกล่าว (ถ้าทำได้)
- ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ได้ถูกแฮ็ก
- หากคุณมีส่วนร่วมในพฤติกรรมนี้โดยเจตนา ให้ปฏิบัติดังนี้
แก้ไขหน้าเว็บ - ตรวจยืนยันการแก้ไข โดยไปที่หน้าเว็บของคุณจากผลการค้นหาของ Google ด้วยสมาร์ทโฟน หรือในโปรแกรมจำลองอุปกรณ์เคลื่อนที่
- เมื่อแก้ไขปัญหาของทุกหน้าในเว็บไซต์แล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
การหลีกเลี่ยงการแอบเปลี่ยนเส้นทางบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในอนาคต
ในการบรรเทาความเสี่ยงของการเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้โดยที่คุณไม่ทราบ ให้ดูแลว่าได้เลือกผู้ลงโฆษณาที่จัดการการเข้าชมของผู้ใช้อย่างโปร่งใส หากสนใจสร้างความน่าเชื่อถือในพื้นที่ของการโฆษณาออนไลน์ คุณควรหาข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติแนะนำในอุตสาหกรรมเมื่อเข้าร่วมเครือข่ายโฆษณาต่างๆ ตัวอย่างของหลักเกณฑ์ที่น่าสนใจคือหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพของพื้นที่โฆษณาของ Trustworthy Accountability Group (Interactive Advertising Bureau) คุณสามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาด้วยโซลูชันบนอุปกรณ์เคลื่อนที่มากมายซึ่งมอบประสบการณ์ของผู้ใช้ที่มีคุณภาพสูง อย่าลืมใช้โซลูชันเหล่านั้น
โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตรวจหาการแอบเปลี่ยนเส้นทางบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในเว็บไซต์
- ตรวจสอบว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางหรือไม่เมื่อคุณไปยังเว็บไซต์ของคุณบนสมาร์ทโฟน
เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยไปที่หน้าของคุณจากผลการค้นหาของ Google ด้วยสมาร์ทโฟน เวลาแก้ไขข้อบกพร่อง การเลียนแบบอุปกรณ์เคลื่อนที่ในเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อปนั้นเป็นวิธีที่ดี เนื่องจากคุณจะสามารถทดสอบอุปกรณ์ที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดูหน้าเว็บเหมือนเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้โดยตรงจากในเบราว์เซอร์ Chrome, Firefox หรือ Safari (สำหรับ Safari โปรดตรวจสอบว่าคุณเปิดใช้ฟีเจอร์ “แสดงเมนูนักพัฒนาในแถบเมนู” แล้ว)
- รับฟังผู้ใช้ของคุณ
ผู้ใช้มองเห็นเว็บไซต์ของคุณในมุมที่ต่างออกไป คุณจึงต้องใส่ใจกับการร้องเรียนของผู้ใช้เสมอ เพื่อจะได้รับทราบปัญหาที่เกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- ตรวจสอบผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในข้อมูล Analytics ของเว็บไซต์
คุณสามารถตรวจหากิจกรรมที่ผิดปกติของผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยดูข้อมูลบางส่วนในข้อมูล Analytics ของเว็บไซต์คุณ ตัวอย่างเช่น สังเกตเวลาเฉลี่ยที่ผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ใช้บนเว็บไซต์ของคุณเป็นพิเศษ หากจู่ๆ เฉพาะผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ก็ใช้เวลาบนเว็บไซต์ของคุณน้อยลงกว่าที่เคย อาจเป็นเพราะปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนเส้นทางบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
การตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในกิจกรรมของผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะช่วยให้คุณระบุการแอบเปลี่ยนเส้นทางได้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือน Google Analytics ที่จะเตือนให้คุณทราบเมื่อระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ใช้บนเว็บไซต์ของคุณหรือจำนวนผู้ใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เข้าถึงเว็บไซต์ของคุณลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการแจ้งเตือนเหล่านี้จะไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่ามีการแอบเปลี่ยนเส้นทางบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในเว็บไซต์ แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรตรวจสอบ
คุณละเมิดนโยบายเนื้อหาของ Google News และ/หรือ Discover ส่วนต่อไปนี้จะอธิบายประเภทของการละเมิด
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายของ Discover โดยนําเนื้อหาที่มีธีมสำหรับผู้ใหญ่ออก
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- การเผยแพร่บทความที่ไม่ได้มีการอัปเดตใหม่จริงๆ โดยระบุวันที่ตีพิมพ์ใหม่ซึ่งไม่มีการเพิ่มข้อมูลสำคัญหรือเหตุผลที่น่าสนใจอื่นๆ ในการอัปเดต และ/หรือ
- การสร้างบทความที่มีการอัปเดตเพียงเล็กน้อยจากที่เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้
การดำเนินการที่แนะนำ
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบาย (นโยบายของ News/นโยบายของ Discover) โดยทำดังนี้
- อัปเดตบทความที่ไม่ได้มีการอัปเดตใหม่จริงๆ ให้เป็นวันที่เดิมที่ถูกต้องและ/หรือแยกการเปลี่ยนเส้นทางของบทความแต่ละเวอร์ชันออกจากกัน หรือ
- แสดงหลักฐานว่าการอัปเดตบทความมีนัยสำคัญพอที่จะอัปเดตวันที่เผยแพร่
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนําเนื้อหาที่เป็นอันตรายออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนําเนื้อหาที่ละเมิดออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนําเนื้อหาที่แสดงความเกลียดชังออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยระบุสื่อที่ผ่านการดัดแปลง เปิดเผยเจตนาของการเสียดสีหรือล้อเลียน หรือนําออกในส่วนของเนื้อหาที่ทําให้เข้าใจผิดซึ่งลดทอนการมีส่วนร่วมหรือความเชื่อถือในกระบวนการทางการเมืองหรือการเลือกตั้งอย่างมีนัยสําคัญ (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนําเนื้อหาทางการแพทย์ออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายของ Discover โดยนําเนื้อหาที่ทําให้เข้าใจผิดออก
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนําเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้งออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนําเนื้อหาที่เกี่ยวกับการก่อการร้ายออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายของ News โดยระบุวันที่ที่ชัดเจน ข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับผู้แต่ง สื่อเผยแพร่ ผู้เผยแพร่ กองบรรณาธิการ บริษัทหรือเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึงข้อมูลติดต่อโดยเฉพาะ
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนําเนื้อหาที่มีความรุนแรงและน่าหวาดกลัวออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- ตรวจสอบและอัปเดตหน้าเว็บให้เป็นไปตามนโยบายโดยนำเนื้อหาที่ทำให้เกิดความไม่พอใจออก (นโยบายของ News / นโยบายของ Discover)
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ และให้หลักฐานเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านบรรณาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงนโยบายด้านบรรณาธิการใหม่ และกองบรรณาธิการพร้อมประวัติของแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุง
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
การละเมิดชื่อเสียงของเว็บไซต์
Google ตรวจพบว่าเว็บไซต์ของคุณส่วนหนึ่งละเมิดนโยบายสแปมเกี่ยวกับการละเมิดชื่อเสียงของเว็บไซต์
การละเมิดชื่อเสียงของเว็บไซต์เกิดขึ้นเมื่อหน้าเว็บของบุคคลที่สามถูกเผยแพร่โดยมีการกำกับดูแลหรือมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมากหรือไม่มีเลย โดยมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมการจัดอันดับการค้นหาด้วยการใช้ประโยชน์จากสัญญาณการจัดอันดับเว็บไซต์ของบุคคลที่หนึ่ง หน้าเว็บของบุคคลที่สามดังกล่าวครอบคลุมถึงหน้าที่ได้รับการสนับสนุน หน้าโฆษณา หน้าของพาร์ทเนอร์ หรือหน้าเว็บอื่นๆ ของบุคคลที่สาม ซึ่งมักไม่ได้เชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์หลักของเว็บไซต์ที่โฮสต์หรือมีขึ้นโดยไม่มีการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดหรือไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ที่โฮสต์ และให้คุณค่าเพียงเล็กน้อยแก่ผู้ใช้หรือไม่ได้ให้คุณค่าเลย
การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันส่งผลต่อหน้าเว็บที่มีเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายของเรา อย่างไรก็ตาม หากเว็บไซต์ของคุณละเมิดนโยบายการละเมิดชื่อเสียงของเว็บไซต์ซ้ำหลายครั้ง อาจนำไปสู่การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม และ/หรือส่งผลต่อการจัดอันดับโดยรวมของเว็บไซต์คุณ
การดำเนินการที่แนะนำ
อ่านนโยบายสแปมเกี่ยวกับการละเมิดชื่อเสียงของเว็บไซต์ของ Google จากนั้นทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อระบุและแก้ไขการละเมิดในเว็บไซต์ของคุณ
- ค้นหาเนื้อหาในเว็บไซต์ที่มาจากแหล่งที่มาอื่นโดยมีการกำกับดูแลหรือการมีส่วนร่วมของบุคคลที่หนึ่งเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แล้วยกเว้นเนื้อหาดังกล่าวจากการจัดทำดัชนีของ Search
- เมื่อแน่ใจว่าเว็บไซต์ไม่ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว ให้เลือกขอรับการตรวจสอบในรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
- หลังจากส่งคำขอให้พิจารณาใหม่แล้ว โปรดรอรับข้อความแจ้งสถานะการตรวจสอบในบัญชี Search Console ซึ่งเราจะแจ้งไปเมื่อตรวจสอบเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว หากพบว่าเว็บไซต์ไม่ได้ละเมิดนโยบายสแปมแล้ว เราจะเพิกถอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่
รายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ต่างกับรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยอย่างไร
รายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่และรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยมีแนวคิดบางประการที่คาบเกี่ยวกันอยู่ ดังนั้นการทราบถึงข้อแตกต่างระหว่างรายงาน 2 ประเภทนี้จึงมีประโยชน์
รายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่แสดงปัญหาเกี่ยวกับหน้าเว็บหรือเว็บไซต์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นความพยายามบิดเบือนดัชนีการค้นหา แต่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้เสมอไป ปัญหาส่วนใหญ่ที่ระบุในรายงานนี้จะส่งผลให้หน้าเว็บหรือเว็บไซต์ได้รับอันดับที่ต่ำลง หรือไม่แสดงในผลการค้นหาโดยไม่มีการแสดงให้ผู้ใช้ทราบ
รายงานปัญหาด้านความปลอดภัยจะแสดงข้อบ่งชี้ว่าเว็บไซต์ของคุณถูกแฮ็ก หรือระบุถึงพฤติกรรมบนเว็บไซต์ของคุณที่อาจเป็นอันตรายต่อตัวผู้เข้าชมหรือคอมพิวเตอร์ของผู้ชม ตัวอย่างเช่น การโจมตีแบบฟิชชิง หรือการติดตั้งมัลแวร์หรือซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์บนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ หน้าเหล่านี้อาจปรากฏขึ้นพร้อมกับป้ายคำเตือนในผลการค้นหา หรือเบราว์เซอร์อาจแสดงหน้าคำเตือนคั่นระหว่างหน้าเมื่อผู้ใช้พยายามเข้าชมหน้าเว็บ