Video Editing Overview - Google Web Designer
Google Web Designer ให้ธุรกิจสร้างโฆษณาวิดีโอได้โดยการแก้ไขวิดีโอและเสียง ควบคู่ไปกับเนื้อหามาตรฐาน เช่น ข้อความและรูปภาพ ซึ่งสื่อและองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมด รวมถึงภาพเคลื่อนไหว จะแสดงผลในไฟล์วิดีโอ MP4 ที่ส่งออกขั้นสุดท้าย
Linux ไม่รองรับโฆษณาวิดีโอ
หัวข้อในหน้านี้
การสร้างเอกสารวิดีโอ
คุณควรสร้างโฆษณาวิดีโอโดยใช้เอกสารประเภทที่กำหนดใน Google Web Designer
ใช้เทมเพลต
หากต้องการเริ่มต้นอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบที่ทําไว้ล่วงหน้า คุณสามารถใช้เทมเพลตวิดีโอ เรียกดูแท็บวิดีโอในแกลเลอรีเทมเพลตเพื่อหาเทมเพลตที่มีฟีเจอร์และเนื้อหาที่ต้องการ
Video Templates - Google Web Designer
สร้างเอกสารวิดีโอเปล่ารายการใหม่
หากต้องการสร้างโฆษณาวิดีโอเปล่าให้คุณสร้างการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้น ให้ทำดังนี้
- เลือกไฟล์ > ใหม่... จากเมนูด้านบน หรือสร้างไฟล์ใหม่จากหน้าเริ่มต้น
- ในแผงด้านซ้าย ให้เลือกประเภทโฆษณาเป็นวิดีโอ
- ป้อนชื่อไฟล์
- เลือกตําแหน่งของไฟล์
- เลือกขนาดโฆษณาวิดีโอหรือกําหนดเองเพื่อระบุความกว้างและความสูง
- หากคุณวางแผนที่จะสร้าง GIF แบบเคลื่อนไหวที่มีขนาดแตกต่างกัน ให้เลือกช่องทําเครื่องหมายเลย์เอาต์หลายขนาด
- กดตกลง
ในครั้งแรกที่คุณสร้างเอกสารวิดีโอ พื้นที่ทำงานจะจัดเรียงใหม่เพื่อแสดงแผงที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับการทำงานกับวิดีโอ คุณบันทึกพื้นที่ทำงานนี้ไว้ได้ หากต้องการเปลี่ยนไปใช้ในอนาคต
แปลงเอกสาร HTML เป็นเอกสารวิดีโอ
เอกสาร HTML ส่วนใหญ่ที่สร้างใน Google Web Designer จะแปลงเป็นโฆษณาวิดีโอได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการ Conversion และความเข้ากันได้ของฟีเจอร์
การทำงานกับเอกสารวิดีโอ
เครื่องมือ HTML5 ส่วนใหญ่พร้อมใช้งานในเอกสารวิดีโอ แต่จะมีข้อจำกัดบางอย่าง นอกจากนี้ เอกสารวิดีโอยังให้คุณใส่แทร็กวิดีโอและแทร็กเสียงได้ โดยจะแสดงเป็นเลเยอร์ในไทม์ไลน์
ไทม์ไลน์
เอกสารวิดีโอจะใช้ไทม์ไลน์โหมดขั้นสูงเสมอ ซึ่งแต่ละองค์ประกอบจะแสดงเป็นเลเยอร์ และจะไม่มีแทร็กเหตุการณ์เนื่องจากไฟล์วิดีโอไม่รองรับเหตุการณ์
ใช้ไทม์ไลน์เพื่อตั้งกำหนดเวลาของสื่อหรือภาพเคลื่อนไหว เวลาปัจจุบันจะแสดงในรูปแบบ minutes:seconds:frames โดยจํานวนเฟรมต่อวินาทีจะอิงตามอัตราเฟรม ทั้งนี้ Google Web Designer รองรับโฆษณาวิดีโอที่มีความยาวสูงสุด 5 นาที
เสียงและวิดีโอจะอยู่รวมกันในเลเยอร์พิเศษที่เรียกว่าแทร็กวิดีโอและแทร็กเสียง โดยสามารถใส่คลิปของประเภทสื่อที่ตรงกันตั้งแต่ 1 คลิปเป็นต้นไป (รวมถึงคลิปรูปภาพในแทร็กวิดีโอ) ลงในแทร็กเหล่านี้ได้ ซึ่งเมื่อคุณเพิ่มสื่อลงในเอกสาร ไทม์ไลน์จะแสดงภาพขนาดย่อหากสื่อนั้นเป็นคลิปวิดีโอและรูปภาพ และจะแสดงรูปแบบคลื่นหากสื่อนั้นเป็นคลิปเสียง
การนำเข้าเนื้อหาสื่อ
คุณเพิ่มเนื้อหาวิดีโอหรือเสียงลงในเอกสารได้โดยใช้วิธีการต่อไปนี้
- ใช้คำสั่งเมนูไฟล์ > นำเข้าเนื้อหา...
- ลากเนื้อหาสื่อจากระบบไฟล์ไปยังพื้นที่งานของ Google Web Designer
- ลากเนื้อหาสื่อจากแผงไลบรารีไปยังพื้นที่งานหรือไปยังแทร็กที่เหมาะสมในไทม์ไลน์
- ใช้ปุ่มนำเข้าชิ้นงาน ที่ด้านล่างของแผงไลบรารี (เฉพาะเพิ่มลงในไลบรารี)
รองรับเนื้อหาสื่อที่มีความยาวสูงสุด 5 นาที
ตัวแปลงรหัสสื่อที่รองรับ
เนื้อหาวิดีโอและเสียงที่ใช้ในโฆษณาวิดีโอควรเข้ารหัสโดยใช้ตัวแปลงรหัสต่อไปนี้
วิดีโอ | เสียง |
---|---|
H.264/AVC VP8 VP9 |
AAC MP3 Opus Vorbis WAV |
ไฟล์บางประเภทที่อาจใช้ตัวแปลงรหัสด้านบน ได้แก่ .mp3, .mp4, .m4a, .mov และ .webm หากไฟล์สื่อใช้ตัวแปลงรหัสอื่น Google Web Designer จะแสดงข้อผิดพลาดเมื่อคุณพยายามนำเข้าไฟล์ไปยังเอกสารวิดีโอ
ขนาดโฆษณาวิดีโอ
วิธีเปลี่ยนขนาดโฆษณาวิดีโอ
- ยกเลิกการเลือกองค์ประกอบในพื้นที่งาน (ทำได้ด้วยการคลิกพื้นที่ว่างของพื้นที่งาน)
- ในแผงคุณสมบัติ ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงขนาดเพื่อเลือกขนาด หรือเลือกกำหนดเองเพื่อระบุความกว้างและความสูง
เลย์เอาต์หลายขนาด
เลย์เอาต์หลายขนาดช่วยให้คุณออกแบบโฆษณาวิดีโอสำหรับขนาดต่างๆ ภายในเอกสารเดียวกันได้ หากโฆษณาวิดีโอใช้เลย์เอาต์หลายขนาด คุณควรเปลี่ยนขนาดในแผงการปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลย์เอาต์หลายขนาด
อัตราเฟรม
โฆษณาวิดีโอจะตั้งค่าอัตราเฟรมไว้ที่ 30 FPS โดยค่าเริ่มต้น แต่จะเปลี่ยนให้ตรงกับอัตราเฟรมของเนื้อหาวิดีโอที่นำเข้าครั้งแรก
เมื่อเผยแพร่โฆษณาวิดีโอ คุณสามารถเลือกอัตราเฟรมที่ต่ำกว่าเพื่อส่งออกเวอร์ชันที่มีความละเอียดน้อยลง รวมทั้งปรับอัตราเฟรมด้วยตนเองขณะทำงานกับเอกสารวิดีโอได้ โดยใช้วิธีเปลี่ยนอัตราเฟรม ดังนี้
- ยกเลิกการเลือกองค์ประกอบในพื้นที่งาน (ทำได้ด้วยการคลิกพื้นที่ว่างของพื้นที่งาน)
- ในแผงคุณสมบัติ ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงอัตราเฟรมเพื่อเลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- 5 FPS
- 10 FPS
- 12 FPS
- 12.5 FPS
- 15 FPS
- 23.98 FPS
- 24 FPS
- 25 FPS
- 29.97 FPS
- 30 FPS
- 50 FPS
- 59.94 FPS
- 60 FPS
การเปลี่ยนอัตราเฟรมอาจรบกวนกำหนดเวลาของภาพเคลื่อนไหวที่มีอยู่ หรือทำให้เกิดการกระตุกเมื่อเล่นวิดีโอคลิปที่มีอัตราเฟรมอื่น
การแก้ไขสื่อ
ต่อไปนี้เป็นฟีเจอร์การแก้ไขวิดีโอและเสียงที่พร้อมใช้งานในเอกสารวิดีโอ
- กำหนดเวลาและความยาวในการเล่นคลิปสื่อแต่ละคลิปในระหว่างไทม์ไลน์โฆษณาวิดีโอ
- ตัดคลิปเพื่อใช้ส่วนของแหล่งที่มาของสื่อเท่านั้น
- แยกและผสานคลิป
- ลิงก์คลิปเพื่อซิงค์ข้อมูลการแก้ไข
- ทำซ้ำคลิป
- เพิ่มการเปลี่ยนลงในคลิป
- ปรับระดับเสียง
- ตรึงไว้บนเฟรมวิดีโอ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานกับคลิปสื่อ
การปรับแต่งลักษณะที่ปรากฏของวิดีโอ
คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ต่อไปนี้กับแทร็กวิดีโอเพื่อให้ปรับแต่งวิดีโอได้ละเอียดยิ่งขึ้น
รูปแบบ
รูปแบบช่วยให้คุณสร้างโฆษณาวิดีโอได้หลายเวอร์ชันโดยมีรูปแบบและเนื้อหาแตกต่างกันภายในหนึ่งเอกสาร ทั้งนี้รูปแบบแต่ละรายการจะส่งออกเป็นไฟล์วิดีโอแยกกัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบ
ข้อจำกัด
ฟังก์ชันการทำงานต่อไปนี้ใช้ไม่ได้กับเอกสารวิดีโอ
- หน้า
- คอมโพเนนต์
- ไลบรารีเหตุการณ์และ JavaScript
- ไทม์ไลน์โหมดด่วน
- Ad Validator
- ข้อความไฮเปอร์ลิงก์
- สภาพแวดล้อมของโฆษณา
- การบันทึกเอกสารวิดีโอเป็นเทมเพลต
- การแสดงตัวอย่างเอกสารวิดีโอในเบราว์เซอร์
- การเผยแพร่เอกสารวิดีโอพร้อมกันหลายรายการ
- การเผยแพร่ไปยัง Google ไดรฟ์, Studio, Display & Video 360 หรือ Campaign Manager 360
การแสดงตัวอย่างเอกสารวิดีโอ
คุณใช้ตัวควบคุมบนไทม์ไลน์เพื่อแสดงตัวอย่างเอกสารในพื้นที่งานได้
ข้ามไปยังเฟรมแรกของช่วงการแสดงตัวอย่าง
กลับไปยังเฟรมก่อนหน้า
เล่นตัวอย่างโดยเริ่มต้นจากส่วนหัวของตัวควบคุมการเล่นในไทม์ไลน์
หยุดเล่นตัวอย่างชั่วคราว
ไปยังเฟรมถัดไป
ข้ามไปยังเฟรมสุดท้ายของช่วงการแสดงตัวอย่าง
สลับการวนซ้ำสำหรับการเล่นตัวอย่าง
การแสดงตัวอย่างในเบราว์เซอร์ (การใช้ปุ่มแสดงตัวอย่าง) จะปิดใช้สำหรับเอกสารวิดีโอ
ความละเอียดของตัวอย่างวิดีโอ
คุณปรับความละเอียดของตัวอย่างวิดีโอในพื้นที่งานได้โดยใช้เมนูแบบเลื่อนลงความละเอียดของตัวอย่างเหนือไทม์ไลน์
ความละเอียดของตัวอย่างจะตั้งไว้ที่ 1/2 โดยค่าเริ่มต้น แต่คุณสามารถลดเป็น 1/4 หรือ 1/8 เพื่อให้แสดงผลราบรื่นยิ่งขึ้น หรือจะเพิ่มเป็นความละเอียดสูงสุดก็ได้
ตัวอย่างเสียง
เสียงในเอกสารวิดีโอจะเล่นในระหว่างการเล่นตัวอย่าง มาตรวัดเสียงสูงสุดในไทม์ไลน์จะทำงานเพื่อช่วยให้คุณทราบระดับเสียงของแต่ละแทร็กและระดับเสียงโดยรวม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสียงในเอกสารวิดีโอ
การเผยแพร่เอกสารวิดีโอ
เมื่อพร้อมส่งออกเอกสารไปยังไฟล์วิดีโอแล้ว ให้ใช้คำสั่งเมนูไฟล์ > เผยแพร่ หรือปุ่มเผยแพร่
ปัจจุบันคุณเผยแพร่โฆษณาวิดีโอไปยังระบบไฟล์ในเครื่องได้เท่านั้น โดยเผยแพร่เอกสารวิดีโอได้เพียงครั้งละ 1 รายการ
กล่องโต้ตอบการส่งออกจะมีตัวเลือกเฉพาะสําหรับเอกสารวิดีโอ ดังนี้
เอาต์พุต | คุณจะส่งออกเอกสารเป็นวิดีโอหรือ GIF แบบเคลื่อนไหวก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือก GIF แบบเคลื่อนไหว |
---|---|
ขนาด | สําหรับเอกสารวิดีโอที่มีเลย์เอาต์หลายขนาด คุณจะส่งออกขนาดทั้งหมดหรือเฉพาะขนาดที่เลือกก็ได้ โดยโฆษณาแต่ละขนาดจะสร้างเป็นไฟล์วิดีโอแยกกัน |
รูปแบบ | สําหรับเอกสารวิดีโอที่มีรูปแบบหลายรายการ คุณจะส่งออกรูปแบบทั้งหมดหรือเฉพาะรูปแบบที่เลือกก็ได้ ระบบจะสร้างรูปแบบแต่ละรายการเป็นไฟล์วิดีโอแยกกัน |
อัตราเฟรม | เลือกอัตราเฟรม (FPS) แบบเต็มหรือต่ำลงเป็น อัตราเฟรมที่สูงขึ้นอาจทําให้การเคลื่อนไหวลื่นไหลขึ้น แต่ไฟล์ก็จะขนาดใหญ่ขึ้น |
ความละเอียด | เลือกความละเอียดแบบเต็มหรือความละเอียดน้อยลง "ขนาด" ในสรุปที่แผงด้านซ้ายมือจะแสดงขนาดเป็นพิกเซลสําหรับความละเอียดปัจจุบัน |
ช่วงเวลา | เลือกไทม์ไลน์แบบเต็มหรือเลือกช่วงการแสดงตัวอย่าง |
โปรไฟล์ H.264 | เลือกจากเกณฑ์พื้นฐาน หลัก หรือสูง (ค่าเริ่มต้น) ถึงแม้จะพบบ่อยที่สุดก็อาจมีการแนะนําโปรไฟล์หลายแบบโดยขึ้นอยู่กับตําแหน่งที่คาดว่าวิดีโอจะแสดง |
อัตราบิตของวิดีโอ | ตั้งค่าอัตราบิตของวิดีโอในหน่วย Mbps อัตราบิตที่สูงขึ้นอาจแสดงวิดีโอที่คมชัดขึ้น แต่ไฟล์ก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น |
อัตราบิตของเสียง | เลือกอัตราบิตของเสียงในหน่วย Kbps อัตราบิตที่สูงขึ้นอาจทําให้คุณภาพเสียงดีขึ้น แต่ไฟล์ก็จะมีขนาดใหญ่ |
ไฟล์ที่ส่งออก
หากเลือกหลายรูปแบบหรือหลายขนาด รูปแบบแต่ละรายการจะส่งออกเป็นไฟล์วิดีโอแยกกัน คุณค้นหาไฟล์ที่เผยแพร่ได้ในโฟลเดอร์ที่ระบุในกล่องโต้ตอบการส่งออก
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
Google Web Designer จะส่งออกโฆษณาวิดีโอโดยใช้ข้อมูลจำเพาะต่อไปนี้
- รูปแบบ: MP4
- การเข้ารหัส: H.264
- อัตราการสุ่มตัวอย่างเสียง: 48 kHz