เพิ่มใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกา

สำคัญ: โปรดเก็บบัตรประจำตัวใบจริงไว้กับตัวตามความจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะยืนยันตัวตนได้ เนื่องจากบัตรประจำตัวดิจิทัลใน Google Wallet ไม่สามารถใช้แทนบัตรประจำตัวใบจริงได้

ข้อกำหนดในการเพิ่มและใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกา

เพิ่มบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ลงใน Google Wallet 

How to add your state ID or driver’s license to Google Wallet

สำหรับวิดีโอเดียวกันนี้ที่มีเสียงบรรยาย: How to add your state ID or driver’s license to Google Wallet

สำคัญ: บัตรต้องได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐบาลที่เป็นผู้ออกให้ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณ

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. แตะเพิ่มลงใน Wallet จากนั้น บัตรประจำตัว
    • ทำตามวิธีการบนหน้าจอ ถ่ายรูปด้านหน้าและด้านหลังของบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ และถ่ายวิดีโอสั้นๆ ให้เห็นตัวเอง ระบบจะส่งรูปภาพจากวิดีโอนี้ให้กับผู้ออกบัตรเพื่อยืนยันตัวตน

เคล็ดลับ: หากคุณเพิ่มบัตรประจำตัวไม่ได้ ให้ทำดังนี้

  • ถือบัตรให้นิ่งหรือวางบนพื้นผิวเรียบ
  • ตรวจสอบว่าคุณสแกนในสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอและวางบัตรบนพื้นหลังสีเข้ม
  • ตรวจสอบว่าบาร์โค้ดมองเห็นได้ชัดเจน ซูมเข้าไปที่บาร์โค้ดหากจำเป็น
  • ตรวจสอบว่าแอป Google Wallet เป็นเวอร์ชันล่าสุด

ใช้บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่

คุณสามารถใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาใน Google Wallet ในการยืนยันตัวตนแทนบัตรจริง (Physical Card) ได้ บัตรประจำตัวดิจิทัลเป็นเอกสารที่ใช้งานได้โดยมีข้อจำกัดเช่นเดียวกับบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ใบจริง

ปัจจุบันคุณใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาได้กับ

  • TSA ที่สนามบินที่รองรับ บัตรประจำตัวดิจิทัลต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ REAL ID และคุณยังต้องพกบัตรประจำตัวใบจริงตามความจำเป็น
  • แอปบางแอป เช่น บริการรถเช่า จะยอมรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนดิจิทัลใน Google Wallet ในการยืนยันตัวตนและอายุ

ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาจะใช้เพิ่มได้อีกเร็วๆ นี้

TSA

สำคัญ: คุณใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกากับ TSA ได้ที่สนามบินที่รองรับ ทั้งนี้ คุณยังต้องพกบัตรประจำตัวใบจริงตามความจำเป็น หากคุณเพิ่มใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนดิจิทัลที่ไม่ใช่ REAL ID ลงใน Google Wallet ระบบจะไม่ยอมรับบัตรประจำตัวดิจิทัลของคุณที่จุดตรวจของ TSA สำหรับการเดินทางภายในประเทศ หากต้องการยืนยันว่า TSA รองรับบัตรหรือไม่ โปรดดูคำแนะนำของ TSA เกี่ยวกับประเภทของบัตรประจำตัวดิจิทัลที่เป็นไปตามข้อกำหนด หรือติดต่อผู้ออกบัตรของรัฐโดยตรง

เมื่อใช้ Near Field Communication (NFC)
  1. ปลดล็อกโทรศัพท์
  2. ถือด้านหลังของโทรศัพท์ไว้ใกล้เครื่องชำระเงิน NFC แล้วค้างไว้ 2-3 วินาที
  3. ตรวจสอบข้อมูลที่จะแชร์
  4. แตะต่อไปหากต้องการดำเนินการต่อ หรือแตะยกเลิกหากไม่ต้องการแชร์ข้อมูลกับ TSA
    • Google Wallet จะขอให้คุณตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะดำเนินการต่อด้วย
  5. รอให้เครื่องหมายถูกสีน้ำเงินปรากฏขึ้นเพื่อยืนยันว่าแชร์ข้อมูลแล้ว

เคล็ดลับ: หากคุณแชร์บัตรประจำตัวไม่ได้ ให้ทำดังนี้

  • ลองถือโทรศัพท์ด้วยวิธีอื่น โดยให้เสาอากาศ NFC อยู่ใกล้กับด้านบนหรือด้านล่างของอุปกรณ์
  • ถือโทรศัพท์เข้าไปใกล้เครื่องอ่านมากยิ่งขึ้น
  • ถือโทรศัพท์ไว้ใกล้เครื่องอ่านแล้วค้างไว้ 2-3 วินาที

หากยังพบปัญหา โปรดใช้บัตรประจำตัวใบจริง

เมื่อใช้คิวอาร์โค้ด
  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. เลื่อนหาบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
  3. แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
  4. อนุญาตให้ตัวแทน TSA สแกนคิวอาร์โค้ดบนบัตรประจำตัวของคุณ
  5. ตรวจสอบข้อมูลที่จะแชร์
  6. แตะแชร์หากต้องการดำเนินการต่อ หรือแตะยกเลิกหากไม่ต้องการแชร์ข้อมูล
    • Google Wallet จะขอให้คุณตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะดำเนินการต่อด้วย
  7. รอให้เครื่องหมายถูกสีน้ำเงินปรากฏขึ้นเพื่อยืนยันว่าแชร์ข้อมูลแล้ว

เคล็ดลับ: หากสแกนด้านหลังใบขับขี่ไม่ได้ ให้ลองทำดังนี้

  • ถือบัตรให้นิ่งหรือวางบนพื้นผิวเรียบ
  • สแกนบัตรในสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
  • ตรวจสอบว่าคิวอาร์โค้ดมองเห็นได้ชัดเจน ซูมเข้าไปที่คิวอาร์โค้ดหากจำเป็น

แอปอื่นๆ

แอปบางแอป เช่น บริการรถเช่า จะยอมรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนดิจิทัลใน Google Wallet ในการยืนยันตัวตนและอายุ

หากแอปยอมรับบัตรประจำตัวดิจิทัลผ่าน Google Wallet ระบบจะถามว่าคุณต้องการใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลใน Google Wallet ในระหว่างกระบวนการยืนยันตัวตนของแอปไหม คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลที่จะแชร์กับแอปและยินยอมที่จะแชร์ก่อนที่จะมีการแชร์ข้อมูลของคุณ Google Wallet จะขอให้คุณตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะดำเนินการต่อด้วย

เคล็ดลับ: หากต้องการใช้บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ดิจิทัลกับแอปอื่นๆ ให้ทำตามขั้นตอนในแอปที่เชื่อมต่อ เนื่องจากขั้นตอนในแต่ละแอปจะแตกต่างกัน

นำบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ออก

สำคัญ: ระบบจะบันทึกใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาไว้ในอุปกรณ์ของคุณ โดยคุณสามารถบันทึกใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาลงในอุปกรณ์ได้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น

คุณสามารถนำบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ออกจาก Google Wallet ได้ในกรณีต่อไปนี้

  • ต้องการเพิ่มใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวลงในโทรศัพท์เครื่องใหม่
  • ต้องการส่งต่อหรือขายโทรศัพท์
  • ต้องส่งโทรศัพท์ไปซ่อม
  • โทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมย

คุณสามารถนำใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาออกได้โดยใช้แอป Google Wallet หรือทางออนไลน์ที่ myaccount.google.com

วิธีนำบัตรประจำตัวออกด้วยแอป Google Wallet มีดังนี้

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
  3. แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
  4. ที่ด้านบนขวา ให้แตะเพิ่มเติม More จากนั้น นำออก จากนั้น นำออก

วิธีนำบัตรประจำตัวออกทางออนไลน์จากระยะไกลมีดังนี้

  1. ไปที่ myaccount.google.com
  2. แตะข้อมูลส่วนบุคคล
  3. เลื่อนไปที่ "บัตรประจำตัว"
  4. แตะจัดการบัตรประจำตัว
  5. เลือกบัตรประจำตัวที่ต้องการนำออก
  6. แตะลบ Delete ข้างบัตรประจำตัว
  7. ยืนยันว่าคุณต้องการลบบัตรประจำตัวออกจากอุปกรณ์และบัญชี Google

แก้ปัญหาเกี่ยวกับบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่

ผู้ออกบัตรปฏิเสธบัตรประจำตัว

หากผู้ออกบัตรปฏิเสธบัตรประจำตัวของคุณในขั้นตอนการสมัคร โปรดอ่านวิธีการของผลิตภัณฑ์และเคล็ดลับความช่วยเหลือสำหรับการเพิ่มบัตรประจำตัว แล้วลองอีกครั้ง หากยังพบปัญหาอยู่และต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของผู้ออกบัตรประจำตัวของรัฐคุณ

ผู้ออกบัตรลบบัตรประจำตัว

ผู้ออกบัตรมีสิทธิลบบัตรประจำตัวของคุณได้ทุกเมื่อตามที่เห็นสมควร โปรดไปที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกของกระทรวงคมนาคม (Department of Transportation Motor Vehicle Administration) ของรัฐคุณเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุผลที่ลบบัตรดังกล่าว

ผู้ออกบัตรต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

แอปอาจแจ้งให้คุณทราบว่าผู้ออกบัตรประจำตัวต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประมวลผลใบสมัครสำหรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกา ในกรณีเหล่านี้ คุณต้องทำตามวิธีการในแอปเพื่อยืนยันตัวตนเพิ่มเติม

ข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของโทรศัพท์

อุปกรณ์ของคุณจะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่ออัปเดตใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาให้เป็นปัจจุบันเสมอ หากคุณออฟไลน์ติดต่อกันนานกว่า 30 วัน ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาจะใช้งานไม่ได้จนกว่าอุปกรณ์จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง

กรณีที่คุณย้ายออกจากรัฐ

หากคุณย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่รองรับฟีเจอร์นี้ ให้ทำตามขั้นตอนการสร้างใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาใหม่อีกครั้งโดยอิงตามใบขับขี่ใหม่ของคุณ แต่หากคุณย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่รองรับฟีเจอร์นี้ ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาจะใช้งานไม่ได้เมื่อบัตรประจำตัวใบจริงใช้งานไม่ได้อีกต่อไป

กรณีที่โทรศัพท์สูญหาย

หากโทรศัพท์สูญหาย คุณต้องทำตามวิธีการข้างต้นเพื่อนำบัตรประจำตัวออก

จัดการบันทึกกิจกรรมในแอป Google Wallet
สำคัญ
  • ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้เมื่อคุณเลือกดำเนินการสิ่งเหล่านี้เท่านั้น
  • ดูตำแหน่งที่แชร์บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ได้ในบันทึกกิจกรรมในแอป Google Wallet
  • ระบบจะจัดเก็บบันทึกกิจกรรมไว้ในอุปกรณ์นี้เท่านั้นและจะมีเพียงคุณที่เข้าถึงได้

วิธีเปิดและดูข้อมูลบันทึกกิจกรรม

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
  3. แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
  4. แตะเพิ่มเติม More จากนั้น ดูและจัดการกิจกรรม
  5. ยืนยันตัวตน
  6. เปิดประวัติกิจกรรม

วิธีส่งออกข้อมูลบันทึกกิจกรรม

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
  3. แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
  4. แตะเพิ่มเติม More จากนั้น ดูและจัดการกิจกรรม
  5. ยืนยันตัวตน
  6. ที่ด้านขวาบน ให้แตะดาวน์โหลด

วิธีปิดและลบข้อมูลบันทึกกิจกรรม

สำคัญ: เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว จะมีเพียงคุณเท่านั้นที่เห็นประวัติกิจกรรม หากคุณปิดประวัติกิจกรรม ระบบจะลบกิจกรรมทั้งหมดในบัตรประจำตัวออกจากอุปกรณ์นั้น

  1. เปิดแอป Google Wallet
  2. เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
  3. แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
  4. แตะเพิ่มเติม More จากนั้น ดูและจัดการกิจกรรม
  5. ยืนยันตัวตน
  6. ปิดประวัติกิจกรรม
  7. แตะปิด
บัตรประจำตัวดิจิทัลของฉันเป็นไปตามข้อกำหนดของ REAL ID หรือไม่
หากคุณเพิ่มใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนดิจิทัลที่ไม่ใช่ REAL ID ลงใน Google Wallet ระบบจะไม่ยอมรับบัตรประจำตัวดิจิทัลของคุณที่จุดตรวจของ TSA สำหรับการเดินทางภายในประเทศ หากต้องการยืนยันว่า TSA รองรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนใน Google Wallet หรือไม่ โปรดดูคำแนะนำของ TSA เกี่ยวกับประเภทของบัตรประจำตัวดิจิทัลที่เป็นไปตามข้อกำหนด หรือติดต่อผู้ออกบัตรของรัฐโดยตรง

ความเป็นส่วนตัวสำหรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกา

เมื่อสมัครใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลใน Google Wallet บนโทรศัพท์ จะเป็นการให้ข้อมูลบางอย่างแก่เรา เช่น รูปภาพด้านหน้าและด้านหลังของบัตรประจำตัว รวมถึงวิดีโอสั้นๆ ที่บันทึกใบหน้าของคุณ

เมื่อได้รับความยินยอมจากคุณ เราจะแชร์ข้อมูลบัตรประจำตัวและรูปภาพใบหน้าของคุณจากวิดีโอกับหน่วยงานรัฐบาลที่ออกบัตรประจำตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำขอใช้บัตรประจำตัวดิจิทัล

เราจะส่งคำขอของคุณให้หน่วยงานรัฐบาลเมื่อได้รับความยินยอมจากคุณเท่านั้น

หน่วยงานดังกล่าวจะตรวจสอบข้อมูลของคุณ โดยระบบจะบันทึกใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาที่เข้ารหัสไว้ในอุปกรณ์หากการสมัครของคุณได้รับอนุมัติ คุณสามารถดูและจัดการบัตรดังกล่าวในอุปกรณ์ รวมถึงควบคุมได้ว่าจะแชร์บัตรประจำตัวเมื่อใด นอกจากนี้ เราจะบันทึกหลักฐานว่าคุณให้ความยินยอมไว้ด้วย

ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาถือเป็นบัตรส่วนตัว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรส่วนตัว

ข้อมูลใดๆ รวมถึงข้อมูลที่ Google ใช้ในการวิเคราะห์จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
16846096429250463085
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
280
false
false
false
false