สำคัญ: โปรดเก็บบัตรประจำตัวใบจริงไว้กับตัวตามความจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะยืนยันตัวตนได้ เนื่องจากบัตรประจำตัวดิจิทัลใน Google Wallet ไม่สามารถใช้แทนบัตรประจำตัวใบจริงได้
ข้อกำหนดในการเพิ่มและใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกา
- คุณต้องมีโทรศัพท์ที่ใช้ Android 9 ขึ้นไป
- คุณต้องเปิดบลูทูธและอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อใช้ฟีเจอร์นี้
- คุณต้องตั้งค่าการล็อกหน้าจอเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ฟีเจอร์นี้
- ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาในรัฐต่อไปนี้เท่านั้น
เพิ่มบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ลงใน Google Wallet
How to add your state ID or driver’s license to Google Wallet
สำหรับวิดีโอเดียวกันนี้ที่มีเสียงบรรยาย: How to add your state ID or driver’s license to Google Wallet
สำคัญ: บัตรต้องได้รับการยืนยันจากหน่วยงานรัฐบาลที่เป็นผู้ออกให้ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคุณ
- เปิดแอป Google Wallet
- แตะเพิ่มลงใน Wallet
บัตรประจำตัว
- ทำตามวิธีการบนหน้าจอ ถ่ายรูปด้านหน้าและด้านหลังของบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ และถ่ายวิดีโอสั้นๆ ให้เห็นตัวเอง ระบบจะส่งรูปภาพจากวิดีโอนี้ให้กับผู้ออกบัตรเพื่อยืนยันตัวตน
เคล็ดลับ: หากคุณเพิ่มบัตรประจำตัวไม่ได้ ให้ทำดังนี้
- ถือบัตรให้นิ่งหรือวางบนพื้นผิวเรียบ
- ตรวจสอบว่าคุณสแกนในสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอและวางบัตรบนพื้นหลังสีเข้ม
- ตรวจสอบว่าบาร์โค้ดมองเห็นได้ชัดเจน ซูมเข้าไปที่บาร์โค้ดหากจำเป็น
- ตรวจสอบว่าแอป Google Wallet เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- รีสตาร์ทโทรศัพท์หลังจากทำการอัปเดต ดูวิธีอัปเดตแอปบน Android
ใช้บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
คุณสามารถใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาใน Google Wallet ในการยืนยันตัวตนแทนบัตรจริง (Physical Card) ได้ บัตรประจำตัวดิจิทัลเป็นเอกสารที่ใช้งานได้โดยมีข้อจำกัดเช่นเดียวกับบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ใบจริง
ปัจจุบันคุณใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาได้กับ
- TSA ที่สนามบินที่รองรับ บัตรประจำตัวดิจิทัลต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ REAL ID และคุณยังต้องพกบัตรประจำตัวใบจริงตามความจำเป็น
- แอปบางแอป เช่น บริการรถเช่า จะยอมรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนดิจิทัลใน Google Wallet ในการยืนยันตัวตนและอายุ
ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาจะใช้เพิ่มได้อีกเร็วๆ นี้
TSA
สำคัญ: คุณใช้ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกากับ TSA ได้ที่สนามบินที่รองรับ ทั้งนี้ คุณยังต้องพกบัตรประจำตัวใบจริงตามความจำเป็น หากคุณเพิ่มใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนดิจิทัลที่ไม่ใช่ REAL ID ลงใน Google Wallet ระบบจะไม่ยอมรับบัตรประจำตัวดิจิทัลของคุณที่จุดตรวจของ TSA สำหรับการเดินทางภายในประเทศ หากต้องการยืนยันว่า TSA รองรับบัตรหรือไม่ โปรดดูคำแนะนำของ TSA เกี่ยวกับประเภทของบัตรประจำตัวดิจิทัลที่เป็นไปตามข้อกำหนด หรือติดต่อผู้ออกบัตรของรัฐโดยตรง
- ปลดล็อกโทรศัพท์
- ถือด้านหลังของโทรศัพท์ไว้ใกล้เครื่องชำระเงิน NFC แล้วค้างไว้ 2-3 วินาที
- ตรวจสอบข้อมูลที่จะแชร์
- แตะต่อไปหากต้องการดำเนินการต่อ หรือแตะยกเลิกหากไม่ต้องการแชร์ข้อมูลกับ TSA
- Google Wallet จะขอให้คุณตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะดำเนินการต่อด้วย
- รอให้เครื่องหมายถูกสีน้ำเงินปรากฏขึ้นเพื่อยืนยันว่าแชร์ข้อมูลแล้ว
เคล็ดลับ: หากคุณแชร์บัตรประจำตัวไม่ได้ ให้ทำดังนี้
- ลองถือโทรศัพท์ด้วยวิธีอื่น โดยให้เสาอากาศ NFC อยู่ใกล้กับด้านบนหรือด้านล่างของอุปกรณ์
- ถือโทรศัพท์เข้าไปใกล้เครื่องอ่านมากยิ่งขึ้น
- ถือโทรศัพท์ไว้ใกล้เครื่องอ่านแล้วค้างไว้ 2-3 วินาที
หากยังพบปัญหา โปรดใช้บัตรประจำตัวใบจริง
- เปิดแอป Google Wallet
- เลื่อนหาบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
- แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
- อนุญาตให้ตัวแทน TSA สแกนคิวอาร์โค้ดบนบัตรประจำตัวของคุณ
- ตรวจสอบข้อมูลที่จะแชร์
- แตะแชร์หากต้องการดำเนินการต่อ หรือแตะยกเลิกหากไม่ต้องการแชร์ข้อมูล
- Google Wallet จะขอให้คุณตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะดำเนินการต่อด้วย
- รอให้เครื่องหมายถูกสีน้ำเงินปรากฏขึ้นเพื่อยืนยันว่าแชร์ข้อมูลแล้ว
เคล็ดลับ: หากสแกนด้านหลังใบขับขี่ไม่ได้ ให้ลองทำดังนี้
- ถือบัตรให้นิ่งหรือวางบนพื้นผิวเรียบ
- สแกนบัตรในสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
- ตรวจสอบว่าคิวอาร์โค้ดมองเห็นได้ชัดเจน ซูมเข้าไปที่คิวอาร์โค้ดหากจำเป็น
แอปอื่นๆ
แอปบางแอป เช่น บริการรถเช่า จะยอมรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนดิจิทัลใน Google Wallet ในการยืนยันตัวตนและอายุ
หากแอปยอมรับบัตรประจำตัวดิจิทัลผ่าน Google Wallet ระบบจะถามว่าคุณต้องการใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลใน Google Wallet ในระหว่างกระบวนการยืนยันตัวตนของแอปไหม คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลที่จะแชร์กับแอปและยินยอมที่จะแชร์ก่อนที่จะมีการแชร์ข้อมูลของคุณ Google Wallet จะขอให้คุณตรวจสอบสิทธิ์ก่อนที่จะดำเนินการต่อด้วย
เคล็ดลับ: หากต้องการใช้บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ดิจิทัลกับแอปอื่นๆ ให้ทำตามขั้นตอนในแอปที่เชื่อมต่อ เนื่องจากขั้นตอนในแต่ละแอปจะแตกต่างกัน
นำบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ออก
สำคัญ: ระบบจะบันทึกใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาไว้ในอุปกรณ์ของคุณ โดยคุณสามารถบันทึกใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาลงในอุปกรณ์ได้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น
คุณสามารถนำบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ออกจาก Google Wallet ได้ในกรณีต่อไปนี้
- ต้องการเพิ่มใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวลงในโทรศัพท์เครื่องใหม่
- ต้องการส่งต่อหรือขายโทรศัพท์
- ต้องส่งโทรศัพท์ไปซ่อม
- โทรศัพท์สูญหายหรือถูกขโมย
คุณสามารถนำใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาออกได้โดยใช้แอป Google Wallet หรือทางออนไลน์ที่ myaccount.google.com
วิธีนำบัตรประจำตัวออกด้วยแอป Google Wallet มีดังนี้
- เปิดแอป Google Wallet
- เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
- แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
- ที่ด้านบนขวา ให้แตะเพิ่มเติม
นำออก
นำออก
วิธีนำบัตรประจำตัวออกทางออนไลน์จากระยะไกลมีดังนี้
- ไปที่ myaccount.google.com
- แตะข้อมูลส่วนบุคคล
- เลื่อนไปที่ "บัตรประจำตัว"
- แตะจัดการบัตรประจำตัว
- เลือกบัตรประจำตัวที่ต้องการนำออก
- แตะลบ
ข้างบัตรประจำตัว
- ยืนยันว่าคุณต้องการลบบัตรประจำตัวออกจากอุปกรณ์และบัญชี Google
แก้ปัญหาเกี่ยวกับบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
ผู้ออกบัตรปฏิเสธบัตรประจำตัวหากผู้ออกบัตรปฏิเสธบัตรประจำตัวของคุณในขั้นตอนการสมัคร โปรดอ่านวิธีการของผลิตภัณฑ์และเคล็ดลับความช่วยเหลือสำหรับการเพิ่มบัตรประจำตัว แล้วลองอีกครั้ง หากยังพบปัญหาอยู่และต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของผู้ออกบัตรประจำตัวของรัฐคุณ
ผู้ออกบัตรมีสิทธิลบบัตรประจำตัวของคุณได้ทุกเมื่อตามที่เห็นสมควร โปรดไปที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกของกระทรวงคมนาคม (Department of Transportation Motor Vehicle Administration) ของรัฐคุณเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุผลที่ลบบัตรดังกล่าว
แอปอาจแจ้งให้คุณทราบว่าผู้ออกบัตรประจำตัวต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประมวลผลใบสมัครสำหรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกา ในกรณีเหล่านี้ คุณต้องทำตามวิธีการในแอปเพื่อยืนยันตัวตนเพิ่มเติม
อุปกรณ์ของคุณจะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่ออัปเดตใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาให้เป็นปัจจุบันเสมอ หากคุณออฟไลน์ติดต่อกันนานกว่า 30 วัน ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาจะใช้งานไม่ได้จนกว่าอุปกรณ์จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกครั้ง
หากคุณย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่รองรับฟีเจอร์นี้ ให้ทำตามขั้นตอนการสร้างใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาใหม่อีกครั้งโดยอิงตามใบขับขี่ใหม่ของคุณ แต่หากคุณย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่รองรับฟีเจอร์นี้ ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาจะใช้งานไม่ได้เมื่อบัตรประจำตัวใบจริงใช้งานไม่ได้อีกต่อไป
หากโทรศัพท์สูญหาย คุณต้องทำตามวิธีการข้างต้นเพื่อนำบัตรประจำตัวออก
- ระบบจะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้เมื่อคุณเลือกดำเนินการสิ่งเหล่านี้เท่านั้น
- ดูตำแหน่งที่แชร์บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่ได้ในบันทึกกิจกรรมในแอป Google Wallet
- ระบบจะจัดเก็บบันทึกกิจกรรมไว้ในอุปกรณ์นี้เท่านั้นและจะมีเพียงคุณที่เข้าถึงได้
วิธีเปิดและดูข้อมูลบันทึกกิจกรรม
- เปิดแอป Google Wallet
- เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
- แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
- แตะเพิ่มเติม
ดูและจัดการกิจกรรม
- ยืนยันตัวตน
- เปิดประวัติกิจกรรม
วิธีส่งออกข้อมูลบันทึกกิจกรรม
- เปิดแอป Google Wallet
- เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
- แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
- แตะเพิ่มเติม
ดูและจัดการกิจกรรม
- ยืนยันตัวตน
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะดาวน์โหลด
วิธีปิดและลบข้อมูลบันทึกกิจกรรม
สำคัญ: เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว จะมีเพียงคุณเท่านั้นที่เห็นประวัติกิจกรรม หากคุณปิดประวัติกิจกรรม ระบบจะลบกิจกรรมทั้งหมดในบัตรประจำตัวออกจากอุปกรณ์นั้น
- เปิดแอป Google Wallet
- เลื่อนหา "บัตรประจำตัวหรือใบขับขี่"
- แตะบัตรประจำตัวหรือใบขับขี่
- แตะเพิ่มเติม
ดูและจัดการกิจกรรม
- ยืนยันตัวตน
- ปิดประวัติกิจกรรม
- แตะปิด
ความเป็นส่วนตัวสำหรับใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกา
เมื่อสมัครใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลใน Google Wallet บนโทรศัพท์ จะเป็นการให้ข้อมูลบางอย่างแก่เรา เช่น รูปภาพด้านหน้าและด้านหลังของบัตรประจำตัว รวมถึงวิดีโอสั้นๆ ที่บันทึกใบหน้าของคุณ
เมื่อได้รับความยินยอมจากคุณ เราจะแชร์ข้อมูลบัตรประจำตัวและรูปภาพใบหน้าของคุณจากวิดีโอกับหน่วยงานรัฐบาลที่ออกบัตรประจำตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำขอใช้บัตรประจำตัวดิจิทัล
เราจะส่งคำขอของคุณให้หน่วยงานรัฐบาลเมื่อได้รับความยินยอมจากคุณเท่านั้น
หน่วยงานดังกล่าวจะตรวจสอบข้อมูลของคุณ โดยระบบจะบันทึกใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาที่เข้ารหัสไว้ในอุปกรณ์หากการสมัครของคุณได้รับอนุมัติ คุณสามารถดูและจัดการบัตรดังกล่าวในอุปกรณ์ รวมถึงควบคุมได้ว่าจะแชร์บัตรประจำตัวเมื่อใด นอกจากนี้ เราจะบันทึกหลักฐานว่าคุณให้ความยินยอมไว้ด้วย
ใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวประชาชนของสหรัฐอเมริกาถือเป็นบัตรส่วนตัว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรส่วนตัว
ข้อมูลใดๆ รวมถึงข้อมูลที่ Google ใช้ในการวิเคราะห์จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google