หากต้องการชื่อมิติข้อมูลใน Google Analytics ที่ไม่ได้รวมอยู่ในมิติข้อมูลและเมตริก เริ่มต้น ให้คุณกำหนดมิติข้อมูลที่กำหนดเอง ได้ ใช้มิติข้อมูลที่กำหนดเองเพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ Analytics ไม่ได้บันทึกโดยอัตโนมัติ โดยคุณจะส่งค่าไปยังมิติข้อมูลที่กำหนดเองที่มีตัวแปรซึ่งดึงข้อมูลจากหน้าเว็บ หรือใช้ชั้นข้อมูลเพื่อส่งค่าที่เฉพาะเจาะจงได้
ใช้ตัวแปรของหน้าเว็บเพื่อตั้งค่าของมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
ถ้าคุณจำเป็นต้องเชื่อมโยงค่าจากรายการไปยังเซสชัน Google Analytics ให้ใช้ตัวแปรตารางตรวจสอบในเครื่องจัดการแท็ก
ขั้นตอนที่ 1: สร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
วิธีสร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเองใน Google Analytics
- เข้าสู่ระบบบัญชี Google Analytics
- ไปที่ผู้ดูแลระบบ
พร็อพเพอร์ตี้: คำจำกัดความที่กำหนดเอง
- คลิก +มิติข้อมูลที่กำหนดเองใหม่
- ระบุค่าของคุณเองให้กับช่องชื่อ และตั้งค่าเมนูขอบเขต เป็นค่าที่ต้องการ ตรวจสอบว่าเลือกทำงานอยู่
ตัวอย่างเช่น ตั้งค่าช่อง 'ชื่อ' เป็น 'จุดหมาย' และเมนูขอบเขตเป็น 'Hit' - คลิกสร้าง
- หมายเลขมิติข้อมูลจะอยู่ในโค้ดตัวอย่างที่แสดงในหน้า "มิติข้อมูลที่กำหนดเองที่สร้างขึ้น" บันทึกหมายเลขมิติข้อมูล ในตัวอย่างนี้ หมายเลขดัชนีของมิติข้อมูลคือ 6
JavaScript:
var dimensionValue = 'SOME_DIMENSION_VALUE';
ga('set', 'dimension6', dimensionValue);
Android SDK:
String dimensionValue = "SOME_DIMENSION_VALUE";
tracker.set(Fields.customDimension(6), dimensionValue);
iOS SDK:
NSString *dimensionValue = @"SOME_DIMENSION_VALUE";
[tracker set:[GAIFields customDimensionForIndex:6] value:dimensionValue];
พร็อพเพอร์ตี้: คำจำกัดความที่กำหนดเอง มิติข้อมูลที่กำหนดเองขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าตัวแปร Tag Manager เพื่อบันทึกมูลค่าหน้าเว็บ
ขั้นตอนถัดไปคือการตั้งค่าตัวแปรเครื่องจัดการแท็กซึ่งจะบันทึกค่าจากหน้าเว็บซึ่งใช้เพื่อเติมค่าของช่องมิติข้อมูลที่กำหนดเองได้ ค่าที่คุณกำหนดเป้าหมายอาจมาจากแหล่งที่มาที่แตกต่างกันไป โดยอาจเป็นรหัสองค์ประกอบในหน้าเว็บ ค่าที่สร้างขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ (เช่น เหตุการณ์ตัวจับเวลา) หรือข้อความที่พบใน URL
สำหรับตัวอย่างนี้ ค่าที่จำเป็นจะพบเป็นส่วนย่อยอยู่ใน URL ของหน้าเว็บ โดยเป็นสตริงข้อความที่แสดงขึ้นหลังสัญลักษณ์แฮช (#) ที่ส่วนท้าย URL เช่น
- https://www.example.com/destinations/#paris
- https://www.example.com/destinations/#newyork
- https://www.example.com/destinations/#tokyo
เครื่องจัดการแท็กจะบันทึกค่าส่วนย่อย URL ได้ นำค่าเหล่านั้นไปใส่ไว้ในตัวแปร จากนั้นใช้ตัวแปรนั้นเพื่อระบุค่าให้กับมิติข้อมูลที่กำหนดเองซึ่งเราต้องการใช้งาน
- คลิกตัวแปรในเครื่องจัดการแท็ก
- ในส่วนตัวแปรที่กำหนดโดยผู้ใช้ ให้คลิกใหม่
- คลิกการกําหนดค่าตัวแปร และเลือก URL เป็นประเภทตัวแปร
- ในหน้าการกำหนดค่าตัวแปร ให้ตั้งค่าประเภทคอมโพเนนต์เป็นส่วนย่อย
- ตั้งชื่อตัวแปร เช่น "ตัวแปรส่วนย่อย URL"
- คลิกบันทึก
ขั้นตอนที่ 3: เปิดใช้มิติข้อมูลที่กำหนดเองในแท็ก Universal Analytics
ขั้นตอนสุดท้ายคือการเปิดใช้มิติข้อมูลที่กำหนดเองในตัวแปรการตั้งค่า Google Analytics ดังนี้
- คลิกตัวแปร แล้วเลือกตัวแปรการตั้งค่า Google Analytics
- เปิดแท็กเพื่อแก้ไข และไปที่การตั้งค่าเพิ่มเติม
- คลิก +เพิ่มมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
- ป้อนค่าดัชนีที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1
- สำหรับค่ามิติข้อมูล ให้ใช้ไอคอนตัวเลือกตัวแปร
เพื่อเลือกชื่อของตัวแปรที่คุณสร้างไว้ในขั้นตอนที่ 2
- คลิกบันทึก
เพื่อเลือกชื่อของตัวแปรที่คุณสร้างไว้ในตั้งค่ามิติข้อมูลที่กำหนดเองจากชั้นข้อมูล
ชั้นข้อมูลเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับประกันผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอในรายงาน เนื่องจากคุณจะคงการควบคุมค่าที่ส่งผ่านไปยังแท็กได้อย่างเต็มรูปแบบ ในตัวอย่างนี้ เราจะใช้ dataLayer.push() ในเว็บไซต์เพื่อเพิ่มค่าจุดหมายลงในชั้นข้อมูลเมื่อมีการคลิกปุ่ม
จองทริปไปปารีส!
</button>
หากต้องการใช้ Tag Manager เพื่อส่งค่านี้ไปให้ Google Analytics เป็นมิติข้อมูลที่กำหนดเอง ให้ใช้ตัวแปรชั้นข้อมูล จากนั้นใช้มิติข้อมูลที่กำหนดเองกับแท็ก Google Analytics ที่เหมาะสมซึ่งใช้งานอยู่ในเว็บไซต์อยู่แล้ว
ขั้นตอนที่ 1: สร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
วิธีสร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเองใน Google Analytics
- เข้าสู่ระบบบัญชี Google Analytics
- ไปที่ผู้ดูแลระบบ
- คลิก +มิติข้อมูลที่กำหนดเองใหม่
- ระบุค่าของคุณเองให้กับช่องชื่อ และตั้งค่าเมนูขอบเขต เป็นค่าที่ต้องการ ตรวจสอบว่าเลือกทำงานอยู่
ตัวอย่างเช่น ตั้งค่าช่อง 'ชื่อ' เป็น 'จุดหมาย' และเมนูขอบเขตเป็น 'Hit' - คลิกสร้าง
- หมายเลขมิติข้อมูลจะอยู่ในโค้ดตัวอย่างที่แสดงในหน้า "มิติข้อมูลที่กำหนดเองที่สร้างขึ้น" บันทึกหมายเลขมิติข้อมูล ในตัวอย่างนี้ หมายเลขดัชนีของมิติข้อมูลคือ 6
JavaScript:
var dimensionValue = 'SOME_DIMENSION_VALUE';
ga('set', 'dimension6', dimensionValue);
Android SDK:
String dimensionValue = "SOME_DIMENSION_VALUE";
tracker.set(Fields.customDimension(6), dimensionValue);
iOS SDK:
NSString *dimensionValue = @"SOME_DIMENSION_VALUE";
[tracker set:[GAIFields customDimensionForIndex:6] value:dimensionValue];
ขั้นตอนที่ 2: สร้างตัวแปรชั้นข้อมูล
ขั้นตอนถัดไปคือการสร้างตัวแปรซึ่งจะบันทึกค่าชั้นข้อมูลที่ถูกต้อง
- คลิกตัวแปรในเครื่องจัดการแท็ก
- ในส่วนตัวแปรที่กำหนดโดยผู้ใช้ ให้คลิกใหม่
- เลือกตัวแปรชั้นข้อมูลสำหรับประเภทตัวแปร
- ตั้งค่าช่องข้อความชื่อตัวแปรชั้นข้อมูลเป็นจุดหมาย
- ตั้งชื่อตัวแปร เช่น "ตัวแปรชั้นข้อมูลจุดหมาย"
- คลิกบันทึก
ขั้นตอนที่ 3: เปิดใช้มิติข้อมูลที่กำหนดเองในแท็ก Universal Analytics
การตั้งค่าขั้นตอนสุดท้ายคือการเปิดใช้มิติข้อมูลที่กำหนดเองในตัวแปรการตั้งค่า Google Analytics โดยทำดังนี้
- คลิกตัวแปร แล้วคลิกตัวแปรการตั้งค่า Google Analytics
- คลิกการกำหนดค่าตัวแปร
- คลิกการตั้งค่าเพิ่มเติม
- คลิก +เพิ่มมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
- ป้อนค่าดัชนีที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1
- สำหรับค่ามิติข้อมูล ให้ป้อนชื่อของตัวแปรที่คุณสร้างไว้ในขั้นตอนที่ 2
- คลิกบันทึก
- นำคอนเทนเนอร์ไปใช้จริงเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล