กําหนดการตั้งค่าแท็ก Google

แท็ก Google ช่วยให้คุณส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ไปยังปลายทางซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ Google ที่เชื่อมต่อไว้ได้ เพื่อช่วยวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์และโฆษณา หลังจากที่คุณวางแท็ก Google ในเว็บไซต์แล้ว แท็ก Google ก็จะช่วยให้คุณส่งข้อมูลไปยังปลายทางผลิตภัณฑ์ของ Google ที่ลิงก์ไว้ได้ เช่น Google Ads และ Google Analytics คุณสามารถใช้การติดตั้งแท็ก Google รายการเดียวกับผลิตภัณฑ์และบัญชีทั้งหมดได้

ก่อนกําหนดการตั้งค่าแท็ก Google โปรดตรวจสอบว่าคุณได้ตั้งค่าแท็ก Google ในเว็บไซต์ทุกหน้าแล้ว

บทความนี้อธิบายวิธีกําหนดการตั้งค่าแท็ก Google นอกจากนี้ คุณยังจัดการแท็ก Google ได้ด้วยการแก้ไขชื่อแท็ก Google, การรวมแท็ก Google, การเพิ่มหรือนําปลายทางออก

เปิดการตั้งค่าแท็ก Google

วิธีการของ Google Ads

วิธีเข้าถึงการตั้งค่าแท็ก Google จากบัญชี Google Ads

1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ
2. คลิก Data Manager
3. คลิกจัดการในส่วน "แท็ก Google"

วิธีการของ Google Analytics

1. ในบัญชี Google Analytics ให้ไปที่หน้าจอผู้ดูแลระบบ
2. ใน สตรีมข้อมูล ให้คลิกสตรีมที่ต้องการเพื่อดูรายละเอียด
   ผลลัพธ์: หน้าจอควรแสดงการตั้งค่า Google Analytics และการตั้งค่าแท็ก Google
   

วิธีการสำหรับ Campaign Manager 360

1. Open Campaign Manager 360.
2. Under “Floodlight”, click Google Tag to edit the Google tag settings.

วิธีการสำหรับ Google Tag Manager

หมายเหตุ: หากต้องการดูรหัสแท็ก Google ใน Google Tag Manager คุณต้องจัดการแท็ก Google Ads, แท็ก Analytics หรือแท็ก Google ในคอนเทนเนอร์

1. ในบัญชี Google Tag Manager ให้คลิกแท็บแท็ก Google เพื่อดูแท็ก Google ที่ตั้งค่าไว้ก่อนหน้านี้
   
2. คลิกชื่อแท็กเพื่อแก้ไขการตั้งค่าแท็ก Google

กําหนดการตั้งค่าแท็ก Google

เมื่อคุณอยู่ในการตั้งค่าแท็ก Google ให้คลิกแสดงทั้งหมด เพื่อตรวจสอบการตั้งค่าที่ใช้ได้ทั้งหมด

หมายเหตุ: การตั้งค่าแท็กส่งผลต่อลักษณะการทํางานของแท็ก Google และข้อมูลที่ส่งไปยังปลายทางที่กําหนดค่าไว้ การตั้งค่าบางอย่างอาจมีความเกี่ยวข้องมากกว่าหรือน้อยกว่าตามผลิตภัณฑ์ที่ใช้
คุณอาจเลือกกําหนดการตั้งค่าที่มีความเกี่ยวข้องน้อยกับการใช้แท็ก Google ในปัจจุบัน เมื่อคุณเพิ่มปลายทางผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเมื่อความสามารถของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลง การตั้งค่าจะมีผล

การตั้งค่า	คำอธิบาย	เกี่ยวข้องกับ Google Analytics	เกี่ยวข้องกับ Google Ads	เกี่ยวข้องกับ Campaign Manager 360
จัดการการตรวจหาเหตุการณ์อัตโนมัติ	กำหนดค่าประเภทเหตุการณ์ที่แท็ก Google ควรตรวจหาโดยอัตโนมัติสำหรับการวัดในปลายทางที่เชื่อมโยง	ใช่	ใช่	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง
กำหนดค่าโดเมน	ระบุรายการโดเมนที่จะวัดผลแบบข้ามโดเมน	ใช่	ใช่	ใช่
อนุญาตให้ใช้ความสามารถของข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้	กําหนดค่าว่าแท็ก Google ควรรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ไว้ในการวัดสําหรับผลิตภัณฑ์ปลายทางที่ยอมรับข้อมูลดังกล่าวหรือไม่	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง	ใช่	ใช่
กำหนดการเข้าชมภายใน	กำหนดที่อยู่ IP ที่ควรระบุว่าการเข้าชมมาจากภายใน	ใช่	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง
ระบุการอ้างอิงที่ไม่ต้องการ	ระบุโดเมนที่ไม่นับการเข้าชมเป็นการอ้างอิง	ใช่	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง
ปรับระยะหมดเวลาของเซสชัน	กำหนดระยะเวลาของเซสชัน	ใช่	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง
ลบล้างการตั้งค่าคุกกี้	เปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานและการอัปเดตคุกกี้	ใช่	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง	ปัจจุบันไม่เกี่ยวข้อง
ตั้งค่าการลบล้างโหมดความยินยอม	ลบล้างการตั้งค่าความยินยอมเริ่มต้นในโค้ดของเว็บไซต์ แล้วตั้งค่าเริ่มต้นเป็น "ปฏิเสธ" แทนสำหรับทุกภูมิภาคที่คุณเลือก	ใช่	ใช่	ใช่
จัดการการตั้งค่าความยินยอมเริ่มต้น	ระบุว่าคุณได้รับความยินยอมจากผู้ใช้สำหรับข้อมูลที่ส่งไปยัง Google หรือไม่	ใช่	ใช่	ใช่
จัดการการใช้ข้อมูลในบริการของ Google	เลือกบริการของ Google ที่สามารถรับข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ปลายทางในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) เพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณา	ใช่	ใช่	ใช่

กําหนดการตั้งค่าแท็ก Google

จัดการการตรวจหาเหตุการณ์อัตโนมัติ

เลือกประเภทเหตุการณ์ที่แท็ก Google ควรตรวจพบโดยอัตโนมัติสำหรับการวัดในปลายทางที่เชื่อมโยง เหตุการณ์ทุกประเภทจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น

หากปิดการตรวจหาเหตุการณ์อัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์หรือบัญชีที่ใช้แท็ก Google นี้จะไม่รับข้อมูลที่เชื่อมโยง คุณอาจต้องพิจารณาปิดการรวบรวมเหตุการณ์เหล่านี้ในปลายทางแทน

เหตุการณ์ทุกประเภทจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น คลิกสวิตช์เพื่อปิดเหตุการณ์ประเภทต่อไปนี้

• การดูหน้าเว็บ: ตรวจหาเหตุการณ์การดูหน้าเว็บทุกครั้งที่โหลดหน้าเว็บ คุณปิดใช้เหตุการณ์ประเภทนี้ไม่ได้
• การดูหน้าเว็บเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์: ตรวจหาเหตุการณ์การดูหน้าเว็บทุกครั้งที่เว็บไซต์เปลี่ยนสถานะประวัติการใช้งานเบราว์เซอร์ การตั้งค่านี้มีประโยชน์ในการตรวจหาการดูหน้าเว็บในแอปพลิเคชันหน้าเว็บเดียว
• การเลื่อน: ตรวจหาเหตุการณ์การเลื่อนทุกครั้งที่ผู้เข้าชมไปถึงท้ายหน้า
• การคลิกขาออก: ตรวจหากิจกรรมการคลิกขาออกทุกครั้งที่ผู้เข้าชมคลิกลิงก์ที่พาออกจากโดเมนของคุณ โดยค่าเริ่มต้น กิจกรรมการคลิกขาออกจะเกิดขี้นกับทุกลิงก์ที่นำออกไปจากโดเมนปัจจุบัน ลิงก์ไปยังโดเมนที่กําหนดค่าไว้สําหรับการวัดผลแบบข้ามโดเมน (ในการตั้งค่า "กําหนดค่าโดเมน") จะไม่ทำให้เกิดกิจกรรมการคลิกขาออก
• การโต้ตอบกับแบบฟอร์ม: ตรวจหาเหตุการณ์การโต้ตอบกับแบบฟอร์มหรือการส่งแบบฟอร์มทุกครั้งที่ผู้เข้าชมโต้ตอบกับแบบฟอร์มในเว็บไซต์
• การมีส่วนร่วมกับวิดีโอ: ตรวจหาเหตุการณ์การเล่นวิดีโอ ความคืบหน้าของวิดีโอ และการเล่นวิดีโอจนจบเมื่อผู้เข้าชมดูวิดีโอที่ฝังอยู่ในเว็บไซต์ โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะตรวจหาเหตุการณ์วิดีโอโดยอัตโนมัติสําหรับวิดีโอ YouTube ที่ฝังอยู่ในเว็บไซต์ซึ่งเปิดใช้การรองรับ JS API ไว้
• การดาวน์โหลดไฟล์: ตรวจหาเหตุการณ์การดาวน์โหลดไฟล์ทุกครั้งที่มีการคลิกลิงก์ซึ่งเปิดเอกสาร ไฟล์บีบอัด แอปพลิเคชัน วิดีโอ หรือชิ้นงานเสียงทั่วไป

กำหนดค่าโดเมน

ระบุโดเมนทั้งหมดที่ใช้แท็กนี้ รายการนี้ช่วยให้สามารถวัดผลแบบข้ามโดเมน และระบุเพิ่มเติมว่าลิงก์ใดในเว็บไซต์ที่ไม่ทำให้เกิดกิจกรรมการคลิกขาออกเมื่อใช้การตรวจหาเหตุการณ์อัตโนมัติ

1. หากคุณใช้แท็ก Google เดียวกันข้ามโดเมน ระบบจะตรวจพบโดยอัตโนมัติและแสดงในส่วน "คําแนะนํา" หากต้องการยอมรับคําแนะนํา ให้คลิกเพิ่ม
   หากต้องการเพิ่มโดเมนด้วยตนเอง ให้คลิกเพิ่มเงื่อนไขในส่วน "รวมโดเมนที่ตรงกับเงื่อนไขต่อไปนี้"
   • เลือกประเภทการจับคู่
   • ป้อนตัวระบุสําหรับโดเมนที่ต้องการจับคู่ (เช่น example.com) ในส่วน "โดเมน"
   • เพิ่มแต่ละโดเมนที่คุณต้องการรวมไว้ในการวัดผลแบบข้ามโดเมน
2. เมื่อระบุโดเมนทั้งหมดที่ใช้แท็กนี้แล้ว ให้คลิกบันทึก

การเปลี่ยนแปลงที่ทําที่นี่อาจส่งผลต่อแท็ก Google อื่นๆ ที่โหลดในหน้าเดียวกัน

ยืนยันว่าการวัดผลแบบข้ามโดเมนทํางานได้อย่างถูกต้อง

การวัดผลแบบข้ามโดเมนทํางานได้โดยการเพิ่มพารามิเตอร์ต่อท้าย URL ในเว็บไซต์ ในบางกรณีที่พบไม่บ่อยนัก เว็บเซิร์ฟเวอร์อาจพบข้อผิดพลาด เช่น การส่งคืนโค้ดตอบกลับข้อผิดพลาด 5xx หรือเริ่มต้นการดาวน์โหลดไม่สําเร็จ

วิธียืนยันว่าการวัดผลแบบข้ามโดเมนทํางาน

1. เปิดหน้าของเว็บไซต์ที่มีลิงก์หรือแบบฟอร์มที่ชี้ไปยังโดเมนที่คุณกําหนดค่าไว้สําหรับการวัดผลแบบข้ามโดเมน
2. คลิกลิงก์หรือส่งแบบฟอร์มเพื่อไปยังโดเมนปลายทาง
3. ยืนยันว่าโหลดหน้าเว็บได้อย่างถูกต้อง
4. ยืนยันว่า URL ในโดเมนปลายทางมีพารามิเตอร์ Linker _gl เช่น https://www.example.com/?_gl=1*abcde5*
5. หากเว็บไซต์ของคุณมีการดาวน์โหลด ให้ไปที่หน้าเว็บที่มีพารามิเตอร์การลิงก์ใน URL และเริ่มการดาวน์โหลด ยืนยันว่าการดาวน์โหลดเริ่มต้นขึ้นเรียบร้อยแล้ว

หากพบข้อผิดพลาด ให้ลองการแก้ปัญหาการวัดผลแบบข้ามโดเมน

อนุญาตให้ใช้ความสามารถของข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้

ข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้จะช่วยปรับปรุงการวัดผลและให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม Google จะใช้ข้อมูลที่คุณแชร์เพื่อให้บริการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนด้านเทคนิคแก่คุณเท่านั้น Google จะไม่แชร์ข้อมูลของคุณกับผู้อื่น

ข้อกําหนดของผลิตภัณฑ์ปลายทาง

ผลิตภัณฑ์ปลายทางจะไม่รวบรวมข้อมูลหากข้อมูลดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตตามข้อกําหนดในการให้บริการของผลิตภัณฑ์นั้น หรือหากผู้ใช้ไม่ยอมรับข้อกําหนดที่จำเป็นสําหรับการรวบรวมข้อมูลจากฟีเจอร์นี้

• Google Ads: ข้อกำหนดการประมวลผลข้อมูลโฆษณาใน Google
• Google Analytics: ข้อกำหนดการประมวลผลข้อมูลของ Google Analytics
• Campaign Manager 360: วิธีที่ Google ใช้ข้อมูลผลิตภัณฑ์โฆษณาของ Google Marketing Platform

การกำหนดค่า

1. หากต้องการควบคุมว่าผลิตภัณฑ์ปลายทางจะรับข้อมูลจากฟีเจอร์นี้ได้หรือไม่ ให้เปิดหรือปิดใช้ตัวเลือก "อนุญาตความสามารถของข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้" หมายเหตุ: หากเลือกปิด "ข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้" ผลิตภัณฑ์หรือบัญชีที่ใช้แท็ก Google นั้นจะไม่รับข้อมูลจากฟีเจอร์นี้
2. เลือกวิธีที่ต้องการรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ ระบบจะแฮชข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว แล้วส่งไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์ปลายทางซึ่งกําหนดค่าให้รับข้อมูลนั้นพร้อมกับข้อมูลเหตุการณ์อื่นๆ คุณสามารถเปิดใช้ตัวเลือกการกําหนดค่าอย่างน้อย 1 รายการได้ดังนี้
   1. การตรวจหาอัตโนมัติ: ตรวจสอบหน้าเว็บโดยอัตโนมัติเพื่อหาสตริงที่ตรงกับรูปแบบของอีเมล
   2. ตัวเลือก CSS และตัวแปร: ระบุตัวเลือก CSS หรือตัวแปร JavaScript ในหน้าเว็บ
   3. ทำด้วยตัวเองผ่านโค้ด: แก้ไขแท็ก Google เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ระดับบัญชี โปรดดูการตั้งค่า Conversion ที่ปรับปรุงแล้วโดยใช้แท็ก Google
3. คลิกบันทึก

หมายเหตุ: การใช้แท็กนี้เป็นไปตามข้อกําหนดซึ่งควบคุมการบริการที่นํามาใช้

กำหนดการเข้าชมภายใน

กำหนดที่อยู่ IP ที่ควรทําเครื่องหมายการเข้าชมโดยใช้ตัวระบุประเภทการเข้าชมที่กําหนดเอง การเข้าชมขาเข้าจากที่อยู่ IP ที่ตรงกันจะมีพารามิเตอร์ traffic_type ซึ่งต่อท้ายด้วยค่าที่เลือก

เคล็ดลับ: ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ในการทําเครื่องหมายการเข้าชมภายในร่วมกับการตั้งค่าในผลิตภัณฑ์ปลายทาง เช่น การกรองข้อมูลใน Google Analytics

1. คลิกสร้าง
2. ที่มุมขวาบน ให้เลือกไอคอนดินสอ เพื่อแก้ไขการกําหนดค่า
3. ในส่วน "ชื่อกฎ" ให้ตั้งชื่อที่สื่อความหมาย
4. ในส่วน "traffic_type" ให้เลือกชื่อพารามิเตอร์ traffic_type ซึ่งค่าเริ่มต้นคือ "internal"
5. ในส่วน "ที่อยู่ IP" ให้เลือกประเภทการจับคู่แล้วป้อนค่า หากไม่ทราบที่อยู่ IP ให้คลิกที่อยู่ IP ของฉันคืออะไร สามารถจับคู่ได้ทั้งที่อยู่ IPv4 และ IPv6 และระบุช่วงที่อยู่ IP โดยใช้รูปแบบ CIDR ได้ เช่น 192.0.2.0/24 หรือ 2001:db8::/32 ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบ CIDR
6. ใช้ค่าที่ไม่ซ้ำกันเพื่อช่วยแยกความแตกต่างและกรองการเข้าชมชุดต่างๆ
7. คลิกเพิ่มเงื่อนไข
8. คลิกสร้าง

ระบุการอ้างอิงที่ไม่ต้องการ

ระบุโดเมนที่ไม่นับการเข้าชมเป็นการอ้างอิง ฟีเจอร์นี้จะเพิ่มพารามิเตอร์ ignore_referrer ต่อท้ายเหตุการณ์ในหน้าเว็บซึ่งแหล่งที่มาของการเข้าชมตรงกับโดเมนที่ระบุ

เคล็ดลับ: ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ในการระบุการเข้าชมจากการอ้างอิงที่คุณไม่ต้องการให้ส่งผลต่อการวัดผลในผลิตภัณฑ์ปลายทาง (เช่น การละเว้นการอ้างอิงที่ไม่ต้องการใน Google Analytics)

1. เลือกละเว้นการอ้างอิงที่ตรงกับเงื่อนไขใดๆ ต่อไปนี้เป็นแหล่งที่มาของการเข้าชม คุณเลือกประเภทการจับคู่ต่อไปนี้ได้
   1. มี
   2. ขึ้นต้นด้วย
   3. ลงท้ายด้วย
   4. ตรงทุกประการกับ
   5. ตรงกับนิพจน์ทั่วไป
2. คลิกเพิ่มเงื่อนไข
3. คลิกสร้าง

ปรับระยะหมดเวลาของเซสชัน

ผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Google Analytics 4 ที่ได้รับข้อมูลจากแท็ก Google จะใช้เซสชันเพื่อวัดระยะเวลาที่ผู้ใช้ทำกิจกรรมในเว็บไซต์ซึ่งติดตั้งแท็กไว้ ใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อเปลี่ยนระยะเวลาของเซสชันโดยการปรับระยะเวลาก่อนที่เซสชันจะหมดอายุเนื่องจากไม่มีการใช้งาน หรือกลายเป็นเซสชันที่มีส่วนร่วม

1. ปรับระยะหมดเวลาของเซสชันโดยเลือกชั่วโมงและนาที เซสชันจะเริ่มต้นเมื่อมีการเปิดหน้าเว็บ เซสชันจะสิ้นสุดลงหลังจากผู้ใช้ไม่มีการใช้งานเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระยะหมดเวลาตามค่าเริ่มต้นคือ 30 นาที แต่สามารถปรับได้ที่นี่
2. ปรับตัวจับเวลาสําหรับเซสชันที่มีส่วนร่วมโดยเลือกจํานวนวินาที เซสชันจะกลายเป็น "เซสชันที่มีส่วนร่วม" เมื่อมีระยะเวลานานกว่าระยะเวลาหนึ่งๆ เกณฑ์เวลาในการมีส่วนร่วมตามค่าเริ่มต้นคือ 10 วินาที แต่สามารถปรับได้ที่นี่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซสชัน Analytics
3. คลิกบันทึก

ลบล้างการตั้งค่าคุกกี้

เปลี่ยนแปลงอายุการใช้งานและการอัปเดตคุกกี้ คุณลบล้างการตั้งค่าคุกกี้ของบุคคลที่หนึ่งของ Google ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุกกี้และการระบุตัวตนของผู้ใช้

แท็ก Google ใช้คุกกี้ของบุคคลที่หนึ่งเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย คุกกี้เหล่านี้มีการตั้งค่าเริ่มต้นเกี่ยวกับเวลาหมดอายุและการอัปเดตอยู่แล้ว แต่คุณปรับแต่งเพื่อลบล้างการตั้งค่านี้ได้

1. คลิกช่องทําเครื่องหมายเพื่อลบล้างการตั้งค่าเริ่มต้นเกี่ยวกับเวลาหมดอายุและการอัปเดตของคุกกี้ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิเคราะห์
2. กำหนดระยะเวลาก่อนที่คุกกี้ข้อมูลวิเคราะห์จะหมดอายุ เวลาหมดอายุของคุกกี้จะเป็นเวลาปัจจุบันเมื่อมีการตั้งค่าหรืออัปเดตคุกกี้ บวกกับค่าของช่องนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหมดอายุของคุกกี้
3. ในส่วน "การอัปเดตคุกกี้" ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
   1. กําหนดเวลาหมดอายุของคุกกี้โดยสัมพันธ์กับการเข้าชมครั้งล่าสุด: โดยค่าเริ่มต้น ทุกครั้งที่ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ แท็ก Google จะอัปเดตวันที่หมดอายุของคุกกี้ที่เชื่อมโยง ซึ่งจะยืดอายุการทำงานของคุกกี้โดยสัมพันธ์กับการเข้าชมครั้งล่าสุดของผู้ใช้
   2. กําหนดเวลาหมดอายุของคุกกี้โดยสัมพันธ์กับการเข้าชมครั้งแรก: คุณสามารถเลือกกําหนดเวลาหมดอายุของคุกกี้โดยสัมพันธ์กับการเข้าชมครั้งแรกของผู้ใช้ ในกรณีนี้การกําหนดเวลาหมดอายุจะทำครั้งเดียวและไม่มีการอัปเดต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเดตคุกกี้
4. คลิกบันทึก

ตั้งค่าการลบล้างโหมดความยินยอม

การตั้งค่า "ตั้งค่าการลบล้างโหมดความยินยอม" จะลบล้างการตั้งค่าความยินยอมเริ่มต้นในโค้ดของเว็บไซต์ และตั้งค่าเริ่มต้นเป็น "ปฏิเสธ" แทนสำหรับทุกภูมิภาคที่คุณเลือก หลังจากได้รับสัญญาณความยินยอมแล้ว ระบบจะอัปเดตการตั้งค่าความยินยอมเป็นตัวเลือกความยินยอมของผู้ใช้

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณตั้งค่าความยินยอมเริ่มต้นเป็น "ปฏิเสธ" ในโค้ดของเว็บไซต์เฉพาะสำหรับฝรั่งเศส แล้วตั้งค่าการลบล้างโหมดความยินยอมเป็น "ปฏิเสธ" เฉพาะสำหรับเยอรมนี การตั้งค่านี้จะลบล้างคําสั่งเริ่มต้นทั้งหมดที่ตั้งไว้ในโค้ดของเว็บไซต์ และตั้งค่าคําสั่งเริ่มต้นเป็น "ปฏิเสธ" สําหรับเยอรมนีเท่านั้น

การตั้งค่านี้มีประโยชน์เมื่อตั้งค่าโหมดความยินยอมผ่านพาร์ทเนอร์ CMP ที่ผสานรวมของ Google เพื่อให้ค่าเริ่มต้นของความยินยอมเป็น "ปฏิเสธ" ในภูมิภาคที่คุณต้องการลักษณะการทำงานนี้ นอกจากนี้ ยังช่วยในกรณีที่คุณพบปัญหาในการทำให้คําสั่งความยินยอมเริ่มต้นที่มีอยู่มีผลก่อนแท็ก Google จะโหลด เช่น เมื่อเครื่องมือสร้างเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มการจัดการเนื้อหาไม่อนุญาตให้ระบุลําดับการโหลดปลั๊กอินแต่ละรายการ ในกรณีนี้ การตั้งค่านี้สามารถใช้เพื่อทำให้การตั้งค่าเริ่มต้นที่มีผลกับแท็กที่กําลังกําหนดค่ามีความแน่นอน

หากต้องการใช้การตั้งค่านี้ คุณต้องตั้งค่า "จัดการการตั้งค่าความยินยอมเริ่มต้น" เป็น "ไม่ ไม่ต้องทำเครื่องหมายข้อมูลนี้โดยอัตโนมัติว่าได้รับความยินยอม"

การตั้งค่านี้มีผลกับแท็กที่กำหนดค่าเท่านั้น คุณจึงต้องกำหนดค่าสำหรับแท็ก Google แต่ละรายการในเว็บไซต์

จัดการการตั้งค่าความยินยอมเริ่มต้น

การขอความยินยอมจากผู้ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นส่วนสำคัญของการวัดผล ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการความยินยอมของผู้ใช้

การตั้งค่าเหล่านี้มีไว้สำหรับใคร

การตั้งค่าแท็ก Google นี้ช่วยให้คุณตั้งค่าความยินยอมเริ่มต้นได้ในกรณีต่อไปนี้

• คุณไม่ได้ใช้โหมดความยินยอม
• คุณป้องกันไม่ให้แท็ก Google โหลดจนกว่าผู้ใช้จะโต้ตอบกับแบนเนอร์แสดงความยินยอมให้ใช้คุกกี้ทางการตลาด

หากคุณใช้โหมดความยินยอมอยู่แล้ว ระบบจะไม่ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นของแท็ก Google กับแท็กของคุณ แต่ให้ทำดังนี้

• หากใช้โหมดความยินยอมและไม่ได้แสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ
• หากใช้โหมดความยินยอมและต้องอาศัยความสามารถในการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ ให้ใช้โหมดความยินยอมเวอร์ชัน 2

ตั้งสถานะความยินยอมเริ่มต้น

• หากเว็บไซต์หรือแอปทำงานโดยไม่ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดด้านความยินยอมของผู้ใช้ (เช่น คุณไม่ได้ใช้โหมดความยินยอม) หรือหากคุณใช้โหมดความยินยอมอยู่แล้ว ให้เลือกไม่ ไม่ต้องทำเครื่องหมายข้อมูลนี้โดยอัตโนมัติว่าได้รับความยินยอม
• หากคุณกำหนดไม่ให้แท็กโหลดจนกว่าผู้ใช้จะให้ความยินยอม ข้อมูลทั้งหมดที่ส่งไปยัง Google จะได้รับความยินยอม การเลือกใช่ ทำเครื่องหมายข้อมูลนี้โดยอัตโนมัติว่าได้รับความยินยอม เป็นการยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดที่ส่งไปยัง Google เป็นการประกาศความยินยอมและควรติดป้ายกำกับว่าได้รับความยินยอม

หากอัปโหลดข้อมูลจากแหล่งที่มาอื่นๆ ไปยัง Google คุณจะต้องติดป้ายกำกับข้อมูลดังกล่าวโดยได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ด้วย

จัดการการใช้ข้อมูลในบริการของ Google

คุณเลือกได้ว่าจะให้บริการใดของ Google รับข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ โปรดตรวจสอบว่าบริการทั้งหมดของ Google ได้รับข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้เพื่อให้การวัดผลมีประสิทธิภาพสูงสุด คุณสามารถตรวจสอบว่าบริการใดของ Google กำลังรับข้อมูลจาก EEA ได้ในส่วนนี้

หากธุรกิจกำหนดให้คุณจำกัดการแชร์ข้อมูลในบริการของ Google ให้เลือกเลือกบริการของ Google เลือกบริการทั้งหมดของ Google ที่ได้รับอนุญาตให้รับข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้สําหรับการวัดผลและการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้

ตรวจสอบว่าคุณได้ประกาศในแบนเนอร์แสดงความยินยอมให้ใช้คุกกี้ทางการตลาดว่าบริการของ Google รายการใดที่จะได้รับข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้

เมื่อกําหนดการตั้งค่าแท็ก Google แล้ว คุณจะจัดการแท็ก Google ได้จากแท็บ "ผู้ดูแลระบบ"

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

• เกี่ยวกับแท็ก Google
• ตั้งค่าแท็ก Google
• การจัดการแท็ก Google