บัญชี Ad Grants ที่ใช้ AdWords จะต้องมีอัตราการคลิกผ่าน (CTR) 5% ในแต่ละเดือนเพื่อให้มีสิทธิ์อยู่ในโปรแกรม CTR เป็นสัญญาณที่ดีว่าผู้ใช้เห็นว่าโฆษณามีประโยชน์และเกี่ยวข้อง
หากต้องการตรวจสอบ CTR ของบัญชี ให้เริ่มจากการเลือกประสบการณ์การใช้งาน AdWords ที่คุณใช้อยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ของ AdWords
- ไปที่แท็บ “โฆษณาและส่วนขยาย”
- เลือกช่วงวันที่เป็นเดือนที่แล้ว
- เลื่อนลงมาที่ด้านล่างในหน้าของโฆษณาตรงแถวสีเทา “ทั้งหมด: บัญชี” และตรวจสอบเมตริกสำหรับคอลัมน์ CTR นี่คือเมตริก CTR ของบัญชี
- หากไม่เห็นคอลัมน์ “CTR” ให้เลือกปุ่มแก้ไขคอลัมน์ แล้วเลือก “ประสิทธิภาพ” และ “CTR” เพื่อเพิ่มคอลัมน์
ประสบการณ์การใช้งานแบบเดิมของ AdWords
- ไปที่แท็บ “โฆษณา”
- เลือกช่วงวันที่เป็นเดือนที่แล้ว
- ตรวจสอบเมตริกในคอลัมน์ CTR ในแถว “ทั้งหมด - การค้นหา” สีเทา นี่คือเมตริก CTR ของบัญชี
- หากไม่เห็นคอลัมน์ “CTR” ให้เลือกปุ่ม "คอลัมน์" แล้วเลือก "แก้ไขคอลัมน์" “ประสิทธิภาพ” และ “CTR” เพื่อเพิ่มคอลัมน์
เคล็ดลับในการปรับปรุง CTR
เรารวบรวมเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่ม CTR เฉลี่ยในบัญชีของคุณ
หยุดใช้คีย์เวิร์ดที่มีการแสดงผลสูงแต่ CTR ต่ำชั่วคราว
เลือกประสบการณ์การใช้งาน AdWords ที่คุณใช้อยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ของ AdWords
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
- คลิก “แคมเปญทั้งหมด” ในแผงการนำทางด้านซ้าย
- คลิก “คีย์เวิร์ด” ในเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
- ที่ด้านขวาบน ให้เลือกช่วงวันที่เป็น “สัปดาห์ที่แล้ว” (หรือสัปดาห์ล่าสุดที่มีการใช้งานบัญชี)
- คลิกชื่อคอลััมน์ “การแสดงผล” เพื่อจัดเรียงตาราง โดยเรียงลำดับตามคีย์เวิร์ดที่มีการแสดงผลสูงสุด
- เริ่มหยุดใช้คีย์เวิร์ดที่มี CTR 4% หรือต่ำกว่าชั่วคราว จนกว่าแถว “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่กรองแล้ว” มี CTR เท่ากับ 4% หรือมากกว่า
CTR “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่กรองแล้ว” คือเมตริกที่เราจะตรวจสอบหากบัญชีถูกปิดใช้งานเมื่อมี CTR ไม่ถึง 5% และต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 5% เมื่อคุณขออนุมัติให้เปิดใช้งานบัญชีอีกครั้ง
ประสบการณ์การใช้งานแบบเดิมของ AdWords
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
- คลิกแท็บ “คีย์เวิร์ด”
- เลือกช่วงวันที่เป็น “สัปดาห์ที่แล้ว” (หรือสัปดาห์ล่าสุดที่มีการใช้งานบัญชี)
- คลิกคีย์เวิร์ด “ที่เปิดใช้ทั้งหมด”
- คลิกชื่อคอลััมน์ “การแสดงผล” เพื่อจัดเรียงตาราง โดยเรียงลำดับตามคีย์เวิร์ดที่มีการแสดงผลสูงสุด
- เริ่มหยุดใช้คีย์เวิร์ดที่มี CTR 4% หรือต่ำกว่าชั่วคราว จนกว่าแถว “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด” มี CTR เท่ากับ 5% หรือมากกว่า
CTR “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด” คือเมตริกที่เราจะตรวจสอบหากบัญชีถูกปิดใช้งานเมื่อมี CTR ไม่ถึง 5% และต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 5% เมื่อคุณขออนุมัติให้เปิดใช้งานบัญชีอีกครั้ง
หยุดใช้คีย์เวิร์ดทั่วไปชั่วคราว
ตรวจดูว่าไม่มีคีย์เวิร์ดที่เป็นคำเดี่ยวๆ หรือคำที่กว้างเกินไปซึ่งไม่แสดงถึงเจตนาของผู้ใช้เวลาทำการค้นหา หยุดใช้คีย์เวิร์ดเหล่านั้นชั่วคราวหรือแก้ไขคีย์เวิร์ดเพื่อเพิ่มข้อความและบริบทให้แก่คำค้นหาเหล่านี้
เพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบจากรายงานข้อความค้นหา
ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ของ AdWords
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
- คลิก "คีย์เวิร์ด" จากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
- คลิก "ข้อความค้นหา" ที่ด้านบนสุด
- หากต้องการดูข้อความค้นหาของคีย์เวิร์ดเฉพาะบางกลุ่ม ให้คลิก "คีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหา" และเลือกช่องถัดจากคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการดูข้อความค้นหา จากนั้นคลิก "ข้อความค้นหา" ในเมนูที่ปรากฏเหนือตาราง
- เลือกช่องถัดจากข้อความค้นหาที่ต้องการเพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ แล้วคลิก "เพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ" โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบที่เพิ่มลงในแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาจากรายงานข้อความค้นหาเป็นการทำงานแบบตรงทั้งหมด หากต้องการเปลี่ยนประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ด ให้ใช้สัญลักษณ์ที่เหมาะสม
- คุณจะเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบลงในกลุ่มโฆษณาหรือแคมเปญ รายการคีย์เวิร์ดเชิงลบที่มีอยู่ หรือรายการคีย์เวิร์ดเชิงลบใหม่ได้จากจุดนี้
หมายเหตุ
โปรดระวังอย่าให้คีย์เวิร์ดเชิงลบคาบเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เลือก เพราะจะทำให้โฆษณาไม่แสดง
ประสบการณ์การใช้งานแบบเดิมของ AdWords
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
- คลิกแท็บ "คีย์เวิร์ด"
- เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการเรียกใช้รายงานข้อความค้นหา จากนั้นคลิกปุ่ม "ข้อความค้นหา" ด้านบนตาราง
- ระบบจะนำคุณไปที่แท็บ "ข้อความค้นหา" ที่จะแสดงรายละเอียดสำหรับคีย์เวิร์ดที่คุณเลือก หากต้องการดูรายละเอียดสำหรับคีย์เวิร์ดทั้งหมดในรายงาน ให้คลิกลิงก์ "แสดงทั้งหมด"
- เลือกช่องถัดจากคีย์เวิร์ดที่ต้องการเพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ แล้วคลิกปุ่ม "เพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ"
- คุณเลือกที่จะเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบที่ระดับกลุ่มโฆษณาหรือระดับแคมเปญก็ได้
- คลิกบันทึก
โปรดระวังอย่าให้คีย์เวิร์ดเชิงลบคาบเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เลือก เพราะจะทำให้โฆษณาไม่แสดง
ตรวจดูว่ามีการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายตามภูมิศาสตร์สำหรับแต่ละแคมเปญที่ทำงานอยู่
หากไม่ได้ตั้งค่าตำแหน่ง คุณอาจแสดงโฆษณาทั่วโลกซึ่งจะทำให้ CTR และคะแนนคุณภาพลดลงในพื้นที่ที่คุณไม่ได้แสดง
หากคุณโฆษณาสิ่งที่เจาะจงสำหรับพื้นที่ในท้องถิ่น เมือง หรือประเทศ ให้แยกโฆษณานี้เป็นแคมเปญของตัวเอง ตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายเป็นพื้นที่ดังกล่าว ตลอดจนให้โฆษณาและหน้า Landing Page อ้างอิงตำแหน่งเดียวกันนี้
- โฆษณาที่มีเป้าหมายเป็นการเพิ่มจำนวนอาสาสมัครสำหรับสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงในเขตเมือง
- แคมเปญ: “อาสาสมัคร - บางกะปิ กรุงเทพฯ”
- พื้นที่เป้าหมาย: “บางกะปิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย”
- กลุ่มโฆษณา: “อาสาสมัครดูแลสุนัข”
- คีย์เวิร์ด:
- อาสาสมัครดูแลสุนัขในบางกะปิ
- ช่วยสุนัขในบางกะปิ
- ทำงานกับสุนัขใกล้ฉัน
จัดกลุ่มคีย์เวิร์ดเป็นกลุ่มโฆษณาที่มีธีมชัดเจน
เขียนโฆษณาที่ดึงดูดซึ่งเชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายดำเนินการ
เสนอราคาคำที่เป็นแบรนด์
เลือกการตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาแบบ "เพิ่มประสิทธิภาพ"
การหมุนเวียนโฆษณาคือวิธีที่เราแสดงโฆษณาของคุณในเครือข่ายการค้นหา หากคุณมีโฆษณาหลายรายการในกลุ่มโฆษณากลุ่มหนึ่ง โฆษณาจะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันแสดงเพราะในเวลาหนึ่งๆ โฆษณาจากบัญชีจะแสดงได้เพียง 1 รายการ
ใช้การตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาซึ่งมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ "ฟีเจอร์ทั้งหมด" เพื่อระบุว่าต้องการให้โฆษณาแสดงบ่อยเพียงใดเมื่อเทียบกันเองภายในกลุ่มโฆษณา
เมื่อเลือกการหมุนเวียนโฆษณาแบบเพิ่มประสิทธิภาพ การตั้งค่านี้จะเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาเพื่อให้ได้รับคลิกในการประมูลแต่ละครั้ง โดยใช้สัญญาณต่างๆ เช่น คีย์เวิร์ด ข้อความค้นหา อุปกรณ์ สถานที่ตั้ง และอื่นๆ การตั้งค่าแบบเพิ่มประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงของ Google จะให้ความสำคัญกับโฆษณาที่คาดว่าทำงานได้ดีกว่าโฆษณาอื่นๆ ภายในกลุ่มโฆษณา
เคล็ดลับ
หากคุณต้องการให้ความสำคัญกับ Conversion ให้ใช้ Smart Bidding ซึ่งจะปรับราคาเสนอโดยอิงตามแนวโน้มที่จะเกิด Conversion และจะเลือกโฆษณาที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิด Conversion ดังกล่าวมากที่สุด AdWords จะใช้การตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาแบบ "เพิ่มประสิทธิภาพ" โดยอัตโนมัติหากคุณใช้ Smart Bidding
เปิดใช้ส่วนขยายโฆษณาทั้งหมดที่เหมาะสำหรับองค์กรการกุศลของคุณ
ผู้ลงโฆษณาใช้เวลามากกับการเพิ่มประสิทธิภาพข้อความโฆษณา (ซึ่งเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว) แต่การใช้งานส่วนขยายมักจะเป็นวิธีปรับปรุง CTR ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ส่วนขยายโฆษณาเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าด้วยการพร้อมแสดงผลและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ส่วนขยายโฆษณาทุกประเภทที่เรามีให้คุณใช้งานนั้นมีจุดประสงค์เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้ใช้ของเรา ซึ่งนั่นหมายถึง CTR ที่สูงขึ้นสำหรับคุณ เราพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว CTR จะเพิ่มขึ้น 10-15%* จากการใช้ส่วนขยายโฆษณาใหม่
*ข้อมูลนี้จะแตกต่างไปตามลูกค้า ประเภทธุรกิจ ประเภทส่วนขยาย และปัจจัยอื่นๆ โดย Google ไม่สามารถรับประกันข้อมูลนี้หรือการเพิ่มขึ้นใดๆเรายังพบว่าข้อมูลเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งหมายความว่าโฆษณาที่มีส่วนขยายหลายรายการมักจะทำงานได้ดีกว่าโฆษณาที่มีส่วนขยายเพียงรายการเดียว มองหาว่าส่วนขยายใดบ้างที่ใช้ได้ผลกับองค์กรการกุศลของคุณ แล้วใช้งานส่วนขยายดังกล่าว การใช้ส่วนขยายผสมผสานกันอย่างไรให้ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับการประมูลแต่ละครั้ง ความโดดเด่นเป็นพิเศษดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณและแบรนด์ของคุณ และส่วนขยายเหล่านั้นยังช่วยให้คุณดูโดดเด่นในหน้าผลการค้นหาอีกด้วย
พิจารณาส่วนขยายโฆษณาเหล่านี้ตามเป้าหมายของคุณ
เลือกส่วนขยายตามเป้าหมายการโฆษณาหลัก ด้านล่างนี้เป็นเป้าหมายของผู้ลงโฆษณาที่พบได้บ่อยและส่วนขยายที่สนับสนุนเป้าหมายเหล่านั้นได้
เป้าหมาย: ทำให้ผู้คนเดินทางไปที่สถานที่ตั้งจริงขององค์กรการกุศล
ถ้าคุณต้องการนำผู้คนไปยังสถานที่ตั้งจริงขององค์กร (เช่น โรงทานหรือร้านค้าเพื่อการกุศล) คุณก็ควรใช้ส่วนขยายต่อไปนี้
ส่วนขยายสถานที่ตั้ง
เชิญชวนให้ผู้คนไปเยี่ยมชมองค์กรการกุศลของคุณด้วยการแสดงสถานที่ตั้ง ปุ่มโทร และลิงก์ไปยังหน้ารายละเอียดขององค์กร ซึ่งอาจมีข้อมูลเวลาทำการ รูปภาพที่แสดงบริการต่างๆ ขององค์กร และเส้นทางไปยังองค์กร ถ้าคุณต้องการให้คนไปที่สถานที่ตั้งขององค์กร แต่ต้องการให้โทรหาหมายเลขส่วนกลาง (แทนที่จะโทรไปยังหมายเลขของสถานที่ตั้งนั้นโดยเฉพาะ) ให้ใช้ส่วนขยายการโทรร่วมกับส่วนขยายสถานที่ตั้ง
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายสถานที่ตั้ง
ส่วนขยายไฮไลต์
เพิ่มข้อความเพิ่มเติมลงในโฆษณาที่ไม่ได้เสนอตัวเลือกการคลิกผ่าน แต่เป็นการกระตุ้นให้คนคลิกบรรทัดแรกของโฆษณาหลัก เช่น “หลักสูตรออนไลน์หลายพันรายการฟรี”
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายไฮไลต์
เป้าหมาย: ทำให้คนติดต่อคุณ
ถ้าคุณต้องการให้ผู้คนโทรหาหรือส่งข้อความสอบถาม ให้ใช้ส่วนขยายการโทรหรือส่วนขยายข้อความ
ส่วนขยายการโทร
กระตุ้นให้ผู้คนโทรหาองค์กรการกุศลของคุณด้วยการใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือปุ่มโทรลงในโฆษณา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายการโทร
ส่วนขยายข้อความ
กระตุ้นให้ผู้คนส่งข้อความหาคุณจากโฆษณา มีให้บริการทั่วโลกในระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายข้อความ
เป้าหมาย: ทำให้ผู้คนทำ Conversion ในเว็บไซต์
ถ้าคุณต้องการนำผู้คนไปที่เว็บไซต์ของคุณ ลองใช้ส่วนขยายต่อไปนี้
ส่วนขยายไซต์ลิงก์
ลิงก์ผู้คนไปที่หน้าเว็บที่ต้องการในเว็บไซต์ของคุณโดยตรง (เช่น “บริจาคเลย” และ “สมัครเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร”)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายไซต์ลิงก์
ส่วนขยายไฮไลต์
เพิ่มข้อความเพิ่มเติมลงในโฆษณาที่ไม่ได้เสนอตัวเลือกการคลิกผ่าน แต่เป็นการกระตุ้นให้คนคลิกบรรทัดแรกของโฆษณาหลัก เช่น “หลักสูตรออนไลน์ฟรี”
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายไฮไลต์
เป้าหมาย: ทำให้ผู้คนดาวน์โหลดแอป
ถ้าคุณต้องการให้ผู้คนดาวน์โหลดแอปของคุณ ใช้ส่วนขยายแอป
ส่วนขยายแอป
กระตุ้นให้ผู้คนดาวน์โหลดแอป มีให้บริการทั่วโลกสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ Android และ iOS รวมถึงแท็บเล็ต ดูข้อมูลเกี่ยวกับส่วนขยายแอป
วิธีขอการเปิดใช้งานอีกครั้งหากถูกปิดใช้งานเมื่อมี CTR ไม่ถึง 5%
หากมี CTR ไม่ถึง 5% ติดต่อกัน 2 เดือน บัญชีจะถูกปิดใช้งานจนกว่าคุณจะปรับเปลี่ยนบัญชีโดยทำตามขั้นตอนข้างต้น เมื่อคุณตรวจสอบ CTR, กรองหาแคมเปญและคีย์เวิร์ดที่เปิดใช้แล้ว และพบว่าแถว "ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่กรองแล้ว" มี CTR อย่างน้อย 5% หรือมากกว่าสำหรับสัปดาห์ที่แล้ว โปรดติดต่อเราเพื่อขอการคืนสถานะบัญชี
วิธีขอการเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อคุณมี CTR ไม่ถึง 5%
บัญชี AdWords Express ได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนด CTR 5% เพราะมีการจัดการอัตโนมัติ คุณอาจใช้ประโยชน์จาก Ad Grants ผ่าน AdWords Express ต่อไปได้หากไม่สามารถทำการแก้ไขที่จำเป็นเพื่อให้มี CTR ถึง 5% ใน AdWords หากต้องการเปลี่ยนบัญชีไปเป็น AdWords Express ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เข้าสู่ระบบ AdWords Express ด้วยที่อยู่อีเมลสำหรับเข้าสู่ระบบผู้ดูแลระบบปัจจุบัน
- สร้างบัญชี AdWords Express โดยเริ่มจากขั้นตอนที่ 2 ในคู่มือการสร้าง Ad Grants
- หยุดชั่วคราวแคมเปญ AdWords ที่มีอยู่
- ติดต่อเราเพื่อเปิดใช้