ข้อกำหนดอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ของ Ad Grants

บัญชี Ad Grants ที่ใช้ AdWords จะต้องมีอัตราการคลิกผ่าน (CTR) 5% ในแต่ละเดือนเพื่อให้มีสิทธิ์อยู่ในโปรแกรม CTR เป็นสัญญาณที่ดีว่าผู้ใช้เห็นว่าโฆษณามีประโยชน์และเกี่ยวข้อง

หากต้องการตรวจสอบ CTR ของบัญชี ให้เริ่มจากการเลือกประสบการณ์การใช้งาน AdWords ที่คุณใช้อยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ของ AdWords

  1. ไปที่แท็บ “โฆษณาและส่วนขยาย”
  2. เลือกช่วงวันที่เป็นเดือนที่แล้ว
  3. เลื่อนลงมาที่ด้านล่างในหน้าของโฆษณาตรงแถวสีเทา “ทั้งหมด: บัญชี” และตรวจสอบเมตริกสำหรับคอลัมน์ CTR นี่คือเมตริก CTR ของบัญชี 
    • หากไม่เห็นคอลัมน์ “CTR” ให้เลือกปุ่มแก้ไขคอลัมน์ แล้วเลือก “ประสิทธิภาพ” และ “CTR” เพื่อเพิ่มคอลัมน์ 

ประสบการณ์การใช้งานแบบเดิมของ AdWords

  1. ไปที่แท็บ “โฆษณา”
  2. เลือกช่วงวันที่เป็นเดือนที่แล้ว
  3. ตรวจสอบเมตริกในคอลัมน์ CTR ในแถว “ทั้งหมด - การค้นหา” สีเทา นี่คือเมตริก CTR ของบัญชี 
  4. หากไม่เห็นคอลัมน์ “CTR” ให้เลือกปุ่ม "คอลัมน์" แล้วเลือก "แก้ไขคอลัมน์" “ประสิทธิภาพ” และ “CTR” เพื่อเพิ่มคอลัมน์ 

เคล็ดลับในการปรับปรุง CTR

เรารวบรวมเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่ม CTR เฉลี่ยในบัญชีของคุณ 

หยุดใช้คีย์เวิร์ดที่มีการแสดงผลสูงแต่ CTR ต่ำชั่วคราว

เลือกประสบการณ์การใช้งาน AdWords ที่คุณใช้อยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติม 

ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ของ AdWords

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
  2. คลิก “แคมเปญทั้งหมด” ในแผงการนำทางด้านซ้าย
  3. คลิก “คีย์เวิร์ด” ในเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
  4. ที่ด้านขวาบน ให้เลือกช่วงวันที่เป็น “สัปดาห์ที่แล้ว” (หรือสัปดาห์ล่าสุดที่มีการใช้งานบัญชี)
  5. คลิกชื่อคอลััมน์ “การแสดงผล” เพื่อจัดเรียงตาราง โดยเรียงลำดับตามคีย์เวิร์ดที่มีการแสดงผลสูงสุด
  6. เริ่มหยุดใช้คีย์เวิร์ดที่มี CTR 4% หรือต่ำกว่าชั่วคราว จนกว่าแถว “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่กรองแล้ว” มี CTR เท่ากับ 4% หรือมากกว่า 

CTR “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่กรองแล้ว” คือเมตริกที่เราจะตรวจสอบหากบัญชีถูกปิดใช้งานเมื่อมี CTR ไม่ถึง 5% และต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 5% เมื่อคุณขออนุมัติให้เปิดใช้งานบัญชีอีกครั้ง 

 ประสบการณ์การใช้งานแบบเดิมของ AdWords

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
  2. คลิกแท็บ “คีย์เวิร์ด”
  3. เลือกช่วงวันที่เป็น “สัปดาห์ที่แล้ว” (หรือสัปดาห์ล่าสุดที่มีการใช้งานบัญชี)
  4. คลิกคีย์เวิร์ด “ที่เปิดใช้ทั้งหมด”
  5. คลิกชื่อคอลััมน์ “การแสดงผล” เพื่อจัดเรียงตาราง โดยเรียงลำดับตามคีย์เวิร์ดที่มีการแสดงผลสูงสุด
  6. เริ่มหยุดใช้คีย์เวิร์ดที่มี CTR 4% หรือต่ำกว่าชั่วคราว จนกว่าแถว “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด” มี CTR เท่ากับ 5% หรือมากกว่า 

CTR “ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่เปิดใช้ทั้งหมด” คือเมตริกที่เราจะตรวจสอบหากบัญชีถูกปิดใช้งานเมื่อมี CTR ไม่ถึง 5% และต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 5% เมื่อคุณขออนุมัติให้เปิดใช้งานบัญชีอีกครั้ง 

หยุดใช้คีย์เวิร์ดทั่วไปชั่วคราว

ตรวจดูว่าไม่มีคีย์เวิร์ดที่เป็นคำเดี่ยวๆ หรือคำที่กว้างเกินไปซึ่งไม่แสดงถึงเจตนาของผู้ใช้เวลาทำการค้นหา หยุดใช้คีย์เวิร์ดเหล่านั้นชั่วคราวหรือแก้ไขคีย์เวิร์ดเพื่อเพิ่มข้อความและบริบทให้แก่คำค้นหาเหล่านี้ 

ตัวอย่าง
หากคุณทำสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงและเสนอราคาคีย์เวิร์ด “สุนัข” ผู้คนอาจมองหาการรับเลี้ยงสุนัข พันธุ์สุนัข โรคในสุนัข การฝึกสุนัข รอยสุนัขกัด หรืออาหารสุนัข เป็นต้น หากโฆษณาแสดงขึ้นเวลาที่มีผู้ค้นหาอาหารสุนัข CTR และคะแนนคุณภาพจะลดลงไปด้วย  เลือกคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับองค์กร เช่น การรับเลี้ยงสุนัข รับอุปการะสุนัข ช่วยชีวิตสุนัข รับสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ

เพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบจากรายงานข้อความค้นหา 

ตรวจดูว่าคุณไม่ได้เสนอราคาคีย์เวิร์ดที่ทำให้ CTR ลดลง ซึ่งคุณไม่ได้คาดหวังที่จะเสนอราคา  เลือกประสบการณ์การใช้งาน AdWords ที่คุณใช้อยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติม 

ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ของ AdWords

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
  2. คลิก "คีย์เวิร์ด" จากเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
  3. คลิก "ข้อความค้นหา" ที่ด้านบนสุด
  4. หากต้องการดูข้อความค้นหาของคีย์เวิร์ดเฉพาะบางกลุ่ม ให้คลิก "คีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหา" และเลือกช่องถัดจากคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการดูข้อความค้นหา จากนั้นคลิก "ข้อความค้นหา" ในเมนูที่ปรากฏเหนือตาราง
  5. เลือกช่องถัดจากข้อความค้นหาที่ต้องการเพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ แล้วคลิก "เพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ" โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบที่เพิ่มลงในแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาจากรายงานข้อความค้นหาเป็นการทำงานแบบตรงทั้งหมด หากต้องการเปลี่ยนประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ด ให้ใช้สัญลักษณ์ที่เหมาะสม 
  6. คุณจะเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบลงในกลุ่มโฆษณาหรือแคมเปญ รายการคีย์เวิร์ดเชิงลบที่มีอยู่ หรือรายการคีย์เวิร์ดเชิงลบใหม่ได้จากจุดนี้ 

หมายเหตุ
โปรดระวังอย่าให้คีย์เวิร์ดเชิงลบคาบเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เลือก เพราะจะทำให้โฆษณาไม่แสดง

ประสบการณ์การใช้งานแบบเดิมของ AdWords

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdWords
  2. คลิกแท็บ "คีย์เวิร์ด"
  3. เลือกช่องทำเครื่องหมายถัดจากคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการเรียกใช้รายงานข้อความค้นหา จากนั้นคลิกปุ่ม "ข้อความค้นหา" ด้านบนตาราง 
  4. ระบบจะนำคุณไปที่แท็บ "ข้อความค้นหา" ที่จะแสดงรายละเอียดสำหรับคีย์เวิร์ดที่คุณเลือก หากต้องการดูรายละเอียดสำหรับคีย์เวิร์ดทั้งหมดในรายงาน ให้คลิกลิงก์ "แสดงทั้งหมด" 
  5. เลือกช่องถัดจากคีย์เวิร์ดที่ต้องการเพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ แล้วคลิกปุ่ม "เพิ่มเป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบ"
  6. คุณเลือกที่จะเพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบที่ระดับกลุ่มโฆษณาหรือระดับแคมเปญก็ได้
  7. คลิกบันทึก
หมายเหตุ
โปรดระวังอย่าให้คีย์เวิร์ดเชิงลบคาบเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เลือก เพราะจะทำให้โฆษณาไม่แสดง

ตรวจดูว่ามีการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายตามภูมิศาสตร์สำหรับแต่ละแคมเปญที่ทำงานอยู่

หากไม่ได้ตั้งค่าตำแหน่ง คุณอาจแสดงโฆษณาทั่วโลกซึ่งจะทำให้ CTR และคะแนนคุณภาพลดลงในพื้นที่ที่คุณไม่ได้แสดง

หากคุณโฆษณาสิ่งที่เจาะจงสำหรับพื้นที่ในท้องถิ่น เมือง หรือประเทศ ให้แยกโฆษณานี้เป็นแคมเปญของตัวเอง ตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายเป็นพื้นที่ดังกล่าว ตลอดจนให้โฆษณาและหน้า Landing Page อ้างอิงตำแหน่งเดียวกันนี้ 

ตัวอย่าง
  • โฆษณาที่มีเป้าหมายเป็นการเพิ่มจำนวนอาสาสมัครสำหรับสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงในเขตเมือง
    • แคมเปญ: “อาสาสมัคร - บางกะปิ กรุงเทพฯ” 
    • พื้นที่เป้าหมาย: “บางกะปิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย”
    • กลุ่มโฆษณา: “อาสาสมัครดูแลสุนัข”
    • คีย์เวิร์ด: 
      • อาสาสมัครดูแลสุนัขในบางกะปิ
      • ช่วยสุนัขในบางกะปิ
      • ทำงานกับสุนัขใกล้ฉัน  

จัดกลุ่มคีย์เวิร์ดเป็นกลุ่มโฆษณาที่มีธีมชัดเจน

ในกลุ่มโฆษณาทุกกลุ่ม ให้ตรวจดูว่ามีการจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดตามธีมอย่างชัดเจน คีย์เวิร์ดตรงกับข้อความโฆษณา และนำไปสู่ข้อมูลในหน้า Landing Page ของโฆษณาที่คาดหวังหลังจากได้ดูโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาแบบข้อความที่ประสบความสำเร็จ 
ตัวอย่าง
หากคุณทำสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงและเสนอราคาคีย์เวิร์ด “สุนัข” ผู้คนอาจมองหาการรับเลี้ยงสุนัข พันธุ์สุนัข โรคในสุนัข การฝึกสุนัข รอยสุนัขกัด หรืออาหารสุนัข เป็นต้น หากโฆษณาแสดงขึ้นเวลาที่มีผู้ค้นหาอาหารสุนัข CTR และคะแนนคุณภาพจะลดลงไปด้วย  เลือกคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับองค์กร เช่น การรับเลี้ยงสุนัข รับอุปการะสุนัข ช่วยชีวิตสุนัข รับสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ

เขียนโฆษณาที่ดึงดูดซึ่งเชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายดำเนินการ

โฆษณาที่มีประสิทธิภาพซึ่งไฮไลต์สิ่งที่ทำให้องค์กรการกุศลของคุณไม่เหมือนใครช่วยดึงดูดให้ผู้ใช้คลิกผ่านและดำเนินการในเว็บไซต์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาค การสมัครเข้าร่วม หรือการสนับสนุนด้วยวิธีอื่นๆ โฆษณาที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุคีย์เวิร์ดของคุณและนำทางไปยังหน้าที่ผู้ใช้คาดหวังหลังจากได้อ่านโฆษณาช่วยปรับปรุงความสำเร็จของโฆษณาออนไลน์ได้อย่างมาก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาแบบข้อความที่ประสบความสำเร็จ 

เสนอราคาคำที่เป็นแบรนด์

ตรวจดูว่าคุณเสนอราคาชื่อขององค์กรและความพยายามของแบรนด์ซึ่งจะแสดงโฆษณาของคุณให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่สนใจซึ่งรู้จักงานของคุณอยู่แล้ว 

เลือกการตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาแบบ "เพิ่มประสิทธิภาพ"

การหมุนเวียนโฆษณาคือวิธีที่เราแสดงโฆษณาของคุณในเครือข่ายการค้นหา หากคุณมีโฆษณาหลายรายการในกลุ่มโฆษณากลุ่มหนึ่ง โฆษณาจะหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันแสดงเพราะในเวลาหนึ่งๆ โฆษณาจากบัญชีจะแสดงได้เพียง 1 รายการ

ใช้การตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาซึ่งมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ "ฟีเจอร์ทั้งหมด" เพื่อระบุว่าต้องการให้โฆษณาแสดงบ่อยเพียงใดเมื่อเทียบกันเองภายในกลุ่มโฆษณา 

เมื่อเลือกการหมุนเวียนโฆษณาแบบเพิ่มประสิทธิภาพ การตั้งค่านี้จะเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาเพื่อให้ได้รับคลิกในการประมูลแต่ละครั้ง โดยใช้สัญญาณต่างๆ เช่น คีย์เวิร์ด ข้อความค้นหา อุปกรณ์ สถานที่ตั้ง และอื่นๆ การตั้งค่าแบบเพิ่มประสิทธิภาพจากเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงของ Google จะให้ความสำคัญกับโฆษณาที่คาดว่าทำงานได้ดีกว่าโฆษณาอื่นๆ ภายในกลุ่มโฆษณา

เคล็ดลับ

หากคุณต้องการให้ความสำคัญกับ Conversion ให้ใช้ Smart Bidding ซึ่งจะปรับราคาเสนอโดยอิงตามแนวโน้มที่จะเกิด Conversion และจะเลือกโฆษณาที่มีแนวโน้มจะทำให้เกิด Conversion ดังกล่าวมากที่สุด AdWords จะใช้การตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาแบบ "เพิ่มประสิทธิภาพ" โดยอัตโนมัติหากคุณใช้ Smart Bidding   

เปิดใช้ส่วนขยายโฆษณาทั้งหมดที่เหมาะสำหรับองค์กรการกุศลของคุณ

ผู้ลงโฆษณาใช้เวลามากกับการเพิ่มประสิทธิภาพข้อความโฆษณา (ซึ่งเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว) แต่การใช้งานส่วนขยายมักจะเป็นวิธีปรับปรุง CTR ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ส่วนขยายโฆษณาเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าด้วยการพร้อมแสดงผลและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ส่วนขยายโฆษณาทุกประเภทที่เรามีให้คุณใช้งานนั้นมีจุดประสงค์เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้ใช้ของเรา ซึ่งนั่นหมายถึง CTR ที่สูงขึ้นสำหรับคุณ เราพบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว CTR จะเพิ่มขึ้น 10-15%* จากการใช้ส่วนขยายโฆษณาใหม่

*ข้อมูลนี้จะแตกต่างไปตามลูกค้า ประเภทธุรกิจ ประเภทส่วนขยาย และปัจจัยอื่นๆ โดย Google ไม่สามารถรับประกันข้อมูลนี้หรือการเพิ่มขึ้นใดๆ

เรายังพบว่าข้อมูลเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งหมายความว่าโฆษณาที่มีส่วนขยายหลายรายการมักจะทำงานได้ดีกว่าโฆษณาที่มีส่วนขยายเพียงรายการเดียว มองหาว่าส่วนขยายใดบ้างที่ใช้ได้ผลกับองค์กรการกุศลของคุณ แล้วใช้งานส่วนขยายดังกล่าว การใช้ส่วนขยายผสมผสานกันอย่างไรให้ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับการประมูลแต่ละครั้ง ความโดดเด่นเป็นพิเศษดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณและแบรนด์ของคุณ และส่วนขยายเหล่านั้นยังช่วยให้คุณดูโดดเด่นในหน้าผลการค้นหาอีกด้วย

พิจารณาส่วนขยายโฆษณาเหล่านี้ตามเป้าหมายของคุณ 

เลือกส่วนขยายตามเป้าหมายการโฆษณาหลัก ด้านล่างนี้เป็นเป้าหมายของผู้ลงโฆษณาที่พบได้บ่อยและส่วนขยายที่สนับสนุนเป้าหมายเหล่านั้นได้

เป้าหมาย: ทำให้ผู้คนเดินทางไปที่สถานที่ตั้งจริงขององค์กรการกุศล

ถ้าคุณต้องการนำผู้คนไปยังสถานที่ตั้งจริงขององค์กร (เช่น โรงทานหรือร้านค้าเพื่อการกุศล) คุณก็ควรใช้ส่วนขยายต่อไปนี้

ส่วนขยายสถานที่ตั้ง

เชิญชวนให้ผู้คนไปเยี่ยมชมองค์กรการกุศลของคุณด้วยการแสดงสถานที่ตั้ง ปุ่มโทร และลิงก์ไปยังหน้ารายละเอียดขององค์กร ซึ่งอาจมีข้อมูลเวลาทำการ รูปภาพที่แสดงบริการต่างๆ ขององค์กร และเส้นทางไปยังองค์กร ถ้าคุณต้องการให้คนไปที่สถานที่ตั้งขององค์กร แต่ต้องการให้โทรหาหมายเลขส่วนกลาง (แทนที่จะโทรไปยังหมายเลขของสถานที่ตั้งนั้นโดยเฉพาะ) ให้ใช้ส่วนขยายการโทรร่วมกับส่วนขยายสถานที่ตั้ง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายสถานที่ตั้ง

ส่วนขยายไฮไลต์

เพิ่มข้อความเพิ่มเติมลงในโฆษณาที่ไม่ได้เสนอตัวเลือกการคลิกผ่าน แต่เป็นการกระตุ้นให้คนคลิกบรรทัดแรกของโฆษณาหลัก เช่น “หลักสูตรออนไลน์หลายพันรายการฟรี”

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายไฮไลต์

เป้าหมาย: ทำให้คนติดต่อคุณ

ถ้าคุณต้องการให้ผู้คนโทรหาหรือส่งข้อความสอบถาม ให้ใช้ส่วนขยายการโทรหรือส่วนขยายข้อความ

ส่วนขยายการโทร

กระตุ้นให้ผู้คนโทรหาองค์กรการกุศลของคุณด้วยการใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือปุ่มโทรลงในโฆษณา

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายการโทร

ส่วนขยายข้อความ

กระตุ้นให้ผู้คนส่งข้อความหาคุณจากโฆษณา มีให้บริการทั่วโลกในระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายข้อความ

เป้าหมาย: ทำให้ผู้คนทำ Conversion ในเว็บไซต์

ถ้าคุณต้องการนำผู้คนไปที่เว็บไซต์ของคุณ ลองใช้ส่วนขยายต่อไปนี้

ส่วนขยายไซต์ลิงก์

ลิงก์ผู้คนไปที่หน้าเว็บที่ต้องการในเว็บไซต์ของคุณโดยตรง (เช่น “บริจาคเลย” และ “สมัครเข้าร่วมเป็นอาสาสมัคร”)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายไซต์ลิงก์

ส่วนขยายไฮไลต์

เพิ่มข้อความเพิ่มเติมลงในโฆษณาที่ไม่ได้เสนอตัวเลือกการคลิกผ่าน แต่เป็นการกระตุ้นให้คนคลิกบรรทัดแรกของโฆษณาหลัก เช่น “หลักสูตรออนไลน์ฟรี”

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เกี่ยวกับส่วนขยายไฮไลต์

เป้าหมาย: ทำให้ผู้คนดาวน์โหลดแอป

ถ้าคุณต้องการให้ผู้คนดาวน์โหลดแอปของคุณ ใช้ส่วนขยายแอป

ส่วนขยายแอป

กระตุ้นให้ผู้คนดาวน์โหลดแอป มีให้บริการทั่วโลกสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ Android และ iOS รวมถึงแท็บเล็ต ดูข้อมูลเกี่ยวกับส่วนขยายแอป

วิธีขอการเปิดใช้งานอีกครั้งหากถูกปิดใช้งานเมื่อมี CTR ไม่ถึง 5%

หากมี CTR ไม่ถึง 5% ติดต่อกัน 2 เดือน บัญชีจะถูกปิดใช้งานจนกว่าคุณจะปรับเปลี่ยนบัญชีโดยทำตามขั้นตอนข้างต้น เมื่อคุณตรวจสอบ CTR, กรองหาแคมเปญและคีย์เวิร์ดที่เปิดใช้แล้ว และพบว่าแถว "ทั้งหมด: คีย์เวิร์ดที่กรองแล้ว" มี CTR อย่างน้อย 5% หรือมากกว่าสำหรับสัปดาห์ที่แล้ว โปรดติดต่อเราเพื่อขอการคืนสถานะบัญชี

 หมายเหตุ: บัญชีต้องมีอายุครบ 90 วัน จึงจะมีการตรวจสอบว่าเป็นไปตามข้อกำหนดนี้หรือไม่

วิธีขอการเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อคุณมี CTR ไม่ถึง 5%

บัญชี AdWords Express ได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนด CTR 5% เพราะมีการจัดการอัตโนมัติ คุณอาจใช้ประโยชน์จาก Ad Grants ผ่าน AdWords Express ต่อไปได้หากไม่สามารถทำการแก้ไขที่จำเป็นเพื่อให้มี CTR ถึง 5% ใน AdWords  หากต้องการเปลี่ยนบัญชีไปเป็น AdWords Express ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เข้าสู่ระบบ AdWords Express ด้วยที่อยู่อีเมลสำหรับเข้าสู่ระบบผู้ดูแลระบบปัจจุบัน 
  2. สร้างบัญชี AdWords Express โดยเริ่มจากขั้นตอนที่ 2 ในคู่มือการสร้าง Ad Grants
  3. หยุดชั่วคราวแคมเปญ AdWords ที่มีอยู่
  4. ติดต่อเราเพื่อเปิดใช้

 

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
664534257431169499
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
false
false