ดูและจัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอป (สำหรับบัญชีที่สร้างขึ้นหลังวันที่ 31 สิงหาคม 2023)

ข้อมูลในบทความนี้ใช้กับบัญชีนักพัฒนาแอปที่สร้างขึ้นหลังวันที่ 31 สิงหาคม 2023 เท่านั้น หากคุณสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2023 ให้ไปที่บทความนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บล็อกของนักพัฒนาแอป Android

คุณอัปเดตข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปได้โดยใช้ Google Play Console มีเพียงเจ้าของบัญชีเท่านั้นที่เปลี่ยนข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปที่คุณให้ได้และข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นไปตามนโยบายโปรแกรมสำหรับนักพัฒนาแอปของ Google Play

สำคัญ: คุณต้องรักษาข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปให้ถูกต้องเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ Google Play หากข้อมูลระบุตัวตนหรือข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาแอปมีการเปลี่ยนแปลง โปรดอย่าลืมอัปเดตข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณใน Play Console เพื่อไม่ให้บัญชีถูกจำกัดและไม่ให้แอปถูกนำออกจาก Google Play ดูข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเดตข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปให้เป็นปัจจุบัน

จัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปทั่วไป (บัญชีนักพัฒนาแอปทั้งหมด)

นักพัฒนาแอปที่มีบัญชีประเภทใดก็ตาม (ส่วนบุคคลและองค์กร) สามารถให้ ดู และจัดการข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ด้วยการขยายส่วนต่างๆ และทำตามวิธีการ

รายละเอียดสำหรับติดต่อในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store

วิธีอัปเดตข้อมูลติดต่อในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่า Store
  2. ในส่วน "ข้อมูลติดต่อในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store" ให้พิมพ์อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และเว็บไซต์ ทั้งนี้ต้องระบุอีเมลเพื่อเผยแพร่หรืออัปเดตแอปบน Google Play
  3. บันทึกการเปลี่ยนแปลง

ข้อมูลนี้จะปรากฏในหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Google Play Store ของแอป

ชื่อนักพัฒนาแอป
  1. เปิด Play Console
  2. ไปที่หน้าสำหรับนักพัฒนาแอป
  3. ข้าง "ชื่อนักพัฒนาแอป" ให้พิมพ์ชื่อที่คุณต้องการให้แสดงใน Google Play
  4. บันทึกการเปลี่ยนแปลง

วิธีอัปเดตชื่อนักพัฒนาแอป

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าเกี่ยวกับคุณ (บัญชีนักพัฒนาแอป > เกี่ยวกับคุณ)
  2. ข้าง "ชื่อนักพัฒนาแอป" ให้พิมพ์ชื่อที่คุณต้องการให้แสดงใน Google Play
  3. บันทึกการเปลี่ยนแปลง ชื่อนักพัฒนาแอปที่อัปเดตของคุณจะปรากฏใน Google Play หลังจากที่เราตรวจสอบและอนุมัติแล้ว
ที่อยู่ตามกฎหมาย

บัญชีผู้ขาย (บัญชีนักพัฒนาแอปซึ่งมีแอปที่สร้างรายได้ผ่านแอปที่ต้องซื้อหรือการซื้อในแอป) ต้องแสดงที่อยู่แบบเต็มใน Google Play เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ที่อยู่ที่ใช้คือที่อยู่ที่ได้จากโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่ลิงก์กับบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ของคุณ

คุณสามารถดูข้อมูลนี้ในหน้ารายละเอียดบัญชี (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี) 

หากต้องการเปลี่ยนข้อมูลนี้ คุณต้องอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google

จัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปส่วนบุคคล

หากบัญชีนักพัฒนาแอปเป็นบัญชีส่วนบุคคล คุณสามารถดูและจัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปโดยไปที่หน้ารายละเอียดบัญชี (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี) ป้อนข้อมูลล่าสุด และบันทึกการเปลี่ยนแปลง 

หน้ารายละเอียดบัญชีจะจัดระเบียบข้อมูลของคุณใน 2 แท็บ ได้แก่ เกี่ยวกับคุณและข้อมูลติดต่อ ขยายส่วนต่างๆ ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลที่คุณจัดการได้ในแต่ละแท็บ

เกี่ยวกับคุณ
  • ประเภทบัญชี (อ่านอย่างเดียว): ประเภทบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่คุณเลือกระหว่างการลงชื่อสมัครใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทบัญชี
  • รหัสบัญชี (อ่านอย่างเดียว): รหัสบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่ไม่ซ้ำกัน 19 หลัก อ้างอิงรหัสนี้หากต้องการติดต่อทีมสนับสนุนนักพัฒนาแอป Google Play
  • ชื่อนักพัฒนาแอป: แสดงใน Google Play เพื่อระบุโปรไฟล์นักพัฒนาแอปและแอปของคุณ
ข้อมูลติดต่อ

วิธีที่ Google ติดต่อคุณ

Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดต่อคุณเท่านั้น และจะไม่แสดงใน Google Play

  • ชื่อผู้ติดต่อ: หากเราจำเป็นต้องพูดคุยกับใครสักคนเกี่ยวกับบัญชีของคุณ นี่คือบุคคลที่เราจะติดต่อ
  • อีเมลสำหรับติดต่อ: อีเมลที่เราจะใช้เพื่อติดต่อคุณ ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
  • ภาษาที่ต้องการ: ภาษาที่คุณต้องการใช้สำหรับการสื่อสารทางอีเมล
  • หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่เราจะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว

หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้

+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)

ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890

วิธีที่ผู้ใช้ติดต่อคุณ

Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดต่อคุณเท่านั้น และจะไม่แสดงใน Google Play

  • (นักพัฒนาแอปในเกาหลีเท่านั้น) หมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอป: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับการจัดจำหน่ายแอปในเกาหลี

หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้

+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)

ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890

  • อีเมลของนักพัฒนาแอป: อีเมลที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว

เคล็ดลับ: หากต้องการดูข้อมูลทั้งหมดที่อาจแสดงแบบสาธารณะใน Google Play ให้ไปที่หน้าโปรไฟล์นักพัฒนาแอป

จัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปขององค์กร

หากบัญชีนักพัฒนาแอปมีไว้สำหรับองค์กร คุณสามารถดูและจัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปโดยไปที่หน้ารายละเอียดบัญชี (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี) ป้อนข้อมูลล่าสุด และบันทึกการเปลี่ยนแปลง 

หน้ารายละเอียดบัญชีจะจัดระเบียบข้อมูลของคุณใน 2 แท็บ ได้แก่ เกี่ยวกับคุณและข้อมูลติดต่อ ขยายส่วนต่างๆ ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลที่คุณจัดการได้ในแต่ละแท็บ

เกี่ยวกับคุณ
  • ประเภทบัญชี (อ่านอย่างเดียว): ประเภทบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่คุณเลือกระหว่างการลงชื่อสมัครใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทบัญชี
  • รหัสบัญชี (อ่านอย่างเดียว): รหัสบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่ไม่ซ้ำกัน 19 หลัก อ้างอิงรหัสนี้หากต้องการติดต่อทีมสนับสนุนนักพัฒนาแอป Google Play
  • ชื่อนักพัฒนาแอป: แสดงใน Google Play เพื่อระบุโปรไฟล์นักพัฒนาแอปและแอปของคุณ
  • รายละเอียดองค์กร (อ่านอย่างเดียว): ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลข D-U-N-S ขององค์กรตามที่ระบุไว้ในโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ดูวิธีอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google 
    • เคล็ดลับ: คลิกดูโปรไฟล์การชำระเงินเพื่อเปิดโปรไฟล์การชำระเงิน
  • ประเภทองค์กร: ใช้เพื่อปรับแต่งวิธีที่เรายืนยันองค์กรของคุณ ข้อมูลนี้จะไม่แสดงใน Google Play คุณเลือกประเภทที่เหมาะสมที่สุดได้ในรายการแบบเลื่อนลง
  • ขนาดขององค์กร: จำนวนพนักงานในองค์กรของคุณ ข้อมูลนี้จะไม่แสดงใน Google Play คุณสามารถเลือกหมายเลขในรายการแบบเลื่อนลง
  • หมายเลขโทรศัพท์ขององค์กร: หมายเลขโทรศัพท์หลักที่เชื่อมโยงกับองค์กรของคุณในรูปแบบระหว่างประเทศ

หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้

+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)

ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890

  • เว็บไซต์ขององค์กร: URL ของเว็บไซต์หลักขององค์กร ข้อมูลนี้จะไม่แสดงใน Google Play

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักพัฒนาแอปในเกาหลี

นักพัฒนาแอปในเกาหลีจะต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไปนี้

  • หมายเลขการจดทะเบียนธุรกิจ
  • หมายเลขใบอนุญาตอีคอมเมิร์ซ
  • หน่วยงานที่ออกใบอนุญาตอีคอมเมิร์ซ 

ข้อมูลนี้จะแสดงต่อผู้ใช้ที่เข้าถึง Google Play ในภาษาเกาหลี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับการจัดจำหน่ายแอปในเกาหลี

ข้อมูลติดต่อ

วิธีที่ Google ติดต่อคุณ

Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดต่อคุณเท่านั้น และจะไม่แสดงใน Google Play

  • ชื่อผู้ติดต่อ: หากเราจำเป็นต้องพูดคุยกับใครสักคนเกี่ยวกับบัญชีของคุณ นี่คือบุคคลที่เราจะติดต่อ
  • อีเมลสำหรับติดต่อ: อีเมลที่เราจะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งจะเป็นอีเมลที่มีคุณสมบัติดังนี้
    • ต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
    • ต้องไม่ใช่อีเมลเดียวกับที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ
    • ต้องตรงกับโดเมนเว็บไซต์ขององค์กรคุณ
    • ต้องเป็นตัวแทนองค์กรของคุณ และ
    • เป็นรายชื่ออีเมลแบบกลุ่มได้
  • ภาษาที่ต้องการ: ภาษาที่องค์กรของคุณต้องการใช้สำหรับการสื่อสารทางอีเมล
  • หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่เราใช้เพื่อติดต่อองค์กรของคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว

หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้

+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)

ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890

วิธีที่ผู้ใช้ติดต่อคุณ

ข้อมูลนี้จะแสดงใน Google Play เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อคุณได้

  • หมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอป: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว

หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้

+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)

ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890

  • อีเมลของนักพัฒนาแอป: อีเมลที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อองค์กรของคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว

เคล็ดลับ: หากต้องการดูข้อมูลทั้งหมดที่อาจแสดงแบบสาธารณะใน Google Play ให้ไปที่หน้าโปรไฟล์นักพัฒนาแอป

จัดการข้อมูลในหน้าสำหรับนักพัฒนาแอป

ในการช่วยโปรโมตแบรนด์และแอปของคุณใน Google Play คุณสร้างหน้าสำหรับนักพัฒนาแอปให้ผู้ใช้เข้าชมเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์และค้นพบแอปของคุณได้ ไปที่บทความนี้ในศูนย์ช่วยเหลือเพื่อดูวิธีสร้างหรืออัปเดตหน้าสำหรับนักพัฒนาแอป

จัดการโปรไฟล์การชำระเงินที่ลิงก์กับบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play

เมื่อคุณสร้างและลิงก์โปรไฟล์การชำระเงินกับบัญชีนักพัฒนาแอป Play Console แล้ว ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบัญชีที่ลิงก์และการตั้งค่าประเทศของการชำระเงินได้

ข้อมูลบางอย่างในหน้ารายละเอียดบัญชี เช่น ชื่อและที่อยู่ จะมาจากโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่เลือกไว้ตอนที่สร้างบัญชีนักพัฒนาแอปนี้

คุณดูข้อมูลนี้ได้ในหน้าโปรไฟล์การชำระเงิน (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี > โปรไฟล์การชำระเงิน) หากต้องการเปลี่ยนข้อมูลนี้ คุณต้องอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google

หากต้องการเปลี่ยนโปรไฟล์การชำระเงิน (ที่พูดถึงด้านบน) ที่ลิงก์กับบัญชีนักพัฒนาแอป คุณสามารถสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปและโปรไฟล์การชำระเงินใหม่ และลิงก์บัญชีใหม่

บัญชีมีแอปที่เผยแพร่หรือไม่ได้เผยแพร่

หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด และส่งคำขอของคุณ

บัญชีไม่มีแอป

หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปใดๆ โดยใช้บัญชี Play Console ที่มีอยู่ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่แล้วยกเลิกบัญชีเดิมได้

จัดการการแจ้งเตือนทางอีเมลและค่ากำหนดบทบาท

คุณสามารถตั้งค่าหรืออัปเดตค่ากำหนดการแจ้งเตือนทางอีเมลและแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของคุณโดยขยายส่วนต่างๆ ด้านล่างและทำตามวิธีการ

ตั้งค่าหรืออัปเดตค่ากำหนดการแจ้งเตือนทางอีเมล

ตั้งค่ากำหนดการแจ้งเตือนทางอีเมล

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการแจ้งเตือน (การตั้งค่า > การแจ้งเตือน
  2. ขยายแต่ละส่วนและเลือกอีเมลเปิดไว้หรืออีเมลปิดไว้ ขึ้นอยู่กับค่ากำหนดของคุณ
    • หมายเหตุ: ระบบจะเลือกอีเมลเปิดไว้โดยอัตโนมัติสำหรับ "นโยบาย" และ "การชำระเงินและภาษี" การดำเนินการนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากคุณเลือกอีเมลปิดไว้สำหรับเรื่องที่ไม่บังคับอย่างเช่น "เคล็ดลับ ข่าวสาร และโอกาส" เราจะยังส่งอีเมลที่จำเป็น เช่น ประกาศเกี่ยวกับการให้บริการที่จำเป็นไปยังอีเมลที่เชื่อมโยงกับโปรไฟล์นักพัฒนาแอป
  3. บันทึกการเปลี่ยนแปลง

หากต้องการอัปเดตค่ากำหนดการแจ้งเตือนในอนาคต คุณสามารถทำตามขั้นตอนข้างต้นและเปลี่ยนการเลือกของคุณ

เปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชี

  1. ในบัญชี Google ให้ไปที่ความปลอดภัย
  2. ในส่วน "วิธีลงชื่อเข้าใช้ Google" ให้คลิกรหัสผ่าน
  3. ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอและบันทึกการเปลี่ยนแปลง

เคล็ดลับ: หากพบปัญหาในการลงชื่อเข้าใช้บัญชี โปรดไปที่การกู้คืนบัญชี Google

โอนแอปไปยังบัญชีอื่น

หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีอื่น โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด และส่งคำขอของคุณ

ลบบัญชีนักพัฒนาแอป

หากยังไม่ได้เผยแพร่แอป

คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปและต้องการลบบัญชีนักพัฒนาแอปหรือโอนแอปทั้งหมดไปยังบัญชีอื่น การลบบัญชี Google จะไม่ลบบัญชีนักพัฒนาแอปออกโดยอัตโนมัติ

หากเผยแพร่แอปแล้ว

เมื่อคุณใช้บัญชีนักพัฒนาแอปเผยแพร่แอปแล้วและต้องการลบบัญชี ให้ดำเนินการดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีเดิมเพื่อสำรองข้อมูลหรือดาวน์โหลดข้อมูลก่อนขอลบบัญชี หากลบบัญชี Play Console คุณจะใช้บัญชีดังกล่าวไม่ได้แล้ว
  2. ติดต่อทีมสนับสนุนของเราเพื่อโอนแอปไปยังบัญชีอื่น
  3. ตอบกลับการยืนยันการโอนแอปเพื่อปิดบัญชีที่มีอยู่

หมายเหตุ:

  • หากต้องการใช้ชื่อนักพัฒนาแอปเดิมในบัญชีใหม่ คุณจะต้องเปลี่ยนชื่อนักพัฒนาแอปในบัญชีที่มีอยู่เป็นชื่ออื่น ชื่อนักพัฒนาแอปจะเหมือนกันไม่ได้
  • การลบบัญชี Google จะไม่ลบบัญชีนักพัฒนาแอปออกโดยอัตโนมัติ

คำถามที่พบบ่อย

อีเมลและประเทศของเจ้าของบัญชีจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่คุณใช้อีเมล (ชื่อผู้ใช้) อื่นเพื่อระบุบัญชี Google ของคุณได้ นอกจากนี้ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่โดยใช้อีเมลหรือประเทศอื่นและโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ได้

บัญชีมีแอปที่เผยแพร่หรือไม่ได้เผยแพร่

หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด และส่งคำขอของคุณ

บัญชีไม่มีแอป

หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปใดๆ โดยใช้บัญชี Play Console ที่มีอยู่ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่แล้วยกเลิกบัญชีเดิมได้

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
4938778752631288141
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false