ข้อมูลในบทความนี้ใช้กับบัญชีนักพัฒนาแอปที่สร้างขึ้นหลังวันที่ 31 สิงหาคม 2023 เท่านั้น หากคุณสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2023 ให้ไปที่บทความนี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บล็อกของนักพัฒนาแอป Android
คุณอัปเดตข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปได้โดยใช้ Google Play Console มีเพียงเจ้าของบัญชีเท่านั้นที่เปลี่ยนข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปที่คุณให้ได้และข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นไปตามนโยบายโปรแกรมสำหรับนักพัฒนาแอปของ Google Play
สำคัญ: คุณต้องรักษาข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปให้ถูกต้องเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ Google Play หากข้อมูลระบุตัวตนหรือข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาแอปมีการเปลี่ยนแปลง โปรดอย่าลืมอัปเดตข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณใน Play Console เพื่อไม่ให้บัญชีถูกจำกัดและไม่ให้แอปถูกนำออกจาก Google Play ดูข้อมูลเกี่ยวกับการอัปเดตข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปให้เป็นปัจจุบัน
จัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปทั่วไป (บัญชีนักพัฒนาแอปทั้งหมด)
นักพัฒนาแอปที่มีบัญชีประเภทใดก็ตาม (ส่วนบุคคลและองค์กร) สามารถให้ ดู และจัดการข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ด้วยการขยายส่วนต่างๆ และทำตามวิธีการ
รายละเอียดสำหรับติดต่อในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Storeวิธีอัปเดตข้อมูลติดต่อในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่า Store
- ในส่วน "ข้อมูลติดต่อในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store" ให้พิมพ์อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และเว็บไซต์ ทั้งนี้ต้องระบุอีเมลเพื่อเผยแพร่หรืออัปเดตแอปบน Google Play
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ข้อมูลนี้จะปรากฏในหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Google Play Store ของแอป
- เปิด Play Console
- ไปที่หน้าสำหรับนักพัฒนาแอป
- ข้าง "ชื่อนักพัฒนาแอป" ให้พิมพ์ชื่อที่คุณต้องการให้แสดงใน Google Play
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
วิธีอัปเดตชื่อนักพัฒนาแอป
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าเกี่ยวกับคุณ (บัญชีนักพัฒนาแอป > เกี่ยวกับคุณ)
- ข้าง "ชื่อนักพัฒนาแอป" ให้พิมพ์ชื่อที่คุณต้องการให้แสดงใน Google Play
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง ชื่อนักพัฒนาแอปที่อัปเดตของคุณจะปรากฏใน Google Play หลังจากที่เราตรวจสอบและอนุมัติแล้ว
บัญชีผู้ขาย (บัญชีนักพัฒนาแอปซึ่งมีแอปที่สร้างรายได้ผ่านแอปที่ต้องซื้อหรือการซื้อในแอป) ต้องแสดงที่อยู่แบบเต็มใน Google Play เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ที่อยู่ที่ใช้คือที่อยู่ที่ได้จากโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่ลิงก์กับบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ของคุณ
คุณสามารถดูข้อมูลนี้ในหน้ารายละเอียดบัญชี (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี)
หากต้องการเปลี่ยนข้อมูลนี้ คุณต้องอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google
จัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปส่วนบุคคล
หากบัญชีนักพัฒนาแอปเป็นบัญชีส่วนบุคคล คุณสามารถดูและจัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปโดยไปที่หน้ารายละเอียดบัญชี (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี) ป้อนข้อมูลล่าสุด และบันทึกการเปลี่ยนแปลง
หน้ารายละเอียดบัญชีจะจัดระเบียบข้อมูลของคุณใน 2 แท็บ ได้แก่ เกี่ยวกับคุณและข้อมูลติดต่อ ขยายส่วนต่างๆ ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลที่คุณจัดการได้ในแต่ละแท็บ
เกี่ยวกับคุณ- ประเภทบัญชี (อ่านอย่างเดียว): ประเภทบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่คุณเลือกระหว่างการลงชื่อสมัครใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทบัญชี
- รหัสบัญชี (อ่านอย่างเดียว): รหัสบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่ไม่ซ้ำกัน 19 หลัก อ้างอิงรหัสนี้หากต้องการติดต่อทีมสนับสนุนนักพัฒนาแอป Google Play
- ชื่อนักพัฒนาแอป: แสดงใน Google Play เพื่อระบุโปรไฟล์นักพัฒนาแอปและแอปของคุณ
วิธีที่ Google ติดต่อคุณ
Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดต่อคุณเท่านั้น และจะไม่แสดงใน Google Play
- ชื่อผู้ติดต่อ: หากเราจำเป็นต้องพูดคุยกับใครสักคนเกี่ยวกับบัญชีของคุณ นี่คือบุคคลที่เราจะติดต่อ
- อีเมลสำหรับติดต่อ: อีเมลที่เราจะใช้เพื่อติดต่อคุณ ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
- ภาษาที่ต้องการ: ภาษาที่คุณต้องการใช้สำหรับการสื่อสารทางอีเมล
- หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่เราจะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้
+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)
ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890
วิธีที่ผู้ใช้ติดต่อคุณ
Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดต่อคุณเท่านั้น และจะไม่แสดงใน Google Play
- (นักพัฒนาแอปในเกาหลีเท่านั้น) หมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอป: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับการจัดจำหน่ายแอปในเกาหลี
หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้
+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)
ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890
- อีเมลของนักพัฒนาแอป: อีเมลที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
เคล็ดลับ: หากต้องการดูข้อมูลทั้งหมดที่อาจแสดงแบบสาธารณะใน Google Play ให้ไปที่หน้าโปรไฟล์นักพัฒนาแอป
จัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปขององค์กร
หากบัญชีนักพัฒนาแอปมีไว้สำหรับองค์กร คุณสามารถดูและจัดการข้อมูลบัญชีนักพัฒนาแอปโดยไปที่หน้ารายละเอียดบัญชี (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี) ป้อนข้อมูลล่าสุด และบันทึกการเปลี่ยนแปลง
หน้ารายละเอียดบัญชีจะจัดระเบียบข้อมูลของคุณใน 2 แท็บ ได้แก่ เกี่ยวกับคุณและข้อมูลติดต่อ ขยายส่วนต่างๆ ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลที่คุณจัดการได้ในแต่ละแท็บ
เกี่ยวกับคุณ- ประเภทบัญชี (อ่านอย่างเดียว): ประเภทบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่คุณเลือกระหว่างการลงชื่อสมัครใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทบัญชี
- รหัสบัญชี (อ่านอย่างเดียว): รหัสบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ที่ไม่ซ้ำกัน 19 หลัก อ้างอิงรหัสนี้หากต้องการติดต่อทีมสนับสนุนนักพัฒนาแอป Google Play
- ชื่อนักพัฒนาแอป: แสดงใน Google Play เพื่อระบุโปรไฟล์นักพัฒนาแอปและแอปของคุณ
- รายละเอียดองค์กร (อ่านอย่างเดียว): ชื่อ ที่อยู่ และหมายเลข D-U-N-S ขององค์กรตามที่ระบุไว้ในโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ดูวิธีอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google
- เคล็ดลับ: คลิกดูโปรไฟล์การชำระเงินเพื่อเปิดโปรไฟล์การชำระเงิน
- ประเภทองค์กร: ใช้เพื่อปรับแต่งวิธีที่เรายืนยันองค์กรของคุณ ข้อมูลนี้จะไม่แสดงใน Google Play คุณเลือกประเภทที่เหมาะสมที่สุดได้ในรายการแบบเลื่อนลง
- ขนาดขององค์กร: จำนวนพนักงานในองค์กรของคุณ ข้อมูลนี้จะไม่แสดงใน Google Play คุณสามารถเลือกหมายเลขในรายการแบบเลื่อนลง
- หมายเลขโทรศัพท์ขององค์กร: หมายเลขโทรศัพท์หลักที่เชื่อมโยงกับองค์กรของคุณในรูปแบบระหว่างประเทศ
หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้
+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)
ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890
- เว็บไซต์ขององค์กร: URL ของเว็บไซต์หลักขององค์กร ข้อมูลนี้จะไม่แสดงใน Google Play
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักพัฒนาแอปในเกาหลี
นักพัฒนาแอปในเกาหลีจะต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไปนี้
- หมายเลขการจดทะเบียนธุรกิจ
- หมายเลขใบอนุญาตอีคอมเมิร์ซ
- หน่วยงานที่ออกใบอนุญาตอีคอมเมิร์ซ
ข้อมูลนี้จะแสดงต่อผู้ใช้ที่เข้าถึง Google Play ในภาษาเกาหลี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับการจัดจำหน่ายแอปในเกาหลี
วิธีที่ Google ติดต่อคุณ
Google ใช้ข้อมูลนี้เพื่อติดต่อคุณเท่านั้น และจะไม่แสดงใน Google Play
- ชื่อผู้ติดต่อ: หากเราจำเป็นต้องพูดคุยกับใครสักคนเกี่ยวกับบัญชีของคุณ นี่คือบุคคลที่เราจะติดต่อ
- อีเมลสำหรับติดต่อ: อีเมลที่เราจะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งจะเป็นอีเมลที่มีคุณสมบัติดังนี้
- ต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
- ต้องไม่ใช่อีเมลเดียวกับที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ
- ต้องตรงกับโดเมนเว็บไซต์ขององค์กรคุณ
- ต้องเป็นตัวแทนองค์กรของคุณ และ
- เป็นรายชื่ออีเมลแบบกลุ่มได้
- ภาษาที่ต้องการ: ภาษาที่องค์กรของคุณต้องการใช้สำหรับการสื่อสารทางอีเมล
- หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่เราใช้เพื่อติดต่อองค์กรของคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้
+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)
ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890
วิธีที่ผู้ใช้ติดต่อคุณ
ข้อมูลนี้จะแสดงใน Google Play เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อคุณได้
- หมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอป: หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
หมายเลขโทรศัพท์ในรูปแบบระหว่างประเทศจะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ และหมายเลขโทรศัพท์ ดังนี้
+(รหัสประเทศ)(รหัสพื้นที่)(หมายเลขโทรศัพท์)
ตัวอย่างเช่น +14155552671, +441234567890
- อีเมลของนักพัฒนาแอป: อีเมลที่ผู้ใช้จะใช้เพื่อติดต่อองค์กรของคุณหากจำเป็น ซึ่งต้องได้รับการยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว
เคล็ดลับ: หากต้องการดูข้อมูลทั้งหมดที่อาจแสดงแบบสาธารณะใน Google Play ให้ไปที่หน้าโปรไฟล์นักพัฒนาแอป
จัดการข้อมูลในหน้าสำหรับนักพัฒนาแอป
ในการช่วยโปรโมตแบรนด์และแอปของคุณใน Google Play คุณสร้างหน้าสำหรับนักพัฒนาแอปให้ผู้ใช้เข้าชมเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์และค้นพบแอปของคุณได้ ไปที่บทความนี้ในศูนย์ช่วยเหลือเพื่อดูวิธีสร้างหรืออัปเดตหน้าสำหรับนักพัฒนาแอป
จัดการโปรไฟล์การชำระเงินที่ลิงก์กับบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play
เมื่อคุณสร้างและลิงก์โปรไฟล์การชำระเงินกับบัญชีนักพัฒนาแอป Play Console แล้ว ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบัญชีที่ลิงก์และการตั้งค่าประเทศของการชำระเงินได้
ข้อมูลบางอย่างในหน้ารายละเอียดบัญชี เช่น ชื่อและที่อยู่ จะมาจากโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่เลือกไว้ตอนที่สร้างบัญชีนักพัฒนาแอปนี้
คุณดูข้อมูลนี้ได้ในหน้าโปรไฟล์การชำระเงิน (บัญชีนักพัฒนาแอป > รายละเอียดบัญชี > โปรไฟล์การชำระเงิน) หากต้องการเปลี่ยนข้อมูลนี้ คุณต้องอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google
หากต้องการเปลี่ยนโปรไฟล์การชำระเงิน (ที่พูดถึงด้านบน) ที่ลิงก์กับบัญชีนักพัฒนาแอป คุณสามารถสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปและโปรไฟล์การชำระเงินใหม่ และลิงก์บัญชีใหม่
บัญชีมีแอปที่เผยแพร่หรือไม่ได้เผยแพร่
หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด และส่งคำขอของคุณ
บัญชีไม่มีแอป
หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปใดๆ โดยใช้บัญชี Play Console ที่มีอยู่ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่แล้วยกเลิกบัญชีเดิมได้
จัดการการแจ้งเตือนทางอีเมลและค่ากำหนดบทบาท
คุณสามารถตั้งค่าหรืออัปเดตค่ากำหนดการแจ้งเตือนทางอีเมลและแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของคุณโดยขยายส่วนต่างๆ ด้านล่างและทำตามวิธีการ
ตั้งค่าหรืออัปเดตค่ากำหนดการแจ้งเตือนทางอีเมลตั้งค่ากำหนดการแจ้งเตือนทางอีเมล
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการแจ้งเตือน (การตั้งค่า > การแจ้งเตือน)
- ขยายแต่ละส่วนและเลือกอีเมลเปิดไว้หรืออีเมลปิดไว้ ขึ้นอยู่กับค่ากำหนดของคุณ
- หมายเหตุ: ระบบจะเลือกอีเมลเปิดไว้โดยอัตโนมัติสำหรับ "นโยบาย" และ "การชำระเงินและภาษี" การดำเนินการนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากคุณเลือกอีเมลปิดไว้สำหรับเรื่องที่ไม่บังคับอย่างเช่น "เคล็ดลับ ข่าวสาร และโอกาส" เราจะยังส่งอีเมลที่จำเป็น เช่น ประกาศเกี่ยวกับการให้บริการที่จำเป็นไปยังอีเมลที่เชื่อมโยงกับโปรไฟล์นักพัฒนาแอป
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
หากต้องการอัปเดตค่ากำหนดการแจ้งเตือนในอนาคต คุณสามารถทำตามขั้นตอนข้างต้นและเปลี่ยนการเลือกของคุณ
เปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชี
- ในบัญชี Google ให้ไปที่ความปลอดภัย
- ในส่วน "วิธีลงชื่อเข้าใช้ Google" ให้คลิกรหัสผ่าน
- ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอและบันทึกการเปลี่ยนแปลง
เคล็ดลับ: หากพบปัญหาในการลงชื่อเข้าใช้บัญชี โปรดไปที่การกู้คืนบัญชี Google
โอนแอปไปยังบัญชีอื่น
หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีอื่น โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด และส่งคำขอของคุณ
ลบบัญชีนักพัฒนาแอป
หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปคุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปและต้องการลบบัญชีนักพัฒนาแอปหรือโอนแอปทั้งหมดไปยังบัญชีอื่น การลบบัญชี Google จะไม่ลบบัญชีนักพัฒนาแอปออกโดยอัตโนมัติ
เมื่อคุณใช้บัญชีนักพัฒนาแอปเผยแพร่แอปแล้วและต้องการลบบัญชี ให้ดำเนินการดังนี้
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชีเดิมเพื่อสำรองข้อมูลหรือดาวน์โหลดข้อมูลก่อนขอลบบัญชี หากลบบัญชี Play Console คุณจะใช้บัญชีดังกล่าวไม่ได้แล้ว
- ติดต่อทีมสนับสนุนของเราเพื่อโอนแอปไปยังบัญชีอื่น
- ตอบกลับการยืนยันการโอนแอปเพื่อปิดบัญชีที่มีอยู่
หมายเหตุ:
- หากต้องการใช้ชื่อนักพัฒนาแอปเดิมในบัญชีใหม่ คุณจะต้องเปลี่ยนชื่อนักพัฒนาแอปในบัญชีที่มีอยู่เป็นชื่ออื่น ชื่อนักพัฒนาแอปจะเหมือนกันไม่ได้
-
การลบบัญชี Google จะไม่ลบบัญชีนักพัฒนาแอปออกโดยอัตโนมัติ
คำถามที่พบบ่อย
ฉันเปลี่ยนอีเมลและประเทศของเจ้าของบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ได้ไหมอีเมลและประเทศของเจ้าของบัญชีจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่คุณใช้อีเมล (ชื่อผู้ใช้) อื่นเพื่อระบุบัญชี Google ของคุณได้ นอกจากนี้ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่โดยใช้อีเมลหรือประเทศอื่นและโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ได้
บัญชีมีแอปที่เผยแพร่หรือไม่ได้เผยแพร่
หากต้องการโอนแอปไปยังบัญชีใหม่ โปรดไปที่รายการตรวจสอบการโอนแอป ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด และส่งคำขอของคุณ
บัญชีไม่มีแอป
หากยังไม่ได้เผยแพร่แอปใดๆ โดยใช้บัญชี Play Console ที่มีอยู่ คุณสามารถสร้างบัญชีใหม่แล้วยกเลิกบัญชีเดิมได้
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- ข้อมูลที่จำเป็นในการสร้างบัญชีนักพัฒนาแอป Play Console
- เลือกประเภทบัญชีนักพัฒนาแอป
- ดูนโยบายข้อกำหนดของ Play Console
- ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บล็อกของนักพัฒนาแอป Android