ล้างและแก้ปัญหาพื้นที่เก็บข้อมูลใน Google

คุณจะล้างพื้นที่เก็บข้อมูลในบัญชีผ่านทาง Google One ได้

ใช้ตัวจัดการพื้นที่เก็บข้อมูล

จัดการพื้นที่เก็บข้อมูลผ่าน Google One

  1. ไปที่ Google One ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกดูในส่วน "เพิ่มพื้นที่ว่าง"
  3. คลิกตรวจสอบและล้างในหมวดหมู่ที่จะจัดการ
  4. เลือกไฟล์ที่ต้องการนำออก นอกจากนี้ คุณยังคลิกไฟล์เพื่อดูได้ด้วย
    • Gmail: หากต้องการกรองตามขนาด ให้คลิกไอคอนตัวกรองที่ด้านขวาบน จัดเรียง
    • ไดรฟ์: หากต้องการจัดเรียงไฟล์ตามแอตทริบิวต์ต่อไปนี้ของไฟล์ ให้ใช้ตัวเลือกการจัดเรียงที่ด้านขวาบน
      • แก้ไขล่าสุด
      • ชื่อไฟล์
      • ขนาด
    • Photos: หากต้องการบันทึกไฟล์ไว้ในเครื่องก่อนนำออกจากบัญชี Google ให้คลิกดาวน์โหลด
  5. หลังจากเลือกไฟล์แล้ว ให้คลิกลบที่ด้านบนขวา สำหรับ Photos ให้คลิกย้ายไปที่ถังขยะ
  6. อ่านข้อความให้ความยินยอมเพื่อยืนยัน
  7. เลือกช่องเพื่อดำเนินการต่อ
  8. หากต้องการลบไฟล์ที่เลือก ให้คลิกลบถาวร สำหรับ Photos ให้คลิกย้ายไปที่ถังขยะ

ปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่เก็บข้อมูล

สมาชิกในครอบครัวใช้พื้นที่เก็บข้อมูลที่แชร์มากเกินไป

ตามค่าเริ่มต้น สมาชิกในครอบครัวจะใช้พื้นที่เก็บข้อมูลที่มีอยู่เท่าใดก็ได้ หากมีใครใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมากเกินไป ลองขอให้สมาชิกคนดังกล่าวล้างพื้นที่เก็บข้อมูลบางส่วน

ดูวิธีเลิกแชร์ Google One หากคุณไม่ต้องการแชร์พื้นที่เก็บข้อมูลกับครอบครัว

พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพิ่มขึ้นหลังจากอัปเกรด

หลังจากซื้อแพ็กเกจพื้นที่เก็บข้อมูลใหม่ ระบบอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงก่อนที่พื้นที่เก็บข้อมูลใหม่ของคุณจะใช้งานได้

หากพื้นที่เก็บข้อมูลยังคงไม่ถูกต้องหลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google เพื่อดูว่าชำระเงินสำเร็จหรือไม่ 

หากชำระเงินสำเร็จและผ่านไป 24 ชั่วโมงแล้วหลังจากที่อัปเกรด แต่พื้นที่เก็บข้อมูลยังไม่ถูกต้อง โปรดลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาด้านล่าง

หากมีการเรียกเก็บเงินจากบัตรสำหรับชำระเงินของคุณ แต่การชำระเงินไม่แสดงในบัญชี Google ให้ตรวจสอบว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google หลายบัญชีหรือไม่ หากใช่ คุณอาจซื้อ Google One จากบัญชีอื่น ซึ่งคุณสามารถยกเลิกการซื้อในบัญชีนั้นและซื้อ Google One อีกครั้งในบัญชีที่ต้องการได้ ดูวิธียกเลิกการซื้อ Google One

แก้ปัญหาพื้นที่เก็บข้อมูลไม่ถูกต้องเมื่อผ่านไป 24 ชั่วโมงหลังจากการซื้อ

เคล็ดลับ: หากคุณใช้ iPhone หรือ iPad ให้ลองปิดแอป Google One แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง หากต้องการทราบวิธีปิดแอปใน iPhone หรือ iPad ให้ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple

เข้าสู่ระบบบัญชี Google ในโหมดส่วนตัว 

หากใช้ Google Chrome ให้ลองเข้าสู่ระบบบัญชีโดยใช้หน้าต่างที่ไม่ระบุตัวตน การดำเนินการนี้อาจบังคับให้มีการซิงค์ข้อมูลบัญชีของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ของ Google

สำคัญ: เบราว์เซอร์ส่วนใหญ่มีฟีเจอร์ที่ฝังไว้เพื่อเข้าสู่โหมดส่วนตัวหรือไม่ระบุตัวตน หากคุณไม่ได้ใช้ Chrome และต้องการวิธีการที่เฉพาะเจาะจงสำหรับเบราว์เซอร์ โปรดไปที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการเบราว์เซอร์

รีสตาร์ทโทรศัพท์

สำคัญ: การตั้งค่าอาจแตกต่างกันไปตามโทรศัพท์แต่ละรุ่น โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

  1. ในโทรศัพท์ส่วนใหญ่ ให้กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีหรือจนกว่าโทรศัพท์จะรีสตาร์ท 
  2. คุณอาจต้องแตะรีสตาร์ท จากนั้น รีสตาร์ท

อัปเดตแอป (Android เท่านั้น)

ตรวจสอบว่ามีการอัปเดตสำหรับแอปกล้องหรือไม่ โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอป Google Play Store Google Play
  2. แตะไอคอนโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
  3. แตะจัดการแอปและอุปกรณ์
  4. ในส่วน "มีการอัปเดต" ให้ติดตั้งอัปเดตที่พร้อมใช้งานสำหรับกล้อง Pixel

ตรวจสอบว่ามีการอัปเดตระบบ Android หรือไม่ โดยทำดังนี้

  1. เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
  2. แตะระบบ
  3. แตะการอัปเดตซอฟต์แวร์
  4. แตะการอัปเดตระบบ
  5. แตะตรวจหาการอัปเดต
 
พื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ได้ไม่เพิ่มขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น

เคล็ดลับ: หากคุณเปลี่ยนความจุของพื้นที่เก็บข้อมูล อาจใช้เวลาสูงสุด 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงจึงจะมีผลกับบัญชี

การเป็นสมาชิก Google One จะแทนที่แพ็กเกจพื้นที่เก็บข้อมูลปัจจุบันของคุณ โดยพื้นที่เก็บข้อมูลจากการเป็นสมาชิก Google One นี้จะกลายเป็นความจุพื้นที่เก็บข้อมูลใหม่ และจะไม่เพิ่มทบปริมาณพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีอยู่แล้ว

หากคุณมีพื้นที่เก็บข้อมูลที่ได้รับจากโปรโมชัน พื้นที่เพิ่มเติมส่วนนี้จะยังคงอยู่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google One ทำงานร่วมกับพื้นที่เก็บข้อมูลที่มีอยู่

พื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ได้ไม่เพิ่มขึ้นหลังจากลบไฟล์

ไฟล์บางประเภทอาจไม่ได้ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลของคุณ ผลิตภัณฑ์และไฟล์ที่ต่างกันจะได้รับการจัดเก็บแตกต่างกันไปและมีขนาดไม่เท่ากัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์ที่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูล

คุณส่งหรือรับอีเมลไม่ได้หลังจากที่อัปเกรด

หากคุณเปลี่ยนความจุของพื้นที่เก็บข้อมูล อาจใช้เวลาสูงสุด 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงจึงจะมีผลกับบัญชี ซึ่งข้อความที่รับส่งผ่าน Gmail อาจได้รับผลกระทบในระหว่างนี้ ลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาต่อไปนี้

  1. ออกจากระบบบัญชี Google แล้วลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง
  2. ส่งอีเมลทดสอบให้ตัวเอง
  3. หากไม่ได้ผล ให้ทำดังนี้
    • เปิดหน้าต่างที่ไม่ระบุตัวตนแล้วลงชื่อเข้าใช้บัญชี Gmail จากนั้นลองส่งอีเมล
    • ใช้เบราว์เซอร์อื่น เช่น Microsoft Edge หรือ Firefox เพื่อเปิดบัญชี Google แล้วลองส่งอีเมล

หากยังคงส่งข้อความไม่ได้ โปรดรอ 24 ชั่วโมงแล้วลองอีกครั้ง

ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพื้นที่เก็บข้อมูลเต็ม

ไฟล์ทั้งหมดจะยังคงปลอดภัย แต่คุณจะเก็บข้อมูลใหม่เพิ่มไม่ได้ เช่น

  • Gmail: คุณจะรับส่งข้อความไม่ได้ และระบบจะส่งข้อความที่ส่งถึงคุณกลับคืนให้ผู้ส่ง
  • Google ไดรฟ์
    • คุณจะซิงค์หรืออัปโหลดไฟล์ใหม่ไม่ได้
    • ระบบจะหยุดซิงค์ระหว่างโฟลเดอร์ Google ไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์และ "ไดรฟ์ของฉัน"
    • คุณจะไม่สามารถสร้างไฟล์ใหม่ในผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้
      • Google เอกสาร
      • ชีต
      • สไลด์
      • วาดเขียน
      • ฟอร์ม
      • Jamboard
    • นอกจากนี้จะไม่มีใครสามารถแก้ไขหรือคัดลอกไฟล์ได้จนกว่าจะลดปริมาณการใช้พื้นที่เก็บข้อมูล
  • Google Photos: คุณจะสำรองข้อมูลรูปภาพหรือวิดีโอไม่ได้ หากต้องการเพิ่มรูปภาพและวิดีโออีก คุณต้องล้างพื้นที่เก็บข้อมูลของ Google หรือซื้อพื้นที่เก็บข้อมูล Google เพิ่ม

ล้างพื้นที่เก็บข้อมูล

ดูวิธีจัดการพื้นที่ใน Google ไดรฟ์

จัดการการสมัครใช้บริการที่ไม่ได้ซื้อใน App Store

ข้อควรทราบหากคุณใช้เว็บไซต์ Google One หรืออุปกรณ์อื่นในการลงชื่อสมัครใช้แพ็กเกจแทน App Store

  • คุณไม่สามารถเปลี่ยนแพ็กเกจ Google One ใน iPhone หรือ iPad ได้

เคล็ดลับ: หากซื้อแพ็กเกจผ่านเว็บไซต์ Google One คุณจะจัดการแพ็กเกจบนเว็บได้ที่ Google One

  1. ที่ด้านขวาบน ให้เลือกการตั้งค่า การตั้งค่า จากนั้น เปลี่ยนแพ็กเกจสมาชิก
  2. เลือกความจุใหม่ของพื้นที่เก็บข้อมูล โดยคุณสามารถเลือกสมัครใช้บริการแบบรายเดือนหรือรายปีก็ได้

หากคุณใช้ Google One ในอุปกรณ์ Android คุณจะเปลี่ยนแพ็กเกจสมาชิกได้ในการตั้งค่า

หากต้องการจัดการแพ็กเกจสมาชิกผ่านแอปใน iPhone หรือ iPad คุณต้องซื้อแพ็กเกจด้วยการสมัครใช้บริการของ Apple

ขั้นตอนที่ 1: ยกเลิกแพ็กเกจ Google One

ในคอมพิวเตอร์

  1. ไปที่ Google One
  2. ที่ด้านขวาบน ให้เลือกการตั้งค่า การตั้งค่า จากนั้น ยกเลิกการเป็นสมาชิก
  3. เลือกยกเลิก

ขั้นตอนที่ 2: ซื้อแพ็กเกจ Google One โดยใช้การสมัครใช้บริการของ Apple

ใน iPhone หรือ iPad

  1. ดาวน์โหลดแอป Google One จาก App Store
  2. เปิดแอป Google One Google One
  3. แตะเมนู เมนู จากนั้น แพ็กเกจสมาชิกทางด้านซ้าย
  4. เลือกแพ็กเกจ Google One
  5. หลังจากเลือกแพ็กเกจแล้ว ให้ยืนยันการสมัครใช้บริการใหม่ใน App Store

เคล็ดลับ: คุณยังจัดการวิธีการชำระเงินหรือจัดการการสมัครใช้บริการผ่าน Google Play ได้ด้วย

ปัญหาเกี่ยวกับบัญชี Workspace
หากคุณใช้บัญชี Workspace ผู้ดูแลระบบ Workspace จะควบคุมโควต้าของคุณ คุณสามารถจัดการแต่ละไฟล์แยกกันใน Gmail, Photos และไดรฟ์ได้ ดูวิธีจัดการไฟล์ในพื้นที่เก็บข้อมูล Google ไดรฟ์
จัดการข้อมูลสำรองจาก WhatsApp

สำหรับ Android ตอนนี้ข้อมูลสำรองจาก WhatsApp จะใช้พื้นที่เก็บข้อมูลในบัญชี Google ของคุณ

วิธีตรวจสอบและลบข้อมูลสำรองจาก WhatsApp

  1. เปิดแอป Google One Google One
  2. ที่ด้านล่าง ให้แตะพื้นที่เก็บข้อมูล จากนั้น เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลของบัญชี
  3. ในส่วน "ล้างข้อมูลรายการอื่นๆ" ให้แตะ WhatsApp
  4. แตะลบข้อมูลสำรองใต้ข้อมูลสำรองที่ต้องการลบ

คุณสามารถลบข้อมูลสำรองจาก WhatsApp ออกจากเบราว์เซอร์ได้ด้วย โดยทำดังนี้

  1. ไปที่ one.google.com/backup/management/whatsapp
  2. คลิกลบข้อมูลสำรองข้างข้อมูลสำรองที่ต้องการลบ

เคล็ดลับ: การลบข้อมูลสำรองไม่ได้เป็นการปิดการสำรองข้อมูลในอนาคต ดูวิธีจัดการการตั้งค่าการสำรองข้อมูล

ดูวิธีจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลของ Google One ในคำแนะนำทีละขั้นตอน

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
10769562108193778584
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
5044059
false
false