ตั้งค่าการโทรบนลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest

คุณใช้ลำโพงและจอแสดงผลของ Google Nest และ Home เพื่อโทรหาเพื่อน ครอบครัว และธุรกิจโดยใช้เสียงของคุณได้ ตั้งค่าวิธีการโทรที่ต้องการใช้ จากนั้นโทรออกจากลำโพงหรือจอแสดงผล

การโทรออกผ่านลำโพงและจอแสดงผล Nest ทำได้ 3 วิธีดังนี้

• การโทรผ่าน Google Meet (เดิมคือ Google Duo)
  • พร้อมให้บริการในทุกประเทศและภาษาที่จำหน่ายลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest หรือ Home
• การโทรที่ Google รองรับ
  • พร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น
• การโทรผ่านมือถือด้วย Google Fi และ Google Voice
  • *พร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
  • ต้องมีแพ็กเกจ Google Fi หรือ Google Voice

หมายเหตุ: การรองรับ Telstra, Taiwan Mobile และ Telecom Italia สิ้นสุดลงแล้ว

แม้ว่า Google Duo และ Google Meet รวมกันเป็นแอป Meet เวอร์ชันใหม่ ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ แต่จอแสดงผล Google Nest จะยังแสดงไอคอน Google Duo ต่อไป

การโทรพร้อมให้บริการบนอุปกรณ์ต่อไปนี้

• จอแสดงผล: Google Nest Hub, Google Nest Hub (รุ่นที่ 2), Google Nest Hub Max
• ลำโพง: Google Home, Google Nest Mini (รุ่นที่ 2), Google Home Mini (รุ่นที่ 1), Google Home Max, Google Nest Audio, Google Nest Wifi Point

เปรียบเทียบวิธีการโทร

คุณต้องตั้งค่าวิธีการโทรก่อนเริ่มโทรบนลำโพงหรือจอแสดงผล Nest

วิธีการโทรที่คุณควรใช้จะขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณอาศัยอยู่ คนที่คุณต้องการโทรหา และประเภทการโทรที่ต้องการ

ฟีเจอร์วิธีการโทร

ดูการเปรียบเทียบวิธีการโทรได้ที่ด้านล่างนี้

ฟีเจอร์	การโทรผ่าน Google Meet	การโทรที่ Google รองรับ	การโทรผ่านมือถือ (Google Fi และ Google Voice)
วิดีโอคอล	ได้	ไม่ได้	ไม่ได้
โทรด้วยเสียง	ได้	ได้	ได้
รับสายจากผู้อื่น	ได้ จากผู้ใช้ Google Meet คนอื่นๆ	ไม่ได้	ไม่ได้
คุณโทรหาใครได้บ้าง	โทรออกและรับสายกับผู้ใช้ Google Meet คนอื่นๆ ทั่วโลก	หมายเลขส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน และโทรศัพท์สำหรับธุรกิจในประเทศเหล่านี้ หมายเลขต้องอยู่ใน Google Contacts ของคุณ	ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือและแพ็กเกจโทรศัพท์ของคุณ อาจมีบริการโทรระหว่างประเทศ
ค่าใช้จ่าย	ไม่มีค่าใช้จ่าย	ไม่มีค่าใช้จ่ายหากโทรภายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา	ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับแพ็กเกจของผู้ให้บริการ อาจมีค่าบริการอินเทอร์เน็ต จำเป็นต้องสมัครใช้บริการ
การโทรหาหมายเลขฉุกเฉิน	ไม่ได้	ไม่ได้	ไม่ได้

ความพร้อมให้บริการของวิธีการโทรในแต่ละประเทศ

คุณสามารถดูวิธีการโทรที่มีให้บริการในประเทศที่คุณอาศัยอยู่ได้โดยทำดังนี้

ประเทศ	การโทรผ่าน Google Meet	การโทรที่ Google รองรับ	การโทรผ่านมือถือ
สหรัฐอเมริกา	ได้	ได้	ได้ (Google Fi และ Google Voice)
แคนาดา	ได้	ได้	ไม่ได้
ประเทศอื่นๆ ที่จำหน่ายลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest หรือ Home	ได้	ไม่ได้	ไม่ได้

1. ลิงก์แอปหรือบริการโทรในแอป Google Home

หมายเหตุ: เมื่อใช้การโทรที่ Google รองรับ (สหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น) คุณไม่จำเป็นต้องลิงก์แอปหรือบริการเพิ่มเติมเพื่อโทรหารายชื่อติดต่อ Google

ตั้งค่าการโทรผ่าน Google Meet

วิธีเชื่อมต่อบัญชี Google Meet กับลำโพงหรือจอแสดงผล Nest

1. เปิดแอป Google Home 
2. แตะการตั้งค่า
3. แตะการสื่อสาร แอปวิดีโอคอลและโทรด้วยเสียง Google Meet
   • ในบางอุปกรณ์ คุณอาจต้องแตะ Google Duo
4. ทำตามวิธีการตั้งค่าในแอป

ตั้งค่าการโทรผ่านมือถือด้วย Google Fi หรือ Google Voice (สหรัฐอเมริกาเท่านั้น)

หมายเหตุ: การรองรับ Telstra, Taiwan Mobile และ Telecom Italia สิ้นสุดลงแล้ว

สำคัญ

• การโทรทั้งหมดจะเรียกเก็บเงินตามแพ็กเกจของผู้ให้บริการโทรศัพท์
• อาจมีค่าบริการอินเทอร์เน็ต
• คุณต้องอยู่ภายในพื้นที่ให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์

1. หากยังไม่ได้สมัครใช้บริการ ให้ตั้งค่าการสมัครใช้บริการด้วย Google Fi หรือ Google Voice
2. เปิดแอป Google Home 
3. แตะบัญชีของคุณ
4. ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
5. แตะการตั้งค่า การสื่อสาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์
6. เลือกผู้ให้บริการโทรศัพท์
7. ทำตามขั้นตอนในแอปเพื่อลิงก์บัญชี

2. ปรับการตั้งค่า Google Assistant

เปิดผลการค้นหาเฉพาะบุคคล

ผลการค้นหาเฉพาะบุคคลช่วยให้คุณโทรหารายชื่อติดต่อ Google ได้เมื่อพูดชื่อของบุคคลนั้น เช่น "Ok Google โทรหา [ชื่อผู้ติดต่อ]" ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการค้นหาเฉพาะบุคคล

1. เปิดแอป Google Home 
2. แตะการตั้งค่า
3. แตะ Google Assistant ผลการค้นหาเฉพาะบุคคล
4. แตะเริ่มต้นใช้งาน เปิด เสร็จ

หมายเหตุ: คุณต้องเปิดกิจกรรมบนเว็บและแอปในบัญชี Google ด้วยจึงจะโทรหารายชื่อติดต่อได้

เปิด Voice Match

เมื่อเปิดใช้ Voice Match สมาชิกคนอื่นๆ ในบ้านจะใช้รายชื่อติดต่อของตนเองเพื่อโทรออกจากอุปกรณ์ของคุณได้ หากต้องการให้บุคคลหลายคนใช้รายชื่อติดต่อของตนบนอุปกรณ์เดียวกัน แต่ละคนจำเป็นต้องตั้งค่า Voice Match

สำคัญ: หากไม่มีใครตั้งค่า Voice Match ทุกคนจะใช้รายชื่อติดต่อของเจ้าของอุปกรณ์ได้หากเจ้าของเปิดใช้ผลการค้นหาเฉพาะบุคคลไว้

3. ซิงค์และแก้ไขรายชื่อติดต่อ

ซิงค์รายชื่อติดต่อ

วิธีโทรหารายชื่อติดต่อที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android

1. ไปที่ myaccount.google.com/devicecontacts ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google ของคุณ
2. เปิดบันทึกข้อมูลติดต่อจากอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้

หากคุณมีรายชื่อติดต่อจำนวนมากหรือมีรายชื่อใหม่ การซิงค์อาจใช้เวลาสักครู่

หากรายชื่อติดต่อไม่ซิงค์ ให้เปิดการซิงค์รายชื่อติดต่อในการตั้งค่าของอุปกรณ์ Android ดังนี้

1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์ Android
2. แตะ Google การตั้งค่าสําหรับแอป Google ซิงค์ Google Contacts
3. แตะสถานะ เปิดการซิงค์อัตโนมัติ

แก้ไขรายชื่อติดต่อ Google

ลำโพงและจอแสดงผล Nest จะใช้รายชื่อติดต่อ Google ในการโทรออก หากรายชื่อติดต่อ Google ไม่มีข้อมูลเพียงพอหรือมีรายการที่คล้ายกันหรือซ้ำกัน อุปกรณ์อาจโทรหารายชื่อติดต่อบางคนไม่ได้

ดูวิธีล้างรายชื่อติดต่อ

• รวมรายชื่อติดต่อที่ซ้ำกัน
• แก้ไขหรือลบรายชื่อติดต่อ
• เพิ่ม ย้าย หรือนำเข้ารายชื่อติดต่อ

เคล็ดลับ:

• ใช้ชื่อที่ไม่ซ้ำกันสำหรับรายชื่อติดต่อแต่ละคน ใส่ชื่อและนามสกุล (หากทราบ)
• เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์และอีเมล (หากมี) ของรายชื่อติดต่อแต่ละคน

ตั้งค่ารายชื่อติดต่อในครอบครัว

เมื่อตั้งค่ารายชื่อติดต่อในครอบครัวแล้ว คุณจะอนุญาตให้ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงลำโพงหรือจอแสดงผล Google Nest ของคุณโทรหารายชื่อติดต่อที่เจาะจงซึ่งคุณเลือกไว้ได้ คุณยังใช้หน้าจอสัมผัสเพื่อโทรหารายชื่อติดต่อในครอบครัวบนจอแสดงผล Nest ได้ด้วย

ตั้งค่าและจัดการรายชื่อติดต่อในครอบครัว

4. เปลี่ยนการตั้งค่าการโทร

เปิด "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น"

"ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น" ช่วยให้คุณรับสายทางลำโพงหรือจอแสดงผลเมื่อคุณอยู่บ้านและป้องกันไม่ให้มีการโทรเข้าอุปกรณ์เมื่อคุณไม่อยู่บ้าน

หากต้องการใช้ "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น" คุณต้องเปิดการตรวจหาบุคคลในบ้านด้วยตำแหน่งของโทรศัพท์ เมื่อเปิดใช้เอาไว้ "การตรวจหาบุคคลในบ้าน" จะระบุโดยอัตโนมัติว่าคุณอยู่บ้านหรือไม่อยู่บ้าน และสามารถใช้กับฟีเจอร์อื่นๆ ที่ต้องใช้ข้อมูลตำแหน่ง เช่น กิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน"

การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการตรวจหาบุคคลในบ้านในฟีเจอร์หนึ่ง อาจส่งผลต่อฟีเจอร์อื่นๆ ที่ใช้การตรวจหาบุคคลในบ้าน ตัวอย่างเช่น หากคุณปิดตำแหน่งของโทรศัพท์ในกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" อุปกรณ์ในบ้านจะส่งเสียงเมื่อมีคนโทรหาขณะที่คุณไม่อยู่บ้าน

หมายเหตุ: คุณจะใช้แอปเพื่อแชร์ตำแหน่งของโทรศัพท์ได้ทีละแอปเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากแชร์ตำแหน่งของโทรศัพท์กับแอป Nest เมื่อคุณเปิดใช้ตำแหน่งในแอป Home ระบบจะปิดใช้การแชร์ตำแหน่งของโทรศัพท์ในแอป Nest

เปิดหรือปิด "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น"

1. เปิดแอป Google Home 
2. แตะบัญชีของคุณ
3. ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
4. แตะการตั้งค่า
5. แตะการสื่อสาร การตั้งค่าอุปกรณ์และการโทร
   • หากต้องการตั้งค่า "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น" ให้แตะตั้งค่า ทำตามขั้นตอนในแอป
   • หากคุณตั้งค่า "ส่งเสียงเมื่ออยู่บ้านเท่านั้น" ไว้อยู่แล้ว ให้แตะสวิตช์เพื่อเปิดหรือปิด

เปิดโหมดห้ามรบกวน

หากต้องการบล็อกการโทรเข้าอุปกรณ์ชั่วคราว ให้เปิดโหมดห้ามรบกวน

หากต้องการสร้างกำหนดเวลาสำหรับโหมดห้ามรบกวน ให้ตั้งค่าโหมดกลางคืน

หมายเหตุ: โหมดห้ามรบกวนจะปิดการประกาศที่จะมีขึ้น รวมถึงการแจ้งเตือนงานด้วย

เปิดหรือปิดสายเรียกเข้าสำหรับลำโพงหรือจอแสดงผลที่ต้องการ

ลำโพงหรือจอแสดงผล Nest จะรับได้เฉพาะสายเรียกเข้าใน Google Meet เท่านั้น

วิธีเปิดหรือปิดสายเรียกเข้า

1. เปิดแอป Google Home 
2. แตะการตั้งค่า การสื่อสาร แอปวิดีโอคอลและโทรด้วยเสียง
3. เปิดหรือปิดลำโพงหรือจอแสดงผลที่ลิงก์ไว้

ยกเลิกการลิงก์แอปหรือบริการโทร

หมายเหตุ: การโทรที่ Google รองรับไม่ได้ใช้แอปหรือบริการที่ยกเลิกการลิงก์ได้ หากต้องการบล็อกการโทรไปยังรายชื่อติดต่อ Google จากลำโพงหรือจอแสดงผล ให้ปรับการตั้งค่า Google Assistant

ยกเลิกการลิงก์ Google Meet

1. เปิดแอป Google Home 
2. แตะการตั้งค่า การสื่อสาร แอปวิดีโอคอลและโทรด้วยเสียง ยกเลิกการลิงก์บัญชี Google Meet

ยกเลิกการลิงก์การโทรผ่านมือถือ

1. เปิดแอป Google Home 
2. แตะบัญชีของคุณ
3. ยืนยันว่าบัญชี Google ที่แสดงเป็นบัญชีที่ลิงก์กับอุปกรณ์ Google หากถูกต้องแล้ว ให้แตะ เพื่อปิดหน้าต่างบัญชี หากต้องการเปลี่ยนบัญชี ให้แตะไอคอนเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นแตะบัญชีอื่นหรือเพิ่มบัญชีอื่น
4. แตะการตั้งค่า การสื่อสาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์
5. แตะปุ่มข้างผู้ให้บริการของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

ลำโพงหรือจอแสดงผล Nest จะบันทึกอะไรบ้าง

Google จะบันทึกคำสั่งเสียงหลังจากคำว่า "Ok Google" ตัวอย่างเช่น ระบบจะบันทึกว่า "Ok Google โทรหาผักบุ้ง" หรือ "Ok Google วางสาย" การบันทึกจะหยุดหลังจากวลีนั้น

Google ไม่บันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์

หากรายชื่อติดต่อหนึ่งมีหมายเลขโทรศัพท์หลายหมายเลข อุปกรณ์จะโทรหาหมายเลขใด

เมื่อใช้การโทรที่ Google รองรับและการโทรผ่านมือถือ Google Assistant จะถามคุณว่าต้องการโทรไปหมายเลขใด ในอนาคต คุณจะข้ามขั้นตอนนี้ได้เนื่องจาก Assistant เรียนรู้ได้ในที่สุดว่าคุณต้องการใช้หมายเลขใดสำหรับรายชื่อติดต่อหนึ่งๆ นอกจากนี้คุณยังแก้ไขรายชื่อติดต่อให้แตกต่างกันมากกว่านี้ได้ที่ contacts.google.com

เมื่อใช้การโทรด้วย Google Meet อุปกรณ์จะโทรไปยังหมายเลขที่มีบัญชี Google Meet ที่ถูกต้อง

คนอื่นจะโทรหาฉันที่อุปกรณ์ Home หรือ Nest ได้ไหม

คุณจะรับสายจากผู้อื่นด้วย Google Meet ได้

วิธีรับสาย

• ตั้งค่าการโทรผ่าน Google Meet บนอุปกรณ์
• เปิดผลการค้นหาเฉพาะบุคคล
• ปิดดังนี้
  • ห้ามรบกวน
  • โหมดกลางคืน
  • พักการใช้งาน

การโทรที่ Google รองรับและการโทรผ่านมือถือไม่รองรับสายเรียกเข้า

ฉันจะบล็อกการโทรบนลำโพงหรือจอแสดงผล Nest ได้ไหม

คุณจะรับสายได้เฉพาะจากคนที่ใช้ Google Meet เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีบล็อกหมายเลขใน Google Meet

หากต้องการบล็อกสายทั้งหมดชั่วคราว ให้เปิดโหมดห้ามรบกวน หมายเหตุ: โหมดห้ามรบกวนจะปิดการประกาศที่จะมีขึ้น รวมถึงการแจ้งเพื่อช่วยเตือนด้วย หากไม่ต้องการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการโทรโดยกำหนดเวลาเป็นประจำ ให้ตั้งค่าโหมดกลางคืน

เกิดอะไรขึ้นเมื่อพบเมนูเสียงที่มีตัวเลือก เช่น "กด 2" ระหว่างการโทร

หากคุณมีจอแสดงผล Nest ให้ใช้แป้นหมายเลข บนหน้าจอเพื่อไปยังส่วนต่างๆ ของระบบโทรศัพท์

นโยบายเนื้อหาหรือการใช้งานมีผลกับการโทรบนลำโพงและจอแสดงผล Nest ไหม

ข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google มีผลกับลำโพงและจอแสดงผล Nest หรือ Home นอกจากนี้ลำโพงและจอแสดงผล Nest ยังเป็นไปตามนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ของ Google Voice สำหรับการโทรผ่านมือถือบนอุปกรณ์ Google Nest หรือ Home ข้อกำหนดในการให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์ก็จะมีผลด้วย ตัวอย่างเช่น ข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Fi จะมีผลกับการโทรที่รองรับ Fi

ฉันจะเปลี่ยนวิธีแสดงหมายเลขผู้โทรเมื่อโทรหาผู้อื่นด้วยอุปกรณ์ Nest ได้ไหม

หมายเลขโทรศัพท์จะแสดงเป็นส่วนตัวหรือไม่รู้จักเมื่อคุณโทรหาผู้อื่นด้วยอุปกรณ์ Nest เว้นแต่คุณจะลิงก์หมายเลขโทรศัพท์ Google Fi หรือ Google Voice ไว้ในแอป Google Home

วิธีลิงก์หมายเลข Google Fi หรือ Google Voice

1. เปิดแอป Google Home
2. แตะการตั้งค่า   การสื่อสาร  ผู้ให้บริการโทรศัพท์
3. แตะ Google Voice หรือ Google Fi เพื่อลิงก์หมายเลขโทรศัพท์

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อเรา