Nest Wifi Pro คือระบบ Wi-Fi ของ Google Nest ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับบ้านของคุณ การใช้ Wi-Fi 6E ของ Nest Wifi Pro จะเข้ามาแทนที่เครือข่ายเราเตอร์เดียวด้วยเราเตอร์หลายตัวเพื่อให้ส่งถึงอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณในสถานที่ที่คุณต้องการใช้งาน Nest Wifi Pro มีขีดจำกัดความเร็วและพื้นที่ที่ครอบคลุมมากกว่าเมื่อเทียบกับระบบ Wi-Fi เดิมของ Google Nest
การครอบคลุมของ Wi-Fi ทั่วทั้งบ้านของคุณ
Nest Wifi Pro (Wi-Fi 6E) มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยี Mesh Wi-Fi โดยที่เราเตอร์แต่ละตัวจะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้อุปกรณ์ของคุณอยู่ในช่องสัญญาณที่มีแบนด์วิดท์มากที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือสัญญาณ Wi-Fi ที่แรงทั่วทั้งบ้าน ไม่ใช่แค่บริเวณใกล้ๆ โมเด็ม ทำให้สามารถย้ายจากห้องนึงไปอีกห้องนึงขณะวิดีโอคอลได้โดยที่มีการรบกวนน้อยที่สุดหรือสตรีมวิดีโอ 4K หลายวิดีโอได้พร้อมกัน
ระบบ Wi-Fi นั้นรองรับการปรับขนาด คุณจึงสามารถหาจำนวนอุปกรณ์ Nest Wifi Pro ที่เหมาะกับขนาดและรูปทรงของบ้านได้ หากคุณยังต้องการให้ครอบคลุมเพิ่มเติม เพียงแค่เพิ่มอุปกรณ์ Nest Wifi Pro อีกตัว Nest Wifi Pro (Wi-Fi 6E) ไม่สามารถเข้ากันได้แบบย้อนหลังและไม่สามารถใช้ร่วมกับ Nest Wifi หรือ Google Wifi (Wi-Fi 5) ในเครือข่ายที่ทำงานร่วมกันได้ เนื่องจากเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดใน Nest Wifi Pro นั้นไม่รองรับการผสมเครือข่ายกับ Nest Wifi Pro และ Nest Wifi หรือ Google Wifi เวอร์ชันก่อนหน้า
Wi-Fi 6E
Wi-Fi 6E เป็นการอัปเกรดเทคโนโลยี Wi-Fi ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งมอบความเร็วที่มากกว่า Wi-Fi 6 สูงสุดถึง 2 เท่า1 รวมถึงการเข้าถึงย่านความถี่ไร้สาย 6 GHz ใหม่ที่มีความเร็วสูง ช่องสัญญาณแออัดน้อยลง และช่วยให้อุปกรณ์จำนวนมากขึ้นทำงานได้ในความเร็วสูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อดีของ Wi-Fi 6E Nest Wifi Pro มีย่านความถี่วิทยุ 6 GHz ใหม่เป็นย่านที่สาม เพิ่มเติมจากย่านความถี่วิทยุ Wi-Fi 2.4 GHz และ 5 GHz เดิม
รองรับ Matter และ Thread เพื่อบ้านที่เชื่อมต่อและใช้งานร่วมกันได้มากขึ้น
- Nest Wifi Pro ได้รับการอัปเดตเพื่อให้รองรับ Matter ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลใหม่ที่ทำให้ความสามารถในการใช้งานร่วมกันและการตั้งค่าสมาร์ทโฮมง่ายขึ้น Nest Wifi Pro สามารถทำหน้าที่เป็นฮับสำหรับ Matter ในการเชื่อมต่อและควบคุม Google Home รวมถึงอุปกรณ์ที่เปิดใช้ Matter อื่นๆ เพื่อช่วยให้สมาร์ทโฮมของคุณตั้งค่าได้เร็วขึ้น ตอบสนองได้ดีขึ้น และเสถียรขึ้นมากกว่าที่เคย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Matter
- Thread เป็นเทคโนโลยี Mesh ไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อทำให้อุปกรณ์อัจฉริยะเชื่อมต่อและเสถียรมากขึ้น ช่วยขยายความแรง ความสามารถ และการเข้าถึงของเครือข่ายในบ้านโดยรวม Nest Wifi Pro มี Thread Border Router ในตัวซึ่งทำหน้าที่เป็นฮับ ทำให้เพิ่มอุปกรณ์ Thread ลงในเครือข่ายของคุณได้ง่ายๆ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากเสาอากาศอันทรงพลังเพื่อขยายการเข้าถึงและความครอบคลุมของเครือข่าย Thread ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ Nest ที่มี Thread
ติดตั้งและจัดการได้ง่าย
คุณสามารถตั้งค่า Nest Wifi Pro ได้อย่างรวดเร็วและจัดการในแอป Google Home พร้อมกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออื่นๆ หากมีระบบ Nest Wifi หรือ Google Wifi อยู่แล้ว คุณจะต้องนำเครือข่ายเดิมออกจากบ้าน Google Home เพื่อตั้งค่า Nest Wifi Pro หรือตั้งค่าบ้าน Google Home อื่นแทน หลังจากตั้งค่าเครือข่ายใหม่แล้ว การอัปเดต Nest Wifi Pro อัตโนมัติจะมอบฟีเจอร์ใหม่ๆ และช่วยให้เครือข่ายของคุณปลอดภัย
ฟีเจอร์อัจฉริยะของ Google เพื่อ Wi-Fi ที่เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และเสถียรมากขึ้น
Nest Wifi Pro ใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายโดยอัตโนมัติ เช่น จะให้ความสำคัญกับวิดีโอคอลโดยอัตโนมัติเพื่อให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและสม่ำเสมอ Nest Wifi Pro ยังปรับเปลี่ยนและจัดการการใช้งานอย่างเหมาะสมเมื่อความเร็วของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ลดลงอย่างไม่คาดคิด
ปัญหาเกี่ยวกับ Wi-Fi จะได้รับการสแกนและวิเคราะห์ในเชิงรุก นอกจากนี้ Nest Wifi Pro ยังสามารถแก้ไขปัญหาเครือข่ายทั่วไปด้วยตัวเองได้โดยที่คุณไม่ต้องลงมือ Nest Wifi Pro จะแจ้งให้คุณทราบ หากว่าการแก้ไขเล็กๆ น้อยๆ เช่น สายอีเทอร์เน็ต จะปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายได้
Wi-Fi ที่ปลอดภัยและมั่นใจได้
คุณสามารถสร้างเครือข่ายสำหรับผู้มาเยือนและแชร์รหัสผ่านจากแอป Google Home ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ใดเพื่อให้เร็วขึ้น และเรียกใช้การทดสอบความเร็วเพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพของเครือข่ายและการเชื่อมต่อของอุปกรณ์
Wi-Fi สำหรับครอบครัว ช่วยให้คุณจัดตารางเวลาในการจัดการเวลาอยู่หน้าจอ จำกัดเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่บางอย่าง และหยุด Wi-Fi ชั่วคราวสำหรับอุปกรณ์ใดก็ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
1เร็วขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับเราเตอร์ Wi-Fi 6 ที่รองรับช่องสัญญาณ 80 MHz ข้อกำหนดของ Wi-Fi 6E จะอิงตามการใช้อุปกรณ์ไคลเอนต์รุ่น Wi-Fi 6 ขึ้นไปที่รองรับช่องสัญญาณ 160 MHz ความเร็วจริงจะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต สภาพเครือข่าย อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ กฎระเบียบในพื้นที่ และปัจจัยแวดล้อม