วิธีแก้ปัญหาจำนวนการเข้าชมต่ำโดยใช้โฆษณา Search แบบไดนามิกของ Google

แคมเปญโฆษณา Search แบบไดนามิกที่มีอยู่อาจมีสิทธิ์อัปเกรดเป็น Performance Max ซึ่งจะช่วยให้คุณมีพื้นที่โฆษณาและรูปแบบเพิ่มเติมในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ ผู้ลงโฆษณาที่อัปเกรดแคมเปญ DSA เป็น Performance Max พบว่า Conversion หรือมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 15% โดยมีต้นทุนต่อหนึ่งการกระทำ (CPA) หรือผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ใกล้เคียงกับของเดิม ดูวิธีอัปเกรดโฆษณา Search แบบไดนามิกเป็น Performance Max (เบต้า)

หากโฆษณา Search แบบไดนามิกไม่ได้รับการเข้าชม นั่นอาจเป็นเพราะการตั้งค่าขาดข้อมูลที่สำคัญ ภายในกลุ่มโฆษณาหนึ่ง คุณจะต้องสร้างข้อความโฆษณา Search แบบไดนามิก และเลือกเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเพื่อให้โฆษณาทำงาน

บทความนี้กล่าวถึงสาเหตุบางส่วนที่พบบ่อยที่สุดซึ่งทำให้โฆษณา Search แบบไดนามิกไม่ได้รับการเข้าชมหลังจากเพิ่งสร้าง และวิธีแก้ไข

5 สาเหตุที่พบบ่อยซึ่งทำให้โฆษณา Search แบบไดนามิกไม่แสดง

1. คุณป้อนโดเมนเว็บไซต์และภาษาของเว็บไซต์ไม่ถูกต้อง

โฆษณา Search แบบไดนามิกกำหนดว่าต้องมีโดเมนเว็บไซต์ (เช่น example.com) และภาษาที่ตรงกับหน้าเว็บที่คุณต้องการให้โฆษณากำหนดเป้าหมายในแคมเปญ หากต้องการสร้างกลุ่มโฆษณาแบบไดนามิกในแคมเปญ Search คุณจะต้องระบุข้อมูลเว็บไซต์ รวมทั้งโดเมนเว็บไซต์และภาษาไว้ในการตั้งค่าแคมเปญ

ใช้โดเมนต่อไปนี้สําหรับโฆษณา Search แบบไดนามิกไม่ได้

  • โดเมนที่เปลี่ยนเส้นทางไปยังโดเมนอื่น
  • เว็บไซต์จากประเภทธุรกิจที่มีความละเอียดอ่อนบางประเภท เช่น เภสัชกรรม การพนัน และเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ อาจไม่แสดงร่วมกับโฆษณา Search แบบไดนามิก
  • โดเมนที่มีเนื้อหาไม่เพียงพอสำหรับการกำหนดเป้าหมาย ซึ่งได้แก่
    • เว็บไซต์ที่มีเนื้อหา Flash หรือรูปภาพเป็นส่วนใหญ่
    • เว็บไซต์ที่ผู้ใช้ต้องลงชื่อเข้าใช้เพื่อเข้าถึงเนื้อหาส่วนใหญ่
    • เว็บไซต์ที่มีหน้าเว็บที่ Google จัดทำดัชนีเพียงไม่กี่หน้า (ดูสถานะดัชนีของเว็บไซต์ใน Google)

ขั้นตอนถัดไป

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

ตรวจสอบการตั้งค่าโดเมนและภาษาด้วยวิธีต่อไปนี้

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ Campaigns Icon
  2. ในเมนูส่วน คลิกแคมเปญในเมนูแบบเลื่อนลง
  3. คลิกแคมเปญ
  4. ใช้ตัวกรองตารางเพื่อหาแคมเปญ จากนั้นคลิกชื่อแคมเปญ
  5. หากต้องการดูการตั้งค่าแคมเปญ ให้คลิกไอคอนการตั้งค่า ทางด้านขวาของชื่อแคมเปญ
  6. คลิกการตั้งค่าเพิ่มเติม แล้วคลิกโฆษณา Search แบบไดนามิก คุณควรจะเห็นโดเมนเว็บไซต์และภาษาแสดงอยู่ หากเคยให้ข้อมูลนี้ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตรวจดูว่าภาษาในการตั้งค่าตรงกับภาษาของเว็บไซต์
  7. หากไม่เห็นโดเมนหรือภาษา ให้กรอกโดเมนหรือเลือกภาษาจากเมนูแบบเลื่อนลง ตรวจสอบอีกครั้งว่าชื่อโดเมนสะกดถูกต้อง
  8. คลิกบันทึก

ไปที่บัญชี Google Ads

หาก URL ของคุณทำงานได้เมื่อขึ้นต้นด้วย "www" เท่านั้น ให้ป้อน URL แบบขึ้นต้นด้วย "www" ในการตั้งค่าแคมเปญ ในทำนองเดียวกัน หากโดเมนไม่ทำงานเมื่อขึ้นต้นด้วย "www" ให้ป้อนโดเมนในการตั้งค่าแคมเปญโดยไม่มี "www"

2. เป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกได้รับการตั้งค่าไม่ถูกต้อง

โฆษณา Search แบบไดนามิกใช้เป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเพื่อกำหนดส่วนหรือหน้าเว็บในเว็บไซต์ที่จะใช้แสดงโฆษณาต่อลูกค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายในโฆษณา Search แบบไดนามิก

ขั้นตอนถัดไป

3. คีย์เวิร์ดเชิงลบและเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเชิงลบบล็อกไม่ให้โฆษณาแสดง

คีย์เวิร์ดเชิงลบ

คีย์เวิร์ดเชิงลบในกลุ่มโฆษณาแบบไดนามิกจะบล็อกไม่ให้โฆษณาแสดงเมื่อลูกค้าใช้คำเหล่านั้นเป็นวลีค้นหา

ขั้นตอนถัดไป

  • เปรียบเทียบคีย์เวิร์ดเชิงลบกับหน้าเว็บในเว็บไซต์ที่ต้องการให้รวมอยู่ในโฆษณา Search แบบไดนามิก หากมีคำที่ตรง ให้พิจารณานำคีย์เวิร์ดเชิงลบนั้นออก
    • ตัวอย่าง หากไม่ต้องการให้โฆษณา Search แบบไดนามิกแสดงในคำที่เป็นแบรนด์ซึ่งคุณกำหนดเป้าหมายด้วยคีย์เวิร์ดอยู่แล้ว ควรเพิ่มคำที่เป็นแบรนด์นี้เป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบที่ทำงานแบบตรงทั้งหมด
  • อย่างไรก็ตาม โฆษณา Search แบบไดนามิกอาจพบโอกาสแสดงโฆษณาในการค้นหาซึ่งมีคำที่เป็นแบรนด์ซึ่งคุณยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายด้วยคีย์เวิร์ด โปรดอย่าเพิ่มคำที่เป็นแบรนด์เป็นคีย์เวิร์ดเชิงลบที่ทำงานแบบกว้างเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เสียโอกาสในการแสดงเหล่านี้

เป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเชิงลบ

เป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเชิงลบช่วยป้องกันไม่ให้เราใช้หน้าเว็บบางหน้าในเว็บไซต์ของคุณในการกำหนดเป้าหมายโฆษณา Search แบบไดนามิก หากลูกค้าใช้วลีค้นหาที่ตรงกับหน้าเว็บจากเว็บไซต์ แต่หน้านั้นอยู่ในเป้าหมายเชิงลบ ลูกค้ารายนั้นจะไม่เห็นโฆษณาของคุณ

ขั้นตอนถัดไป

ตรวจสอบเป้าหมายเชิงลบและนําเป้าหมายที่ไม่ต้องการออกโดยทําดังนี้

  1. คลิกเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกที่อยู่ในเมนูหน้าเว็บด้านซ้าย
  2. คลิกเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเชิงลบ
  3. ตรวจสอบรายการเป้าหมายเชิงลบ ตรวจสอบว่ามีรายการใดที่บล็อกหน้าเว็บบนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งคุณไม่ต้องการให้ถูกบล็อกหรือไม่
  4. เลือกช่องติดกับเป้าหมายเชิงลบที่บล็อกหน้าเว็บเหล่านั้นอยู่ แล้วคลิกนำออก

ไปที่บัญชี Google Ads

4. เป้าหมายไม่มีความครอบคลุมในคอลัมน์ "ความครอบคลุมเว็บไซต์"

ลองใช้คอลัมน์ "ความครอบคลุมเว็บไซต์" เพื่อดูเปอร์เซ็นต์ของหน้าเว็บที่อยู่ในเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิก คอลัมน์นี้จะบอกเปอร์เซ็นต์ของหน้า Landing Page เทียบกับหน้าเว็บทั้งหมดในโดเมนเว็บไซต์ของคุณที่ Google จัดทำดัชนีไว้ ซึ่งอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน มีคำเฉพาะเจาะจงบางคำในชื่อหน้า ใช้ข้อมูลโค้ด URL เดียวกัน หรือมีวลีที่เหมือนกันในเนื้อหาของเว็บไซต์ หากคุณไม่เห็นคอลัมน์ "ความครอบคลุมเว็บไซต์" ให้เพิ่มคอลัมน์ลงในตาราง

ขั้นตอนถัดไป

ตรวจสอบคอลัมน์ "ความครอบคลุมเว็บไซต์" เพื่อดูว่าเป้าหมายได้รับการตั้งค่าอย่างถูกต้องและกําหนดเป้าหมายหน้าเว็บชุดย่อยแล้ว

  • ระบบอาจใช้เวลาสูงสุดถึง 72 ชั่วโมงในการแสดงความครอบคลุมเว็บไซต์ของเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกแต่ละรายการ หากคุณเริ่มใช้กลุ่มโฆษณาแบบไดนามิกใหม่
  • เว็บไซต์บางแห่งอาจปรากฏเป็น "--" เพื่อแสดงเป็นความครอบคลุมแทนตัวเลข หมายความว่าไม่มีหน้าเว็บได้รับการกำหนดเป้าหมายเลย ดังนั้นเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกนี้จะไม่ได้รับยอดเข้าชม คอลัมน์นี้แสดงเฉพาะเปอร์เซ็นต์ของหน้าเว็บที่มีสิทธิ์แสดง ดังนั้นหน้าเว็บที่ยกเว้นโดยเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเชิงลบจะไม่แสดงในค่าที่แสดง
  • บางเว็บไซต์อาจแสดงความครอบคลุมหน้าเว็บ 0.0% แต่ยังคงได้รับการเข้าชม เนื่องจากเว็บไซต์มีขนาดใหญ่มาก
  • นอกจากนี้ยังใช้คอลัมน์นี้ในมุมมอง "เป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกเชิงลบ" เพื่อให้เป้าหมายเชิงลบไม่มีการเข้าถึงกว้างกว่าที่คุณตั้งใจไว้ได้ด้วย
ตัวอย่าง หากคุณเพิ่มเป้าหมาย “Page_Content ประกอบด้วยสินค้าหมด” เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าเว็บที่สินค้าหมดแสดง แต่ "สินค้าหมด" กลับอยู่ในข้อความหน้าเว็บทั้งเว็บไซต์ นั่นหมายความว่าคุณอาจป้องกันไม่ให้หน้าเว็บจากเว็บไซต์ได้แสดงตามที่คุณกำหนดเป้าหมายไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ

หมายเหตุ

  • โฆษณา Search แบบไดนามิกจะแสดงแทนกลุ่มโฆษณาที่อิงตามคีย์เวิร์ดได้เมื่อคีย์เวิร์ดในกลุ่มโฆษณาดังกล่าวมีสถานะเป็นทำงาน หยุดชั่วคราว หรือนำออก
  • เป้าหมายโฆษณา Search แบบไดนามิกอาจซ้อนทับกัน หากเกิดขึ้น เป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกที่ตรงเป้าหมายที่สุดอาจแสดง หรือการเข้าชมอาจแบ่งระหว่างเป้าหมาย คุณจึงไม่ได้รับยอดเข้าชมมากเท่ากับที่คาดไว้

5. แคมเปญไม่แสดงเนื่องจากความล่าช้าในการแสดง DSA ทั่วไป

คุณอาจประสบปัญหาความล่าช้าหากได้อัปเดตเว็บไซต์ สร้างแคมเปญใหม่ หรือแก้ไขแคมเปญที่มีอยู่แล้ว ด้านล่างนี้คือคําถามที่พบบ่อยพร้อมคําตอบที่จะช่วยให้คุณเข้าใจเวลาในการดําเนินการที่คาดไว้

1. ระบบโฆษณา Search แบบไดนามิกจะแสดงการเปลี่ยนแปลงที่ฉันทําในเว็บไซต์เร็วแค่ไหน

การเปลี่ยนแปลงในเว็บไซต์จะมีผลทันทีที่ดัชนีเว็บทํางาน ซึ่งโดยปกติคือ 7-10 วัน หากคุณใช้ฟีดหน้าเว็บซึ่งมีกลไกการ Crawl ที่แตกต่างออกไป (บ็อต Google Ads แทนบ็อต Google ทั่วไป) หน้าเว็บจะได้รับการ Crawl บ่อยขึ้น ระบบจะทำการ Crawl หน้าเว็บใหม่ที่เพิ่มลงในฟีดหน้าเว็บใน 1 วันและทำการ Crawl อีกครั้งไม่เกินทุกๆ 14 วัน อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว ระบบใช้ 2-3 วันในการทำการ Crawl หน้าเว็บที่ได้รับการคลิกอย่างสม่ำเสมอ หากฟีดมีขนาดใหญ่ ระบบอาจใช้เวลาถึง 10 วันเพื่อทำการ Crawl ทั้งฟีดให้เสร็จสมบูรณ์

หมายเหตุ: มีการจํากัดฟีดหน้าเว็บไว้ที่ 100 รายการต่อบัญชี

2. เว็บไซต์ที่อัปเดตบ่อยมีสิทธิ์ใช้โฆษณา Search แบบไดนามิกไหม

สืบเนื่องจากเวลาที่ใช้ในการทำการ Crawl ของ DSA เว็บไซต์ที่มีการอัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ (เช่น เว็บไซต์ที่ทำแฟลชเซลซึ่งอัปเดตดีลเป็นประจําทุกวัน) อาจไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีแก่ DSA ได้

3. ระบบโฆษณา Search แบบไดนามิกจะเริ่มแสดงแคมเปญใหม่เร็วแค่ไหน

แคมเปญใหม่ซึ่งมีโดเมนเว็บไซต์ที่ไม่ได้ใช้ในแคมเปญ DSA อื่นที่ทํางานอยู่อาจใช้เวลา 24-48 ชั่วโมงจึงจะเริ่มแสดง หากแคมเปญใหม่ใช้โดเมนเว็บไซต์ที่มีการใช้งานอยู่แล้วในแคมเปญ DSA อื่นที่ทำงานอยู่ แคมเปญใหม่อาจเริ่มแสดงได้ภายใน 8 ชั่วโมง ในบางกรณีอาจใช้เวลาถึง 48 ชั่วโมง

4. ระบบโฆษณา Search แบบไดนามิกจะแสดงการเปลี่ยนแปลงที่ฉันทําในแคมเปญเร็วแค่ไหน

การดําเนินการต่อไปนี้เกิดขึ้นทันที

  • การเปลี่ยนแปลงการเสนอราคา
  • การหยุดแคมเปญ กลุ่มโฆษณา หรือ URL ของหมวดหมู่ชั่วคราว
  • ครีเอทีฟโฆษณาใหม่สําหรับกลุ่มโฆษณาที่มีอยู่
  • การเปลี่ยนคำโฆษณาหรือการติดตามครีเอทีฟโฆษณาที่มีอยู่

การดำเนินการอื่นๆ เช่น การเพิ่ม URL ใหม่ การย้าย URL ระหว่างกลุ่มโฆษณา หรือการกําหนดค่ากลุ่มโฆษณาใหม่อาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง

เพื่อที่จะยืนยันว่าเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกหรือการยกเว้นเป้าหมายโฆษณาถูกต้องหรือไม่ ให้ตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

หมายเหตุ: คุณควรตรวจสอบภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีการเพิ่มการยกเว้นเป้าหมายโฆษณา เนื่องจากรายงานข้อความค้นหาไม่มีการอัปเดตรายชั่วโมง

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
12665746547971053584
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false