สร้างแคมเปญ Demand Gen

 

ระยะเวลาเรียนรู้และตรวจสอบ

หลังจากที่คุณทำการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การเสนอราคา ประสิทธิภาพอาจผันผวนเล็กน้อยในขณะที่ Google Ads เพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอ ซึ่งสังเกตได้จากสถานะกลยุทธ์การเสนอราคาของคุณอาจมีป้ายกำกับเป็น "กําลังเรียนรู้" ให้วางเมาส์เหนือสถานะเพื่อดูสาเหตุที่กลยุทธ์การเสนอราคาอยู่ในสถานะดังกล่าว ขอแนะนําให้รอ 2 สัปดาห์เพื่อให้ระยะเวลา "เรียนรู้" ผ่านไปก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงการเสนอราคา

โดยทั่วไปแล้วควรรอให้มี Conversion ถึง 50 รายการก่อนทำการเปลี่ยนแปลงกับแคมเปญ

เผื่อเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพื่อให้โฆษณาผ่านขั้นตอนการตรวจสอบและอนุมัติ

---

วิธีการ

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

ขั้นตอนที่ 1 จาก 6: สร้างแคมเปญใหม่

คุณสามารถทำซ้ำ ลบ และสร้างแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาใหม่ได้จากเมนูการนําทางที่ด้านซ้าย

1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกปุ่มสร้าง แล้วเลือกแคมเปญจากรายการ
2. เพิ่มชื่อแคมเปญ
3. หากใช้ฟีดผลิตภัณฑ์เพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ในโฆษณา ให้คลิกปุ่มเปิด/ปิดเพื่อ "ใช้งานแคมเปญฟีดผลิตภัณฑ์"

หมายเหตุ: หากเลือก "ใช้งานแคมเปญฟีดผลิตภัณฑ์" คุณจะสร้างได้เฉพาะโฆษณาผลิตภัณฑ์ในแคมเปญ

สร้างแคมเปญใหม่

---

ขั้นตอนที่ 2 จาก 6: เลือกเป้าหมายการโฆษณา

เมื่อสร้างแคมเปญ Demand Gen ในบัญชี Google Ads คุณจะต้องเลือกหนึ่งในเป้าหมายการโฆษณา ซึ่งได้แก่ ยอดขาย การเข้าชมเว็บไซต์ การพิจารณาผลิตภัณฑ์และแบรนด์ หรือการสร้างแคมเปญโดยไม่มีคําแนะนําของเป้าหมาย

หมายเหตุ: เป้าหมายที่เลือกควรสอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการบรรลุจากแคมเปญ ตัวอย่างเช่น หากต้องการกระตุ้นให้ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์ ให้เลือกการเข้าชมเว็บไซต์

จากนั้นจึงเลือกเป้าหมาย Conversion ตามเป้าหมายการโฆษณา

---

ขั้นตอนที่ 3 จาก 6: ตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายระดับแคมเปญ

การกำหนดอุปกรณ์เป้าหมาย

การกําหนดอุปกรณ์เป้าหมายช่วยให้คุณกําหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังผู้คนตามอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเเกี่ยวกับการกำหนดอุปกรณ์เป้าหมาย

สําหรับแคมเปญ Demand Gen คุณตั้งค่าการกำหนดอุปกรณ์เป้าหมายได้ที่ระดับแคมเปญ

ในส่วน "อุปกรณ์" คุณจะเลือกแสดงโฆษณาในอุปกรณ์ที่มีสิทธิ์ทั้งหมดหรือตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ก็ได้ การแสดงโฆษณาในอุปกรณ์ทั้งหมดจะช่วยขยายการเข้าถึง หากต้องการมุ่งเน้นการเข้าถึงอุปกรณ์ที่เฉพาะเจาะจง ให้เลือกกำหนดเป้าหมายเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือหน้าจอทีวี

หากเลือกโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต คุณจะเลือกระบบปฏิบัติการ รุ่นของอุปกรณ์ และเครือข่ายทั้งหมดหรือบางรายการที่ต้องการกำหนดเป้าหมายได้ในส่วน "การกำหนดเป้าหมายขั้นสูงสำหรับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต"

การกําหนดเป้าหมายตามภาษาและสถานที่

คุณสามารถใส่ภาษาที่ลูกค้าใช้และสถานที่ที่จะกำหนดเป้าหมายเพื่อช่วยให้โฆษณาเข้าถึงลูกค้าที่คุณต้องการได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมายตามสถานที่และภาษา

โดยค่าเริ่มต้น การกำหนดเป้าหมายจะตั้งค่าที่ระดับกลุ่มโฆษณาเพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้ดียิ่งขึ้น ค่าเริ่มต้นของภาษาคือ "ภาษาทั้งหมด" และของสถานที่ตั้งคือ "สถานที่ทั้งหมด" เราขอแนะนำให้เปลี่ยนการกำหนดเป้าหมายเป็นระดับแคมเปญในกรณีที่คุณต้องการกำหนดรัศมีเป้าหมายรอบสถานที่เท่านั้น

ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้การกำหนดเป้าหมายตามภาษาและสถานที่ระดับแคมเปญ

1. ไปที่ด้านล่างของหน้าแล้วมองหาส่วน "สถานที่และภาษา"
2. สลับสวิตช์ "เปิดใช้การกำหนดเป้าหมายตามสถานที่และภาษาระดับแคมเปญ" ซึ่งจะช่วยให้คุณตั้งค่าสถานที่ในระดับแคมเปญได้
3. เลือกการค้นหาขั้นสูงเพื่อเปิดอินเทอร์เฟซแผนที่ จากตรงนี้ คุณยังกำหนดเป้าหมายตามรัศมีของสถานที่ที่เลือกได้ด้วย

หมายเหตุ: คุณจะเปลี่ยนการกำหนดเป้าหมายตามภาษาและสถานที่กลับไประดับกลุ่มโฆษณาหลังจากที่เผยแพร่แคมเปญแล้วไม่ได้ การกำหนดภาษาและสถานที่ทำได้ที่ระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาเท่านั้น

---

ขั้นตอนที่ 4 จาก 6: ตั้งค่าการเสนอราคาและงบประมาณ

งบประมาณมีผลต่อความถี่และระดับความโดดเด่นที่โฆษณาจะแสดง

การเสนอราคาเป็นตัวกําหนดการใช้งบประมาณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบประมาณแคมเปญและการเสนอราคา

1. เลือกกลยุทธ์การเสนอราคา กลยุทธ์การเสนอราคาเป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการโฆษณา คุณสามารถเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
   • เพิ่มจำนวนคลิกสูงสุด
   • การเสนอราคาแบบผลตอบแทนเป้าหมายจากค่าโฆษณา (tROAS)
   • ต้นทุนต่อหนึ่งการกระทำที่ตั้งไว้ (CPA)
   • เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
2. ป้อนงบประมาณของแคมเปญ คุณเลือกงบประมาณรายวันหรือจํานวนเงินเฉลี่ยที่ต้องการใช้จ่ายในแต่ละวันได้ ซึ่งเราขอแนะนําให้มากกว่า CPA เฉลี่ยรายวันที่คาดไว้ 15 เท่า)
3. กําหนดวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดให้กับแคมเปญ ซึ่งจําเป็นในกรณีที่ใช้งบประมาณรวมของแคมเปญ

หมายเหตุ: หากแคมเปญใช้งบประมาณจนหมด ไม่ว่าเป็นเพราะถึงขีดจํากัดต่อวันสําหรับงบประมาณรายวัน หรือถึงงบประมาณเฉลี่ยต่อวันสําหรับงบประมาณรวมของแคมเปญ ให้พิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อปรับขนาดให้ประสบความสำเร็จ แต่หากไม่บรรลุเป้าหมาย ให้ลองปรับการกําหนดเป้าหมาย การเสนอราคา และโฆษณาเพื่อดูว่าแคมเปญมีประสิทธิภาพดีขึ้นหรือไม่

---

ขั้นตอนที่ 5 จาก 6: (การอัปเดตกลุ่มโฆษณา) เข้าถึงผู้คนที่ค้นหาแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ

เมื่อใช้การกําหนดกลุ่มเป้าหมาย คุณจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีแนวโน้มจะทํา Conversion, ผู้ใช้ในสถานที่หนึ่งๆ, ผู้ที่พูดภาษาที่ระบุ, ผู้ใช้ที่มีความสนใจเฉพาะ ตลอดจนผู้ที่คล้ายกับลูกค้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการคุณ นอกจากนี้ คุณสามารถกำหนดสถานที่และภาษาในระดับกลุ่มโฆษณาได้ด้วย หากยังไม่ได้กำหนดที่ระดับแคมเปญ

1. เลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่โดยค้นหากลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่มีอยู่ กลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ กลุ่มที่คล้ายกัน หรือเลือกความสนใจที่เจาะจงหรือข้อมูลประชากรโดยละเอียด นอกจากนี้ยังสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ในเครื่องมือสร้างกลุ่มเป้าหมายระดับกลุ่มโฆษณาได้ด้วย

2. เก็บหรือยกเลิกการเลือกการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ขอแนะนําให้ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้แคมเปญทำงานได้ดีที่สุด
   • หมายเหตุ: เมื่อเปิดใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ การขยายข้อมูลประชากรจะมีผลด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพอาจกําหนดเป้าหมายนอกเหนือจากสัญญาณข้อมูลประชากรที่คุณเลือก เช่น อายุ เพศ รายได้ครัวเรือน และสถานะความเป็นบิดามารดา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ ผู้ลงโฆษณาที่มีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนจะยังคงปฏิบัติตามการจำกัดอายุ
3. ยกเว้นกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น กลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณหรือกลุ่มที่คล้ายกัน โดยพิจารณาจากกลยุทธ์กลุ่มเป้าหมาย

4. เลือกข้อมูลประชากรเพื่อมุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลประชากรบางกลุ่ม

---

ขั้นตอนที่ 6 จาก 6: สร้างโฆษณา

คุณจะสร้างโฆษณาที่ระดับกลุ่มโฆษณา ดังนั้นในการสร้างโฆษณาใหม่ ให้เลือกโฆษณาใหม่ในเมนูแบบเลื่อนลงข้างใต้กลุ่มโฆษณาที่ต้องการสร้างโฆษณา

1. คุณจะเลือกรูปแบบต่อไปนี้ได้
   • โฆษณาวิดีโอ: โฆษณาที่มีวิดีโอเดียว

สร้างโฆษณาวิดีโอด้วย Video Builder

หากต้องการสร้างวิดีโอใหม่โดยใช้ Video Builder ในเครื่องมือเลือกสื่อ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ขณะสร้างโฆษณา ให้คลิก + วิดีโอในการ์ด "วิดีโอ"
2. ในหน้าต่าง "เลือกวิดีโอ YouTube ที่จะใช้ในโฆษณา" ให้คลิกปุ่มสร้าง
3. เลือกเทมเพลตที่เหมาะสมที่สุดจากที่มีให้อย่างหลากหลาย แล้วคลิกใช้เทมเพลต
4. สร้างชิ้นงานสำหรับวิดีโอแต่ละฉาก ป้อนข้อความที่ต้องการในแถบข้อความ แล้วคลิกถัดไป
5. คลิก + รูปภาพ แล้วเลือกรูปภาพสำหรับฉาก
6. ครอบตัดรูปภาพตามต้องการ แล้วคลิกเลือก
7. คลิกบันทึก
8. หากต้องการเพิ่มฉากอื่นๆ ลงในวิดีโอ ให้คลิกถัดไป แล้วทำตามขั้นตอนที่ 4-7 ซ้ำ
9. จากแผง "การตั้งค่าวิดีโอ" ทางด้านขวา ให้ปรับการตั้งค่าตามต้องการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับการตั้งค่าวิดีโอ
10. คลิกไปที่ขั้นตอนการอัปโหลด
11. ป้อนชื่อวิดีโอในแถบข้อความ "ชื่อวิดีโอ"
12. เลือกช่องที่ต้องการอัปโหลดวิดีโอ
    • ช่องจัดเก็บโฆษณาวิดีโอที่ YouTube สร้างขึ้น
    • ช่องของคุณ
13. คลิกแสดงตัวอย่างวิดีโอคุณภาพสูงจากช่องประกาศเพื่อแสดงตัวอย่างวิดีโอเวอร์ชันคุณภาพสูง
14. คลิกอัปโหลดวิดีโอ
15. เลือกวิดีโอจาก "คลังชิ้นงาน" แล้วคลิกบันทึก
16. สร้างโฆษณาต่อ

การปรับการตั้งค่าวิดีโอ

คลิกปุ่ม < เพื่อขยายแผง "การตั้งค่าวิดีโอ" ปรับการตั้งค่าให้เหมาะกับข้อกำหนดของวิดีโอมากที่สุด

• สี: เลือกสีที่ต้องการแสดงในพื้นหลังของวิดีโอ
• แบบอักษร: เลือกชุดแบบอักษรและน้ำหนักแบบอักษรให้กับข้อความในฉาก
• เพลง: เลือกจากรายการเพลงที่มีให้เพื่อเล่นในพื้นหลังของวิดีโอ
• เสียงบรรยาย: ปรับการตั้งค่าข้อความเสียงบรรยายเพื่อสร้างเสียงบรรยายให้กับวิดีโอ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มเสียงบรรยายลงในวิดีโอ

• โฆษณาแบบรูปภาพ: โฆษณาที่มีรูปภาพเดียว

• โฆษณาแบบภาพสไลด์: โฆษณาที่มีรูปภาพหลายรูปในภาพสไลด์

2. ใส่ชื่อโฆษณา
3. เลือกหรือเพิ่มชิ้นงานสื่อ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกําหนดสําหรับชิ้นงานโฆษณาในแคมเปญ Demand Gen
4. เพิ่มโลโก้ได้สูงสุด 5 รายการ
5. ใส่ชิ้นงานข้อความ ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกําหนดสําหรับชิ้นงานโฆษณาในแคมเปญ Demand Gen
6. ใช้กฎคุณภาพของโฆษณาเพื่อให้โฆษณาประสบความสำเร็จ

---

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

• ข้อกําหนดและแนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับชิ้นงานในแคมเปญ Demand Gen
• ข้อกำหนดด้านคุณภาพและนโยบายของชิ้นงานในแคมเปญ Demand Gen
• เกี่ยวกับแคมเปญ Demand Gen
• แคมเปญ Demand Gen