คุณสามารถสร้างกำหนดเวลาการนัดหมายใน Google ปฏิทินได้ในคอมพิวเตอร์
สำคัญ: หากใช้ปฏิทินกับบัญชีส่วนตัว คุณสามารถสร้างหน้าการจองหน้าเดียวและยอมรับการนัดหมายแบบไม่จำกัดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้คุณต้องสมัครใช้บริการ Google Workspace หรือมีแพ็กเกจสมาชิก Google One จึงจะใช้งานฟีเจอร์พรีเมียมเพิ่มเติมได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์พรีเมียมสำหรับกำหนดเวลาการนัดหมาย
สร้างกำหนดเวลาการนัดหมาย
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดเวลาการนัดหมาย
สำคัญ: หากต้องการสร้างกำหนดเวลาการนัดหมายในปฏิทินรองหรือเพิ่มผู้ร่วมจัดการประชุมในกำหนดเวลาการนัดหมาย คุณต้องสมัครใช้บริการ Google Workspace ที่มีสิทธิ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์พรีเมียมสำหรับกำหนดเวลาการนัดหมาย
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
- คลิกสร้าง
ที่ด้านซ้ายบน
- คลิกกำหนดเวลาการนัดหมาย
- ป้อนชื่อ
- ทุกคนที่มีลิงก์ไปยังหน้าการจองจะเห็นชื่อดังกล่าว
- ชื่อจะปรากฏในปฏิทินเพื่อแสดงกำหนดการและการจองที่เข้ามาใหม่
- หากต้องการกำหนดระยะเวลาการนัดหมาย ให้คลิกลูกศรลง
- การนัดหมายต้องยาวอย่างน้อย 5 นาที
- กำหนดวันที่ เวลา และเขตเวลาของการนัดหมาย
- คุณจะกำหนดเวลาสำหรับการนัดหมายแบบครั้งเดียวหรือแบบเกิดซ้ำก็ได้
- เคล็ดลับ: หากต้องการเพิ่มช่วงเวลาหลายช่วงใน 1 วัน ให้คลิกเพิ่มช่วงเวลาอื่นสำหรับวันนี้
- เลือกการตั้งค่าเวลาว่างสำหรับการนัดหมาย เช่น กรอบเวลานัดหมายหรือวันที่คุณไม่ว่าง ดูข้อมูลเกี่ยวกับการปรับแต่งเวลาว่าง
- เลือกปฏิทินหลักหรือปฏิทินรองที่ต้องการเพิ่มกำหนดเวลาการนัดหมาย
-
เคล็ดลับ
-
เมื่อสร้างกำหนดเวลาการนัดหมายแล้ว คุณจะแก้ไขกำหนดการดังกล่าวให้อยู่ในปฏิทินหลักหรือปฏิทินรองอื่นไม่ได้
-
ทุกคนที่มีสิทธิ์แก้ไขปฏิทินรองหรือปฏิทินหลักจะเปลี่ยนแปลงกำหนดการและดูการจองที่เข้ามาใหม่ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์การเข้าถึง
-
-
- ไม่บังคับ: หากไม่ต้องการให้กิจกรรมที่สร้างหรือยอมรับในปฏิทินหลักหรือปฏิทินรองมีเวลาทับซ้อนกัน ให้เลือกตรวจสอบเวลาว่างจากปฏิทินในส่วน "ปฏิทิน" จากนั้นเลือกปฏิทินทั้งหมดที่ไม่ต้องการให้แสดงเวลาที่จองได้ในระหว่างกิจกรรมที่สร้างขึ้นหรือที่ยอมรับ
- สำคัญ: ช่วงเวลาที่สะดวกสำหรับนัดหมายแต่ละช่วงในหน้าการจองจะจองได้เพียงครั้งเดียวแม้ว่าฟีเจอร์นี้จะปิดอยู่
- หากต้องการเพิ่มผู้ร่วมจัดการประชุมในการนัดหมาย ให้ป้อนชื่อหรืออีเมลของผู้ร่วมจัดการประชุม
-
เคล็ดลับ: คุณสามารถเพิ่มผู้ร่วมจัดการประชุมในองค์กรเดียวกันได้สูงสุด 20 ราย ทั้งนี้จะใช้ Google Groups เป็นผู้ร่วมจัดการประชุมไม่ได้
-
- คลิกถัดไป
ที่ด้านซ้ายบน
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าหน้าการจอง
สำคัญ
- การยืนยันอีเมลใช้ได้กับแพ็กเกจ Google Workspace ที่มีสิทธิ์เท่านั้น
- สําหรับแพ็กเกจ Google Workspace และ Google One ที่มีสิทธิ์ คุณสามารถส่งการช่วยเตือนได้สูงสุด 5 ครั้งก่อนการนัดหมายแต่ละครั้ง
- คุณต้องมีบัญชี Stripe จึงจะรับชำระเงินสำหรับการนัดหมายได้ ดูวิธีรับชำระเงิน
- ตรวจสอบรูปภาพและชื่อของหน้าการจอง
- รูปภาพนี้นำมาจากบัญชี Google ของคุณ ดูวิธีเปลี่ยนรูปภาพ
- หน้าการจองจะไม่แสดงรูปภาพสำหรับกำหนดเวลาการนัดหมายที่สร้างในปฏิทินรอง
- เลือกสถานที่และตัวเลือกการประชุมสำหรับการนัดหมาย
- การประชุมทางวิดีโอ Google Meet
- การประชุมแบบเข้าร่วมด้วยตนเอง
- การโทร
- ไม่มี/ระบุภายหลัง
- เพิ่มคำอธิบายที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับบริการของคุณ
- คำอธิบายดังกล่าวจะปรากฏในหน้าการจองและอีเมลยืนยัน
- เพิ่มช่องเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกรอกข้อมูล
- ผู้เข้าร่วมต้องระบุชื่อและนามสกุล รวมถึงอีเมลของตนเอง
- วิธีเพิ่มช่องมีดังนี้
- คลิกเพิ่มรายการ
- คลิกหมายเลขโทรศัพท์หรือรายการที่กำหนดเอง
- เลือกว่าช่องเหล่านี้ต้องระบุหรือไม่บังคับ
- หากต้องการป้องกันบ็อต ให้คลิกต้องมีการยืนยันอีเมล
- ไม่บังคับ: เปิดการชำระเงินสำหรับการนัดหมาย
- เชื่อมต่อบัญชี Stripe กับ Google ปฏิทิน
- เลือกช่องข้าง "ต้องชำระเงินเมื่อจอง"
- ป้อนจำนวนเงินและสกุลเงิน
- เพิ่มนโยบายการยกเลิก
- ตั้งค่าอีเมลยืนยันและการช่วยเตือนสำหรับอีเมลของคุณ
- คุณสามารถส่งการช่วยเตือนได้สูงสุด 5 ครั้ง
- คลิกบันทึก
เคล็ดลับ
- คุณสามารถสร้างหรือเพิ่มเวลาว่างลงในกำหนดเวลาการนัดหมายได้เมื่อคลิกเวลาบนปฏิทินในมุมมองสัปดาห์หรือมุมมองวัน คลิกกำหนดเวลาการนัดหมายในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น
แก้ไขกำหนดเวลาการนัดหมาย
คุณจะแก้ไขบางช่องในกําหนดเวลาการนัดหมายได้
เปลี่ยนรูปภาพและชื่อ
คุณสามารถเปลี่ยนวิธีที่รูปภาพและชื่อปรากฏในหน้าการจองได้ ดูวิธีปรับแต่งหน้าการจองนัดหมาย
คุณแจ้งให้ผู้เข้าร่วมทราบสถานที่นัดหมายได้
- เปิดกำหนดเวลาการนัดหมาย
- คลิกถัดไปที่ด้านขวาล่าง
- หากต้องการตั้งค่าสถานที่ประชุม ให้คลิกเลือกตําแหน่ง
ในส่วน "สถานที่และการประชุม"
- เลือกตัวเลือกตําแหน่งต่อไปนี้
- การประชุมทางวิดีโอ Google Meet
- การประชุมแบบเข้าร่วมด้วยตนเอง
- การโทร
- ไม่มี/ระบุภายหลัง
- หากต้องการบันทึกกําหนดเวลาการนัดหมาย ให้คลิกบันทึกที่ด้านขวาล่าง
เคล็ดลับ: หากต้องการใช้บริการวิดีโอคอลของบุคคลที่สาม ให้คลิกไม่มี/ระบุภายหลัง หลังจากมีคนจองนัดหมายแล้ว ให้แก้ไขกิจกรรมเพื่อเพิ่มข้อมูลการประชุมทางวิดีโอ ขอแนะนําให้ติดตั้งส่วนเสริมของ Google Workspace Marketplace
ป้อนรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการหรือกิจกรรมได้ในคำอธิบายกิจกรรม
- เปิดกำหนดเวลาการนัดหมาย
- คลิกถัดไปที่ด้านขวาล่าง
- ในส่วน "คําอธิบาย" ให้ป้อนรายละเอียดเกี่ยวกับบริการหรือกิจกรรม
- หากต้องการบันทึกกําหนดเวลาการนัดหมาย ให้คลิกบันทึกที่ด้านขวาล่าง
เคล็ดลับ: คำอธิบายจะปรากฏในหน้าการจอง อีเมลยืนยัน และคำอธิบายกิจกรรมของ Google ปฏิทิน
คุณสามารถเพิ่มช่องเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกรอกแบบฟอร์มการจองได้
สําคัญ: ผู้ที่จองการนัดหมายกับคุณต้องป้อนชื่อและอีเมลในแบบฟอร์มการจอง
- เปิดกำหนดเวลาการนัดหมาย
- คลิกถัดไปที่ด้านขวาล่าง
- คลิกแบบฟอร์มการจอง
เพิ่มรายการ
- เลือกช่องต่อไปนี้
- หมายเลขโทรศัพท์: ขอให้ผู้เข้าร่วมแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง
- รายการที่กำหนดเอง: ป้อนข้อความแจ้งที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมตอบในกล่องข้อความ
- ไม่บังคับ: หากต้องการให้ระบุคำตอบ ให้เลือกช่องถัดจาก "ต้องระบุ"
- หากต้องการบันทึกแบบฟอร์ม ให้คลิกเพิ่มรายการ
- หากต้องการบันทึกกำหนดเวลาการนัดหมาย ให้คลิกบันทึกที่ด้านขวาล่าง
เพิ่มรายการ คุณสามารถตั้งเวลาที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมได้รับอีเมลช่วยเตือนได้
- เปิดกำหนดเวลาการนัดหมาย
- คลิกถัดไปที่ด้านขวาล่าง
- คลิกการยืนยันการจองและการช่วยเตือน
- คลิกลูกศรลง
- เลือกเวลาที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมรับการช่วยเตือนทางอีเมล
- หากต้องการบันทึกเวลาช่วยเตือน ให้คลิกเสร็จสิ้น
- หากต้องการบันทึกกําหนดเวลาการนัดหมาย ให้คลิกบันทึกที่ด้านขวาล่าง
เคล็ดลับ
- คุณสามารถส่งการช่วยเตือนได้สูงสุด 5 ครั้ง
- คุณจะแก้ไขข้อความในอีเมลช่วยเตือนไม่ได้
- เปิดกำหนดเวลาการนัดหมาย
- คลิกถัดไปที่ด้านขวาล่าง
- คลิกการยืนยันการจองและการช่วยเตือน
- ยกเลิกการเลือกช่องข้าง "การช่วยเตือนทางอีเมล"
วิธีแสดงหรือซ่อนกำหนดเวลาการนัดหมายใน Google ปฏิทินบนเว็บ
- ที่ด้านบน ถัดจากการตั้งค่า
ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลง "ตัวสลับมุมมอง"
- คลิกแสดงกำหนดเวลาการนัดหมาย
ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลง "ตัวสลับมุมมอง"เคล็ดลับ
- หากกำหนดเวลาการนัดหมายซ่อนอยู่ การนัดหมายที่จองไว้จะยังคงแสดงในปฏิทิน
- หากกำหนดเวลาการนัดหมายซ่อนอยู่และคุณสร้างกำหนดการใหม่หรือเพิ่มเวลาให้กับกำหนดการที่มีอยู่ การตั้งค่าจะแสดงกำหนดเวลาการนัดหมายอีกครั้ง
- กำหนดเวลาการนัดหมายจะแสดงในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เสมอ
กำหนดเวลาการนัดหมายซิงค์กับปฏิทินของคุณอย่างไร
กำหนดเวลาการนัดหมายจะซิงค์กับ Google ปฏิทินโดยอัตโนมัติ
- กำหนดเวลาการนัดหมายและการนัดหมายที่จองไว้จะปรากฏในปฏิทินโดยอัตโนมัติ
- เมื่อคุณเลือก "ตรวจสอบเวลาว่างในปฏิทิน" Google ปฏิทินจะไม่กําหนดเวลาสําหรับกิจกรรมทับซ้อนกัน หากคุณตอบกลับคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมหนึ่งใน Google ปฏิทินว่า "ไป" หรือ "ไม่แน่" ช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่ปรากฏว่าว่างอยู่ในหน้าการจอง ระบบจะอัปเดตเวลาว่างในหน้าการจองโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้เกิดการกําหนดเวลากิจกรรมทับซ้อนกัน หากคุณสมัครใช้บริการแพ็กเกจ Google Workspace หรือ Google One ที่มีสิทธิ์ ระบบจะตรวจหาการทับซ้อนของปฏิทินที่คุณเลือก ดูวิธีกำหนดเวลาการนัดหมายไม่ให้ทับซ้อนกัน
วิธีการทํางานของระดับการเข้าถึงกำหนดเวลาการนัดหมาย
- ทุกคนที่มีสิทธิ์แก้ไขปฏิทินที่สร้างกำหนดเวลาการนัดหมายจะสามารถเปลี่ยนแปลงกำหนดการและดูการจองที่เข้ามาใหม่ได้
- ทุกคนที่มีลิงก์ของหน้าการจองจะดูเวลาว่างของคุณได้
- หากคุณแชร์หน้าการจอง แต่ไม่ได้แชร์ปฏิทิน คนอื่นๆ จะไม่สามารถดูกิจกรรมในปฏิทินของคุณได้
- คุณสามารถแสดงหรือซ่อนกำหนดเวลาการนัดหมายได้ในเมนู "ตัวสลับมุมมอง" หากกำหนดเวลาการนัดหมายซ่อนอยู่และคุณสร้างกำหนดการใหม่หรือเพิ่มเวลาให้กับกำหนดการ กำหนดเวลาการนัดหมายที่ซ่อนอยู่จะปรากฏขึ้นอีกครั้ง
- ในหน้าการจอง หากคุณปิด "ตรวจสอบเวลาว่างในปฏิทิน" ไว้ ช่วงเวลานัดหมายทั้งหมดจะปรากฏเป็นว่างอยู่ ยกเว้นการจองที่ผ่านมาที่ยอมรับผ่านหน้าการจอง ซึ่งจะมีผลแม้ว่าคุณจะตอบรับกิจกรรมที่ไม่ใช่การนัดหมายก็ตาม
- สำคัญ: ช่วงเวลาที่สะดวกสำหรับนัดหมายแต่ละช่วงในหน้าการจองจะจองได้เพียงครั้งเดียวแม้ว่าฟีเจอร์นี้จะปิดอยู่