ตัวอย่างการนำเข้าข้อมูลทางภูมิศาสตร์

เรียนรู้วิธีนำเข้าพื้นที่การขายทางภูมิศาสตร์

การนำเข้าข้อมูลทางภูมิศาสตร์ช่วยให้คุณสามารถจัดระเบียบข้อมูลตามพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่กำหนดเองซึ่งเกี่ยวข้องกับองค์กรธุรกิจของคุณได้

บทความนี้ประกอบด้วย

สถานการณ์

สมมติว่าบริษัทของคุณมีการดําเนินงานแบ่งตามพื้นที่การขายทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันตก ปัจจุบัน Analytics จะรายงานเฉพาะพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นค่าเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อใช้ประเภททางภูมิศาสตร์ในการนำเข้าข้อมูล คุณจะสามารถสร้างการจับคู่ระหว่างพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่คุณใช้ในธุรกิจกับพื้นที่ที่เป็นค่าเริ่มต้นใน Analytics ซึ่งจะทำให้คุณเห็นข้อมูลที่จัดระเบียบตามพื้นที่การขายที่กำหนดเองเหล่านั้น

ขั้นตอนที่ 1: ตัดสินใจว่าจะนำเข้าข้อมูลใด

คุณต้องการแสดงข้อมูลที่จัดกลุ่มตามพื้นที่การขาย 3 ส่วน ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันตก พื้นที่เหล่านี้ได้รับการกำหนดในระดับรัฐ/จังหวัด ตัวอย่างสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีลักษณะดังนี้

ตัวอย่างพื้นที่การขาย
รัฐ/จังหวัด พื้นที่การขาย
แคลิฟอร์เนีย ตะวันตก
เนวาดา ตะวันตก
นิวยอร์ก ตะวันออก
คอนเนตทิคัต ตะวันออก
อิลลินอยส์ กลาง
... ...

 

ขั้นตอนที่ 2: จับคู่ข้อมูลของคุณกับมิติข้อมูลรหัสทางภูมิศาสตร์

Analytics มีมิติข้อมูลรหัสทางภูมิศาสตร์ 5 รายการ แต่ละรายการมีระดับของโครงสร้างทางภูมิศาสตร์แตกต่างกันไป ในขั้นตอนนี้ คุณจะต้องระบุว่าข้อมูลธุรกิจของคุณอยู่ในระดับใด จากนั้นคุณจะต้องจับคู่ข้อมูลธุรกิจของคุณกับรหัสทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องในระดับของโครงสร้างดังกล่าว

ในตัวอย่างของเรา เราต้องการจับคู่รัฐแคลิฟอร์เนียกับพื้นที่การขายภาคตะวันตก โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้

  • รัฐอยู่ในระดับภูมิภาคของโครงสร้างทางภูมิศาสตร์
  • ภูมิภาคสอดคล้องกับมิติข้อมูลรหัสทางภูมิศาสตร์ ga:regionId
  • ในตารางรหัสเกณฑ์ทางภูมิศาสตร์ แคลิฟอร์เนียมีรหัสเกณฑ์เป็น 21137
  • ดังนั้นในตารางพื้นที่การขายของเรา เราจะจับคู่ภาคตะวันตกกับ ga:regionId 21137
  • ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ รัฐเนวาดาก็อยู่ในพื้นที่การขายภาคตะวันตก เราจึงเพิ่มรหัสเกณฑ์ 21166 ของเนวาดาในการจับคู่ของเรา

หลังจากจับคู่พื้นที่การขายทั้งหมดแล้ว คุณจะได้ตารางหน้าตาแบบนี้

ตัวอย่างการจับคู่พื้นที่การขาย
ga:regionId พื้นที่การขาย รัฐ
21137 ตะวันตก แคลิฟอร์เนีย
21166 ตะวันตก เนวาดา
21167 ตะวันออก นิวยอร์ก
21139 ตะวันออก คอนเนตทิคัต
21147 กลาง อิลลินอยส์
... ... ...

 

ขั้นตอนที่ 3: สร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเอง

เนื่องจากไม่มีมิติข้อมูลพื้นที่การขายอยู่ใน Analytics คุณจึงต้องสร้างเป็นมิติข้อมูลที่กำหนดเอง ตั้งชื่อมิติข้อมูลที่กำหนดเองว่า "พื้นที่การขาย" แล้วกำหนดขอบเขตเป็นเซสชัน

หมายเหตุ: มิติข้อมูลที่กำหนดเองทั้งหมดที่จับคู่กับมิติข้อมูลทางภูมิศาสตร์ต้องได้รับการกำหนดค่าเป็นมิติข้อมูลที่มีขอบเขตเป็นเซสชัน

วิธีสร้างมิติข้อมูลที่กำหนดเอง

คุณต้องมีบทบาทผู้แก้ไขในระดับพร็อพเพอร์ตี้จึงจะสร้างหรือแก้ไขมิติข้อมูลหรือเมตริกที่กําหนดเองได้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
  2. ไปที่พร็อพเพอร์ตี้ของคุณ
  3. ในคอลัมน์พร็อพเพอร์ตี้ คลิกคำจำกัดความที่กำหนดเอง ตามด้วยมิติข้อมูลที่กำหนดเอง
  4. คลิกมิติข้อมูลที่กำหนดเองใหม่
  5. เพิ่มชื่อ ชื่อสามารถเป็นสตริงใดๆ ก็ได้ แต่ควรใช้ชื่อที่ไม่ซ้ำกับอย่างอื่น เพื่อไม่ให้สับสนกับมิติข้อมูลหรือเมตริกอื่นในรายงานของคุณ
  6. กำหนดขอบเขตเป็นเซสชัน อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอบเขตและวิธีประมวลผลมิติข้อมูลที่กำหนดเองในคู่มือนักพัฒนาซอฟต์แวร์ Analytics

  7. เลือกทำงานเพื่อเริ่มเก็บข้อมูลและดูมิติข้อมูลในรายงานของคุณโดยทันที หากต้องการสร้างมิติข้อมูลแต่ยังคงไม่ให้ทำงาน ให้ยกเลิกการทำเครื่องหมายที่ช่องนี้
  8. คลิกสร้าง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิติข้อมูลที่กำหนดเอง

 

ขั้นตอนที่ 4: สร้างชุดข้อมูล

ชุดข้อมูลเป็นเหมือนภาชนะที่จะรองรับข้อมูลที่นำเข้า สร้างชุดข้อมูลทางภูมิศาสตร์ตามตัวอย่างด้านล่างเพื่อใช้เก็บการจับคู่รหัสเกณฑ์ของคุณกับพื้นที่การขาย

วิธีสร้างชุดข้อมูลมีดังนี้

คุณต้องมีบทบาทผู้แก้ไขในระดับพร็อพเพอร์ตี้จึงจะสร้างหรือแก้ไขชุดข้อมูลได้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
  2. ไปที่พร็อพเพอร์ตี้ของคุณ
  3. คลิกนำเข้าข้อมูลในคอลัมน์พร็อพเพอร์ตี้
  4. คลิกชุดข้อมูลใหม่
  5. เลือกประเภทเป็นข้อมูลทางภูมิศาสตร์
  6. ป้อน "พื้นที่การขาย" เป็นชื่อ
  7. เลือกข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้อย่างน้อย 1 รายการที่คุณต้องการดูข้อมูลนี้
  8. กำหนดสคีมาโดยใช้ตัวอย่างด้านล่างเป็นต้นแบบ
  9. คลิกเสร็จ

 

ตัวอย่างสคีมา

ชุดข้อมูลทางภูมิศาสตร์ให้คุณสามารถเลือกมิติข้อมูลรหัสทางภูมิศาสตร์ที่มีอยู่ 1 จาก 4 รายการเพื่อใช้เป็นคีย์ และคุณต้องระบุมิติข้อมูลที่จะนำเข้าอย่างน้อยหนึ่งรายการด้วย สำหรับตัวอย่างนี้ ให้เลือกรายการต่อไปนี้

  • คีย์: ga:regionId
  • ข้อมูลที่นำเข้า: พื้นที่การขาย (มิติข้อมูลที่กำหนดเองที่คุณสร้างไว้ในขั้นตอนที่แล้ว)
  • เขียนทับข้อมูล Hit: ใช่

รับข้อมูลส่วนหัวของไฟล์อัปโหลด

ก่อนที่จะไปยังขั้นตอนถัดไป ให้รับสคีมาชุดข้อมูลเพื่อใช้เป็นส่วนหัวของไฟล์ที่อัปโหลดก่อน

คลิกรับสคีมา

คุณจะเห็นข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายด้านล่าง

CSV header
ga:regionId,ga:dimension23

มิติข้อมูลที่กำหนดเองของคุณมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะมีชื่อภายในที่ต่างจากชื่อที่แสดงในที่นี้

คุณต้องใช้ส่วนหัวนี้เป็นบรรทัดแรกของไฟล์ CSV ที่อัปโหลด คุณสามารถคัดลอก/วางส่วนหัวลงในไฟล์ CSV โดยตรง หรือคลิกดาวน์โหลดเทมเพลตสคีมาเพื่อเปิดดูในสเปรดชีตก็ได้

 

ขั้นตอนที่ 5: สร้างไฟล์อัปโหลด

คุณจะต้องอัปโหลดข้อมูลไปยัง Analytics โดยการนำเข้าไฟล์ CSV (ค่าที่คั่นด้วยคอมมา) ซึ่งอ้างอิงจากตารางที่กำหนดไว้ในขั้นตอนที่ 2 แต่ต้องมีการจัดรูปแบบในลักษณะเฉพาะดังที่อธิบายไว้ในการจัดรูปแบบไฟล์อัปโหลด

สร้างสเปรดชีตและส่งออกเป็นไฟล์ CSV

สร้างสเปรดชีตซึ่งมีข้อมูลที่คุณต้องการอัปโหลด (เช่น พื้นที่การขาย) รวมทั้งค่าคีย์ที่จะผูกข้อมูลดังกล่าวกับ Hit ที่คุณรวบรวมไว้ (เช่น รหัสเกณฑ์ แถวแรก (ส่วนหัว) ของสเปรดชีตควรใช้ชื่อมิติข้อมูลภายใน (เช่น ga:regionId แทนที่จะใช้ "รหัสพื้นที่" และใช้ ga:dimension23 แทน "พื้นที่การขาย") คุณสามารถดูชื่อภายในเหล่านั้นได้โดยการดาวน์โหลดเทมเพลตสคีมาดังที่อธิบายไว้ข้างต้น สเปรดชีตที่เหลือควรจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแต่ละคอลัมน์

ตัวอย่างข้อมูลสเปรดชีต
ga:regionId ga:dimension23
21137 ตะวันตก
21166 ตะวันตก
21167 ตะวันออก
21139 ตะวันออก
21147 กลาง

ส่งออกสเปรดชีตเป็นไฟล์ CSV ไฟล์ของคุณจะมีลักษณะดังนี้

ga:regionId,ga:dimension23 
21137,ตะวันตก 
21166,ตะวันตก 
21167,ตะวันออก 
21139,ตะวันออก 
21147,กลาง

 

ขั้นตอนที่ 6: อัปโหลดข้อมูล

การนำเข้าข้อมูลไปยัง Analytics มีอยู่ 2 วิธีคือ การนำเข้าด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เฟซผู้ใช้ หรือการนำเข้าแบบเป็นโปรแกรมโดยใช้ Management API

อัปโหลดด้วยตนเอง
  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
  2. ไปที่พร็อพเพอร์ตี้ของคุณ
  3. คลิกนำเข้าข้อมูลในคอลัมน์พร็อพเพอร์ตี้
  4. ในตารางชุดข้อมูล ให้หาแถวชุดข้อมูลพื้นที่การขาย
  5. คลิกจัดการการอัปโหลดสำหรับชุดข้อมูลพื้นที่การขาย
  6. คลิกอัปโหลดไฟล์ เลือกไฟล์ แล้วคลิกอัปโหลด
อัปโหลดผ่านทาง Management API
  1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Analytics
  2. ไปที่พร็อพเพอร์ตี้ของคุณ
  3. คลิกนำเข้าข้อมูลในคอลัมน์พร็อพเพอร์ตี้
  4. ในตารางชุดข้อมูล ให้หาแถวพื้นที่การขาย
  5. คลิกที่ชื่อชุดข้อมูล
  6. คลิกรับรหัสแหล่งที่มาของข้อมูลที่กำหนดเอง…
  7. จดรหัสเอาไว้ (คุณจะต้องใช้ในขั้นตอนอื่นๆ ที่อธิบายไว้ในคู่มือนักพัฒนาซอฟต์แวร์)
  8. ทำตามวิธีการเหล่านี้เพื่ออัปโหลดผ่าน Management API

 

ขั้นตอนที่ 7: ดูข้อมูลในรายงาน

เนื่องจากพื้นที่การขายเป็นมิติข้อมูลที่กำหนดเอง จึงไม่ปรากฏในรายงานมาตรฐานโดยอัตโนมัติ แต่คุณสามารถเพิ่มเป็นมิติข้อมูลรองได้ ตัวอย่างเช่น ในรายงานภูมิศาสตร์ > สถานที่ตั้ง คุณสามารถเลือกประเทศเป็นมิติข้อมูลหลัก แล้วเพิ่มพื้นที่การขายเป็นมิติข้อมูลรอง นอกจากนี้ยังสามารถรวมมิติข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่นำเข้าไว้ในรายงานที่กำหนดเองได้ด้วย

ระบบจะต้องประมวลผลข้อมูลที่อัปโหลดก่อน ข้อมูลเหล่านั้นจึงจะแสดงในรายงาน เมื่อประมวลผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจใช้เวลาสูงสุด 24 ชั่วโมงระบบจึงจะเริ่มนำข้อมูลที่นำเข้าไปใช้กับข้อมูล Hit ที่เข้ามา

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เลือกเส้นทางการเรียนรู้ของคุณเอง

โปรดไปที่ google.com/analytics/learn ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Google Analytics 4 เว็บไซต์ใหม่นี้มีทั้งวิดีโอ บทความ และขั้นตอนพร้อมคำแนะนำ รวมถึงลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ Google Analytics เช่น Discord, บล็อก, ช่อง YouTube ตลอดจนที่เก็บ GitHub

เริ่มเรียนรู้วันนี้เลย

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
11302626828295845078
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false