This feature is part of an open beta. Keep in mind that the feature is subject to change.
สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา
ภาพรวม
ในฐานะผู้ดูแลระบบหรือผู้แก้ไข Google Analytics คุณสามารถตั้งค่าการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้เพื่อส่งข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งที่ได้รับความยินยอมจากเว็บไซต์ไปยัง Google Analytics ได้ จากนั้นระบบจะจับคู่ข้อมูลที่คุณส่งกับข้อมูลอื่นๆ ของ Google ด้วยวิธีที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว เพื่อปรับปรุงความแม่นยำของข้อมูลการวัดผล และเพิ่มความสามารถของ Analytics ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว
หากส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ คุณจะมีตัวเลือกในการใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้โดยใช้อัลกอริทึมการแฮชทางเดียวแบบปลอดภัยที่เรียกว่า SHA256 เพื่อแฮชข้อมูลก่อนส่งให้กับ Google หรือคุณจะอาศัยฟีเจอร์ดังกล่าวเพื่อใช้อัลกอริทึมการแฮช SHA256 กับข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ก่อนที่จะส่งไปยัง Google ก็ได้
หากใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ผ่าน Measurement Protocol คุณต้องใช้ SHA256 เพื่อแฮชข้อมูลก่อนที่จะส่งไปยัง Google
ฟีเจอร์นี้ไม่มีให้บริการสำหรับพร็อพเพอร์ตี้ในหมวดหมู่อุตสาหกรรม "สุขภาพ" และ "การเงิน"
ประโยชน์
การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตในการตั้งค่า เพื่อที่จะไม่ต้องอาศัยคุกกี้ของบุคคลที่สามซึ่งกําลังจะเลิกใช้งาน และยังเป็นการเปิดใช้ฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานต่อไปนี้ด้วย
Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว
ข้อมูลประชากรและความสนใจ
ก่อนนำไปใช้งาน
หากต้องการส่งข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งที่ได้รับความยินยอมจากเว็บไซต์โดยใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ คุณจะต้องลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics กับบัญชี Google Ads
การรับทราบนโยบายฟีเจอร์ข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้เป็นการอนุญาตการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้ โปรดทราบว่าการรับทราบนโยบายฟีเจอร์เป็นแบบถาวร และจะส่งผลให้พร็อพเพอร์ตี้ของคุณมีการเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้ แม้ว่าจะปิดใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้จากแท็กได้ แต่การเปลี่ยนแปลงต่อไปนี้จะยกเลิกไม่ได้ และควรได้รับการตรวจสอบก่อนรับทราบนโยบาย
- เพื่อรับประกันความถูกต้องของข้อมูล การปรับปรุงรูปแบบและการระบุแหล่งที่มาตาม Conversion ที่ปรับปรุงแล้วโดยใช้ Google Analytics จึงไม่พร้อมใช้งานทันที คาดว่าจะใช้เวลา 1 เดือนในขณะที่ฟีเจอร์นี้ทำงานอยู่ก่อนที่การปรับปรุงเหล่านี้จะพร้อมใช้งานได้ในรายงานใน Google Analytics และในรายงานที่เกี่ยวข้องและการเสนอราคาใน Google Ads
- หากพร็อพเพอร์ตี้มีกลุ่มเป้าหมายที่มีเงื่อนไขซึ่งเกี่ยวข้องกับการโต้ตอบของผู้ใช้ในหลายอุปกรณ์ การเป็นสมาชิกของกลุ่มเป้าหมายจะลดลงเนื่องจากระบบจะเก็บข้อมูลผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้ (User-ID) แยกจากข้อมูลผู้ใช้ที่ออกจากระบบ ซึ่งหมายความว่าความสามารถในการรีมาร์เก็ตไปยังกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้บนอุปกรณ์อื่นๆ นอกเหนือจากอุปกรณ์ที่ตรงตามเกณฑ์เงื่อนไขกลุ่มเป้าหมายจะได้รับผลกระทบ ผลกระทบนี้จะลดลงบางส่วนหากพร็อพเพอร์ตี้เปิดใช้ Google Signals
- ข้อมูลประชากรและความสนใจจะเปลี่ยนจากการได้มาจากคุกกี้และตัวระบุอุปกรณ์ไปเป็นข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ที่ลงชื่อเข้าใช้
วิธีการ
- เปิดใช้งานการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้
เมื่อคุณเปิดใช้งานการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ Google Analytics จะสามารถรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้จากสตรีมข้อมูลทั้งหมดในพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics และส่งออกข้อมูลดังกล่าวไปยังบัญชีการโฆษณาที่ลิงก์ไว้
- ในส่วนผู้ดูแลระบบ ให้คลิกการเก็บรวบรวมข้อมูลใต้การเก็บรวบรวมและการแก้ไขข้อมูล
ลิงก์ก่อนหน้าจะเปิดพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ล่าสุดที่คุณเข้าถึง คุณเปลี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ได้โดยใช้ตัวเลือกพร็อพเพอร์ตี้ คุณต้องเป็นผู้แก้ไขหรืออยู่ในระดับสูงกว่านั้น ที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้ถึง เปิดใช้งานการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้
- คลิกเปิดในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้
- (ไม่บังคับ) เลือกรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติเพื่อให้ Google Analytics ตรวจหาข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ในเว็บไซต์ได้โดยอัตโนมัติ
หากเลือกตัวเลือกนี้ คุณต้องเปิดใช้การเก็บรวบรวมอัตโนมัติในแท็ก Google ด้วย คุณจะอัปเดตการตั้งค่านี้ได้หลังจากเปิดการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้แล้ว หากคุณเปิดใช้วิธีการที่ทำด้วยตนเองหรือโดยการใช้โค้ด Analytics จะตรวจหาข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้โดยอัตโนมัติเฉพาะในกรณีที่วิธีการที่ทำด้วยตนเองหรือการใช้โค้ดไม่ได้ระบุข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ - โปรดอ่านนโยบายข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ แล้วคลิกเปิด
- ในส่วนผู้ดูแลระบบ ให้คลิกการเก็บรวบรวมข้อมูลใต้การเก็บรวบรวมและการแก้ไขข้อมูล
- ระบุและกำหนดค่าการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ในเว็บไซต์โดยใช้ตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้
ตัวเลือกการติดตั้งใช้งาน รายละเอียด gtag.js หากตอนนี้คุณใช้ gtag.js เพื่อรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ คุณควรทําตามวิธีการสําหรับ gtag.js ในการปรับการกําหนดค่าเล็กน้อยเพื่อรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการติดตั้งใช้งาน gtag.js Google Tag Manager หากตอนนี้คุณใช้ Google Tag Manager เพื่อรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ คุณควรทำตามวิธีการสำหรับ Tag Manager เพื่ออัปเดตคอนเทนเนอร์ด้วยตัวแปรที่รวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการติดตั้งใช้งาน Tag Manager Measurement Protocol หากต้องการรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้จากการโต้ตอบแบบออฟไลน์ ให้ตั้งค่าการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้โดยใช้ Measurement Protocol ดูข้อมูลเกี่ยวกับการติดตั้งใช้งาน Measurement Protocol
การทำความเข้าใจเวลาที่ควรติดตั้งใช้งานฟีเจอร์ User-ID
คุณสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้กับฟีเจอร์ User-ID หรือไม่ก็ได้ ฟีเจอร์ User-ID จะใช้ตัวระบุผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำของคุณเอง (ซึ่งต้องแตกต่างจากที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้) ที่คุณสร้างและจัดการให้ผู้ใช้แต่ละราย
ทั้งนี้อาจติดตั้งใช้งานฟีเจอร์ User-ID ไม่ได้ในบางเว็บไซต์ แต่สำหรับเว็บไซต์อื่นๆ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เราขอแนะนำให้คุณตั้งค่าฟีเจอร์ User-ID ควบคู่ไปกับการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ เพื่อให้ได้การรายงานผู้ใช้ใน Analytics ที่แม่นยำที่สุด
หากคุณส่งข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้โดยไม่ได้ส่ง User-ID มาด้วย ข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ที่รวบรวมมาจะผ่านกระบวนการประมวลผลข้อมูลเพื่อไม่ให้ระบุตัวบุคคลนั้นได้ และระบบจะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อดูว่าผู้ใช้รายใดเป็นผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำ เพื่อกรองข้อมูลที่ซ้ำกันออกและใช้เพื่อจุดประสงค์ในการรายงาน เมื่อมีการให้ข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้หลายประเภท Analytics จะจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลตามลำดับ ได้แก่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อ และที่อยู่ โปรดทราบว่าหากมีการระบุ User-ID สำหรับผู้ใช้ซึ่งเคยผ่านการวัดผลด้วยข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้เท่านั้น (ไม่มี User-ID) ในภายหลัง Analytics จะนับว่าผู้ใช้เหล่านี้เป็นกลุ่มผู้ใช้ที่แยกต่างหากเพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงาน
การแชร์มากกว่า 1 ช่อง
คุณสามารถรวมอย่างน้อย 1 ช่องจากเว็บไซต์ การรวมช่องมากกว่า 1 ช่องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจับคู่ข้อมูลลูกค้าและการระบุแหล่งที่มาของ Conversion
หากต้องการระบุข้อมูลเพียงช่องเดียว เราขอแนะนำให้ส่งอีเมล อย่างไรก็ตาม ช่องที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ก็อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการจับคู่ได้
การปิดใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้
แม้การรับทราบนโยบายฟีเจอร์จะเป็นแบบถาวร แต่คุณสามารถหยุดเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ใน Analytics ได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
- การปิดการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ในการใช้ Google Analytics ผ่านผู้ดูแลระบบ > การตั้งค่าข้อมูล > การเก็บรวบรวมข้อมูล จะเป็นการปิดการนำเข้าและการประมวลผลข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ในพร็อพเพอร์ตี้
- การปิดการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ในการใช้การติดแท็กหรือ Tag Manager จะหยุดแท็ก Google ไม่ให้ส่งข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ไปยังพร็อพเพอร์ตี้ Analytics นอกจากนี้ หากคุณส่งข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ไปยัง Analytics ด้วย Measurement Protocol คุณจะต้องอัปเดตการติดตั้งใช้งานเพื่อให้ระบบหยุดรวมข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้
หรือหากคุณแก้ไขข้อมูลที่ส่งไปยัง Analytics ไม่ได้ แต่ต้องการหยุดใช้ฟีเจอร์ในการรายงาน ก็สามารถปิดใช้การรายงานแบบรวมในการตั้งค่าข้อมูลระบุตัวตนในการรายงานได้ เพื่อให้ใช้ข้อมูลจากพื้นที่การระบุตัวตนแบบไม่ระบุตัวบุคคลเท่านั้น