การตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ในแท็กโฆษณาของผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ทำได้ในทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA)
ภายใต้นโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU ที่ปรับปรุงแล้วของ Google คุณต้องเปิดเผยข้อมูลบางอย่างต่อผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) และสหราชอาณาจักร และได้รับความยินยอมในการใช้คุกกี้หรือพื้นที่เก็บข้อมูลอื่นในเครื่องในกรณีที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการรวบรวม การแชร์ และการใช้ข้อมูลส่วนตัวสำหรับการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ นโยบายนี้เป็นผลมาจากข้อกำหนดด้าน ePrivacy และกฎระเบียบให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค (GDPR) ของสหภาพยุโรป
- การตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับหน้าเว็บที่ใช้แท็ก GPT และ AdSense
- การตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับหน้า AMP
- การตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับแท็กอื่นๆ
การตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับหน้าเว็บที่ใช้แท็ก GPT และ AdSense
การส่งคำขอโฆษณา
คำขอโฆษณาไปยัง Google จะแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น โดยมีการเลือกโฆษณาตามเนื้อหาของหน้าเว็บและประวัติของผู้ใช้แต่ละคนที่เข้าชมหน้าเว็บ นอกจากนี้ Google ยังรองรับการแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้อีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาที่ปรับและไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
หากคุณได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของนโยบายการให้ความยินยอมแล้ว และต้องการแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้แก่ผู้ใช้ทุกคนที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรปและสหราชอาณาจักร หรือในภูมิภาคอื่นภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าวที่เข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณ ก็ไม่จำเป็นต้อง ทำการเปลี่ยนแปลงการติดแท็กโฆษณา คุณจะเปิดการแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้ใน UI ของ AdSense สำหรับเนื้อหา หรือ Google Ad Manager
แต่ถ้าคุณต้องการแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้แก่ผู้ใช้บางส่วน และแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้แก่ผู้ใช้รายอื่นๆ แท็กโฆษณาแบบอะซิงโครนัส GPT และ AdSense/Ad Manager จะช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาเรียกการแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้บนหน้าเว็บแต่ละหน้าได้ ซึ่งวิธีนี้อาจเป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณให้ผู้ใช้ทั้งหมดหรือบางส่วนเลือกระหว่างโฆษณาที่ปรับและไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
แม้ว่าโฆษณาเหล่านี้จะไม่ใช้คุกกี้เพื่อปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ แต่จะยังใช้คุกกี้เพื่อกำหนดความถี่สูงสุด รายงานโฆษณาแบบรวม และต่อต้านการประพฤติมิชอบและการละเมิดเกี่ยวกับโฆษณา ดังนั้นจึงต้องได้รับคำยินยอมให้ใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวจากผู้ใช้ในประเทศที่บังคับใช้ข้อบัญญัติเกี่ยวกับคุกกี้ในคำสั่ง ePrivacy ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
สำหรับแท็ก GPT
ใช้วิธีการ googletag.pubads().setRequestNonPersonalizedAds(1)
สำหรับแท็กโฆษณาแบบอะซิงโครนัส AdSense และ Ad Manager
ตั้งค่า (adsbygoogle=window.adsbygoogle||[]).requestNonPersonalizedAds=1
โปรดตรวจสอบว่าแท็กโฆษณาส่งคำขอโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้หรือไม่ ด้วยการหาคำขอโฆษณาในเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของเบราว์เซอร์ แล้วมองหาพารามิเตอร์ &npa=1
การเรียกใช้ setRequestNonPersonalizedAds(0)
หรือการตั้งค่า requestNonPersonalizedAds=0
จะเป็นการเปิดใช้การปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้อีกครั้ง
การหยุดคำขอโฆษณาชั่วคราว
แท็ก GPT และแท็กแบบอะซิงโครนัส AdSense/Ad Manager รองรับเทคนิคต่างๆ ในการโหลดหน้าเว็บ แต่จะรอให้มีสัญญาณที่ชัดเจนก่อนเริ่มออกคำขอโฆษณา ซึ่งวิธีการนี้อาจเป็นประโยชน์หากคุณต้องรอให้ผู้ใช้โต้ตอบกับ UI คำขอรับคำยินยอมก่อนที่จะออกคำขอโฆษณา
เมื่อใช้ GPT: ทำให้คำขอโฆษณาล่าช้าออกไปได้ถ้าคุณใช้โหมดอะซิงโครนัส
- ใช้ฟังก์ชัน
disableInitialLoad()
เพื่อป้องกันไม่ให้แท็กส่งคำขอโฆษณาในการโหลดหน้าเว็บเริ่มต้น ซึ่งคุณจะต้องทำก่อนที่จะเรียกใช้คำขอโฆษณาโดยใช้display()
- ตั้งค่าช่องโฆษณาโดยใช้การเรียกไปที่
googletag.cmd.push(...)
ตามปกติ - หลังจากที่ผู้ใช้ยินยอมแล้ว เรียกไปที่
setRequestNonPersonalizedAds(1)
หากจำเป็น - ใช้ฟังก์ชัน
refresh()
เพื่อดำเนินการส่งคำขอโฆษณาต่อ - ถ้าคุณไม่ได้เรียก
refresh()
โฆษณาจะไม่ปรากฏขึ้น และจะไม่ทำให้คำขอล่าช้าออกไปได้ถ้าใช้enableSyncRendering()
เมื่อใช้โค้ดโฆษณาแบบอะซิงโครนัส AdSense หรือ Ad Manager ให้ดำเนินการต่อไปนี้
- ใช้
(adsbygoogle=window.adsbygoogle||[]).pauseAdRequests=1
เพื่อป้องกันไม่ให้แท็กส่งคำขอโฆษณา ซึ่งจะต้องทำก่อนที่จะเรียกคำขอโฆษณาโดยใช้adsbygoogle.push(...)
- ตั้งค่าช่องโฆษณาโดยใช้การเรียกไปที่
adsbygoogle.push(...)
ตามปกติ - หลังจากที่ผู้ใช้ยินยอมแล้ว เรียกไปที่
requestNonPersonalizedAds=1
ถ้าจำเป็น - ใช้
(adsbygoogle=window.adsbygoogle||[]).pauseAdRequests=0
เพื่อดำเนินการส่งคำขอโฆษณาต่อ - ถ้าคุณไม่ได้ตั้งค่า
pauseAdRequests=0
โฆษณาจะไม่ปรากฏขึ้น
เทคนิคนี้จะบล็อกไม่ให้มีการส่งคำขอโฆษณา แต่สคริปต์ต่างๆ จะยังคงโหลดอยู่ และแม้ว่าจะยังมีการอ่านคุกกี้ที่อยู่ในโดเมนของ Google แต่จะไม่มีการตั้งค่าคุกกี้ใหม่ จะไม่มีการใช้ข้อมูลใดๆ ที่เชื่อมโยงกับคุกกี้ที่มีอยู่เพื่อการแสดงโฆษณาหรือการวัด
ถ้าโซลูชันการจัดการคำยินยอมมีวิธีเก็บสคริปต์การโหลดไว้จนกว่าผู้ใช้จะใช้ตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่ง อีกทางเลือกหนึ่งก็คือเก็บการโหลด gpt.js
และ adsbygoogle.js
ไว้ แท็กโฆษณา Google ประเภทอื่นๆ จะไม่รองรับการหยุดคำขอโฆษณาชั่วคราว ดังนั้น คุณไม่ควรโหลดจนกว่าจะพร้อมขอโฆษณาที่ปรับหรือไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
การตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับหน้า AMP
คำขอโฆษณาจากหน้า AMP มีการตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้เหมือนกับของหน้าที่ไม่ใช่ AMP ดังที่ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ นั่นคือ ผู้เผยแพร่โฆษณาเลือกได้ว่าจะแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้แก่ผู้ใช้ทั้งหมดที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) และสหราชอาณาจักร หรือเลือกที่จะแสดงโฆษณาที่ปรับ/ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ตามคำยินยอม วิธีกำหนดค่าสำหรับหน้า AMP ที่ขอโฆษณาด้วย <amp-ad type=”doubleclick”>
หรือ <amp-ad type=”adsense”>
ในแต่ละสถานการณ์มีดังนี้
การแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ต่อผู้ใช้ทั้งหมดใน EEA และสหราชอาณาจักร
หากแท็กโฆษณา AMP ไม่ได้ใช้การกำหนดค่าแบบเรียลไทม์ (RTC) คุณเพียงต้องเปิดใช้การแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ใน UI ของ Google Ad Manager หรือ AdSense โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ กับหน้า AMP เพิ่มเติม
หากแท็กโฆษณา AMP ใช้การกำหนดค่าแบบเรียลไทม์ (RTC) คุณจะต้องกำหนดค่าหน้าเว็บเพื่อไม่ให้ส่งคำขอ RTC สำหรับผู้ใช้ที่จะได้รับโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ (เช่น ผู้ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรปและสหราชอาณาจักร) คอมโพเนนต์และการกำหนดค่าที่จำเป็น (amp-geo
และ amp-consent
) เพื่อดำเนินการดังกล่าวมีดังนี้
<!-- ก่อนอื่นต้องสร้างส่วนขยายของ amp-geo เราได้ตั้งนิยามกลุ่ม: `eea` ที่รวมทุกประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรปและสหราชอาณาจักร รายชื่อนี้ต้องปรับปรุงอยู่เสมอเนื่องจากสมาชิกใน EEA อาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา -->
amp-geo layout="nodisplay"
<script type="application/json"
{
"ISOCountryGroups": {
"eea": [ "at", "be", "bg", "cy", "cz", "de", "dk", "ee", "es", "fi", "fr",
"gb", "gr", "hr", "hu", "ie", "is", "it", "li", "lt", "lu", "lv", "mt", "nl",
"no", "pl", "pt", "ro", "se", "si", "sk"]
}
}
</script>
</amp-geo>
<!-- ขั้นต่อไปคือต้องตั้งค่าคำยินยอมโดยให้มีระยะหมดเวลาเป็น 0 (หมายถึงไม่แสดง UI สำหรับคำยินยอมเลย) และตั้งค่าสถานะคำยินยอม "ปฏิเสธ" เริ่มต้น การทำเช่นนี้ทำให้การเรียก RTC หยุดลงชั่วคราวและส่งสัญญาณให้ DFP/AdSense แสดงโฆษณาที่ไม่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ -->
<amp-consent layout="nodisplay" id="consent-element">
<script type="application/json">
{
"consents": {
"my_consent": {
"promptIfUnknownForGeoGroup": "eea"
}
}
"policy": {
"default": {
"waitFor": {
"my_consent": []
}
"timeout": {
"seconds": 0,
"fallbackAction": "reject"
}
}
}
}
</script>
</amp-consent>
คุณต้องเพิ่มแอตทริบิวต์ data-block-on-consent
ลงในคอมโพเนนต์ amp-ad
ใดๆ ที่มีอยู่บนหน้าที่ระบุไว้ด้านล่างนี้
<!-- ขั้นตอนสุดท้ายคือสร้างแท็กโฆษณาที่จะบล็อกตามคำยินยอม -->
<amp-ad data-block-on-consent
width=320 height=50
type="doubleclick"
data-slot="/4119129/mobile_ad_banner">
</amp-ad>
การแสดงโฆษณาที่ปรับ/ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ตามคำยินยอม
เนื่องจาก AMP ไม่อนุญาต JavaScript ที่กำหนดเอง คำขอโฆษณาที่ปรับหรือไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้จึงขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าคอมโพเนนต์ amp-consent
และแอตทริบิวต์ data-block-on-consent
และ data-npa-on-unknown-consent
สมมติว่าคุณได้กำหนดค่าคอมโพเนนต์ amp-consent
และลิงก์กับแท็ก <amp-ad>
ทั้งหมดในหน้าเว็บโดยใช้ data-block-on-consent
แล้ว กรณีที่อาจเกิดขึ้นมีดังนี้
- หากผู้ใช้ตอบรับองค์ประกอบ
amp-consent
(ผู้ใช้ยอมรับข้อความแจ้งเกี่ยวกับความยินยอม) ระบบจะขอโฆษณาตามปกติ - หากผู้ใช้ตอบปฏิเสธคอมโพเนนต์
amp-consent
(ผู้ใช้ปฏิเสธข้อความแจ้งเกี่ยวกับความยินยอม) ระบบจะขอโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ - หากไม่ทราบการตอบสนองของผู้ใช้ต่อ
amp-consent
(ผู้ใช้ปิดข้อความแจ้งคำยินยอม)- จะไม่มีการส่งคำขอโฆษณาเลยโดยค่าเริ่มต้น
- หากตั้งค่า
data-npa-on-unknown-consent
ไว้เป็นtrue
ระบบจะขอโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
- หากคุณกำหนดองค์ประกอบ
amp-geo
เพื่อที่จะไม่ใช้คำยินยอมตามตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของผู้ใช้ ระบบจะส่งคำขอตามปกติ
หากแท็ก <amp-ad>
ไม่ได้ใช้ data-block-on-consent
หรือคุณกำหนดค่าคอมโพเนนต์ amp-consent
ไม่ถูกต้อง ระบบจะส่งคำขอตามปกติ
ลองดูตัวอย่างการกำหนดค่าที่แจ้งขอคำยินยอมจากผู้ใช้ทั้งหมดใน EEA และสหราชอาณาจักร ซึ่งมีลักษณะการทำงานตามที่อธิบายไว้ข้างต้น
<!-- ก่อนอื่นต้องสร้างส่วนขยายของ amp-geo เราได้ตั้งนิยามกลุ่ม: `eea` ที่รวมทุกประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรปและสหราชอาณาจักร รายชื่อนี้ต้องปรับปรุงอยู่เสมอเนื่องจากสมาชิกใน EEA อาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลา -->
<amp-geo layout="nodisplay">
<script type="application/json">
{
"ISOCountryGroups": {
"eea": [ "at", "be", "bg", "cy", "cz", "de", "dk", "ee", "es", "fi", "fr",
"gb", "gr", "hr", "hu", "ie", "is", "it", "li", "lt", "lu", "lv", "mt", "nl",
"no", "pl", "pt", "ro", "se", "si", "sk"]
}
}
</script>
</amp-geo>
<!-- ขั้นต่อไปคือต้องตั้งค่าคำยินยอมสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มประเทศ “eea” -->
<amp-consent layout="nodisplay" id="consent-element">
<script type="application/json">
{
"consents": {
"my_consent": {
"promptIfUnknownForGeoGroup": "eea",
"promptUI": "myConsentFlow"
}
}
}
</script>
</amp-consent>
<!-- ในขั้นสุดท้าย เราต้องตั้งค่าแท็กโฆษณาให้รอคำยินยอม หากจำเป็น -->
<amp-ad data-block-on-consent
width=320 height=50
type="doubleclick"
data-slot="/4119129/mobile_ad_banner">
</amp-ad>
โปรดทราบว่ายังมีการแจ้งขอคำยินยอมจากผู้ใช้วิธีอื่นอีกอย่างเช่น การกำหนดค่าหน้าเว็บเพื่อส่งคำขอ CORS POST ไปยังปลายทางที่กำหนดค่าผ่าน checkConsentHref
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบเกี่ยวกับ amp-consent
การตั้งค่าการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับแท็กอื่นๆ
แท็กรายการส่งคืน GPT
หากใช้แท็กรายการส่งคืน GPT คุณจะเลือกคำขอโฆษณาให้เป็นแบบที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้ โดยให้มีข้อมูลต่อไปนี้ในการเรียก API
googletag.pubads().setRequestNonPersonalizedAds(int options);
ตั้งพารามิเตอร์ options
เป็นค่าจำนวนเต็ม 1 เพื่อทำเครื่องหมายที่คำขอโฆษณาให้เป็น NPA ส่วนคำขอโฆษณาที่มีสิทธิ์ได้รับโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ให้ตั้งค่าเป็น 0
ตัวอย่าง
<script src="https://www.googletagservices.com/tag/js/gpt.js">
googletag.pubads().setRequestNonPersonalizedAds(1);
googletag.pubads().definePassback("123456/ad/unit", [100,200])
.display();
</script>
คำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก
หากใช้คำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก คุณจะทำเครื่องหมายที่คำขอโฆษณาให้เป็นแบบไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้โดยการเพิ่มพารามิเตอร์ npa=[int]
ลงใน URL คำขอแท็กโดยตรง เราขอแนะนำให้คุณระบุพารามิเตอร์ในตอนต้นของแท็กเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตัดข้อความ ระบุ npa=1
เพื่อทำเครื่องหมายที่คำขอโฆษณาให้เป็นแบบที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ การไม่ระบุพารามิเตอร์จะเป็นการกำหนดให้โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้เป็นค่าเริ่มต้น ตัวอย่างเช่น
https://pubads.g.doubleclick.net/gampad/ad?iu=/12345/adunit&sz=728x90&npa=1&c=12345
AdSense สำหรับการค้นหา
คำขอโฆษณาไปยัง Google จะแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น โดยมีการเลือกโฆษณาตามคำค้นหาของผู้ใช้และประวัติการค้นหาของผู้ใช้แต่ละคน นอกจากนี้ Google ยังรองรับการแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้อีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และแบบที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
ถ้าต้องการแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้แก่ผู้ใช้บางส่วน และแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้แก่ผู้ใช้รายอื่นๆ แท็ก AdSense สำหรับการค้นหาจะให้ผู้เผยแพร่โฆษณาเรียกใช้การแสดงโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้บนหน้าเว็บแต่ละหน้าได้ ซึ่งวิธีนี้อาจเป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณให้ผู้ใช้ทั้งหมดหรือบางส่วนเลือกระหว่างโฆษณาที่ปรับและไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
สำหรับโฆษณาที่กำหนดเองในเครือข่ายการค้นหา ในส่วนแท็กโฆษณาบนเว็บ ให้เพิ่มข้อมูลต่อไปนี้ลงใน pageOptions
ในแท็กโฆษณาที่กำหนดเองในเครือข่ายการค้นหา ดังนี้
personalizedAds: false,
สำหรับแท็ก AdMob:
builder.setAdvancedOptionValue("personalizedAds", "false");
สำหรับแท็ก iOS:
[request setAdvancedOptionValue:@"false" forKey:@"personalizedAds"];
วิธีการข้างต้นจะเรียกใช้คำขอโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้สำหรับคำขอนั้นๆ ซึ่งเป็นพารามิเตอร์แบบไม่เก็บสถานะ หากไม่มีการตั้งค่าพารามิเตอร์ในคำขอที่ตามมาสำหรับผู้ใช้รายนั้น ลักษณะการทำงานจะกลับไปเป็นลักษณะการทำงานโดยค่าเริ่มต้น ซึ่งคือการขอโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
SDK โฆษณาในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google
โปรดไปที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป (iOS GMA SDK, Android GMA SDK) เพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SDK โฆษณาในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google
SDK โฆษณาสื่ออินเทอร์แอกทีฟของ Google (สำหรับวิดีโอ)
ในคำขอวิดีโอ เมื่อทำการเพิ่มพารามิเตอร์ npa=1
ลงในแท็กโฆษณา คุณจะระบุได้ว่าต้องการให้ Google จัดเนื้อหาวิดีโอให้เป็นแบบที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ ขั้นตอนนี้ทำได้โดยใช้แท็กวิดีโอหลักที่สร้างด้วยตัวเอง หรือใช้ IMA SDK ใดๆ แบบเจาะจงแพลตฟอร์ม (HTML5 IMA SDK, iOS IMA SDK, Android IMA SDK, Google Cast IMA SDK)
หากโปรแกรมเล่นวิดีโอใช้ฟีเจอร์การแทรกโฆษณาแบบไดนามิกของ Google Ad Manager โปรแกรมจะรวมพารามิเตอร์ npa=1
เข้ากับวิดีโอตามคำขอ (VOD) หรือคำขอสตรีมแบบสดเพื่อส่งผ่านพารามิเตอร์ไปยังคำขอโฆษณาใดก็ตามที่รวมอยู่ (DAI HTML5 SDK, DAI Cast SDK, DAI iOS SDK, DAI Android SDK, DAI Roku SDK, DAI tvOS SDK)