กฎโฆษณาวิดีโอมาตรฐาน

ใช้ได้เฉพาะใน Google Ad Manager 360 เท่านั้น

กฎโฆษณาวิดีโอมาตรฐานให้คุณกำหนดเวลาและลักษณะที่วิดีโอจะปรากฏในสตรีมวิดีโอเดียว ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องการแสดงช่วงพักโฆษณานาน 60 วินาที 2 ช่วงในระหว่างตอนของรายการทีวี โดยให้ปรากฏที่จุดเริ่มโฆษณาที่ต้องการ

กฎการชมโฆษณาแต่ละครั้งให้คุณกำหนดเวลาและลักษณะที่โฆษณาตอนต้นจะปรากฏในสตรีมวิดีโอหลายรายการ

สร้างกฎโฆษณาวิดีโอมาตรฐาน

1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager

2. คลิกวิดีโอ แล้วคลิกกฎโฆษณา ตามด้วยกฎโฆษณาใหม่

3. ป้อนชื่อ เลือกประเภทเป็นมาตรฐาน แล้วเลือกลำดับความสำคัญ

4. กำหนดค่ากฎตามตัวเลือกกฎโฆษณามาตรฐาน

5. กำหนดการตั้งค่าวันที่ และในกรณีที่ต้องการ เลือกที่จะชะลอการใช้กฎหรือตั้งจำนวนวันสูงสุดที่จะใช้กฎโดยยึดตามวันที่เผยแพร่

6. กำหนดค่าการกำหนดเป้าหมายเพื่อใช้กฎนี้กับคำขอโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง กฎโฆษณาที่ไม่มีการกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงจะใช้กับคำขอโฆษณาทั้งหมดโดยเรียงตามลำดับความสำคัญ

7. คลิกบันทึก

กฎมาตรฐานและกฎการชมแต่ละครั้งจะใช้กับคำขอเดียวกันไม่ได้ หากกฎทั้ง 2 ประเภทนี้มีสิทธิ์ ระบบจะใช้กฎที่มีลำดับความสำคัญสูงกว่า การทำงานลักษณะนี้อาจเป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณต้องการแสดงโฆษณาเมื่อแสดงวิดีโอไป 2-3 รายการ แต่ก็ต้องการให้วิดีโอที่มีผู้สนับสนุนแสดงโฆษณา 1 รายการทุกครั้งเช่นกัน

ตัวเลือกกฎโฆษณามาตรฐาน

ขยายทั้งหมด  ยุบทั้งหมด

เปิดหรือปิดใช้โฆษณาตอนต้น โฆษณาตอนกลาง หรือโฆษณาตอนท้าย

เปิดใช้	เปิดใช้ประเภทช่วงพักโฆษณาและอนุญาตให้คุณกำหนดค่าการแสดงโฆษณา
ปิดใช้	ปิดใช้งานประเภทช่วงพักโฆษณา
เลื่อน	เลื่อนไปใช้กฎที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่า เช่น หากคุณเลือก "เลื่อนไปลำดับต่ำกว่า" สำหรับโฆษณาตอนต้น และกฎโฆษณาที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่ามีการเลือก "ปิดใช้" ก็จะไม่มีการแสดงโฆษณาตอนต้นเลย

ตั้งค่าความถี่ในการแสดงโฆษณาตอนกลาง

คลิกวิดีโอ จากนั้นคลิกเนื้อหา แล้วเลือกวิดีโอและตรวจสอบว่าได้นำเข้า "ระยะเวลา" และ "จุดเริ่มโฆษณาตอนกลาง" อย่างถูกต้อง

เมื่อตั้งค่า "วิดีโอโฆษณาตอนกลาง" เป็น "เปิดใช้" คุณจะเห็นตัวเลือกต่อไปนี้ที่ให้คุณตั้งค่าความถี่ในการแสดงผลได้

ตามเวลาที่กำหนด	แสดงพ็อดโฆษณาตามค่าวินาทีที่คุณตั้งไว้ เช่น คุณอาจป้อน 60,120,180 เพื่อแสดงโฆษณาที่เวลา 60, 120 และ 180 วินาที
ทุกๆ N วินาที	แสดงพ็อดโฆษณาตามช่วงค่าวินาทีที่คุณตั้งไว้ เช่น ป้อน 60 เพื่อแสดงโฆษณาทุก 60 วินาที
ตามจุดเริ่มโฆษณาที่กำหนด	แสดงพ็อดโฆษณาตามค่าจุดเริ่มโฆษณาคุณตั้งไว้ ซึ่งตรงกับจุดเริ่มโฆษณาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในวิดีโอที่นำเข้า เช่น ป้อน 1,4 เพื่อแสดงโฆษณาที่จุดเริ่มต้นที่ 1 และ 4 หรือจะเลือกระบุการตั้งค่าให้โฆษณาตอนกลางแต่ละรายการเพื่อกำหนดค่าให้จุดเริ่มโฆษณาทุกจุดก็ได้
ทุกๆ N จุดเริ่มโฆษณา	แสดงพ็อดโฆษณาตามช่วงจุดเริ่มโฆษณาคุณตั้งไว้ ซึ่งตรงกับจุดเริ่มโฆษณาในวิดีโอที่นำเข้า เช่น ป้อน 3 เพื่อแสดงโฆษณาที่จุดเริ่มโฆษณาที่ 3 ทุกจุด

ค่าเวลาต้องเป็นจำนวนเต็มที่ไม่มีทศนิยมเท่านั้น จำนวนนาทีจะนับตามเวลาของนาฬิกา ดังนั้นการหยุดสตรีมชั่วคราวจะไม่เป็นการหยุดเวลา

การตั้งค่าโฆษณาตอนกลางรายการสุดท้าย  ^{(เบต้า)} 

คุณเลือกระบุการตั้งค่าให้โฆษณาตอนกลางรายการสุดท้ายได้ หากต้องการให้ช่วงพักโฆษณาเป็นโฆษณาตอนกลางรายการสุดท้ายที่มีการตั้งค่าแยกต่างหากจากโฆษณาตอนกลางอื่นๆ*

* ฟีเจอร์นี้อยู่ในเวอร์ชันเบต้าและการคาดการณ์ยังไม่รองรับ

กำหนดค่าพ็อดโฆษณาและเทมเพลตช่วงพักโฆษณา

เปิดใช้โฆษณาวิดีโอตอนต้น ตอนกลาง และตอนท้ายเพื่อตั้งค่าพ็อดโฆษณาและเทมเพลตช่วงพักโฆษณา

ประเภทพ็อด	พ็อดโฆษณาคือกลุ่มโฆษณาที่แสดงตามลำดับ พ็อดมาตรฐานให้คุณระบุจำนวนโฆษณาสูงสุดและระยะเวลาสูงสุดของโฆษณาแต่ละรายการ ส่วนพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพจะให้คุณระบุระยะเวลาสูงสุดของพ็อดเพิ่มเติม
จำนวนโฆษณาสูงสุด	ขีดจำกัดจำนวนโฆษณาที่แสดงในพ็อดได้ ตัวเลือก "ไม่มีขีดจำกัดสูงสุด" ใช้ได้เฉพาะกับพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพ
ระยะเวลาสูงสุดของโฆษณา	ขีดจำกัดระยะเวลาของโฆษณาแต่ละรายการในพ็อด หากไม่มีโฆษณาตามระยะเวลาที่ระบุที่จะส่งไปยังช่องโฆษณาที่ต้องการโฆษณา ช่องโฆษณาดังกล่าวก็จะไม่ได้รับโฆษณา
ระยะเวลาสูงสุดของพ็อด	ขีดจำกัดระยะเวลาของทั้งพ็อด ซึ่งก็คือผลรวมระยะเวลาของโฆษณาทั้งหมดที่แสดงในพ็อดได้ ตัวเลือกนี้จะใช้ได้เฉพาะกับพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพ
เทมเพลตช่วงพักโฆษณาตอนต้น	สำหรับพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพ ให้กำหนดวิธีที่โฆษณาควรจะแสดงด้วยสปอตโฆษณา คุณกำหนดค่าสปอตโฆษณาได้สูงสุด 10 รายการต่อเทมเพลตช่วงพักโฆษณา 1 เทมเพลต

เมื่อเลือกพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพ คุณจะกำหนดค่าสปอตโฆษณาอย่างน้อย 1 รายการซึ่งมีระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้ว คุณจึงแสดงเฉพาะรายการโฆษณาบางประเภท รวมถึงเลือกบล็อกโฆษณาทดแทนและการแชร์พื้นที่โฆษณาได้

ตั้งความถี่สูงสุด

เปิดใช้	ช่วยให้คุณระบุความถี่สูงสุดของพ็อด สตรีม หรือทั้งสองอย่าง
ปิดใช้	ปิดใช้ความถี่สูงสุดทั้งหมดของกฎโฆษณา
เลื่อน	เลื่อนไปใช้กฎที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่า เช่น หากคุณเลือก "เลื่อน" สำหรับความถี่สูงสุด และเลือก "เปิดใช้" สำหรับกฎโฆษณาที่มีลำดับความสำคัญต่ำกว่า การตั้งค่าสำหรับกฎโฆษณานั้นก็จะมีผล

สำรวจส่วนที่ทับซ้อนกันในกฎโฆษณาวิดีโอ

คุณอาจใช้ฟีเจอร์ "ดูส่วนที่ทับซ้อนกัน" เพื่อทำความเข้าใจวิธีและเวลาที่กฎโฆษณาวิดีโอหลายกฎที่กำหนดค่าไว้ในเครือข่ายจะมีผลพร้อมกัน กฎจะซ้อนทับกันเมื่อการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายกำหนดพื้นที่โฆษณาส่วนที่ซ้อนทับกัน

ตัวอย่าง

• กฎ ก. กำหนดเป้าหมายหมวดหมู่อุปกรณ์เป็น "แท็บเล็ต"
• กฎ ข. กำหนดเป้าหมายเป็น "แคนาดา"

กฎ ก. และกฎ ข. จะทับซ้อนกันเมื่อมีคำขอโฆษณามาจากแคนาดา โดยดูบนแท็บเล็ต

วิธีดูส่วนที่ทับซ้อนกัน

1. ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
2. คลิกวิดีโอ จากนั้นคลิกกฎโฆษณา
3. เลือกกฎที่คุณต้องการเปรียบเทียบกับกฎอื่นๆ ที่อาจมีพื้นที่โฆษณาเดียวกัน หรือคลิกกฎโฆษณาใหม่เพื่อเริ่มกฎใหม่ 
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้กำหนดการตั้งค่ากฎและเลือกตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายแล้ว

5. ค้นหา "ดูกฎโฆษณาวิดีโอที่ซ้อนทับกันและดูผลลัพธ์ที่ผสานรวม" แล้วคลิกดูส่วนที่ทับซ้อนกัน

   

   แผงที่เปิดขึ้นจะแสดงรายการต่อไปนี้

   • ตารางกฎโฆษณาอื่นๆ ที่มีอยู่ซึ่งมีพื้นที่โฆษณาซ้อนทับกัน รวมถึงลำดับความสำคัญและเปอร์เซ็นต์ที่ทับซ้อนกัน
   • ผลลัพธ์ที่ผสานรวมซึ่งแสดงการตั้งค่ากฎโฆษณาที่ทับซ้อนกัน หรือการตั้งค่าที่ใช้กับกฎทั้งหมดที่คุณเลือกไว้

   

6. คุณเลือกกฎที่ซ้อนทับกันด้านล่างทั้งหมดหรือใดก็ได้เพื่ออัปเดตการซ้อนทับที่ผสานรวม หรือวางเมาส์เหนือการกำหนดเป้าหมาย เพื่อดูการกำหนดเป้าหมายที่กำหนดไว้สำหรับกฎที่ซ้อนทับกันแต่ละรายการ

หมายเหตุ: เครื่องมือซ้อนทับจะแสดงเฉพาะการซ้อนทับอื่นๆ สำหรับกฎของประเภทเดียวกัน ตัวอย่างเช่น หากกฎพื้นฐานเป็นกฎโฆษณามาตรฐาน เครื่องมือซ้อนทับจะแสดงเฉพาะกฎโฆษณามาตรฐานอื่นๆ เท่านั้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะการผสานรวม

เมื่อคุณเลือกกฎที่ทับซ้อนกัน ระบบจะผสานรวมการตั้งค่าจากกฎที่เลือกทั้งหมดและกฎพื้นฐานเข้าด้วยกัน

สำหรับกฎมาตรฐาน ลักษณะการผสานรวมจะเป็นดังนี้

1. กฎที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดจะถูกเลือกก่อน (ตัวเลขยิ่งต่ำยิ่งมีลำดับความสำคัญสูง)
2. ระบบจะเปรียบเทียบการตั้งค่าทั้งหมดจากกฎนั้น ยกเว้นเมื่อประเภทตำแหน่งนั้นตั้งค่าเป็น "เลื่อน"
3. ระบบจะเปรียบเทียบกฎโฆษณาที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดลำดับถัดไปทั้งหมด

กระบวนการนี้เกิดซ้ำจนกว่าจะไม่ได้ตั้งค่า "เลื่อน" ในประเภทตำแหน่ง

สำหรับกฎการชมโฆษณาแต่ละครั้ง ระบบจะเลือกการตั้งค่าของกฎโฆษณาที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด ไม่มีการผสานรวมเข้าด้วยกัน

 

สถานะการซ้อนทับจะอิงตามการคาดการณ์ของ Ad Manager ซึ่งได้มาจากข้อมูลย้อนหลังที่สุ่มตัวอย่าง คุณสามารถใช้รายงานข้อมูลย้อนหลังเพื่อดูข้อมูลทั้งหมดที่ใช้กับกลุ่มพื้นที่โฆษณา