Build Google Publisher Tags

โหลดโค้ดครีเอทีฟโฆษณาด้วยคำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก

ขอโค้ดครีเอทีฟโฆษณาดิบสำหรับการแยกวิเคราะห์และการแสดงที่กำหนดเอง

คุณใช้คำขอโฆษณาแบบไร้แท็กแทนแท็กโฆษณาเพื่อขอโค้ดครีเอทีฟโฆษณาดิบที่มีการดูแลการแสดงใน Ad Manager ได้ โดยทั่วไปจะมีการใช้คำขอโฆษณาแบบไร้แท็กเมื่อต้องมีการแยกวิเคราะห์และการแสดงที่กำหนดเอง เช่น กล่องรับสัญญาณ หรือสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่ไม่มีการติดแท็กของ Google หรือการรองรับ SDK

เมื่อคุณส่งคำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก Ad Manager จะส่งกลับเฉพาะโค้ดครีเอทีฟโฆษณาดิบที่ตรงตามที่มีการดูแลทุกประการ โดยไม่มีการเรียกใช้และแสดงโฆษณา หากไม่พบโฆษณา ระบบจะส่งสถานะ 200/OK กลับมาพร้อมการตอบสนองที่ว่างเปล่า

แอป โปรแกรมเล่น หรือเว็บไซต์ของคุณจะต้องเรียกใช้โค้ดเพื่อแสดงโฆษณาและเปิดใช้งานการติดตามการแสดงผล

สร้างคำขอโฆษณาแบบไร้แท็กด้วยตนเอง

ในการสร้างคำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก ให้เริ่มต้นด้วย URL ฐาน ใส่พารามิเตอร์ที่จำเป็นทั้งหมด และเพิ่มพารามิเตอร์ที่ไม่บังคับตามต้องการ พารามิเตอร์เหล่านี้จะระบุสิ่งต่างๆ เช่น หน่วยโฆษณา ขนาดครีเอทีฟโฆษณา คีย์-ค่า และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับคำขอ

คำขอโฆษณาแบบไร้แท็กต้องมีการส่งอย่างปลอดภัยโดยใช้ SSL (https://)

เริ่มต้นด้วย URL ฐาน

ใช้ URL ฐานนี้ https://securepubads.g.doubleclick.net/gampad/adx?

ระบุพารามิเตอร์ของคำขอโฆษณา

พารามิเตอร์ที่จำเป็น
พารามิเตอร์ คำอธิบาย
iu

รหัสหน่วยโฆษณา Google Ad Manager ซึ่งรวมถึงรหัสเครือข่าย Ad Manager ของ Google หากต้องการรวมหลายระดับ ให้ใช้เครื่องหมายทับ (/) เป็นตัวคั่น

ตัวอย่าง

iu=/123/homepage
iu=/456/sports/baseball

เมื่อใช้เครื่องมือบริหารจัดการบัญชีลูกค้า (MCM) กับคําขอโฆษณาแบบไร้แท็ก ให้ใช้โครงสร้าง parent,child สำหรับรหัสเครือข่าย

ตัวอย่าง (MCM)

iu=/123,456/homepage

sz

ขนาดครีเอทีฟโฆษณา หากต้องการรวมหลายขนาด ให้ใช้เครื่องหมายไปป์ (|) เป็นตัวคั่น

ตัวอย่าง

sz=320x50 สำหรับขนาดเดียว
sz=320x50|300x50 สำหรับหลายขนาด

ขอแนะนำให้คุณเข้ารหัสอักขระไปป์ (|) ในคำขอโฆษณาแบบไร้แท็กด้วย %7c

ตัวอย่าง

จาก &sz=216x36|300x50|320x50 เป็น &sz=216x36%7c300x50%7c320x50

url

URL ของโดเมนที่โฮสต์คำขอโฆษณาเริ่มต้น จําเป็นต้องมีเฉพาะสำหรับคำขอ MCM

ตัวอย่าง

url=www.example.com

c

ค่า Correlator (หรือการป้องกันการใช้ข้อมูลแคช) ซึ่งต้องเป็นตัวเลขแบบสุ่ม (ใช้ตัวอักษรไม่ได้) ที่ผู้เผยแพร่โฆษณาสร้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเรียกไปยังเซิร์ฟเวอร์โฆษณาทุกๆ ครั้งที่มีการโหลดหน้าเว็บ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความคลาดเคลื่อนในการนับการแสดงผล

ตัวอย่าง

c=8362527364

tile

ตำแหน่งของแท็กในหน้าเว็บ ค่านี้ต้องเป็นจำนวนเต็มที่ไม่ซ้ำ เพื่อการปรับใช้ที่ง่ายขึ้น เราขอแนะนำให้ใช้ค่าที่นับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

จำเป็นต้องใช้เฉพาะเมื่อแท็กโฆษณาหลายแท็กใช้ค่ารหัสหน่วยโฆษณา (iu=) และ Correlator (c=) เดียวกันในหน้าเดียวกัน

ตัวอย่าง

https://securepubads.g.doubleclick.net/gampad/adx?iu=/1234/homepage&sz=320x50&c=54631&tile=1
https://securepubads.g.doubleclick.net/gampad/adx?iu=/1234/homepage&sz=320x50&c=54631&tile=2

ต้องเรียกใช้คำขอทั้งหมดที่มีค่าไทล์ที่เพิ่มขึ้น (tile=) ภายใน 30 วินาทีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เลือกครีเอทีฟโฆษณาเดียวกันอีกครั้งสำหรับค่าสหสัมพันธ์เดียวกัน (c=)
พารามิเตอร์ที่ไม่บังคับ
พารามิเตอร์ คำอธิบาย
d_imp

สลับการใช้การแสดงผลที่ล่าช้า หากรวมไว้ การนับการแสดงผลเมื่อขอจะถูกปิดใช้ และระบบจะใช้มาโครการแสดงผลที่ดูแล้วในครีเอทีฟโฆษณาที่ส่งกลับมาหรือข้อมูลจากพารามิเตอร์ d_imp_hdr เพื่อบันทึกการแสดงผล

ตัวอย่าง

d_imp=1
d_imp=0 (เป็นค่าเริ่มต้นสำหรับการนับการแสดงผลของ Google Ad Manager)

d_imp_hdr

สลับการใช้ข้อมูลส่วนหัวของการแสดงผลที่ล่าช้า หากรวมไว้ ระบบจะส่ง URL การดูที่ใช้สำหรับนับการแสดงผลกลับมาในส่วนหัว HTTP ทั้งนี้โดยค่าเริ่มต้นจะไม่มีการกำหนดข้อมูลส่วนหัวนี้ไว้ ผู้เผยแพร่โฆษณาจะต้องใช้คำสั่ง ping กับ URL การดูนี้ด้วยตัวเองเพื่อนับการแสดงผล ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนับการแสดงผลและคำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก

  • ส่วนหัว Google-Delayed-Impression มี URL การแสดงผลของ Google Ad Manager
  • ส่วนหัว Google-3rdParty-Delayed-Impression มี URL การแสดงผลของบุคคลที่สาม หากมีอยู่ในครีเอทีฟโฆษณา

ตัวอย่าง

d_imp_hdr=1
d_imp_hdr=0 (ปิดใช้ข้อมูลส่วนหัวของการแสดงผลที่ล่าช้าอย่างชัดแจ้ง)

t

คู่คีย์-ค่าระดับช่องโฆษณา คีย์และค่าแต่ละรายการคั่นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ = คู่คีย์-ค่าคั่นด้วยเครื่องหมายแอมเพอร์แซนด์ & คีย์และค่าแต่ละรายการควรเป็น URL ที่เข้ารหัสแยกกันและสตริงทั้งหมดควรเป็น URL ที่เข้ารหัสแต่ละคีย์ภายในชุดของคีย์-ค่าต้องไม่ซ้ำกัน หากคุณระบุคีย์เดิมมากกว่า 1 ครั้ง ระบบจะใช้ค่าที่เชื่อมโยงกับคีย์เพียงค่าเดียว

ตัวอย่าง

พารามิเตอร์ t=genre%3Daction%26movie%3DMr+%2526+Mrs+Smith กำหนดคีย์ "genre" ให้กับค่า "action" และคีย์ "movie" ให้กับ "Mr & Mrs Smith"
โปรดทราบว่า "&" ระหว่างการกำหนดคีย์-ค่าจะเข้ารหัสแบบเดี่ยว (%26) แต่จะเข้ารหัสแบบคู่ (%2526) เมื่ออยู่ภายในค่า

ใช้ excl_cat เป็นคีย์พิเศษสำหรับการยกเว้นโฆษณาของคู่แข่ง

ตัวอย่าง

t=excl_cat%3Dairlines
t=interest%3Dsports%2Cnews%26excl_cat%3Dairlines

ไม่อนุญาตให้คีย์หรือค่ามีอักขระต่อไปนี้ " ' ! + # * ~ ; ^ ( ) < > [ ] = ค่าต่างๆ มีเว้นวรรคได้ โดย Escape เป็น %20 หรือ + แต่คีย์จะมีเว้นวรรคไม่ได้

ตัวอย่าง

การตั้งค่าคีย์ "a" ให้กับค่า "b+c" โดยใช้ t=a%3Db%252Bc จะใช้งานไม่ได้

m

ค่าประเภท Mime ในส่วนหัว HTTP

ตัวอย่าง

m=text/wml

mob

ตัวระบุคำขอโฆษณาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ตัวอย่าง

mob=js (เป็นค่าเดียวที่ระบบยอมรับ)

ppid

ตัวระบุที่ผู้เผยแพร่โฆษณามีให้ (PPID) ช่วยให้คุณสามารถส่งตัวระบุให้กับ Google Ad Manager เพื่อใช้ในการกำหนดความถี่สูงสุด การแบ่งกลุ่มเป้าหมายและการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การหมุนเวียนโฆษณาตามลำดับ และการควบคุมการแสดงโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมายแบบอื่นๆ ในอุปกรณ์ต่างๆ

ตัวอย่าง

ppid=12JD92JD8078S8J29SDOAKC0EF230337

u_w

ความกว้างของหน้าจออุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งจะถูกใช้แทนข้อมูลที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติของเซิร์ฟเวอร์โฆษณา

ตัวอย่าง

u_w=1024

u_h

ความสูงของหน้าจออุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งจะถูกใช้แทนข้อมูลที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติของเซิร์ฟเวอร์โฆษณา

ตัวอย่าง

u_h=768

submodel

ข้อมูลฮาร์ดแวร์ของอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งจะถูกใช้แทนข้อมูลที่ตรวจพบโดยอัตโนมัติของเซิร์ฟเวอร์โฆษณา

ตัวอย่าง

submodel=iPhone4%2C1 (เข้ารหัสเครื่องหมายจุลภาคที่ใช้คั่นค่าของรุ่นย่อย)

ค่าของรุ่นย่อยได้แก่

  • iPhone (รุ่นที่ 1): iphone1,1
  • iPhone 3G: iphone1,2
  • iPhone 3GS: iphone2,1
  • iPhone 4 (GSM): iphone3,1
  • iPhone 4 (GSM): iphone3,2
  • iPhone 4 (CDMA): iphone3,3
  • iPhone 4S: iPhone4,1
  • iPhone 5 (GSM และ LTE): iPhone5,1
  • iPhone 5 (CDMA และ LTE): iPhone5,2
  • iPhone 5c: (GSM และ CDMA): iPhone5,3
  • iPhone 5c (GSM และ CDMA): iPhone5,4
  • iPhone 5s (GSM และ CDMA): iPhone6,1
  • iPhone 5s (GSM และ CDMA): iPhone6,2
  • iPhone 6 : iPhone7,2
  • iPhone 6 Plus: iPhone7,1
  • iPhone 6s: iPhone8,1
  • iPhone 6s Plus: iPhone8,2
  • iPhone SE: iPhone8,4
  • iPhone 7: iPhone9,1
  • iPhone 7 Plus: iPhone9,2 
  • iPod รุ่นที่ 1: iPod1,1
  • iPod รุ่นที่ 2: iPod2,1
  • iPod รุ่นที่ 3: iPod3,1
  • iPod รุ่นที่ 4: iPod4,1
  • iPod รุ่นที่ 5: iPod5,1
  • iPad รุ่นที่ 1 (Wi-Fi): iPad1,1
  • iPad รุ่นที่ 1 (AT&T): iPad1,2
  • iPad รุ่นที่ 2 (Wi-Fi): iPad2,1
  • iPad รุ่นที่ 2 (AT&T): iPad2,2
  • iPad รุ่นที่ 2 (Verizon): iPad2,3
  • iPad รุ่นที่ 2 (Wi-Fi): iPad2,4
  • iPad รุ่นที่ 3 (Wi-Fi): iPad3,1
  • iPad รุ่นที่ 3 (Verizon): iPad3,2
  • iPad รุ่นที่ 3 (AT&T): iPad3,3
  • iPad รุ่นที่ 4 (Wi-Fi): iPad3,4
  • iPad รุ่นที่ 4 (AT&T): iPad3,5
  • iPad รุ่นที่ 4 (Verizon): iPad3,6
  • iPad Mini (Wi-Fi): iPad2,5
  • iPad Mini (AT&T-US; GSM & LTE 4, 17): iPad2,6
  • iPad Mini (Verizon-World; GSM, DMA & LTE 1,3,5,13,25): iPad2,7
  • iPad Mini Retina (Wi-Fi): iPad4,4
  • iPad Mini Retina (LTE): iPad4,5
  • iPad Air (Wi-Fi): iPad4,1
  • iPad Air (LTE): iPad4,2
 
คุณสามารถใช้รหัสอุปกรณ์ที่รีเซ็ตได้ (RDID) เพื่อการกำหนดความถี่สูงสุดและการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดค่า RDID สำหรับคำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก

เปิดใช้งานการติดตามการแสดงผล

Ad Manager ติดตามการแสดงผลที่ดาวน์โหลด หรือที่เรียกว่าการแสดงผลที่ "ล่าช้า" สำหรับคำขอโฆษณาแบบไร้แท็กได้ ให้ใช้ตัวเลือกใดก็ได้ด้านล่าง แต่จะใช้ทุกตัวเลือกพร้อมกันไม่ได้ การใช้ทุกตัวเลือกพร้อมกันอาจทำให้มีการนับการแสดงผลซ้ำ 2 ครั้ง (หรือ 3 ครั้ง)

ขอแนะนำให้ใช้ตัวเลือกที่ 1 ซึ่งคุณต้องมีสิทธิ์เข้าถึงส่วนหัวการตอบกลับ HTTP และต้องใช้งานโปรโตคอลแบบส่วนหัวได้

ตัวเลือกที่ 1: อ่านส่วนหัวการตอบกลับ HTTP เพื่อควบคุมการนับการแสดงผล

เพิ่มพารามิเตอร์ d_imp=1 และ d_imp_hdr=1 ลงในคำขอโฆษณาแบบไร้แท็กเพื่อที่ Google Ad Manager จะไม่บันทึกการแสดงผลหรือการแสดงผลที่ดาวน์โหลดจนกว่าคุณจะทริกเกอร์คำสั่ง ping การแสดงผลด้วยตนเองโดยใช้ URL ส่วนหัวของ HTTP Google-Delayed-Impression เมื่อทริกเกอร์คำสั่ง ping การแสดงผลแล้ว Google Ad Manager จะบันทึก "การแสดงผลของเซิร์ฟเวอร์โฆษณา" และ "การแสดงผลที่ดาวน์โหลดของเซิร์ฟเวอร์โฆษณา"

อย่ารวมมาโครการแสดงผลที่ดูแล้วสำหรับครีเอทีฟโฆษณาที่คำขอโฆษณาแบบไร้แท็กส่งกลับมา เพื่อหลีกเลี่ยงการนับการแสดงผลซ้ำ 2 ครั้ง

ตัวเลือกที่ 2: ใช้มาโครการแสดงผลที่ดูแล้ว

หากเข้าถึงส่วนหัวการตอบกลับ HTTP ไม่ได้ คุณต้องจัดกลุ่มพื้นที่โฆษณาและเพิ่มมาโครการแสดงผลที่ดูแล้วลงในข้อมูลโค้ดของครีเอทีฟโฆษณาทุกๆ รายการที่คำขอโฆษณาแบบไร้แท็กส่งกลับมา มาโครนี้จะขยายไปเป็น URL ที่ครีเอทีฟโฆษณาจะส่งเมื่อแสดงผล

สร้างคำขอโฆษณาแบบไร้แท็กเพื่อดึงโค้ดครีเอทีฟโฆษณา

เนื้อหาเว็บ

โดยทั่วไประบบจะใช้คำขอโฆษณาแบบไร้แท็กในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการติดแท็ก Google หรือการรองรับ SDK หากคุณส่งคำขอโฆษณาแบบไร้แท็กบนเว็บ คุณต้องโหลดคำขอดังกล่าวใน <iframe> เพื่อให้เรียกใช้โค้ดดิบที่ส่งกลับมาได้

สภาพแวดล้อมที่กำหนดเองโดยไม่มี Google SDK

ในการเรียกโค้ดครีเอทีฟโฆษณาดิบในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการติดแท็กของ Google หรือการรองรับ SDK (เช่น กล่องรับสัญญาณที่ไม่ใช่ของ Google) ให้อ้างอิงหลักเกณฑ์ต่อไปนี้

  • กำหนด User Agent ที่ถูกต้องในส่วนหัวของคำขอ User-Agent เพื่อให้แน่ใจว่าการกำหนดเป้าหมายทำงานได้อย่างถูกต้อง
  • ตรวจสอบว่าสภาพแวดล้อมของคุณจัดการกับลักษณะการทำงานของริชมีเดียได้ ซึ่งรวมถึง JavaScript และการขยายครีเอทีฟโฆษณา
  • ส่งคำขอ HTTPS ไปยัง Google Ad Manager
  • ตรวจสอบสถานะการตอบกลับเพื่อหา "HTTP 200/OK" ซึ่งบ่งบอกว่าคำขอนั้นมีรูปแบบที่ถูกต้อง

ฟีเจอร์ที่ไม่รองรับเมื่อใช้คำขอโฆษณาแบบไร้แท็ก

คำขอโฆษณาแบบไร้แท็กที่ใช้ gampad/ad ในแท็กรูปภาพ HTML (<img>) ไม่รองรับโค้ดติดตามแบบ JavaScript รวมทั้งไม่รองรับการนับการแสดงผลที่ดาวน์โหลด

ครีเอทีฟโฆษณาที่แสดงในคำขอโฆษณาแบบไร้แท็กไม่รองรับการติดป้ายระบุว่าเป็นโฆษณา โฆษณาจะต้องเป็นไปตามข้อบังคับที่เกี่ยวข้องสำหรับโฆษณาที่แสดงในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ซึ่งรวมถึงกลไกสำหรับผู้ใช้ในการรายงานเนื้อหาผิดกฎหมาย ผู้เผยแพร่โฆษณาต้องแจ้งให้ Google ทราบเกี่ยวกับรายงานเนื้อหาผิดกฎหมายโดยใช้แบบฟอร์มที่เหมาะสม

หากต้องการรายงานเกี่ยวกับโฆษณาเหล่านี้ ให้ใช้เมตริก "จำนวนการเรียกใช้โค้ดทั้งหมด" ในการรายงานของ Ad Manager

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
17500402976412069873
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
148
false
false