เลือกการตั้งค่าการประมวลผลข้อมูล
โดยค่าเริ่มต้น ระบบไม่ได้จำกัดการประมวลผลข้อมูลใน Ad Manager และโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้จะแสดงต่อผู้ใช้ในเว็บไซต์หรือแอป คุณต้องเปลี่ยนการตั้งค่กฎระเบียบของรัฐในสหรัฐอเมริกาเพื่อจำกัดการประมวลผลข้อมูลและแสดงเฉพาะโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ต่อผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการตั้งค่าดังกล่าวไม่ได้ควบคุมข้อมูลที่คุณอาจกำลังแชร์กับภายนอกบัญชี เช่น การแชร์ผ่านสื่อกลาง
ในการเปลี่ยนการตั้งค่าการประมวลผลข้อมูลสำหรับทั้งบัญชี ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
- คลิกความเป็นส่วนตัวและการรับส่งข้อความเกี่ยวกับกฎระเบียบของรัฐในสหรัฐอเมริกา การตั้งค่า
- เลือกตัวเลือกที่ต้องการใช้กับเครือข่าย Ad Manager
- ไม่จำกัดการประมวลผลข้อมูล: Google จะแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ต่อผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา
- จำกัดการประมวลผลข้อมูล: Google จะแสดงเฉพาะโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้จากดีมานด์ของ Google ต่อผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา
- คลิกบันทึก
ไม่จำกัดการประมวลผลข้อมูล
หากเลือก "ไม่จำกัดการประมวลผลข้อมูล" คุณจะสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ด้านโฆษณาที่มีสิทธิ์รับคำขอราคาเสนอสำหรับผู้ใช้ที่ Google ระบุว่าอยู่ในรัฐที่เกี่ยวข้องในสหรัฐอเมริกาได้
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อระบุพาร์ทเนอร์ด้านโฆษณาที่มีสิทธิ์
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Ad Manager
- คลิกความเป็นส่วนตัวและการรับส่งข้อความเกี่ยวกับกฎระเบียบของรัฐในสหรัฐอเมริกา การตั้งค่า
- ในส่วน "ตรวจสอบพาร์ทเนอร์โฆษณา" ให้คลิก แล้วเลือกรายการที่คุณต้องการใช้
- ใช้พาร์ทเนอร์โฆษณาที่ใช้งานอยู่: ใช้รายการพาร์ทเนอร์ด้านโฆษณาทั้งหมดที่มีในการตั้งค่าของฟีเจอร์นี้ พาร์ทเนอร์ด้านโฆษณาที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดมีสิทธิ์รับคำขอราคาเสนอจากผู้ใช้ที่ Google ระบุว่าอยู่ในรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา
- พาร์ทเนอร์โฆษณาที่กำหนดเอง: ปรับแต่งรายการพาร์ทเนอร์ด้านโฆษณาทั้งหมดที่มีเพื่อสร้างรายการที่ต้องการ โดยพาร์ทเนอร์ด้านโฆษณาที่เลือกไว้เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์รับคำขอราคาเสนอจากผู้ใช้ที่ Google ระบุว่าอยู่ในรัฐที่เกี่ยวข้องในสหรัฐอเมริกา หากใช้ตัวเลือกนี้ ผู้ใช้ในเครือข่าย Ad Manager ของคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีพาร์ทเนอร์ด้านโฆษณารายใหม่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม ระบบจะไม่เพิ่มพาร์ทเนอร์ด้านโฆษณารายใหม่ลงในรายการที่คุณกำหนดเองโดยอัตโนมัติ แต่คุณสามารถเพิ่มด้วยตัวเองได้
- คลิกบันทึก
จำกัดการประมวลผลข้อมูล
เมื่อผู้เผยแพร่โฆษณาเปิดใช้การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด Google จะจำกัดการใช้ข้อมูลมากขึ้น และเริ่มแสดงเฉพาะโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ตามวิธีการของผู้เผยแพร่โฆษณา โฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ไม่ได้อิงจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของผู้ใช้ แต่กำหนดเป้าหมายโดยใช้ข้อมูลตามบริบท ซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ในระดับกว้าง (เช่น ระดับเมือง แต่ไม่ใช่รหัสไปรษณีย์) โดยอิงจากสถานที่ตั้งปัจจุบัน และเนื้อหาในเว็บไซต์หรือแอปที่ใช้อยู่ หรือคำค้นหาปัจจุบัน Google ไม่อนุญาตการกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจทั้งหมด รวมถึงการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรและการกำหนดเป้าหมายตามรายชื่อผู้ใช้เมื่ออยู่ในโหมดการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด
ตัวเลือกการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด
ผู้เผยแพร่โฆษณาต้องตัดสินใจเองว่าจะเปิดใช้โหมดการประมวลผลข้อมูลแบบจํากัดเมื่อใดและอย่างไร ขึ้นอยู่กับภาระหน้าที่ของตนเองในการปฏิบัติตามข้อกำหนดและการวิเคราะห์ทางกฎหมาย สถานการณ์ทั่วไป 2 แบบมีดังนี้
- ผู้เผยแพร่โฆษณาบางรายอาจเลือกที่จะไม่แสดงลิงก์ "ห้ามขายข้อมูลส่วนบุคคลของฉัน" ในพื้นที่ของตนเอง ผู้เผยแพร่โฆษณาดังกล่าวอาจเลือกเปิดใช้การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดกับการเข้าชมแบบเป็นโปรแกรมทั้งหมดสำหรับผู้ใช้ในรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกาผ่านการควบคุมเครือข่าย หากเลือกตัวเลือกนี้ Google จะใช้ที่อยู่ IP ของผู้ใช้เพื่อระบุตำแหน่งของผู้ใช้และเปิดใช้โหมดการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่เราตรวจพบว่ามีที่อยู่ IP ในรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา
หากมี IP หลายรายการ (เช่น ในส่วนหัวและคำขอโฆษณา) และมี IP ที่มาจากรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา การควบคุมเครือข่ายจะจำกัดการประมวลผลข้อมูลสำหรับคำขอเหล่านั้น หากคุณใช้เทคโนโลยีการแทรกโฆษณาฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (SSAI) ของบุคคลที่สาม โปรดทราบว่าการเปิดใช้การควบคุมการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดของ CPRA ระดับเครือข่ายจะจำกัดการแสดงโฆษณาที่มี SSAI IP อยู่ในรัฐที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา คุณอาจพิจารณาใช้การตั้งค่าการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดสำหรับหน้าต่างๆ โดยใช้แท็กโฆษณาของผู้เผยแพร่โฆษณาผ่าน Google เป็นทางเลือก เนื่องจากจะทำให้คุณสามารถระบุคำขอโฆษณาที่ควรใช้การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดได้ (เช่น โดยอิงตามสัญญาณของผู้ใช้)
- หรือผู้เผยแพร่โฆษณาอื่นๆ อาจเลือกแสดงลิงก์ "ห้ามขายข้อมูลส่วนบุคคลของฉัน" ผู้เผยแพร่โฆษณาดังกล่าวอาจเลือกส่งสัญญาณการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดตามคำขอเมื่อผู้ใช้เลือกไม่รับการขายข้อมูลส่วนบุคคลของตน
รัฐโคโลราโดได้กำหนดว่ากลไกการเลือกไม่ใช้สากลที่ต้องใช้คือ Global Privacy Control (GPC) ดังนั้น Google จะปิดการกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และเปิดใช้การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด (RDP) หากเราได้รับ GPC จากผู้ใช้หรือผู้ลงโฆษณา/ผู้เผยแพร่โฆษณาในโคโลราโด ในรัฐอื่นๆ ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาซึ่งมีกฎระเบียบที่ส่งผลต่อการกำหนดเป้าหมายโฆษณา พาร์ทเนอร์ที่ใช้ Global Privacy Control อาจเลือกเปิดการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดเมื่อได้รับสัญญาณการเลือกไม่ใช้ของ GPC
การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดสำหรับ "แบบเป็นโปรแกรม"
เมื่อเปิดใช้โหมดการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดโดยใช้การควบคุมเครือข่ายหรือเมื่อส่งสัญญาณการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดในแท็ก จะเกิดสิ่งต่อไปนี้ขึ้นสำหรับธุรกรรมแบบเป็นโปรแกรม*
- โฆษณาที่แสดงจะไม่ใช้ข้อมูลที่อิงจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของผู้ใช้
- Google จะไม่บันทึกข้อมูลไว้กับตัวระบุผู้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวัดหรือกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
- ระบบจะไม่แสดงโฆษณาโดยใช้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ (รวมถึงการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรและการกำหนดเป้าหมายรายการรีมาร์เก็ตติ้ง)
- โฆษณาที่แสดงผ่าน Google Ads และ Display & Video 360 จะใช้เฉพาะการกำหนดเป้าหมายตามบริบทและจากตำแหน่ง ซึ่งโฆษณาเหล่านี้อาจใช้ที่อยู่ IP เพื่อการกำหนดเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ในระดับที่กว้างมาก (เช่น ระดับเมือง) และเพื่อป้องกันกิจกรรมที่ไม่ถูกต้อง โฆษณาเหล่านี้ยังใช้คุกกี้และ/หรือ IDFA และ AdID เพื่อการกำหนดความถี่สูงสุด การรายงานโฆษณาแบบรวม และเพื่อต่อต้านการประพฤติมิชอบและการละเมิดอีกด้วย
- ระบบจะส่งคำขอโฆษณาที่มีการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดไปยังผู้เสนอราคา RTB บุคคลที่สามหากได้เลือกไว้ในรายการ "ตรวจสอบพาร์ทเนอร์โฆษณา" ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดสำหรับ "แบบไม่เป็นโปรแกรม"
เมื่อเปิดใช้โหมดการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดโดยใช้การควบคุมเครือข่ายผู้เผยแพร่โฆษณาหรือส่งสัญญาณการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดในแท็ก จะเกิดสิ่งต่อไปนี้ขึ้นสำหรับรายการโฆษณาแบบไม่เป็นโปรแกรม
- ระบบจะไม่แสดงโฆษณาโดยใช้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ (รวมถึงการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรและการกำหนดเป้าหมายรายการรีมาร์เก็ตติ้ง)
- Google จะไม่บันทึกข้อมูลไว้กับตัวระบุผู้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการวัดหรือกำหนดเป้าหมายโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
รายการโฆษณาที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ข้างต้นจะมีสิทธิ์สำหรับคำขอที่เปิดใช้การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดไม่มีผลต่อการส่งหรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สามที่คุณอาจเปิดใช้ในผลิตภัณฑ์และบริการของเรา โปรดใช้มาตรการใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ที่จำเป็น
การประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดสำหรับสื่อกลางและกลุ่มผลตอบแทน
เมื่อเปิดใช้โหมดการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดโดยใช้การควบคุมเครือข่ายหรือส่งสัญญาณการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดผ่าน SDK จะเกิดสิ่งต่อไปนี้ขึ้นสำหรับการเสนอราคาแบบเปิดและสื่อกลางสําหรับแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
- ระบบจะส่งคำขอโฆษณาที่มีการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัดไปยังผู้เสนอราคาแบบเปิด
- ไม่ได้ปิดใช้สื่อกลาง *
ฟีเจอร์ที่ได้รับผลกระทบจากโหมดการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด (RDP)
- การกำหนดเป้าหมายโซลูชันกลุ่มเป้าหมายจะใช้ไม่ได้สำหรับคำขอ RDP
- การกำหนดเป้าหมายจากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของ Ad Manager จะใช้ไม่ได้สำหรับคำขอ RDP
- การกำหนดเป้าหมายตามแบนด์วิดท์ของ Ad Manager จะใช้ไม่ได้สำหรับคำขอ RDP
- ดีลที่ผู้ซื้อไม่ใช่ Display & Video 360 จะทำธุรกรรมสำหรับคำขอ RDP ไม่ได้
- ดีลที่ผู้ซื้อเป็น Display & Video 360 อาจได้รับผลกระทบหากใช้พิกเซลหรือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของบุคคลที่สามสำหรับคำขอ RDP
การเปลี่ยนแปลงในการรายงานโฆษณาการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด
- สำหรับการเข้าชมจากโฆษณาการประมวลผลข้อมูลแบบจำกัด ช่องของ "การโอนข้อมูล Ad Manager" บางช่องจะว่างเปล่า เช่น ช่อง UserId, AudienceSegmentIds, Bandwidth และ MobileCarrier
- ความถูกต้องในการรายงานการเข้าถึงของ Ad Manager อาจได้รับผลกระทบ