ขั้นตอนที่ 1: ซื้อคีย์
ขั้นตอนที่ 2: เพิ่มคีย์ในบัญชี
ตรวจสอบว่าคุณใช้เบราว์เซอร์หรือระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดอยู่ คีย์ที่ลงทะเบียนใหม่จะใช้ไม่ได้อีกต่อไปในอุปกรณ์ Android 8.0 หรือต่ำกว่า
- เปิดเบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome
- ลงทะเบียนคีย์ความปลอดภัย คุณอาจต้องลงชื่อเข้าใช้
ขั้นตอนที่ 3: ลงชื่อเข้าใช้ด้วยคีย์
คีย์ความปลอดภัยเป็นขั้นตอนที่ 2 เพื่อการรักษาความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น หากคุณตั้งค่าขั้นตอนที่ 2 แบบอื่นๆ ไว้ ให้ใช้คีย์ความปลอดภัยเพื่อลงชื่อเข้าใช้ทุกครั้งที่ทำได้ หากคีย์ความปลอดภัยใช้งานไม่ได้ในอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ คุณอาจเห็นตัวเลือกให้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยรหัสหรือข้อความแจ้งแทน
หากพบข้อผิดพลาด "คุณต้องลงทะเบียนคีย์ความปลอดภัยนี้กับบัญชี Google ก่อนจึงจะใช้คีย์ในการลงชื่อเข้าใช้ได้"
- ให้พยายามลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีอื่น
- อัปเดตบริการ Google Play
- หากต้องการเพิ่มบัญชีที่เป็นปัญหา ให้ลองลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง
- เปิดแอป Google หรือเบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google หากยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้
- อุปกรณ์จะตรวจพบว่าบัญชีมีคีย์ความปลอดภัย ทำตามขั้นตอนเพื่อลงชื่อเข้าใช้โดยใช้คีย์
แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ NFC
โปรดตรวจสอบว่าได้ทำดังต่อไปนี้
- เปิด NFC ในอุปกรณ์
- เพิ่มคีย์ในบัญชี
- ถอดสิ่งที่อาจรบกวนสัญญาณ NFC เช่น เคสหรือสติกเกอร์
- อัปเดตอุปกรณ์ให้ใช้บริการ Google Play เวอร์ชันล่าสุด
- ลองรีสตาร์ทอุปกรณ์
- ลองปิดและเปิด NFC ขึ้นมาใหม่
ข้อผิดพลาดของบริการ Google Play
- ในอุปกรณ์ Android ให้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่ไม่ได้ใช้คีย์ความปลอดภัย
- บริการ Google Play ควรจะเริ่มการอัปเดตโดยอัตโนมัติ
- ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้ว
- ลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ Android อีกครั้งด้วยบัญชีที่ใช้คีย์ความปลอดภัย
- ทำตามขั้นตอนเพื่อลงชื่อเข้าใช้โดยใช้คีย์กับ Near Field Communication (NFC)
- เปิดเบราว์เซอร์ที่เข้ากันได้ เช่น Chrome
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google อุปกรณ์จะตรวจพบว่าบัญชีมีคีย์ความปลอดภัย
- เสียบคีย์เข้ากับพอร์ต USB ของอุปกรณ์ คุณอาจต้องใช้อะแดปเตอร์ USB
- ถ้าเห็นข้อความจาก "บริการ Google Play" ให้แตะตกลง หากไม่เห็น ให้ไปที่ขั้นตอนที่ 5
- เปิดคีย์โดยทำดังนี้
- หากคีย์มีแป้นกลมสีทอง ให้แตะแป้นนั้น
- หากคีย์มีส่วนปลายสีทอง ให้แตะแล้วกดที่ส่วนปลายนั้น
- หากคีย์มีปุ่ม ให้กดปุ่มนั้น
- หากคีย์ไม่มีลักษณะตามด้านบนเลย คุณอาจต้องดึงออกและเสียบกลับเข้าไปใหม่ คีย์ประเภทนี้จะปิดการทำงานหลังการใช้งานแต่ละครั้ง
จัดระเบียบคีย์ความปลอดภัย
คุณจัดการคีย์ความปลอดภัยได้ในการตั้งค่าการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน ในส่วนนี้ คุณจะเห็นรายการคีย์ที่เพิ่มไว้ซึ่งเรียงจากใหม่ไปเก่า รวมถึงจะเห็นข้อมูลเพิ่มเติมด้วย เช่น ชื่อคีย์ วันที่เพิ่ม และวันที่ใช้ครั้งล่าสุด ชื่อคีย์มีค่าเริ่มต้นเป็น "คีย์ความปลอดภัย" เว้นแต่คุณจะเลือกชื่อที่กำหนดเอง
นอกจากนี้คุณยังมีตัวเลือกในการแก้ไขหรือลบชื่อของคีย์ความปลอดภัยแต่ละชื่อด้วย
เปลี่ยนชื่อคีย์ความปลอดภัยคลิกไอคอนดินสอ ข้างคีย์ความปลอดภัยแต่ละรายการเพื่อแก้ไขชื่อ ซึ่งหมายความว่าหากมีคีย์ความปลอดภัยหลายรายการ คุณจะระบุคีย์เหล่านั้นได้ง่ายขึ้นเมื่อใช้ชื่อที่กำหนดเอง
หากใช้คีย์ความปลอดภัยไม่ได้ คุณสามารถสร้างรหัสความปลอดภัยเพื่อใช้การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนได้โดยทำดังนี้
- ไปที่ g.co/sc ในอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ
- ทำตามวิธีการบนหน้าจอ
คีย์ความปลอดภัยบางรายการต้องใช้การยืนยันเพิ่มเติม เช่น PIN
หากคีย์ความปลอดภัยถูกล็อกเนื่องจากป้อน PIN ที่ไม่ถูกต้องหลายครั้งและต้องรีเซ็ต ให้ทําดังนี้
- เปิด Chrome ในคอมพิวเตอร์
- ที่ด้านขวาบน ให้คลิกเพิ่มเติม
- คลิกการตั้งค่า ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ความปลอดภัย จัดการคีย์ความปลอดภัย รีเซ็ตคีย์ความปลอดภัย
- ทำตามวิธีการบนหน้าจอ
เคล็ดลับ: คุณใช้ Chrome เพื่อรีเซ็ตคีย์ความปลอดภัยที่ล็อกอยู่ได้ ไปที่ chrome://settings/securityKeys
หากคีย์ความปลอดภัยหาย ให้ทําตามขั้นตอนสําหรับประเภทการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนที่คุณมีเพื่อเข้าถึงบัญชีและปกป้องบัญชีอีกครั้ง ดังนี้
- รหัสยืนยัน
- Google Prompt
- รหัสสำรอง
- คีย์ความปลอดภัยอื่นที่คุณเพิ่มในบัญชี
- คอมพิวเตอร์ที่ลงทะเบียนไว้ซึ่งก่อนหน้านี้คุณเลือกที่จะไม่เพิ่มรหัสยืนยัน
หากคุณมีขั้นตอนที่ 2 แบบอื่น
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ด้วยรหัสผ่านและขั้นตอนที่ 2 แบบอื่นที่มี
- ทำตามขั้นตอนเพื่อนำคีย์ที่หายไปออกจากบัญชี
- ซื้อคีย์ความปลอดภัยใหม่ คุณอาจต้องซื้อคีย์สำรองไว้ 1 อันและเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย
- เพิ่มคีย์ใหม่ในบัญชี
หากไม่มีขั้นตอนที่ 2 แบบอื่นหรือลืมรหัสผ่าน
หมายเหตุ: การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนกำหนดให้มีขั้นตอนเพิ่มเติมในการพิสูจน์ว่าคุณเป็นเจ้าของบัญชี และเนื่องจากการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้ Google จึงอาจต้องใช้เวลา 3-5 วันทำการในการตรวจสอบว่าคุณเป็นผู้ที่กำลังพยายามลงชื่อเข้าใช้จริงๆ
- ทำตามขั้นตอนการกู้คืนบัญชี ตอบคำถามเพื่อยืนยันว่าเป็นบัญชีของคุณ
- ระบบอาจขอให้คุณทำดังนี้
- ป้อนอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อคุณได้
- ป้อนรหัสที่ส่งไปยังอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ รหัสนี้ช่วยให้แน่ใจว่าคุณเข้าถึงอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์นั้นได้