สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้มีดังนี้
วิธีจัดกิจกรรมออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น การประชุมทางวิดีโอและสตรีมแบบสดโดยใช้ Google Meet |
สิ่งที่ต้องมี
10 นาที
บัญชี Google Workspace หากยังไม่มี ให้เริ่มช่วงทดลองใช้ 14 วันได้เลย
ในบทแนะนำนี้
|
1. สร้างกิจกรรมสำหรับผู้เข้าร่วมภายในและภายนอก |
วิดีโอต่อไปนี้แสดงวิธีสร้างกิจกรรมการประชุมทางวิดีโอสําหรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 500 คน หากมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 500 คน ให้สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดแทน
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
- ไม่บังคับ: หากต้องการเพิ่มผู้เข้าร่วมในกิจกรรม ให้คลิกค้นหาผู้คนทางด้านซ้าย แล้วพิมพ์ชื่อของผู้เข้าร่วม
- คลิกเวลาในปฏิทินที่ยังไม่ได้กำหนดเวลากิจกรรมไว้
- ใส่ชื่อและรายละเอียดกิจกรรม
- คลิกบันทึก
เคล็ดลับ: หากต้องการสร้างกิจกรรมที่ใช้เวลานานขึ้น ให้ลากเมาส์ลงมาที่ด้านล่างของหน้าเมื่อเลือกเวลา
ก่อนเริ่มกิจกรรม: สร้างกำหนดการและแชร์เนื้อหา
เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ในหน้าแรกของ Google เอกสาร
หากต้องการเริ่มต้นด้วยเอกสารเปล่า ให้คลิกสร้าง
- หากต้องการใช้เทมเพลต ให้คลิกแกลเลอรีเทมเพลต คุณอาจลองใช้เทมเพลตบันทึกการประชุม
- เพิ่มรายละเอียดกำหนดการโดยใส่ลิงก์ของไฟล์ที่ต้องการทำงานร่วมกันด้วย
หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ที่แชร์ในระดับที่เหมาะสม
- คลิกแชร์เพื่อเริ่มแชร์กำหนดการ
- แนบกำหนดการไว้ที่กิจกรรมในปฏิทิน
- ดับเบิลคลิกกิจกรรมดังกล่าวในตารางปฏิทิน
- คลิกเพิ่มไฟล์แนบ แล้วเลือกกำหนดการ
- คลิกบันทึก
- คลิกส่ง
โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับการแชร์และระดับการเข้าถึงได้ที่หัวข้อเริ่มต้นใช้งาน Google เอกสาร
ระหว่างจัดกิจกรรม: เปิด 2 หน้าต่างใน Chrome
-
เข้าร่วมกิจกรรมใน Google Meet ในหน้าต่างแรก และใช้หน้าต่างนี้โต้ตอบกับผู้เข้าร่วม
-
แทนที่จะนำเสนอกำหนดการและเนื้อหาที่แชร์ใน Google Meet ให้เปิดกำหนดการหรือเนื้อหาที่แชร์ในอีกหน้าต่างเพื่อดูและทำงานร่วมกับแบบเรียลไทม์
- เปิดหน้าต่างทั้งสองไว้ข้างกันเพื่อดูทั้งเนื้อหาและผู้เข้าร่วมพร้อมกัน
- แนะนำให้ผู้เข้าร่วมจัดหน้าจอแบบเดียวกัน
หมายเหตุ: ผู้นำเสนอกิจกรรมจะต้องแจ้งให้ผู้เข้าร่วมเปลี่ยนหน้าเนื้อหาตามการนำเสนอ เช่น “คราวนี้ให้ดูสไลด์ที่ 5”
ไม่บังคับ: แชร์กระดานไวท์บอร์ดออนไลน์ระหว่างจัดกิจกรรม
หากองค์กรใช้ Jamboard คุณอาจให้ผู้เข้าร่วมระดมสมองกันโดยใช้ไวท์บอร์ดออนไลน์ได้ เปิดเว็บแอป Jamboard โดยไปที่ https://jamboard.google.com หรือเปิด Jam ในแอป Jamboard บนอุปกรณ์เคลื่อนที่แล้วแชร์ในระหว่างจัดกิจกรรม ทุกคนจะวาดเขียน เพิ่มรูปภาพ หรือเปิดไฟล์ของ Google ในระหว่างที่ใช้ Jam อยู่ได้
เข้าร่วมกิจกรรมจาก Gmail
- เปิด Gmail แล้วคลิก Meet ในแถบด้านข้าง
- เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- คลิกการประชุมใหม่เพื่อเริ่มการประชุมใหม่เข้าร่วมเลย
- คลิกเข้าร่วมการประชุม แล้วป้อนชื่อเล่นหรือรหัสการประชุมเข้าร่วม
- หากต้องการเข้าร่วมการประชุมที่กําหนดเวลาไว้ ให้ชี้ไปที่การประชุมในส่วนการประชุมของฉันเข้าร่วมเลย
เข้าร่วมกิจกรรมจากปฏิทิน
- คลิกกิจกรรมที่ต้องการเข้าร่วมใน Google ปฏิทิน
- คลิกเข้าร่วมด้วย Google Meet
- ในหน้าต่างที่เปิดขึ้นมา ให้คลิกเข้าร่วมเลย
เข้าร่วมกิจกรรมจาก Meet
หากการประชุมอยู่ในรายการกิจกรรมที่กำหนดเวลาไว้ใน Meet ให้เลือกการประชุมนั้นแล้วคลิกเข้าร่วมเลย หรือจะเข้าร่วมโดยใช้รหัสการประชุมก็ได้ โดยทำดังนี้
- ป้อน https://meet.google.com ในเว็บเบราว์เซอร์
- คลิกป้อนรหัสหรือชื่อเล่นป้อนรายละเอียดคลิกเข้าร่วม
- รหัสการประชุมคือชุดตัวอักษรที่อยู่ท้ายลิงก์การประชุม โดยคุณไม่จำเป็นต้องป้อนเครื่องหมายขีดกลาง
- คุณจะใช้ชื่อเล่นการประชุมได้เฉพาะกับคนในองค์กรของคุณเท่านั้น ฟีเจอร์นี้มีให้บริการเฉพาะผู้ใช้ Google Workspace เท่านั้นในขณะนี้
-
หากองค์กรซื้อและติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet คุณก็จะพิมพ์รหัสหรือชื่อเล่นการประชุมลงในอุปกรณ์นั้นได้เช่นกัน
- คลิกเข้าร่วมเลย
หากพบปัญหาในการเข้าร่วมการประชุม โปรดดูหัวข้อการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าร่วมและการสร้างการประชุม
- ใน Google ไดรฟ์ ให้เปิดไฟล์ Google เอกสาร, Google ชีต หรือ Google สไลด์ที่ต้องการแชร์หรือนำเสนอ
- (ไม่บังคับ) หากต้องการแก้ไขเอกสาร สเปรดชีต หรืองานนำเสนอพร้อมกันกับผู้เข้าร่วม ให้ดำเนินการดังนี้
- ที่มุมขวาบน ให้คลิกแชร์
- เพิ่มชื่อในเอกสาร แล้วคลิกบันทึก
- เพิ่มผู้เข้าร่วมการประชุมและให้สิทธิ์เอดิเตอร์กับทุกคน
- คลิกส่ง
- เปิด Google Meet และเข้าร่วมการประชุม
- คลิกนำเสนอทันทีแล้วเลือกสิ่งที่ต้องการแชร์ดังนี้
- ทั้งหน้าจอ
- หน้าต่าง
- แท็บ
- คลิกแชร์
เคล็ดลับ: หากคุณไม่ได้ใช้เบราว์เซอร์ Chrome (ซึ่งจะซ่อนการแจ้งเตือนป๊อปอัปโดยอัตโนมัติ) ให้ปิดเสียงหรือปิดการแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้ปรากฏขึ้นในระหว่างที่คุณนำเสนอ
หากกล้องเปิดอยู่ ผู้เข้าร่วมจะยังคงเห็นวิดีโอในขณะที่คุณกำลังนำเสนอ
หากพบปัญหาในการนําเสนอ โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับกล้องและงานนําเสนอ
เข้าร่วมเพื่อนำเสนอเท่านั้น
เมื่อคุณเข้าร่วมการประชุมเพื่อนำเสนอ ระบบจะแสดงเฉพาะหน้าต่างหรือแอปพลิเคชันในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังการประชุม โดยจะไม่มีการรับหรือส่งเสียงและภาพอย่างอื่น
- ไปที่ https://meet.google.com/
- เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- เลือกการประชุมที่กำหนดเวลาไว้
- คลิกป้อนรหัสหรือชื่อเล่นป้อนรายละเอียดคลิกเข้าร่วม
- คลิกนำเสนอ
- เลือกหน้าต่างหรือแอปพลิเคชันที่ต้องการ
- เลือกแชร์
หยุดนำเสนอ
เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ใน Meet ตามวิธีที่ต้องการแชร์เนื้อหา
- ทั้งหน้าจอหรือหน้าต่าง - คลิกหยุดนำเสนอที่ด้านบน หรือคลิกหยุดแชร์ที่ด้านล่าง
- แท็บใน Chrome - คลิกหยุดที่ด้านบน
การบันทึกใช้งานได้ใน Meet เวอร์ชันคอมพิวเตอร์เท่านั้น ผู้ใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะได้รับแจ้งเตือนเมื่อเริ่มหรือหยุดการบันทึก แต่จะควบคุมการบันทึกไม่ได้
- เปิด Meet
- ที่ด้านล่างในการประชุมวิดีโอ ให้คลิกกิจกรรม การบันทึกเริ่มบันทึกเริ่ม
ไปที่หัวข้อไม่พบปุ่มบันทึก หากจำเป็น - รอให้การบันทึกเริ่มต้นขึ้น
ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อการบันทึกเริ่มขึ้นหรือหยุดลง - คลิกหยุดการบันทึก เมื่อต้องการ
หรือการบันทึกจะหยุดลงเมื่อทุกคนออกจากการประชุม - คลิกหยุดการบันทึกอีกครั้งเพื่อยืนยัน
เมื่อระบบเตรียมไฟล์บันทึกพร้อมแล้ว ไฟล์นั้นจะถูกบันทึกไว้ไนโฟลเดอร์บันทึกของ Meet ในโฟลเดอร์ไดรฟ์ของฉันของผู้จัดการประชุม นอกจากนี้ระบบจะส่งอีเมลที่มีลิงก์ของไฟล์บันทึกให้กับผู้จัดการประชุมและบุคคลที่เริ่มการบันทึกด้วย
2 สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสด |
คุณจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ก็ต่อเมื่อองค์กรของคุณรองรับฟีเจอร์นี้เท่านั้น โปรดติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งานสตรีมแบบสดที่อัปเดตแล้ว
คุณสามารถเพิ่มสตรีมมิงแบบสดที่ให้สิทธิ์ดูอย่างเดียวลงในกิจกรรมได้ เช่น การประชุมสำหรับพนักงานทุกคนในองค์กร โดยผู้ใช้ในองค์กรจะเข้าร่วมได้สูงสุด 100,000 คน
สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดสำหรับผู้นำเสนอซึ่งจะเริ่มและหยุดสตรีมแบบสดระหว่างการประชุม รวมทั้งบันทึกวิดีโอกิจกรรมได้ จากนั้นก็สร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวอีกรายการให้ผู้เข้าร่วม
- เปิด Google ปฏิทิน
- คลิกสร้างกิจกรรมตัวเลือกเพิ่มเติม
- เพิ่มรายละเอียดกิจกรรม เช่น วันที่ เวลา และคำอธิบาย
- เพิ่มผู้เข้าร่วมซึ่งจะมีสิทธิ์เต็มรูปแบบในการประชุมทางวิดีโอ
- ผู้เข้าร่วมทุกคนที่เพิ่มไว้ในกิจกรรมนี้จะเปิดกล้อง เปิดไมค์ และนำเสนอหน้าจอของตนเองได้
- เพิ่มผู้เข้าร่วมจากองค์กรอื่นและโดเมนที่น่าเชื่อถือได้ เฉพาะคนในองค์กรเท่านั้นที่จะบันทึกและควบคุมสตรีมมิงได้
- คลิกลูกศรลงถัดจากเข้าร่วมด้วย Google Meet เพิ่มสตรีมแบบสด
- คลิกเพิ่มสตรีมแบบสดอีกครั้งเพื่อยืนยัน
- คลิกบันทึก ส่ง
หมายเหตุ: สตรีมมิงจะไม่เริ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นหากต้องการเริ่มสตรีมมิงในระหว่างการประชุม ให้คลิก ที่ด้านขวาล่าง แล้วคลิกสตรีมมิงแบบสดเริ่มสตรีมมิง
หากต้องการเชิญเฉพาะคนที่คุณต้องการให้เข้าร่วมสตรีมสดแบบดูอย่างเดียว โปรดสร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียว ระบบจะเพิ่มกิจกรรมนี้ไปยังปฏิทินของผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว พร้อมระบุลิงก์การประชุม
ผู้เข้าร่วมจะไม่เห็นหรือได้ยินเสียงของคนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ และผู้ที่ได้รับเชิญจะนำเสนอ บันทึก หรือควบคุมสตรีมมิงไม่ได้ด้วย
เคล็ดลับ: หากได้รับเชิญ ผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะเข้าร่วมสตรีมแบบสดได้ แม้ว่าบัญชีของผู้เข้าร่วมจะไม่รองรับสตรีมมิงแบบสดหรือองค์กรของผู้เข้าร่วมปิดสตรีมมิงแบบสดอยู่ก็ตาม
- เปิด Google ปฏิทิน
- คลิกกิจกรรมสตรีมแบบสดที่คุณสร้าง แก้ไข
- คลิกการดำเนินการเพิ่มเติม สร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวที่ด้านบน
- เพิ่มผู้เข้าร่วมหรือห้องประชุมที่มีสิทธิ์เข้าถึงแบบดูอย่างเดียว และรายละเอียดอื่นๆ เช่น คำอธิบาย
- คลิกบันทึก ส่ง
หากผู้ดูแลระบบอนุญาต ผู้เข้าร่วมทุกคนที่อยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะมีสิทธิ์เริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้ สตรีมแบบสดจะหยุดโดยอัตโนมัติหลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมง เนื่องจากสตรีมแบบสดมีเวลาจำกัดที่ 8 ชั่วโมง
คุณเริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้ในกรณีต่อไปนี้
- คุณคือผู้จัด
- คุณอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัด
- ผู้ดูแลระบบอนุญาตให้คุณเข้าร่วมในสตรีมแบบสด
- คุณเข้าร่วมในฐานะผู้เข้าร่วมเต็มรูปแบบ
ผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะดูได้แต่จะควบคุมสตรีมแบบสดไม่ได้
- เปิด Google ปฏิทินและเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ
- เลือกเพิ่มเติม เริ่มสตรีมมิง
- ยืนยันว่าคุณต้องการเริ่มสตรีมมิง เมื่อสตรีมมิงเปิดอยู่ ที่ด้านบนซ้ายระบบจะมีคำว่า “สด” แสดงอยู่ และผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะดูการประชุมได้โดยใช้ URL ของสตรีม
- เลือกเพิ่มเติม หยุดสตรีมมิง
- ยืนยันว่าคุณต้องการหยุดสตรีมมิง
ผู้เข้าร่วมที่มีสิทธิ์เต็มรูปแบบซึ่งอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะบันทึกสตรีมแบบสดเพื่อให้ผู้คนรับชมกิจกรรมดังกล่าวหลังจากที่การประชุมสิ้นสุดแล้วได้ ระบบจะไม่บันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสดโดยอัตโนมัติ คุณจะต้องเริ่มและหยุดการบันทึกด้วยตนเอง
หากต้องการบันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสด ให้คลิกเพิ่มเติม บันทึกการประชุมในการประชุมดังกล่าว
โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อบันทึกการประชุมทางวิดีโอ
หากพบปัญหาเกี่ยวกับการบันทึก โปรดดูหัวข้อเล่น แชร์ ดาวน์โหลด หรือบันทึกวิดีโอการประชุม
ผู้เข้าร่วมจะดูกิจกรรมสตรีมแบบสดได้โดยวิธีต่อไปนี้
- คลิกลิงก์สตรีมแบบสดในกิจกรรมของปฏิทินหรืออีเมล
- ดูจากห้องประชุมที่เพิ่มลงในกิจกรรมและตั้งค่าด้วย Chromebox หรือ Chromebase สำหรับการประชุม
เมื่อดูกิจกรรมสตรีมแบบสด คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- แสดงหรือหยุดการเล่นสตรีมแบบสด
- ปรับความเร็วในการเล่นและคุณภาพของวิดีโอ
- เล่นวิดีโอในทีวี
- เปลี่ยนเป็นโหมดเต็มหน้าจอ
หมายเหตุ: หากต้องการรับชมกิจกรรมนี้ในภายหลัง โปรดสอบถามผู้จัดการประชุมว่ามีไฟล์บันทึกหรือไม่ คุณจะรับชมสตรีมแบบสดได้ในขณะที่กำลังมีการถ่ายทอดสดอยู่เท่านั้น
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสตรีมมิงแบบสดได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google Meet
3. แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการจัดกิจกรรมทางไกล |
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายอีเทอร์เน็ต (หากมี) หากไม่มี ให้ใช้ Wi-Fi ในคลื่นความถี่ 5 GHz (ส่วนความถี่ย่าน 2.4 GHz มักมีการใช้งานเป็นจำนวนมากและอาจทำให้การเชื่อมต่อวิดีโอไม่เสถียร)
- หากใช้ Wi-Fi ให้สร้างการประชุมทดสอบเพื่อตรวจสอบว่าได้รับสัญญาณที่แรงเพียงพอในตำแหน่งที่จะใช้งาน หากคุณมองเห็นเราเตอร์ได้โดยตรง แปลว่าคุณได้รับสัญญาณแรงที่สุดแล้ว
- หากการเชื่อมต่อช้า ให้ใช้การทดสอบความเร็วเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 3.2 Mbps
- ขณะที่กำลังประชุมทางวิดีโอ ให้ลดกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในบ้านให้น้อยที่สุดเพื่อให้มีแบนด์วิดท์เพียงพอ
- นั่งในบริเวณที่มีแสงเพียงพอโดยให้แสงกระทบใบหน้าและไม่ย้อนแสง เพื่อไม่ให้หน้ามีความมืดเกินไป ทำการทดสอบโดยลองเข้าร่วมประชุมกับเพื่อนร่วมงานเพื่อจัดตำแหน่งกล้องและแสงให้เหมาะสม
- การใช้ฉากหลังเรียบๆ และห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยจะเหมาะสมกับการประชุมทางธุรกิจแบบมืออาชีพมากที่สุด
- ควรใช้สถานที่ที่ไม่ค่อยมีเสียงรบกวน แต่ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีเสียงรอบข้างดัง ให้ปิดเสียงไมโครโฟนในขณะที่ไม่ได้พูด นอกจากนี้คุณยังใช้ฟีเจอร์คำบรรยายสดของ Meet เพื่อแสดงคำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
หูฟัง ไมโครโฟน และกล้อง
- ลองใส่หูฟังหรือหูฟังเอียร์บัดเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและยังช่วยลดเสียงสะท้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประชุมได้
- หากคุณต้องการพิมพ์ไปด้วยในขณะที่กำลังสนทนาอยู่ ให้ใช้ไมโครโฟนภายนอก เช่น ไมโครโฟนของชุดหูฟังหรือไมโครโฟน USB สำหรับพอดแคสต์
- ชุดหูฟังและไมโครโฟนแบบมีสายมักให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบไร้สาย
- อัปเกรดชุดหูฟัง ไมโครโฟน และกล้องให้เป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิต
- ตรวจสอบว่า Meet ใช้กล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่ถูกต้อง เช่น แม้คุณจะสวมชุดหูฟัง แต่ Meet อาจกำลังใช้ไมโครโฟนของเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่
จัดการกับอุปกรณ์ที่ทำงานช้าหรือประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดี
- อัปเดตคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด
- ลองนำเสนอจากแล็ปท็อปเครื่องอื่น (หากมี) หรือใช้สมาร์ทโฟน (ที่มีแอป Meet สำหรับ iOS หรือ Android ) เพื่อลดการใช้งาน CPU
- ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงการรับส่งข้อมูลของ Meet (เช่น ไฟร์วอลล์ในเครื่องและซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส) อาจลดคุณภาพของวิดีโอ โปรดระมัดระวังไม่ให้เครื่องมือเหล่านี้รบกวนการประชุมทางวิดีโอ
- ใช้จอภาพเดียว การใช้จอภาพ 2 จอขึ้นไปอาจทำให้ CPU และ GPU ทำงานหนักเกินไป
หากยังคงพบปัญหาคุณภาพของการประชุมทางวิดีโอของ Meet โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของวิดีโอและเสียงในการประชุม หรือรายงานปัญหา
สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 1 วัน
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
- เข้าร่วมการประชุมแบบทดสอบจากสถานที่ที่จะประชุมเพื่อตรวจสอบว่ากล้องและไมโครโฟนเชื่อมต่อดีแล้วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความเสถียร
สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 10 นาที
- ปิดแท็บทั้งหมดและรีสตาร์ทเบราว์เซอร์
- หากต้องการนำเสนองาน ให้เปิดสไลด์แล้วเตรียมงานนำเสนอไว้ล่วงหน้า (การโหลดสไลด์จะทำให้ CPU ทำงานหนักขึ้นชั่วคราว ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพวิดีโอและเสียง)
- หากต้องการเห็นผู้เข้าร่วมการประชุมพร้อมๆ กับดูงานนำเสนอ ให้เปลี่ยนเลย์เอาต์ของหน้าจอ
- ขอให้ผู้เข้าร่วมปิดเสียงเมื่อไม่ได้พูดเพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวน หากต้องการปิดหรือเปิดเสียงของคุณเอง ให้คลิกปิดเสียง หรือใช้แป้นพิมพ์ลัด ⌘/Ctrl + D
- สร้างกฎในการประชุม เช่น กลับมาร่วมประชุมให้ตรงเวลาหลังจากพักเบรก หรือเปิดโอกาสให้ผู้อื่นพูดบ้างตามความเหมาะสม
- กำหนดวิธีขอโอกาสพูด เช่น ส่งข้อความแชทระหว่างการประชุมเพื่อเสนอหัวข้อหรือขอแสดงความคิดเห็น
- ยอมรับหรือปฏิเสธผู้เข้าร่วมจากภายนอกตามความเหมาะสม ผู้ใช้ภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในกิจกรรมในปฏิทินจะต้องขออนุญาตเพื่อเข้าร่วมการประชุม โดยผู้เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอที่อยู่ในโดเมนเดียวกับผู้จัดการประชุมจะต้องยอมรับคำขอดังกล่าวก่อน ผู้ใช้ภายนอกจึงจะเข้าร่วมได้ ดังนั้นโปรดขอให้ทุกคนเข้าร่วมการประชุมก่อนเวลา 10 นาทีเพื่อไม่ให้การประชุมเริ่มต้นล่าช้า
Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง