ภาพรวม
จัดกิจกรรมออนไลน์โดยใช้ Google Meet คุณสามารถจัดกิจกรรมและการประชุมออนไลน์โดยเชิญผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 250 คน (ผู้เข้าร่วมภายในและ/หรือภายนอก) หรือจะจัดกิจกรรมสตรีมแบบสดขนาดใหญ่ก็ได้ ส่วนสตรีมแบบสดจะรองรับผู้ชมได้กี่คนนั้นขึ้นอยู่กับรุ่นของ Google Workspace ที่คุณใช้
แสดงวิธีการทั้งหมด | ซ่อนวิธีการทั้งหมด
1. สร้างกิจกรรมสำหรับผู้เข้าร่วมภายในและภายนอก
สร้างกิจกรรมโดยใช้ปฏิทินและ Google Meet ในกรณีต่อไปนี้
- กิจกรรมมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 250 คน
- คุณต้องการเชิญผู้เข้าร่วมภายในและ/หรือภายนอก
- คุณต้องการทำงานร่วมกันในระหว่างจัดกิจกรรม
1.1 สร้างกิจกรรมในปฏิทิน
- คลิกสร้าง
ในปฏิทิน
- เพิ่มชื่อกิจกรรม วันเวลาที่จัด และรายชื่อผู้เข้าร่วม
หมายเหตุ: ระบบจะเพิ่มวิดีโอคอล Hangouts Meet เมื่อคุณเพิ่มผู้เข้าร่วม แต่หากไม่เห็นวิดีโอ ให้คลิกเพิ่มการประชุม
- (ไม่บังคับ) เพิ่มคำอธิบายกิจกรรมหรือไฟล์แนบ เช่น กำหนดการหรืองานนำเสนอ
- คลิกบันทึก
- คลิกส่ง
ก่อนเริ่มกิจกรรม: สร้างกำหนดการและแชร์เนื้อหา
เลือกตัวเลือกต่อไปนี้ในหน้าแรกของ Google เอกสาร
หากต้องการเริ่มต้นด้วยเอกสารเปล่า ให้คลิกสร้าง
- หากต้องการใช้เทมเพลต ให้คลิกแกลเลอรีเทมเพลต คุณอาจลองใช้เทมเพลตบันทึกการประชุม
- เพิ่มรายละเอียดกำหนดการโดยใส่ลิงก์ของไฟล์ที่ต้องการทำงานร่วมกันด้วย
หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมมีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ที่แชร์ในระดับที่เหมาะสม
- คลิกแชร์เพื่อเริ่มแชร์กำหนดการ
- แนบกำหนดการไว้ที่กิจกรรมในปฏิทิน
- ดับเบิลคลิกกิจกรรมดังกล่าวในตารางปฏิทิน
- คลิกเพิ่มไฟล์แนบ
แล้วเลือกกำหนดการ
- คลิกบันทึก
- คลิกส่ง
โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับการแชร์และระดับการเข้าถึงได้ที่หัวข้อเริ่มต้นใช้งาน Google เอกสาร
ระหว่างจัดกิจกรรม: เปิด 2 หน้าต่างใน Chrome
เข้าร่วมกิจกรรมใน Hangouts Meet ในหน้าต่างแรก ใช้หน้าต่างนี้โต้ตอบกับผู้เข้าร่วม
แทนที่จะนำเสนอกำหนดการและเนื้อหาที่แชร์ใน Hangouts Meet ให้เปิดหน้าต่างที่ 2 เพื่อดูและทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์
- เปิดหน้าต่างทั้งสองไว้ข้างกันเพื่อดูทั้งเนื้อหาและผู้เข้าร่วมพร้อมกัน
- แนะนำให้ผู้เข้าร่วมจัดหน้าจอแบบเดียวกัน
หมายเหตุ: ผู้นำเสนอกิจกรรมจะต้องแจ้งให้ผู้เข้าร่วมเปลี่ยนหน้าเนื้อหาตามการนำเสนอ เช่น “คราวนี้ให้ดูสไลด์ที่ 5”
ไม่บังคับ: แชร์กระดานไวท์บอร์ดออนไลน์ระหว่างจัดกิจกรรม
หากองค์กรใช้ Jamboard คุณอาจให้ผู้เข้าร่วมระดมสมองกันโดยใช้ไวท์บอร์ดออนไลน์ได้ เปิดเว็บแอป Jamboard โดยไปที่ https://jamboard.google.com หรือเปิด Jam ในแอป Jamboard บนอุปกรณ์เคลื่อนที่แล้วแชร์ในระหว่างจัดกิจกรรม ทุกคนจะวาดเขียน เพิ่มรูปภาพ หรือเปิดไฟล์ของ Google ได้ระหว่างที่ใช้เซสชัน Jam
เข้าร่วมกิจกรรมจาก Gmail
เปิด Gmail
ในแถบด้านข้าง ให้คลิกเข้าร่วมการประชุม
เคล็ดลับ: หากไม่เห็นตัวเลือกนี้ โปรดติดต่อผู้ดูแลระบบ Google Workspace
- ป้อนรหัสหรือชื่อเล่นการประชุม
- ผู้ใช้ Google Workspace จะแชร์ชื่อเล่นกับคนในองค์กรได้ เพื่อให้เข้าร่วมการประชุมได้อย่างรวดเร็ว
- แล้วคลิกเข้าร่วม
เข้าร่วมกิจกรรมจากปฏิทิน
- คลิกกิจกรรมที่ต้องการเข้าร่วมใน Google ปฏิทิน
- คลิกเข้าร่วมด้วย Google Meet
- ในหน้าต่างที่เปิดขึ้นมา ให้คลิกเข้าร่วมเลย
เข้าร่วมกิจกรรมจาก Meet
หากกิจกรรมอยู่ในรายชื่อกิจกรรมที่กำหนดเวลาไว้ใน Meet ให้คลิกกิจกรรมดังกล่าว แล้วคลิกเข้าร่วมเลย หรือจะเข้าร่วมโดยใช้รหัสการประชุมก็ได้ โดยทำดังนี้
- ในเว็บเบราว์เซอร์ ให้ป้อน https://meet.google.com
- คลิกป้อนรหัสหรือลิงก์ > คลิกเข้าร่วม
- ป้อนรหัสหรือชื่อเล่นการประชุม
- รหัสการประชุมคือชุดตัวอักษรที่อยู่ท้ายลิงก์การประชุม โดยคุณไม่จำเป็นต้องป้อนเครื่องหมายขีดกลาง
- คุณจะใช้ชื่อเล่นการประชุมได้เฉพาะกับคนในองค์กรของคุณเท่านั้น ฟีเจอร์นี้มีให้บริการเฉพาะผู้ใช้ Google Workspace เท่านั้นในขณะนี้
หากองค์กรซื้อและติดตั้งอุปกรณ์ชุดฮาร์ดแวร์ของ Meet คุณก็จะพิมพ์รหัสหรือชื่อเล่นการประชุมลงในอุปกรณ์นั้นได้อีกด้วย
เว้นช่องนี้ว่างไว้เพื่อเริ่มการประชุมใหม่ด้วยรหัสใหม่
- คลิกต่อไปแล้วคลิกเข้าร่วมเลย
หากพบปัญหาในการเข้าร่วมการประชุม โปรดดูหัวข้อการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ Google Meet
- เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ
- เลือก "นําเสนอเลย"
ที่ด้านล่าง
- เลือกทั้งหน้าจอ หน้าต่างเดียว หรือแท็บเดียว
- หากคุณนำเสนอแท็บ Chrome ระบบจะแชร์เสียงของแท็บนั้นตามค่าเริ่มต้น
- หากต้องการนําเสนอแท็บอื่น ให้เลือกแท็บที่ต้องการนําเสนอ แล้วคลิกแชร์แท็บนี้แทน
- เลือกแชร์
หากกล้องเปิดอยู่ ผู้เข้าร่วมจะยังคงเห็นวิดีโอในขณะที่คุณกำลังนำเสนอ
หากพบปัญหาในการนำเสนอ โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับ Google Meet
นำเสนอขณะที่มีคนอื่นนำเสนออยู่
- คลิกนำเสนอทันทีที่มุมขวาล่าง
- เลือกทั้งหน้าจอหรือหน้าต่างเดียว
- เลือกนำเสนอแทน
เข้าร่วมเพื่อนำเสนอเท่านั้น
เมื่อคุณเข้าร่วมการประชุมเพื่อนำเสนอ ระบบจะแสดงเฉพาะหน้าต่างหรือแอปพลิเคชันในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณไปยังการประชุม โดยจะไม่มีการรับหรือส่งเสียงและภาพอย่างอื่น
- ไปที่ https://meet.google.com/
- เลือกการประชุมที่กำหนดเวลาไว้ หรือคลิกเข้าร่วมหรือเริ่มต้นการประชุม แล้วป้อนรหัสการประชุม
- แทนที่จะคลิก "เข้าร่วมเลย" ให้คลิกนำเสนอ
- เลือกหน้าต่างหรือแอปพลิเคชัน
- เลือกแชร์
หยุดนำเสนอ
- ในหน้าต่าง Meet ให้คลิกหยุดนำเสนอ
- คุณยังคลิกคุณกำลังนำเสนอ
หยุดนำเสนอที่มุมขวาล่างได้อีกด้วย
การบันทึกใช้งานได้ใน Meet เวอร์ชันคอมพิวเตอร์เท่านั้น ผู้ใช้แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่จะได้รับแจ้งเตือนเมื่อเริ่มหรือหยุดการบันทึก แต่จะควบคุมการบันทึกไม่ได้
คุณจะบันทึกการประชุมไม่ได้หากคุณเข้าร่วมเพื่อนำเสนอเท่านั้น เช่น เข้าร่วมจากแล็ปท็อปที่อยู่ในห้องประชุมสำหรับการประชุมทางวิดีโออยู่แล้ว โปรดเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอและเริ่มนำเสนอก่อน แล้วจึงค่อยบันทึกการประชุม
- เปิด Meet แล้วเริ่มหรือเข้าร่วมการประชุม
- คลิกเพิ่มเติม
บันทึกการประชุม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อฉันไม่พบปุ่มบันทึก - รอให้การบันทึกเริ่มขึ้น
ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อการบันทึกเริ่มขึ้นหรือหยุดลง - ให้คลิกเพิ่มเติม
หยุดการบันทึก เมื่อเสร็จเรียบร้อย
- เมื่อทุกคนออกจากการประชุม การบันทึกจะหยุดเองเช่นกัน
- คลิกหยุดบันทึกอีกครั้งเพื่อยืนยัน
- รอให้ระบบสร้างไฟล์และบันทึกไปยังไดรฟ์ของฉัน > Meet Recordings โฟลเดอร์ของผู้จัดการประชุม นอกจากนี้จะมีการส่งอีเมลที่มีลิงก์ของการบันทึกให้กับผู้จัดการประชุมและบุคคลที่เริ่มการบันทึก
2 สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสด
คุณจะเพิ่มสตรีมมิงแบบสดที่ให้สิทธิ์ดูอย่างเดียวลงในกิจกรรมได้ เช่น การประชุมสำหรับพนักงานทุกคนในองค์กร โดยผู้ใช้ในองค์กรจะเข้าร่วมได้สูงสุด 100,000 คน
สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดสำหรับผู้นำเสนอซึ่งจะเริ่มและหยุดสตรีมแบบสดระหว่างการประชุม รวมทั้งบันทึกวิดีโอกิจกรรมได้ จากนั้นก็สร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวอีกรายการให้ผู้เข้าร่วม
2.1 สร้างกิจกรรมสตรีมแบบสดสำหรับผู้นำเสนอ- เปิด Google ปฏิทิน
- คลิก
สร้าง
ตัวเลือกเพิ่มเติม
- เพิ่มรายละเอียดกิจกรรม เช่น วันที่ เวลา และคำอธิบาย
- เพิ่มผู้เข้าร่วมซึ่งจะมีสิทธิ์เต็มรูปแบบในการประชุมทางวิดีโอ
- ผู้เข้าร่วมทุกคนที่เพิ่มไว้ในกิจกรรมนี้จะเปิดกล้อง เปิดไมค์ และนำเสนอหน้าจอของตนเองได้
- เพิ่มผู้เข้าร่วมจากองค์กรอื่นได้ เฉพาะคนในองค์กรเท่านั้นที่จะบันทึกและควบคุมสตรีมมิงได้ ตัวอย่างเช่น เชิญผู้บรรยายให้เข้าร่วมการประชุมขององค์กรในกิจกรรมนี้
- ถัดจากเข้าร่วม Google Meet ให้คลิกลูกศรลง
เพิ่มสตรีมแบบสด
- หากต้องการเชิญผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว โปรดเลือกตัวเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- คลิกคัดลอก
แชร์ URL ของสตรีมแบบสดในอีเมลหรือข้อความแชท
- จากนั้นทำส่วนที่ 2: สร้างกิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว
- เคล็ดลับ: เฉพาะผู้เข้าร่วมภายในองค์กรเท่านั้นที่จะดูสตรีมแบบสดได้ คุณเพิ่มผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวได้สูงสุด 100,000 คน
- คลิกคัดลอก
- คลิกบันทึก
- สตรีมมิงจะไม่เริ่มต้นเองโดยอัตโนมัติ ในระหว่างการประชุม ให้คลิกเพิ่มเติม
เริ่มสตรีมมิง
หากต้องการเชิญเฉพาะคนที่คุณต้องการให้เข้าร่วมสตรีมสดแบบดูอย่างเดียว โปรดสร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียว ระบบจะเพิ่มกิจกรรมนี้ไปยังปฏิทินของผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว พร้อมระบุลิงก์การประชุม คุณเพิ่มผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวได้สูงสุด 100,000 คน
ผู้เข้าร่วมจะไม่เห็นหรือได้ยินเสียงของคนที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ และผู้ที่ได้รับเชิญจะนำเสนอ บันทึก หรือควบคุมสตรีมมิงไม่ได้ด้วย
- เปิด Google ปฏิทิน
- คลิกกิจกรรมสตรีมแบบสดที่คุณสร้าง
แก้ไข
- คลิกการดำเนินการเพิ่มเติม
สร้างกิจกรรมแบบดูอย่างเดียวที่ด้านบน
- เพิ่มผู้เข้าร่วมหรือห้องประชุมที่มีสิทธิ์เข้าถึงแบบดูอย่างเดียว และรายละเอียดอื่นๆ เช่น คำอธิบาย
- คลิกบันทึก
ส่ง
หากผู้ดูแลระบบอนุญาต ผู้เข้าร่วมทุกคนที่อยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะมีสิทธิ์เริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้
เริ่มหรือหยุดสตรีมแบบสดได้ | ดูได้อย่างเดียว ควบคุมสตรีมแบบสดไม่ได้ |
ผู้จัดการประชุม | |
คุณอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดสตรีมแบบสด | ผู้ที่เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียว |
ผู้ดูแลระบบอนุญาตให้คุณอยู่ในสตรีมแบบสดได้ | |
คุณได้เข้าร่วมในฐานะผู้เข้าร่วมเต็มรูปแบบ |
- เปิด Google ปฏิทินและเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ
- เลือกเพิ่มเติม
เริ่มสตรีมมิง
- ยืนยันว่าคุณต้องการเริ่มสตรีมมิง เมื่อสตรีมมิงเปิดอยู่ ที่ด้านบนซ้ายระบบจะมีคำว่า “สด” แสดงอยู่ และผู้เข้าร่วมแบบดูอย่างเดียวจะดูการประชุมได้โดยใช้ URL ของสตรีม
- เลือกเพิ่มเติม
หยุดสตรีมมิง
- ยืนยันว่าคุณต้องการหยุดสตรีมมิง
ผู้เข้าร่วมที่มีสิทธิ์เต็มรูปแบบซึ่งอยู่ในองค์กรเดียวกับผู้จัดการประชุมจะบันทึกสตรีมแบบสดเพื่อให้ผู้คนรับชมกิจกรรมดังกล่าวหลังจากที่การประชุมสิ้นสุดแล้วได้ ระบบจะไม่บันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสดโดยอัตโนมัติ คุณจะต้องเริ่มและหยุดการบันทึกด้วยตนเอง
หากต้องการบันทึกกิจกรรมสตรีมแบบสด ให้คลิก บันทึกการประชุมในการประชุมดังกล่าว
โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้อบันทึกการประชุมทางวิดีโอ
หากพบปัญหาเกี่ยวกับการบันทึก โปรดดูหัวข้อเล่น แชร์ ดาวน์โหลด หรือบันทึกวิดีโอการประชุม
ผู้เข้าร่วมจะดูกิจกรรมสตรีมแบบสดได้โดยวิธีต่อไปนี้
- คลิกลิงก์สตรีมแบบสดในกิจกรรมของปฏิทินหรืออีเมล
- ดูจากห้องประชุมที่เพิ่มลงในกิจกรรมและตั้งค่าด้วย Chromebox หรือ Chromebase สำหรับการประชุม
เมื่อดูกิจกรรมสตรีมแบบสด คุณจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- แสดงหรือหยุดการเล่นสตรีมแบบสด
- ปรับความเร็วในการเล่นและคุณภาพของวิดีโอ
- เล่นวิดีโอในทีวี
- เปลี่ยนเป็นโหมดเต็มหน้าจอ
หมายเหตุ: หากต้องการรับชมกิจกรรมนี้ในภายหลัง โปรดสอบถามผู้จัดการประชุมว่ามีไฟล์บันทึกหรือไม่ คุณจะรับชมสตรีมแบบสดได้ในขณะที่กำลังมีการถ่ายทอดสดอยู่เท่านั้น
3. แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดกิจกรรมทางไกล
3.1 ตั้งค่าและทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายอีเทอร์เน็ต (หากมี) หากไม่มี ให้ใช้ Wi-Fi ในคลื่นความถี่ 5 GHz (ส่วนความถี่ย่าน 2.4 GHz มักมีการใช้งานเป็นจำนวนมากและอาจทำให้การเชื่อมต่อวิดีโอไม่เสถียร)
- หากใช้ Wi-Fi ให้สร้างการประชุมทดสอบเพื่อตรวจสอบว่าได้รับสัญญาณที่แรงเพียงพอในตำแหน่งที่จะใช้งาน หากคุณมองเห็นเราเตอร์ได้โดยตรง แปลว่าคุณได้รับสัญญาณแรงที่สุดแล้ว
- หากการเชื่อมต่อช้า ให้ใช้การทดสอบความเร็วเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 3.2 Mbps
- ขณะที่กำลังประชุมทางวิดีโอ ให้ลดกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในบ้านให้น้อยที่สุดเพื่อให้มีแบนด์วิดท์เพียงพอ
- นั่งในบริเวณที่มีแสงเพียงพอโดยให้แสงกระทบใบหน้า ไม่ใช่ด้านหลัง เพื่อไม่ให้หน้ามีความมืดเกินไป ทำการทดสอบโดยลองโทรหาเพื่อนร่วมงานเพื่อจัดตำแหน่งกล้องและแสงให้เหมาะสม
- การใช้ฉากหลังเรียบๆ และห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยจะเหมาะสมกับการประชุมเชิงธุรกิจแบบมืออาชีพมากที่สุด
- ควรใช้สถานที่ที่ไม่ค่อยมีเสียงรบกวน แต่ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีเสียงรอบข้างดัง ให้ปิดเสียงไมโครโฟนในขณะที่ไม่ได้พูด นอกจากนี้คุณยังใช้ฟีเจอร์คำบรรยายสดของ Meet เพื่อแสดงคำบรรยายในแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
หูฟัง ไมโครโฟน และกล้อง
- คุณอาจลองใช้หูฟังหรือหูฟังเอียร์บัดเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและยังช่วยลดเสียงสะท้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการโทรได้
- หากคุณต้องการพิมพ์ไปด้วยในขณะที่กำลังสนทนาอยู่ ให้ใช้ไมโครโฟนภายนอก เช่น ไมโครโฟนของชุดหูฟังหรือไมโครโฟน USB สำหรับพอดแคสต์
- ชุดหูฟังและไมโครโฟนแบบมีสายมักให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบไร้สาย
- อัปเกรดชุดหูฟัง ไมโครโฟน และกล้องให้เป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิต
- ตรวจสอบว่า Meet ใช้กล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่ถูกต้อง เช่น แม้คุณจะสวมชุดหูฟัง แต่ Meet อาจกำลังใช้ไมโครโฟนของเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่
จัดการกับอุปกรณ์ที่ทำงานช้าหรือมีประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดี
- อัปเดตคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด
- ลองนำเสนอจากแล็ปท็อปเครื่องอื่น (หากมี) หรือใช้สมาร์ทโฟน (ที่มีแอป Meet สำหรับ iOS หรือ Android ) เพื่อลดการใช้งาน CPU
- ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงการรับส่งข้อมูลของ Meet (เช่น ไฟร์วอลล์ในเครื่องและซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส) อาจลดคุณภาพของวิดีโอ โปรดระมัดระวังไม่ให้เครื่องมือเหล่านี้รบกวนการทำงานของวิดีโอคอล
- ใช้จอภาพเดียว การใช้จอภาพ 2 จอขึ้นไปอาจทำให้ CPU และ GPU ทำงานหนักเกินไป
หากยังคงพบปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพการโทรของ Meet โปรดดูที่หัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับ Hangouts Meet หรือคุณจะรายงานปัญหาให้เราทราบก็ได้
สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 1 วัน
- รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์
- เข้าร่วมการประชุมแบบทดสอบจากสถานที่ที่จะประชุมเพื่อตรวจสอบว่ากล้องและไมโครโฟนเชื่อมต่อดีแล้วและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความเสถียร
สิ่งที่ควรทำล่วงหน้า 10 นาที
- ปิดแท็บทั้งหมดและรีสตาร์ทเบราว์เซอร์
- หากต้องการนำเสนองาน ให้เปิดสไลด์แล้วเตรียมงานนำเสนอไว้ล่วงหน้า (การโหลดสไลด์จะทำให้ CPU ทำงานหนักขึ้นชั่วคราว ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพวิดีโอและเสียง)
- หากต้องการเห็นผู้เข้าร่วมการประชุมพร้อมๆ กับดูงานนำเสนอ ให้เปลี่ยนเลย์เอาต์ของหน้าจอ
- ขอให้ผู้เข้าร่วมปิดเสียงเมื่อไม่ได้พูดเพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวน หากต้องการปิดหรือเปิดเสียงของคุณเอง ให้คลิกปิดเสียง
หรือใช้แป้นพิมพ์ลัด ⌘/Ctrl + D
- สร้างกฎในการประชุม เช่น กลับมาร่วมประชุมให้ตรงเวลาหลังจากพักเบรก หรือเปิดโอกาสให้ผู้อื่นพูดบ้างตามความเหมาะสม
- กำหนดวิธีขอโอกาสพูด เช่น ส่งข้อความแชทระหว่างการประชุมเพื่อเสนอหัวข้อหรือขอแสดงความคิดเห็น
- ยอมรับหรือปฏิเสธผู้เข้าร่วมจากภายนอกตามความเหมาะสม ผู้ใช้ภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในกิจกรรมในปฏิทินจะต้องขออนุญาตเพื่อเข้าร่วม โดยผู้เข้าร่วมการประชุมที่อยู่ในโดเมนเดียวกับผู้จัดการประชุมจะต้องตอบรับคำขอก่อน ผู้ใช้ภายนอกจึงจะเข้าร่วมได้ ดังนั้นโปรดขอให้ทุกคนเข้าร่วมการประชุมก่อนเวลา 10 นาทีเพื่อไม่ให้การประชุมเริ่มต้นล่าช้า