หากต้องการศึกษาวิธีการและคำแนะนำเรื่องปัญหาเกี่ยวกับกฎหมาย การรักษาความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อกำหนด ให้ไปที่หัวข้อกฎหมายและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Google Workspace
ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถตั้งกฎสำหรับอีเมลที่มีคำไม่เหมาะสม เช่น คำลามก เพื่อกําหนดว่าจะปฏิเสธ กักบริเวณ หรือแก้ไขก่อนส่ง การกรองเนื้อหาอีเมลพื้นฐานนี้เรียกว่า เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
สร้างกฎที่ระบุวิธีจัดการกับอีเมลที่ตรงกับเกณฑ์ที่คุณกําหนด ซึ่งอาจอิงตามประเภทไฟล์ ชื่อไฟล์ และขนาดอีเมล
การดำเนินการเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด
คุณจะดำเนินการกับอีเมลที่มีไฟล์แนบได้ดังนี้
- ปฏิเสธอีเมล
- กักข้อความและไฟล์แนบเพื่อตรวจสอบ
- แก้ไขการส่งข้อความและไฟล์แนบ
นอกจากนี้ยังตั้งค่ากฎเพื่อตรวจหาไฟล์แนบที่เข้ารหัสได้ด้วย วิธีการนี้จะมีประโยชน์หากคุณส่งสำเนาไฟล์แนบอีเมลที่ไม่ได้เข้ารหัสไปยังเซิร์ฟเวอร์เก็บถาวร
วิธีสแกนไฟล์แนบ
Gmail จะตรวจหาประเภทไฟล์แบบมาตรฐานและแบบกำหนดเองได้ แม้ผู้ส่งที่มีเจตนาร้ายจะเปลี่ยนนามสกุลไฟล์ Gmail ก็จะยังตรวจพบประเภทไฟล์ดังกล่าว
Gmail จะสแกนชื่อของไฟล์ภายในที่เก็บถาวร ซึ่งรวมถึงที่เก็บข้อมูลที่เข้ารหัสและที่เก็บข้อมูลที่ไม่ได้เข้ารหัสที่ซ้อนกันอยู่ด้วย
ตัวกรองเนื้อหาจะสแกนข้อความและไฟล์แนบที่มีขนาดไม่เกิน 1 MB ระบบจะแปลงเนื้อหาและไฟล์แนบของข้อความเป็นไฟล์เดียวในรูปแบบที่สแกนได้ Gmail จะสแกนไฟล์ที่แปลงแล้ว สำหรับไฟล์ที่แปลงแล้วซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 1 MB นั้น Gmail จะสแกนเฉพาะ 1 MB แรกของไฟล์ที่แปลงแล้ว และจะไม่แปลงหรือสแกนไฟล์ที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 MB
Gmail ไม่สามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- สแกนข้อมูลที่เก็บอยู่ภายในที่เก็บข้อมูลที่เข้ารหัส
- เปิดหรือตรวจสอบไฟล์แนบที่เป็นไฟล์ที่มีรหัสผ่านป้องกันหรือข้อมูลที่จัดเก็บถาวร
- เปิดหรือตรวจสอบไฟล์ ZIP ที่มีรหัสผ่านป้องกัน Gmail จะตรวจสอบไฟล์แนบที่เป็นไฟล์ ZIP ได้หากไม่มีรหัสผ่านป้องกัน
หมายเหตุ: เรารับประกันไม่ได้ว่าตัวกรองเนื้อหาจะตรวจพบและแจ้งว่าเนื้อหาหรือไฟล์แนบในข้อความที่ละเอียดอ่อนทั้งหมดไม่เหมาะสม ตัวกรองจะใช้นิพจน์ทั่วไปและพารามิเตอร์เนื้อหาอื่นๆ เพื่อพิจารณาความน่าจะเป็นในการจับคู่ ผลที่ได้อาจเป็นทั้งผลบวกเท็จและผลลบเท็จซึ่งทริกเกอร์มาจากหลายปัจจัย
การใช้การตั้งค่า
กฎจะมีผลกับผู้ใช้ทุกคนในหน่วยขององค์กร เว้นแต่ว่าคุณจะเปลี่ยนตัวเลือก คุณจะปิดใช้กฎที่องค์กรย่อยรับค่ามาจากองค์กรระดับบนสุดได้ นอกจากนี้คุณยังเพิ่มกฎหลายข้อให้กับแต่ละองค์กรได้อีกด้วย
เมื่อคุณตั้งค่ากฎหลายข้อ สิ่งที่เกิดขึ้นกับข้อความจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุณกำหนดและกฎที่มีลำดับความสำคัญสูงกว่า โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อการตั้งค่าหลายรายการมีผลต่อการทำงานของข้อความอย่างไร
ตั้งกฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดของไฟล์แนบ
ขั้นแรก: ไปที่การตั้งค่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดของ Gmail ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
-
ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ไปที่เมนู แอปGoogle WorkspaceGmailการปฏิบัติตามข้อกําหนด
-
เลื่อนไปที่การตั้งค่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดของไฟล์แนบ จากนั้นชี้ไปที่การตั้งค่าแล้วคลิกกำหนดค่า หากมีการกำหนดการตั้งค่าไว้แล้ว ให้คลิกแก้ไขหรือเพิ่มรายการอื่น
-
กรอกคำอธิบายเฉพาะในการตั้งค่าใหม่แต่ละรายการ
ไปยังขั้นตอนต่อไปเพื่อกำหนดการตั้งค่า
ขั้นตอนที่ 1: เลือกข้อความอีเมลที่จะใช้การตั้งค่านี้
-
เลือกช่องที่ติดกับข้อความที่ต้องการใช้กฎ
-
ไปยังขั้นตอนต่อไปเพื่อทำต่อ
ขั้นตอนที่ 2: ใส่นิพจน์ที่ระบุสิ่งที่ค้นหา
คุณสามารถเพิ่มนิพจน์ได้สูงสุด 10 รายการ โดยจะต้องเพิ่มและบันทึกนิพจน์เองทีละรายการ
-
ระบุว่าระบบต้องพบนิพจน์ที่ตรงกับเงื่อนไขใดหรือต้องตรงกับเงื่อนไขทั้งหมดในรายการ จึงจะทริกเกอร์การดำเนินการกับอีเมล เช่น ถ้าคุณเลือกหากมีเงื่อนไขใดต่อไปนี้ตรงกับข้อความ เงื่อนไขที่ตรงกันจะทริกเกอร์การดำเนินการกับข้อความ
-
คลิกเพิ่ม
-
จากรายการที่ปรากฏ ให้เลือกรายการที่จะระบุเป็นนิพจน์
-
ประเภทไฟล์ - เลือกประเภทไฟล์แนบที่ต้องการให้ค้นหา หรือจะป้อนประเภทไฟล์แบบกำหนดเองเพื่อค้นหาโดยพิจารณาจากประเภทไฟล์ดังกล่าวก็ได้เช่นกัน
หมายเหตุ: ระบบจะปฏิเสธไฟล์ที่ตรวจพบว่าเป็นไฟล์ปฏิบัติการโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย โปรดดูรายการนามสกุลไฟล์ทั้งหมดที่หัวข้อประเภทไฟล์และนามสกุลไฟล์ที่นิพจน์รองรับ -
ประเภทไฟล์ - กรอกชื่อไฟล์แนบที่ต้องการให้ค้นหา ระบบจะมองว่าค่าที่ตรงกันมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของชื่อไฟล์ก็ได้ ไม่ว่าจะใช้ตัวพิมพ์เล็กหรือตัวพิมพ์ใหญ่ก็ตาม
-
ขนาดอีเมล - ป้อนขนาดสูงสุดของอีเมล โดยมีหน่วยเป็นเมกะไบต์ ซึ่งจะรวมเนื้อความและไฟล์แนบทั้งหมด การจํากัดขนาดนี้จะมีผลกับขนาดดิบของทั้งอีเมล เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเข้ารหัส ขนาดดิบของอีเมลจะใหญ่กว่าขนาดพื้นฐานของอีเมลและไฟล์แนบได้ไม่เกิน 33%
-
-
คลิกบันทึก คุณอาจต้องเลื่อนลงมาจึงจะเห็นตัวเลือกนี้
-
ไปยังขั้นตอนต่อไปเพื่อทำต่อ
ขั้นตอนที่ 3: ระบุการดำเนินการเมื่อเจอนิพจน์ที่ตรงกัน
-
ระบุว่าจะให้แก้ไข ปฏิเสธ หรือกักบริเวณอีเมลที่ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด โปรดอ่านรายละเอียดด้านล่าง
-
กำหนดตัวเลือกของการดำเนินการที่คุณเลือก
-
(ไม่บังคับ) คลิกแสดงตัวเลือกเพื่อกำหนดตัวเลือกอื่นๆ ที่จะจำกัดการใช้การตั้งค่านี้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อกําหนดค่าพารามิเตอร์เพิ่มเติมด้านล่าง
-
ไปที่หัวข้อบันทึกการกำหนดค่า
ปฏิเสธข้อความ
ปฏิเสธข้อความก่อนที่จะส่งถึงผู้รับ คุณป้อนข้อความเพื่อแจ้งให้ผู้ส่งทราบถึงสาเหตุที่ปฏิเสธข้อความดังกล่าวได้ ส่วนกฎการกำหนดเส้นทางหรือกฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆ จะไม่มีผลกับข้อความที่ตรงกัน
หมายเหตุ: Gmail จะเพิ่มรหัสการปฏิเสธ SMTP โดยอัตโนมัติ เช่น 550 5.7.1 ซึ่งเป็นข้อกำหนดของมาตรฐาน SMTP และจะลบไม่ได้
กักบริเวณข้อความ
ส่งข้อความไปยังเขตกักบริเวณของผู้ดูแลระบบซึ่งคุณจะตรวจสอบข้อความก่อนที่จะส่งหรือปฏิเสธได้ ตัวเลือกนี้ใช้ได้กับบัญชีประเภทผู้ใช้เท่านั้น โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อประเภทบัญชีที่ได้รับผล
หากต้องการแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าข้อความที่ตนส่งอยู่ในเขตกักบริเวณ ให้เลือกช่องแจ้งให้ผู้ส่งทราบเมื่ออีเมลถูกกักบริเวณ (การจัดส่งหลังจากนี้เท่านั้น)
แก้ไขข้อความ
เพิ่มส่วนหัว นำไฟล์แนบออก เปลี่ยนผู้รับซองจดหมาย เพิ่มผู้รับ และเปลี่ยนเส้นทาง โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อตัวเลือกสำหรับการแก้ไขข้อความ
หมายเหตุ: ขอแนะนำให้ใช้การตั้งค่าเส้นทางสำหรับกรณีการใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แนะนำ โดยใช้การตั้งค่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดของไฟล์แนบกับกรณีการใช้งานที่เกี่ยวกับไฟล์แนบ และการตั้งค่าการกำหนดเส้นทางกับกรณีการใช้งานที่เกี่ยวกับการกำหนดเส้นทางทั่วไป เช่น การจัดส่งแบบคู่ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการใช้งานและตัวอย่างการกำหนดเส้นทางอีเมล
การควบคุม
เพิ่มส่วนหัว X-Gm-Original-To
เพิ่มแท็กส่วนหัวหากมีการเปลี่ยนผู้รับ เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์ในฝั่งผู้รับทราบผู้รับเอนเวโลปเดิม ตัวอย่างรูปแบบแท็กส่วนหัว คือ X-Gm-Original-To: user@solarmora.com
เพิ่มส่วนหัว X-Gm-Spam และ X-GM-Phishy
เพิ่มส่วนหัวเพื่อระบุสถานะสแปมและฟิชชิงข้อความ ผู้ดูแลระบบของเซิร์ฟเวอร์ในฝั่งผู้รับสามารถข้อมูลนี้เพื่อตั้งกฎพิเศษในการจัดการข้อความที่เป็นสแปมและฟิชชิงได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเพิ่มการตั้งค่าส่วนหัวจดหมายขยะลงในกฎการกำหนดเส้นทางเริ่มต้นทั้งหมด
เพิ่มส่วนหัวที่กำหนดเอง
เพิ่มส่วนหัวที่กำหนดเองในข้อความที่ได้รับผลกระทบจากการตั้งค่านี้ เช่น เพิ่มส่วนหัวที่ตรงกับคำอธิบายที่ป้อนสำหรับการตั้งค่า ซึ่งจะช่วยพิจารณาหาสาเหตุที่มีการกำหนดเส้นทางของข้อความในลักษณะต่างๆ หรือสาเหตุที่กฎทริกเกอร์ได้
เพิ่มข้อความที่เขียนเองในเรื่อง
คุณสามารถเพิ่มข้อความที่กําหนดเองลงในตอนต้นของบรรทัดหัวเรื่องสําหรับข้อความที่เลือกได้ เช่น ป้อนคำว่าลับสําหรับอีเมลที่ละเอียดอ่อน หากอีเมลที่มีหัวเรื่องว่ารายงานประจำเดือน เรียกใช้กฎ ผู้รับจะเห็นหัวเรื่องอีเมลว่า [ลับ] รายงานประจำเดือน
เปลี่ยนเส้นทางและกำหนดเส้นทางใหม่ให้จดหมายขยะด้วย
-
เปลี่ยนเส้นทาง - คุณสามารถเปลี่ยนปลายทางของข้อความจากเซิร์ฟเวอร์ Gmail เริ่มต้นเป็นเซิร์ฟเวอร์อีเมลอื่น เช่น Microsoft Exchange ได้
หมายเหตุ: คุณต้องเพิ่มเส้นทางใหม่ในคอนโซลผู้ดูแลระบบก่อน จึงจะเปลี่ยนเส้นทางได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเพิ่มเส้นทางอีเมลสําหรับการจัดส่งขั้นสูงของ Gmail
-
เปลี่ยนเส้นทางสแปม - คุณจะเลือกตัวเลือกนี้ได้ในกรณีที่เลือกเปลี่ยนเส้นทางไว้ ระบบจะลบข้อความที่ทราบว่าเป็นสแปมอย่างชัดเจนทันทีที่จัดส่ง อย่างไรก็ตาม โปรดเลือกช่องเปลี่ยนเส้นทางสแปมเพื่อกำหนดเส้นทางอีเมลอื่นๆ ที่ทำเครื่องหมายว่าเป็นสแปม และให้เว้นช่องนี้ว่างไว้เพื่อกําหนดเส้นทางข้อความปกติที่ไม่ใช่สแปม การตั้งค่าอีเมลคอนโซลผู้ดูแลระบบ (เช่น รายชื่อผู้ส่งที่ได้รับอนุญาตไว้ล่วงหน้า) จะลบล้างการตั้งค่าสแปม
- ไม่แสดงการตีกลับจากผู้รับรายนี้ - เลือกช่องนี้เพื่อไม่ให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางข้อความตีกลับไปยังเส้นทางอีเมลที่กำหนดค่าไว้ เช่น คุณอาจต้องการป้องกันไม่ให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางข้อความตีกลับไปยังระบบอัตโนมัติ แต่ให้เว้นช่องนี้ว่างไว้หากคุณต้องการให้ระบบอีเมลขาเข้ารับข้อความตีกลับ (เช่น เพื่อแจ้งให้ผู้ส่งทราบเมื่อไม่สามารถส่งข้อความได้)
เปลี่ยนผู้รับเอนเวโลป
ข้อความจะข้ามกล่องจดหมายของผู้รับเดิมและส่งไปที่ผู้รับใหม่
คุณเปลี่ยนผู้รับซองจดหมายได้โดยใช้วิธีต่อไปนี้
- เปลี่ยนอีเมลทั้งหมดของผู้รับ - หลังจากเปลี่ยนผู้รับแล้ว ให้ป้อนอีเมลแบบเต็ม เช่น user@solarmora.com
- เปลี่ยนชื่อผู้ใช้ - หากต้องการเปลี่ยนเฉพาะชื่อผู้ใช้ของอีเมลผู้รับและคงโดเมนเดิมไว้ ให้ป้อนชื่อผู้ใช้ เช่น user ไว้ข้างหน้า @existing-domain
- เปลี่ยนโดเมน - หากต้องการเปลี่ยนเฉพาะโดเมนของอีเมลและคงชื่อผู้ใช้เดิมไว้ ให้ป้อนโดเมน เช่น solarmora.com ต่อจาก existing-username@
การค้นหา MX ในโดเมนของผู้รับใหม่จะเป็นตัวกำหนดเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง หรือหากคุณใช้การควบคุมเปลี่ยนเส้นทาง เส้นทางที่ระบุจะเป็นตัวกำหนดเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง
หากต้องการใส่ผู้รับอีกรายในสำเนาลับ ให้ใช้ตัวเลือกเพิ่มผู้รับตามที่ระบุไว้ด้านล่าง
ข้ามตัวกรองจดหมายขยะสำหรับข้อความนี้
ส่งข้อความขาเข้าถึงผู้รับแม้ว่าตัวกรองสแปมจะระบุว่าเป็นสแปมก็ตาม ตัวเลือกนี้ใช้ได้กับข้อความขาเข้าเท่านั้น คุณจะข้ามตัวกรองสแปมสำหรับข้อความขาออกไม่ได้ หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้กับบัญชีประเภทกลุ่มไม่ได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อประเภทบัญชีที่จะมีผล
นำไฟล์แนบออกจากข้อความ
คุณนำไฟล์แนบออกจากข้อความได้ นอกจากนี้คุณยังเพิ่มข้อความเพื่อแจ้งให้ผู้รับทราบว่าคุณได้นำไฟล์แนบออกได้อีกด้วย
เพิ่มผู้รับรายอื่น
- หากต้องการตั้งค่าการจัดส่งแบบคู่หรือหลายรายการ ให้เลือกช่องเพิ่มผู้รับคลิกเพิ่ม
- หากต้องการเพิ่มอีเมลทีละรายการ ให้เลือกพื้นฐานจากรายการคลิกบันทึก
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มอีเมลอีก ให้คลิกเพิ่ม
- (ไม่บังคับ) หากต้องการเลือกตัวเลือกขั้นสูงสำหรับการจัดส่งสำรอง ให้เลือกขั้นสูงจากรายการ
โดยคุณจะเปลี่ยนผู้รับเอนเวโลป เพิ่มส่วนหัว เพิ่มเรื่องที่กำหนดเองไว้ด้านหน้า และนำไฟล์แนบออกจากการจัดส่งสำรองได้ หมายเหตุ: ตัวเลือกขั้นสูงไม่ส่งสแปมไปยังผู้รับรายนี้ ไม่รองรับในประเภทบัญชีแบบกลุ่ม
เมื่อเพิ่มผู้รับ ให้พิจารณาดังนี้
- กฎแต่ละรายการมีผู้รับเพิ่มได้ไม่เกิน 100 ราย
- การตั้งค่าสำหรับการจัดส่งหลักจะมีผลกับการจัดส่งสำรองด้วย
- ระบบจะเลือกช่องไม่ส่งสแปมไปยังผู้รับรายนี้และไม่แสดงการตีกลับจากผู้รับรายนี้ไว้โดยค่าเริ่มต้นสำหรับการจัดส่งสำรอง
- การเพิ่มผู้รับจะสร้างข้อความสำหรับผู้รับที่เพิ่มแต่ละราย การตั้งค่า Gmail ขั้นสูงจะมีผลกับข้อความแต่ละรายการ
การเข้ารหัส (เมื่อส่งเท่านั้น)
โดยค่าเริ่มต้น Gmail จะจัดส่งข้อความโดยใช้ Transport Layer Security (TLS) แต่หากส่งแบบนี้ไม่ได้ ข้อความนั้นจะส่งผ่านการเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัย
หากต้องการส่งข้อความทั้งหมดที่ตรงตามเงื่อนไขในการตั้งค่าผ่านการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ให้เลือกช่องต้องใช้การส่งที่ปลอดภัย (TLS) ระบบจะไม่ส่งข้อความ หาก TLS ใช้งานไม่ได้ในฝั่งที่ส่งหรือรับ
หากคุณมีบัญชี G Suite Enterprise หรือ Enterprise for Education คุณจะตีกลับข้อความหรือกำหนดให้ส่งข้อความเฉพาะเมื่อมีการเข้ารหัส S/MIME เท่านั้นได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อยกระดับความปลอดภัยของข้อความด้วย S/MIME แบบโฮสต์
รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ ได้แก่ Enterprise Plus; Education Fundamentals, Education Standard, Teaching and Learning Upgrade และ Education Plus เปรียบเทียบรุ่นของคุณ
เคล็ดลับ: ขอแนะนำให้ทดสอบกฎใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานกับองค์กรได้อย่างถูกต้อง โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทดสอบกฎที่รวดเร็วขึ้น
กำหนดค่าพารามิเตอร์เพิ่มเติม (ไม่บังคับ)
หากต้องการตั้งค่าตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับนโยบายการกำหนดเส้นทาง เช่น การสร้างรายการที่อยู่หรือเลือกประเภทบัญชีที่จะมีผล ให้คลิกแสดงตัวเลือกที่ด้านล่าง
รายการอีเมลคือรายการอีเมลและโดเมนที่คุณสร้าง ใช้รายการอีเมลเพื่อใช้หรือข้ามการตั้งค่าสําหรับอีเมลและโดเมนในรายการ อ่านข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับรายการอีเมล และวิธีใช้รายการอีเมลกับการตั้งค่า Gmail
Gmail จะตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้สำหรับการจับคู่รายการอีเมล
- ข้อความขาเข้า - โดเมนหรืออีเมลของผู้ส่งในรายการอีเมล
- ข้อความขาออก -โดเมนหรืออีเมลของผู้รับในรายการอีเมล
วิธีการใช้รายการอีเมลในการตั้งค่านี้
- คลิกแสดงตัวเลือก
- เลือกช่องใช้รายการอีเมลเพื่อข้ามหรือควบคุมการใช้การตั้งค่านี้
- (การตั้งค่าการกําหนดเส้นทางเท่านั้น) เลือกตัวเลือกใช้รายการอีเมลกับผู้ติดต่อสําหรับการจับคู่รายการอีเมลดังนี้
- ใช้รายการอีเมลกับผู้ติดต่อ - เลือกช่อง "จาก" สําหรับอีเมลที่ได้รับ และผู้รับสําหรับอีเมลที่ส่งแล้ว สําหรับผู้ส่ง ให้เลือกตัวเลือกต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ด้วย (ดูรายละเอียดในขั้นตอนที่ 8)
- ใช้รายการอีเมลกับผู้รับ - ตรวจสอบว่าผู้รับอยู่ในรายการอีเมล
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้จะใช้ไม่ได้ในการตั้งค่าการปฏิบัติตามข้อกําหนดของเนื้อหาของ Gmail
- เลือกตัวเลือกสําหรับการข้ามหรือใช้การตั้งค่านี้
- ข้ามการตั้งค่านี้สําหรับอีเมล/โดเมนที่ระบุ - ข้ามการตั้งค่านี้ทั้งหมดหากรายการอีเมลตรงกัน ระบบจะไม่สนใจเกณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดในการตั้งค่านี้
- ใช้การตั้งค่านี้สําหรับอีเมล/โดเมนที่ระบุเท่านั้น - ใช้การจับคู่รายการอีเมลเป็นเงื่อนไขในการใช้การตั้งค่า หากการตั้งค่ามีเกณฑ์อื่นๆ เงื่อนไขเหล่านั้นจะต้องตรงกับการตั้งค่าด้วย ตัวอย่างเกณฑ์อื่นๆ ได้แก่ นิพจน์การจับคู่ ประเภทบัญชี และตัวกรองเอนเวโลป
- คลิกตัวเลือกรายการอีเมลดังนี้
- ใช้รายการที่มีอยู่ - เลือกชื่อของรายการอีเมลที่มีอยู่ แล้วไปที่ขั้นตอนที่ 9
- สร้างหรือแก้ไขรายการ ช่องเพิ่มรายการอีเมลหรือแท็บจัดการรายการอีเมลจะเปิดขึ้น ทําตามขั้นตอนที่ 6-9
- ในช่องเพิ่มรายการอีเมล ให้ป้อนชื่อของรายชื่ออีเมลใหม่
-
หากต้องการป้อนอีเมลหรือโดเมนในรายการทีละรายการ ให้คลิกเพิ่มอีเมล หากต้องการป้อนรายการอีเมลหรือโดเมนที่คั่นด้วยคอมมา ให้คลิกเพิ่มอีเมลพร้อมกันหลายรายการ
-
หากต้องการข้ามการตั้งค่าสําหรับผู้ส่งที่ได้รับอนุมัติที่ไม่ได้ใช้การตรวจสอบสิทธิ์ ให้ปิดตัวเลือกต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ โปรดทราบว่าการปิดข้อกําหนดการตรวจสอบสิทธิ์จะเสี่ยงต่อการได้รับข้อความสแปมหรือการปลอมแปลงมากขึ้น โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ส่ง
-
คลิกบันทึก
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ไปที่ประเภทบัญชีที่ได้รับผล
ประเภทบัญชีที่ได้รับผล (ต้องกำหนด)
บัญชีบางประเภทอาจใช้งานไม่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการกับข้อความที่เลือกและหน่วยขององค์กรที่กำหนดค่า
เลือกประเภทบัญชีที่จะนำการตั้งค่านี้ไปใช้อย่างน้อย 1 ประเภทดังนี้
- ผู้ใช้ (ค่าเริ่มต้น) - การตั้งค่าจะมีผลกับผู้ใช้ G Suite ที่จัดสรรไว้ สำหรับการส่งและอีเมลขาออก การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ส่งอีเมล สำหรับการรับและอีเมลขาเข้า การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ได้รับอีเมล
- กลุ่ม - การตั้งค่าจะมีผลกับกลุ่มที่ตั้งค่าไว้ในองค์กร สำหรับการส่งอีเมลและอีเมลขาออก การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อกลุ่มส่งต่ออีเมลหรือสรุปไปยังสมาชิก สำหรับการรับและอีเมลขาเข้า การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อกลุ่มได้รับอีเมล
- ไม่รู้จัก/รับทั้งหมด - การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อองค์กรได้รับอีเมลที่ไม่ตรงกับผู้ใช้ G Suite ที่จัดสรรไว้ โดยจะใช้ได้กับอีเมลที่ได้รับและอีเมลขาเข้าเท่านั้น
หมายเหตุ: บัญชีประเภทกลุ่มและประเภทไม่รู้จัก/รับทั้งหมดจะไม่มีผลกับการควบคุมต่อไปนี้
- เพิ่มส่วนหัว X-Gm-Spam และ X-Gm-Phishy
- ข้ามตัวกรองสแปมสำหรับข้อความนี้
- เปลี่ยนเส้นทางสแปมด้วย
เมื่อเสร็จแล้ว ให้ไปที่เพิ่มและบันทึกการตั้งค่า
ตัวกรองเอนเวโลป
หากต้องการให้กฎมีผลเฉพาะกับผู้ส่งและผู้รับเอนเวโลปบางราย ให้ตั้งค่าตัวกรองเอนเวโลป
- คลิกแสดงตัวเลือกที่ด้านล่างของหน้าต่างเพิ่มการตั้งค่า
- เลือกตัวเลือกข้อใดข้อหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้อต่อไปนี้
- มีผลเฉพาะกับผู้ส่งเอนเวโลปที่ระบุ
- มีผลเฉพาะกับผู้รับเอนเวโลปที่ระบุ
- จากรายการ ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- อีเมลเดียว - ป้อนอีเมลที่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้
- ตรงกับรูปแบบ - ป้อนนิพจน์ทั่วไปเพื่อระบุกลุ่มผู้ส่งหรือผู้รับในโดเมนของคุณ เช่น
^(?i)(user1@solarmora\.com|user2@solarmora\.com|user3@solarmora\.com)$
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์สำหรับการใช้นิพจน์ทั่วไป
- การเป็นสมาชิกกลุ่ม - เลือกกลุ่มอย่างน้อย 1 กลุ่มจากรายการ ตัวเลือกนี้จะใช้กับอีเมลที่ส่งแล้วเท่านั้นสำหรับผู้ส่งซอง และใช้กับอีเมลที่ได้รับเท่านั้นสำหรับผู้รับซองจดหมาย หากยังไม่มีกลุ่ม ให้สร้างกลุ่มก่อน
หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้จะมีผลกับสมาชิกกลุ่มและสมาชิกของกลุ่มย่อย เช่น หากกลุ่ม B เป็นสมาชิกของกลุ่ม A ตัวเลือกนี้จะมีผลกับสมาชิกของทั้งกลุ่ม A และกลุ่ม B
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว ให้ไปที่หัวข้อบันทึกการกำหนดค่า
บันทึกการกำหนดค่า
ขั้นตอนสุดท้าย: เพิ่มและบันทึกการตั้งค่า
- คลิกเพิ่มการตั้งค่าหรือบันทึก
การตั้งค่าใหม่จะเปิดขึ้นในหน้าการตั้งค่าการปฏิบัติตามข้อกำหนด
- คลิกบันทึกด้านล่าง
ประเภทไฟล์แบบทั่วไปและแบบกำหนดเองที่นิพจน์รองรับ
ตารางด้านล่างนี้จะกำหนดประเภทไฟล์แบบทั่วไปและแบบกำหนดเองที่คุณใช้ในนิพจน์การปฏิบัติตามข้อกำหนดของไฟล์แนบได้ เพื่อความปลอดภัย ระบบจะปฏิเสธไฟล์ที่จัดอยู่ในประเภทไฟล์ปฏิบัติการโดยอัตโนมัติ โปรดเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทไฟล์ที่ถูกบล็อก
- ประเภทไฟล์ทั่วไป โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะจับคู่ประเภทไฟล์ทั่วไปทั้งหมดตามรูปแบบไฟล์และชื่อไฟล์เพื่อระบุประเภทของเนื้อหาและส่วนขยายของไฟล์แนบ เช่น image/photo.jpg หรือ document/letter.doc
- ประเภทไฟล์แบบกำหนดเอง โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะจับคู่ประเภทไฟล์แบบกำหนดเองตามชื่อไฟล์เท่านั้น เช่น photo.jpg หรือ letter.doc หากต้องการจับคู่ประเภทไฟล์แบบกำหนดเองกับรูปแบบไฟล์ด้วย ให้เลือกช่องจับคู่ไฟล์ตามรูปแบบไฟล์ด้วย
หมายเหตุ: โดยทั่วไปแล้วรูปแบบส่วนใหญ่จะได้รับการแปลงเป็น text หรือ html (รวมถึงรูปแบบที่ไม่รู้จัก) ระบบจึงจะจับคู่เนื้อหากับข้อมูลผลลัพธ์ที่เป็นมาตรฐาน
Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง