รายงานสถานะ AMP

รายงานนี้ช่วยคุณแก้ไขข้อผิดพลาดที่ทำให้หน้า AMP ไม่ปรากฏในผลการค้นหาของ Google Search พร้อมด้วยฟีเจอร์เฉพาะของ AMP

มุมมองระดับบนสุดจะแสดงปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อหน้า AMP ในเว็บไซต์ คลิกปัญหาที่ต้องการเพื่อดูหน้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้และรายละเอียดของปัญหา

เปิดรายงาน AMP

 

รายงานสถานะ AMP ใน Search Console - การฝึกอบรม Google Search Console

 

รายงานนี้มีข้อมูลอะไรบ้าง

ปัญหาร้ายแรง: หน้าที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา AMP ที่ร้ายแรงจะแสดงใน Google ไม่ได้ รายการปัญหาร้ายแรงที่พบในเว็บไซต์จะปรากฏใต้แผนภูมิในหน้าระดับบนสุดของรายงาน AMP โดยมีชื่อว่าเหตุใดหน้า AMP จึงไม่ถูกต้อง คลิกปัญหาในรายการเพื่อดูหน้าที่มีปัญหาที่เลือกไว้

ปัญหาที่ไม่ร้ายแรง (คำเตือน): หน้า AMP ที่มีปัญหาที่ไม่ร้ายแรงจะยังคงแสดงใน Google ต่อไปได้หากไม่มีปัญหาร้ายแรงใดๆ เลย รายการปัญหาที่ไม่ร้ายแรงซึ่งพบในเว็บไซต์จะแสดงใต้รายการปัญหาร้ายแรงในหน้าระดับบนสุดของรายงาน AMP โดยใช้ชื่อว่าปัญหาที่ไม่ร้ายแรง คลิกปัญหาในรายการเพื่อดูหน้าที่มีปัญหาที่เลือกไว้ หน้า AMP ที่มีคำเตือนอาจไม่แสดงขึ้นโดยใช้ฟีเจอร์ AMP ทั้งหมดที่เป็นไปได้ (เช่น การแสดงในภาพสไลด์เรื่องเด่น) กล่าวอีกอย่างคือ หน้าเว็บเหล่านี้อาจแสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นลิงก์สีน้ำเงินธรรมดาเท่านั้น

สถานะหน้า (หน้าที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง): หน้า AMP อาจเป็นหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ได้ หน้า AMP ที่ถูกต้องจะแสดงใน Google ได้ ส่วนหน้า AMP ที่ไม่ถูกต้องจะแสดงใน Google ไม่ได้ หากหน้าใดมีปัญหาร้ายแรง ระบบจะถือว่าหน้านั้นไม่ถูกต้อง แต่ถ้ามีแค่คำเตือนหรือไม่มีปัญหาใดๆ เลย ระบบจะถือว่าหน้านั้นถูกต้อง คุณดูรายการหน้า AMP ที่ถูกต้องได้โดยคลิกดูข้อมูลเกี่ยวกับหน้า AMP ที่ถูกต้องใต้แผนภูมิในหน้าระดับบนสุดของรายงาน AMP

สิ่งที่ควรตรวจสอบ

คุณควรมุ่งดูที่ตัวเลขต่อไปนี้ในรายงาน

รายการ URL ที่ได้รับผลกระทบเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รับประกันว่าจะมีการแสดง URL ทุกรายการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานั้นๆ โดยรายงานจะมี URL จำนวนไม่เกิน 1,000 รายการต่อปัญหา นอกจากนี้ อาจมีหน้าเว็บอื่นที่เราตรวจหาไม่พบหรือไม่ได้นับรวมไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง

รายงานจะแสดงปัญหาที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรงรวมกันได้ไม่เกิน 200 รายการ หากเว็บไซต์มีปัญหาจำนวนมาก (ไม่ว่าจะมีอินสแตนซ์ที่ยังไม่ได้แก้ไขอยู่หรือไม่) ระบบจะแสดงเฉพาะปัญหา 200 รายการแรกตามลำดับความสำคัญ

ปัญหาเกี่ยวกับ AMP

นอกเหนือจากข้อผิดพลาดเฉพาะของ AMP แบบมาตรฐานแล้ว รายงานนี้ยังแสดงปัญหาต่อไปนี้เพิ่มเติมด้วย (ข้อผิดพลาดและคำเตือน)

ปัญหา AMP ของ Google โดยเฉพาะ
ปัญหา คำอธิบาย
เนื้อหาไม่ตรงกัน: ไม่มีวิดีโอแบบฝัง หน้าเว็บมาตรฐานมีวิดีโอแบบฝังที่ไม่มีอยู่ในเวอร์ชัน AMP ซึ่งโดยปกติแล้ว ควรใส่ทรัพยากรเนื้อหาที่สำคัญทั้งหมดในหน้าเว็บมาตรฐานไว้ในเวอร์ชัน AMP ด้วย โปรดทราบว่า URL จะตรวจหาวิดีโอดังกล่าว หากคุณมี URL ที่ต่างกัน 2 รายการนำไปยังวิดีโอเดียวกัน คุณจะเห็นคำเตือนนี้
รูปภาพมีขนาดเล็กกว่าที่แนะนำ Structured Data ใน AMP นั้นอ้างอิงถึงรูปภาพที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดที่แนะนำ ซึ่งอาจทำให้หน้าไม่ปรากฏขึ้นพร้อมกับฟีเจอร์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ AMP ใน Google Search และอาจทำให้การ์ด Discover ไม่ปรากฏพร้อมกับรูปภาพขนาดใหญ่ด้วย (ซึ่งทำให้การเข้าชมเว็บไซต์และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ลดลง) โปรดใช้รูปภาพขนาดใหญ่ขึ้นตามหลักเกณฑ์ของเราเพื่อแก้ไขปัญหานี้
โดเมนของหน้า AMP ไม่ตรงกัน หน้า AMP โฮสต์อยู่ในโดเมนอื่นนอกเหนือจากเวอร์ชันตามรูปแบบบัญญัติ ซึ่งอาจสร้างความสับสนแก่ผู้ที่ค้นหาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่อาจเห็นโดเมน URL หนึ่งในผลการค้นหา และอาจเห็น URL อื่นเมื่อเปิดหน้าในโปรแกรมอ่าน AMP (ไม่มีผลกับการจัดทำดัชนีหรือจัดอันดับหน้า)
ไม่พบ URL (404) ไม่พบ URL ของ AMP ที่ขอ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขหน้าข้อผิดพลาด 404
ข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์ (5XX) เกิดข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ 5XX ที่ไม่ระบุเมื่อขอหน้า AMP ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของเซิร์ฟเวอร์
ถูกบล็อกโดย robots.txt URL ของ AMP ที่ขอถูกบล็อกโดยกฎ robots.txt หากไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ ให้ทดสอบไฟล์ robots.txt สําหรับกฎการบล็อก แล้วแก้ไขหรือนํากฎออก (หรือขอให้นักพัฒนาเว็บดําเนินการดังกล่าวให้คุณ)
ปัญหาการรวบรวมข้อมูล ข้อผิดพลาดที่ไม่ระบุโดยพบเมื่อเข้ารวบรวมข้อมูลหน้า AMP ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL กับ URL ของ AMP เพื่อแก้ปัญหา 
URL ของ AMP ที่อ้างถึงไม่ใช่ AMP หน้า Canonical อ้างถึง AMP ที่ไม่ใช่หน้า AMP ดูวิธีที่หน้าที่ไม่ใช่ AMP ควรอ้างถึงหน้า AMP
URL ของ AMP ที่อ้างถึงคือ AMP ของหน้า Canonical ในตัว หน้า Canonical ชี้ไปที่ AMP ที่แสดงแบบเดี่ยวๆ คุณอ้างถึง AMP ที่แสดงแบบเดี่ยวๆ เป็นเวอร์ชัน AMP ของหน้าไม่ได้ ดูวิธีอ้างถึง AMP จากหน้าที่ไม่ใช่ AMP
URL มีเครื่องหมายว่า "noindex" AMP ถูกบล็อกโดยคำสั่ง "noindex" Google จัดทำดัชนีหน้าที่ถูกบล็อกโดย noindex ไม่ได้ ให้นำคำสั่ง noindex หรือการอ้างถึงหน้าที่ถูกบล็อกออก
วันที่ "unavailable_after" ของหน้านี้หมดอายุแล้ว หน้า AMP มีเมตาแท็กหรือคำสั่ง "unavailable_after" ที่ผ่านไปแล้ว ซึ่งบ่งบอกว่าหน้านั้นไม่ควรแสดงอีกต่อไป คุณควรอัปเดตแท็กเป็นวันที่ในอนาคตหรือนำแท็กออก
หน้า Canonical ชี้ไปยัง URL ที่ไม่ถูกต้อง หน้า Canonical อ้างถึงเวอร์ชัน AMP โดยใช้ URL ที่จัดรูปแบบไม่ถูกต้อง ดูวิธีอ้างถึงเวอร์ชัน AMP อย่างถูกต้อง
ข้อผิดพลาดในหน้า Canonical ของเรื่องราว AMP

หน้าอ้างถึงหน้าเรื่องราว AMP เป็นเวอร์ชัน AMP ไม่ถูกต้อง เราไม่อนุญาตให้อ้างถึงเช่นนี้เนื่องจากตามคำจำกัดความแล้ว หน้าเรื่องราว AMP เป็นหน้า Canonical ในตัว ซึ่งต้องชี้ไปที่ตัวเองโดยใช้แท็ก <rel="canonical"> และแสดงเป็นเวอร์ชัน AMP ของหน้าอื่นไม่ได้

ประกาศสคริปต์โมดูลโดยไม่มีทางเลือก nomodule (หรือแบบย้อนกลับ) คุณใช้แท็ก <script type="module"> โดยไม่มีแท็ก <script nomodule async> ที่ตรงกันหรือแบบย้อนกลับ ต้องมีการใช้แท็กเหล่านี้ในการจับคู่เพื่อให้เบราว์เซอร์ที่มีหรือไม่มีการรองรับสคริปต์โมดูลจัดการได้อย่างถูกต้อง
ไม่มี URL ในแท็ก HTML แท็ก HTML ที่ระบุไว้ต้องมีแอตทริบิวต์พร้อม URL ที่ถูกต้องและมีความยาวไม่เป็น 0 แต่ URL ที่ให้มาเป็นสตริงว่าง โปรดระบุ URL ที่ถูกต้องสำหรับแอตทริบิวต์ที่ไฮไลต์ไว้
แอตทริบิวต์ไม่มีหรือไม่ถูกต้อง แต่แอตทริบิวต์ "on" ต้องใช้แอตทริบิวต์นี้ แอตทริบิวต์ที่ระบุไว้ต้องมี แต่ตอนนี้ไม่มีหรือไม่ถูกต้อง ต้องมีแอตทริบิวต์นี้เนื่องจากคุณระบุแอตทริบิวต์ "on" ในแท็กเดียวกัน
พบแท็กย่อย <svg> นอกบล็อก <svg> คุณระบุแท็กนอกบล็อก <svg> ที่ต้องฝังอยู่ในบล็อก <svg>
หน้ากำลังโหลดสคริปต์ส่วนขยายเดียวกันในหลายเวอร์ชัน หน้ากําลังโหลดส่วนขยาย AMP เดียวกันในหลายเวอร์ชัน โปรดแก้ไขโดยนำสคริปต์ออก 1 เวอร์ชัน
ปัญหาเกี่ยวกับ Signed Exchange

ทั้งรายงานสถานะ AMP และรายงานการตรวจสอบ URL อาจแสดงปัญหาของ AMP ที่ใช้โปรโตคอล Signed Exchange

วิธีดูรายละเอียดของ Signed Exchange เกี่ยวกับปัญหาหนึ่งๆ

คุณจะดูข้อมูลเกี่ยวกับ Signed Exchange ที่เชื่อมโยงกับ AMP ได้ในหลายที่ ได้แก่

  • ในเครื่องมือตรวจสอบ URL ให้คลิกปัญหาใต้รายละเอียดของเวอร์ชัน AMP
  • ในรายงานสถานะ AMP ให้คลิก URL ในตารางรายละเอียดปัญหา

วิธีดูว่า AMP ใช้ Signed Exchange หรือไม่

หากต้องการดูว่า Google ตรวจพบส่วนหัวหรือเพย์โหลดของ Signed Exchange สำหรับ AMP บ้างหรือไม่ ให้ทำดังนี้

  1. ตรวจสอบ URL ของ AMP (ให้ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อตรวจสอบ URL ที่เฉพาะเจาะจง หรือในรายงานสถานะ AMP ให้คลิกไอคอนตรวจสอบ ข้าง URL ในตารางรายละเอียดปัญหา)
  2. คลิกดูหน้าเว็บที่มีการ Crawl หน้าผลลัพธ์เพื่อเปิดแผงด้านข้างซึ่งมีข้อมูลเพิ่มเติม
  3. คลิกแท็บข้อมูลเพิ่มเติม
  4. ใต้ป้ายกำกับ Signed Exchange คุณจะเห็นสถานะที่ระบุว่า Google ตรวจพบคอมโพเนนต์ Signed Exchange สำหรับ AMP นั้นบ้างหรือไม่

รายการปัญหา Signed Exchange

ปัญหาต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อ AMP ใช้โปรโตคอล Signed Exchange

Signed Exchange ไม่ถูกต้อง

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดของเซิร์ฟเวอร์แคช AMP ของ Google ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

ข้อผิดพลาดนี้อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ รวมถึงสิ่งต่อไปนี้

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ให้ทำดังนี้

เพย์โหลด Signed Exchange มีข้อผิดพลาดในการแยกวิเคราะห์

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ "เพย์โหลด" (เนื้อหา) ไม่ตรงตามข้อกำหนดของเซิร์ฟเวอร์แคช AMP ของ Google ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อค้นหาและแก้ไขข้อผิดพลาด

  • ตรวจสอบว่า HTML ไม่มีการเข้ารหัส UTF-8 ที่ไม่ถูกต้อง สำหรับ $URL ที่มีข้อผิดพลาด ให้เรียกใช้ curl $URL | iconv -f UTF-8 -t UTF-8 >/dev/null และตรวจหาข้อความแสดงข้อผิดพลาด เช่น "ลำดับการป้อนข้อมูลผิดกฎ" หากพบ โปรดตรวจดูว่าเอกสารมีการเข้ารหัส UTF-8 อย่างถูกต้อง อักขระแบบหลายไบต์มักจะพบใน 2 ที่ ได้แก่ ข้อความที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษและเว้นวรรค
  • ตรวจสอบว่า HTML ไม่มีค่า U+0000 NULL หรืออักขระ Unicode ที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการแยกวิเคราะห์ HTML
  • ตรวจสอบว่า HTML ไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากเรียกใช้ transform -config NONE การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมักเกิดจากสาเหตุ 2 ประการดังนี้

ส่วนหัว "header_name" สำหรับเพย์โหลด Signed Exchange มีค่าที่ไม่ถูกต้อง

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่มีส่วนหัวการตอบกลับที่ผ่านการรับรองและไม่ตรงตามข้อกำหนดเซิร์ฟเวอร์แคช AMP ของ Google ข้อใดข้อหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ให้ทำดังนี้

ส่วนหัวที่จำเป็น "header_name" สำหรับเพย์โหลด Signed Exchange ขาดหายไป

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ขาดส่วนหัวที่ระบุ ซึ่งจำเป็นต้องมีตามข้อกำหนดเฉพาะ Signed Exchange หรือข้อกำหนดเซิร์ฟเวอร์แคช AMP ของ Google ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ให้ทำดังนี้

แยกวิเคราะห์ส่วนหัวลายเซ็นของ Signed Exchange ไม่ได้

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่มีส่วนหัวลายเซ็นที่มีรูปแบบไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดเฉพาะ Signed Exchange ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ให้ทำดังนี้

พารามิเตอร์ "parameter_name" ในส่วนหัวลายเซ็นของ Signed Exchange ไม่ถูกต้อง

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ส่วนหัวลายเซ็นมีค่าที่ไม่ถูกต้องสำหรับพารามิเตอร์ที่ระบุไว้ ซึ่งจำเป็นต้องมีตามข้อกำหนดเฉพาะ Signed Exchange ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ให้ทำดังนี้

วันที่ของ Signed Exchange ไม่ถูกต้อง

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ส่วนหัวลายเซ็นมีค่าที่ไม่ถูกต้องสำหรับพารามิเตอร์ date หรือ expires ซึ่งจำเป็นต้องมีตามข้อกำหนดเฉพาะ Signed Exchange หรือข้อกำหนดเซิร์ฟเวอร์แคช AMP ของ Google (กล่าวอย่างเจาะจงคือ ลายเซ็นจะต้องถูกต้อง ณ เวลาที่ดึงลายเซ็นนั้น และถูกต้องต่อไปอย่างน้อย 4 วัน) ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่

  • ตรวจสอบว่าพร็อกซีแบบย้อนกลับส่วนหน้าไม่ได้แคชการตอบกลับของ Signed Exchange นานเกินไป ส่งคำขอหลายคำขอสำหรับหน้าที่มี curl -H 'Accept: application/signed-exchange;v=b3' -H 'AMP-Cache-Transform: any' และค้นหา "date=" ในการตอบกลับแต่ละรายการ ตรวจสอบว่าหมายเลขที่ตามมานั้นแตกต่างกันทุกครั้ง
  • ตรวจสอบว่าคุณใช้ AMP Packager รุ่นล่าสุดอยู่
  • หากตัดสาเหตุข้างต้นออกไปได้ทั้งหมด แสดงว่าอาจมีข้อบกพร่องใน AMP Packager โปรดรายงานข้อบกพร่อง

แยกวิเคราะห์เชนใบรับรองที่อ้างอิงโดย "cert-url" ของ Signed Exchange ไม่ได้

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ cert-url มีรูปแบบที่ไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดเฉพาะ Signed Exchange ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ให้ทำดังนี้

ใช้เชนใบรับรองที่อ้างอิงโดย "cert-url" กับ Signed Exchange ไม่ได้

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ cert-url ไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดเฉพาะ Signed Exchange ด้วยเหตุนี้ หน้าจะแสดงต่อผู้ใช้โดยไม่มีข้อมูลใดๆ จากลายเซ็น

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หน้านี้จะแสดงในโปรแกรมเปิด AMP โดยใช้ URL ของ Google แทนที่จะใช้ URL เดิมของหน้า

ขั้นตอนถัดไป

ข้อผิดพลาดนี้จะแก้ไขหรือไม่ก็ได้ หน้าที่มีข้อผิดพลาดนี้จะยังคงแสดงอย่างถูกต้องในโปรแกรมเปิด AMP หากต้องการให้หน้านี้แสดงด้วย URL ที่มีการรับรองของหน้า ให้อ่านต่อไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ข้อผิดพลาดนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ สิ่งที่ควรตรวจสอบมีดังนี้

  • ตรวจสอบว่า CertFile ไม่มีรายการใบรับรอง Leaf ที่ครบถ้วนสมบูรณ์พร้อมทั้งสื่อกลาง
  • ตรวจสอบว่า AMP Packager ไม่ได้เปิดขึ้นพร้อมด้วยแฟล็ก -development หรือ -invalidcert ในโหมดการใช้งานจริง AMP Packager จะยืนยันใบรับรองในหลายๆ แง่มุม
  • ตรวจสอบว่าพร็อกซีแบบย้อนกลับส่วนหน้าไม่ได้แคช URL /amppkg/cert/ เป็นเวลานานกว่าที่ตั้งค่าไว้ใน max-age
  • ตรวจสอบว่าพร็อกซีแบบย้อนกลับส่วนหน้าไม่ได้แก้ไขส่วนหัวของแคช ซึ่งอาจทำให้พร็อกซีอัปสตรีมแคชเชนใบรับรองเหล่านี้เป็นเวลานานเกินไป หากต้องการทดสอบ ให้ระบุ URL /amppkg/cert/ ในโดเมน Packager ภายในของคุณ ดึง URL ดังกล่าวโดยรวมส่วนหัวการตอบกลับ (เช่น ด้วยการใช้ curl -i) และเปรียบเทียบส่วนหัวการตอบกลับกับส่วนหัวที่เซิร์ฟเวอร์ส่วนหน้าส่งกลับมา
  • ตรวจสอบว่าใบรับรองมี SCT เช่น ด้วยการใช้เครื่องมือ openssl x509 หากไม่มี โปรดสอบถามผู้ออกใบรับรอง
  • ตรวจสอบว่าคุณใช้ AMP Packager รุ่นล่าสุดอยู่
  • หากตัดสาเหตุข้างต้นออกไปได้ทั้งหมด แสดงว่าอาจมีข้อบกพร่องใน AMP Packager โปรดรายงานข้อบกพร่อง

แยกวิเคราะห์ Signed Exchange ไม่ได้

การตอบกลับ HTTP มี content-type เป็น application/signed-exchange;v=b3 แต่แยกเนื้อหาการตอบกลับออกมาไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่เป็นไปตามข้อกำหนดโดยรวมของประเภทนั้นๆ หรือเพย์โหลดมีการเข้ารหัสแบบ Merkle อย่างไม่ถูกต้อง

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หากหน้าดังกล่าวมีหน้าที่ตรงกันที่ไม่ใช่ AMP แล้ว Google Search จะจัดทำดัชนีหน้านั้นแทน มิเช่นนั้น หน้านั้นอาจไม่ปรากฏใน Google Search เลย

ขั้นตอนถัดไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่

  • ตรวจสอบว่าพร็อกซีแบบย้อนกลับส่วนหน้าไม่ได้แก้ไขการตอบกลับจาก Packager สำหรับ URL ที่มีข้อผิดพลาด ให้ระบุ corresponding /priv/doc URL ในโดเมน Packager ภายในและทดสอบโดยใช้ dump-signedexchange ถ้าการตอบกลับ Packager ภายในเป็น Signed Exchange ที่ถูกต้อง แต่การตอบกลับส่วนหน้าภายนอกไม่ถูกต้อง แสดงว่าน่าจะมีข้อผิดพลาดของการกำหนดค่าในส่วนหน้า
  • ตรวจสอบว่าคุณใช้ AMP Packager รุ่นล่าสุดอยู่
  • หากตัดสาเหตุข้างต้นออกไปได้ทั้งหมด แสดงว่าอาจมีข้อบกพร่องใน AMP Packager โปรดรายงานข้อบกพร่อง

URL สำหรับเพย์โหลดภายในไม่ตรงกับ URL คำขอสำหรับ Signed Exchange

การตอบกลับ HTTP เป็น Signed Exchange ที่ fallbackUrl ไม่ตรงกับ URL คำขอ โดยจะต้องตรงกันแบบไบต์ต่อไบต์ ด้วยเหตุนี้ Google Search จะไม่เชื่อถือว่าการตอบกลับนั้นเป็นตัวแทนของ URL คำขอ

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หากหน้าดังกล่าวมีหน้าที่ตรงกันที่ไม่ใช่ AMP แล้ว Google Search จะจัดทำดัชนีหน้านั้นแทน มิเช่นนั้น หน้านั้นอาจไม่ปรากฏใน Google Search เลย

ขั้นตอนถัดไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นที่เป็นไปได้อาจรวมถึงการเปลี่ยน URL ของหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงข้อบกพร่องในโปรแกรมแยกวิเคราะห์ URL ทั่วไป ตัวอย่างเช่น ลองลบอักขระที่เข้ารหัสด้วยเครื่องหมายเปอร์เซ็นต์ อักขระที่สงวนไว้ หรือการเข้ารหัสสตริงคำค้นหาที่ผิดปกติอย่างเช่น ? โดยไม่ต้องใส่พารามิเตอร์

หากคุณใช้ AMP Packager ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่

ส่วนหัว "header_name" สำหรับการตอบกลับ HTTP ของ Signed Exchange มีค่าที่ไม่ถูกต้อง

การตอบกลับ HTTP มี content-type เป็น application/signed-exchange แต่ส่วนหัวการตอบกลับไม่ถูกต้องในลักษณะอื่น ตัวอย่างเช่น content-type อาจขาดพารามิเตอร์ v=b3 ด้วยเหตุนี้ Google จึงไม่รู้จักรูปแบบดังกล่าวซึ่งทำให้แยกเนื้อหาการตอบกลับออกมาไม่ได้

ผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณมีดังนี้

หากหน้าดังกล่าวมีหน้าที่ตรงกันที่ไม่ใช่ AMP แล้ว Google Search จะจัดทำดัชนีหน้านั้นแทน มิเช่นนั้น หน้านั้นอาจไม่ปรากฏใน Google Search เลย

ขั้นตอนถัดไป

โปรดขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ Signed Exchange หากมีการใช้บริการ

หากคุณใช้ AMP Packager ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่

  • ตรวจสอบว่าพร็อกซีแบบย้อนกลับส่วนหน้าไม่ได้แก้ไขส่วนหัว content-type อยู่ สำหรับ URL ที่มีข้อผิดพลาด ให้ระบุ corresponding /priv/doc URL ในโดเมน Packager ภายใน และดึงมาโดยรวมส่วนหัวการตอบกลับ (เช่น ด้วยการใช้ curl -i) หากส่วนหัวของการตอบกลับ Packager ภายในและการตอบกลับส่วนหน้าภายนอกมีความแตกต่างกัน ความแตกต่างนี้อาจเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด หากความแตกต่างนั้นอยู่ในส่วนหัวอื่นที่ไม่ใช่ content-type โปรดรายงานข้อบกพร่องเกี่ยวกับเอกสารความช่วยเหลือนี้เพื่อให้มีการอัปเดตรายการข้อกำหนด
  • ตรวจสอบว่าคุณใช้ AMP Packager รุ่นล่าสุดอยู่
  • หากตัดสาเหตุข้างต้นออกไปได้ทั้งหมด แสดงว่าอาจมีข้อบกพร่องใน AMP Packager โปรดรายงานข้อบกพร่อง

จัดลำดับความสำคัญและแก้ไขปัญหา

  1. ดูรายการปัญหาร้ายแรงของเว็บไซต์ในตารางเหตุใดหน้า AMP จึงไม่ถูกต้อง
  2. วิเคราะห์ข้อผิดพลาดดังนี้
    • ดูว่าจำนวนข้อผิดพลาดทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นโดยส่วนใหญ่แล้วเกิดจากข้อผิดพลาดเพียงรายการเดียวหรือไม่ โดยมองหาการเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันที่สัมพันธ์กับปัญหาใดปัญหาหนึ่งในตาราง
    • ก่อนอื่นแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากสาเหตุทั่วไป (เช่น เทมเพลตที่ไม่ดี) แล้วจึงแก้ไขข้อผิดพลาดที่แต่ละหน้ามีไม่ซ้ำกัน
  3. แก้ไขข้อผิดพลาด: คลิกแถวในตารางเพื่อดูหน้ารายละเอียดของข้อผิดพลาด ดังนี้
    1. หน้ารายละเอียดจะมีตัวอย่าง URL ที่ได้รับผลกระทบ แถวในรายการจะมีจำนวนไม่เกิน 1,000 แถว และอาจไม่รวมอินสแตนซ์ของข้อผิดพลาดนี้ที่เพิ่งตรวจพบ หรือหน้าที่ยังไม่ได้ทำการ Crawl ใหม่นับตั้งแต่เวลาที่ข้อผิดพลาดนั้นปรากฏขึ้น
    2. คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมข้างปัญหาเพื่อดูเอกสารประกอบอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนั้น
    3. คลิก URL ในตารางตัวอย่าง URL เพื่อดูปัญหาที่ไฮไลต์ไว้ในโค้ดของหน้าเว็บ
    4. คลิกไอคอน "ตรวจสอบ" เพื่อทำการทดสอบหน้านั้นๆ โดยละเอียด การทดสอบนี้จะระบุข้อผิดพลาดทั้งหมด (ไม่ใช่เพียงปัญหาปัจจุบัน) และให้เครื่องมือสำรวจโค้ดไฮไลต์ข้อผิดพลาดและให้ข้อมูลเพิ่มเติม หากหน้านั้นยังไม่ได้รับการ Crawl ใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ คุณจะเห็นปัญหาของหน้าที่จัดทำดัชนี แต่ไม่เห็นปัญหาของหน้าที่เผยแพร่อยู่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น คุณจะขอให้จัดทำดัชนีหน้านั้นๆ ได้
    5. แก้ไขอินสแตนซ์ทั้งหมดของปัญหาในเว็บไซต์ ทดสอบการแก้ไข แล้วตรวจสอบว่าการแก้ไขปรากฏอยู่ในเว็บแล้ว
  4. เมื่อแก้ไขอินสแตนซ์ทั้งหมดแล้ว ให้กลับไปที่หน้ารายละเอียดของปัญหา แล้วคลิกปุ่มตรวจสอบการแก้ไขเพื่อเริ่มกระบวนการตรวจสอบ กระบวนการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทันที โปรดดูหัวข้อเกี่ยวกับการตรวจสอบความถูกต้องเพื่อให้เข้าใจขั้นตอนนี้
  5. แก้ไขข้อผิดพลาดต่อ
  6. หากจำนวนรวมของหน้าที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องต่ำกว่าจำนวนหน้า AMP ในเว็บไซต์อย่างมาก โปรดดูการแก้ปัญหาหน้า AMP ที่ขาดหายไป
  7. เมื่อแก้ไขข้อผิดพลาดร้ายแรงทั้งหมดแล้ว ให้พิจารณาแก้ไขปัญหาที่ไม่ร้ายแรง ปัญหาที่ไม่ร้ายแรงบางอย่าง (เช่น การใช้ฟีเจอร์ที่เลิกใช้งานแล้ว) อาจกลายเป็นปัญหาร้ายแรงในอนาคต

การแชร์รายงาน

คุณแชร์รายละเอียดปัญหาในรายงานการครอบคลุมหรือรายงานการเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยคลิกปุ่มแชร์ ในหน้าดังกล่าว ลิงก์นี้จะให้สิทธิ์เข้าถึงเฉพาะหน้ารายละเอียดปัญหาปัจจุบันรวมถึงหน้าประวัติการตรวจสอบปัญหานี้แก่ใครก็ตามที่มีลิงก์ แต่ไม่ได้ให้สิทธิ์เข้าถึงหน้าอื่นๆ แก่สมาชิกของคุณ รวมถึงไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ที่ได้รับการแชร์มีสิทธิ์ดำเนินการใดๆ ในพร็อพเพอร์ตี้หรือบัญชีของคุณ คุณเพิกถอนลิงก์ได้ตลอดเวลาด้วยการปิดการแชร์สำหรับหน้านี้

การส่งออกข้อมูลรายงาน

รายงานหลายรายการมีปุ่มส่งออก เพื่อส่งออกข้อมูลรายงาน ระบบจะส่งออกทั้งข้อมูลแผนภูมิและตาราง ค่าที่แสดงเป็น ~ หรือ - ในรายงาน (ไม่มี/ไม่ใช่ตัวเลข) จะเป็น 0 ในข้อมูลที่ดาวน์โหลด

การแก้ปัญหาหน้า AMP ที่ขาดหายไป

หากจำนวนหน้า AMP (ถูกต้อง + ไม่ถูกต้อง) ในรายงานมีจำนวนน้อยกว่าหน้า AMP ในเว็บไซต์ สาเหตุส่วนหนึ่งที่เป็นไปได้มีดังนี้

  • ยืนยันว่าหน้า Canonical ที่ไม่ใช่ AMP ลิงก์กับหน้า AMP อย่างถูกต้อง
  • ยืนยันว่าหน้า AMP หรือหน้า Canonical ไม่ได้ใช้คำสั่งของ Robots หรือ noindex หรือมีการป้องกันโดยกำหนดให้ต้องเข้าสู่ระบบ
  • ตรวจสอบ URL ของหน้า Canonical สำหรับ AMP ว่ามีการจัดทำดัชนีหรือไม่
  • Google อาจใช้เวลา 2-3 วันเพื่อค้นหาและทำการ Crawl หน้าเว็บที่ขาดหายไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณแจ้ง Google เกี่ยวกับหน้าเว็บใหม่
  • หน้า AMP ที่ถูกต้องบางหน้าอาจไม่รวมอยู่ในรายงานนี้ แม้ว่าหน้าเหล่านี้อาจแสดงอยู่ในรายงานการจัดทําดัชนีหน้าเว็บก็ตาม เนื่องจากรายงานสถานะการจัดทําดัชนีหน้าเว็บต้องครอบคลุมมากขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของการจัดทําดัชนีในรายงาน ส่วนรายงานสถานะ AMP อาจครอบคลุมหน้าเว็บน้อยลง แต่มีความเกี่ยวข้องและรายละเอียดมากขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องของ AMP ที่เฉพาะเจาะจงบนเว็บไซต์ของคุณ โปรดใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อยืนยันว่ามีการจัดทำดัชนีหน้า AMP หรือไม่ ซึ่งจะได้คำตอบที่แน่นอน
ตรวจสอบการแก้ไข

หลังจากแก้ไขอินสแตนซ์ทั้งหมดของปัญหาที่พบในเว็บไซต์แล้ว คุณจะขอให้ Google ยืนยันการแก้ไขเหล่านั้นได้ หากแก้ไขอินสแตนซ์ที่พบทั้งหมดแล้ว จำนวนปัญหาในตารางปัญหาจะลดเหลือ 0 และเลื่อนปัญหาเหล่านั้นลงไปอยู่ที่ท้ายตาราง

เหตุผลที่ต้องตรวจสอบ

ข้อดีของการแจ้ง Google ว่าคุณได้แก้ไขปัญหาทั้งหมดในสถานะหรือหมวดหมู่ของปัญหาหนึ่งๆ แล้วมีดังต่อไปนี้

  • คุณจะได้รับอีเมลเมื่อ Google ยืนยันการแก้ไขของคุณใน URL ทั้งหมดแล้ว หรือในทางกลับกัน เมื่อ Google พบอินสแตนซ์ที่หลงเหลืออยู่ของปัญหา
  • คุณติดตามความคืบหน้าของ Google ในการยืนยันการแก้ไขของคุณได้ และดูบันทึกของหน้าทั้งหมดที่อยู่ในคิวตรวจเช็ค รวมถึงสถานะการแก้ไขของ URL แต่ละรายการ

บางครั้งคุณอาจไม่เข้าใจว่าจะต้องแก้ไขหรือตรวจสอบปัญหาหนึ่งๆ ไปทำไม เช่น URL ที่ถูก robots.txt บล็อกไว้อาจเป็นการบล็อกโดยเจตนา โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ

นอกจากนี้ คุณยังแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องตรวจสอบได้ด้วย โดย Google จะอัปเดตจำนวนอินสแตนซ์เมื่อทำการ Crawl หน้าเว็บที่ทราบว่ามีปัญหา ไม่ว่าคุณจะขอให้ตรวจสอบการแก้ไขอย่างชัดแจ้งหรือไม่ก็ตาม

เคล็ดลับมือโปร: ตรวจสอบการแก้ไขตาม Sitemap
หากต้องการให้คําขอแก้ไขเร็วขึ้น ให้สร้างและส่ง Sitemap ที่มีเฉพาะหน้าที่สําคัญที่สุด แล้วกรองรายงานตาม Sitemap ดังกล่าวก่อนที่จะส่งคำขอตรวจสอบการแก้ไข คําขอตรวจสอบ URL บางส่วนที่ได้รับผลกระทบจะดำเนินการเสร็จสิ้นเร็วกว่าคําขอที่มี URL ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดในเว็บไซต์

เริ่มตรวจสอบ

วิธีแจ้ง Search Console ว่าคุณแก้ไขปัญหาแล้วมีดังนี้

  1. แก้ไขอินสแตนซ์ทั้งหมดของปัญหาในเว็บไซต์ หากแก้ไขไม่ครบ การตรวจสอบจะหยุดลงเมื่อ Google พบอินสแตนซ์ที่หลงเหลืออยู่ของปัญหา
  2. เปิดหน้ารายละเอียดของปัญหาที่คุณแก้ไขแล้ว คลิกปัญหาจากรายการปัญหาในรายงาน
    • ⚠️ หากคุณกรองแค่ Sitemap บางรายการในรายงาน การตรวจสอบจะมีผลเฉพาะกับรายการใน Sitemap ดังกล่าวในขณะที่คุณส่งคำขอตรวจสอบ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ต้องการก็ได้ จึงขอให้ระวังตรงจุดนี้ด้วย
  3. คลิกตรวจสอบการแก้ไข อย่าคลิก "ตรวจสอบการแก้ไข" อีกครั้งจนกว่าจะทราบว่าตรวจสอบสำเร็จหรือไม่สำเร็จ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ตรวจเช็คการแก้ไขของคุณ
  4. คุณตรวจสอบขั้นตอนการตรวจสอบได้ โดยปกติการตรวจสอบจะใช้เวลาถึงประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้นมาก ดังนั้นโปรดอดใจรอ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อตรวจสอบสำเร็จหรือไม่สำเร็จ
  5. หากตรวจสอบไม่สำเร็จ คุณดู URL ที่ทำให้การตรวจสอบไม่สำเร็จได้โดยคลิกดูรายละเอียดในหน้ารายละเอียดของปัญหา โปรดแก้ปัญหาในหน้านี้ ยืนยันการแก้ไขสำหรับ URL ทั้งหมดที่อยู่ในสถานะรอดำเนินการ แล้วเริ่มตรวจสอบอีกครั้ง

เมื่อใดที่ถือว่าปัญหาของ URL หรือรายการ "แก้ไขแล้ว"

ระบบจะทำเครื่องหมายปัญหาของ URL หรือรายการเป็นแก้ไขแล้วเมื่อตรงกับเงื่อนไขใดๆ ต่อไปนี้

  • เมื่อมีการ Crawl URL และไม่พบปัญหาในหน้าเว็บอีกต่อไป ซึ่งในกรณีข้อผิดพลาดของแท็ก AMP อาจหมายความว่าคุณแก้ไขแท็กแล้วหรือนำแท็กออกไปแล้ว (หากไม่จำเป็นต้องใช้แท็กนั้น) ระหว่างที่ระบบพยายามตรวจสอบ จะมีป้ายกำกับว่าผ่าน
  • หาก Google เข้าถึงหน้าเว็บไม่ได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม (มีการนำหน้าเว็บออก, ทำเครื่องหมาย noindex, ต้องตรวจสอบสิทธิ์ เป็นต้น) จะถือว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วสำหรับ URL นั้น ซึ่งในระหว่างการพยายามตรวจสอบจะจัดหมวดหมู่อยู่ในสถานะการตรวจสอบอื่นๆ

ระยะเวลาที่เกิดปัญหา

ระยะเวลาของปัญหาเริ่มจากครั้งแรกที่ตรวจพบว่ามีอินสแตนซ์ในเว็บไซต์จนถึง 90 วันหลังจากที่ระบบทำเครื่องหมายอินสแตนซ์สุดท้ายว่าไม่มีอยู่ในเว็บไซต์แล้ว หากผ่านไป 90 วันโดยไม่เกิดปัญหานั้นซ้ำอีก ระบบจะนำปัญหาออกจากตารางปัญหา

วันที่ตรวจพบปัญหาครั้งแรก หมายถึง ครั้งแรกที่ตรวจพบปัญหาในช่วงระยะเวลาที่เกิดปัญหาและจะไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น

  • หากอินสแตนซ์ทั้งหมดของปัญหาได้รับการแก้ไข แต่หลังจากนั้น 15 วันมีอินสแตนซ์ใหม่ของปัญหาเกิดขึ้น ระบบจะทำเครื่องหมายปัญหาดังกล่าวเป็น "เปิด" และวันที่ตรวจพบครั้งแรกจะยังคงเป็นวันที่เดิม
  • หากเกิดปัญหาเดิมหลังจากที่แก้ไขอินสแตนซ์ล่าสุดไปแล้ว 91 วัน ระบบจะปิดปัญหาก่อนหน้านี้และบันทึกว่าเป็นปัญหาใหม่โดยระบุวันที่ตรวจพบครั้งแรกเป็นวันที่ตรวจพบใหม่
ขั้นตอนการตรวจสอบ

ต่อไปนี้คือภาพรวมของกระบวนการตรวจสอบหลังจากที่คุณคลิกตรวจสอบการแก้ไขปัญหา ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายวันหรือนานกว่านั้น และคุณจะได้รับการแจ้งความคืบหน้าทางอีเมล

  1. เมื่อคุณคลิกตรวจสอบการแก้ไข Search Console จะตรวจเช็คหน้าเว็บบางหน้าทันที
    • หากมีอินสแตนซ์ปัจจุบันปรากฏในหน้าเว็บเหล่านี้ การตรวจสอบจะสิ้นสุดและสถานะการตรวจสอบจะยังไม่เปลี่ยนแปลง
    • หากหน้าตัวอย่างไม่มีข้อผิดพลาดปัจจุบัน การตรวจสอบจะดำเนินต่อไปโดยมีสถานะเริ่มแล้ว หากตรวจพบปัญหาอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ปัญหาเหล่านี้จะนับเป็นปัญหาประเภทอื่นๆ และการตรวจสอบจะดำเนินต่อไป
  2. Search Console จะดำเนินการกับ URL ที่ระบุไว้ในรายการซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ และจัดคิวในการ Crawl ใหม่ให้เฉพาะ URL ที่มีอินสแตนซ์ที่พบของปัญหานี้ ไม่ใช่ทั้งเว็บไซต์ Search Console จะติดตามบันทึก URL ทั้งหมดที่ผ่านการตรวจเช็คในประวัติการตรวจสอบซึ่งคุณดูได้จากหน้ารายละเอียดของปัญหา
  3. เมื่อ URL ได้รับการตรวจสอบ
    1. หากไม่พบปัญหา สถานะการตรวจสอบอินสแตนซ์จะเปลี่ยนเป็นผ่าน หากนี่เป็นอินสแตนซ์แรกที่ตรวจเช็คหลังจากการตรวจสอบเริ่มต้นขึ้น สถานะการตรวจสอบจะเปลี่ยนเป็นทำได้ดี
    2. หาก URL นั้นเข้าถึงไม่ได้แล้ว สถานะการตรวจสอบอินสแตนซ์จะเปลี่ยนเป็นอื่นๆ (ซึ่งไม่ใช่สถานะข้อผิดพลาด)
    3. หากยังคงมีอินสแตนซ์ดังกล่าวอยู่ สถานะปัญหาจะเปลี่ยนเป็นไม่สำเร็จ และการตรวจสอบจะสิ้นสุดลง หากนี่เป็นหน้าใหม่ที่ค้นพบจากการ Crawl ตามปกติ จะถือเป็นอีกอินสแตนซ์หนึ่งของปัญหาที่มีอยู่นี้
  4. เมื่อตรวจเช็ค URL ในคิวสำหรับปัญหานี้และพบว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว สถานะของปัญหาจะเปลี่ยนเป็นผ่าน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอินสแตนซ์ทั้งหมดจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ป้ายกำกับระดับความรุนแรงของปัญหาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง (ข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจะมีแค่จำนวนรายการที่ได้รับผลกระทบ (0)

แม้คุณจะไม่เคยคลิก "เริ่มตรวจสอบ" Google ก็ตรวจหาอินสแตนซ์ที่แก้ไขแล้วของปัญหาได้ หาก Google ตรวจพบว่ามีการแก้ไขอินสแตนซ์ทั้งหมดของปัญหาในระหว่างการ Crawl ตามปกติ ระบบจะเปลี่ยนจำนวนปัญหาในรายงานเป็น 0

การตรวจสอบอีกครั้ง

⚠️ รอให้รอบการตรวจสอบเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะขอการตรวจสอบรอบใหม่ แม้ว่าจะแก้ไขปัญหาบางอย่างในระหว่างรอบปัจจุบันแล้วก็ตาม

หากต้องการเริ่มการตรวจสอบที่ไม่สำเร็จอีกครั้ง ให้ทำดังนี้

  1. ไปที่บันทึกการตรวจสอบของการตรวจสอบที่ไม่สำเร็จ: เปิดหน้ารายละเอียดของปัญหาที่ตรวจสอบไม่สำเร็จแล้วคลิกดูรายละเอียด
  2. คลิกเริ่มตรวจสอบใหม่
  3. การตรวจสอบจะเริ่มขึ้นอีกครั้งสำหรับ URL ทั้งหมดที่มีเครื่องหมายว่ารอดำเนินการหรือไม่สำเร็จ รวมถึงอินสแตนซ์ใหม่ๆ ของปัญหานี้ที่ค้นพบผ่านการ Crawl ตามปกตินับตั้งแต่ความพยายามที่จะตรวจสอบครั้งล่าสุด URL ที่มีเครื่องหมายว่าผ่านหรืออื่นๆ จะไม่ได้รับการตรวจสอบซ้ำ
  4. โดยปกติการตรวจสอบจะใช้เวลาถึงประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้นมาก ดังนั้นโปรดอดใจรอ

ดูความคืบหน้าของการตรวจสอบ

หากต้องการดูความคืบหน้าของคำขอตรวจสอบปัจจุบัน หรือประวัติคำขอล่าสุดในกรณีที่ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบอยู่ ให้ทำดังนี้

  1. เปิดหน้ารายละเอียดของปัญหาที่ต้องการ คลิกแถวของปัญหาดังกล่าวในหน้ารายงานหลักเพื่อเปิดหน้ารายละเอียดของปัญหา
    • สถานะคำขอตรวจสอบจะแสดงอยู่ทั้งในหน้ารายละเอียดของปัญหาและในแถวการตรวจสอบของตารางรายละเอียดด้วย
  2. คลิกดูรายละเอียดเพื่อเปิดหน้ารายละเอียดการตรวจสอบของคำขอดังกล่าว
    • สถานะอินสแตนซ์ของ URL แต่ละรายการที่รวมอยู่ในคำขอจะแสดงอยู่ในตาราง
    • สถานะอินสแตนซ์จะใช้กับปัญหาที่เฉพาะเจาะจงซึ่งคุณกำลังตรวจสอบ คุณจะติดป้ายกำกับปัญหาหนึ่งว่าผ่านในหน้าเว็บ แต่ติดป้ายกำกับปัญหาอื่นๆ ว่าไม่สำเร็จ รอดำเนินการ หรืออื่นๆ ในหน้าเดียวกันก็ได้
    • ในรายงาน AMP และรายงานการจัดทําดัชนีหน้าเว็บ ระบบจะจัดกลุ่มรายการต่างๆ ในหน้าประวัติการตรวจสอบตาม URL
    • ส่วนรายงานความสามารถในการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และรายงานผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดีย ระบบจะจัดกลุ่มรายการต่างๆ ตาม URL ร่วมกับรายการ Structured Data (ตามที่กำหนดโดยค่า "ชื่อ" ของรายการนั้นๆ)
สถานะคำขอตรวจสอบ

สถานะการตรวจสอบที่ใช้กับการตรวจสอบปัญหาที่พบมีดังนี้

  • ยังไม่เริ่ม: อินสแตนซ์อย่างน้อย 1 รายการของปัญหานี้ไม่เคยมีอยู่ในคำขอตรวจสอบสำหรับปัญหานี้
    ขั้นตอนถัดไป
    1. คลิกที่ปัญหาเพื่อดูรายละเอียดข้อผิดพลาด ตรวจสอบแต่ละหน้าเพื่อดูตัวอย่างข้อผิดพลาดในหน้าที่แสดงอยู่
    2. คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมในหน้ารายละเอียดเพื่อดูรายละเอียดของปัญหา
    3. คลิกแถว URL ตัวอย่างในตารางเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนั้นๆ
    4. แก้ไขหน้าเว็บ แล้วคลิกตรวจสอบการแก้ไขเพื่อเริ่มตรวจสอบ โดยปกติการตรวจสอบจะใช้เวลาถึงประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้นมาก ดังนั้นโปรดอดใจรอ
  • เริ่มแล้ว: คุณเริ่มการตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่พบอินสแตนซ์ที่หลงเหลืออยู่ของปัญหา
    ขั้นตอนถัดไป: Google จะส่งการแจ้งเตือนให้คุณขณะทำการตรวจสอบเพื่อให้ทราบสิ่งที่ต้องทำ (หากจำเป็น)
  • ทำได้ดี: คุณเริ่มทำการตรวจสอบแล้ว และเราพบว่าอินสแตนซ์ทั้งหมดของปัญหาที่ตรวจเช็คไปได้รับการแก้ไขแล้ว
    ขั้นตอนถัดไป: ไม่ต้องทำอะไร แต่ Google จะส่งการแจ้งเตือนให้คุณขณะทำการตรวจสอบเพื่อให้ทราบสิ่งที่ต้องทำ
  • ผ่าน: อินสแตนซ์ของปัญหาทั้งหมดที่ทราบหายไปแล้ว (หรือไม่มี URL ที่ได้รับผลกระทบแล้ว) คุณต้องคลิกตรวจสอบการแก้ไขจึงจะได้สถานะนี้ (หากอินสแตนซ์หายไปโดยที่คุณไม่ได้ขอการตรวจสอบ สถานะจะเปลี่ยนเป็น "ไม่มี")
    ขั้นตอนถัดไป: ไม่ต้องทำอะไร
  • ไม่มี: Google พบว่าปัญหาใน URL ทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว แม้ว่าคุณจะไม่เคยเริ่มการตรวจสอบเลย
    ขั้นตอนถัดไป: ไม่ต้องทำอะไร
  • ไม่สำเร็จ: เกณฑ์บางอย่างของหน้าเว็บยังคงมีปัญหาอยู่หลังจากที่คลิกตรวจสอบ
    ขั้นตอนถัดไป: แก้ไขปัญหาและเริ่มการตรวจสอบอีกครั้ง
สถานะการตรวจสอบอินสแตนซ์

หลังจากที่ส่งคำขอการตรวจสอบแล้ว ระบบจะระบุสถานะการตรวจสอบอินสแตนซ์ของปัญหาแต่ละรายการ ดังนี้

  • รอดำเนินการ: อยู่ในคิวเพื่อรับการตรวจสอบ Google ตรวจสอบครั้งล่าสุดพบว่ามีอินสแตนซ์ของปัญหาอยู่
  • ผ่าน: [ไม่มีในรายงานบางฉบับ] Google ตรวจเช็คอินสแตนซ์ของปัญหาและพบว่าอินสแตนซ์ดังกล่าวไม่มีอยู่แล้ว สถานะนี้จะได้มาต่อเมื่อคุณคลิกตรวจสอบอินสแตนซ์ของปัญหาเท่านั้น
  • ไม่สำเร็จ: Google ตรวจเช็คอินสแตนซ์ของปัญหาและพบว่ายังคงปรากฏอยู่ สถานะนี้จะได้มาต่อเมื่อคุณคลิกตรวจสอบอินสแตนซ์ของปัญหาเท่านั้น
  • อื่นๆ: [ไม่มีในรายงานบางฉบับ] Google เข้าถึง URL ที่เป็นโฮสต์ของอินสแตนซ์ไม่ได้ หรือ (สำหรับ Structured Data) ไม่พบรายการบนหน้าเว็บอีกแล้ว หากเป็นเช่นนี้จะถือว่าผ่าน

โปรดทราบว่า URL เดียวกันอาจมีสถานะที่ต่างกันสำหรับปัญหาต่างๆ ตัวอย่างเช่น หากหน้าหนึ่งมีทั้งปัญหา X และปัญหา Y ปัญหา X อาจอยู่ในสถานะการตรวจสอบผ่าน ส่วนปัญหา Y ในหน้าเดียวกันอาจอยู่ในสถานะการตรวจสอบรอดำเนินการ

 

ปัญหาที่ทราบ

ต่อไปนี้เป็นปัญหาที่ทราบใน Search Console ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องรายงานให้เราทราบ แต่เราอยากทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับฟีเจอร์หรือปัญหาอื่นที่คุณพบ โปรดใช้กลไกการแสดงความคิดเห็นที่มีอยู่ในแถบนำทาง

  • ปัญหาบางอย่างมีชื่อยาวและเข้าใจยาก
  • ระหว่างเวลาที่ระบบเพิ่มปัญหาลงในกราฟกับเวลาที่เพิ่มปัญหาลงในตารางอาจมีความล่าช้าเกิดขึ้น

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
เป็นมือใหม่ Search Console ใช่ไหม

หากไม่เคยใช้ Search Console มาก่อน เริ่มได้เลยที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ ผู้เชี่ยวชาญ SEO หรือนักพัฒนาเว็บไซต์

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก