การแสดงผล ตำแหน่ง และการคลิกคืออะไร

หน้านี้จะช่วยอธิบายเกี่ยวกับการแสดงผล ค่าตำแหน่ง และข้อมูลการคลิกที่ใช้ใน Search Console โดยเฉพาะในรายงานประสิทธิภาพ

ฮิวริสติกที่อธิบายไว้ ณ ที่นี้ อาทิ ข้อกำหนดในการเปิดเผยรายการแบบภาพสไลด์หรือแบบใส่เลขลำดับตามตำแหน่ง อาจมีการเปลี่ยนแปลง

บทนำ

Search Console แสดงข้อมูลที่บอกว่าผู้ใช้เห็นหรือโต้ตอบกับลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือเนื้อหาจากเว็บไซต์ของคุณบ่อยเพียงใดใน Google Search, News และ Discover ข้อมูลนี้จะอยู่ในรายงานประสิทธิภาพหลายฉบับ

รายงานประสิทธิภาพจะแสดงเมตริกต่อไปนี้

  • การแสดงผล: ความถี่ที่ผู้ใช้เห็นลิงก์ที่ไปยังเว็บไซต์ของคุณใน Google โดยอาจต้องเลื่อนหรือขยายเพื่อให้เนื้อหาอยู่ในมุมมอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทผลการค้นหา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง
  • การคลิก: ความถี่ที่ผู้ใช้คลิกลิงก์จาก Google ไปยังเว็บไซต์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง
  • ตำแหน่ง (เฉลี่ย): อันดับสัมพัทธ์ของตำแหน่งของลิงก์ใน Google โดย 1 คือตำแหน่งสูงสุด และ 2 คือตำแหน่งถัดมา และต่อไปเรื่อยๆ โดยจะแสดงสำหรับผลการค้นหาของ Google เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง
  • อัตราการคลิกผ่าน: ผลการคำนวณจาก (จำนวนคลิก ÷ การแสดงผล)

เอกสารนี้จะอธิบายเกี่ยวกับเมตริกเหล่านี้อย่างละเอียดมากขึ้น รวมถึงข้อมูลจำเพาะด้านการใช้งานสำหรับรายการหลายๆ ประเภทที่คุณอาจพบในผลการค้นหาของ Google Search

โครงสร้างของผลการค้นหา

เนื้อหาอาจแสดงเป็นรูปแบบต่างๆ มากมายใน Google Search รวมถึงลิงก์ รูปภาพ หรือตัวอย่างข้อมูล ลองดูตัวอย่างผลการค้นหาพื้นฐานที่มีเพียงลิงก์เดียวด้านล่างนี้ ("ลิงก์สีน้ำเงินธรรมดา" แบบดั้งเดิม)

ผลการค้นหาพื้นฐานที่มีลิงก์เดียว ใช่แล้ว นี่เป็นการสะกดคำแบบตั้งใจ โปรดอย่าแจ้งว่าเป็นข้อบกพร่อง :)

หรืออาจเป็นองค์ประกอบผสมที่มีลิงก์หลายรายการ และแม้กระทั่งแบบอินเทอร์แอกทีฟ ตัวอย่างเช่น รายการแบบเลื่อนในแนวนอนของหน้า AMP หรือรายการการ์ดความรู้ซึ่งมีลิงก์จำนวนมาก 

ระบบจะกำหนดข้อมูลทั้งหมดไปยังลิงก์ในองค์ประกอบ (หรือไปยัง URL ที่แต่ละลิงก์ชี้ไป) ระบบจะถือว่าข้อมูลการคลิก การแสดงผล และตำแหน่งมาจาก Canonical URL ของลิงก์ โดยทั่วไปแล้ว Canonical URL เป็น URL ที่ Google เลือกว่าแสดงถึงหน้าหนึ่งๆ ได้ดีที่สุดเมื่อมี URL หลายรายการชี้ไปยังหน้าที่เหมือนกัน (เช่น หากเว็บไซต์มี URL แบบแยกสำหรับหน้าเว็บทั้งเวอร์ชันในอุปกรณ์เคลื่อนที่และเดสก์ท็อป) ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บางครั้งลิงก์ก็อาจเป็นลิงก์อย่างชัดเจน เช่น ในลิงก์สีน้ำเงินธรรมดาที่แสดงอยู่ด้านบน แต่บางครั้งลิงก์ก็มีความชัดเจนน้อยกว่านั้น เช่น จริงๆ แล้วรูปภาพในการค้นหารูปภาพเป็นลิงก์ที่ไปสู่รูปภาพในหน้าโฮสต์ ลิงก์แต่ละรายการในองค์ประกอบอาจได้รับการกำหนดข้อมูลของตัวเอง (การแสดงผล การคลิก และอื่นๆ) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง

การแสดงผลคืออะไร

เมื่อมีการแสดงผล แสดงว่าผู้ใช้เห็น (หรืออาจเห็น) ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณใน Search, Discover หรือ News แล้ว

โดยทั่วไป ระบบจะนับการแสดงผลทุกครั้งที่รายการหนึ่งๆ ปรากฏขึ้นในหน้าผลการค้นหาปัจจุบัน ไม่ว่าจะมีการเลื่อนรายการเข้ามาในมุมมองหรือไม่ ตราบใดที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องคลิกเพื่อดูผลการค้นหาเพิ่มเติม (เช่น ผู้ใช้ต้องคลิก "ดูเพิ่มเติม" เพื่อดูลิงก์)

อย่างไรก็ตาม ในวิดเจ็ตผลการค้นหาแบบขยายหรือเลื่อนได้อย่างอิสระ เช่น ภาพสไลด์ผลการค้นหาหรือส่วนที่ขยายได้ เช่น ผลการค้นหาคําถามที่พบบ่อย โดยปกติแล้วผู้ใช้จะต้องเลื่อนให้รายการเข้าไปอยู่ในมุมมองภายในภาพสไลด์ หรือขยายออกด้วยการคลิก ระบบจึงจะบันทึกเป็นการแสดงผล 1 ครั้ง

สำหรับผลการค้นหาที่เลื่อนได้โดยไม่มีการแบ่งหน้า (การเลื่อนได้ไม่รู้จบ) เช่น การค้นหารูปภาพในอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือการ์ดใน Discover ปกติแล้วผู้ใช้จะต้องเลื่อนให้รายการเข้ามาอยู่ในมุมมองเพื่อนับการแสดงผล

กฎทั่วไปก็คือ หากคุณต้องคลิกเพื่อดูผลลัพธ์เพิ่มเติม ระบบจะนับการแสดงผลเมื่อลิงก์อยู่ในชุดผลลัพธ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเลื่อนจนรายการเข้ามาอยู่ในมุมมองหรือไม่ก็ตาม แต่เพื่อความแน่ใจ โปรดอ่านรายละเอียดด้านล่างสำหรับรายการแต่ละประเภท

การเลื่อนออกแล้วเลื่อนกลับมา หรือการออกจากหน้าเว็บแล้วกลับมาในระหว่างการค้นหาครั้งเดียวหรือเซสชันเดียวจะไม่นับเป็นการแสดงผลหลายครั้ง

ทำไมการแสดงผลจึงสำคัญ

การแสดงผลมีความสำคัญเนื่องจากผู้อื่นจะต้องเห็นลิงก์ไปยังพร็อพเพอร์ตี้ของคุณจึงจะคลิกเข้าชมได้ อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรมุ่งให้มีการแสดงผลเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นการแสดงผลที่สื่อความหมาย ซึ่งหมายถึงการที่ผู้อื่นพบว่าข้อมูลของคุณมีประโยชน์และควรค่าแก่การอ่าน การที่ผู้อื่นเห็นหรือคลิกเนื้อหาของคุณแล้วออกไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากพบว่าเนื้อหานั้นไม่มีประโยชน์ไม่ใช่วิธีที่ดีในการสร้างการเข้าชมเว็บไซต์และความภักดี ส่วนใครก็ตามที่บอกว่า "การประชาสัมพันธ์ไม่มีดีหรือแย่" แสดงว่าไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้เลย

การรวมการแสดงผลตามพร็อพเพอร์ตี้หรือตามหน้าเว็บ

หากองค์ประกอบของการค้นหาแบบเดียวมีหลายลิงก์ ระบบจะนับการแสดงผลตาม URL หรือตามพร็อพเพอร์ตี้ โดยขึ้นอยู่กับตัวเลือกการกรองต่างๆ ในรายงานประสิทธิภาพ

ด้านล่างนี้คือตัวอย่างการจัดกลุ่มตามพร็อพเพอร์ตี้ เทียบกับการจัดกลุ่มตาม URL โดยอิงตามผู้ใช้ที่เห็นการ์ดความรู้ต่อไปนี้ที่มีลิงก์รูปภาพและข้อความหลายรายการ

การ์ดกราฟความรู้ที่แสดงลิงก์ต่างๆ

  • หากคุณดูรายงานประสิทธิภาพที่มีข้อมูลที่จัดกลุ่มตามพร็อพเพอร์ตี้ จะมีการนับการแสดงผลเพียง 1 ครั้งเท่านั้นสําหรับการ์ดทั้งใบ
    • www.example.com - การแสดงผล 1 รายการ

  • อย่างไรก็ตาม หากดูรายงานที่ใช้ข้อมูลซึ่งจัดกลุ่มตามหน้า คุณจะเห็นหน้า 5 หน้าที่แสดงผลหน้าละ 1 รายการดังต่อไปนี้
    • www.example.com (ลิงก์ข้อความ) - การแสดงผล 1 รายการ
    • www.example.com/rain (ลิงก์ข้อความ 1 รายการ ลิงก์รูปภาพ 1 รายการ) - การแสดงผล 1 รายการ
    • www.example.com/rainbow (ลิงก์ข้อความ 1 รายการ ลิงก์รูปภาพ 1 รายการ) - การแสดงผล 1 รายการ
    • www.example.com/shamrock (ลิงก์รูปภาพ 1 รายการ) - การแสดงผล 1 รายการ
    • www.example.com/lightning (ลิงก์รูปภาพ 1 รายการ) - การแสดงผล 1 รายการ

แม้ว่า URL บางรายการจะมีหลายลิงก์ในการ์ดความรู้ แต่การแสดงผลทั้งหมดสําหรับหน้าเดียวกันจะรวมกันเป็นการแสดงผลรายการเดียวเมื่อจัดกลุ่มข้อมูลตามหน้า

เปิดรายละเอียดตามองค์ประกอบที่กำหนดเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ระบบนับเป็นการแสดงผล

ตำแหน่งคืออะไร

จะมีการคำนวณตำแหน่งสำหรับผลการค้นหาของ Google Search เท่านั้น

หน้าผลการค้นหาของ Google ประกอบด้วยองค์ประกอบผลการค้นหาหลายรายการ เมตริก "ตำแหน่ง" คือการพยายามแสดงตำแหน่งโดยประมาณในหน้าเว็บที่พบลิงก์นั้น เทียบกับผลการค้นหาอื่นๆ ในหน้าเว็บ ใน Search Console เมตริกจะแสดงเป็นอันดับเฉลี่ย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของค่าตำแหน่งสำหรับการแสดงผลทั้งหมด (เนื่องจากตำแหน่งของลิงก์จะต่างกันไปในทุกครั้งที่เห็น)

โดยทั่วไปตำแหน่งใน Google Search จะคำนวณจากบนลงล่างที่ด้านหลักของหน้า จากนั้นจะคำนวณจากบนลงล่างที่ด้านรองของหน้า (สำหรับภาษาที่อ่านจากซ้ายไปขวา ด้านซ้ายคือด้านหลัก และสำหรับภาษาที่อ่านขวาไปซ้าย ด้านขวาก็จะเป็นด้านหลัก) โปรดทราบว่าการคำนวณวิธีนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

องค์ประกอบแต่ละรายการในผลการค้นหาจะมีตำแหน่งเดียว ไม่ว่าจะมีลิงก์เดียวหรือหลายลิงก์ หรือองค์ประกอบย่อย สำหรับผลการค้นหาส่วนใหญ่ ลิงก์ทั้งหมดในองค์ประกอบจะมีตำแหน่งเดียวกันซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีองค์ประกอบนั้น อย่างไรก็ตาม ในองค์ประกอบผสมต่างๆ เช่น ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียแบบรายการ/รายละเอียด ตำแหน่งที่รายงานอาจเป็นตำแหน่งภายในคอนเทนเนอร์ ไม่ใช่อันดับของคอนเทนเนอร์ อ่านรายละเอียดของประเภทองค์ประกอบที่ต้องการเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม หากไม่มีคำอธิบายของประเภทองค์ประกอบของคุณในที่นี้ ให้คาดว่าระดับตำแหน่งองค์ประกอบจะมีผลกับลิงก์ทั้งหมดภายในแต่ละองค์ประกอบ

ต่อไปนี้คือภาพแผนผังของหน้าผลการค้นหาในคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ซึ่งมีผลการค้นหาหลายประเภท

อันดับการนับตำแหน่งในชุดผลการค้นหาแบบ 2 คอลัมน์

  • ตำแหน่ง 1, 3, 4, 5 จะมีลิงก์สีน้ำเงินธรรมดา
  • ตำแหน่งที่ 2 จะมีภาพสไลด์ AMP (องค์ประกอบผสม) ภาพสไลด์นี้มีผลการค้นหา AMP หลายรายการ โดยมีตำแหน่งที่ 2 ทั้งหมด
  • ตำแหน่งที่ 6 จะมีการ์ดความรู้ (องค์ประกอบผสม) ลิงก์ทั้งหมดในแผงอยู่ที่ตำแหน่งที่ 6

ตำแหน่งเฉลี่ย

ค่าตำแหน่งที่แสดงในรายงานประสิทธิภาพคือตำแหน่งด้านบนสุดที่ใส่ลิงก์ไปยังพร็อพเพอร์ตี้หรือหน้าในผลการค้นหาที่เฉลี่ยจากคำค้นหาทั้งหมดที่พร็อพเพอร์ตี้ของคุณปรากฏ

เช่น

  1. คำค้นหา 1 แสดงพร็อพเพอร์ตี้ที่ตำแหน่ง 2, 4, และ 6: ตำแหน่งที่แสดงผลจะนับเป็น 2 (ตำแหน่งบนสุด)
  2. คำค้นหา 2 แสดงพร็อพเพอร์ตี้ของคุณที่ตำแหน่ง 3, 5 และ 9: ตำแหน่งที่แสดงผลจะนับเป็น 3 (ตำแหน่งบนสุด)
  3. ตำแหน่งเฉลี่ยจากคำค้นหาทั้งสองคือ (2 + 3)/2 = 2.5

ลิงก์ต้องได้รับการแสดงผลเพื่อให้ระบบบันทึกตำแหน่ง หากผลการค้นหาไม่ได้รับการแสดงผล เช่น หากผลอยู่ในหน้าที่ 3 ของผลการค้นหา แต่ผู้ใช้ดูเพียงหน้าที่ 1 ระบบจะไม่บันทึกตำแหน่งสำหรับคำค้นหานั้น ในการกำหนดค่ารายงาน คุณอาจเห็นเครื่องหมายขีด (-) สำหรับค่าตำแหน่ง หมายความว่าจะไม่มีตำแหน่งที่บันทึกไว้เนื่องจากผู้ใช้ไม่เคยดูพร็อพเพอร์ตี้ของคุณสำหรับคำค้นหานั้น เช่น หากคุณเปรียบเทียบผลจากเดสก์ท็อปกับผลจากอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับหน้าที่มีการแสดงผลบนเดสก์ท็อป 10 รายการ แต่ไม่มีการแสดงผลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ คุณจะเห็น "10" สำหรับเดสก์ท็อปและ "-" สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

การวิเคราะห์ตำแหน่ง

ค่าตำแหน่งคือเมตริกเชิงซ้อนที่อาจทำให้คุณเข้าใจผิดได้ หากไม่ทำความเข้าใจส่วนปลีกย่อย เช่น แผนภาพก่อนหน้าการ์ดความรู้ในตำแหน่งที่ 6 มีค่ามากที่สุดในหน้านั้น ซึ่งอาจดูแย่ แต่จริงๆ แล้ว อยู่ในตำแหน่งที่เด่นมาก นอกจากนี้ ในการค้นหารูปภาพ จำนวนผลการค้นหาที่แสดงต่อแถวและหน้าจะขึ้นอยู่กับความกว้างของหน้าจอและปัจจัยอื่น ดังนั้นตำแหน่งจะอธิบายเพียงตำแหน่งที่รูปภาพจะแสดงขึ้นโดยคร่าวๆ

เช่น อาจมีคำอธิบายค่าตำแหน่ง 11 สำหรับองค์ประกอบดังต่อไปนี้

  • การค้นหาในเดสก์ท็อปอาจหมายถึงตำแหน่งด้านบนขวาในการ์ดความรู้
  • ในการค้นหาในเดสก์ท็อป อาจหมายถึงรายการแรกในหน้าที่ 2 (หากหน้าแรกมี 10 รายการและไม่มีข้อมูลในด้านที่สอง)
  • ในผลการค้นหารูปภาพในเดสก์ท็อป อาจหมายถึงแถวที่ 2 หรือ 3 ของผลการค้นหา (ดูโดยไม่ต้องเลื่อนหน้าจอ)
  • การค้นหารูปภาพในอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจหมายถึงแถวที่ 6 ของผลลัพธ์ (เห็นเมื่อเลื่อนเท่านั้น)

ตามที่กล่าวมานี้ ตัวเลขแสดงตำแหน่งอาจหมายถึงข้อมูลที่ต่างกันเมื่ออยู่ต่างสถานการณ์ ดังนั้น คุณไม่ควรตั้งข้อสมมติใดๆ เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกะทันหัน รวมไปถึงตำแหน่งสัมบูรณ์

รายงานประสิทธิภาพแจ้งว่าตำแหน่งหน้าของฉันคือ 5 แต่เมื่อฉันค้นหา ตำแหน่งหน้าคือ 8

ค่าตำแหน่งคือตำแหน่งเฉลี่ยสำหรับการค้นหาทั้งหมด สำหรับการค้นหาตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงของคุณ ตำแหน่งอาจแตกต่างจากค่าเฉลี่ย เนื่องจากมีตัวแปรหลายอย่าง เช่น ประวัติการค้นหา สถานที่ตั้ง และอื่นๆ

การคํานวณตำแหน่ง

หน้า Google Search มีความซับซ้อนมาก และการพยายามกำหนดตำแหน่งสำหรับแต่ละองค์ประกอบก็ไม่ง่ายนัก ในผลการค้นหา เฉพาะองค์ประกอบที่มีลิงก์ที่ไม่มีการปรับแต่งคำค้นหาอย่างน้อย 1 รายการเท่านั้นที่จะมีตำแหน่ง องค์ประกอบที่ไม่มีลิงก์หรือมีเฉพาะลิงก์การปรับแต่งคำค้นหาจะไม่มีตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น ภาพสไลด์ที่เป็นภาพวาดของแวน โก๊ะ ซึ่งรูปภาพแต่ละภาพจะเปิด "การปรับแต่งคำค้นหา" (การค้นหาใหม่ใน Google) จะไม่นำมานับเป็นตัวยึดตำแหน่ง และการแสดงภาพสไลด์ไม่มีผลต่อค่าตำแหน่งขององค์ประกอบที่อยู่ข้างใต้ในหน้าเว็บ หากภาพสไลด์ที่ไม่มีตำแหน่งปรากฏในตัวอย่างข้างต้น เหนือภาพสไลด์หน้า AMP (ที่ตำแหน่ง 2) ก็จะไม่ส่งผลต่อค่าตำแหน่งทุกจุดในหน้านั้น

ในทางกลับกัน รูปภาพขนาดย่อบางรูปในหน้าค้นหาหลัก (ในตอนท้าย) จะนำไปยังหน้าเว็บ (บางครั้งเมื่อมีการคลิกเพิ่มเพื่อขยาย) ทำให้ระบบนับเป็นตัวยึดตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น ตัวอย่างข้อมูลแนะนำที่มีลิงก์ไปยังพร็อพเพอร์ตี้ต้นทาง (โดยปกติ) ก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ 1 โปรดทราบว่าโฆษณานั้นจะไม่มีตำแหน่งการค้นหา

การคลิกคืออะไร

สำหรับผลการค้นหาเกือบทุกประเภท การคลิกที่พาผู้ใช้ไปยังหน้าภายนอก Google Search, Discover หรือ News จะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง และการคลิกลิงก์ที่ยังอยู่ในแพลตฟอร์ม Google จะไม่ถูกนับเป็นการคลิก (โดยปกติแล้วการคลิก AMP จะเปิดโปรแกรมอ่าน AMP ของ Google ซึ่งนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคลิกที่ไม่ออกจาก Google Search ได้ที่หัวข้อการปรับเกณฑ์การค้นหาคืออะไร

การคลิกผลการค้นหาไปยังหน้าภายนอก แสดงผล แล้วคลิกลิงก์เดียวกันอีกครั้งจะนับเป็นการคลิกเพียงครั้งเดียว การคลิกลิงก์อื่นจะนับเป็นการคลิกลิงก์ทีละครั้ง

ผลการค้นหาบางประเภทอาจนับการคลิกไม่เหมือนกัน โปรดอ่านเอกสารสำหรับประเภทองค์ประกอบการค้นหาเพื่อดูรายละเอียด

การปรับแต่งคำค้นหาคืออะไร

หากคุณคลิกลิงก์ภายในผลการค้นหาที่ใช้คำค้นหาใหม่ เราเรียกการดำเนินการนี้ว่าการปรับแต่งคำค้นหา เช่น หากคุณค้นหา "สายพันธุ์แมว" ผลลัพธ์อาจรวมแกลเลอรีรูปภาพของแมวสายพันธุ์ต่างๆ การคลิกรูปภาพในแกลเลอรี 1 รูปจะเป็นการใช้คำค้นหาใหม่สำหรับสายพันธุ์ที่คุณเลือก แต่ไม่ได้ออกจาก Google Search

ในทำนองเดียวกัน หากคุณค้นหา "แมวอ้วน" ในมุมมองหน้าเว็บเริ่มต้น แล้วเปลี่ยนเป็นมุมมองผลการค้นหารูปภาพ (หรือผลการค้นหาวิดีโอ ผลการค้นหาข่าวสาร หรือผลการค้นหาประเภทอื่น) ทุกครั้งที่เปลี่ยนมุมมองแสดงว่าคุณกำลังปรับคำค้นหาใหม่

หากลิงก์เป็นลิงก์การปรับแต่งคำค้นหา ระบบจะไม่นับการคลิกและการแสดงผลสำหรับลิงก์ดังกล่าว ซึ่งก็เหมาะสมแล้วเมื่อลองพิจารณาดู เพราะเจ้าของหน้าเป้าหมายของลิงก์การปรับแต่งคำค้นหาคือ... Google! เฉพาะการคลิกหรือการแสดงผลที่ไปยังหน้าอื่น (ในที่สุด) ที่ไม่ใช่หน้าผลการค้นหาจะบันทึกการคลิกหรือการแสดงผลใน Search Console

หากผู้ใช้ติดตามลิงก์การปรับแต่งคำค้นหา ก็จะต้องใช้คำค้นหาใหม่ในช่องข้อความค้นหา ระบบจะนับการแสดงผล ตำแหน่ง และข้อมูลการคลิกในหน้าผลการค้นหาใหม่ว่ามาจากคำค้นหาใหม่ของผู้ใช้นี้

URL ใดที่ระบบกำหนดข้อมูลของฉันไว้

Search Console ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพง่ายขึ้นโดยเลือก Canonical URL 1 รายการที่แสดงถึงรูปแบบต่างๆ ทั้งหมดของหน้า รายละเอียดปลีกย่อยนี้ประกอบด้วยรูปแบบตามอุปกรณ์ (เดสก์ท็อปหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่) URL ที่แตกต่างกันที่ชี้ไปยังหน้าเดียวกัน และแม้แต่เวอร์ชันภาษาทางเลือกของหน้าเว็บ

ข้อมูลการคลิก การแสดงผล และตำแหน่งสำหรับรูปแบบทั้งหมดของหน้าเว็บจะกำหนดให้กับ Canonical URL ที่ Google เลือกสำหรับหน้าเว็บแต่ละหน้า (แม้ว่าในบางกรณีก็อาจกำหนดข้อมูลสำหรับ URL จริง ไม่ใช่ Canonical URL) ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าคุณจะมี URL แยกต่างหากสำหรับหน้าเว็บเวอร์ชันอุปกรณ์เคลื่อนที่และเวอร์ชันเดสก์ท็อป แต่ระบบจะกำหนดข้อมูลการคลิกทั้งหมดให้ URL เดียวกันในรายงานประสิทธิภาพ วิธีนี้ทำให้คุณไม่ต้องเพิ่มข้อมูลทั้งหมดสำหรับ URL อุปกรณ์เคลื่อนที่ไปยัง URL เดสก์ท็อปที่เทียบเท่ากันด้วยตนเองเพื่อดูประสิทธิภาพของหน้าเว็บ (โปรดทราบว่าคุณสามารถเพิ่มตัวกรองในรายงานเพื่อแบ่งข้อมูลตามอุปกรณ์หรือหมวดหมู่อื่นๆ ได้ หากต้องการ)

หากเว็บไซต์ของคุณเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังหน้าอื่นหลังจากที่เข้าชมจาก Google แล้ว จะไม่มีผลต่อ URL ที่ระบบกำหนดการแสดงผลหรือการคลิก

รายละเอียดวิธีการเพิ่มเติมตามประเภทผลการค้นหา

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดวิธีการเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีบันทึกการคลิก การแสดงผล และตำแหน่งของผลการค้นหาแต่ละประเภท รายการนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนเท่านั้น

ลิงก์สีน้ำเงินธรรมดา

ผลการค้นหามาตรฐานที่ไม่มีการปรับแต่งซึ่งใครๆ ก็ชอบ ข้อมูลจะมาจาก Canonical URL สำหรับผลการค้นหานี้

ผลการค้นหาพื้นฐานที่มีลิงก์เดียว ใช่แล้ว นี่เป็นการสะกดคำแบบตั้งใจ โปรดอย่าแจ้งว่าเป็นข้อบกพร่อง :)

โปรดทราบว่า URL ของลิงก์ที่มองเห็นถัดจากชื่อเรื่องลงไปไม่ใช่ไฮเปอร์ลิงก์ ระบบจึงไม่บันทึกเป็นการแสดงผล และโปรดทราบว่า URL ที่มองเห็นได้อาจไม่ใช่ URL เป้าหมายที่ผู้ใช้จะเข้าชมเมื่อคลิกผลการค้นหานี้

  • การคลิก: ผู้ใช้คลิกลิงก์หลัก
  • การแสดงผล: ระบบจะใช้กฎการแสดงผลมาตรฐาน
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
หน้า AMP

หน้า AMP จะปรากฏเป็นลิงก์ผลการค้นหามาตรฐานหรือเป็นรูปแบบการสรุปภายในภาพสไลด์ การคลิกหน้า AMP แบบสรุปในภาพสไลด์จะเปิดหน้า AMP แบบสมบูรณ์ในโปรแกรมเปิด AMP แบบพิเศษ ผู้ใช้สามารถเปิดดูหน้า AMP แบบเต็มหน้าในโปรแกรมเปิดนี้ได้ตามลำดับของหน้าที่โฮสต์ในภาพสไลด์ URL ที่รายงานคือ Canonical URL สำหรับหน้า AMP

  • การคลิก: การคลิกหน้า AMP แบบสรุปในภาพสไลด์ (การเปิดหน้า) จะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง การดูหน้า AMP แบบเต็มหน้าในโปรแกรมเปิด AMP จะนับเป็นการคลิก 1 ครั้งและการแสดงผล 1 ครั้ง ดังนั้น หากคุณมีโปรแกรมเปิด AMP และเปิดดูหน้าดังกล่าว ระบบจะนับแต่ละหน้าที่คุณเห็นครั้งแรก (และเพียงครั้งแรกเท่านั้น) เป็นการคลิก (และการแสดงผล) 1 ครั้ง
  • การแสดงผล: ระบบจะนับการแสดงผลสำหรับหน้า AMP เมื่อหน้า AMP แสดงในภาพสไลด์ในผลการค้นหาหรือในโปรแกรมเปิด AMP แบบเต็มหน้า ระบบจะนับการแสดงผลเพียงครั้งเดียวไม่ว่าผู้ใช้จะดูหน้านั้นในภาพสไลด์หรือในโปรแกรมเปิดกี่ครั้งก็ตาม หากลิงก์ผลการค้นหาชี้ไปที่หน้า AMP ในรูปแบบ "ลิงก์สีน้ำเงิน" ธรรมดา (ไม่ได้อยู่ในภาพสไลด์) ระบบจะนับเป็นการแสดงผล 1 ครั้งด้วยเช่นกัน
  • ตำแหน่ง: ตำแหน่งขององค์ประกอบที่มีผลการค้นหาอยู่ภายใน (เช่น ภาพสไลด์ กลุ่มลิงก์สีน้ำเงิน เป็นต้น) ส่วนตำแหน่งในภาพสไลด์จะไม่มีการบันทึกไว้
ผลการค้นหาใน Discover

Discover เป็นรายการการ์ดหัวข้อแบบเลื่อนได้ที่ผู้ใช้เรียกดูได้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ เนื้อหา Discover ที่ผู้ใช้เห็นจะอิงตามความสนใจของผู้ใช้เอง การ์ดหัวข้อแต่ละรายการจะมีชื่อ ข้อความ 2-3 บรรทัด และรูปภาพจากหน้าเว็บต้นฉบับ โดยผู้ใช้ต้องแตะการ์ดเพื่อไปยังหน้าเว็บต้นฉบับ

Discover ยังโฮสต์ภาพสไลด์แบบเลื่อนตามแนวนอนไว้ในการ์ดได้อีกด้วย ภาพสไลด์นี้จะมีชุดหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องสำหรับหัวข้อนั้นๆ

การแสดงผลของ Discover ต่างจากผลการค้นหาของ Search ตรงที่จะไม่รวมข้อมูลตามพร็อพเพอร์ตี้ หากผลการค้นหาใน Discover จากพร็อพเพอร์ตี้เดียวกัน 2 รายการปรากฏขึ้นในรายการ Discover เดียวกัน ระบบจะนับการแสดงผลแต่ละรายการแยกกัน

  • การแสดงผล: ระบบจะนับการแสดงผลเมื่อมีการเลื่อนการ์ด Discover เข้ามาในมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นในรายการมาตรฐานหรือที่ฝังไว้ในภาพสไลด์ที่อยู่ในรายการ โดยระบบจะนับการแสดงผลเพียง 1 ครั้งต่อผลการค้นหาต่อเซสชัน หากผู้ใช้เลื่อนผ่านการ์ดไปแล้วเลื่อนกลับมา ระบบจะนับเป็นการแสดงผล 1 ครั้ง
  • การคลิก: ระบบจะนับการคลิก (การแตะ) URL ผลการค้นหาเมื่อผู้ใช้คลิกการ์ด ไม่ใช่เมื่อผู้ใช้แชร์หรือดำเนินการอย่างอื่นกับผลการค้นหา
  • ตำแหน่ง: ระบบจะไม่บันทึกตำแหน่งของผลการค้นหาใน Discover
แท็บ News ในผลการค้นหา
เมื่อดูผลการค้นหาของ News ในแท็บ News ใน Google Search ผลการค้นหาจะโหลดขึ้นในหน้าเว็บเช่นเดียวกับลิงก์สีน้ำเงินธรรมดา
  • การคลิก: การคลิกลิงก์ข่าวจะนับเป็นการคลิก 1 ครั้งสำหรับ URL ที่ได้รับการคลิกนั้น
  • การแสดงผล: ลิงก์ทั้งหมดในหน้าปัจจุบันจะได้รับการแสดงผล 1 ครั้ง ไม่ว่าจะมีการเลื่อนเข้ามาในมุมมองหรือไม่ ทั้งในอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือเดสก์ท็อป
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
แอป News และ news.google.com
ข้อมูลจาก news.google.com และจากแอป Google News ใน Android และ iOS จะแสดงในรายงานประสิทธิภาพของ News
  • การคลิก: การคลิกจาก Google News ที่นำผู้ใช้ไปยังพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ
  • การแสดงผล: จำนวนลิงก์มายังเว็บไซต์ของคุณที่ผู้ใช้เห็นใน Google News ระบบจะนับการแสดงผลเมื่อมีการเลื่อนลิงก์เข้ามาในมุมมองเท่านั้น การเลื่อนออกแล้วเลื่อนกลับมาหรือการออกจากหน้าเว็บแล้วกลับมาจะนับเป็นการแสดงผล 1 ครั้งในช่วงเซสชันเดียว
  • ตําแหน่ง: ไม่ได้บันทึก
ตัวอย่างข้อมูลแนะนำ

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำจะแสดงข้อมูลที่ดึงมาจากหน้าเว็บเดียวโดยเฉพาะ ซึ่งจะรวมถึงลิงก์ไปยังหน้าเว็บแหล่งที่มา

  • การคลิก: การคลิกลิงก์ที่ไปยังหน้าภายนอกในตัวอย่างข้อมูลแนะนำจะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง
  • การแสดงผล: ระบบจะใช้กฎการแสดงผลมาตรฐาน
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียทั่วไป

ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียจะกำหนดโดยใช้ Structured Data ซึ่งแสดงในผลการค้นหาของ Google Search ได้หลายรูปแบบ กฎทั่วไปต่อไปนี้ใช้กับผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียทั้งหมดที่ไม่ได้อธิบายไว้ในส่วนใดก็ตามของหน้านี้

  • การคลิก: การคลิกลิงก์ในผลการค้นหาที่พาผู้ใช้ออกจากผลการค้นหาจะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง
  • การแสดงผล: ระบบจะใช้กฎการแสดงผลมาตรฐาน
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสำหรับภาพสไลด์

ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสำหรับภาพสไลด์เป็นคอนเทนเนอร์แบบเลื่อน (โดยปกติเป็นการเลื่อนในแนวนอน) ที่มีชุดรายการประเภทเดียวกัน เช่น รูปภาพขนาดย่อหรือหน้า AMP

  • การคลิก: ลักษณะการทำงานขึ้นอยู่กับประเภทของรายการที่อยู่ภายใน
  • การแสดงผล: ต้องมีการเลื่อนรายการมาดูในภาพสไลด์ จึงจะมีการบันทึกการแสดงผล แต่ไม่จำเป็นต้องเลื่อนภาพสไลด์มาดูในหน้าปัจจุบัน
  • ตำแหน่ง: ภาพสไลด์จะมีตำแหน่งเดียวในผลการค้นหา และระบบจะกำหนดให้รายการทั้งหมดในภาพสไลด์มีตำแหน่งเดียวกันนั้นด้วย อย่างไรก็ตาม ภาพสไลด์จะใช้ตำแหน่งการค้นหาหากประเภทองค์ประกอบที่มีอยู่สามารถมีตำแหน่งการค้นหาได้เท่านั้น: เช่น ภาพสไลด์หน้า AMP จะมีตำแหน่งได้เนื่องจากหน้า AMP มีตำแหน่งได้ แต่ภาพสไลด์ลิงก์ไปยังคำค้นหาของ Google ที่กำหนดไว้จะไม่มีตำแหน่งการค้นหาเนื่องจากลิงก์ดังกล่าวจะมีตำแหน่งการค้นหาไม่ได้
ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสําหรับคําถามที่พบบ่อยและผลลัพธ์ "และผู้คนยังถามถึง"

ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียสําหรับคําถามที่พบบ่อยและคําแนะนํา "และผู้คนยังถามถึง" คือรายการคำถาม/คำตอบที่ขยายได้ในผลการค้นหาซึ่งมีเนื้อหาจากเว็บไซต์ของคุณ คำถามที่พบบ่อยเป็นผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียโดยคุณใช้ Structured Data ในเว็บไซต์เพื่อเขียนโค้ดได้อย่างชัดแจ้ง ส่วน "และผู้คนยังถามถึง" เป็นคำแนะนำตามอัลกอริทึมโดย Google ที่ให้ข้อมูลและลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ

  • การคลิก: ระบบจะไม่นับการคลิกเพื่อขยายรายการ การคลิกลิงก์ใดก็ตามไปยังเว็บไซต์ของคุณในส่วนที่ขยายจะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง
  • การแสดงผล: เมื่อมีการขยายรายการ ระบบจะนับการแสดงผลสําหรับลิงก์ภายในส่วนที่ขยาย
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
ประเภทผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียในมุมมองรายการและมุมมองโดยละเอียด (ตําแหน่งงานและกิจกรรม)

ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียบางประเภทมีผลการค้นหาแบบ 2 ขั้นตอน ผลการค้นหาขั้นต้นเป็นลิสต์รายการสั้นๆ ที่ประกอบด้วยผลการค้นหาอันดับต้นๆ โดยมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยและลิงก์ไปยังมุมมองโดยละเอียดของแต่ละรายการ (มุมมองรายการ) การคลิกรายการในลิสต์จะเปิดมุมมองโดยละเอียดของรายการที่เลือก (มุมมองรายละเอียด) ซึ่งมีลิงก์ไปยังผู้ให้บริการอย่างน้อย 1 รายของรายการนั้นๆ

มุมมองรายการรองรับการดำเนินการต่อไปนี้

  • คลิกเพื่อขยายลิสต์รายการ:
    • ในผลการค้นหาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การดำเนินการนี้จะขยายให้เห็นรายการทั้งหมดในมุมมองรายการ
    • ในผลการค้นหาบนเดสก์ท็อป การดำเนินการนี้จะขยายลิสต์รายการ รวมทั้งเปิดมุมมองรายละเอียดของรายการแรกในลิสต์
  • คลิกผลการค้นหาที่ต้องการในลิสต์รายการแบบสั้น รายละเอียดมีดังนี้
    • ในผลการค้นหาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ การดำเนินการนี้จะเปิดเฉพาะมุมมองรายละเอียดของรายการที่คลิก
    • ในผลการค้นหาบนเดสก์ท็อป การดำเนินการนี้จะขยายลิสต์รายการ รวมทั้งแสดงมุมมองรายละเอียดของรายการที่คลิก

ไปที่ส่วนต่างๆ ด้านล่างเพื่อดูวิธีคำนวณจำนวนคลิก การแสดงผล และตำแหน่งในแต่ละมุมมอง

นี่คือผลการค้นหาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่แสดงมุมมองรายการในตอนเริ่มต้นและมุมมองรายละเอียดสำหรับประกาศรับสมัครงานที่เฉพาะเจาะจง

 

ผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียประเภทต่อไปนี้เป็นมุมมองรายการ/รายละเอียด

กรองรายงานประสิทธิภาพเพื่อแสดงข้อมูลในมุมมองรายการหรือมุมมองรายละเอียดสำหรับผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียประเภทหนึ่งๆ (เช่น ประกาศรับสมัครงาน/รายละเอียดงาน ข้อมูลกิจกรรม/รายละเอียดกิจกรรม)

เมตริกมุมมองรายการ

หากรายการในมุมมองรายการมีผู้ให้บริการหลายราย ระบบจะแสดงเฉพาะผู้ให้บริการรายแรกเท่านั้น เช่น ถ้าตำแหน่งงานหนึ่งๆ รับสมัครผ่านทางเอเจนซี 3 ราย เฉพาะเอเจนซีรายแรกในลิสต์ผู้ให้บริการจะแสดงขึ้นมา (และได้รับการแสดงผล) ในมุมมองรายการ ในมุมมองรายการ จะมีการแสดงผู้ให้บริการเพียงรายเดียวสำหรับแต่ละรายการในลิสต์ ซึ่งเป็น URL ที่ได้รับการคลิก การแสดงผล และตำแหน่ง

  • การคลิก: การคลิกรายการในมุมมองรายการ (ในลิสต์รายการแบบสั้นหรือแบบเต็ม) จะนับเป็นการคลิก 1 ครั้งสำหรับผู้ให้บริการที่แสดงในรายการในลิสต์ การขยายลิสต์รายการแบบสั้นบนเดสก์ท็อปจะเปิดมุมมองรายละเอียดสำหรับรายการแรกโดยอัตโนมัติ แต่จะไม่นับเป็นการคลิก 1 ครั้งในรายการแรกในลิสต์
  • การแสดงผล: ระบบจะนับเป็นการแสดงผล 1 ครั้งเมื่อรายการในลิสต์แสดงในมุมมองรายการแบบสั้น และยังจะนับเมื่อมีการขยายมุมมองรายการ ไม่ว่าผู้ใช้จะเลื่อนดูรายการนั้นจริงหรือไม่ก็ตาม ดังนั้น หากรายการหนึ่งๆ แสดงในมุมมองแบบสั้น แล้วผู้ใช้คลิกเพื่อขยายลิสต์รายการ ระบบจะนับเป็นการแสดงผล 2 ครั้ง หากรายการไม่แสดงในมุมมองแบบสั้น และผู้ใช้คลิกเพื่อขยายลิสต์รายการ ระบบจะนับเป็นการแสดงผลเพียงครั้งเดียว
  • ตำแหน่ง: ลิสต์รายการทั้งหมดที่มองเห็นได้ในมุมมองแบบสั้นจะได้รับการกำหนดตำแหน่งเพียงตำแหน่งเดียว นั่นคือตำแหน่งของคอนเทนเนอร์มุมมองรายการ ในลิสต์รายการแบบขยาย แต่ละรายการในลิสต์จะได้รับการกำหนดตำแหน่งที่ไม่เหมือนกันภายในลิสต์ โดยรายการที่อยู่ด้านบนสุดจะได้รับการกำหนดเป็น 1 ส่วนรายการที่ 2 จะได้รับการกำหนดเป็น 2 และต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้น หากรายการอยู่ในตำแหน่งที่ 2 ในลิสต์แบบสั้นและผู้ใช้คลิกเพื่อขยายลิสต์นั้น ตำแหน่งของรายการที่แสดงจะคำนวณดังนี้

    (ตำแหน่งของคอนเทนเนอร์ลิสต์(ปกติจะเป็น 1) + ตำแหน่งภายในลิสต์ (2)) / 2 = 1.5

เมตริกมุมมองรายละเอียด

  • การคลิก: การคลิกผู้ให้บริการในมุมมองรายละเอียดจะนับเป็นการคลิก 1 ครั้งเฉพาะสำหรับผู้ให้บริการที่เลือกเท่านั้น มุมมองรายละเอียดจะแสดงผู้ให้บริการได้หลายราย แต่ผู้ใช้ต้องเลือกผู้ให้บริการเพียงรายเดียว
  • การแสดงผล: ผู้ให้บริการทั้งหมดที่แสดงในมุมมองรายละเอียดจะได้รับการแสดงผล 1 ครั้ง ไม่ว่าผู้ใช้จะมายังมุมมองรายละเอียดได้อย่างไร มุมมองรายละเอียดจะเปิดขึ้นมาได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
  • ตำแหน่ง: ตำแหน่งของผู้ให้บริการในลิสต์ผู้ให้บริการสำหรับรายการนี้
  • URL: URL ของผู้ให้บริการจะเป็นที่มาของเมตริก
เหตุใดการแสดงผลรายละเอียดของฉันจึงสูงกว่าการคลิกลิสต์ของฉัน เหตุผลที่ทำให้เกิดกรณีนี้ขึ้นมีดังต่อไปนี้
  • หากคุณแชร์ลิงก์ไปยังแผงรายละเอียดโดยตรงกับเพื่อนแล้วเพื่อนเปิดลิงก์นั้น ระบบจะนับเป็นการแสดงผล 1 ครั้งสำหรับมุมมองรายละเอียด และไม่นับเป็นการคลิกหรือการแสดงผลสำหรับมุมมองรายการ
  • ในเดสก์ท็อป การขยายมุมมองรายการจะแสดงมุมมองรายละเอียดของรายการแรกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะนับเป็นการแสดงผลรายละเอียดโดยไม่มีการคลิกรายการที่เกี่ยวข้อง
  • เมื่อมีการคลิกรายการ ผู้ให้บริการเพียงรายเดียวจะได้รับคลิก แต่ในมุมมองรายละเอียดที่เป็นผลการค้นหา ผู้ให้บริการทั้งหมดที่โพสต์รายละเอียดจะได้รับการแสดงผล

ตัวอย่าง

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างสถานการณ์ต่างๆ ของผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียของประกาศรับสมัครงาน

ตัวอย่างที่ 1: ประกาศรับสมัครงานที่แสดงในมุมมองรายการแบบสั้น (ตำแหน่งที่ 2)

การดำเนินการ: ผู้ใช้คลิกเพื่อขยายลิสต์ คลิกประกาศรับสมัครงานเพื่อดูรายละเอียด จากนั้นคลิกมุมมองรายละเอียดงานเพื่อไปยังหน้าเว็บของผู้ให้บริการ

  • ประกาศรับสมัครงาน:
    • การแสดงผล: 2 (1 ในรายการแบบย่อ, 1 ในรายการแบบขยาย)
    • การคลิก: 1 (คลิกเพื่อเปิดรายละเอียดงาน)
    • ตำแหน่ง: 1.5 ((1 สำหรับมุมมองรายการแบบสั้น + 2 สำหรับตำแหน่งในรายการแบบขยาย) / 2) = 1.5)
  • รายละเอียดงาน:
    • การแสดงผล: 1
    • การคลิก: 1
    • ตำแหน่ง: 2

ตัวอย่างที่ 2: ประกาศรับสมัครงานที่ไม่แสดงในรายการแบบย่อ (ตำแหน่งที่ 5)

การดำเนินการ: ผู้ใช้คลิกเพื่อขยายลิสต์ คลิกประกาศรับสมัครงานเพื่อดูรายละเอียด ไม่ได้คลิกเพื่อไปที่หน้า

  • ประกาศรับสมัครงาน:
    • การแสดงผล: 1 (0 ในรายการแบบย่อ, 1 ในรายการแบบขยาย)
    • การคลิก: 1 (เพื่อเปิดรายละเอียดงาน)
    • ตำแหน่ง: 5 (ตำแหน่งในรายการแบบขยาย)
  • รายละเอียดงาน:
    • การแสดงผล: 1
    • การคลิก: 0
    • ตำแหน่ง: 1

ตัวอย่างที่ 3: ประกาศรับสมัครงานไม่แสดงในรายการแบบย่อ (ตำแหน่งที่ 10)

การดำเนินการ: ผู้ใช้คลิกเพื่อขยายลิสต์ แต่ไม่ได้เลื่อนลงเพื่อดูประกาศรับสมัครงาน

  • ประกาศรับสมัครงาน:
    • การแสดงผล: 1 (0 ในรายการแบบย่อ, 1 ในรายการแบบขยาย)
    • การคลิก: 0
    • ตำแหน่ง: 10 สำหรับรายการแบบขยาย แม้ว่าผู้ใช้จะไม่เลื่อนดูผลการค้นหา
  • รายละเอียดงาน:
    • การแสดงผล: 0
    • การคลิก: 0
    • ตำแหน่ง: ไม่มี

ตัวอย่างที่ 4: ประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งที่ 1 บนเดสก์ท็อป

การดำเนินการ: ผู้ใช้คลิกเพื่อขยายลิสต์รายการ ซึ่งจะเปิดรายการแรกโดยอัตโนมัติ รายการนี้มีผู้ให้บริการ 2 ราย รายแรกคือ X รายที่ 2 คือ Y จากนั้นผู้ใช้คลิกผู้ให้บริการ X ในรายการที่ขยาย

ผู้ให้บริการ X

  • ประกาศรับสมัครงาน:
    • การแสดงผล: 1
    • การคลิก: 0 (การขยายอัตโนมัติในเดสก์ท็อปจะไม่นับเป็นการคลิก 1 ครั้งที่ประกาศรับสมัครงาน)
    • ตำแหน่ง: 1
  • รายละเอียดงาน
    • การแสดงผล: 1
    • การคลิก: 1
    • ตำแหน่ง: 1

ผู้ให้บริการ Y

  • ประกาศรับสมัครงาน:
    • การแสดงผล/การคลิก/ตำแหน่ง: 0
  • รายละเอียดงาน
    • การแสดงผล: 1
    • การคลิก: 0
    • ตำแหน่ง: 2
ลิงก์ติดตั้งแอป

เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูลจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ หากผลการค้นหามีหน้าแอปของแอปที่ไม่ได้อยู่ในอุปกรณ์ ผู้ใช้อาจเห็นลิงก์สำหรับติดตั้งแอปในอุปกรณ์นั้น (โดยระบบจะไม่แสดงผลการค้นหาที่ชี้ไปยังหน้าต่างๆ ในแอป)

  • การคลิก: การคลิกลิงก์ที่ไปยังตำแหน่งการติดตั้งจะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง ซึ่งไม่ได้รับประกันว่าผู้ใช้ได้ติดตั้งแอปดังกล่าวแล้วจริง
  • การแสดงผล: ระบบจะใช้กฎการแสดงผลมาตรฐาน
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
  • URL: URL ที่เชื่อมโยงกับลิงก์ติดตั้งแอปคือ URI ระดับรากของอุปกรณ์ (ไม่มี app://<package_or_id> นำหน้า) ซึ่งก็คือ "/"
ผลการค้นหารูปภาพ

ผลการค้นหาที่เป็นรูปภาพอาจปรากฏเป็นภาพขนาดย่อที่ฝังอยู่ในหน้าผลการค้นหาแบบรวม หรือเป็นแบบในหน้าในหน้าผลการค้นหารูปภาพ ในหน้าผลการค้นหาแบบรวม บางครั้งผลดังกล่าวจะปรากฏในภาพสไลด์รูปภาพ

ในข้อมูล Search Analytics รูปภาพจะเป็นเพียงลิงก์ไปยัง URL ของหน้าโฮสต์ ซึ่งหมายความว่า Search Console จะไม่แยกรูปที่ต่างกันในหน้าเดียวกัน แต่จะคิดว่าเป็นลิงก์เหมือนกันและจะตรวจสอบเพียงการคลิก การแสดงผล และตำแหน่ง

รูปภาพจะปรากฏในผลการค้นหาทั้งในเว็บและรูปภาพ โดยที่ Search Analytics จะบันทึกข้อมูลแยกกันสำหรับการค้นหาแต่ละประเภท และจะไม่นำข้อมูลในการค้นหาแต่ละประเภทมารวมกัน

การคลิก: การคลิกเพื่อขยายรูปภาพขนาดย่อจะไม่นับเป็นการคลิก การคลิกรูปภาพที่ขยายแล้ว หรือการคลิกรูปภาพใดๆ ที่พาผู้ใช้ออกจาก Google Search จะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง

การแสดงผล: ระบบจะนับการแสดงผลเมื่อผู้ใช้ดูรูปภาพขนาดย่อหรือรูปภาพที่ขยายแล้ว ระบบจะนับการแสดงผลเพียง 1 ครั้งต่อ URL ของหน้าโฮสต์ ดังนั้น หากผู้ใช้เลื่อนออกไปแล้วกลับมาอีก หรือขยายรูปภาพขนาดย่อเป็นรูปภาพที่ใหญ่ขึ้น ระบบจะนับการดำเนินการดังกล่าวเป็นการแสดงผลครั้งเดียว ระบบจะบันทึกการแสดงผลครั้งเดียวต่อ URL 1 รายการ หากคำค้นหาแสดงรูปภาพที่ไม่เหมือนกันหลายรูปซึ่งมาจากหน้าเดียวกัน ระบบจะบันทึกข้อมูลเหล่านั้นเป็นการแสดงผลครั้งเดียว การบันทึกการแสดงผลจะอิงจากมุมมองผลการค้นหาที่ผู้ใช้เปิดต่อไปนี้

  • แท็บผลการค้นหาแบบรวม - ในหน้าผลการค้นหาเริ่มต้น ซึ่งจะแสดงผลการค้นหารวมกันทุกประเภท ระบบจะนับการแสดงผลรูปภาพไม่ว่าจะมีการเลื่อนดูรูปภาพในหน้าต่างเบราว์เซอร์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากรูปภาพอยู่ภายในภาพสไลด์ในหน้านี้ (หรือหน้าอื่นๆ) คุณต้องเลื่อนมาดูในภาพสไลด์ แล้วระบบจึงจะนับการแสดงผลดังกล่าวได้
  • แท็บการค้นหารูปภาพ - ระบบจะนับการแสดงผลรูปภาพเมื่อมีการเลื่อนรูปภาพมาดูเท่านั้น

ตำแหน่ง:

  • ตำแหน่งในแท็บผลการค้นหาแบบรวมจะคำนวณโดยใช้กฎตำแหน่งมาตรฐาน เมื่อบล็อกรูปภาพใช้ตำแหน่งเดียวกัน
  • ตำแหน่งในผลการค้นหารูปภาพจะนับจากด้านซ้ายไปด้านขวา แล้วนับจากด้านบนลงด้านล่าง (หรือจากด้านขวาไปด้านซ้ายสำหรับภาษาที่อ่านจากด้านขวาไปทางด้านซ้าย) เช่น ผลการค้นหารูปภาพภาษาอังกฤษในหน้าที่อ่านจากด้านซ้ายไปด้านขวาจะนับตำแหน่งด้วยวิธีนี้

อันดับการนับตำแหน่งในผลการค้นหารูปภาพในชุดผลการค้นหาแบบซ้ายไปขวา

ในหนาผลการค้นหารูปภาพ หน้าจอที่กว้างขึ้นจะแสดงผลลัพธ์ต่อแถวได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากจำนวนรูปภาพต่อแถวจะแตกต่างกันตามขนาดของหน้าจอรวมถึงความกว้างของรูปภาพแต่ละรูป จึงยากที่จะกำหนดความหมายที่ชัดเจนของค่าตำแหน่งในผลการค้นหารูปภาพ

URL: URL ของหน้าโฮสต์รูปภาพหลัก

การใช้สื่อ

ผลลัพธ์ที่เป็นการใช้สื่อช่วยให้ผู้ใช้เริ่มเล่นเนื้อหาเสียงหรือวิดีโอได้โดยตรงจากผลการค้นหา (ผลลัพธ์ที่เป็นพอดแคสต์ไม่นับว่าเป็นผลลัพธ์ที่เป็นการใช้สื่อ)

  • การคลิก: ผู้ใช้คลิกเพื่อเริ่มเล่นในเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชัน
  • การแสดงผล: ผู้ใช้เห็นผลการค้นหาที่มีการใช้สื่อ
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
  • URL: ค่า Action.url ซึ่งเป็น URL ของหน้าเว็บหรือแอปพลิเคชันที่เปิดขึ้นเมื่อผู้ใช้คลิกที่ผลการค้นหา
แบบฝึกโจทย์ปัญหา

ผลการค้นหาแบบฝึกโจทย์ปัญหาคือโจทย์ปัญหาที่ผู้ใช้สามารถตอบคําถามในหน้าค้นหาซึ่งมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ต้นทาง

  • การคลิก: ระบบจะนับการคลิกเมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์ที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดเว็บไซต์ของคุณ โดยจะไม่รวมการคลิกที่เชื่อมโยงกับการตอบโจทย์ปัญหาในหน้าค้นหา
  • การแสดงผล: เมื่อมีการดูแบบฝึกหัดแก้ปัญหา ระบบจะนับการแสดงผล 1 ครั้งสำหรับ URL ที่เชื่อมโยง โดยระบบจะนับการแสดงผลครั้งเดียวต่อ URL 1 รายการ แม้ว่า URL เดียวกันจะเชื่อมโยงกับแบบฝึกหัดแก้ปัญหาหลายรายการก็ตาม
  • ตำแหน่ง: ระบบจะใช้กฎการแสดงตำแหน่งมาตรฐาน
  • URL: URL ของหน้าเว็บที่ระบบจะพาผู้ใช้ไป

ข้อมูลภาพรวมโดย AI

ข้อมูลภาพรวมโดย AI จะแสดงภาพรวมพร้อมลิงก์ไปยังแหล่งข้อมูลบนเว็บที่สนับสนุนข้อมูลนั้น 

  • การคลิก: การคลิกลิงก์ไปยังหน้าภายนอกในข้อมูลภาพรวมโดย AI จะนับเป็นการคลิก 1 ครั้ง 
  • การแสดงผล: ระบบจะใช้กฎการแสดงผลมาตรฐาน หากต้องการให้นับเป็นการแสดงผล ต้องเลื่อนหรือขยายลิงก์ให้อยู่ในมุมมอง
  • ตำแหน่ง: ข้อมูลภาพรวมโดย AI จะมีตำแหน่งเดียวในผลการค้นหา และระบบจะกำหนดให้ลิงก์ทั้งหมดในข้อมูลภาพรวมโดย AI มีตำแหน่งเดียวกันนั้นด้วย 
หมายเหตุ: Search Console จะไม่รวมข้อมูลจากเวอร์ชันทดลอง "ข้อมูลภาพรวมโดย AI และอื่นๆ" ใน Search Labs

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
เป็นมือใหม่ Search Console ใช่ไหม

หากไม่เคยใช้ Search Console มาก่อน เริ่มได้เลยที่นี่ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ ผู้เชี่ยวชาญ SEO หรือนักพัฒนาเว็บไซต์

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
4607336617914748421
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
83844
false
false