โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data

โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Dataจะช่วยมาร์กอัปองค์ประกอบในหน้าเว็บเพื่อให้ Google เข้าใจข้อมูลที่อยู่ในหน้าดังกล่าว เมื่อ Google เข้าใจข้อมูลในหน้าเว็บของคุณชัดเจนขึ้น ก็จะนำเสนอหน้านั้นในรูปแบบใหม่ที่น่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้นได้ใน Google Search นอกจากนี้ หากต้องการส่งอีเมลในรูปแบบ HTML ให้แก่ลูกค้า โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะแสดงวิธีการเปลี่ยนเทมเพลตอีเมลให้คุณดู จึงช่วยให้ Gmail นำเสนอข้อมูลด้วยวิธีใหม่ๆ ที่มีประโยชน์แก่ผู้ใช้ได้ด้วย

เปิดโปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data

ตัวอย่าง

  • กิจกรรม: หากคุณมาร์กอัปกิจกรรมในเว็บไซต์ เมื่อถึงคราวต่อไปที่ Google ทำการ Crawl เว็บไซต์ ข้อมูลกิจกรรมก็จะพร้อมใช้กับตัวอย่างข้อมูลริชมีเดียในหน้าผลการค้นหา ดังนี้
  • อีเมล: หากอีเมลเกี่ยวกับเที่ยวบินของคุณมีมาร์กอัปเกี่ยวกับการสำรองเที่ยวบิน Gmail จะแสดงข้อมูลนี้ในไคลเอ็นต์บนเดสก์ท็อปหรือในฟีดส่วนตัวของคุณได้

หากไม่มีความถนัดที่จะเพิ่มโค้ดลงในเว็บไซต์เอง คุณอาจลองใช้เครื่องมือไฮไลต์แทน

หากคุณเชี่ยวชาญทางเทคนิค โปรดดู Structured Data และเพิ่มมาร์กอัปลงในเว็บไซต์ด้วยตัวคุณเอง

มาร์กอัปหน้าเว็บหรืออีเมล

คุณมาร์กอัปองค์ประกอบต่างๆ ในหน้าเว็บ HTML หรือในอีเมล HTML ก็ได้

มาร์กอัปหน้าเว็บ

วิธีมาร์กอัปองค์ประกอบในหน้าเว็บมีดังนี้

  1. เปิดโปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data
  2. เลือกแท็บเว็บไซต์
  3. เลือกประเภทหน้าที่คุณจะมาร์กอัป เช่น หน้าภาพยนตร์หรือหน้ากิจกรรม หน้าเว็บ 1 หน้า มีได้หลายรายการ แต่เราขอแนะนำให้รายการทั้งหมดเป็นประเภทเดียวกัน (เช่น เป็นภาพยนตร์หรือเป็นกิจกรรมเหมือนกันหมด)
  4. ป้อน URL ของหน้าที่มีอยู่แล้วหรือ HTML ของหน้า Raw หากเป็น URL อย่าลืมทำให้ทุกคนดูหน้าเว็บได้โดยไม่ต้องลงชื่อเข้าสู่ระบบ (ทดสอบการเข้าถึงหน้าเว็บด้วยการเปิดหน้าต่างที่ไม่ระบุตัวตนใน Chrome แล้วลองเข้าชมหน้าเว็บของคุณ หากเข้าดูได้แสดงว่าหน้าเว็บเป็นแบบสาธารณะแล้ว)
  5. เลือกเริ่มการติดแท็ก
  6. ไฮไลต์ส่วนต่างๆ ของหน้าที่มีข้อมูลสำคัญ (เช่น เวลาเริ่มต้นในหน้ากิจกรรม) จากนั้นระบุประเภทข้อมูลในเมนูแบบเลื่อนลงที่แสดงขึ้น ("เวลาเริ่มต้น")
    1. หากคุณมีสตริงวันที่ที่ซับซ้อนหรือพบปัญหาในการติดแท็กวันที่ โปรดดูการติดแท็กวันที่ขั้นสูง
    2. หากต้องการเพิ่มข้อมูลที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในหน้า ให้ดูเพิ่มข้อมูลที่ขาดหายไป
    3. หากต้องการนำแท็กที่โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data สร้างขึ้นมาออก โปรดดูนำแท็กออก
  7. โปรดใส่ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับประเภทข้อมูลที่คุณเลือก ในแผงรายการข้อมูลของฉัน คุณจะเห็นรายการค่าที่เป็นไปได้สำหรับแต่ละรายการ โดยจะมีป้ายกำกับค่าที่จำเป็นอยู่ เช่น ทุกกิจกรรมจะต้องมีชื่อกิจกรรม สถานที่ และวันที่เริ่มต้น
  8. เมื่อคุณแท็กข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดเสร็จแล้ว ให้เลือกสร้าง HTML เพื่อสร้างโค้ดของหน้า เลือกรูปแบบเอาต์พุต โดยค่าเริ่มต้นจะเป็น JSON-LD (แนะนำโดย Google) แต่คุณก็เลือก Microdata ได้เช่นกัน คัดลอกและวางโค้ดจากหน้าต่างเอาต์พุตหรือเลือกดาวน์โหลด วิธีที่คุณใช้โค้ดจะขึ้นอยู่กับรูปแบบ ดังนี้
    1. สำหรับ JSON-LD: คัดลอกและวางโค้ดที่สร้างลงในส่วนเนื้อหาของหน้าที่มีอยู่
    2. สำหรับ Microdata: แทนที่หน้าด้วย HTML ที่สร้างขึ้น
  9. ทดสอบโค้ดด้วยการคัดลอกโค้ดที่สร้างและวางลงในการทดสอบผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ เครื่องมือทดสอบนี้จะแจ้งให้คุณทราบหากยังเหลือช่องที่คุณต้องป้อนข้อมูลให้ครบเพื่อให้ Google เข้าใจหน้าดังกล่าว และสำหรับข้อมูลบางประเภท เครื่องมือนี้ยังช่วยแสดงตัวอย่างหน้าที่จะปรากฏในผลการค้นหาของ Google Search อีกด้วย
  10. Google อาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์จึงจะพบโค้ดของหน้าใหม่ หากข้อมูลได้รับการรวบรวม และเป็นข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง ก็จะปรากฏเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ หากเว็บไซต์ของคุณไม่แสดงเป็นผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ โปรดดูสาเหตุที่เป็นไปได้

มาร์กอัปอีเมล

วิธีมาร์กอัปอีเมลในรูปแบบ HTML มีดังนี้

  1. เปิดโปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data
  2. เลือกแท็บอีเมล
  3. เลือกประเภทของข้อมูลที่คุณจะมาร์กอัป เช่น การสำรองที่นั่งรถบัส หรือการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์
  4. ป้อน HTML ของอีเมล
  5. เลือกเริ่มการติดแท็ก
  6. ไฮไลต์ส่วนต่างๆ ของอีเมลที่มีข้อมูลสำคัญ (เช่น หมายเลขการจองสำหรับการสำรองที่นั่งรถบัส) จากนั้นเลือกประเภทข้อมูลในเมนูแบบเลื่อนลงที่แสดงขึ้น ("หมายเลขการจอง")
    1. หากคุณมีสตริงวันที่ที่ซับซ้อนหรือพบปัญหาในการติดแท็กวันที่ โปรดดูการติดแท็กวันที่ขั้นสูง
    2. หากต้องการเพิ่มข้อมูลที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ในอีเมล ให้ดูเพิ่มข้อมูลที่ขาดหายไป
    3. หากต้องการนำแท็กที่โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data สร้างขึ้นมาออก โปรดดูนำแท็กออก
  7. โปรดใส่ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับประเภทข้อมูลที่คุณเลือก ในแผงรายการข้อมูลของฉัน คุณจะเห็นรายการค่าที่เป็นไปได้ทั้งหมด พร้อมค่าที่จำเป็นอยู่ในป้ายกำกับ หากคุณไม่ได้ใส่ค่าที่จำเป็นทั้งหมด Google จะดำเนินการกับอีเมลดังกล่าวไม่ได้
  8. หากไอคอนแจ้งเตือน (ไอคอนการแจ้งเตือน) ปรากฏอยู่ข้างองค์ประกอบที่ติดแท็ก ให้เลือกข้อมูลข้างไอคอน ตรวจสอบการติดแท็ก และทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้
    • หากการติดแท็กไม่ถูกต้อง ให้เลือก X ข้างข้อมูล จากนั้นให้ติดแท็กข้อมูลใหม่
    • หากการติดแท็กถูกต้องแล้ว ให้เลือกไอคอนแจ้งเตือน (ไอคอนการแจ้งเตือน) แล้วเลือกล้างคำเตือน
  9. เมื่อติดแท็กเสร็จแล้ว ให้เลือกสร้าง HTML เพื่อสร้าง HTML ที่คุณควรใช้สำหรับอีเมล โดยค่าเริ่มต้นจะเป็น JSON-LD เพราะ Google แนะนำให้ใช้ JSON-LD แต่คุณก็เลือก Microdata ได้เช่นกัน เลือกดาวน์โหลด หรือคัดลอกและวาง HTML ที่สร้างขึ้น
    1. สำหรับ JSON-LD: คัดลอกและวางโค้ดที่สร้างขึ้นลงในส่วนเนื้อหาของอีเมล
    2. สำหรับ Microdata: แทนที่อีเมลด้วย HTML ที่สร้างขึ้น
  10. ทดสอบโค้ดของคุณด้วยการส่งอีเมลไปยังบัญชี Gmail หรือใช้โปรแกรมตรวจสอบสคีมาอีเมล

บันทึกและแก้ไขหน้าหรืออีเมลต่อ

หากต้องการบันทึกมาร์กอัปในสถานะปัจจุบัน ให้บุ๊กมาร์กหน้าในเบราว์เซอร์ โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data จะบันทึกสถานะของคุณ รวมถึงค่ามาร์กอัปทั้งหมดไว้เป็นเวลา 1 เดือน

 

นำแท็กออก

คุณจะยกเลิกแท็กบางส่วนหรือทั้งหมดที่โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data ขึ้นมาได้

วิธีล้างเฉพาะแท็กที่ต้องการ

  1. คลิกที่แท็กในหน้าเว็บหรืออีเมลตัวอย่าง
  2. จากเมนูป๊อปอัปที่แสดงหลังจากที่คุณเลือกแท็ก ให้เลือกล้างแท็ก
หรือจะค้นหาข้อมูลในคอลัมน์ "รายการข้อมูลของฉัน" โดยวางตัวชี้เมาส์บนข้อมูลดังกล่าว และคลิกเครื่องหมาย X ที่ปรากฏขึ้น

 

วิธีล้างแท็กทั้งหมด

  1. โปรดระวัง: คุณจะเลิกทำคำขอล้างแท็กทั้งหมดไม่ได้ และต้องเริ่มติดแท็กใหม่ทั้งหมดแทน หากเนื้อหาของคุณมีมาร์กอัปอยู่แล้ว โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะไม่นำมาร์กอัปที่มีอยู่แล้วออก การล้างแท็กทั้งหมดจะล้างเฉพาะแท็กที่เพิ่มโดยโปรแกรมช่วยมาร์กอัปเท่านั้น
  2. เลือกไอคอนรูปเฟือง การตั้งค่า
  3. เลือกล้างแท็กทั้งหมดจากหน้าเว็บนี้
การติดแท็กวันที่ขั้นสูง

โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data เข้าใจวันที่ในรูปแบบต่างๆ มากมาย ตราบใดที่วันที่ประกอบด้วยวัน เดือน และปี คุณให้ข้อมูลที่ขาดหายไป (เช่น ปี) ได้ด้วยการเพิ่มข้อมูลที่ขาดหายไปลงในชุดหน้าเว็บ

หากเนื้อหาตัวอย่างของคุณแสดงวันที่เป็นข้อมูลชิ้นเดียว (ตัวอย่างเช่น 4 มิถุนายน 2012) ขอแนะนำให้คุณแท็กวันที่เป็นข้อมูลชิ้นเดียว ยิ่งคุณสร้างแท็กน้อยเพียงใด การติดแท็กของคุณก็จะเร็วขึ้นและโปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะทำงานได้ถูกต้องยิ่งขึ้น

วิธีติดแท็กวันที่เป็นข้อมูลชิ้นเดียว

  1. เริ่มติดแท็กข้อมูลตามที่ได้อธิบายไว้ในติดแท็กหน้าหรือติดแท็กอีเมล
  2. ในหน้าเครื่องมือแท็ก ให้ใช้เมาส์เลือกวันที่ เช่น เลือก "4 มิถุนายน 2012"
  3. เลือกวันที่ > ช่วงวันที่/เวลา จากเมนูตามบริบทที่ปรากฏขึ้น

    โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะเพิ่มวันที่ลงในคอลัมน์ "รายการข้อมูลของฉัน"

  4. ติดแท็กหน้าให้เสร็จตามที่อธิบายไว้ในติดแท็กหน้าหรือติดแท็กอีเมล

การติดแท็กวันที่เป็นข้อมูลแยกชิ้น

เนื้อหาบางอย่างจะแสดงข้อมูลวันที่แยกชิ้นกัน หรือใช้ป้ายกำกับในการระบุส่วนประกอบวันที่แยกชิ้น ตัวอย่างเช่น หน้าเว็บที่มีกิจกรรมหลายรายการอาจแสดงเดือนและปี 1 ครั้งที่ด้านบน และแสดงวันถัดจากแต่ละกิจกรรม หากเนื้อหาของคุณแสดงวันที่เป็นข้อมูลแยกชิ้น คุณจะต้องแท็กวันที่แยกชิ้นกัน 

โปรดทราบว่าโปรแกรมช่วยมาร์กอัปไม่เข้าใจวันที่ที่มีทั้งการแท็กแบบแยกชิ้นและระบุเป็นช่วง (เช่น 4-5 มิถุนายน และ 2012)

วิธีติดแท็กวันที่เป็นข้อมูลแยกชิ้น

  1. เริ่มติดแท็กข้อมูลตามที่ได้อธิบายไว้ในติดแท็กหน้าหรือติดแท็กอีเมล
  2. ในหน้าเครื่องมือแท็ก ให้ใช้เมาส์เลือกส่วนวันที่ เช่น เลือกรายการเป็นมิถุนายน
  3. เลือกวันที่ > ขั้นสูง > ส่วนวันที่จากเมนูตามบริบทที่แสดงขึ้น ตัวอย่างเช่น เลือกวันที่ > ขั้นสูง > เดือน

    โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะเพิ่มวันที่ลงในคอลัมน์ "รายการข้อมูลของฉัน"

  4. ทำการติดแท็กส่วนวันที่ต่อไปจนกว่าคุณจะแท็กข้อมูลทั้งหมดสำหรับวันที่นั้น
  5. ติดแท็กให้เสร็จตามที่อธิบายไว้ในติดแท็กหน้าหรือติดแท็กอีเมล

ตัวอย่างของแท็กวันที่

ตัวอย่างบางส่วนของแท็กที่เครื่องมือเน้นข้อมูลรู้จักมีดังต่อไปนี้:

  • วันที่วันเดียว ตัวอย่างเช่น เครื่องมือเน้นข้อมูลจะรู้จักแท็กต่างๆ ต่อไปนี้:
    • June 4, 2012
    • 4 June 2012
    • 6/4/12 - เครื่องมือเน้นข้อมูลรู้จักตัวคั่นอื่นๆ และปีที่เป็นเลขสี่ตัวด้วยเช่นกัน เช่น 6-4-2012 เมื่อวันที่ซึ่งเป็นตัวเลขดูคลุมเครือ เครื่องมือเน้นข้อมูลจะถือว่าตัวเลขตัวแรกแสดงถึงเดือน ตัวอย่างเช่น 6/4/12 จะถือว่าเป็น 4 มิถุนายน 2012 ในขณะที่ 13/4/12 จะถือว่าเป็น 13 เมษายน 2012
    คุณสามารถแท็กหลายๆ วันที่ในหน้าเว็บได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณแท็ก 4 มิถุนายน 2012 และ 6 มิถุนายน 2012 เครื่องมือเน้นข้อมูลจะตีความว่ากิจกรรมนั้นเกิดขึ้นสองครั้ง โดยเกิดขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายนครั้งหนึ่ง และวันที่ 6 มิถุนายนครั้งหนึ่ง
  • ช่วงของวัน ตัวอย่างเช่น 4-7 มิถุนายน 2012
    โปรดทราบว่าเครื่องมือเน้นข้อมูลคาดว่าจะมีขีดกลาง (-) ระหว่างวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุด
  • วันที่และเวลา ตัวอย่างเช่น เครื่องมือเน้นข้อมูลจะรู้จักแท็กต่างๆ ต่อไปนี้:
    • June 4, 2012 3pm - เวลาตามด้วย am หรือ pm เครื่องมือเน้นข้อมูลจะใช้เวลาทำการปกติในการตีความเวลาที่ไม่ได้ตามด้วย am หรือ pm ตัวอย่างเช่น 11 จะถูกตีความว่าเป็น 11am และ 2 จะถูกตีความว่าเป็น 2pm
    • June 4, 2012 15:00 - เวลาทหาร
    • June 4, 2012 3pm EST หรือ June 4, 2012 3pm -5:00 - เวลาพร้อมเขตเวลาหรือการชดเชยเวลา UTC/GMT
    • June 4, 2012 2-3pm หรือ June 4-5, 2012 2-3pm - ช่วงเวลาโดยมีหรือไม่มีช่วงวันที่ก็ได้
  • วันที่แยกส่วนคุณสามารถใช้ตัวเลือกการแท็กขั้นสูงเพื่อให้เครื่องมือเน้นข้อมูลรู้จักแท็กแยกต่อไปนี้ว่าเป็นวันที่:
    • วัน: Tuesday, June 4 ปี: 2013
    • June 4 | เวลา: 7:30p-9:30pm และ 2012
    เครื่องมือเน้นข้อมูลไม่รู้จักช่วงวันที่ที่ถูกแยกออกเป็นหลายแท็ก ตัวอย่างเช่น เครื่องมือเน้นข้อมูลจะไม่รู้จักแท็กต่อไปนี้ว่าเป็นวันที่ที่ถูกต้อง:
    • June 4-5 และ 2012

ระบุรูปแบบวันที่ด้วยตัวเอง

โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะคาดเดาว่าวันที่ในเนื้อหาเป็นไปตามกฎการจัดรูปแบบที่เชื่อมโยงกับภาษาของเนื้อหาดังกล่าว ตัวอย่างเช่น หากภาษาของหน้าเว็บคือ en-US โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะคาดเดาว่า 12-06-12 หมายถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2012 หากภาษาของหน้าเว็บคือ th-TH โปรแกรมจะคาดเดาว่า 12-06-12 หมายถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2012 โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะระบุภาษาของหน้าเว็บและกฎการจัดรูปแบบวันที่โดยอัตโนมัติ

วิธีลบล้างโปรแกรมช่วยมาร์กอัปและระบุรูปแบบวันที่ที่แตกต่างออกไป

  1. เลือกไอคอนรูปเฟือง แล้วเลือกการตั้งค่า
  2. ในป๊อปอัปการตั้งค่า ให้เลือกรูปแบบจากรายการรูปแบบวันที่
  3. เลือกบันทึก
เพิ่มข้อมูลที่ขาดหายไป

หากเนื้อหาตัวอย่างของคุณมีข้อมูลที่ขาดหายไป เช่น ปีของกิจกรรม คุณก็ระบุค่าที่หายไปได้ โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data จะเพิ่มมาร์กอัปสำหรับค่าดังกล่าว

คุณจะเพิ่มข้อมูลที่ขาดหายไปได้ทุกเมื่อ และยังเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลดังกล่าวได้หากต้องการ

วิธีเพิ่ม เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลที่ขาดหายไป

  1. เลือกเพิ่มแท็กที่ขาดหายไปซึ่งอยู่ด้านล่างของคอลัมน์รายการข้อมูลของฉัน
  2. ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้
    • เพิ่มค่าโดยการเลือกแท็กจากรายการเลือกแท็ก จากนั้นพิมพ์ค่าในช่องข้อความ เช่น เลือกหมวดหมู่ แล้วพิมพ์ "ดนตรีพื้นเมืองของไอร์แลนด์"
    • ลบข้อมูลที่มีอยู่โดยเลือก X ในช่องข้อความ
    • แก้ไขข้อมูลที่มีอยู่ด้วยการเปลี่ยนค่าในช่องข้อความ
  3. เลือกบันทึก 
    โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะแสดงค่าที่ระบุภายใต้ "รายการข้อมูลของฉัน"

เปลี่ยนภาษาของหน้า

โปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data จะตรวจหาภาษาของเนื้อหาตัวอย่างของคุณ เพื่อให้เข้าใจข้อมูลในหน้าเว็บได้ดียิ่งขึ้น หากมาร์กอัปที่โปรแกรมช่วยมาร์กอัปสร้างไม่ถูกต้อง คุณก็บอกโปรแกรมช่วยมาร์กอัปได้อย่างชัดแจ้งว่าคุณใช้ภาษาใดอยู่

หากต้องการระบุภาษาด้วยตัวเอง ให้ทำดังนี้

  1. เลือกไอคอนรูปเฟือง แล้วเลือกการตั้งค่า
  2. ในป๊อปอัปการตั้งค่า ให้เลือกภาษาจากรายการภาษาของเว็บไซต์
  3. เลือกบันทึก
schema.org คืออะไร

schema.org เป็นความร่วมมือโดย Google, Microsoft และ Yahoo! ในการปรับปรุงเว็บโดยการสร้างคำศัพท์ทั่วไปสำหรับการอธิบายข้อมูลบนเว็บ หากคุณเพิ่มมาร์กอัป schema.org ไปยังหน้า HTML ของคุณ หลายบริษัทและผลิตภัณฑ์ รวมถึง Google search จะเข้าใจข้อมูลบนไซต์ของคุณ ในทำนองเดียวกัน หากคุณเพิ่มมาร์กอัป schema.org ไปยังอีเมลรูปแบบ HTML ของคุณ ผลิตภัณฑ์อีเมลอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก GMail อาจเข้าใจข้อมูล

คุณสามารถใช้มาร์กอัปประเภทต่างๆ เพื่ออธิบายข้อมูลของคุณด้วยคำศัพท์ schema.org โปรแกรมช่วยมาร์กอัปสามารถแสดงวิธีการใช้ microdata และ JSON-LD

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ schema.org โปรดดูคำถามที่พบบ่อยของ schema.org

JSON-LD และ Microdata คืออะไร

JSON-LD และ Microdata คือ 2 วิธีที่แตกต่างกันในการมาร์กอัปข้อมูลโดยใช้คำศัพท์ของ schema.org โดย Google แนะนำให้ใช้ JSON-LD สำหรับเนื้อหาเว็บ

JSON-LD

JSON-LD ใช้ออบเจ็กต์ JavaScript ในหน้า HTML ของคุณเพื่อกำหนดข้อมูล ลองดูตัวอย่าง JSON-LD ต่อไปนี้ซึ่งอธิบายกิจกรรมหนึ่ง

<script type="application/ld+json">
{
  "@context" : "http://schema.org",
  "@type" : "Event",
  "name" : "Slim Whitman Tribute",
  "startDate" : "2013-07-06",
  "location" : {
    "@type" : "Place",
    "name" : "Hollywood Bowl"
  }
}
</script>

เมื่อเพิ่ม JSON-LD โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะเลือกเพิ่มมาร์กอัปไปยังองค์ประกอบ HTML ที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น หากคุณไฮไลต์กิจกรรมที่เข้ารหัสว่า <h4>My Event</h4> โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะเพิ่ม JSON-LD ลงในตัวอย่างของคุณดังนี้

<script type="application/ld+json">
{
  "@context" : "http://schema.org",
  "@type" : "Event",
  "name" : "My event"
}
</script>

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ JSON-LD

 

Microdata

Microdata จะใช้แท็ก HTML และแอตทริบิวต์ในการกำหนดข้อมูล ลองดูตัวอย่าง HTML ต่อไปนี้ซึ่งอธิบายกิจกรรมหนึ่ง

<div> 
  เชิญมาชม Tiny Tim Tribute Band เล่นดนตรีสดในคอนเสิร์ต
  วันที่ 6 กรกฎาคม 2013 ที่ Regency Theater อันสวยงาม
</div>

และนี่คือ HTML เดียวกันที่มีมาร์กอัป Microdata

<div itemscope itemtype="http://schema.org/Event"> 
  Come hear the 
  <span itemprop="name">Tiny Tim Tribute Band</span>, 
  live in concert on 
  <span itemprop="startDate" 
  content="2013-07-06>July 6, 2013</span> 
  at the beautiful
  <span itemprop="location" itemscope 
    itemtype="http://schema.org/Place"> 
    <span itemprop="name">Regency Theater</span>!
  </span>
</div>

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Microdata

ฉันต้องเปลี่ยนมาร์กอัปที่มีอยู่แล้วไหม

โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะไม่สนใจมาร์กอัปที่มีอยู่แล้วในหน้าตัวอย่างหรืออีเมลที่คุณแท็ก ดังนั้นหากคุณแท็กข้อความที่ระบุโดยมาร์กอัปแล้ว โปรแกรมช่วยมาร์กอัปจะเพิ่มมาร์กอัปเพิ่มเติมสำหรับแท็กดังกล่าวให้เลย

 
หากต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโปรแกรมช่วยมาร์กอัป Structured Data ก็บอกให้เราทราบที่ฟอรัม Search Console สำหรับ Structured Data

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
แอป Google
เมนูหลัก
3142062339242464527
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
false
true
true
true
true
true
83844
false
false
false
false