คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแจ้งเตือน SOS

1. การแจ้งเตือน SOS คืออะไร

   การแจ้งเตือน SOS มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลในกรณีฉุกเฉินได้มากขึ้นในช่วงที่เกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติและจากฝีมือมนุษย์ เรารวบรวมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและเชื่อถือได้จากเว็บ โซเชียลมีเดีย ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google ไว้ด้วยกันและไฮไลต์ข้อมูลดังกล่าวในผลิตภัณฑ์ของ Google เช่น Search และ Maps คุณอาจเห็นข้อมูลอัปเดตจากหน่วยงานในท้องถิ่น ในประเทศ หรือต่างประเทศ ขึ้นอยู่กับลักษณะของภัยพิบัติและตำแหน่งของคุณ ข้อมูลอัปเดตเหล่านี้อาจรวมถึงหมายเลขโทรศัพท์และเว็บไซต์สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน แผนที่ คำแปลวลีที่เป็นประโยชน์ ช่องทางในการบริจาคเงิน และอื่นๆ 

2. Google ทราบได้อย่างไรว่าควรแสดงการแจ้งเตือน SOS เมื่อใด

   เราพิจารณาปัจจัยจำนวนหนึ่ง เช่น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ความพร้อมให้บริการของเนื้อหาอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลและองค์กรที่มีอำนาจอื่นๆ ตลอดจนผลกระทบที่มีต่อพื้นที่ โดยทั่วไปเราจะส่งการแจ้งเตือน SOS ในภาษาหลักของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและภาษาอังกฤษ  

   แม้ว่าเราจะรับประกันไม่ได้ว่าคุณจะเห็นการแจ้งเตือน SOS ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติครั้งสำคัญ แต่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะแสดงการแจ้งเตือนเหล่านี้อย่างทั่วถึงมากขึ้นในอนาคต โปรดแตะลิงก์ความคิดเห็นในการแจ้งเตือน SOS หากคุณมีคำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรปรับปรุง ขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็น

3. คุณได้รับเนื้อหาสำหรับการแจ้งเตือน SOS จากที่ไหน

   เรามีทีมทั่วโลกที่จัดหาเนื้อหาจากหน่วยงานรัฐบาล ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินเบื้องต้น ช่องทางสื่อที่เชื่อถือได้ และองค์กรพัฒนาเอกชน เรายังรวบรวมข้อมูลจากผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Google News, Google Maps, Waze และอีกมากมาย

4. ฉันจะรับการแจ้งเตือน SOS ได้อย่างไร

   หากคุณอยู่ในบริเวณที่เกิดภัยพิบัติรุนแรง และค้นหาคำหรือวลีที่เกี่ยวข้องใน Google คุณอาจเห็นแบนเนอร์ที่ระบุว่ากำลังเกิดภัยพิบัติ ตามด้วยข้อมูลและทรัพยากรสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น คำแปลหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นประโยชน์ หากติดตั้งแอป Google เวอร์ชันล่าสุดไว้ (Android และ iOS) และเปิดตำแหน่งอยู่ คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนในหน้าจอหลักของอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย ให้แตะที่การแจ้งเตือนเพื่อดูรายละเอียดแบบเต็มใน Google Search 

   หากอยู่นอกพื้นที่ภัยพิบัติ คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือน แต่ยังคงดูการแจ้งเตือน SOS ได้โดยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ข้อมูลที่คุณได้รับอาจต่างจากข้อมูลที่ผู้อยู่ใกล้พื้นที่ภัยพิบัติเห็น เช่น คุณอาจเห็นลิงก์ให้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตินั้นแทนที่จะเป็นหมายเลขโทรศัพท์สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน

   หากใช้ Google Maps คุณอาจเห็นการแจ้งเตือน SOS อยู่ในแผนที่ด้วยหากมีการแจ้งเตือนอยู่ในพื้นที่ที่ดูอยู่ ให้แตะที่ไอคอนเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยพิบัติ เช่น หมายเลขโทรศัพท์และเว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์

5. เหตุใดฉันจึงไม่เห็นการแจ้งเตือน SOS เลย

   หากคุณไม่เห็นการแจ้งเตือน SOS ระหว่างเกิดภัยพิบัติ อาจเป็นเพราะเหตุผลข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

   • คำค้นหาของคุณอาจกว้างเกินไป ลองค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีทั้งประเภทของภัยพิบัติและชื่อพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 
   • เราอาจยังกำลังรวบรวมและยืนยันข้อมูลก่อนประกาศแจ้งเตือน SOS โปรดกลับมาดูข้อมูลอัปเดตอีกครั้งเมื่อมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับภัยพิบัติ 
   • เราอาจไม่มีแผนที่จะประกาศแจ้งเตือน SOS สำหรับเหตุฉุกเฉินนี้ เราตั้งเป้าไว้ว่าจะส่งการแจ้งเตือน SOS เมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ มากขึ้น ระหว่างนี้ โปรดไปที่บัญชี Twitter ของ Google Crisis Response เพื่อดูวิธีอื่นๆ ในการสนับสนุนการรับมือเหตุภัยพิบัติจากเรา ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือ อาสาสมัคร และคอลเล็กชันภาพถ่ายจากดาวเทียม

6. ฉันจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาในการแจ้งเตือน SOS ได้อย่างไร

   แตะลิงก์ความคิดเห็นที่ด้านบนของการแจ้งเตือนเพื่อส่งความคิดเห็นของคุณ แล้วเราจะตรวจสอบความคิดเห็นหรือคำแนะนำของคุณโดยเร็วที่สุด 

7. ฉันมีคำถามเกี่ยวกับการบริจาคเงิน

   ดูข้อมูลการบริจาคเงินให้แก่องค์กรการกุศลที่สนับสนุนการรับมือและการกู้ภัยโดยไปที่ศูนย์ช่วยเหลือนี้ 

Flood Forecasting Alerts FAQs

1. เกี่ยวกับการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม

   ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดน้ำท่วมจะได้รับข้อมูลที่แปลแล้วจากการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต เนื่องจากระบบจะอัปเดตการแจ้งเตือนหลายครั้งต่อวันโดยอิงจากข้อมูลแบบเรียลไทม์ คุณยังค้นหาการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วมใน Google ได้ด้วย

   วิธีค้นหาพื้นที่น้ำท่วมใกล้คุณ

   1. เปิดการตั้งค่าตำแหน่งในอุปกรณ์
   2. ไปที่ google.com
   3. ค้นหา flood

   วิธีค้นหาพื้นที่น้ำท่วมที่เจาะจง

   1. ไปที่ google.com
   2. ค้นหา floods และใส่สถานที่

   ปัจจุบันคุณจะเห็นการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วมในประเทศต่อไปนี้

   • อินเดีย: แหล่งข้อมูลสาธารณะ
     • คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย: NDMA - National Disaster Management Authority
   • บังกลาเทศ: BWDB - Bangladesh Water Development Board
     • คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย: MoDMR - Ministry of Disaster Management and Relief
   • ศรีลังกา: กรมชลประทาน 
   • โคลอมเบีย: ข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก IDEAM - Instituto de Hidrología, Meteorología y Estudios Ambientales
     • คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย: UNGRD - Unidad Nacional para la Gestión del Riesgo de Desastres
   • บราซิล: ANA - Agência Nacional de Águas e Saneamento Básico, Civil Defense and SGB/CPRM - Serviço Geológico do Brasil
     • คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย: CENAD - Centro Nacional de Gerenciamento de Riscos e Desastres

   เรารองรับภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มเติมผ่านโมเดลพื้นที่น้ำท่วมทั่วโลก

2. How do the Flood Forecasting models work?

   To provide Flood Forecasting, we monitor historical and real-time water level measurements and precipitation forecasts. We use data that’s either publicly available or available to Google through partnerships with local governments. Based on this information, we run 2 main types of machine learning models:

   • Hydrologic models: Provides forecasts of river water levels for upcoming days.
   • Inundation models: Provides forecasts for the flood extent on the ground. This information tells us who to notify and helps us provide flood maps on Google Maps.

   Find more information about these models.

3. How does Google decide when to show a Flood Forecasting alert?

   Google displays a Flood Forecasting alert when the water in a river is higher than a warning level or is expected to be higher than a warning level. Warning levels estimate when a river will flood and are usually based on historical flood events. Government agencies that manage floods provide warning levels to Google.

   Google Flood Forecasting alerts are updated several times a day, based on real-time local data. If an alert is no longer active, Google removes it from Search and Maps results.

    

4. Who receives Flood Forecasting notifications?

   Once an upcoming flood is identified, Google sends notifications. Notifications go to people who have their smartphone location services turned on and who are located in the area that’s flooded or expected to flood. If you aren’t near an area that’s flooded or expected to flood, you won’t get a Google flood forecast notification.

5. ปิดการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม

   คุณจะเห็นการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชัน Google Search ในอุปกรณ์ Android แอปนี้จะพร้อมใช้งานเป็นแอประบบ ใน iPhone และ iPad คุณสามารถติดตั้งแอป Google จาก Apple App Store

   หากต้องการปิดการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม ให้ปิดการแจ้งเตือน "การแจ้งเตือนภาวะวิกฤต"

   หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่สนับสนุน และกําลังค้นหาพื้นที่น้ำท่วมในตําแหน่งใดตําแหน่งหนึ่งผ่านทางแอป Google Search คุณจะเห็นการคาดการณ์น้ำท่วมในผลการค้นหาของหน้าค้นหา หากเปิดบริการตําแหน่งไว้และค้นหาข้อมูลน้ำท่วมโดยไม่ระบุตําแหน่ง คุณจะเห็นการคาดการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง

   แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

   • ดูวิธีปิดการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม
   • ดูข้อมูลเกี่ยวกับการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม

6. When I search for “flood,” why don’t I always get a Flood Forecasting alert?

   Your Search results depend on location. If you search for flood and include a specific location that’s flooded, you’ll find a flood forecasting alert in your results. If your location services are turned on and you search for flood without a location specified, you’ll get an alert only if there’s flooding near you.

7. Do Google’s Flood Forecasting alerts coordinate with local governmental alerts?

   Google partners with the relevant government agencies in charge of flood monitoring and alerting. This ensures that Google displays alerts in coordination with governmental alerts that are released in other ways.

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วมทั่วโลก

1. เกี่ยวกับการคาดการณ์น้ำท่วม

   ผู้ที่มีสมาร์ทโฟนจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการคาดการณ์เหล่านี้หากอยู่ในพื้นที่ที่รองรับซึ่งคาดว่าจะมีน้ำท่วมหรือน้ำท่วมแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต เนื่องจากระบบจะอัปเดตการคาดการณ์หลายครั้งต่อวันโดยอิงจากข้อมูลแบบเรียลไทม์ และคุณจะค้นหาการคาดการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของคุณใน Google ได้ด้วย

   วิธีค้นหาพื้นที่น้ำท่วมใกล้คุณ

   1. เปิดการตั้งค่าตำแหน่งในอุปกรณ์
   2. ไปที่ google.com
   3. ค้นหาพื้นที่ท่วม

   วิธีค้นหาพื้นที่น้ำท่วมที่เจาะจง

   1. ไปที่ google.com
   2. ค้นหา floods และใส่สถานที่

2. วิธีการทํางานของโมเดลการคาดการณ์น้ำท่วม

   ในการคาดการณ์น้ำท่วม เราจะตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

   • ข้อมูลย้อนหลัง
   • การคาดการณ์โอกาสเกิดฝน
   • ภาพถ่ายจากดาวเทียม

   จากข้อมูลนี้และข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ เราได้เรียกใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิง 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

   • โมเดลอุทกภัย: แสดงการคาดการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำของวันถัดๆ ไป
   • โมเดลน้ำท่วม: ให้การคาดการณ์ขอบเขตน้ำท่วมบนพื้นดิน ข้อมูลนี้จะช่วยให้เราสามารถแจ้งเตือนบุคคลที่ควรแจ้งและช่วยในการระบุแผนที่น้ำท่วมใน Google Maps

3. ข้อมูลที่เราใช้ในการสร้างโมเดลการคาดการณ์น้ำท่วม

   การคาดการณ์น้ำท่วมอาศัยแหล่งข้อมูลสภาพอากาศหลายแห่ง ได้แก่

   • การคาดการณ์ของ ECMWF
   • ค่าปริมาณน้ำฝนที่วัดได้จาก CPC
   • ข้อมูลหยาดน้ำฟ้าจาก IMERG
   • ข้อมูล Copernicus Sentinel ที่มีการแก้ไข [2023]
   • HydroSheds: ผลิตภัณฑ์การคาดการณ์น้ำท่วม (Flood Forecasts) รวมข้อมูลจากฐานข้อมูล HydroSHEDS เวอร์ชัน 1 มาจาก © World Wildlife Fund, Inc. (2006-2022) และมีการใช้งานในที่นี้ภายใต้ใบอนุญาต WWF ไม่ได้ประเมินข้อมูลเมื่อมีการดัดแปลงและรวมไว้ในการคาดการณ์น้ำท่วม ดังนั้นจึงไม่มีการรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้อง ความครบถ้วนสมบูรณ์ ความแพร่หลาย หรือความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์บางประการ ส่วนของฐานข้อมูล HydroSHEDS v1 จะรวมข้อมูลที่เป็นสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของ © USGS (2006-2008), NASA (2000-2005), ESRI (1992-1998), CIAT (2004-2006), UNEP-WCMC (1993), WWF (2004), Commonwealth of Australia (2007) และ Her Royal Majesty and the British Crown และใช้งานภายใต้ใบอนุญาต ดูฐานข้อมูล HydroSHEDS v1 และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hydrosheds.org การอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์สําหรับฐานข้อมูล HydroSHEDS เวอร์ชัน 1: Lehner, B., Verdin, K., Jarvis, A. (2008): New global hydrography derived from spaceborne elevation data. Eos, Transactions, AGU, 89(10): 93-94. 

   ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วิธีการทํางานของโมเดลการคาดการณ์น้ำท่วม

4. วิธีที่ Google ใช้ในการตัดสินใจว่าเมื่อใดควรแสดงการคาดการณ์น้ำท่วม

   Google จะแสดงการคาดการณ์น้ำท่วมเมื่อน้ำในแม่น้ำสูงกว่าหรือคาดว่าจะสูงกว่าระดับการเตือน ซึ่งเป็นระดับที่คาดคะเนว่าน้ำจะท่วมเมื่อใดและมักอิงตามเหตุการณ์น้ำท่วมที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

   การคาดการณ์น้ำท่วมของ Google อัปเดตทุกวันตามข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยาล่าสุดที่มี

   หากไม่มีการใช้งานการคาดการณ์แล้ว Google จะนําออกจากผลการค้นหาของ Search และ Maps

5. ใครบ้างจะได้รับการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม

   ระบบจะเผยแพร่การคาดการณ์น้ำท่วมโดยอิงตามข้อมูลที่ถึงเกณฑ์ของแถบความแม่นยําสูง โดยจะส่งการแจ้งเตือนเฉพาะการคาดการณ์น้ำท่วมที่มีแถบความเชื่อมั่นสูงกว่านั้นอีก

   การแจ้งเตือนจะส่งไปถึงผู้ที่เปิดใช้บริการตําแหน่งในสมาร์ทโฟนของตน รวมถึงผู้ที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน Google Search และอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมหรือคาดว่าจะเกิดน้ำท่วม หากไม่ได้อยู่ใกล้กับพื้นที่ที่รองรับซึ่งมีน้ำท่วมหรือคาดว่าจะเกิดน้ำท่วม คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนการคาดการณ์จาก Google

6. ปิดการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม

   คุณจะเห็นการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชัน Google Search ในอุปกรณ์ Android แอปนี้จะพร้อมใช้งานเป็นแอประบบ ใน iPhone และ iPad คุณสามารถติดตั้งแอป Google จาก Apple App Store

   หากต้องการปิดการแจ้งเตือนการคาดการณ์น้ำท่วม ในการตั้งค่าการแจ้งเตือนแอป ให้ปิด "การแจ้งเตือนภาวะวิกฤต"

   หากคุณอยู่ในพื้นที่ที่สนับสนุน และกําลังค้นหาพื้นที่น้ำท่วมในตําแหน่งใดตําแหน่งหนึ่งผ่านทางแอป Google Search คุณจะเห็นการคาดการณ์น้ำท่วมในผลการค้นหาของหน้าค้นหา หากเปิดบริการตําแหน่งไว้และค้นหาข้อมูลน้ำท่วมโดยไม่ระบุตําแหน่ง คุณจะเห็นการคาดการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง

7. ในกรณีที่ค้นหา "พื้นที่น้ำท่วม" แต่ไม่เห็นการคาดการณ์น้ำท่วม

   เราแสดงการคาดการณ์น้ำท่วมสําหรับหลายภูมิภาคในบางประเทศ และกำลังพยายามขยายการรองรับไปทั่วโลก

   • หากไม่ได้รับการแจ้งเตือนและอยู่ใกล้พื้นที่น้ำท่วม: คุณอาจอยู่ในพื้นที่ที่เรายังไม่มีข้อมูล
   • หากค้นหาพื้นที่น้ำท่วมในสถานที่หนึ่งๆ และอยู่ในพื้นที่ที่รองรับ: คุณจะเห็นการคาดการณ์น้ำท่วมในผลการค้นหาของหน้าค้นหา
   • หากเปิดบริการตําแหน่งไว้และค้นหาข้อมูลน้ำท่วมโดยไม่ระบุตําแหน่ง: คุณจะเห็นข้อมูลน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง

Fire alert FAQs

1. การแจ้งเตือนไฟไหม้คืออะไร

   การแจ้งเตือนไฟไหม้จะให้ข้อมูลขอบเขตของพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟไหม้และเคล็ดลับความปลอดภัยเพื่อช่วยผู้ใช้ป้องกันตนเองในพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้

   สำคัญ: พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้เป็นพื้นที่โดยประมาณและมีไว้เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น โปรดตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการ

2. How can I find fire alerts?

   To search for fire alerts near you:

   1. On your device, turn on location services.
   2. Go to google.com.
   3. Search for "fire"
      • To find fire alerts in a specific location, include the location in your search.

3. Google สร้างการแจ้งเตือนไฟไหม้อย่างไร

   เราสร้างการแจ้งเตือนไฟไหม้ด้วยโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกที่ติดตามขอบเขตของพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ด้วยภาพถ่ายจากดาวเทียมแบบเรียลไทม์ โมเดลนี้อิงตามการรวมภาพความละเอียดสูงพิเศษกับภาพไฮสเปกตรัมจากดาวเทียมของบุคคลที่สาม เช่น

   • GOES-16
   • GOES-18
   • GK2A
   • Himawari-9, Meteosat-9 และ Meteosat-11 จาก EUMETSAT [2023]

   • Aqua และ Terra พร้อม MODIS Imager

   • S-NPP, JPSS-1 พร้อม VIIRS imager

4. Who receives fire notifications?

   Once a fire is identified, Google sends notifications. Notifications go to people who have their smartphone location services turned on and who are located in the area that’s near a fire. If you aren’t near a fire, you won’t get a Google fire notification.

5. Turn off fire notifications

   You’ll find fire notifications as part of the Google Search Application notifications. On Android devices, it’s available as a system app. On iPhones and iPads, you can install the Google app from the Apple App Store.

   To turn off fire notifications, turn off “Crisis Alerts” notifications.

6. เมื่อค้นหาคำว่า "ไฟไหม้" ทำไมฉันถึงไม่ได้รับการแจ้งเตือนไฟไหม้ทุกครั้งเสมอไป

   สาเหตุที่อาจทำให้คุณไม่พบการแจ้งเตือนไฟไหม้เมื่อค้นหามีดังนี้

   • เราอาจยังไม่รองรับตำแหน่งของคุณ และกําลังทํางานอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายการรองรับไปทั่วโลก
   • ไฟไหม้ดังกล่าวอาจมีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะตรวจจับได้ด้วยดาวเทียม
   • ไฟดับก่อนที่จะตรวจพบโดยดาวเทียม
   • มีเมฆบดบังการมองเห็นของดาวเทียม
   • เกิดปัญหาทางเทคนิคชั่วคราวกับข้อมูลดาวเทียม
   • บริการตำแหน่งของคุณปิดอยู่ และการค้นหาของคุณไม่มีการระบุตำแหน่ง
   • ไม่มีเหตุไฟไหม้ในบริเวณที่คุณอยู่

คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแจ้งเตือนอากาศร้อนจัด

1. คำเตือนอากาศร้อนจัดคืออะไร

   Google จะแสดงคําเตือนเกี่ยวกับอากาศร้อนจัดในกรณีต่อไปนี้

   • เมื่อเห็นว่าอุณหภูมิและความชื้นเป็นอันตรายต่อร่างกายคน (ตามเกณฑ์อันตรายของ NWS Heat Index)
   • เมื่ออากาศร้อนจัดในจุดนั้นสูงกว่าปกติเมื่อเทียบกับในปีที่ผ่านๆ มา
   • เกิดภาวะอากาศร้อนจัดสูงเกินติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 วัน

   และยังให้ข้อมูลต่อไปนี้

   ข้อมูลเชิงลึกและข้อมูลสภาพอากาศที่เกี่ยวข้อง เช่น

   • อุณหภูมิปัจจุบัน
   • รู้สึกร้อนแค่ไหนในสภาพจริง
   • อากาศจะร้อนจัดนานแค่ไหน
   • ข้อมูลพยากรณ์อากาศ
   • คำแนะนำจากเครือข่ายข้อมูลด้านสุขภาพทั่วโลก

   สำคัญ: คำเตือนให้ระวังอากาศร้อนจัดมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลโดยประมาณเท่านั้น โปรดตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการ

2. ฉันจะค้นหาคำเตือนเรื่องอากาศร้อนจัดได้อย่างไร

   วิธีค้นหาคําเตือนเกี่ยวกับเหตุการณ์อากาศร้อนจัดใกล้คุณ

   1. เปิดบริการตำแหน่งในอุปกรณ์
   2. ไปที่ google.com
   3. ค้นหาเหตุการณ์อากาศร้อนจัด
      • หากต้องการค้นหาคำเตือนเรื่องอากาศร้อนจัดในตำแหน่งที่ตั้งใด ให้ใส่ตำแหน่งที่ตั้งนั้นในคําค้นหา

   หากเราตรวจพบคำเตือนเรื่องอากาศร้อนจัดในบริเวณใกล้คุณหรือใกล้ตําแหน่งที่เลือก คุณจะเห็นคําเตือนเรื่องอากาศร้อนจัดใน google.com

3. ข้อมูลอะไรบ้างที่ Google ใช้ในการสร้างคําเตือนเกี่ยวกับอากาศร้อนจัด

   เราอาศัยข้อมูลสภาพอากาศในการพยากรณ์อากาศและข้อมูลย้อนหลัง

4. เมื่อค้นหา "อากาศร้อนจัด" เหตุใดฉันจึงไม่ได้รับคําเตือนเรื่องอากาศร้อนจัด

   เหตุผลบางประการที่อาจทําให้คุณไม่ได้รับคําเตือนเรื่องอากาศร้อนจัดเมื่อค้นหามีดังนี้

   • ในพื้นที่ของคุณอาจไม่มีภาวะอากาศร้อนจัด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคําเตือนเรื่องอากาศร้อนจัด
   • อุณหภูมิและความชื้นในบริเวณที่คุณอยู่อาจไม่สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา 
   • เรายังไม่รองรับตำแหน่งที่ตั้งนี้ และกําลังทํางานอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายการรองรับไปทั่วโลก 

   เคล็ดลับ: หากบริการตําแหน่งเปิดอยู่เมื่อค้นหา "อากาศร้อนจัด" คุณจะเห็นคำเตือนอากาศร้อนจัดในพื้นที่ของคุณ หากต้องการค้นหาตำแหน่งที่ตั้งอื่น ให้เพิ่มตำแหน่งที่ตั้งลงในคําค้นหา