วิธีที่แอปหาอุปกรณ์ของฉันคุ้มครองข้อมูลของคุณ

แอปหาอุปกรณ์ของฉันช่วยให้คุณค้นหา รักษาความปลอดภัย และลบข้อมูลในอุปกรณ์ Android ที่สูญหายได้ นอกจากช่วยค้นหาอุปกรณ์เมื่อออนไลน์แล้ว แอปหาอุปกรณ์ของฉันยังมีฟีเจอร์ค้นหาแบบออฟไลน์ที่จะช่วยให้คุณค้นหาอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมได้แม้ในขณะออฟไลน์อยู่ก็ตาม

โดยค่าเริ่มต้นแล้ว อุปกรณ์ Android จะจัดเก็บตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสไว้กับ Google และเข้าร่วมเครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉัน ซึ่งเป็นเครือข่ายอุปกรณ์ Android ที่รวบรวมข้อมูลจากมวลชน เครือข่ายนี้ใช้ข้อมูลตำแหน่งที่เข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางเพื่อช่วยคุณและผู้ใช้ Android คนอื่นๆ ค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหาย

หากเปิดใช้ฟีเจอร์ค้นหาแบบออฟไลน์เหล่านี้ในอุปกรณ์ แอปหาอุปกรณ์ของฉันจะใช้แหล่งที่มาที่ดีที่สุดที่มีอยู่เพื่อช่วยในการค้นหาอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งปัจจุบันของอุปกรณ์หากออนไลน์อยู่ ตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสและจัดเก็บไว้ตั้งแต่อุปกรณ์ออนไลน์ครั้งล่าสุด หรือตำแหน่งที่เข้ารหัสซึ่งรวบรวมข้อมูลจากมวลชนผู้ใช้อุปกรณ์ Android คนอื่นๆ ในเครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉัน

แอปหาอุปกรณ์ของฉันรวบรวมและประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดหา ดูแลรักษา และปรับปรุงบริการเหล่านี้ดังที่จะอธิบายต่อไปด้านล่าง ข้อมูลที่ประมวลผลโดยแอปหาอุปกรณ์ของฉันจะได้รับการจัดการตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google

การค้นหาอุปกรณ์ที่ออนไลน์อยู่

เมื่อคุณใช้แอปหาอุปกรณ์ของฉันเพื่อช่วยค้นหาอุปกรณ์ที่ออนไลน์ แอปก็จะสื่อสารกับอุปกรณ์ Android ที่สูญหายของคุณ รวมถึงจะรวบรวมตำแหน่งปัจจุบันและข้อมูลอื่นๆ เช่น ระดับแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ เครือข่าย Wi-Fi ที่อุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่ ตลอดจนความแรงของสัญญาณ Wi-Fi และมือถือ แอปหาอุปกรณ์ของฉันจะแสดงข้อมูลนี้ในแอปเพื่อช่วยค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหาย

แอปหาอุปกรณ์ของฉันยังรวบรวมข้อมูลต่างๆ อย่างเหตุการณ์การเชื่อมต่อ (เช่น เวลาที่หูฟังเอียร์บัดเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ครั้งล่าสุด) เพื่อช่วยค้นหาอุปกรณ์เสริมโดยแสดงตำแหน่งของอุปกรณ์ที่อุปกรณ์เสริมเชื่อมต่ออยู่อีกด้วย

นอกจากนี้ แอปหาอุปกรณ์ของฉันจะเก็บรวบรวมตัวระบุที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ Android และอุปกรณ์เสริมกับบัญชี Google ของคุณ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการที่ทำผ่านแอปหาอุปกรณ์ของฉัน เช่น มีการใช้บัญชี Google เพื่อล็อกหรือลบข้อมูลในอุปกรณ์หรือไม่ และการดำเนินการดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์หรือไม่

การค้นหาอุปกรณ์ที่ออฟไลน์อยู่

อุปกรณ์ที่สูญหายอาจไม่ได้ออนไลน์ตลอดเวลา แอปหาอุปกรณ์ของฉันยังรวบรวม จัดเก็บ และใช้ข้อมูลตำแหน่งที่เข้ารหัสซึ่งส่งโดยอุปกรณ์ Android ของคุณและของคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมเครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันเพื่อช่วยคุณค้นหาอุปกรณ์ที่ออฟไลน์อยู่

การใช้ประโยชน์จากความสามารถของเครือข่ายอุปกรณ์ Android ที่รวบรวมข้อมูลจากมวลชนทำให้เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันช่วยคุณค้นหาสิ่งต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ทั้งโทรศัพท์และแท็บเล็ต Android ที่ออฟไลน์อยู่ อุปกรณ์เสริมการจับคู่ด่วน เช่น หูฟังเอียร์บัดที่เข้ากันได้ รวมถึงแท็กอุปกรณ์ติดตามที่สามารถติดไว้กับสินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่างกระเป๋าสตางค์ กุญแจ หรือจักรยาน

เครือข่ายนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมีการป้องกันขั้นสูง รวมถึงการเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง เพื่อช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของทุกคนที่เข้าร่วมเครือข่าย

วิธีการทำงานของการรวบรวมข้อมูลจากมวลชน

อุปกรณ์ Android ที่เข้าร่วมเครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันจะใช้บลูทูธเพื่อสแกนหาอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง หากตรวจพบสิ่งเหล่านั้น อุปกรณ์จะส่งตำแหน่งที่พบให้กับแอปหาอุปกรณ์ของฉันอย่างปลอดภัย อุปกรณ์ Android ของคุณจะดำเนินการเช่นเดียวกันเพื่อช่วยให้ผู้อื่นค้นหาสิ่งที่สูญหายได้เมื่อตรวจพบอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

การเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทาง

เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันจะเข้ารหัสตำแหน่งของสิ่งต่างๆ โดยใช้คีย์ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งมีแค่คุณที่เข้าถึงได้ด้วยการป้อน PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านของอุปกรณ์ Android

การเข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเทคโนโลยีเดียวกับที่เครื่องมือจัดการรหัสผ่านบน Google ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับรหัสผ่านนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าตำแหน่งของสิ่งดังกล่าวจะเป็นส่วนตัวจาก Google มีเพียงคุณและผู้ที่คุณแชร์สิ่งนั้นด้วยที่จะเห็นข้อมูลตำแหน่งในแอปหาอุปกรณ์ของฉัน

สำคัญ: หากไม่ได้ตั้งค่า PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านในอุปกรณ์ Android คุณจะต้องตั้งค่าสิ่งเหล่านี้เพื่อใช้ประโยชน์จากเครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉัน

ข้อมูลที่ประมวลผลโดยเครือข่าย

นอกจากตำแหน่งที่เข้ารหัสจากต้นทางถึงปลายทางแล้ว เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันจะประมวลผลข้อมูล เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ชั่วคราว การประทับเวลาเมื่ออุปกรณ์ตรวจพบสิ่งต่างๆ และเวลาที่คุณขอตำแหน่งของสิ่งที่สูญหาย รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เสริมการจับคู่ด่วนที่จับคู่กับอุปกรณ์ของคุณหรือแชร์กับผู้อื่น เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันใช้ข้อมูลนี้เพื่อเหตุผลต่างๆ อย่างการใช้ฟีเจอร์ การแสดงข้อมูลตำแหน่งแก่บุคคลที่เหมาะสมเมื่อมีสิ่งของสูญหาย และการให้การปกป้องความเป็นส่วนตัวและต่อต้านการละเมิด เช่น ฟีเจอร์การรวบรวมข้อมูลที่อธิบายไว้ด้านล่าง และที่สำคัญ Google จะไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้เมื่ออุปกรณ์ Android แชร์ตำแหน่งของสิ่งที่ตรวจพบ

บุคคลที่ใช้เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันในการค้นหาสิ่งที่สูญหายจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ จากเครือข่ายนอกจากตำแหน่งที่ตรวจพบและเวลาที่เห็นสิ่งนั้นครั้งสุดท้ายโดยประมาณ

การควบคุมวิธีที่อุปกรณ์เข้าร่วมเครือข่าย

คุณควบคุมวิธีที่อุปกรณ์ Android เข้าร่วมเครือข่ายได้ทุกเมื่อโดยไปที่ "ค้นหาอุปกรณ์ที่ออฟไลน์อยู่" ในการตั้งค่าแอปหาอุปกรณ์ของฉันแล้วเลือกตัวเลือกต่อไปนี้

This image shows Find my device screen on your deviceThis images shows the options when you tap the find your offline devices page on your device

"ปิด"

คุณจะเลือกปิดฟีเจอร์ค้นหาแบบออฟไลน์เหล่านี้ไปเลยก็ได้หากไม่ต้องการเข้าร่วมเครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉัน หรือสามารถค้นหาสิ่งต่างๆ เมื่อออฟไลน์อยู่ด้วยการจัดเก็บตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสไว้กับ Google

แม้ว่าจะปิดการค้นหาแบบออฟไลน์ คุณก็ยังใช้แอปหาอุปกรณ์ของฉันเพื่อค้นหา รักษาความปลอดภัย และลบข้อมูลในอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมการจับคู่ด่วนที่เชื่อมต่ออยู่เมื่อออนไลน์ได้ หากไม่ต้องการใช้แอปหาอุปกรณ์ของฉัน ให้ไปที่การตั้งค่า จากนั้น Google จากนั้น บริการทั้งหมด (หากมีแท็บ) จากนั้น หาอุปกรณ์ของฉัน จากนั้น ตรวจสอบว่าได้ตั้งค่า "ใช้แอปหาอุปกรณ์ของฉัน" เป็นปิดเพื่อปิดแอป

"ไม่ใช้เครือข่าย"

หากไม่ต้องการเข้าร่วมเครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉัน คุณจะยังสามารถค้นหาสิ่งของบางอย่างขณะออฟไลน์ รวมถึงอุปกรณ์ Android และอุปกรณ์เสริมการจับคู่ด่วนที่เชื่อมต่ออยู่ เช่น หูฟังเอียร์บัด โดยการจัดเก็บตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสไว้กับ Google

ตัวเลือกนี้ทำให้คุณไม่สามารถใช้แท็กอุปกรณ์ติดตามในการค้นหาสิ่งต่างๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ กุญแจ หรือจักรยาน และจะใช้เครือข่ายอุปกรณ์ Android ที่กว้างขึ้นเพื่อช่วยค้นหาไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ Android ของคุณจะส่งตำแหน่งที่เข้ารหัสของอุปกรณ์นั้นเอง รวมถึงของอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่ออยู่ให้กับแอปหาอุปกรณ์ของฉันเป็นระยะๆ โดยระบบจะจัดเก็บเฉพาะตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสของอุปกรณ์หรืออุปกรณ์เสริมเท่านั้น

สำคัญ

  • หากคุณตั้งค่า PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านในอุปกรณ์ Android ระบบจะเข้ารหัสข้อมูลตำแหน่งล่าสุดโดยใช้คีย์ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งมีแค่คุณที่เข้าถึงได้ด้วยการป้อน PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านของอุปกรณ์ Android
  • หากไม่ได้ตั้งค่า PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านในอุปกรณ์ Android คุณก็ยังใช้ฟีเจอร์นี้ได้อยู่ ระบบจะเข้ารหัสข้อมูลตำแหน่งล่าสุดโดยใช้คีย์ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งมีแค่คุณที่เข้าถึงได้ด้วยการป้อนรหัสผ่านของบัญชี Google
  • หากใช้ Android เวอร์ชัน 8.0 หรือต่ำกว่า อุปกรณ์จะไม่สามารถเข้าร่วมเครือข่ายที่กว้างขึ้นของแอปหาอุปกรณ์ของฉันที่มีการรวบรวมข้อมูลจากมวลชนได้ แต่จะยังคงจัดเก็บตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสของอุปกรณ์นั้นเอง รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่ออยู่ไว้กับ Google การจัดเก็บตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสทำให้แอปหาอุปกรณ์ของฉันช่วยค้นหาสิ่งที่สูญหายได้แม้ว่าจะออฟไลน์อยู่ในขณะที่ค้นหาก็ตาม ใน Android เวอร์ชัน 8.0 และต่ำกว่า คุณจะปรับการตั้งค่านี้ได้ที่การตั้งค่า จากนั้น Google จากนั้น บริการทั้งหมด (หากมีแท็บ) จากนั้น หาอุปกรณ์ของฉัน จากนั้น จัดเก็บตำแหน่งล่าสุด

"ใช้เครือข่ายในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากเท่านั้น"

อุปกรณ์ Android ของคุณจะช่วยผู้อื่นค้นหาสิ่งต่างๆ ในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากโดยค่าเริ่มต้น และคุณก็จะได้รับความช่วยเหลือในการค้นหาสิ่งของในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก

เมื่อเจ้าของขอตำแหน่งของสิ่งที่สูญหาย โดยค่าเริ่มต้นแล้ว เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันจะรวบรวมตำแหน่งที่ส่งจากอุปกรณ์ของคุณไปพร้อมกับตำแหน่งจากอุปกรณ์ Android อื่นๆ อีกหลายเครื่องที่ตรวจพบสิ่งที่สูญหายนั้นเช่นกัน

การรวบรวมข้อมูลคืออะไร

การรวบรวมข้อมูลจะทำให้เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันรอจนกว่าจะมีอุปกรณ์ Android หลายเครื่องตรวจพบสิ่งที่สูญหาย จากนั้นแอปจะแสดงจุดศูนย์กลางซึ่งคำนวณจากรายงานตำแหน่งที่หลากหลายให้เจ้าของสิ่งที่สูญหายได้ทราบ

วิธีนี้จะช่วยให้ผู้อื่นรวมถึงคุณค้นพบสิ่งต่างๆ ในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากซึ่งมักมีสิ่งของสูญหายบ่อยที่สุดได้ เช่น สนามบินหรือทางเท้าที่มีคนพลุกพล่าน ขณะเดียวกันก็ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของทุกคนที่แชร์ข้อมูลตำแหน่งจากอุปกรณ์ Android ไปยังเครือข่ายด้วย

สำคัญ: เมื่อคุณเข้าร่วมเครือข่าย อุปกรณ์ Android จะจัดเก็บตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสของอุปกรณ์นั้นเอง รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่ออยู่ไว้กับ Google ด้วย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันนี้ได้ในส่วนไม่ใช้เครือข่าย แอปหาอุปกรณ์ของฉันจะใช้ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ไม่ว่าจากอุปกรณ์ของคุณเองหรือรวบรวมข้อมูลจากมวลชนในเครือข่ายที่กว้างขึ้นเพื่อช่วยคุณค้นหาสิ่งของ

"ใช้เครือข่ายในทุกพื้นที่"

หากต้องการใช้เครือข่ายแอปหาอุปกรณ์ของฉันในการช่วยค้นหาสิ่งที่สูญหายในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนน้อย คุณสามารถเลือกใช้การแชร์ข้อมูลตำแหน่งผ่านเครือข่ายเพื่อช่วยผู้อื่นค้นหาสิ่งที่สูญหายได้ แม้ว่าจะมีแค่อุปกรณ์ของคุณที่ตรวจพบและแชร์ตำแหน่งของสิ่งนั้นก็ตาม ผู้ใช้ที่เปิดตัวเลือกนี้จะช่วยกันค้นหาสิ่งต่างๆ ทั้งในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากและพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนน้อย โดยตัวเลือกนี้อาจช่วยให้คุณค้นหาสิ่งของที่สูญหายได้เร็วขึ้น

สำคัญ: เมื่อคุณเข้าร่วมเครือข่าย อุปกรณ์ Android จะจัดเก็บตำแหน่งล่าสุดที่เข้ารหัสของอุปกรณ์นั้นเอง รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่ออยู่ไว้กับ Google ด้วย อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชันนี้ได้ในส่วนไม่ใช้เครือข่าย แอปหาอุปกรณ์ของฉันจะใช้ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ไม่ว่าจากอุปกรณ์ของคุณเองหรือรวบรวมข้อมูลจากมวลชนในเครือข่ายที่กว้างขึ้นเพื่อช่วยคุณค้นหาสิ่งของ

เคล็ดลับ: คุณสามารถลบอุปกรณ์ทั้งหมดและตำแหน่งของอุปกรณ์เหล่านั้นผ่านแอปหาอุปกรณ์ของฉันได้ทุกเมื่อ

แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
13114475027946410578
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
1634144
false
false