บทความนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีต่างๆ 4 วิธีในการสร้างโปรโมชันสำหรับผลิตภัณฑ์หลังจากที่คุณเปิดใช้งานส่วนเสริมโปรโมชันในบัญชี Merchant Center แล้ว
ในหน้านี้
- ใช้เครื่องมือสร้างโปรโมชัน
- สร้างแหล่งข้อมูลโปรโมชัน
- ใช้ Content API สำหรับโปรโมชัน
- ใช้โปรโมชันจากพาร์ทเนอร์บุคคลที่สาม
ใช้เครื่องมือสร้างโปรโมชัน
เครื่องมือสร้างโปรโมชันช่วยให้คุณป้อนโปรโมชันแต่ละรายการด้วยตนเองและระบุข้อมูลต่างๆ เช่น เกณฑ์การใช้จ่าย จำนวนส่วนลด รายละเอียดของขวัญ และอื่นๆ ได้ เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องมือสร้างโปรโมชันหากมีโปรโมชันที่ต้องการส่งเพียงไม่กี่รายการ
เครื่องมือสร้างโปรโมชันรองรับสิ่งจูงใจต่อไปนี้
- ส่วนลดเป็นจำนวนเงิน: มอบส่วนลดที่เป็นจำนวนเงินสำหรับสินค้า
- ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์: มอบส่วนลดที่เป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับสินค้า
- ของขวัญฟรี: มอบของขวัญฟรีตามการซื้อสินค้าหรือจำนวนเงินที่ใช้จ่าย
- จัดส่งฟรี: มอบบริการจัดส่งฟรีตามการซื้อสินค้าหรือจำนวนเงินที่ใช้จ่าย โปรดทราบว่าสิ่งจูงใจนี้ใช้กับโฆษณาสินค้าคงคลังในร้านไม่ได้
- ช่วงส่วนลด: เสนอช่วงส่วนลดเป็นช่วงจำนวนเงินคงที่หรือช่วงเปอร์เซ็นต์ เช่น ลด 150-200 บาท, "เริ่มต้นที่ 150 บาท" และลดสูงสุด 10% สำหรับโปรโมชันประเภทนี้ คุณจะเชื่อมโยงโปรโมชันกับผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงไม่ได้
- บริการคืนเงิน: มอบส่วนลดแบบบริการคืนเงินเป็นจำนวนเงินคงที่หรือเป็นเปอร์เซ็นต์
หากสร้างโปรโมชันโดยใช้เครื่องมือสร้างโปรโมชัน คุณจะยังอัปโหลดโปรโมชันในแหล่งข้อมูลโปรโมชันได้ หลังจากเลือกสิ่งจูงใจสำหรับโปรโมชันแล้ว เครื่องมือจะแสดงเงื่อนไขทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโปรโมชัน
เงื่อนไขเหล่านี้ ได้แก่
- ยอดสั่งซื้อขั้นต่ำ:
- ตามจำนวนเงิน: คุณสามารถกำหนดให้ผู้เลือกซื้อใช้จ่ายถึงจำนวนเงินขั้นต่ำเพื่อแลกรับโปรโมชัน เช่น "ใช้จ่ายครบ 500 บาท" หรือ "รับส่วนลด 10%"
- ตามจำนวนสินค้า: คุณสามารถกำหนดให้ผู้เลือกซื้อทำการซื้อสินค้าตามจำนวนขั้นต่ำเพื่อแลกรับโปรโมชัน เช่น "ซื้อ 2 แถม 1"
- ข้อกำหนดของการได้รับสิทธิ์:
- สมัครใช้บริการและประหยัด: โปรโมชันต้องกำหนดให้ลูกค้าลงชื่อสมัครใช้เพื่อซื้อแบบสมัครใช้บริการ
- การสั่งซื้อครั้งแรก: โปรโมชันต้องกำหนดให้ใช้กับลูกค้าที่ไม่เคยทำการซื้อมาก่อน
- ลงชื่อสมัครรับอีเมล: โปรโมชันต้องกำหนดให้ลูกค้าลงชื่ออยู่ในรายชื่ออีเมลของร้านค้า
- ลงชื่อสมัครรับข้อความ: โปรโมชันต้องกำหนดให้ลูกค้าลงชื่อสมัครรับ SMS ทางการตลาดของร้านค้า
- คำอธิบายข้อความที่กำหนดเอง: เงื่อนไขการมีสิทธิ์อื่นๆ
ทำตามคำแนะนำและข้อความแจ้งเพื่อสร้างโปรโมชัน
วิธีการ
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อสร้างข้อเสนอโปรโมชันโดยใช้เครื่องมือสร้างโปรโมชัน
- ในบัญชี Merchant Center ให้คลิกโปรโมชันในเมนูการนำทางด้านซ้าย
- คลิกเพิ่มโปรโมชันในเมนูแบบเลื่อนลง
- เลือกตัวเลือกเพื่อเพิ่มทีละรายการ
- ในหน้า "ประเภทโปรโมชัน" ให้ทำตามวิธีการเพื่อระบุประเทศและภาษา วิธีที่คุณต้องการแสดงโปรโมชันใน Google, หมวดหมู่โปรโมชัน, ประเภทโปรโมชัน และรายละเอียดโปรโมชัน
- คลิกต่อไป
- ในหน้า "การตั้งค่าโปรโมชัน" ให้ทำตามวิธีการเพื่อเพิ่มชื่อและรหัสโปรโมชัน ผลิตภัณฑ์ รหัสโปรโมชัน (ไม่บังคับ) รวมถึงวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุด
- คลิกบันทึก
สร้างแหล่งข้อมูลโปรโมชัน
หากไม่ต้องการใช้เครื่องมือสร้างโปรโมชันเพื่อเพิ่มโปรโมชันทีละรายการ คุณสามารถอัปโหลดแหล่งข้อมูลโปรโมชันตามข้อกำหนดข้อมูลโปรโมชัน ตัวเลือกนี้เหมาะที่สุดหากมีโปรโมชันที่ต้องการส่งจำนวนมาก
วิธีการ
วิธีสร้างแหล่งข้อมูลโปรโมชันใหม่
- ในบัญชี Merchant Center ให้คลิกโปรโมชันในเมนูการนำทางด้านซ้าย
- เลือกแท็บแหล่งที่มาของโปรโมชัน
- คลิกเพิ่มโปรโมชัน
- ระบุประเทศและภาษาเป้าหมาย ชื่อและวิธีการป้อนข้อมูล รวมถึงรายละเอียดการตั้งค่า
- คลิกต่อไป
หากต้องการเปลี่ยนแปลงโปรโมชันที่มีอยู่หรือสถานะโปรโมชัน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมและขั้นตอนต่างๆ ได้ที่แก้ไขโปรโมชันหรือเปลี่ยนสถานะโปรโมชัน
แอตทริบิวต์ข้อมูล
แอตทริบิวต์ที่คุณระบุในแหล่งข้อมูลจะเป็นตัวกำหนดวิธีที่โปรโมชันจะแสดงบน Google แหล่งข้อมูลโปรโมชันต้องมีแอตทริบิวต์ต่อไปนี้
- รหัสโปรโมชัน
[promotion_id]
- ผลิตภัณฑ์ที่มีสิทธิ์สำหรับโปรโมชัน
[product_applicability]
- ต้องระบุรหัสคูปอง
[offer_type]
- รหัสแลกรับข้อเสนอทั่วไป
[generic_redemption_code]
- รหัสแลกรับข้อเสนอทั่วไป
- ชื่อโปรโมชัน
[long_title]
- ปลายทางโปรโมชัน
[promotion_destination]
- หมายเหตุ: เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายโปรโมชันสำหรับปลายทางแอฟฟิลิเอตของ YouTube ระบบจะกำหนดเป้าหมายโปรโมชันนั้นไปยัง
ปลายทางโปรโมชันอื่นๆ ไม่ได้ เนื่องจากอาจทำให้มีการยกเลิกการเชื่อมโยงโปรโมชัน
- หมายเหตุ: เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายโปรโมชันสำหรับปลายทางแอฟฟิลิเอตของ YouTube ระบบจะกำหนดเป้าหมายโปรโมชันนั้นไปยัง
- วันที่เริ่มต้นโปรโมชัน
[promotion_effective_dates]
-
ช่องทางที่มีสิทธิ์รับโปรโมชัน
[redemption_channel]
โปรดไปที่ข้อกำหนดแหล่งข้อมูลโปรโมชันเพื่อดูรายการแอตทริบิวต์โปรโมชันที่จำเป็นและไม่บังคับโดยละเอียด
ใช้ Content API สำหรับโปรโมชัน
Content API for Shopping ช่วยให้คุณแชร์และจัดการข้อมูลโปรโมชันด้วย Google ได้โดยอัตโนมัติ หลังจากผสานรวมกับบัญชีแล้ว Content API จะอนุญาตให้แอปโต้ตอบกับ Merchant Center Next ได้โดยตรงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการนำเข้าข้อมูลของคุณโดยตรงเมื่อมีการอัปเดต
Content API ช่วยให้คุณทำสิ่งต่อไปนี้ได้
- ปรับจำนวนผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็วซึ่งคุณสามารถเพิ่มโปรโมชัน
- ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการด้วยตนเองเพื่อประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาด
- ลดความล่าช้าเมื่อข้อมูลซิงค์กับบัญชี
Content API ยังไม่รองรับแอตทริบิวต์เงื่อนไขใหม่ (สมัครใช้บริการและประหยัด สั่งซื้อครั้งแรก ลงชื่อสมัครรับอีเมล ข้อความ กำหนดเอง) และแอตทริบิวต์สิ่งจูงใจ (ช่วงส่วนลด บริการคืนเงิน)
โปรดไปที่คู่มือนักพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Content API for Shopping
ใช้โปรโมชันจากพาร์ทเนอร์บุคคลที่สาม
คุณสามารถใช้บัญชี Shopify หรือ WooCommerce เพื่อเชื่อมต่อส่วนลดผลิตภัณฑ์กับบัญชี Merchant Center และแสดงโปรโมชันผลิตภัณฑ์บน Google ได้อย่างง่ายดาย เมื่อลิงก์บัญชีของบุคคลที่สามกับบัญชี Merchant Center แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องสร้างโปรโมชันผ่าน Merchant Center อีกต่อไป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างและจัดการโปรโมชันกับพาร์ทเนอร์บุคคลที่สาม
ซึ่งประโยชน์หลักๆ มีดังนี้
- การผสานรวมที่ง่ายดาย: ส่วนลดหรือโปรโมชันใหม่และที่มีอยู่จากพาร์ทเนอร์บุคคลที่สามที่รองรับจะผสานรวมกับบัญชี Merchant Center อย่างราบรื่นเพื่อแสดงโปรโมชัน
- ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น: ผลิตภัณฑ์ที่มีคำอธิบายประกอบโปรโมชันมักจะมีการคลิกและ Conversion เพิ่มขึ้น