การแจ้งเตือน

คุณจะดูเนื้อหาสำหรับทั้งประสบการณ์การใช้งาน Merchant Center Next และ Merchant Center แบบคลาสสิกได้ในศูนย์ช่วยเหลือนี้ โปรดมองหาโลโก้ที่ด้านบนของแต่ละบทความ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้บทความ Merchant Center เวอร์ชันที่เหมาะกับคุณ 

เกี่ยวกับการให้ข้อมูลย้อนหลังของการติดตามคำสั่งซื้อเพื่อแสดงความเร็วในการจัดส่งที่แม่นยำยิ่งขึ้น

ไอคอนที่กำหนดเองสำหรับส่วนหัวของบทความ Merchant Center แบบคลาสสิก

หากกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการลิงก์พาร์ทเนอร์กับบัญชี Merchant Center ใน Merchant Center Next ให้คลิกที่นี่

หากใช้พาร์ทเนอร์ที่ระบุข้อมูลประวัติการติดตามคำสั่งซื้อได้ คุณก็จะมีตัวเลือกให้ลิงก์บัญชี Merchant Center กับบัญชีพาร์ทเนอร์โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ Google ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อคำนวณความเร็วในการจัดส่งให้คุณได้ โดยจะแตกต่างกันไปตามตำแหน่งของผู้ใช้และสินค้าที่ผู้ใช้กำลังพิจารณาอยู่ หรือระบุข้อมูลย้อนหลังของการติดตามคำสั่งซื้อผ่านการอัปโหลดด้วยตนเองหรือ API โดยตรงก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัญญาณการติดตามคำสั่งซื้อ

เมื่อเริ่มระบุประวัติการติดตามคำสั่งซื้อ แสดงว่าคุณเลือกใช้ "การปรับปรุงการจัดส่งอัตโนมัติ" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ Google สามารถใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงในการคำนวณความเร็วในการจัดส่งสำหรับข้อเสนอทั้งหมดในประเทศและข้อมูลประเภทต่างๆ ที่มีสิทธิ์ หากรูปแบบการจัดส่งยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของคุณอาจจัดส่งไปยังผู้ใช้ที่ระบุได้เร็วกว่าที่คุณกำหนดค่าไว้ใน Merchant Center หรือฟีด เราจะแสดงความเร็วในการจัดส่งที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว

ในหน้านี้


ประโยชน์

  • ความชัดเจนและความแม่นยำ: ความเร็วในการจัดส่งที่กำหนดค่าด้วยตนเองมักช้ากว่าความเป็นจริง เนื่องจากมักนำตำแหน่งที่อยู่ห่างไกลที่สุดมาพิจารณา จึงทำให้เวลานำส่งมีช่วงที่กว้าง เช่น 3-10 วัน โดยทั่วไป ความเร็วในการจัดส่งที่คำนวณโดย Google จะอิงตามตำแหน่งของลูกค้า เช่น รหัสไปรษณีย์หรือรัฐ ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการจัดส่งมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เช่น 3-5 วัน การทำให้เวลานำส่งมีความแม่นยำมากขึ้นมักทำให้เกิดอัตรา Conversion ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปรับให้เร็วขึ้น
  • คำอธิบายประกอบการจัดส่ง: ข้อมูลนี้สามารถใช้ในการตรวจสอบการตั้งค่าการจัดส่ง ซึ่งจะช่วยให้คุณมีสิทธิ์รับป้าย "จัดส่งฟรีและรวดเร็ว" รวมถึงคำอธิบายประกอบการจัดส่งที่คล้ายกัน

วิธีการทำงาน

หลังจากที่คุณลิงก์บัญชี Merchant Center กับพาร์ทเนอร์หรืออัปโหลดข้อมูลด้วยตนเอง Google จะคำนวณความเร็วในการจัดส่งในนามของคุณได้ โดย Google จะดึงข้อมูลย้อนหลังของการติดตามคำสั่งซื้อสำหรับข้อเสนอที่มีอยู่ผ่านบัญชีที่ลิงก์ ทั้งนี้เพื่อคำนวณความเร็วในการจัดส่งที่ปรับแต่งให้เหมาะกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ หากเราคาดการณ์ความเร็วในการนำส่งที่เร็วกว่า ก็จะแสดงข้อมูลดังกล่าวให้ลูกค้าทราบแทนที่จะเป็นความเร็วที่คุณได้กำหนดค่าไว้ใน Merchant Center หรือฟีด

หากต้องการลิงก์พาร์ทเนอร์ คุณจะต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้

  • จัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา
  • ใช้บริการของพาร์ทเนอร์รายใดรายหนึ่งของเรา เช่น CedCommerce, Sales & Orders, ShipHero, ShipStation และ Simprosys
    • หากใช้พาร์ทเนอร์หลายราย คุณจะลิงก์กับพาร์ทเนอร์กี่รายก็ได้ตามที่ต้องการ
  • นอกจากนี้ คุณสามารถสร้างฟีดการติดตามคำสั่งซื้อย้อนหลังแล้วอัปโหลดด้วยตนเองได้
หมายเหตุ: หากคุณเป็นพาร์ทเนอร์และต้องการให้เราเพิ่มบริการของคุณลงในรายการ โปรดกรอกแบบฟอร์มแสดงความสนใจนี้

วิธีที่ Google ใช้ข้อมูลนี้

ข้อมูลประวัติการติดตามคำสั่งซื้อประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้

  • ข้อมูลคำสั่งซื้อ เช่น รหัสคำสั่งซื้อ เวลาสร้างคำสั่งซื้อ รหัสไปรษณีย์ของการนำส่ง และรหัสภูมิภาค
  • ค่าจัดส่งที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อ
  • ข้อมูลการจัดส่ง เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง หมายเลขติดตาม ต้นทาง ปลายทาง และเวลาจัดส่งสำหรับการจัดส่งแต่ละรายการที่เชื่อมโยงกับคำสั่งซื้อนั้นๆ
  • ข้อมูลสินค้าในรายการสั่งซื้อ เช่น ผลิตภัณฑ์ในคำสั่งซื้อ

ทั้งนี้ คุณไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลที่ระบุไว้ข้างต้นทั้งหมด และเราจะไม่เรียกข้อมูลชื่อหรือที่อยู่ที่แน่นอนของลูกค้า 

คุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหากข้อมูลประวัติการติดตามคำสั่งซื้อที่คุณหรือพาร์ทเนอร์ส่งมีคำสั่งซื้อทั้งหมดจากเว็บไซต์ของคุณ เช่น เว็บไซต์ที่ Google เปลี่ยนเส้นทางการเข้าชมไปให้

คุณสามารถใส่ระดับบริการต่างๆ ที่ผู้ใช้เลือกผสมกันได้ เช่น "จัดส่งฟรี" และ "ข้ามคืน" โดย Google จะพยายามแยกระดับบริการเหล่านั้นในการจัดทำโมเดล อย่างไรก็ตาม โปรดหลีกเลี่ยงการรวมแหล่งที่มาของคำสั่งซื้อที่ไม่ได้เป็นตัวแทนเว็บไซต์ของคุณ เช่น มาร์เก็ตเพลสที่ต้องมีการจัดส่งภายใน 2 วันสำหรับคำสั่งซื้อส่วนใหญ่ หากคุณไม่สามารถควบคุมแหล่งที่มาของคำสั่งซื้อที่ส่งให้ Google ในแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์ อาจเป็นไปได้ว่า Google และพาร์ทเนอร์ของคุณได้ทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว

หมายเหตุ: เราจะใช้ข้อมูลที่คุณส่งเพื่อให้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Google ทำงานได้ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ค้าปลีกทุกราย รวมถึงธุรกิจของคุณด้วย แต่เราจะไม่แชร์ข้อมูลของคุณกับผู้ค้าปลีกรายอื่นๆ หรือบุคคลที่สาม นอกเหนือจากการเปรียบเทียบแบบรวมที่ลบข้อมูลระบุตัวบุคคลออก เช่น การเปรียบเทียบที่ใช้ในตารางสรุปสถิติเกี่ยวกับประสบการณ์การช็อปปิ้ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google

วิธีการ

คุณใช้ข้อมูลพาร์ทเนอร์กับบัญชี Merchant Center ได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

  • คุณสร้างบริการจัดส่งตามข้อมูลพาร์ทเนอร์ได้
  • หรือหากมีบริการจัดส่งอยู่แล้ว คุณจะใช้ข้อมูลพาร์ทเนอร์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพการจัดส่งได้
  • สร้างบริการจัดส่งโดยใช้ข้อมูลจากพาร์ทเนอร์

สร้างบริการจัดส่งโดยใช้ข้อมูลจากพาร์ทเนอร์

หากต้องการใช้ข้อมูลพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างบริการจัดส่ง ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. คลิกเพิ่มบริการจัดส่งในส่วน "บริการจัดส่งของคุณ" ในหน้าการจัดส่งหลัก
  2. ป้อนชื่อสำหรับบริการจัดส่ง เช่น "การจัดส่งภาคพื้นดินแบบมาตรฐาน"
  3. เลือกประเทศใดประเทศหนึ่งที่มีสิทธิ์ในส่วน "คุณนำส่งด้วยบริการนี้ไปยังประเทศใดได้บ้าง"
  4. เลือกสกุลเงินที่ใช้ในประเทศและตรวจสอบว่าตรงกับสกุลเงินที่แสดงในฟีด หากสกุลเงินต่างกัน สินค้าอาจไม่ได้รับอนุมัติ
  5. คลิกถัดไปเพื่อกำหนดค่าการตั้งค่าเวลานำส่ง
  6. เลือกข้อมูลการจัดส่งจากพาร์ทเนอร์ในส่วน "คุณต้องการกำหนดเวลานำส่งอย่างไรให้บริการนี้"
  7. เลือกพาร์ทเนอร์และทำตามข้อความที่ปรากฏเพื่อลิงก์บัญชี
    1. หากคุณไม่ได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์รายใดรายหนึ่งที่มีอยู่ ให้เลือก "แชร์ประวัติคำสั่งซื้อโดยใช้ไฟล์"
    2. ดาวน์โหลดเทมเพลตของ Google และเตรียมข้อมูลประวัติการติดตามคำสั่งซื้อในรูปแบบดังกล่าว
  8. อัปโหลดข้อมูลประวัติการติดตามคำสั่งซื้อเป็นไฟล์ .csv หรือ .tsv
  9. ยืนยันเวลานำส่งสำรองเพื่อให้ Google ใช้เมื่อยังมีข้อมูลการจัดส่งไม่เพียงพอในการสร้างเวลานำส่งโดยประมาณสำหรับลูกค้า สินค้า หรือสถานที่ตั้งหนึ่งๆ โดยคุณต้องดำเนินการนี้ ดูวิธีกำหนดเวลานำส่งโดยประมาณ
  10. คลิกถัดไปเพื่อกำหนดค่าอัตราค่าจัดส่งที่คุณเรียกเก็บจากลูกค้า

ลิงก์พาร์ทเนอร์ในหน้าภาพรวมบริการจัดส่ง

  1. คลิกการยืนยันข้อมูลการจัดส่งในหน้าภาพรวมบริการจัดส่ง
  2. คลิก + การยืนยันใหม่
  3. เลือกพาร์ทเนอร์และทำตามข้อความที่ปรากฏเพื่อลิงก์บัญชี
    1. หากคุณไม่ได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์รายใดรายหนึ่งที่มีอยู่ ให้เลือก "แชร์ประวัติคำสั่งซื้อโดยใช้ไฟล์"
    2. ดาวน์โหลดเทมเพลตของ Google และเตรียมข้อมูลประวัติการติดตามคำสั่งซื้อในรูปแบบดังกล่าว
    3. อัปโหลดข้อมูลประวัติการติดตามคำสั่งซื้อเป็นไฟล์ .csv หรือ .tsv
  4. คลิกเสร็จสิ้น

ลิงก์พาร์ทเนอร์จากเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์โดยตรง

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเริ่มกระบวนการจากพาร์ทเนอร์ที่รองรับแต่ละรายด้านล่าง

เมื่อเริ่มกระบวนการลิงก์บัญชีจากเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางคุณไปยัง Merchant Center โปรดลงชื่อเข้าใช้หากยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ แล้วดำเนินการต่อเพื่อเชื่อมต่อบัญชี Merchant Center กับพาร์ทเนอร์การจัดส่ง ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางคุณไปยังเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์เพื่อดำเนินการลิงก์ให้เสร็จสมบูรณ์


การยกเลิกการลิงก์

หากต้องการจัดการพาร์ทเนอร์ที่ลิงก์หรือยกเลิกการลิงก์ ให้ไปที่การตั้งค่า "บัญชีที่ลิงก์" ภายใน Merchant Center แล้วคลิกแท็บ "แพลตฟอร์ม" การยกเลิกการลิงก์พาร์ทเนอร์จะเป็นการยกเลิกการให้สิทธิ์ของ Google ในการเรียกข้อมูลจากพาร์ทเนอร์รายนี้ ระบบจะลบข้อมูลทั้งหมดก่อนหน้านี้จากพาร์ทเนอร์รายนี้ภายใน 120 วัน บริการจัดส่งที่ใช้ข้อมูลพาร์ทเนอร์รายนี้จะยังใช้ได้อยู่ โดยในขณะนี้จะยึดตามเวลานำส่งสำรองของคุณ

หากลิงก์พาร์ทเนอร์ไว้เมื่อสร้างบริการจัดส่ง คุณจะสามารถหยุดชั่วคราวหรือลบบริการจัดส่งที่ลิงก์กับพาร์ทเนอร์ หรือใช้ข้อมูลการติดตามคำสั่งซื้อที่ระบุด้วยตนเองได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ คุณสามารถเปลี่ยนบริการจัดส่งตามพาร์ทเนอร์ให้เป็นนโยบายมาตรฐานที่กำหนดค่าด้วยตนเอง หรือเปลี่ยนนโยบายมาตรฐานที่กำหนดค่าด้วยตนเองให้เป็นบริการจัดส่งตามพาร์ทเนอร์ได้ทุกเมื่อ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
14239638709616769809
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
71525
false
false