นโยบายประสบการณ์การอ้างอิง

ประสบการณ์การอ้างอิงหมายถึงประสบการณ์ของผู้ใช้หลังจากเห็นราคาบนเว็บไซต์ของ Google แล้วคลิกผ่านไปยังหน้า Landing Page ของพาร์ทเนอร์ และหน้าการจองในท้ายที่สุด Google กำหนดให้คุณรักษาการนำเสนอห้องพัก/ราคาที่ผู้ใช้เลือกบนเว็บไซต์ของ Google ให้สอดคล้องกันและชัดเจน รวมถึงมีขั้นตอนการจองที่สมเหตุสมผลเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การอ้างอิงที่ดี

เราประเมินประสบการณ์การอ้างอิงตามเกณฑ์ต่อไปนี้สำหรับเว็บไซต์ที่มีการจอง การไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ต่อไปนี้อาจทำให้เกิดการระบุราคาว่าไม่ถูกต้อง

  1. ราคาต้องถูกต้องและจองทางออนไลน์ได้: ราคารวมที่ผู้ใช้เห็นบนเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ต้องตรงกับที่ผู้ใช้เห็นใน Google สำหรับแผนการเดินทางที่เลือก โดยต้องเป็นข้อมูลราคาที่ถูกต้องครบถ้วน และผู้ใช้ต้องดำเนินการจองให้เสร็จสมบูรณ์ได้ในราคาดังกล่าว รวมถึงธุรกรรมต้องได้รับการยืนยันที่โรงแรมภายใน 24 ชั่วโมง
  2. ห้องพักและราคาที่ผู้ใช้คลิกจาก Google ต้องแสดงอย่างโดดเด่นต่อผู้ใช้ในหน้า Landing Page ดูรายละเอียดและตัวอย่างได้ที่ส่วน "การแสดงห้องพักและราคาที่เลือกไว้ให้โดดเด่น" ด้านล่าง
  3. ผู้ใช้ต้องเข้ามายังหน้าเว็บที่ง่ายต่อการจองห้องพักในราคาที่เลือก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "นโยบายขั้นตอนการจองและหน้า Landing Page"
  4. ต้องแสดงอัตราการจองสุดท้ายและอัตราการจองทั้งหมดก่อนที่จะขอข้อมูลของผู้ใช้
  5. ข้อมูลที่แสดงตั้งแต่ตอนที่เข้าไปยังเว็บไซต์จนถึงการจองต้องสอดคล้องกัน ชัดเจน และครบถ้วน ดูรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องระบุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนได้ที่ส่วน "นโยบายข้อมูลสำหรับหน้า Landing Page และหน้าการจอง"
  6. หน้าเว็บต้องโหลดได้ในระยะเวลาที่สมเหตุสมผลและทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ระบบอาจพิจารณาว่าหน้าเว็บไม่ทำงานในกรณีที่เนื้อหา (เช่น รูปภาพและคำอธิบาย) ราคา หรือลิงก์โหลดไม่สำเร็จ และหากผู้ใช้โต้ตอบกับหน้าเว็บไม่ได้เป็นเวลานานกว่า 10 วินาที

โดยทั่วไปแล้ว ราคาที่ผู้ใช้เห็นใน Google ต้องเป็นราคาต่ำสุดที่คุณเสนอบนเว็บไซต์สำหรับโรงแรม คู่วันที่ อัตราการเข้าพัก และจุดขายนั้นๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้มากที่สุดและนำเสนอเว็บไซต์ของคุณใน Google ได้ดีที่สุด แม้เราจะพิจารณาว่าการแสดงราคาใน Google เป็นราคาต่ำสุดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้และพาร์ทเนอร์ แต่คุณก็ส่งราคาที่ถูกต้องอีกราคาได้ในบางกรณีที่ส่งราคาต่ำสุดไม่ได้

เราทราบดีว่าประสบการณ์สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ใช้การค้นหาเมตานั้นค่อนข้างแตกต่างจากพาร์ทเนอร์ที่มีการจองเกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ โปรดอ่านส่วนด้านล่างเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์ที่คาดหวังสำหรับพาร์ทเนอร์ที่ใช้การค้นหาเมตา

ประสบการณ์การอ้างอิงที่คาดหวังสำหรับพาร์ทเนอร์ที่ใช้การค้นหาเมตา

พาร์ทเนอร์บางรายอาจแสดงราคาจากผู้ให้บริการการจองรายอื่น (เช่น ฟังก์ชันประเภทการค้นหาเมตา) พาร์ทเนอร์เหล่านั้นยังคงมีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษาราคาที่ถูกต้องและเส้นทางที่ชัดเจนในการจองราคาที่พบบน Google พาร์ทเนอร์เหล่านั้นที่รวบรวมข้อมูลราคาจากผู้ให้บริการและส่งผู้ใช้ไปยังนอกเว็บไซต์เพื่อจอง (เช่น พาร์ทเนอร์ที่ใช้การค้นหาเมตา) ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษ

  1. ราคาต้องถูกต้องและจองทางออนไลน์ได้: ราคารวมที่ผู้ใช้เห็นบนเว็บไซต์ของคุณต้องตรงกับที่ผู้ใช้เห็นใน Google สำหรับแผนการเดินทางที่เลือก โดยต้องเป็นข้อมูลราคาที่ถูกต้องครบถ้วนและผู้ใช้ต้องดำเนินการจองให้เสร็จสมบูรณ์ได้ในราคาดังกล่าวบนเว็บไซต์ของคุณหรือของพาร์ทเนอร์
  2. ห้องพักและราคาที่ผู้ใช้คลิกจาก Google ต้องแสดงอย่างโดดเด่นเมื่อผู้ใช้เข้าไปยังหน้าเว็บของคุณ แม้ว่าระบบจะโหลดราคาหลังจากที่ผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณแล้ว แต่ตัวเลือกที่ผู้ใช้คลิกบน Google จะต้องปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนตามเดิม (เช่น ไม่ได้ซ่อนอยู่หลังแท็บ "ดูเพิ่มเติม") ดูรายละเอียดและตัวอย่างได้ที่ส่วน "การแสดงห้องพักและราคาที่เลือกไว้ให้โดดเด่น" ด้านล่าง
  3. ผู้ใช้ควรเข้ามายังหน้าเว็บที่ง่ายต่อการจองห้องพักในราคาที่เลือก หากการจองเกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของคุณ คุณต้องปฏิบัติตาม "นโยบายขั้นตอนการจองและหน้า Landing Page" หากการจองเกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ การจองบนเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ก็ต้องเป็นไปตามนโยบายดังกล่าว
  4. ต้องแสดงอัตราการจองสุดท้ายและอัตราการจองทั้งหมดก่อนที่จะขอข้อมูลของผู้ใช้
  5. ข้อมูลที่แสดงตั้งแต่ตอนที่เข้าไปยังเว็บไซต์จนถึงการจองควรสอดคล้องกัน ชัดเจน และครบถ้วน ดูรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องระบุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนได้ที่ส่วน "นโยบายข้อมูลสำหรับหน้า Landing Page และหน้าการจอง"

การแสดงห้องพักและราคาที่เลือกไว้ให้โดดเด่น

ห้องพักและราคาที่ผู้ใช้คลิกบน Google ควรสังเกตเห็นได้ง่ายเมื่อผู้ใช้เข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจึงต้องปรากฏในหน้า Landing Page อย่างเด่นชัด เรานิยามคำว่า "โดดเด่น" แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของหน้าเว็บที่ผู้ใช้เข้ามา โดยอธิบายได้ดังนี้

  • สำหรับหน้า Landing Page ที่เป็นการเลือกห้องพักหรือหน้าการจอง ผู้ใช้จะต้องมองเห็นและค้นหาห้องพักและราคาได้ง่าย ตัวเลือกที่ต้องเลื่อนดูมากเกินไปจะถือว่ายากต่อการค้นหา
  • สำหรับหน้า Landing Page ที่กำหนดให้ผู้ใช้เลือกโรงแรมหรือผู้ให้บริการ ราคาที่ผู้ใช้เลือกจากเว็บไซต์ของ Google ต้องอยู่ในตำแหน่งและ/หรือมีการจัดการให้แตกต่างจากราคาอื่นๆ เพื่อทำให้ชัดเจนและผู้ใช้เข้าใจง่าย

เราทราบดีว่าเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์มีการออกแบบแตกต่างกันไป เราจึงอยากขอแนะนำให้ดูตัวอย่างบางส่วนด้านล่างซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการพิจารณาว่าโดดเด่น

  • ราคาที่มีขนาดใหญ่กว่าราคาอื่นๆ และอยู่ในตำแหน่งบนสุดของหน้าเว็บ
  • ปุ่มตัวเลือกหลักของราคาที่อยู่ในตำแหน่งบนสุดของหน้าเว็บ
  • ราคาที่อยู่ใกล้กับด้านบนของหน้าเว็บและมีภาพบ่งชี้ (เช่น มีไฮไลต์หรือข้อความ) ที่ระบุว่าเป็นตัวเลือกที่ต้องการ
  • ราคาที่ปักหมุดไว้ทางด้านขวาหรือด้านซ้ายของหน้าเว็บ ซึ่งแตกต่างจากราคาอื่นๆ ในหน้าเว็บ

โปรดติดต่อตัวแทนของ Google หากคุณสงสัยว่าการแสดงผลที่ "โดดเด่น" บนเว็บไซต์ผ่านเกณฑ์ของเราหรือไม่ ด้านล่างคือภาพตัวอย่างบางส่วนที่จะเป็นแนวทางให้กับคุณ

หมายเหตุ: ภาพเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น และอาจไม่เป็นไปตามการใช้งานสำหรับเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ทั้งหมด

ตัวอย่าง

ราคาที่แสดงบน Google อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด (ผ่าน)

Google ตรวจสอบหน้า Landing Page เป็นระยะๆ ว่าเป็นไปตามนโยบายนี้หรือไม่ การตรวจสอบอาจล้มเหลวในกรณีที่ราคามีหลายราคาโดยไม่มีสิ่งที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน ต้องเลื่อนเพื่อค้นหา ต้องคลิกเพิ่มเติมเพื่อดู และอื่นๆ

นโยบายขั้นตอนการจองและหน้า Landing Page

หน้า Landing Page ต้องมีประเภทห้องพัก วันที่เช็คอิน วันที่เช็คเอาต์ และอัตราการเข้าพักเดียวกันกับที่ผู้ใช้เลือกใน Google เราขอแนะนำให้ใช้หน้า Landing Page เป็นหน้าการจอง ในกรณีที่ไม่ใช่หน้าการจอง หน้า Landing Page ต้องมีลักษณะดังนี้

  • อนุญาตให้ผู้ใช้ดำเนินการจองโรงแรมได้โดยไม่มีการคลิกที่ไม่จำเป็นซึ่งไม่ได้ทำให้ผู้ใช้เข้าใกล้การจองมากขึ้น หรือป้อนโรงแรมหรือวันที่ที่เลือกอีกครั้งได้ทุกเมื่อในขั้นตอน
  • แสดงชื่อโรงแรมอย่างชัดเจน
  • ระบุขั้นตอนถัดไปเพื่อให้ผู้ใช้ดำเนินการจอง

เมื่อผู้ใช้คลิกผ่านไปยังหน้าการจอง (หรือในกรณีที่หน้า Landing Page เป็นหน้าการจองด้วย) หน้าดังกล่าวต้องมีลักษณะดังนี้

  • ปฏิบัติตามนโยบายภาษีและค่าธรรมเนียมของเรา
  • แสดงชื่อโรงแรม วันที่ และอัตราการเข้าพัก
  • ราคาจากการคลิกอ้างอิง (เช่น ราคาที่ผู้ใช้คลิกจากหน้า Landing Page หรือราคาที่ผู้ใช้เลือกบน Google) จะต้องทำให้ผู้ใช้ค้นหาได้อย่างง่ายดายหรือสอดคล้องกับราคาที่เกี่ยวข้องกับปุ่มการจองหลัก (หากมีปุ่มการจองหลัก)

ความไม่พร้อมใช้งานของประเภทราคาที่ผู้ใช้คลิกผ่านขั้นตอนการจองถือว่าเป็นการละเมิดด้านความถูกต้อง

นโยบายข้อมูลสำหรับหน้า Landing Page และหน้าการจอง

ราคาที่แสดงในหน้า Landing Page ต้องมีความครอบคลุมและเงื่อนไขเหมือนกัน (เช่น การคืนเงิน, Wi-Fi, คะแนน และอื่นๆ) กับราคาที่แสดงต่อผู้ใช้ซึ่งเริ่มต้นการค้นหาจากเว็บไซต์การจองของคุณโดยตรง

หน้า Landing Page ต้องมีลักษณะดังนี้

  • แสดงชื่อโรงแรม
  • แสดงประเภทห้องพัก วันที่เช็คอิน วันที่เช็คเอาต์ จำนวนผู้เข้าพัก ภาษา และราคาฐานเดียวกันกับที่ผู้ใช้เลือกใน Google
  • ไม่รวมการชำระเงิน ค่าธรรมเนียม และบริการเพิ่มเติมในราคารวมโดยค่าเริ่มต้น
  • ปฏิบัติตามนโยบายเกี่ยวกับราคาแบบขอเงินคืนได้ หากขอเงินคืนได้

หน้าการจองต้องมีลักษณะดังนี้

  • แสดงชื่อโรงแรม
  • แสดงประเภทห้องพัก วันที่เช็คอิน วันที่เช็คเอาต์ จำนวนผู้เข้าพัก ภาษา และราคาฐานเดียวกันกับที่ผู้ใช้เลือกใน Google
  • รวมค่าธรรมเนียมภาษีที่จำเป็นทั้งหมดนอกเหนือจากราคาฐานที่เหมาะสม
  • ไม่รวมการชำระเงิน ค่าธรรมเนียม และบริการเพิ่มเติมในราคารวมโดยค่าเริ่มต้น
  • ปฏิบัติตามนโยบายเกี่ยวกับราคาแบบขอเงินคืนได้ หากขอเงินคืนได้

นโยบายในหน้าเว็บคั่นระหว่างหน้าที่ปรากฏก่อนหน้า Landing Page คืออะไร

Google ถือว่าหน้า Landing Page เป็นปลายทางจริงของผู้ใช้หลังจากผ่านการเปลี่ยนเส้นทางซึ่งเกิดจากการคลิกลิงก์ที่อ้างอิงบนเว็บไซต์ของ Google หน้าเว็บที่เสถียรนี้จะอยู่ในตอนท้ายของการเปลี่ยนเส้นทาง และจะไม่เปลี่ยนแปลงหากไม่มีการโต้ตอบของผู้ใช้เอง

หน้าเว็บคั่นระหว่างหน้าคือหน้าเว็บที่แสดงก่อนหน้า Landing Page และเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้า Landing Page โดยอัตโนมัติหลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่งแล้ว เราไม่แนะนำให้แสดงหน้าเว็บคั่นระหว่างหน้าระหว่างเว็บไซต์ Google และหน้า Landing Page อย่างไรก็ตาม หากต้องแสดงโฆษณาคั่นระหว่างหน้า โฆษณาดังกล่าวต้องมีแบรนด์เป็นแบรนด์พาร์ทเนอร์ที่ตรงกับลิงก์การอ้างอิงบน Google

จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันละเมิดนโยบายนี้

Google ใช้ระบบอัตโนมัติควบคู่กับการประเมินโดยเจ้าหน้าที่เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามนโยบาย การละเมิดนโยบายประสบการณ์การอ้างอิงจะส่งผลให้ราคาได้รับการพิจารณาว่าไม่ถูกต้อง หรือทำให้ระบบถือว่าพาร์ทเนอร์ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด การบังคับใช้อาจมีผลในระดับราคา พร็อพเพอร์ตี้ หรือบัญชี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ Google อาจดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อความถูกต้องของราคาที่ต่ำในหน้านโยบายความถูกต้องของราคา

ขอให้ Google พิจารณาคำตัดสินการระงับอีกครั้ง

หากไม่เห็นด้วยกับผลการตัดสินให้ระงับบัญชีและต้องการให้เราพิจารณาคำตัดสินอีกครั้ง คุณสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ถูกระงับ โดยเราได้แนบแบบฟอร์มคำร้องไว้ให้ในอีเมลแจ้งเตือนการระงับแล้ว โปรดทราบว่าหลังจากสิ้นสุดระยะเวลา 6 เดือนนี้ คุณจะไม่สามารถขอให้เราพิจารณาคำตัดสินใหม่ได้อีกต่อไป

คุณยื่นอุทธรณ์ได้เพียง 1 รายการต่อคำตัดสินการระงับ โปรดอย่ายื่นคำอุทธรณ์ที่ไม่มีมูลความจริงซ้ำ ก่อนยื่นอุทธรณ์ โปรดทำความเข้าใจนโยบายของ Google ขณะยื่นอุทธรณ์ โปรดระบุหลักฐานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือเพื่ออธิบายว่าเหตุใด Google จึงควรพิจารณาคำตัดสินใหม่ ไม่เช่นนั้น คุณอาจไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้อีกในอนาคต

เมื่อยื่นอุทธรณ์แล้ว คำขอของคุณจะได้รับการตรวจสอบทันที และ Google จะติดต่อกลับหาคุณพร้อมผลการตัดสิน หากอุทธรณ์ไม่สำเร็จ คุณจะต้องแก้ไขการละเมิดนโยบายทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ Google เราถึงจะยกเลิกการระงับ

สำหรับผู้ใช้ในสหภาพยุโรปที่อยู่ภายใต้กฎหมายบริการดิจิทัล (Digital Services Act หรือ DSA) ของสหภาพยุโรป

อ่านตัวเลือกการแก้ปัญหาตามกฎหมายบริการดิจิทัล (Digital Services Act) ของสหภาพยุโรปเพื่อดูตัวเลือกการอุทธรณ์เพิ่มเติม

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2694701637591764126
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
81426
false
false