การเปิดใช้การยืนยันการซื้อช่วยป้องกันการซื้อที่ไม่ได้รับอนุญาตในอุปกรณ์ได้
การปิดการตั้งค่าการยืนยันการซื้ออาจส่งผลให้มีการซื้อที่ไม่ได้รับอนุญาต คุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการซื้อที่ไม่ได้ตั้งใจหรือการซื้อที่ไม่ได้รับอนุญาต
เคล็ดลับ
- ตรวจสอบและอัปเดตการตั้งค่าการยืนยันการซื้อเพื่อรักษาบัญชีให้ปลอดภัย
- การตั้งค่าการยืนยันจะมีผลกับการซื้อผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ในอุปกรณ์ที่เลือกการตั้งค่านี้ไว้เท่านั้น
- เมื่อคุณสร้างกลุ่มครอบครัวใน Google Play สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้วิธีการชำระเงินของครอบครัวเพื่อทำการซื้อผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ดูวิธีสร้างครอบครัวใน Google และจัดการครอบครัวใน Google
- คุณเปลี่ยนหรือรีเซ็ตรหัสผ่านของบัญชี Google ได้หากจำเป็น
การยืนยัน 2 ประเภท
เมื่อทำการซื้อผ่าน Google Play ไม่ว่าอุปกรณ์ของคุณจะเป็นรุ่นใด ระบบอาจแจ้งให้คุณยืนยันการซื้อด้วยวิธีต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิภาคของคุณ
- การยืนยันการซื้อใน Google Play (เช่น PIN, รูปแบบ, รหัสผ่าน หรือข้อมูลไบโอเมตริก): การยืนยันนี้มีไว้สำหรับอุปกรณ์และบัญชี Google Play ที่เฉพาะเจาะจงของคุณ และดำเนินการโดย Google
- การยืนยันวิธีการชำระเงิน: วิธีการชำระเงินบางวิธี (เช่น UPI ในอินเดีย การชำระเงินที่ร้านสะดวกซื้อหรือการโอนเงินผ่านธนาคาร และอื่นๆ) มีกระบวนการยืนยันตัวตนของตัวเองแยกต่างหาก ซึ่งมักจะทำผ่านแอปหรือการเข้าสู่ระบบสำหรับวิธีการชำระเงินนั้นๆ Google ไม่ได้ควบคุมกระบวนการยืนยันตัวตนนี้
การยืนยันด้วยข้อมูลไบโอเมตริก
ข้อมูลไบโอเมตริกหมายถึงลายนิ้วมือหรือรูปแบบใบหน้าที่จัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ เมื่อเปิดใช้ข้อมูลไบโอเมตริกสำหรับการยืนยันการซื้อใน Google Play คุณจะสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อยืนยันการซื้อแทนวิธีการอื่นๆ เช่น PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่าน
โปรดทราบว่าข้อมูลไบโอเมตริกใดๆ ที่จัดเก็บในอุปกรณ์ของคุณสามารถใช้ทำการยืนยันได้ หากคุณแชร์อุปกรณ์และเลือกข้อมูลไบโอเมตริกเป็นวิธีการยืนยัน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสะดวกใจกับข้อมูลไบโอเมตริกทั้งหมดที่จัดเก็บในอุปกรณ์ที่จะใช้ในการยืนยัน
เมื่อเปิดใช้การยืนยันด้วยข้อมูลไบโอเมตริก ระบบจะขอให้คุณใช้ลายนิ้วมือหรือใบหน้าทุกครั้งที่ทำการซื้อเพื่อยืนยันว่าเป็นคุณ
สำคัญ: คุณสามารถใช้ข้อมูลไบโอเมตริกทั้งหมดที่จัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์เพื่อยืนยันการซื้อที่ดำเนินการผ่านบัญชี Google โปรดคำนึงถึงเรื่องนี้หากคุณใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้อื่น- เปิดแอป Google Play
- แตะไอคอนโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
- แตะการตั้งค่า
การยืนยันการซื้อ
- ทำตามข้อความแจ้งเพื่อเปิดหรือปิดการยืนยันข้อมูลไบโอเมตริก
การตั้งค่าการยืนยัน
คุณจะตั้งค่าการยืนยันการซื้อได้ (1) ตามความถี่ในการยืนยัน หรือ (2) ตามวิธีการชำระเงินที่ใช้ ทั้งนี้ยกเว้น play.google.com และขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และภูมิภาคของคุณ
ตัวเลือกการยืนยันตามความถี่
หากการตั้งค่าอิงตามความถี่ในการยืนยัน คุณจะเลือกความถี่ที่ต้องการให้ Google Play ยืนยันการซื้อ โดยมีตัวเลือกดังนี้
- ทุกครั้ง (การตั้งค่าเริ่มต้น): ต้องมีการยืนยันสำหรับการซื้อผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ทุกครั้ง ซึ่งรวมถึงการซื้อภายในแอป
- ทุก 30 นาที (อุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น): ทุกครั้งที่ยืนยันการซื้อ คุณจะทำการซื้อผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play (รวมถึงภายในแอป) ได้ต่อไปอีก 30 นาที โดยไม่ต้องยืนยันอีกครั้ง
- ไม่ต้องยืนยัน: ไม่ต้องมีการยืนยันสำหรับการซื้อใดๆ ผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play
เคล็ดลับ
- แม้ว่าการตั้งค่าการยืนยันตามความถี่จะเป็น "เสมอ" หรือ "ทุก 30 นาที" ก็ตาม Google Play อาจไม่ยืนยันการซื้อสำหรับวิธีการชำระเงินบางวิธี เช่น การชําระเงินที่ร้านสะดวกซื้อหรือการโอนเงินผ่านธนาคาร
- ต้องมีการยืนยันเสมอสำหรับการซื้อแอปหรือเกมทุกรายการที่ออกแบบมาสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ซึ่งทำผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play และอาจเกิดขึ้นในกรณีที่มีกิจกรรมที่ผิดปกติในบัญชี แม้ว่าคุณจะตั้งค่าไว้เป็นอย่างอื่นก็ตาม
ตัวเลือกการยืนยันตามวิธีการชำระเงิน
หากการตั้งค่าอิงตามวิธีการชำระเงิน คุณจะเลือกเวลาที่ต้องการให้ทำการยืนยันการซื้อใน Google Play ได้ ตัวเลือกเหล่านี้ช่วยให้คุณเลือกข้ามการยืนยันบน Google Play ได้ในกรณีที่วิธีการชำระเงินของคุณมีกระบวนการยืนยันตัวตนแยกต่างหากอยู่แล้ว วิธีนี้จะช่วยลดความซับซ้อนของประสบการณ์การซื้อไปพร้อมกับช่วยให้การซื้อของคุณปลอดภัย โดยมีตัวเลือกดังนี้
- วิธีการชำระเงินทั้งหมด: คุณจะต้องทำการยืนยันการซื้อใน Google Play นอกเหนือจากการยืนยันที่วิธีการชำระเงินของคุณกำหนด
- เฉพาะวิธีการชำระเงินที่ไม่มีกระบวนการยืนยันตัวตนแยกต่างหาก: วิธีการชำระเงินที่ไม่มีกระบวนการยืนยันแยกต่างหากจะต้องได้รับการยืนยันใน Google Play ส่วนวิธีการชำระเงินที่มีกระบวนการแยกต่างหากจะไม่ต้องได้รับการยืนยันใน Google Play
- ไม่มี: Google Play จะไม่ขอการยืนยันจากคุณ
เคล็ดลับ
- ต้องมีการยืนยันเสมอสำหรับการซื้อแอปหรือเกมทุกรายการที่ออกแบบมาสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ซึ่งทำผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play และอาจเกิดขึ้นในกรณีที่มีกิจกรรมที่ผิดปกติในบัญชี แม้ว่าคุณจะตั้งค่าไว้เป็นอย่างอื่นก็ตาม
- หากต้องการการยืนยันการซื้อสำหรับ "วิธีการชำระเงินทั้งหมด" คุณอาจต้องทำการยืนยันการซื้อ 2 ครั้งสำหรับวิธีการชำระเงินที่มีกระบวนการยืนยันตัวตนแยกต่างหาก โดยทำการยืนยัน 1 ครั้งกับ Google Play และอีก 1 ครั้งกับวิธีการชำระเงิน
ข้อกำหนดการยืนยันในภูมิภาคของคุณ
คุณดูได้ว่าวิธีการชำระเงินใดบ้างที่ต้องได้รับการยืนยันผ่าน Google Play หากการตั้งค่าเป็น "เฉพาะวิธีการชำระเงินที่ไม่มีกระบวนการยืนยันตัวตนแยกต่างหาก"
วิธีการชำระเงิน |
จะต้องได้รับการยืนยันใน Google Play หากคุณเลือก "เฉพาะวิธีการชำระเงินที่ไม่มีกระบวนการยืนยันตัวตนแยกต่างหาก" |
Unified Payments Interface (UPI) |
ไม่ |
บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต |
ใช่ |
ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต |
ไม่ |
ยอดเงินคงเหลือใน Google Play และบัตรของขวัญ Google Play |
ใช่ |
วิธีเลือกการตั้งค่าการยืนยัน
การตั้งค่าการยืนยันของ Google Play จะมีผลกับบัญชีที่ใช้งานอยู่ในอุปกรณ์ที่คุณตั้งค่าไว้เท่านั้น ยกเว้นการตั้งค่าใน play.google.com และการตั้งค่า Google Assistant บางอย่าง ซึ่งจะมีผลกับอุปกรณ์ทุกเครื่อง หากคุณใช้บัญชี Google ในอุปกรณ์มากกว่า 1 เครื่อง ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างกับอุปกรณ์ให้ครบทุกเครื่อง หากอุปกรณ์มีบัญชีที่ใช้งานอยู่หลายบัญชี ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่างกับทุกบัญชีในอุปกรณ์ดังกล่าว
เคล็ดลับ: คุณช่วยป้องกันไม่ให้มีการซื้อจากแอปและเกมที่ให้บริการนอกส่วน "ครอบครัว" ในอุปกรณ์โดยไม่ตั้งใจได้ด้วยการเปิดการยืนยันการซื้อ ในแอปหรือเกมที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้อายุไม่เกิน 12 ปี Google Play จะยืนยันผู้ใช้อีกครั้งก่อนที่จะซื้อไอเทมในแอปได้ วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการซื้อของบุตรหลานจะได้รับอนุมัติจากบุคคลที่รับผิดชอบด้านการเงิน
- เปิดแอป Google Play
- แตะรูปโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
- แตะการตั้งค่า
การยืนยันการซื้อ
ความถี่ในการยืนยัน
- เลือกตัวเลือก
- ยืนยันการเปลี่ยนแปลง
- พูดว่า "Ok Google เปิดการตั้งค่า Assistant" ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android
- ในส่วน "การตั้งค่ายอดนิยม" ให้แตะคุณ
การชำระเงิน
- เปิดหรือปิดชำระเงินผ่าน Assistant
- เปิดหรือปิดยืนยันด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้าและยืนยันด้วย Voice Match
หากคุณใช้แอป Play Store ใน Chromebook ให้ทำดังนี้
- เปิดแอป Google Play Store
- คลิกเมนู
การตั้งค่า
- คลิกค่ากำหนดการยืนยัน
- เลือกการตั้งค่าที่ต้องการ
- ทำตามวิธีการบนหน้าจอ
เคล็ดลับ
- การดำเนินการนี้จะใช้ได้เมื่อใช้แอป Google Play Store ใน Chromebook เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ Google Play Store ใน Chromebook
- หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าการยืนยัน คุณจะต้องใช้รหัสผ่าน Google ไปที่การกู้คืนบัญชีหากจำรหัสผ่านไม่ได้
- ไปที่ play.google.com
- คลิกรูปโปรไฟล์ที่ด้านขวาบน
- คลิกการตั้งค่า
- เลือกการตั้งค่าในส่วน "ค่ากำหนดการยืนยัน"
- คลิกอัปเดต
โดยมีตัวเลือกดังนี้
- การซื้อและการติดตั้งแอปผ่าน play.google.com (การตั้งค่าเริ่มต้น): ต้องมีการยืนยันสำหรับการซื้อผ่านบัญชี Google ใน play.google.com ทุกครั้ง
- เฉพาะการติดตั้งแอปผ่าน play.google.com: เมื่อลงชื่อเข้าใช้ play.google.com ก็ไม่จำเป็นต้องมีการยืนยันสำหรับการซื้อเนื้อหาดิจิทัล เช่น เนื้อหาที่ต้องซื้อและการซื้อในแอป การยืนยันจะจำเป็นสำหรับการติดตั้งแอประยะไกลผ่านบัญชี Google ใน play.google.com
เคล็ดลับ
- หากคุณใช้อุปกรณ์ร่วมกับผู้อื่นหรือต้องการป้องกันไม่ให้มีการซื้อเนื้อหาที่ดึงดูดเด็กผ่าน play.google.com คุณควรเปิดใช้การยืนยันสำหรับการซื้อ
- การตั้งค่าการยืนยันจะมีผลกับการซื้อผ่านระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play เท่านั้น
- เปิด Google Play Games
ในคอมพิวเตอร์
- คลิกชื่อเกมเมอร์ของคุณที่ด้านบน
- คลิก "การตั้งค่า"
- ข้าง "การยืนยันการซื้อ" ให้คลิกรีเซ็ต