หน้าเนื้อหาแอปเป็นที่ที่คุณจะระบุและจัดการข้อมูลที่เราต้องการ เพื่อตรวจสอบว่าแอปของคุณปลอดภัยสำหรับผู้ใช้เป้าหมายของแอป, เป็นไปตามนโยบายโปรแกรมสำหรับนักพัฒนาแอป Google Play และปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
ภาพรวม
หน้าเนื้อหาแอปช่วยให้เราทราบเกี่ยวกับเนื้อหาของแอป คุณสามารถประกาศเกี่ยวกับนโยบายและระบุข้อมูลอื่นๆ เช่น วิธีการเข้าถึงพิเศษสำหรับผู้ตรวจสอบได้ในหน้านี้ มาดูตัวอย่างอื่นๆ ของสิ่งที่คุณทำได้ในหน้าเนื้อหาแอปเพื่อให้แอปเป็นไปตามนโยบายของ Google Play
- เพิ่มนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อแชร์วิธีที่คุณปฏิบัติต่อข้อมูลผู้ใช้ที่มีความละเอียดอ่อนและข้อมูลอุปกรณ์
- ประกาศว่าแอปของคุณมีโฆษณาหรือไม่
- ระบุและจัดการวิธีการเข้าถึงส่วนที่ถูกจำกัดของแอป
- ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายและเนื้อหาของแอป
- อธิบายวิธีที่คุณตั้งใจจะใช้สิทธิ์ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความละเอียดอ่อน เช่น สิทธิ์เข้าถึง SMS/บันทึกการโทร
- รับการจัดประเภทเนื้อหาจากหน่วยงานการจัดประเภทอย่างเป็นทางการ
- โปรดระบุรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของแอปคุณ
หน้าเนื้อหาแอปจะมี 2 แท็บ ดังนี้
- ต้องดำเนินการ: ประกาศเกี่ยวกับนโยบายที่คุณต้องตรวจสอบจะแสดงที่นี่ คุณต้องทำการประกาศให้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดเวลาที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามนโยบายของ Google Play
- ดำเนินการแล้ว: ประกาศเกี่ยวกับนโยบายที่คุณดำเนินการไปแล้วจะแสดงที่นี่ เราจะแจ้งให้คุณทราบหากพบปัญหาใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ Google Play คุณควรตรวจสอบข้อมูลที่ให้ไว้เป็นประจำ และต้องอัปเดตข้อมูลดังกล่าวให้เป็นปัจจุบันเสมอ
ระบุข้อมูลแอป
นโยบายความเป็นส่วนตัว
การเพิ่มนโยบายความเป็นส่วนตัวลงในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปจะช่วยให้มีความโปร่งใสเกี่ยวกับวิธีที่คุณปฏิบัติต่อข้อมูลผู้ใช้ที่มีความละเอียดอ่อนและข้อมูลอุปกรณ์
นอกเหนือจากการเปิดเผยข้อมูลใดๆ สำหรับการสั่งซื้อในแอปแล้ว นโยบายความเป็นส่วนตัวจะต้องเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดว่าแอปของคุณรวบรวม ใช้ และแชร์ข้อมูลของผู้ใช้อย่างไร ซึ่งรวมถึงประเภทของผู้ที่คุณจะแชร์ข้อมูลให้ด้วย คุณควรปรึกษาตัวแทนทางกฎหมายเพื่อขอคำแนะนำว่าต้องระบุข้อมูลใดบ้าง
- สำหรับแอปที่ขอการเข้าถึงสิทธิ์หรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน (ตามที่กำหนดไว้ในนโยบายข้อมูลผู้ใช้) คุณจะต้องใส่ลิงก์ไปยังนโยบายความเป็นส่วนตัวในหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปและภายในแอป โปรดตรวจสอบว่านโยบายความเป็นส่วนตัวอยู่ใน URL ที่ใช้งานได้ มีผลบังคับใช้กับแอปของคุณ และครอบคลุมความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยเฉพาะ
- สำหรับแอปที่กำหนดเป้าหมายเป็นเด็ก โปรดทราบว่า คุณจะต้องใส่ลิงก์ไปยังนโยบายความเป็นส่วนตัวในหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store ของแอปและภายในแอป โดยไม่คำนึงว่าแอปจะเข้าถึงสิทธิ์หรือข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนหรือไม่ โปรดตรวจสอบว่านโยบายความเป็นส่วนตัวอยู่ใน URL ที่ใช้งานได้ มีผลบังคับใช้กับแอปของคุณ และครอบคลุมความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยเฉพาะ โปรดทราบว่าแม้แต่แอปที่ไม่ได้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ก็ยังคงต้องส่งนโยบายความเป็นส่วนตัว
เพิ่มนโยบายความเป็นส่วนตัว
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าเนื้อหาแอป (Policy and programs > เนื้อหาแอป)
- ในส่วน "นโยบายความเป็นส่วนตัว" ให้เลือกเริ่มต้น
- หมายเหตุ: หากคุณได้เพิ่มนโยบายความเป็นส่วนตัวไว้และต้องการเปลี่ยนแปลง จะเห็นคำว่าจัดการแทน "เริ่มต้น" ให้เลือกตัวเลือกนี้
- ป้อน URL ที่โฮสต์นโยบายความเป็นส่วนตัวอยู่แบบออนไลน์
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
โฆษณา
คุณต้องประกาศว่าแอปมีโฆษณาหรือไม่ ซึ่งรวมถึงโฆษณาที่แสดงผ่าน SDK โฆษณาของบุคคลที่สาม (ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์) โฆษณาแบบดิสเพลย์ โฆษณาเนทีฟ และ/หรือโฆษณาแบนเนอร์ แอปที่มีโฆษณาจะมีป้ายกำกับ "มีโฆษณา" แสดงในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store โดยผู้ใช้ Play Store ทุกคนจะมองเห็นป้ายกำกับนี้
หมายเหตุ: ป้ายกำกับ "มีโฆษณา" ไม่ได้หมายรวมว่าแอปมีเนื้อหาโฆษณาประเภทอื่นหรือไม่ เช่น การแสดงผลิตภัณฑ์แบบชำระเงินหรือข้อเสนอให้ทำการซื้อในแอปหรือการอัปเกรด หากแอปของคุณมีการแสดงผลิตภัณฑ์แบบชำระเงิน โปรดตรวจสอบว่าแอปเป็นไปตามกฎหมายท้องถิ่น
ประกาศว่าแอปของคุณมีโฆษณาหรือไม่
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าเนื้อหาแอป (Policy and programs > เนื้อหาแอป)
- ในส่วน "โฆษณา" ให้เลือกเริ่มต้น
- หมายเหตุ: หากคุณได้ประกาศไว้ว่าแอปมีหรือไม่มีโฆษณาและต้องการเปลี่ยนแปลง จะเห็นคำว่าจัดการแทนเริ่มต้น ให้เลือกตัวเลือกนี้
- โปรดอ่านนโยบายโฆษณาเพื่อตรวจสอบว่าแอปของคุณเป็นไปตามข้อกำหนด แล้วเลือก "ใช่" หรือ "ไม่"
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่าง
ต่อไปนี้คือตัวอย่างการใช้โฆษณาที่คุณควรตอบว่า "ใช่" เพื่อยอมรับว่ามีโฆษณาตามจุดประสงค์ของป้ายกำกับ "มีโฆษณา" ตัวอย่างเหล่านี้ไม่ใช่รายการที่ครอบคลุมทั้งหมด แต่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของประเภทโฆษณาโดยทั่วไป
- โฆษณาแบนเนอร์และโฆษณาคั่นระหว่างหน้า: แอปของฉันผสานรวม SDK โฆษณาเพื่อแสดงโฆษณาแบนเนอร์และ/หรือโฆษณาคั่นระหว่างหน้า ฉันใช้โฆษณารูปแบบดังกล่าวเพื่อสร้างรายได้และ/หรือโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือแอปของตนเอง
- โฆษณาเนทีฟ: แอปของฉันมีโฆษณาเนทีฟซึ่งกลมกลืนไปกับเนื้อหาอื่นๆ (ตัวอย่างเช่น บทความที่ได้รับการสนับสนุน โฆษณาที่อยู่ในฟีด ฯลฯ)
- โฆษณาเฮาส์แอ็ด: แอปของฉันแสดงแบนเนอร์โฆษณาขนาดเล็ก โฆษณาคั่นระหว่างหน้า กำแพงโฆษณา และ/หรือวิดเจ็ตเพื่อโปรโมตแอปอื่นๆ ของฉัน
คุณควรตอบว่า "ไม่" เพื่อปฏิเสธว่าไม่มีโฆษณาตามจุดประสงค์ของป้ายกำกับ "มีโฆษณา" ในกรณีที่คุณแค่โปรโมตแอปอื่นๆ ของคุณแบบหลายช่องทางด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- แอปแสดงส่วน "แอปเพิ่มเติม"* ในเมนูหลักที่นำผู้ใช้ไปยังแอปอื่นๆ ของคุณ
- ตัวเลือก "แอปเพิ่มเติม"* ไม่ได้แทรกแซงเกมเพลย์
- ตัวเลือก "แอปเพิ่มเติม"* ไม่ได้สร้างความสับสนแก่ผู้ใช้โดยการฝังตัวลงในเกมเพลย์
*ลักษณะคล้ายกันที่ยอมรับได้อื่นๆ สำหรับ "แอปเพิ่มเติม" ได้แก่ เกมเพิ่มเติม, สำรวจเพิ่มเติม, เวอร์ชันเต็ม, เพิ่มเติม, เกี่ยวกับเรา หรือไอคอนนักพัฒนาซอฟต์แวร์
การตรวจสอบเพิ่มเติม
แม้ว่าคุณจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งโฆษณาที่มีอยู่ในแอปให้ถูกต้อง Google อาจทำการตรวจยืนยันได้ทุกเมื่อและแสดงป้ายกำกับ "มีโฆษณา" ตามความเหมาะสม
หากคุณคิดว่าระบบของเราติดป้ายกำกับแอปของคุณอย่างไม่เหมาะสม โปรดติดต่อทีมสนับสนุนเพื่อรับความช่วยเหลือ
การบังคับใช้
หากคุณสื่อให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการมีอยู่ของโฆษณาในแอป จะถือว่าเป็นการละเมิดนโยบายของ Google Play และอาจส่งผลให้แอปถูกระงับ
การเข้าถึงแอป
คุณต้องระบุรายละเอียดที่จำเป็นทั้งหมดในการเข้าถึงแอปหากมีการจำกัดการเข้าถึงทั้งแอปหรือบางส่วนของแอปที่อิงตามข้อมูลเข้าสู่ระบบ รายละเอียดการลงชื่อเข้าใช้ การเป็นสมาชิก สถานที่ หรือการตรวจสอบสิทธิ์รูปแบบอื่นๆ
เพิ่มวิธีการเข้าถึงแอป
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าเนื้อหาแอป (นโยบาย > เนื้อหาแอป)
- ในส่วน "การเข้าถึงแอป" ให้เลือกเริ่มต้น
- หมายเหตุ: หากคุณได้เพิ่มวิธีการเข้าถึงแอปไว้และต้องการเปลี่ยนแปลง จะเห็นคำว่าจัดการแทนเริ่มต้น ให้เลือกตัวเลือกนี้
- คลิก + เพิ่มวิธีการใหม่ และระบุรายละเอียดการเข้าถึง
- หมายเหตุ: ใช้ช่อง "วิธีการอื่นๆ" เพื่อแจ้งให้เราทราบหากการเข้าสู่ระบบของคุณต้องใช้กลไกพิเศษ เช่น รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว การตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย หรือการเข้าสู่ระบบที่มีมากกว่า 2 ช่อง
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
หากการอัปเดตถูกปฏิเสธหรือแอปถูกนำออก โปรดทำตามวิธีการด้านล่างเพื่อส่งแอปเข้ารับการตรวจสอบอีกครั้ง คุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลยโดยไม่ต้องติดต่อหรือรอการตอบกลับจากทีมสนับสนุนด้านนโยบาย
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการเข้าถึงแอป
- อัปเดตข้อมูลการเข้าถึงแอปแล้วคลิกบันทึก
- หากสถานะการอัปเดตเป็น "พร้อมส่งให้ตรวจสอบ" หรือหากหน้าภาพรวมการเผยแพร่ของคุณมีส่วน "การเปลี่ยนแปลงต่างๆ พร้อมให้ส่งเพื่อตรวจสอบแล้ว" คุณต้องคลิกส่งเพื่อตรวจสอบจากหน้าภาพรวมการเผยแพร่เพื่อส่งการเปลี่ยนแปลงเข้ารับการตรวจสอบ
หมายเหตุ
- คุณเพิ่มวิธีการได้ถึง 5 ชุด
- หากข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณไม่ใช่ตัวเลขหรือตัวอักษรและตัวเลขคละกัน (เช่น คิวอาร์โค้ดหรือบาร์โค้ด) ให้สร้าง URL ที่มีเนื้อหาคงที่และอัปโหลดไปยัง Play Console
- หากโดยปกติแล้วแอปต้องใช้รหัสยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนหรือรหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว โปรดจัดเตรียมข้อมูลเข้าสู่ระบบแบบนำกลับมาใช้ซ้ำได้ที่ไม่มีวันหมดอายุไว้ให้เรา
- หากโดยทั่วไปแล้วแอปใช้รหัสผ่านที่อิงตามตำแหน่ง (เช่น เขตพื้นที่เสมือน) โปรดจัดเตรียมข้อมูลเข้าสู่ระบบที่ใช้ได้ไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ที่ไหน (เช่น ข้อมูลเข้าสู่ระบบ "หลัก")
- หากโดยปกติแล้วข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณไม่ใช่ภาษาอังกฤษ โปรดจัดเตรียมเวอร์ชันภาษาอังกฤษของข้อมูลเข้าสู่ระบบที่จำเป็นทั้งหมดผ่าน Play Console
กลุ่มเป้าหมายและเนื้อหา
คุณต้องประกาศกลุ่มอายุเป้าหมายของแอป แอปที่มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายจะต้องเป็นไปตาม ข้อกำหนดในนโยบายครอบครัวของ Google Play
คุณต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับแอปของคุณ แอปอาจอยู่ภายใต้นโยบายเพิ่มเติมของ Google Play โดยขึ้นอยู่กับการเลือกกลุ่มเป้าหมายของคุณ คุณศึกษานโยบายเหล่านั้นเพื่อทำความเข้าใจได้ รวมถึงศึกษาวิธีการ กรอกข้อมูลในส่วน "กลุ่มเป้าหมายและเนื้อหา" ของหน้าเนื้อหาแอป
นอกจากนี้ คุณยังดูข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและดูรายการตรวจสอบแบบอินเทอร์แอกทีฟได้ที่ Academy for App Success.
แบบฟอร์มประกาศสิทธิ์
เราจะประเมินคำขอสิทธิ์ระหว่างขั้นตอนการเปิดตัวหลังจากที่คุณเพิ่ม Android App Bundle แล้ว หากแอปขอใช้ สิทธิ์ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความละเอียดอ่อน (ตัวอย่างเช่น SMS หรือประวัติการโทร) คุณอาจต้องกรอกแบบฟอร์มประกาศสิทธิ์และขออนุมัติจาก Google Play
ดูข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการกรอกแบบฟอร์มประกาศสิทธิ์ได้ในหน้าเนื้อหาแอป
การจัดประเภทเนื้อหา
คุณแสดงการจัดประเภทเนื้อหาที่ผู้ใช้คุ้นเคยและสอดคล้องกับพื้นที่ของผู้ใช้ได้ รวมถึงช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแอปโดยการกำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับเนื้อหาได้ด้วย
เพื่อป้องกันไม่ให้แอปแสดงเป็น "ไม่ได้จัดประเภท" โปรดลงชื่อเข้าใช้ Play Console และกรอกข้อมูลในแบบสอบถามสำหรับแต่ละแอปโดยเร็วที่สุด ระบบอาจนำแอปที่ "ไม่ได้จัดประเภท" ออกจาก Google Play
ไปที่การจัดประเภทเนื้อหาของแอปและเกมเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน่วยงานการจัดประเภทที่เจาะจงและคำอธิบาย รวมถึงวิธีการกรอกข้อมูลในส่วนนี้ของหน้าเนื้อหาแอป
แอปติดตามผู้สัมผัสและแอปสถานะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19
คุณต้องแจ้งให้เราทราบว่าแอปมีฟังก์ชันการติดตามผู้สัมผัสและ/หรือการระบุสถานะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่
โปรดอ่านข้อกำหนดสำหรับแอปเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ก่อนกรอกข้อมูลในส่วนนี้
วิธีกรอกการประกาศ "แอปติดตามผู้สัมผัสและแอปสถานะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19"
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าเนื้อหาแอป (นโยบาย > เนื้อหาแอป)
- ในส่วน "แอปติดตามผู้สัมผัสและแอปสถานะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19" ให้เลือกเริ่มต้น
- หมายเหตุ: หากได้กรอกการประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้และต้องการทำการเปลี่ยนแปลง คุณจะเห็นตัวเลือกจัดการแทนเริ่มต้น ให้เลือกตัวเลือกนั้น
- เลือกข้อความทั้งหมดที่ตรงกับแอป
- หมายเหตุ: หากแอปมีฟังก์ชันในการติดตามผู้สัมผัสหรือระบุสถานะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 คุณต้องยืนยันด้วยว่าแอปเป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับแอปเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
- บันทึกการเปลี่ยนแปลง
หากแอปมีฟังก์ชันในการติดตามผู้สัมผัสหรือระบุสถานะความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 คุณต้องจัดทำประกาศแจ้งล่วงหน้าให้กับทีมตรวจสอบแอปของ Google Play