ลงชื่อเข้าใช้และอ้างสิทธิ์ใน SDK ของคุณ

หน้านี้มีเนื้อหาช่วยเหลือสําหรับผู้ให้บริการ SDK ที่ใช้ Google Play SDK Console

หากคุณเป็นนักพัฒนาแอปที่กําลังมองหาเนื้อหาความช่วยเหลือของ Google Play Console ให้ใช้แถบค้นหาหรือกลับไปที่หน้าแรก

เมื่อใช้ Google Play SDK Console คุณจะสามารถเข้าถึงนักพัฒนาแอปใน Play Console, ดัชนี SDK ของ Play และ Android Studio เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับ SDK ของคุณ

  • แจ้งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ SDK ของคุณให้นักพัฒนาแอปที่ใช้ SDK ทราบ รายงานว่าเวอร์ชัน SDK ล้าสมัยหรือเพิ่มหมายเหตุหากมีปัญหาที่ทราบ
  • ดูรายงานข้อขัดข้องและ ANR เพื่อแก้ไขปัญหาใน SDK ของคุณ รับสแต็กเทรซทั้งสแต็กที่นักพัฒนาแอปแชร์ และเพิ่มหมายเหตุเพื่อช่วยให้นักพัฒนาแอปเข้าใจสาเหตุของปัญหาและวิธีป้องกัน หมั่นหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและปัญหาใน SDK ที่อาจส่งผลให้แอปละเมิดนโยบายโปรแกรมสำหรับนักพัฒนาแอป Google Play
  • ดูและวิเคราะห์เมตริกรวมสำหรับ SDK ของคุณในแอปที่เผยแพร่ผ่าน Google Play ตรวจสอบแนวโน้มการนำไปใช้ สัดส่วนของฐานผู้ใช้งานในมิติข้อมูลต่างๆ และส่วนแบ่งการตลาดต่อหมวดหมู่แอป

ใช้บัญชี Google ที่มีอยู่หรือสร้างบัญชี Google ใหม่เพื่อลงชื่อเข้าใช้ SDK Console หากคุณใช้บัญชี Google Workspace โปรดตรวจสอบว่าผู้ดูแลระบบได้ให้สิทธิ์เข้าถึง Google Play แล้ว โดยคุณต้องใช้บัญชี Google ของบุคคลธรรมดา และจะใช้ Google Groups ไม่ได้

เมื่อลงชื่อเข้าใช้ คุณสามารถเชิญผู้ใช้คนอื่นผ่านบัญชี Google ของผู้ใช้เหล่านั้นและจัดการสิทธิ์ของผู้ใช้แต่ละคน

สร้างบัญชี SDK Console และอ้างสิทธิ์ SDK แรกของคุณ

หากต้องการเริ่มใช้ SDK Console คุณจะต้องป้อนรหัส Maven สำหรับ SDK ที่คุณเป็นเจ้าของ SDK นี้ต้องมีสิทธิ์ใช้งาน SDK Console และคุณจะต้องพิสูจน์การเป็นเจ้าของโดยการเผยแพร่เวอร์ชันใหม่ที่มีไฟล์การยืนยัน

  1. ลงชื่อเข้าใช้ SDK Console
  2. ป้อนรหัส Maven ของ SDK ที่คุณเป็นเจ้าของและต้องการอ้างสิทธิ์ใน SDK Console โดยสามารถเพิ่มรหัสอื่นๆ อีกได้ภายหลัง
  • หมายเหตุ: รหัส Maven คือตัวระบุที่นักพัฒนาแอปใช้เพื่อดาวน์โหลดทรัพยากร Dependency จากที่เก็บของ Maven โดยประกอบไปด้วยรหัสกลุ่มและรหัสอาร์ติแฟกต์คั่นด้วยเครื่องหมายโคลอน (":") ตัวอย่างเช่น "com.example.foo:bar"
  1. เลือกตรวจสอบการมีสิทธิ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การมีสิทธิ์ของ SDK สำหรับ SDK Console
  2. หาก SDK มีสิทธิ์ ให้เลือกถัดไป แล้วดำเนินการต่อเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของ SDK
  3. เมื่อยืนยันการเป็นเจ้าของ SDK แล้ว ให้เลือกถัดไป และป้อนรายละเอียดนักพัฒนาแอปที่คุณจะสร้างบัญชีให้
  • ชื่อนักพัฒนาแอปแบบสาธารณะ: โดยทั่วไปคือชื่อองค์กรของคุณ และลักษณะที่ชื่อนักพัฒนาแอปจะปรากฏใน Google Play
  • อีเมล: เราจะใช้อีเมลนี้ในการติดต่อคุณ โดยอีเมลนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นอีเมลเดียวกับที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ และผู้ใช้ใน Google Play จะมองไม่เห็นอีเมลนี้
  • หมายเลขโทรศัพท์: เราจะใช้หมายเลขนี้ในการส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีของคุณ และผู้ใช้ใน Google Play จะมองไม่เห็นอีเมลนี้
  1. เลือกถัดไป อ่านและยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Play SDK Console แล้วเลือกสร้างบัญชี
  2. อ้างสิทธิ์ SDK ให้เสร็จสิ้นโดยเลือกเพิ่มรายละเอียด SDK แล้วเพิ่มข้อมูลต่อไปนี้
  • ชื่อ: ชื่อ SDK ของคุณจะปรากฏบน Google Play ในลักษณะนี้
  • คำอธิบาย: เพิ่มคำอธิบายแบบย่อของ SDK เพื่ออธิบายถึงการทำงานของ SDK
  • ไอคอน: เพิ่มไอคอนเพื่อแสดง SDK ของคุณบน Google Play โดยไอคอนต้องเป็นไปตามข้อกำหนดต่อไปนี้
    • JPG หรือ PNG 32 บิต (ไม่โปร่งใส)
    • 512 x 512 พิกเซล
    • ไม่เกิน 1 MB
  • หมวดหมู่: เลือกหมวดหมู่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ SDK ของคุณ โดยสามารถเลือกได้มากกว่า 1 หมวดหมู่
  • URL ของเอกสารประกอบ: เพิ่มลิงก์ไปยังเอกสารประกอบสำหรับ SDK
  • URL นโยบายความเป็นส่วนตัว: เพิ่มลิงก์ไปยังนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับ SDK
  • คำแนะนำสำหรับส่วนความปลอดภัยของข้อมูล: เพิ่มลิงก์ไปยังคำแนะนำเกี่ยวกับส่วนความปลอดภัยของข้อมูลของ Play ที่คุณแสดงต่อลูกค้าสำหรับ SDK หากยังไม่ได้เตรียมเอกสารประกอบนี้ คุณอาจพิจารณาใช้รูปแบบที่ไม่บังคับสำหรับ SDK นี้

อ้างสิทธิ์ SDK เพิ่มเติม

หากต้องการอ้างสิทธิ์ SDK เพิ่มเติม คุณจะต้องยืนยันการเป็นเจ้าของและเพิ่มรายละเอียดสำหรับ SDK แต่ละรายการดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้ SDK Console แล้วเลือก SDK ที่เมนูด้านซ้าย
  2. คลิกเพิ่ม SDK
  3. ป้อนรหัส Maven ของ SDK ที่คุณเป็นเจ้าของและต้องการอ้างสิทธิ์ใน SDK Console
    • ​​หมายเหตุ: รหัส Maven คือตัวระบุที่นักพัฒนาแอปใช้เพื่อดาวน์โหลดทรัพยากร Dependency จากที่เก็บของ Maven โดยประกอบไปด้วยรหัสกลุ่มและรหัสอาร์ติแฟกต์คั่นด้วยเครื่องหมายโคลอน (":") ตัวอย่างเช่น "com.example.foo:bar" คุณจะต้องพิสูจน์การเป็นเจ้าของโดเมนของรหัสกลุ่ม ("example.com" ในตัวอย่างก่อนหน้า) เพียงครั้งเดียวสำหรับ SDK ทั้งหมดภายใต้โดเมนดังกล่าว
  4. เลือกตรวจสอบการมีสิทธิ์ และเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้ว ให้คลิกเพิ่ม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่การมีสิทธิ์ของ SDK สำหรับ SDK Console SDK จะแสดงอยู่ในส่วนอ้างสิทธิ์ให้เสร็จสิ้นในหน้า SDK
  5. เลือกยืนยันการเป็นเจ้าของ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ยืนยันการเป็นเจ้าของ SDK
  6. เมื่อยืนยันการเป็นเจ้าของ SDK แล้ว ให้เลือกเพิ่มรายละเอียด SDK และอ้างสิทธิ์ให้เสร็จโดยระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ SDK
  • ขั้นตอนนี้รวมถึงการเลือกหมวดหมู่ SDK, การอัปโหลดไอคอน และอื่นๆ คุณเปลี่ยนแปลงข้อมูลนี้ได้ภายหลังหากต้องการ
  1. ทำขั้นตอนที่ 2-6 ซ้ำสำหรับ SDK แต่ละรายการที่คุณต้องการอ้างสิทธิ์

หลังจากอ้างสิทธิ์ใน SDK รายการหนึ่งแล้ว คุณจะเห็นรายการ SDK ทั้งหมดที่เคยอ้างสิทธิ์ไว้ในส่วน SDK ที่อ้างสิทธิ์ของหน้า SDK ทั้งหมด คุณสามารถคลิก SDK เพื่อดูรายการเวอร์ชันต่างๆ ของ SDK ดังกล่าวได้

การมีสิทธิ์ของ SDK สำหรับ SDK Console

SDK มีสิทธิ์ใช้ Google Play SDK Console ตราบใดที่มีการเผยแพร่จากแหล่งที่มาของที่เก็บแบบ Canonical ของ Maven ที่เราสามารถยืนยันได้

หากคุณเห็นข้อผิดพลาด "อ้างสิทธิ์ SDK นี้ใน SDK Console ไม่ได้" เมื่อตรวจสอบว่า SDK ของคุณมีสิทธิ์หรือไม่ หมายความว่าเราไม่สามารถระบุแหล่งที่มาของที่เก็บแบบ Canonical ของ Maven สำหรับ SDK นี้ได้ โปรดติดต่อเราเพื่อระบุ URL ของที่เก็บ

หากคุณใช้ที่เก็บแบบส่วนตัวของ Maven โปรดติดต่อเราเพื่อระบุข้อมูลเข้าสู่ระบบ

หากคุณใช้ช่องทางการเผยแพร่ที่ไม่ใช่ของ Maven โปรดติดต่อเราและแจ้งวิธีที่คุณเผยแพร่ SDK ให้เราทราบ

ยืนยันการเป็นเจ้าของ SDK

คุณต้องเผยแพร่ SDK เวอร์ชันอัปเดตโดยมีไฟล์การยืนยันแนบอยู่เพื่อพิสูจน์การเป็นเจ้าของ SDK ของคุณ

  1. ดาวน์โหลดไฟล์การยืนยันสำหรับ SDK โดยเลือกดาวน์โหลด ไฟล์การยืนยันนี้จะไม่ซ้ำกันสำหรับบัญชี SDK Console และจะเป็นไฟล์เดียวกันสำหรับ SDK ทั้งหมดที่คุณยืนยันภายในบัญชี
  2. แตกไฟล์ที่ดาวน์โหลดไปยังโฟลเดอร์หลักของ Android SDK การดำเนินการนี้จะแตกไฟล์ชื่อ "verification.properties" ภายในเส้นทาง src/main/resources/META-INF/[Your_SDK_NAME]
  3. สร้าง SDK และตรวจสอบว่ามีไฟล์การยืนยันอยู่ในไบนารีของคุณ
  4. เผยแพร่ SDK เวอร์ชันใหม่นี้ไปยังที่เก็บของคุณ ซึ่งสามารถรวมไฟล์การยืนยันไว้ใน SDK ที่เผยแพร่แล้วในที่เก็บ Maven สาธารณะได้ และไม่จำเป็นต้องมีอยู่ใน SDK รุ่นต่อๆ ไป
  5. คุณออกจากขั้นตอนนี้และกลับมาทำต่อภายหลังได้ เราจะติดต่อคุณทางอีเมลเมื่อเรายืนยันการเป็นเจ้าของแล้ว กระบวนการนี้อาจใช้เวลาสูงสุด 14 วัน

เป็นไปได้ว่าเราอาจเลือกที่เก็บแบบ Canonical ที่ไม่ถูกต้องสำหรับ SDK ของคุณ โปรดติดต่อเราหากต้องการอัปเดตหรือแก้ไขที่เก็บแบบ Canonical ของ Maven

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
999634715641260405
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false