ในเดือนพฤษภาคม 2022 เราได้เปิดตัวการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวิธีกำหนดและจัดการผลิตภัณฑ์ที่ต้องสมัครใช้บริการใน Play Console หากคุณมีการสมัครใช้บริการอยู่แล้วและต้องการทราบว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลอย่างไร โปรดดูการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในการสมัครใช้บริการใน Play Console
คุณสามารถนําเสนอไอเทมที่ซื้อในแอปซึ่งจะเรียกเก็บเงินค่าเนื้อหาหรือบริการตามรอบจากผู้ใช้ หรือที่เรียกว่าการสมัครใช้บริการได้ โดยใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play การสมัครใช้บริการดังกล่าวครอบคลุมรายการต่างๆ เช่น คอลเล็กชันแอป เกม หรือเนื้อหาอื่นๆ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมตามรอบภายในแอปบน Google Play
ระบบการสมัครใช้บริการของ Google Play มอบความยืดหยุ่นในการที่คุณจะสร้าง จัดการ และขายการสมัครใช้บริการ คุณสามารถกําหนดค่าให้กับการสมัครใช้บริการหนึ่งๆ ด้วยแพ็กเกจเริ่มต้นหลายแบบ โดยแต่ละแบบมีหลายข้อเสนอได้ เมื่อใช้ Play Console หรือ Subscription Publishing API ข้อเสนอการสมัครใช้บริการอาจมีรูปแบบการกําหนดราคาและตัวเลือกคุณสมบัติที่หลากหลายได้ คุณสามารถสร้างข้อเสนอได้ตลอดวงจรการสมัครใช้บริการ โดยใช้แพ็กเกจการต่ออายุใหม่อัตโนมัติและแพ็กเกจชําระล่วงหน้าหลากหลายรูปแบบ
- คุณสามารถสร้างไอเทมที่ซื้อในแอป ซึ่งเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้แบบครั้งเดียวได้ด้วย
บทความนี้อธิบายฟังก์ชันการทำงานของการสมัครใช้บริการ หากต้องการทำความเข้าใจวิธีสร้างและจัดการการสมัครใช้บริการใน Play Console ให้ไปที่สร้างและจัดการการสมัครใช้บริการ หากต้องการทําความเข้าใจวิธีนำการสมัครใช้บริการไปใช้งานในแอป Android และแบ็กเอนด์ โปรดไปที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android
ข้อสําคัญ: นอกเหนือจากข้อมูลในหน้านี้แล้ว คุณควรอ่านนโยบายโปรแกรมสําหรับนักพัฒนาแอปของ Google Play รวมถึงนโยบายการสมัครใช้บริการด้วย
ภาพรวมของการสมัครใช้บริการ
ส่วนนี้จะแนะนําแนวคิด วัตถุประสงค์ และฟังก์ชันการทำงานของการสมัครใช้บริการ
วัตถุประสงค์ของการสมัครใช้บริการมี 3 ประเภท ดังนี้
- การสมัครใช้บริการ: วัตถุประสงค์ของการสมัครใช้บริการจะกําหนดชุดของสิทธิประโยชน์ที่ผู้ใช้เข้าถึงได้ในช่วงระยะเวลาที่ระบุไว้
- แพ็กเกจเริ่มต้น: แพ็กเกจเริ่มต้นจะกําหนดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน ประเภทการต่ออายุ (ต่ออายุใหม่อัตโนมัติหรือชําระล่วงหน้า) และราคา การสมัครใช้บริการหนึ่งๆ สามารถมีแพ็กเกจเริ่มต้นหลายแบบ
- ข้อเสนอ: ข้อเสนอจะกําหนดส่วนลดสําหรับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ แพ็กเกจเริ่มต้นแบบหนึ่งสามารถมีหลายข้อเสนอ
รูปภาพด้านล่างแสดงโครงสร้างของประเภทวัตถุประสงค์ของการสมัครใช้บริการ
การสมัครใช้บริการ
การสมัครใช้บริการคือชุดของสิทธิประโยชน์ที่ผู้ใช้เข้าถึงได้ในช่วงระยะเวลาที่ระบุไว้ คุณมีการสมัครใช้บริการภายในแอปเดียวกันได้หลายบริการ โดยมีไว้แสดงสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง (เช่น แอปวิดีโอสตรีมมิงอาจมีการสมัครใช้บริการข่าวและกีฬาแยกกันได้) หรือมีไว้สำหรับระดับชุดสิทธิประโยชน์ชุดเดียวที่แตกต่างกัน (เช่น แอปพื้นที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์อาจมีการสมัครใช้บริการขนาด 100 GB, 1 TB และ 10 TB ได้)
ผู้ใช้มีสิทธิ์ (หรือการให้สิทธิ์) เข้าถึงการสมัครใช้บริการด้วยการซื้อแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอ ไม่ว่าจะในแอปของคุณหรือใน Google Play
แพ็กเกจเริ่มต้น
การสมัครใช้บริการมีแพ็กเกจเริ่มต้นอย่างน้อย 1 รายการ แพ็กเกจเริ่มต้นจะระบุชุดแอตทริบิวต์ที่ไม่ซ้ำกันสำหรับช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินและประเภทการต่ออายุหนึ่งๆ คุณระบุได้ว่าการสมัครใช้บริการจะต่ออายุโดยอัตโนมัติ (ต่ออายุใหม่อัตโนมัติ) หรือไม่ต่ออายุ (แพ็กเกจแบบชำระเงินล่วงหน้า)
การสมัครใช้บริการมีแพ็กเกจเริ่มต้นได้หลายรายการ เช่น ในการสมัครใช้บริการ "การเป็นสมาชิกแบบพรีเมียม" ครั้งเดียว คุณสามารถสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นต่อไปนี้ได้
- แพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติรายเดือน
- แพ็กเกจเริ่มต้นแบบชําระเงินล่วงหน้ารายเดือน
- แพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติรายปี
หมายเหตุ: สําหรับการสมัครใช้บริการแต่ละรายการ คุณสามารถสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอรวมกันได้สูงสุด 250 รายการ และใช้งานได้สูงสุด 50 รายการพร้อมกัน โดยส่วนที่เหลือต้องอยู่ในสถานะฉบับร่างหรือไม่ได้ใช้งาน
การต่ออายุใหม่อัตโนมัติ
ผู้ใช้สามารถซื้อแพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติเพื่อรับสิทธิ์การสมัครใช้บริการสําหรับช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินที่ระบุ โดยมีการเรียกเก็บเงินและขยายการให้สิทธิ์โดยอัตโนมัติเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินแต่ละรอบ แพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติจะให้สิทธิ์ของการสมัครใช้บริการแบบไม่ขาดตอนจนกว่าจะยกเลิก การสมัครใช้บริการสามารถยกเลิกได้โดยผู้ใช้ นักพัฒนาแอป หรือระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play
ชำระล่วงหน้า
ผู้ใช้สามารถซื้อแพ็กเกจเริ่มต้นแบบชำระล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิ์ของการสมัครใช้บริการสำหรับช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินที่ระบุไว้โดยไม่ต่ออายุอัตโนมัติ หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถเติมเงินเพื่อขยายวันที่สิ้นสุดของแพ็กเกจนั้นๆ และเข้าถึงเนื้อหาของการสมัครใช้บริการได้อย่างไม่ขาดตอน
เมื่อเติมเงิน ผู้ใช้สามารถซื้อแพ็กเกจเริ่มต้นแบบชำระล่วงหน้าที่มีในการสมัครใช้บริการเดียวกันเพื่อเติมเงิน รวมถึงระยะเวลาที่แตกต่างจากการซื้อในครั้งแรกได้ เช่น ผู้ใช้ที่มีแพ็กเกจ 1 เดือนแบบชำระล่วงหน้า $12.99 สามารถซื้อการเติมเงินแบบชำระล่วงหน้า $59.99 ซึ่งจะขยายระยะเวลาการสมัครใช้บริการอีก 1 ปี
นอกจากการเติมเงินแล้ว ผู้ใช้ยังเปลี่ยนแพ็กเกจการสมัครใช้บริการระหว่างแบบชำระล่วงหน้ากับแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติได้ตามต้องการอีกด้วย โดยผู้ใช้จะซื้อผ่านแอปของคุณหรือผ่านศูนย์การสมัครใช้บริการของ Google Play Store ก็ได้
การผ่อนชำระ
ผู้ใช้สามารถซื้อแพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระเพื่อรับสิทธิ์ของการสมัครใช้บริการสําหรับช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินที่ระบุไว้ โดยจ่ายแบบผ่อนชำระเป็นรายเดือน ผู้สมัครใช้บริการแบบผ่อนชำระจะชำระเงินรายเดือนแบบคงที่ตลอดระยะเวลาการสมัครใช้บริการ วิธีนี้เป็นทางเลือกหนึ่งที่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่อาจสนใจกระจายค่าใช้จ่ายในการสมัครใช้บริการเมื่อเวลาผ่านไป
คุณจะระบุยอดชำระรายเดือนและระยะเวลาผูกมัดเมื่อสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระ เช่น หากต้องการเสนอการสมัครใช้บริการแอปฟิตเนส 12 เดือนจากราคาปกติที่ 3,000 บาท คุณสามารถใช้แพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระรายเดือนจำนวน 250 บาทสำหรับระยะเวลาผูกมัด 12 เดือน
การสมัครใช้บริการแบบผ่อนชำระทั้งหมดจะชำระเป็นช่วงละเดือน ผู้ใช้และนักพัฒนาแอปไม่สามารถปรับความถี่หรือช่วงเวลาในการชำระเงินได้ การชำระคืนให้แก่นักพัฒนาแอปจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ชำระเงินรายเดือน นักพัฒนาแอปจะไม่ได้รับการชำระเงินล่วงหน้าเมื่อผู้ใช้ลงชื่อสมัครใช้บริการ
แอตทริบิวต์แพ็กเกจเริ่มต้น
ตารางด้านล่างแสดงรายการและอธิบายช่องที่คุณจะให้คำจำกัดความเมื่อตั้งค่าแพ็กเกจเริ่มต้นใน Play Console:
ช่อง | คำอธิบาย |
ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน |
ระยะเวลาให้สิทธิ์ของการสมัครใช้บริการ |
ประเภทการต่ออายุ |
การสมัครใช้บริการเป็นแบบต่ออายุโดยอัตโนมัติ ชำระล่วงหน้า หรือผ่อนชำระ (พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ในบางประเทศ/ภูมิภาค) |
ความพร้อมให้บริการระดับภูมิภาค |
แพ็กเกจเริ่มต้นมีรายการการกําหนดค่าระดับภูมิภาคที่กำหนดตําแหน่งที่แพ็กเกจดังกล่าวให้บริการ พร้อมระบุราคาสําหรับแต่ละภูมิภาค คุณสามารถควบคุมความพร้อมใช้งานและการกําหนดราคาแต่ละรายการในแต่ละประเทศหรือภูมิภาคได้ รวมถึงกําหนดค่าว่าแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอควรให้บริการในสถานที่ตั้งใหม่ใดๆ ที่ Google Play อาจรองรับในอนาคตหรือไม่ |
ระยะเวลาผ่อนผัน | หากการชำระเงินสำหรับการต่ออายุถูกปฏิเสธ Google จะขอให้ผู้ใช้แก้ไขปัญหาการชำระเงินและลองเรียกเก็บค่าต่ออายุอีกครั้งเป็นระยะๆ โดยค่าเริ่มต้น ระยะเวลาการกู้คืนนี้จะประกอบด้วยระยะเวลาผ่อนผัน ตามด้วยช่วงการระงับบัญชี คุณระบุระยะเวลาของระยะเวลาผ่อนผันได้ ซึ่งระหว่างนั้นผู้ใช้ยังคงมีสิทธิ์ในการสมัครใช้บริการ |
การระงับบัญชี | หลังจากระยะเวลาผ่อนผันสิ้นสุดลงโดยที่ปัญหาการชำระเงินยังไม่ได้รับการแก้ไข การสมัครใช้บริการจะเข้าสู่ช่วงการระงับบัญชีได้ คุณระบุระยะเวลาการระงับบัญชีได้ ซึ่งระหว่างนั้นผู้ใช้จะไม่มีสิทธิ์ในการสมัครใช้บริการ หากช่วงการระงับบัญชีสิ้นสุดลงโดยที่ปัญหาการชำระเงินยังไม่ได้รับการแก้ไข การสมัครใช้บริการนั้นจะหมดอายุโดยอัตโนมัติ |
การเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ |
หากผู้ใช้สมัครใช้บริการนี้อยู่แล้วและเปลี่ยนไปใช้แพ็กเกจเริ่มต้นนี้หรือข้อเสนออื่นใดของแพ็กเกจ ระบบจะคํานวณเวลาที่จะเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ การตั้งค่านี้จะไม่มีผลหากสมาชิกเปลี่ยนไปยังการสมัครใช้บริการอื่น |
สมัครอีกครั้ง |
หากยังมีการใช้งานอยู่ ผู้ใช้สามารถซื้อการสมัครใช้บริการแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติที่หมดอายุไปแล้วได้อีกครั้งใน Play Store |
แท็ก |
แท็กคือป้ายกำกับที่ไม่บังคับความยาวไม่เกิน 20 อักขระซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อทำเครื่องหมายหรือจัดกลุ่มแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ รวมถึงระบุใน API ได้ แท็กเหล่านี้ใช้เพื่อเลือกว่าจะแสดงข้อเสนอใดหากผู้ใช้มีสิทธิ์ได้รับมากกว่า 1 ข้อเสนอ คุณเพิ่มได้สูงสุด 20 แท็ก ผู้ใช้จะไม่เห็นแท็ก |
ข้อเสนอ
ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถซื้อข้อเสนอเพื่อรับส่วนลดในการสมัครใช้บริการได้ แม้ว่าผู้ใช้จะซื้อแพ็กเกจเริ่มต้นได้ แต่ข้อเสนอจะพร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ที่ตรงตามเกณฑ์การมีสิทธิ์ที่คุณกําหนดเท่านั้น ข้อเสนอสามารถมอบช่วงทดลองใช้ฟรีและ/หรือราคาช่วงแนะนําให้แก่ผู้ใช้ผ่านเฟสของข้อเสนออย่างน้อย 1 เฟสได้
สําหรับการสมัครใช้บริการแต่ละรายการ คุณสามารถสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอรวมกันได้สูงสุด 250 รายการ และใช้งานได้สูงสุด 50 รายการพร้อมกัน โดยส่วนที่เหลือต้องอยู่ในสถานะฉบับร่างหรือไม่ได้ใช้งาน
หมายเหตุ:
- คุณสร้างได้เฉพาะข้อเสนอของแพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติเท่านั้น
- สําหรับการสมัครใช้บริการแต่ละรายการ คุณสามารถสร้างแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอรวมกันได้สูงสุด 250 รายการ และใช้งานได้สูงสุด 50 รายการพร้อมกัน โดยส่วนที่เหลือต้องอยู่ในสถานะฉบับร่างหรือไม่ได้ใช้งาน
การมีสิทธิ์รับข้อเสนอ
คุณสามารถมอบข้อเสนอแก่ผู้ใช้ตามสถานะการสมัครใช้บริการในแอปของคุณได้ โดยระบุข้อกําหนดของการได้รับสิทธิ์ กรณีการใช้งานที่รองรับมี 3 กรณี ดังนี้
กรณีการใช้งาน | เกณฑ์ |
การได้ลูกค้าใหม่ |
ผู้ใช้ไม่เคยได้รับสิทธิ์จากการสมัครใช้บริการนี้ หรือลูกค้าไม่เคยได้รับสิทธิ์จากการสมัครใช้บริการใดๆ ในแอปนี้ |
อัปเกรด |
ปัจจุบันผู้ใช้มีการสมัครใช้บริการและช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินที่ระบุในแอปนี้ เช่น คุณอาจกําหนดข้อเสนอที่มอบราคาช่วงแนะนําสําหรับการสมัครใช้บริการระดับ "โกลด์" ให้แก่ผู้ใช้ที่ตอนนี้สมัครใช้บริการระดับ "ซิลเวอร์" อยู่ |
นักพัฒนาแอปเป็นผู้กำหนด |
คุณสามารถกําหนดตรรกะทางธุรกิจและการมีสิทธิ์ในแอปของคุณได้ เช่น ให้มีโอกาสทดลองใช้ฟรีครั้งที่ 2 หรือข้อเสนอดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาสมัครใช้บริการสำหรับสมาชิกเก่า เนื่องจากตรรกะนี้จะอยู่ในแอปของคุณ ข้อเสนอที่นักพัฒนาแอปกําหนดจึงขายภายนอกแอปไม่ได้ |
เฟสของข้อเสนอ
ข้อเสนอมีเฟสของข้อเสนออย่างน้อย 1 เฟส โดยแต่ละเฟสจะกําหนดช่วงทดลองใช้ฟรีหรือราคาช่วงแนะนํา เช่น ข้อเสนออาจมีเฟสของช่วงทดลองใช้ฟรี 7 วัน ตามด้วยเฟสของช่วงแนะนำในราคา 60 บาทเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากเฟสข้อเสนอราคาพิเศษสิ้นสุดลง การสมัครใช้บริการจะต่ออายุใหม่อัตโนมัติโดยใช้ราคาแพ็กเกจเริ่มต้นของการสมัครใช้บริการดังกล่าว
ช่วงทดลองใช้ฟรีเฟสการกำหนดราคาของช่วงทดลองใช้ฟรีจะมีจํานวนวัน สัปดาห์ หรือเดือนที่ระบุไว้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เฟสช่วงทดลองใช้ฟรีมีตั้งแต่ 3 วันถึง 3 ปี
หมายเหตุ: สำหรับแพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระ ระยะทดลองใช้ฟรีไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาผูกมัดเริ่มต้น
เฟสการกำหนดราคาช่วงแนะนําจะมอบราคาส่วนลดแก่ผู้ใช้ตามระยะเวลาที่กำหนด เฟสการกำหนดราคาช่วงแนะนําจะต้องมีราคาเท่ากันหรือน้อยกว่าราคาของแพ็กเกจเริ่มต้น โดยอาจเป็นค่าสัมบูรณ์หรือสัมพัทธ์กับราคาของแพ็กเกจเริ่มต้น ราคาสัมพัทธ์จะทําให้การเปลี่ยนแปลงราคาในอนาคตง่ายขึ้น ราคาสามารถระบุได้ดังนี้
- จํานวนสัมบูรณ์ เช่น $5
- ส่วนลดคงที่ เช่น ส่วนลด $5 จากราคาฐาน
- ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น ส่วนลด 50% จากราคาฐาน
ราคาทั้งหมดขึ้นอยู่กับการกำหนดราคาต่ำสุดและสูงสุดของ Google Play ในภูมิภาคที่ใช้ราคาดังกล่าวได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ประเทศที่รองรับการจัดจําหน่ายให้กับผู้ใช้ Google Play
หมายเหตุ: ลักษณะที่สัมพัทธ์ของราคาช่วงแนะนําไม่ได้แสดงในรถเข็นในขณะนี้ เช่น จะไม่แสดงการขีดทับราคาแพ็กเกจเริ่มต้น
เฟสของราคาช่วงแนะนําอาจรวมถึงการชําระเงินอย่างน้อย 1 รายการ ดังนี้
- การชําระเงินครั้งเดียว: เฟสการกําหนดราคาที่เรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ครั้งเดียวตามจํานวนวัน สัปดาห์ หรือเดือนที่กำหนดไว้
- การชําระเงินหลายครั้ง: เฟสของการกําหนดราคาที่มอบส่วนลดตั้งแต่ 1 ถึง 52 ครั้งต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินของแพ็กเกจเริ่มต้น
หมายเหตุ: สำหรับแพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระ ระยะราคาช่วงแนะนำนับเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาผูกมัดเริ่มต้น เช่น ส่วนลดสำหรับการชำระเงินตามรอบ 3 ครั้งจะนับเป็นการชำระเงิน 3 ครั้งจากสัญญาผูกมัดเริ่มต้น
แอตทริบิวต์ของข้อเสนอ
ตารางด้านล่างแสดงรายการและอธิบายช่องเพิ่มเติมที่คุณจะให้คำจำกัดความเมื่อตั้งค่าข้อเสนอใน Play Console:
ช่อง | คำอธิบาย |
ความพร้อมให้บริการระดับภูมิภาค |
โดยค่าเริ่มต้น ข้อเสนอจะพร้อมให้บริการระดับภูมิภาคในแบบเดียวกับแพ็กเกจเริ่มต้น แต่คุณจะเลือกบางส่วนของภูมิภาคเหล่านั้นแทนได้ |
แท็ก |
แท็กคือป้ายกํากับที่ไม่บังคับความยาวไม่เกิน 20 อักขระที่คุณสามารถใช้เพื่อทําเครื่องหมายหรือจัดกลุ่มแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ รวมถึงระบุใน API ได้ แท็กเหล่านี้ใช้เพื่อเลือกว่าจะแสดงข้อเสนอใดหากผู้ใช้มีสิทธิ์ได้รับมากกว่า 1 ข้อเสนอ โดยข้อเสนอจะแสดงทั้งแท็กของตนเองและแท็กของแพ็กเกจเริ่มต้น คุณเพิ่มได้สูงสุด 20 แท็ก ผู้ใช้จะไม่เห็นแท็กต่างๆ เคล็ดลับ: เราขอแนะนําให้ใช้แท็กเพื่อระบุข้อเสนอที่สร้างขึ้นด้วยสิทธิ์ที่นักพัฒนาแอปกําหนด เพื่อช่วยในการแยกความแตกต่างระหว่างข้อเสนอเหล่านั้นเมื่อแสดงคอลเล็กชันข้อเสนอที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ |
ความพร้อมให้บริการของข้อเสนอและแพ็กเกจเริ่มต้น
เมื่อเวลาผ่านไป คุณสามารถสร้างและแก้ไขการสมัครใช้บริการ แพ็กเกจเริ่มต้น และข้อเสนอต่างๆ ได้ แม้ว่าข้อมูลบางอย่างอาจล้าสมัย แต่ข้อมูลย้อนหลังอาจมีประโยชน์สําหรับการวิเคราะห์และการรายงานได้ ในทํานองเดียวกัน คุณอาจต้องการสร้างทางเลือกสําหรับการทดสอบหรือเปลี่ยนจากข้อเสนอหนึ่งไปใช้ข้อเสนออื่น โดยขึ้นอยู่กับฤดูกาลหรือปัจจัยอื่นๆ ระบบการสมัครใช้บริการใหม่รองรับกรณีการใช้งานเหล่านี้ด้วยสถานะวัตถุประสงค์ของการสมัครใช้บริการ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลจะพร้อมใช้งานในการรายงานและการวิเคราะห์เสมอ คุณจึงไม่สามารถลบการสมัครใช้บริการ แพ็กเกจเริ่มต้น และข้อเสนอ หรือนำรหัสต่างๆ กลับมาใช้ซ้ำได้
สถานะการสมัครใช้บริการวัตถุประสงค์ของการสมัครใช้บริการอาจมีสถานะต่อไปนี้
- ฉบับร่าง: ระบบกําลังกําหนดการสมัครใช้บริการนี้และยังไม่มีการใช้งาน เมื่อการสมัครใช้บริการอยู่ในสถานะฉบับร่าง แพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอทั้งหมดที่สร้างขึ้นจะอยู่ในสถานะฉบับร่างด้วยเช่นกัน
- ใช้งานอยู่: มีการสมัครใช้บริการนี้อยู่และรองรับการซื้อที่มีอยู่ หากมีแพ็กเกจเริ่มต้นที่ใช้งานอยู่ การสมัครใช้บริการนี้ก็จะอนุญาตการซื้อใหม่ๆ ด้วย
ข้อเสนอและแพ็กเกจเริ่มต้นอาจมีสถานะต่อไปนี้
- ฉบับร่าง: ระบบกำลังกําหนดแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอนี้และยังไม่ได้ใช้งาน
- ไม่ได้ใช้งาน: มีแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนออยู่ แต่จะใช้กับการซื้อใหม่ๆ ไม่ได้ การสมัครใช้บริการที่มีอยู่จะดําเนินต่อไปจนกว่าจะมีการยกเลิก คุณสามารถสลับข้อเสนอให้เป็นใช้งานอยู่และไม่ได้ใช้งานได้ตามต้องการ
- ใช้งานอยู่: มีแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนออยู่และรองรับทั้งการซื้อที่มีอยู่และการซื้อใหม่ๆ
Use Case ที่พบบ่อยสําหรับแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ
ส่วนนี้จะแสดงตัวอย่างการกําหนดค่าของแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอที่พบบ่อย คลิกส่วนด้านล่างเพื่อขยายและดูตัวอย่าง
แพ็กเกจรายเดือนที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ทุกคนตัวอย่างต่อไปนี้จะกําหนดการสมัครใช้บริการพื้นฐานที่มีแพ็กเกจเริ่มต้นรายเดือนแพ็กเกจเดียวสําหรับผู้ใช้ทั้งหมดในภูมิภาคที่ระบุ โดยไม่มีข้อเสนอใดๆ ในขณะนี้
ข้อมูลการสมัครใช้บริการ:
- ชื่อ: "ไม่จำกัด"
- สิทธิประโยชน์ของผู้ใช้:
- "เข้าถึงช่องทั้งหมดได้ไม่จํากัด"
- "ไม่มีโฆษณา"
ข้อมูลแพ็กเกจเริ่มต้น:
- ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน: รายเดือน
- ประเภทการต่ออายุ: ต่ออายุใหม่อัตโนมัติ
- ความพร้อมใช้งานในภูมิภาค:
- สหรัฐอเมริกา
- แคนาดา
- ตุรกี
- ราคาต่อภูมิภาค:
- สหรัฐอเมริกา: $9.99
- แคนาดา: CA$10.99
- ตุรกี: 155 TRY
- ระยะเวลาผ่อนผัน: 7 วัน
ข้อเสนอต่อไปนี้สร้างขึ้นจากตัวอย่างก่อนหน้า (แพ็กเกจรายเดือนที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ทุกคน) โดยเพิ่มช่วงทดลองใช้ฟรีสําหรับสมาชิกใหม่โดยกําหนดข้อเสนอต่อไปนี้ใน Play Console โปรดทราบว่าข้อเสนอนี้จํากัดเฉพาะภูมิภาคของแพ็กเกจเริ่มต้นบางแห่งเท่านั้น โดยไม่รวมตุรกี
ข้อมูลข้อเสนอ :
- เกณฑ์การมีสิทธิ์: การได้ลูกค้าใหม่
- ไม่เคยมีสมัครใช้บริการใดๆ ในแอปนี้เลย
- ความพร้อมใช้งานในภูมิภาค: (โปรดทราบว่าไม่รวมตุรกี)
- สหรัฐอเมริกา
- แคนาดา
- การกําหนดราคาเฟสที่ 1:
- ประเภท: ช่วงทดลองใช้ฟรี
- ระยะเวลา: 7 วัน (จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจเริ่มต้น)
วิธีการทํางานสำหรับผู้ใช้มีดังนี้
- สมาชิกใหม่ (ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น) จะได้รับช่วงทดลองใช้ฟรี 7 วัน
- หลังจากสิ้นสุดช่วงทดลองใช้แล้ว สมาชิกจะต่ออายุใหม่โดยอัตโนมัติในราคาแพ็กเกจเริ่มต้นแบบมาตรฐาน
- ผู้ใช้ที่ซื้อการสมัครใช้บริการของแอปนี้มาก่อนหน้านี้จะไม่มีสิทธิ์รับข้อเสนอนี้ โดยจะซื้อได้เฉพาะแพ็กเกจเริ่มต้นเท่านั้น
ตัวอย่างต่อไปนี้สร้างขึ้นจากแพ็กเกจเริ่มต้นในตัวอย่างก่อนหน้านี้ (แพ็กเกจรายเดือนที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ทุกคน) โดยเพิ่มข้อเสนอที่มีการกําหนดราคา 2 เฟส:
ข้อมูลข้อเสนอ :
- เกณฑ์การมีสิทธิ์: การได้ลูกค้าใหม่
- ไม่เคยมีสมัครใช้บริการใดๆ ในแอปนี้เลย
- ความพร้อมใช้งานในภูมิภาค: (โปรดทราบว่าไม่รวมตุรกี)
- สหรัฐอเมริกา
- แคนาดา
- การกําหนดราคาเฟสที่ 1:
- ประเภท: ช่วงทดลองใช้ฟรี
- ระยะเวลา: 7 วัน
- การกําหนดราคาเฟสที่ 2:
- ประเภท: การชําระเงินครั้งเดียว
- ระยะเวลา: 1 เดือน
- การปรับราคา: จํานวนเงินที่กําหนดแน่นอน
- ราคาต่อภูมิภาค:
- สหรัฐอเมริกา: $1.99
- แคนาดา: CA$1.99
วิธีการทํางานสำหรับผู้ใช้มีดังนี้
- สมาชิกใหม่ (ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น) จะได้รับช่วงทดลองใช้ฟรี 7 วัน ตามด้วย 1 เดือนในราคา $1.99/CA$1.99
- หลังจากสิ้นสุดช่วงทดลองใช้แล้ว สมาชิกจะต่ออายุใหม่โดยอัตโนมัติในราคาแพ็กเกจเริ่มต้นแบบมาตรฐาน
- ผู้ใช้ที่ซื้อการสมัครใช้บริการของแอปนี้มาก่อนหน้านี้จะไม่มีสิทธิ์รับข้อเสนอนี้ โดยจะซื้อได้เฉพาะแพ็กเกจเริ่มต้นเท่านั้น
ข้อเสนอของ Google Play รองรับ Use Case เกี่ยวกับการมีสิทธิ์ที่พบบ่อย เช่น การได้ลูกค้าใหม่ แอปยังประเมินจากเกณฑ์การมีสิทธิ์ของคุณเองได้ด้วย ไม่ว่าจะเพิ่มเข้าไปหรือใช้แทนสิทธิ์ที่ Play กําหนด ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถสร้างตรรกะเพิ่มเติมนอกเหนือจากเกณฑ์การมีสิทธิ์ที่ Play ประเมิน และตัดสินใจเลือกข้อเสนอที่ต้องการจัดลําดับความสําคัญและแสดงต่อผู้ใช้ได้ เช่น คุณจะจํากัดข้อเสนอสําหรับสมาชิกเก่าที่เคยยกเลิกไปก่อนหน้านี้เพื่อดึงดูดให้พวกเขากลับมาใช้งานได้
ตัวอย่างต่อไปนี้สร้างขึ้นจากแพ็กเกจเริ่มต้นในตัวอย่างก่อนหน้านี้ (แพ็กเกจรายเดือนที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ทุกคน) โดยเพิ่มข้อเสนอที่นักพัฒนาแอปกําหนดแบบลดครึ่งราคาเป็นเวลา 3 เดือน:
ข้อมูลข้อเสนอ:
- เกณฑ์การมีสิทธิ์:
- นักพัฒนาแอปเป็นผู้กำหนด
- ความพร้อมใช้งานในภูมิภาค:
- สหรัฐอเมริกา
- แคนาดา
- การกําหนดราคาเฟสที่ 1:
- ประเภท: การชําระเงินตามรอบ
- ช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงิน: 3
- การปรับราคา: ส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์
- เปอร์เซ็นต์ส่วนลดต่อภูมิภาค
- สหรัฐอเมริกา: 50%
- แคนาดา: 50%
- แท็ก: WINBACK-50-OFF
วิธีการทํางานสำหรับผู้ใช้มีดังนี้
- ผู้ใช้ (ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น) ที่เห็นข้อเสนอนี้โดยใช้ตรรกะในแอปจะได้รับส่วนลด 50% เป็นเวลา 3 เดือน (ซึ่งก็คือ $4.99/CA$4.99)
- หลังจากข้อเสนอสิ้นสุดลงแล้ว สมาชิกจะต่ออายุใหม่โดยอัตโนมัติในราคาแพ็กเกจเริ่มต้นแบบมาตรฐาน
หมายเหตุ: ข้อเสนอใดก็ตามที่มีจําหน่ายภายนอกแอป รวมถึงการสมัครใช้บริการที่แนะนํา ไม่สามารถมีเกณฑ์ที่นักพัฒนาแอปกำหนดได้
เคล็ดลับ: เราขอแนะนําให้ใช้แท็กเพื่อระบุข้อเสนอที่สร้างขึ้นด้วยสิทธิ์ที่นักพัฒนาแอปกำหนด เพื่อช่วยแยกความแตกต่างระหว่างข้อเสนอเหล่านั้นเวลาแสดงคอลเล็กชันข้อเสนอที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้
การเปลี่ยนแปลงราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นและข้อเสนอ
คุณสามารถเปลี่ยนแปลงราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นหรือข้อเสนอใดก็ได้ ราคาใหม่จะมีผลทันทีสําหรับการซื้อใหม่ ซึ่งรวมถึงการซื้อการเติมเงินแพ็กเกจแบบชำระเงินล่วงหน้า
หากคุณเปลี่ยนราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติ ผู้ใช้ที่จ่ายเงินในราคาเดิมจะอยู่ในกลุ่มประชากรตามรุ่นราคาเดิมกลุ่มใหม่ ผู้ใช้ในกลุ่มประชากรตามรุ่นราคาเดิมจะยังคงชำระเงินในราคาปัจจุบันต่อไปจนกว่าผู้ใช้จะเปลี่ยนแพ็กเกจการสมัครใช้บริการ หรือจนกว่าคุณจะตัดสินใจย้ายผู้ใช้กลุ่มนี้ไปยังราคาปัจจุบัน ระบบจะสร้างกลุ่มประชากรตามรุ่นราคาเดิมกลุ่มใหม่ทุกครั้งที่คุณเปลี่ยนแปลงราคา
การสิ้นสุดการกำหนดราคาเดิม
คุณเลือกที่จะสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นราคาเดิมได้โดยย้ายผู้ใช้เหล่านั้นไปยังราคาแพ็กเกจเริ่มต้นปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ควรทราบข้อมูลต่อไปนี้
- การสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นราคาเดิมส่งผลต่อราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นเท่านั้น คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงราคาของระยะข้อเสนอใดๆ หลังการซื้อได้
- นอกจากนั้น คุณจะย้ายกลุ่มประชากรตามรุ่นราคาเดิมไปยังราคาอื่นไม่ได้นอกจากราคาแพ็กเกจเริ่มต้นปัจจุบันเท่านั้น
- การสิ้นสุดกลุ่มประชากรตามรุ่นราคาเดิมจะทำให้กลุ่มประชากรตามรุ่นก่อนหน้าของแพ็กเกจเริ่มต้นเดียวกันสิ้นสุดลงด้วย
หมายเหตุ: สำหรับแพ็กเกจเริ่มต้นแบบผ่อนชำระ หากนักพัฒนาแอปต้องการเปลี่ยนราคา (หรือหากผู้ใช้ต้องการยกเลิก) การเปลี่ยนแปลงจะมีผลเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาผูกมัด
การลดราคา
หากราคาใหม่ต่ำกว่า การลดราคาที่ได้จะเป็นแบบอัตโนมัติและไม่จําเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ใช้ ระบบจะแจ้งและเรียกเก็บเงินผู้ใช้ในราคาที่ต่ำลงในวันที่ต่ออายุครั้งถัดไป
การขึ้นราคา
หากราคาใหม่สูงขึ้น การขึ้นราคาที่ได้จะเป็นแบบเลือกยินยอมหรือเลือกไม่ยินยอม
การขึ้นราคาแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอม
เมื่อมีการขึ้นราคาแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอม ผู้ใช้ต้องยอมรับการขึ้นราคาก่อนจึงจะมีผล หากผู้ใช้เลือกไม่ยินยอม ระบบจะยกเลิกการสมัครใช้บริการโดยอัตโนมัติก่อนการเรียกเก็บเงินในราคาที่สูงขึ้นครั้งแรก ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนให้เลือกยินยอมภายในกรอบระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งอาจส่งผลให้การเรียกเก็บเงินครั้งต่อไปยังคงอยู่ที่ราคาปัจจุบัน
การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอม
ในบางกรณี คุณอาจขึ้นราคาได้จากการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ผู้ใช้ทราบ แต่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม กรณีนี้เรียกว่าการขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอม
ผู้ใช้สามารถยกเลิกการสมัครใช้บริการได้หากต้องการ มิเช่นนั้นจะมีการเรียกเก็บเงินตามราคาใหม่ในการต่ออายุครั้งถัดไปหลังจากระยะเวลาการแจ้งเตือน ระยะเวลานี้ขั้นต่ำคือ 30 วันหรือ 60 วัน ขึ้นอยู่กับประเทศ/ภูมิภาคนั้นๆ ระยะเวลาการแจ้งเตือนอาจส่งผลให้มีการต่ออายุครั้งต่อๆ ไปในราคาปัจจุบัน
การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมต้องเป็นไปตามเกณฑ์ต่อไปนี้ทั้งหมด
- การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมมีให้บริการเฉพาะในบางประเทศ/ภูมิภาค และสำหรับนักพัฒนาแอปที่มีสถานะดีใน Google Play เท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ประเทศ/ภูมิภาคที่รองรับและระยะเวลาขั้นต่ำของประกาศแจ้งล่วงหน้าในแต่ละประเทศ/ภูมิภาค
ทั้งนี้ การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมยังมีการจำกัดความถี่และจำนวนเงิน โดยเกณฑ์เหล่านี้บังคับใช้ใน UI ของ Console แล้ว
- แพ็กเกจเริ่มต้นของการสมัครใช้บริการแต่ละรายการจะมีการขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมได้แค่ครั้งเดียวต่อประเทศ/ภูมิภาคในช่วง 365 วันที่ผ่านมา
- จำนวนราคาที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในทุกประเทศ/ภูมิภาคจะเท่ากับราคาที่สูงกว่าของตัวเลือกต่อไปนี้
- 50% ของราคาที่ผู้ใช้จ่ายอยู่ในปัจจุบัน หรือ
- 17 USD เซนต์ต่อวัน (แปลงเป็นสกุลเงินท้องถิ่นตามที่จำเป็น)
คุณมีหน้าที่ตรวจสอบว่าการขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมเป็นไปตามเกณฑ์ต่อไปนี้ เมื่อเริ่มการขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมแต่ละครั้ง คุณต้องรับรองใน Play Console ว่า
- ข้อกำหนดในการให้บริการของแอปต้องสงวนสิทธิ์ในการขึ้นราคาค่าสมัครใช้บริการผ่านประกาศแจ้งล่วงหน้า และให้เหตุผลที่ชัดเจนและถูกต้องสำหรับการปรับขึ้นราคาดังกล่าว
- ก่อนการขึ้นราคาจะมีผลอย่างน้อย 30 วัน คุณจะแสดงประกาศแจ้งในแอปอย่างชัดเจนให้แก่ผู้ใช้แต่ละคนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีข้อมูลต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย ได้แก่ ชื่อการสมัครใช้บริการของผู้ใช้ ราคาปัจจุบันและราคาใหม่ วันที่ราคาใหม่มีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับวิธียกเลิก
สำคัญ: ประกาศแจ้งนี้ต้องแสดงในอุปกรณ์ทุกประเภทที่มีการเผยแพร่แอป ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ แพลตฟอร์มทีวี และอุปกรณ์การสตรีม ยกเว้นอุปกรณ์นาฬิกาเท่านั้น ซึ่งเราแนะนำให้แสดงประกาศแจ้งด้วยแต่ไม่บังคับ
หากการขึ้นราคาไม่เป็นไปตามเกณฑ์ข้างต้นทั้งหมด คุณจะใช้การขึ้นราคาแบบไม่ได้ขอให้ผู้ใช้ยินยอมไม่ได้ แต่คุณสามารถเลือกใช้การขึ้นราคาแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอมกับกลุ่มประชากรตามรุ่นที่เลือกไว้ หรือจะคงกลุ่มประชากรตามรุ่นเหล่านี้ไว้ในราคาปัจจุบันก็ได้
การขึ้นราคาที่ทับซ้อนกัน
เมื่อเริ่มต้นแล้วจะหยุดการย้ายข้อมูลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณย้ายกลุ่มประชากรตามรุ่นเดิมที่มีการขึ้นราคา แล้วเริ่มการย้ายข้อมูลอีกครั้งสำหรับผู้ใช้รายเดียวกัน การย้ายข้อมูลครั้งแรกจะหยุดลงชั่วคราว โดยจะไม่ส่งผลต่อผู้ใช้ที่ไม่ได้แก้ไขปัญหาการขึ้นราคาครั้งแรก (ไม่ว่าจะยอมรับการขึ้นราคาแบบขอให้ผู้ใช้ยินยอม หรือโดยรอให้ระยะเวลาการแจ้งเตือนการปรับขึ้นราคาเองสิ้นสุดลง) สำหรับผู้ใช้เหล่านั้น ราคาที่ปรับขึ้นจะมีผลในภายหลังเท่านั้น
ทดสอบการเปลี่ยนแปลงราคา
คุณใช้แอป Play Billing Lab และผู้ทดสอบที่มีใบอนุญาตเพื่อทดสอบการเปลี่ยนแปลงราคาค่าสมัครใช้บริการได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสมาชิกรายอื่นๆ ที่ใช้งานอยู่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบการเปลี่ยนแปลงราคาได้จากคำแนะนำในการทดสอบที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android
การชำระเงินที่ถูกปฏิเสธ ระยะเวลาผ่อนผัน และการระงับบัญชี
หากการเรียกเก็บค่าต่ออายุถูกปฏิเสธ Google จะแจ้งให้ผู้ใช้แก้ไขปัญหาการชำระเงินและลองเรียกเก็บค่าต่ออายุอีกครั้งเป็นระยะๆ โดยค่าเริ่มต้น ระยะเวลาการกู้คืนนี้จะประกอบด้วยระยะเวลาผ่อนผัน ตามด้วยช่วงการระงับบัญชี คุณระบุระยะเวลาของระยะเวลาผ่อนผันได้ ซึ่งระหว่างนั้นผู้ใช้ยังคงมีสิทธิ์ในการสมัครใช้บริการ
หลังจากระยะเวลาผ่อนผันสิ้นสุดลงโดยที่ปัญหาการชำระเงินยังไม่ได้รับการแก้ไข การสมัครใช้บริการจะเข้าสู่ช่วงการระงับบัญชีได้ คุณระบุระยะเวลาการระงับบัญชีได้ ซึ่งระหว่างนั้นผู้ใช้จะไม่มีสิทธิ์ในการสมัครใช้บริการ หากช่วงการระงับบัญชีสิ้นสุดลงโดยที่ปัญหาการชำระเงินยังไม่ได้รับการแก้ไข การสมัครใช้บริการนั้นจะหมดอายุโดยอัตโนมัติ
แพ็กเกจเริ่มต้นแบบต่ออายุใหม่อัตโนมัติทั้งหมดมีการเปิดใช้การระงับบัญชีโดยค่าเริ่มต้น ซึ่งคุณปรับระยะเวลาการระงับบัญชีหรือปิดใช้ได้จาก Google Play Console การระงับบัญชีและระยะเวลาผ่อนผันต้องรวมแล้วมีระยะเวลาอย่างน้อย 30 วัน
การระบุช่วงระยะเวลาน้อยกว่าค่าเริ่มต้นอาจลดจำนวนการสมัครใช้บริการที่กู้คืนได้จากการปฏิเสธการชำระเงิน
การอนุญาตให้หยุดการสมัครใช้บริการไว้ชั่วคราว
คุณสามารถป้องกันการเลิกใช้งานโดยตั้งใจได้ด้วยการอนุญาตให้ผู้ใช้หยุดการสมัครใช้บริการไว้ชั่วคราว เมื่อเปิดใช้ฟีเจอร์หยุดชั่วคราว ผู้ใช้สามารถเลือกหยุดการสมัครใช้บริการไว้ชั่วคราวเป็นระยะเวลาระหว่าง 1 สัปดาห์ไปจนถึง 3 เดือนแทนที่จะยกเลิก โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาตามรอบ เมื่อเปิดใช้แล้ว ตัวเลือกการหยุดชั่วคราวจะแสดงขึ้นทั้งในศูนย์การสมัครใช้บริการและขั้นตอนการยกเลิก โปรดทราบว่าการสมัครใช้บริการรายปีและช่วงทดลองใช้ฟรีจะหยุดไว้ชั่วคราวไม่ได้
วิธีอนุญาตให้ผู้ใช้หยุดการสมัครใช้บริการไว้ชั่วคราว
- เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่าการสร้างรายได้ (สร้างรายได้ด้วย Play > การตั้งค่าการสร้างรายได้)
- ในส่วน "การตั้งค่าการสมัครใช้บริการ" ให้เปลี่ยน "หยุดชั่วคราว" เป็นเปิดใช้
- คลิกบันทึกการเปลี่ยนแปลง
การหยุดสมัครใช้บริการไว้ชั่วคราวจะมีผลเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินปัจจุบันไปแล้วเท่านั้น โดยผู้ใช้จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาที่สมัครใช้บริการขณะที่หยุดการสมัครใช้บริการไว้ชั่วคราว เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการหยุดชั่วคราว การสมัครใช้บริการจะกลับมาทำงานอีกครั้ง และ Google จะพยายามต่ออายุการสมัครใช้บริการ หากกลับมาทำงานอีกครั้งได้สำเร็จ การสมัครใช้บริการก็จะใช้งานได้ใหม่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหยุดสมัครใช้บริการชั่วคราวและข้อกำหนดในการใช้การหยุดชั่วคราวได้ที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android
ข้อกำหนดของการยกเลิกการสมัครใช้บริการ
แอปต้องมีวิธีการให้สมาชิกยกเลิกได้ง่ายๆ ทางออนไลน์เพื่อให้เป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในนโยบายการสมัครใช้บริการของ Google Play ในการตั้งค่าบัญชีของแอป (หรือส่วนที่เทียบเท่ากัน) คุณสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ได้โดยระบุข้อมูลต่อไปนี้
- ลิงก์ไปยังศูนย์การสมัครใช้บริการของ Google Play (หากแอปใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play) และ/หรือ
- การเข้าถึงขั้นตอนการยกเลิกโดยตรง
ข้อกำหนดอธิบายไว้ในส่วนการจัดการและการยกเลิกการสมัครใช้บริการของนโยบายการสมัครใช้บริการ