สร้างไอเทมที่ซื้อในแอป

คุณนำเสนอไอเทมที่ซื้อในแอปซึ่งเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้แบบครั้งเดียวได้โดยใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ไอเทมที่ซื้อในแอปอาจรวมถึงรายการจำพวกสินค้าเสมือนจริง (ตัวอย่างเช่น ระดับหรือน้ำยาวิเศษในเกม) และบริการระดับพรีเมียมภายในแอปของคุณใน Google Play

นอกจากนี้ คุณยังสร้างการสมัครใช้บริการที่จะเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้ซ้ำได้อีกด้วย

สำคัญ: นโยบายโปรแกรมสำหรับนักพัฒนาแอปและค่าบริการของ Google Play มีผลทั้งกับไอเทมที่ซื้อในแอปและการสมัครใช้บริการ

ความพร้อมใช้งาน

หากคุณอยู่ในประเทศที่ลงทะเบียนผู้ขายได้ ก็สามารถใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ได้

หากคุณอยู่ในประเทศที่รองรับและต้องการเริ่มใช้ฟีเจอร์ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ในแอปของคุณ ให้ตั้งค่าโปรไฟล์การชำระเงินและดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ในเว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android

ไอเทมที่ซื้อในแอปจะต้องอยู่ในสถานะใช้งานอยู่และจะต้องมีการกำหนดเป้าหมายแอปของไอเทมนั้นเป็นประเทศหรือภูมิภาคของผู้ใช้เพื่อให้ไอเทมพร้อมจำหน่าย ไอเทมที่ซื้อในแอปจะพร้อมจำหน่ายตราบใดที่ยังมีการใช้งานอยู่ แม้ว่าแอปจะยกเลิกการเผยแพร่ไปแล้วก็ตาม คุณต้องปิดใช้งานไอเทมที่ซื้อในแอปหากไม่ต้องการให้ไอเทมดังกล่าวพร้อมใช้งาน

หากคุณใช้บัญชีทดสอบ โปรดไปที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบการผสานรวม Google Play Billing Library

หลังจากที่คุณสร้างไอเทมที่ซื้อในแอปแล้ว ผู้ใช้ที่ใช้งาน Google Play Store เวอร์ชันล่าสุดจะใช้ไอเทมดังกล่าวได้

หมายเหตุ: ความพร้อมจำหน่ายใน Play Console อาจทำให้ SKU พร้อมให้ผู้ใช้ซื้อได้โดยตรงจากหน้าแรกของเกมใน Play Store แทนที่จะซื้อจากภายในแอปของคุณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์การช่วยเตือนการละทิ้งรถเข็นกลางคัน ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการซื้อที่หยุดกลางคันก่อนหน้านี้ให้เสร็จสมบูรณ์ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อนอกแอปได้ที่นี่) ฟีเจอร์นี้จะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้นสำหรับนักพัฒนาแอปทุกราย

หากต้องการเลือกไม่ใช้ฟีเจอร์การช่วยเตือนการละทิ้งรถเข็นกลางคันสำหรับแอปของคุณ โปรดส่งแบบฟอร์มนี้

สิทธิ์ที่จำเป็น

หากต้องการนำเสนอไอเทมที่ซื้อในแอป คุณจะต้องประกาศสิทธิ์ com.android.vending.BILLING ในไฟล์ Manifest ของ APK ของแอป หากคุณจัดจำหน่ายแอปทั่วโลก ก็จะยังเผยแพร่แอปที่ใช้สิทธิ์ com.android.vending.BILLING ได้ในทุกประเทศ

สร้างไอเทมที่ซื้อในแอป

สร้างไอเทมที่ซื้อในแอปรายการเดียว

โปรดวางแผนรหัสผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบก่อนที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ รหัสผลิตภัณฑ์ในแอปของคุณจะต้องไม่ซ้ำกัน และหลังจากที่สร้างขึ้นแล้วจะเปลี่ยนแปลงหรือนำมาใช้ใหม่ไม่ได้
  • รหัสผลิตภัณฑ์ต้องขึ้นต้นด้วยตัวเลขหรือตัวพิมพ์เล็ก และมีได้เฉพาะตัวเลข (0-9) ตัวพิมพ์เล็ก (a-z) ขีดล่าง (_) และจุด (.) เท่านั้น
  • คุณจะเปลี่ยนหรือนำรหัสผลิตภัณฑ์มาใช้ซ้ำหลังจากที่สร้างผลิตภัณฑ์แล้วไม่ได้
  • หมายเหตุ: รหัสผลิตภัณฑ์ android.test และรหัสผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ขึ้นต้นด้วย android.test จะไม่พร้อมใช้งาน

หากต้องการสร้างไอเทมที่ซื้อในแอป ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เปิด Play Console
  2. ไปที่หน้าไอเทมที่ซื้อในแอป (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > ไอเทมที่ซื้อในแอป)
  3. คลิกสร้างผลิตภัณฑ์
  4. ป้อนรายละเอียดผลิตภัณฑ์
    • รหัสผลิตภัณฑ์: รหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับไอเทมที่ซื้อในแอป
    • ชื่อ: ชื่อย่อของไอเทม (สูงสุด 55 อักขระ แต่เราขอแนะนำให้จำกัดเพียง 25 อักขระเพื่อให้แสดงได้อย่างเหมาะสมในทุกบริบท) เช่น "ยานอนหลับ"
    • คำอธิบาย: คำอธิบายแบบยาวของไอเทม (ไม่เกิน 200 อักขระ) เช่น "ทำให้สัตว์หลับได้ทันที"
    • ไอคอน: รูปภาพที่ถูกต้องและไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละไอเทม อย่าใส่ข้อความ โปรโมชัน หรือการสร้างแบรนด์ ไอคอนผลิตภัณฑ์จะแสดงในข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store และระหว่างขั้นตอนการซื้อ
      • PNG 32 บิต
      • 512 x 512 พิกเซล
      • ไม่เกิน 1 MB
    • ราคา: ใส่ราคาในสกุลเงินท้องถิ่นหรือเลือกเทมเพลตการกำหนดราคา
    • หลายจำนวน: อนุญาตให้ใช้การชำระเงินแบบหลายจำนวนสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ ผู้ซื้อจะซื้อไอเทมได้ในจำนวนที่หลากหลายภายในเกณฑ์ของประเทศหรือภูมิภาค ข้อมูลที่ควรทราบมีดังต่อไปนี้
      • หากต้องการกำหนดค่าการชำระเงินแบบหลายจำนวนใน Play Console แอปของคุณต้องใช้ Google Play Billing Library 4.0 โปรดไปที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android เพื่อดูวิธีผสานรวม Google Play Billing Library ไว้ในแอปของคุณ
      • การชำระเงินแบบหลายจำนวนพร้อมใช้งานในบางประเทศหรือภูมิภาคเท่านั้น
      • ประเทศหรือภูมิภาคส่วนใหญ่ที่พร้อมให้บริการการชำระเงินแบบหลายจำนวนจะมีเกณฑ์ราคา SKU อยู่ที่ประมาณ USD 100 หากต้องการอนุญาตให้ใช้การชำระเงินแบบหลายจำนวน คุณจะต้องปรับราคา (ไม่รวมภาษี) ให้ต่ำกว่าเกณฑ์ในแต่ละประเทศหรือภูมิภาค
    • สำหรับ Play Points เท่านั้น: จำหน่ายไอเทมนี้ใน Google Play Points เท่านั้น
  5. บันทึกการเปลี่ยนแปลงแล้วคลิกเปิดใช้งานการจำหน่ายไอเทมที่ซื้อในแอปให้แก่ผู้ใช้

ภาษาและคำแปล

ไอเทมที่ซื้อในแอปใช้ภาษาเริ่มต้นเดียวกับแอป หากต้องการเพิ่มคำแปลในภาษาที่ต้องการ ให้เลือกไอเทมที่ซื้อในแอป จากนั้นคลิกจัดการคำแปล แล้วใช้ภาษาที่ต้องการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีมอบประสบการณ์การใช้งานที่มีการแปลภาษาให้กับผู้ใช้ได้ที่บทความแปลภาษาแอปของคุณ

สร้างกลุ่มไอเทมที่ซื้อในแอป

หากต้องการสร้างไอเทมที่ซื้อในแอปพร้อมกันหลายรายการ คุณสามารถอัปโหลดไฟล์ CSV ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับไอเทมแต่ละรายการ
ไฟล์ CSV ใช้เครื่องหมายคอมมา (,) และเครื่องหมายเซมิโคลอน (;) ในการแยกค่าข้อมูล โดยเครื่องหมายคอมมาใช้แยกค่าหลัก และเครื่องหมายเซมิโคลอนใช้แยกค่าย่อย
เมื่อสร้างไฟล์ CSV ที่มีไอเทมที่ซื้อในแอป ให้ระบุไวยากรณ์ CSV ไว้ในแถวแรก ตามด้วยรายละเอียดไอเทมในแถวถัดไป
สำคัญ: แต่ละไอเทมต้องปรากฏในบรรทัดเดียวในไฟล์ CSV

อัปโหลดไฟล์ CSV ของไอเทมที่ซื้อในแอป

หากต้องการอัปโหลดไฟล์ CSV ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เปิด Play Console
  2. ไปที่หน้าไอเทมที่ซื้อในแอป (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > ไอเทมที่ซื้อในแอป)
  3. คลิกนำเข้า
    • การนำเข้าไอเทมหลายรายการด้วยการอัปโหลดไฟล์ CSV จะเขียนทับไอเทมที่มีอยู่เฉพาะในกรณีที่ค่าของ Product ID ในไฟล์ CSV ตรงกับ Product ID ของไอเทมที่ซื้อในแอปที่มีอยู่ในรายการไอเทม การเขียนทับไอเทมจะไม่ลบไอเทมที่ซื้อในแอปที่ไม่ได้อยู่ใน CSV
  4. วางไฟล์ CSV เพื่ออัปโหลดหรือคลิกอัปโหลด

ส่งออกไฟล์ CSV ของไอเทมที่ซื้อในแอปที่มีอยู่

หากต้องการส่งออกไฟล์ CSV ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เปิด Play Console
  2. ไปที่หน้าไอเทมที่ซื้อในแอป (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > ไอเทมที่ซื้อในแอป)
  3. คลิกส่งออก

ดูตัวอย่างไฟล์ CSV

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างไวยากรณ์ CSV ที่จะใช้และตัวอย่างไอเทมที่ซื้อในแอป 3 รายการ
  • ตัวอย่างที่ 1 กำหนดชื่อและคำอธิบายเป็น 2 ภาษา (en_US และ th_TH) เทมเพลตการกำหนดราคากำหนดราคาของไอเทม
  • ตัวอย่างที่ 2 ไม่ใช้เทมเพลตการกำหนดราคา แต่ระบุราคาสำหรับประเทศเริ่มต้นแทน (สหรัฐอเมริกา) Play Console ใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันและรูปแบบการกำหนดราคาที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อกำหนดราคาในประเทศอื่นๆ ทั้งหมดที่มีการจัดจำหน่ายแอปโดยอัตโนมัติ
  • ตัวอย่างที่ 3 ไม่ใช้เทมเพลตการกำหนดราคาเช่นกัน แต่ระบุราคาไอเทมด้วยตนเองสำหรับแต่ละประเทศที่จัดจำหน่ายแอป

ตัวอย่างชุดคำสั่งตามรูปแบบไวยากรณ์ CSV

Product ID,Published State,Purchase Type,Auto Translate,Locale; Title; Description,Auto Fill Prices,Price,Pricing Template ID

ตัวอย่างไอเทมที่ซื้อในแอป

ตัวอย่างที่ 1

basic_sleeping_potion,published,managed_by_android,false,en_US; Basic Sleeping Potion; Puts small creatures to sleep.; es_ES; Poción básica de dormir; Causa las criaturas pequeñas ir a dormir.,false,,4637138456024710495

ตัวอย่างที่ 2

standard_sleeping_potion, published,managed_by_android,false,en_US; Standard Sleeping Potion; Puts all creatures to sleep for 2 minutes.,true, 1990000,

ตัวอย่างที่ 3

invisibility_potion,published, managed_by_android,false,en_US; Invisibility Potion; Invisible to all enemies for 5 minutes.,false, US; 1990000; BR; 6990000; RU; 129000000; IN; 130000000; ID; 27000000000; MX; 37000000,

ค่าข้อมูลสำหรับไฟล์ CSV

แต่ละแถวในไฟล์ CSV ของไอเทมที่ซื้อในแอปอาจมีค่าดังนี้ แต่ค่าอย่างน้อย 1 ค่าจะไม่ได้ระบุไว้ในแต่ละแถว
Product ID

การตั้งค่านี้ในไฟล์ CSV จะให้ผลเหมือนกับการป้อนรหัสผลิตภัณฑ์เมื่อสร้างไอเทมใหม่ที่ซื้อในแอป

หากคุณระบุ Product ID ที่กำหนดให้กับไอเทมที่ซื้อในแอปซึ่งมีอยู่ในรายการไอเทมแล้ว ระบบจะเขียนทับข้อมูลของไอเทมที่ซื้อในแอปที่มีอยู่ด้วยค่าที่คุณระบุในไฟล์ CSV

Publish State ค่านี้จะต้องกำหนดเป็น published หรือ unpublished ซึ่งจะเหมือนกับการตั้งค่าไอเทมที่ซื้อในแอปเป็นใช้งานอยู่หรือไม่ได้ใช้งาน
Purchase Type

ค่านี้จะต้องกำหนดเป็น managed_by_android

Auto Translate

ค่านี้ต้องกำหนดเป็น false เนื่องจากเราไม่รองรับการแปลอัตโนมัติสำหรับรายละเอียดไอเทมที่ซื้อในแอป

หากต้องการใส่คำแปลสำหรับชื่อและคำอธิบายของไอเทมที่ซื้อในแอป ให้ระบุคำแปลเหล่านี้ไว้ภายในค่า Locale อย่างชัดแจ้ง

Locale, Title และ Description

คุณต้องระบุภาษาเริ่มต้นของแอปและชื่อและคำอธิบายเริ่มต้นของไอเทมหากระบุภาษาให้ไอเทมชิ้นหนึ่งแค่ภาษาเดียว

app_default_locale; item_default_title; item_default_description;

เมื่อกำหนดค่า Locale คุณจะใช้รหัสภาษาใดก็ได้ที่ปรากฏขึ้นเมื่อเพิ่มคำแปลของข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store

หมายเหตุ: เมื่อระบุค่า Title และ Description ให้ใช้เครื่องหมายแบ็กสแลชเป็นอักขระหลีกเมื่อต้องการป้อนเครื่องหมายเซมิโคลอน (\;) และเครื่องหมายแบ็กสแลช (\\)

คุณต้องระบุภาษาเริ่มต้น ชื่อ และคำอธิบาย ตามด้วยภาษา ชื่อ และคำอธิบายของคำแปลแต่ละภาษาหากต้องการใส่ชื่อและคำอธิบายเวอร์ชันแปลของไอเทม ในตัวอย่างต่อไปนี้ ไอเทมที่ซื้อในแอปใช้ en_US (ภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา) เป็นภาษาเริ่มต้นและ es_ES (ภาษาสเปนแบบสเปน) เป็นคำแปล

en_US; Invisibility Cloak; Makes you invisible.; es_ES; Capote Invisible; Se vuelven invisible

หมายเหตุ: แอปจะมีภาษาเริ่มต้น 1 ภาษา แต่ไอเทมที่ซื้อในแอปแต่ละรายการจะมีรายการคำแปลเป็นของตนเอง แม้ภาษาแรกในค่า Locale ของแต่ละไอเทมจะต้องเป็นภาษาเดียวกันตลอดทั้งไฟล์ CSV แต่ภาษาอื่นๆ ของแต่ละไอเทมอาจแตกต่างกันไป

Auto-Fill Prices, Country และ Price

คุณสามารถกำหนด Auto-fill prices เป็น true หรือ false หากไอเทมที่ซื้อในแอปใช้เทมเพลตการกำหนดราคา คุณควรกำหนดค่า Auto-fill prices เป็น false และไม่ควรกำหนดค่าให้กับ Price

หมายเหตุ: เมื่อคุณระบุราคาของไอเทมในไฟล์ CSV ให้ระบุราคาเป็นหน่วยไมโคร โดยที่ 1,000,000 หน่วยไมโครมีค่าเท่ากับสกุลเงินจริง 1 หน่วย

ใช้การกรอกราคาอัตโนมัติ

ส่วนต่อไปนี้จะอธิบายว่าค่า Auto-fill prices มีผลต่อไวยากรณ์และความหมายของค่า Country กับ Price อย่างไร

คุณต้องระบุแค่ราคาเริ่มต้นของไอเทมเท่านั้นโดยไม่ต้องระบุค่า Country หากตั้งค่า Auto-fill prices เป็น true

ตัวอย่างเช่น ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้

  • ภาษาเริ่มต้นของแอปคือ en_US
  • ราคาเริ่มต้นที่ไม่รวมภาษีของไอเทมที่ซื้อในแอปคือ USD 1.99
  • คุณต้องการให้กรอกราคาสำหรับประเทศอื่นๆ โดยอัตโนมัติ

คุณจะต้องกำหนดค่า Auto-fill prices และ Price ที่ท้ายแถวในไฟล์ CSV ดังนี้ true,1990000,

กำหนดราคาต่อประเทศเอง

หากคุณกำหนดค่า Auto-Fill Prices เป็น false แทน คุณจะระบุชุดค่าของ country และ price สำหรับทุกประเทศที่คุณจัดจำหน่ายแอปได้ ซึ่งรวมถึงประเทศที่ใช้ภาษาเดียวกันกับภาษาเริ่มต้นของแอป ค่า country แต่ละค่าคือรหัสประเทศ ISO ที่เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ 2 ตัวซึ่งแสดงประเทศที่จัดจำหน่ายแอป

หมายเหตุ: คุณต้องระบุรหัสประเทศและราคาสำหรับแต่ละประเทศที่แอปกำหนดเป้าหมาย หากต้องการดูและแก้ไขรายชื่อประเทศที่แอปกำหนดเป้าหมาย ให้ใช้แท็บประเทศ/ภูมิภาคในหน้าเวอร์ชันที่ใช้งานจริง

ค่า price แต่ละค่าแสดงราคาไอเทมในหน่วยไมโครของสกุลเงินที่ใช้ในประเทศนั้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณจำหน่ายแอปในราคาต่อไปนี้ (รวมภาษีทั้งหมดแล้ว) ในประเทศอื่นๆ

  • R$6.99 ในบราซิล
  • ₽129 ในรัสเซีย
  • ₹130 ในอินเดีย
  • Rp 27,000 ในอินโดนีเซีย
  • $37 ในเม็กซิโก

คุณกำหนดค่า Auto-Fill Prices, Country และ Price ไว้ที่ท้ายแถวในไฟล์ CSV ได้ดังนี้

false, BR; 6990000; RU; 129000000; IN; 130000000; ID; 27000000000; MX; 37000000;

Pricing Template ID

หากมีการลิงก์ไอเทมกับเทมเพลตการกำหนดราคา คุณควรกำหนด Auto-Fill prices เป็น false และไม่ควรกำหนดค่าให้คอลัมน์ price หากไม่มีการลิงก์ไอเทมกับเทมเพลตการกำหนดราคา คุณไม่ควรกำหนดค่า Pricing template ID แต่ควรกำหนดค่า Auto-Fill prices, Country และ Price ตามแนวทางที่คุณต้องการกำหนดราคาของไอเทมที่ซื้อในแอป

หากนำเข้าไฟล์ CSV คุณจะสามารถอัปเดตการลิงก์ระหว่างไอเทมที่ซื้อในแอปกับเทมเพลตการกำหนดราคา หากต้องการลิงก์ไอเทมกับเทมเพลตการกำหนดราคาที่เจาะจง ให้กำหนดค่า Pricing Template ID เป็นรหัสของเทมเพลตการกำหนดราคาที่ต้องการ หากต้องการยกเลิกการลิงก์ไอเทมที่ซื้อในแอปจากเทมเพลตการกำหนดราคาทั้งหมด ก็ไม่ต้องกำหนดค่าสำหรับ Pricing template ID

คุณลิงก์ราคาของแอปหรือราคาไอเทมที่ซื้อในแอปกับเทมเพลตการกำหนดราคาที่เจาะจงได้สูงสุด 1,000 รายการ ดังนั้น อย่าระบุ Pricing template ID เป็นค่าเดียวกันมากกว่า 1,000 แถวต่อไฟล์ CSV

EEA Withdrawal Right Type

หากคุณเผยแพร่ให้ผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ก็ควรตั้งค่าตรงนี้สำหรับ DIGITAL_CONTENT หรือ SERVICE

Reduced VAT Rates

หากคุณขายข่าว นิตยสาร หนังสือพิมพ์ หนังสือ วิดีโอ เพลง เสียง หรือหนังสือเสียงรูปแบบดิจิทัลในประเทศหรือภูมิภาคต่างๆ ก็อาจมีสิทธิ์ได้รับอัตรา VAT ที่ลดลง

สำหรับอัตราที่ลดลง ค่าในช่องนี้จะต้องอยู่ในรูปแบบต่อไปนี้

CountryCode;VATRate;

ประเทศหรืออัตราแต่ละคู่ควรตามด้วยเครื่องหมายเซมิโคลอนก่อนเพิ่มประเทศหรืออัตราคู่ใหม่

เช่น

CA;BOOKS_1 เพื่อกำหนดอัตราที่ลดลงระดับ 1 สำหรับหนังสือในแคนาดา

FR;NEWS_1; GR;NEWS_2 เพื่อกำหนดอัตราที่ลดลงระดับ 1 สำหรับข่าวในฝรั่งเศสและอัตราที่ลดลงระดับ 2 สำหรับข่าวในกรีซ

คุณสามารถกำหนดระดับเป็น BOOKS_1, NEWS_1, NEWS_2, MUSIC_OR_AUDIO_1, LIVE_OR_BROADCAST_1 (ตัวพิมพ์ใหญ่หรือตัวพิมพ์เล็ก)

Communications and amusement taxes

หากต้องการเรียกเก็บภาษีการสื่อสารและภาษีการบันเทิงของรัฐที่เกี่ยวข้อง คุณต้องระบุว่าแอปหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นผลิตภัณฑ์สตรีมมิงและเลือกช่องนี้เป็น ELIGIBLE หรือหากไม่ต้องการเรียกเก็บภาษี ให้ปล่อยช่องนี้ว่างไว้

ปัจจุบันมีเฉพาะสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียวที่ได้รับอนุญาตสำหรับภาษีประเภทนี้

ค่าของช่องนี้จะกำหนดไว้ดังต่อไปนี้เสมอ

CountryCode;Eligibility;Rate

เช่น

US;ELIGIBLE;VIDEO_RENTAL

หากมีสิทธิ์ คุณสามารถกำหนดค่าในช่องนี้ตามหมวดหมู่ต่อไปนี้

VIDEO_RENTAL สำหรับสตรีมมิงวิดีโอ - การสมัครใช้บริการ การเช่า การจ่ายต่อครั้งที่รับชม

VIDEO_SALES สำหรับสตรีมมิงวิดีโอ - การขาย

VIDEO_MULTI_CHANNEL สำหรับสตรีมมิงวิดีโอ - หลายช่อง

AUDIO_RENTAL สำหรับสตรีมมิงเสียง - การสมัครใช้บริการหรือบริการเช่า

AUDIO_SALES สำหรับสตรีมมิงเสียง - การขาย

AUDIO_MULTI_CHANNEL สำหรับสตรีมมิงเสียง - หลายช่อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
17736858291802501328
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false