การนำเข้า Conversion จาก Zapier

คุณสามารถใช้ Zapier ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์การรวมบริการบุคคลที่สามเพื่อนําเข้า Conversion ออฟไลน์จากระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ไปยัง Google Ads โดยอัตโนมัติ วิธีนี้จะช่วยในการวัดว่าการคลิกโฆษณาใดทําให้เกิดยอดขายออฟไลน์และการกระทำอื่นๆ ที่มีคุณค่าของลูกค้า

ในบทความนี้ เราจะอธิบายวิธีตั้งค่าบัญชีเพื่อนำเข้า Conversion ออฟไลน์จาก Zapier หากต้องการตรวจสอบว่าคุณตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์โดยใช้ CRM ได้หรือไม่ ให้ดูรายการ CRM ทั้งหมดที่ Zapier รองรับ

ก่อนที่จะตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์ โปรดไปที่เกี่ยวกับการนําเข้าแบบออฟไลน์ของ Zapier สําหรับ Google Ads

ก่อนเริ่มต้น

คุณต้องมีคุณสมบัติตามข้อกําหนดต่อไปนี้จึงจะนําเข้า Conversion ออฟไลน์จาก Zapier ได้

ข้อกําหนดขั้นต่ำสําหรับ Google Ads

  • สามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ต้องการส่งข้อมูล Conversion ออฟไลน์
  • ทราบชื่อการกระทำที่ถือเป็น Conversion ตามที่กําหนดไว้ในหน้า "Conversion" ของ Google Ads
หมายเหตุ: ระบบรองรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion ซึ่งมีแหล่งที่มา "นำเข้าจากคลิก" เท่านั้น

ข้อกําหนดขั้นต่ำสําหรับบัญชี Zapier

  • สามารถลงชื่อเข้าใช้บัญชี Zapier
  • ทราบชื่อเหตุการณ์ Conversion ที่ต้องการนําเข้า (เช่น เข้าเกณฑ์การตลาด เข้าเกณฑ์การขาย หรือปิดการขายสําเร็จ)
  • ออบเจ็กต์ CRM ที่มีการติดตามเหตุการณ์ Conversion
    • เช่น "ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า" "รายชื่อติดต่อ" หรือ "โอกาส"
  • ช่องในออบเจ็กต์ที่มีการอัปเดตเมื่อเกิด Conversion (เช่น เมื่อมีการอัปเดตช่อง "สถานะ" ในออบเจ็กต์ "ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า" เป็น "เข้าเกณฑ์การตลาด")
  • ช่องในออบเจ็กต์ที่มี GCLID หรือข้อมูลผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่แฮช
  • ช่อง CRM ที่มีการประทับเวลาของเหตุการณ์ Conversion (เมื่อระเบียนหนึ่งๆ เข้าถึงเหตุการณ์ Conversion)
หมายเหตุ: ช่อง CRM สำหรับมูลค่าและสกุลเงินของ Conversion เป็นช่องที่ไม่บังคับ

วิธีตั้งค่าการนำเข้า Conversion ของ Zapier สำหรับ Google Ads

คุณตั้งค่าและปรับการนําเข้า Conversion ของ Zapier โดยใช้เวิร์กโฟลว์ได้ 3 รูปแบบใน Google Ads เวิร์กโฟลว์เหล่านี้ช่วยในการนําเข้า Conversion ออฟไลน์โดยอัตโนมัติด้วยการนําเข้า Conversion ออฟไลน์ตาม GCLID หรือ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย

คุณตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์ของ Zapier ได้ใน 3 บริบท ดังนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์

ตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์หลังจากสร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion ของผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้าหรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์

ขั้นตอนต่อไปนี้อธิบายวิธีนําเข้า Conversion ออฟไลน์หลังจากสร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion ของผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้าหรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์

  1. ไปที่เมนูแบบเลื่อนลง "วิธีวัด Conversion ออฟไลน์" แล้วเลือก 1 จาก 3 ตัวเลือก ซึ่งได้แก่
    • "ข้อมูลผู้ใช้ในแบบฟอร์มสำหรับรวบรวมข้อมูลลูกค้าบนเว็บไซต์ (Google Tag Manager)"
    • "ใช้หมายเลขระบุคลิกของ Google"
    • "ใช้ข้อมูลผู้ใช้จากแบบฟอร์มสำหรับรวบรวมข้อมูลลูกค้า"
  2. ยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ หากจําเป็น
  3. กําหนดค่าแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ หากจําเป็น
  4. เลือกนําเข้าจาก CRM ในเมนูแบบเลื่อนลง "นําเข้า Conversion ออฟไลน์"
  5. เลือก CRM หรือแอปที่ต้องการ (เช่น Salesforce ผ่าน Zapier) โดยใช้แถบค้นหา
  6. เมื่อระบบแจ้งให้นําเข้า Conversion จาก CRM ผ่าน Zapier ให้คลิกไปที่ Zapier
  7. หลังจากทําตามขั้นตอนใน Zapier เสร็จแล้ว คุณจะกลับไปที่หน้า "ขั้นตอนถัดไป"

ตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์จากหน้า "การกระทําที่ถือเป็น Conversion"

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ

คุณตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์จากหน้า "การกระทําที่ถือเป็น Conversion" ใน Google Ads ได้เช่นกัน

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย Goals Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกสรุป
  4. ไปที่ส่วน "ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์" หรือ "ผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้า"
  5. คลิกตั้งค่าให้เสร็จ
  6. ในหน้า "การตั้งค่า" ให้คลิกดูข้อกําหนดและยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ
  7. ในหน้า "สรุป" ให้ไปที่ส่วน "ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์" หรือ "ผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้า"
  8. คลิกตั้งค่าการนําเข้า
  9. เลือกนําเข้าจาก CRM ในเมนูแบบเลื่อนลง "นําเข้า Conversion ออฟไลน์"
  10. เลือก CRM หรือแอปที่ต้องการ (เช่น "Salesforce ผ่าน Zapier") โดยใช้แถบค้นหา
  11. เมื่อระบบแจ้งให้นําเข้า Conversion จาก CRM ผ่าน Zapier ให้คลิกไปที่ Zapier
  12. คลิกเสร็จสิ้น

ตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์จากชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

หากยังไม่ได้ตั้งค่าชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม ให้ทําตามขั้นตอนในบทความใช้ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มก่อนส่งออกผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจาก Google Ads หลังจากสร้างหรือแก้ไขชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มใหม่ในแคมเปญใหม่แล้ว คุณจะส่งออกผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจาก Google Ads ได้โดยทําตามขั้นตอนด้านล่าง

เคล็ดลับ: ก่อนตั้งค่าการนําเข้า Conversion ใน Google Ads ให้ยืนยันว่าได้เลือก CRM หรือแอปที่ต้องการในหน้า "เพิ่มชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม" ในส่วน "ส่งออกผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจาก Google Ads" แล้ว
  1. ในหน้า "เพิ่มชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม" ให้ไปที่ส่วน "ส่งออกผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจาก Google Ads"
  2. คลิกตั้งค่าในส่วน "นําเข้า Conversion ออฟไลน์" เพื่อตั้งค่าการนําเข้า Conversion
    • หมายเหตุ: คุณจะตั้งค่าการนําเข้าผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์หรือผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้าก็ได้
  3. เลือก CRM หรือแอปที่ต้องการ (เช่น "Salesforce ผ่าน Zapier") โดยใช้แถบค้นหา
  4. เมื่อระบบแจ้งให้นําเข้า Conversion จาก CRM ผ่าน Zapier ให้คลิกไปที่ Zapier
  5. Zapier จะเปิดในหน้าต่างใหม่และโหลดล่วงหน้าโดยมีแบบฟอร์มสำหรับรวบรวมข้อมูลลูกค้าและ CRM ที่เลือกไว้
  6. หลังจากทําตามขั้นตอนใน Zapier เสร็จแล้ว คุณจะกลับไปที่หน้า "การกระทำที่ถือเป็น Conversion ของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ใหม่"

วิธีตรวจสอบ Conversion

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย Goals Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกสรุป
  4. คลิก Zapier ในเมนูด้านซ้าย
  5. คลิกการกระทําที่ถือเป็น Conversion ในเมนูด้านบน หากต้องการดู Conversion ให้ใช้คอลัมน์ Conv. ทั้งหมด (ตามเวลาที่เกิด Conv.)
    • หากใช้ Zapier อย่างเดียวในการอัปโหลด Conversion ไปยังการกระทำที่ถือเป็น Conversion ดังกล่าว คุณจะเปรียบเทียบจำนวนการอัปโหลดที่สำเร็จจาก "ประวัติงาน Zapier" กับสิ่งที่พบในรายงานการระบุแหล่งที่มาได้ เนื่องจากการอัปโหลดประกอบด้วย "เวลาที่เกิด Conversion" คุณจึงน่าจะเปรียบเทียบรายงาน 2 ฉบับได้ และเห็น Conversion จำนวนเท่ากันในช่วงเวลาที่ระบุ
    • หากคุณอัปโหลด Conversion ไปยังการกระทำที่ถือเป็น Conversion ดังกล่าวผ่านแหล่งที่มาอื่น (เช่น การอัปโหลด CSV) ด้วย จำนวน Conversion ทั้งหมดใน "รายงานแคมเปญ" ก็ควรเท่ากับผลรวมของการอัปโหลด Zapier และการอัปโหลด CSV

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
5407232047118851269
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false