ทดสอบแคมเปญ AMP

หน้า Landing Page ที่เร็วขึ้นมักนำไปสู่ Conversion ที่มากขึ้น และ Accelerated Mobile Pages (AMP) จะช่วยคุณสร้างหน้า Landing Page ที่โหลดได้อย่างรวดเร็ว (มีหลายหน้าที่โหลดเสร็จในไม่ถึง 1 วินาที) หน้า Landing Page แบบ AMP มักจะมอบประสบการณ์หน้า Landing Page ที่ดีกว่าด้วยการโหลดที่ทั้งเร็วและราบรื่นขึ้น และประสบการณ์หน้า Landing Page เป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้คำนวณคะแนนคุณภาพ

บทความนี้จะแสดงวิธีทดสอบว่าหน้า Landing Page แบบ AMP ของคุณดึงดูด Conversion ได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ การทดสอบ A/B คือวิธีเปรียบเทียบตัวแปร 1 ตัวใน 2 เวอร์ชัน (ในกรณีนี้ก็คือหน้า Landing Page) เพื่อดูว่าเวอร์ชันใดมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน

วิธีทำการทดสอบ A/B กับแคมเปญ AMP

คุณทำการทดสอบ A/B กับแคมเปญ AMP ได้ 2 วิธี วิธีการทดสอบที่เลือกจะขึ้นอยู่กับระดับรายละเอียดและโครงสร้างของแคมเปญ

วิธีการ ข้อดี สิ่งที่ควรพิจารณา
แบบร่างและการทดสอบ
[แนะนำ]
  • ช่วยให้คุณทดสอบการเปลี่ยนแปลงหลายรายการในแคมเปญเดียว
  • รองรับ Google Ads Editor เพื่อให้ผู้ใช้สร้างและแก้ไขการทดสอบด้วยการเปลี่ยนแปลงจำนวนมาก
  • เนื่องจากจะเรียกใช้การทดสอบได้ในแบบทีละแคมเปญเท่านั้น คุณจึงควรใช้วิธีนี้กับแคมเปญที่ได้รับการเข้าชมในอุปกรณ์เคลื่อนที่จำนวนมาก
  • หลังจากเรียกใช้การทดสอบแล้ว คุณจะต้องตรวจดูว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่ทำกับแคมเปญดั้งเดิมนั้นเกิดขึ้นกับแคมเปญทดสอบด้วย (หรือในทางกลับกัน)
โฆษณารูปแบบต่างๆ
  • ช่วยให้คุณทดสอบหน้าเว็บ AMP ในหลายแคมเปญ
  • เปิดตัวในหลายแคมเปญด้วยคลิกเดียว
  • อัปเดตแคมเปญเดิมและแคมเปญที่แก้ไขเมื่อคุณทำการเปลี่ยนแปลงในแคมเปญเดิม
  • ไม่ต้องสร้างแคมเปญซ้ำเพื่อทำการทดสอบ
  • ต้องมีรายการในช่อง URL บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งระบุรูปแบบในสตริง URL ทั้งนี้ URL ของคุณยังต้องเป็นไปตามรูปแบบการแทนที่สตริงที่สม่ำเสมอ (เช่น m.example.com / amp.example.com) ด้วย
  • ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการเสนอราคา อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงครีเอทีฟโฆษณาและ URL เท่านั้น

ก่อนเริ่มต้น

เคล็ดลับที่จะช่วยให้แคมเปญทดสอบ AMP ทำงานอย่างราบรื่นมีดังนี้

ควร: ใช้ https://search.google.com/test/ampเพื่อให้หน้า AMP ใช้ได้ในช่วงทดสอบ
ไม่ควร: เริ่มการทดสอบแบบร่างและการทดสอบทันทีหลังจากเปิดตัวหน้า Landing Page แบบ AMP โปรดรอ 2 วันเพื่อให้หน้า AMP แสดงจากแคชก่อนทดสอบ

ควร: เรียกใช้การทดสอบในแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายเป็นการเข้าชมในอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่ควร: เรียกใช้การทดสอบกับแคมเปญที่มีไซต์ลิงก์ เนื่องจากปัจจุบันเซิร์ฟเวอร์แคช AMP ยังไม่รองรับแคมเปญเหล่านี้

ควร: ใช้การแบ่งฝั่งที่อิงตามคุกกี้เพื่อให้ผู้ใช้เห็นเฉพาะหน้า AMP หรือหน้าที่ไม่ใช่ AMP ไม่ว่าจะค้นหากี่ครั้งก็ตาม เนื่องจากหน้า AMP จะแสดงจากแคชในรูปแบบนี้เท่านั้น จึงให้ใช้เฉพาะกับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาที่มีโฆษณาแบบข้อความ
ไม่ควร: วางพารามิเตอร์ที่ใช้ในการติดตามโดยเฉพาะไว้ก่อนพารามิเตอร์ {ignore} ใน URL สุดท้ายในอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่ให้วางไว้หลังพารามิเตอร์ {ignore}

ควร: ตั้งเวลาและเรียกใช้การทดสอบเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าแบบร่างและการทดสอบจะแสดงผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ไม่ควร: ใช้แคมเปญที่มีจำนวนการคลิกน้อยกว่า 250 ครั้งต่อวัน

ควร: ทดสอบโดยมุ่งเน้นครั้งละ 1 ตัวแปร หากต้องการตรวจสอบผลของการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 1 รายการ ให้ใช้การทดสอบแยกกัน
ไม่ควร: ทำการเปลี่ยนแปลงในแคมเปญขณะเรียกใช้การทดสอบ หากจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหน้า AMP ให้ทำการเปลี่ยนแปลงนั้นในแคมเปญทดสอบโดยเร็วที่สุดด้วย

ควร: ใช้กับแคมเปญโฆษณาแบบข้อความในเครือข่ายการค้นหา เนื่องจากหน้า AMP จะแสดงจากแคชในรูปแบบนี้เท่านั้น
ไม่ควร: ลืมว่าโฆษณาในแคมเปญทดสอบต้องผ่านการอนุมัติโฆษณาเช่นเดียวกับในแคมเปญอื่นๆ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1 วัน ดังนั้นโปรดคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยเมื่อตั้งค่าวันที่เริ่มต้นการทดสอบ ในทำนองเดียวกัน หากเลือกที่จะเพิ่มครีเอทีฟโฆษณาทดสอบกลับไปยังแคมเปญเดิม ครีเอทีฟโฆษณาดังกล่าวก็จะต้องได้รับการตรวจทานด้วยเช่นกัน

หากคุณวางแผนที่จะเรียกใช้การทดสอบประเภทใดก็ตามกับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคาอัตโนมัติของ Google ให้รออย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อให้ทั้งแคมเปญเดิมและแคมเปญทดสอบปรับเทียบระดับการเข้าชมใหม่อีกครั้งก่อนที่จะประเมินผลลัพธ์

โปรดตรวจสอบว่าหน้า Landing Page ทั้งแบบ AMP และไม่ใช่ AMP มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ (หรือคล้ายกันมากที่สุด) เพื่อให้ผลการทดสอบออกมาแม่นยำที่สุด โปรดระวังไม่ให้เกิดความแตกต่างในเรื่องต่อไปนี้

  • ข้อความ (ขนาด เนื้อหา และการจัดรูปแบบ)
  • รูปภาพ (ขนาด เนื้อหา)
  • ช่องส่งข้อมูล (จำนวนช่อง ข้อความที่เติมล่วงหน้า ตัวเลือกวันที่)

หากหน้าแบบ AMP และที่ไม่ใช่ AMP มีองค์ประกอบข้างต้นต่างกัน ก็อาจส่งผลให้ผลการทดสอบบิดเบือนและให้ภาพรวมของประสิทธิภาพ AMP ที่ไม่ถูกต้อง

คุณสร้างการทดสอบในแคมเปญที่มีงบประมาณที่ใช้ร่วมกันหรือทดสอบ AMP ที่มีโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาแบบไดนามิก (DSA) ไม่ได้

เรียกใช้การทดสอบเมื่อใช้การเสนอราคาอัตโนมัติของ Google

หากคุณวางแผนที่จะเรียกใช้การทดสอบประเภทใดก็ตามกับแคมเปญที่ใช้การเสนอราคาอัตโนมัติของ Google ให้รออย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อให้ทั้งแคมเปญเดิมและแคมเปญทดสอบปรับเทียบระดับการเข้าชมใหม่อีกครั้งก่อนที่จะประเมินผลลัพธ์

เรียกใช้การทดสอบด้วย Search Ads 360

คุณสร้างแบบร่างและการทดลองจาก Search Ads 360 ไม่ได้ หากสร้างแบบร่างใน Google Ads การเปลี่ยนแปลงที่ทำกับแบบร่างจะไม่ปรากฏใน Search Ads 360 จนกว่าคุณจะใช้แบบร่างนั้นและซิงค์การเปลี่ยนแปลง

หากสร้างการทดสอบใน Google Ads และซิงค์บัญชีกับ Search Ads 360 การทดสอบจะปรากฏใน Search Ads 360 เป็นแคมเปญใหม่

โปรดทราบ
  • การทดสอบใน Search Ads 360 มีลักษณะเหมือนแคมเปญปกติ
  • หากคุณใช้กลยุทธ์การเสนอราคาของโฆษณา Search Ads 360 กับแคมเปญเดิม ระบบจะนำกลยุทธ์การเสนอราคานั้นไปใช้กับการทดสอบโดยค่าเริ่มต้นด้วย
  • แคมเปญเดิมและการทดสอบจะใช้งบประมาณร่วมกัน หากใช้กลยุทธ์การเสนอราคาตามงบประมาณกับแคมเปญเดิม คุณควรนำกลยุทธ์การเสนอราคานี้ออกก่อนที่จะสร้างการทดสอบเนื่องจากกลยุทธ์การเสนอราคานี้จะจัดการค่าใช้จ่ายไม่ได้เมื่อมีการใช้งบประมาณร่วมกัน

วิธีทำการทดสอบ A/B กับแคมเปญ AMP โดยใช้ฉบับร่างและการทดสอบ

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. เลือกแคมเปญที่จะทดสอบ
    • ตามหลักแล้ว แคมเปญดั้งเดิมที่คุณใช้สร้างการทดสอบควรจะเป็นแคมเปญสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น
    • คุณแบ่งกลุ่มตารางสรุปสถิติการทดสอบตามอุปกรณ์ไม่ได้ แต่แบ่งกลุ่มผลลัพธ์ของแคมเปญทดสอบตามอุปกรณ์ได้ ทั้งนี้จะไม่มีการรายงานที่มีนัยสำคัญทางสถิติ หากไม่มีแคมเปญสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น เมื่อสิ้นสุดการทดสอบคุณจะต้องแบ่งกลุ่มผลลัพธ์ของแคมเปญทดสอบตามอุปกรณ์เพื่อดูว่า AMP ส่งผลต่อประสิทธิภาพเฉพาะในอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างไรบ้าง
  2. ตรวจดูว่าคุณได้สร้างเวอร์ชัน AMP ของหน้า Landing Page ทุกหน้าในแคมเปญแล้ว
  3. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  4. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
  5. สร้างแบบร่างของแคมเปญนั้น
  6. อัปเดต URL ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของแคมเปญร่าง อย่าลืมทำสิ่งต่อไปนี้
    1. ค้นหาโฆษณาและคีย์เวิร์ดแต่ละรายการที่ได้รับการกำหนด URL สุดท้ายไว้
    2. เลือก "ใช้ URL สุดท้ายที่แตกต่างกันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่" จากนั้นวาง URL ของแคมเปญ AMP
    3. ตรวจดูว่า URL ในอุปกรณ์เคลื่อนที่นำทางไปยังหน้า AMP ในโดเมน (เช่น https://example.com/page_amp.html) ไม่ใช่ไปยังเซิร์ฟเวอร์แคช AMP ของ Google (เช่น https://www.google.com/amp/s/example.com หรือ https://cdn.ampproject.org/c/s/example.com)
    4. ไม่ต้องเปลี่ยน URL ของแคมเปญฐาน
  7. เรียกใช้การทดสอบจากแบบร่างที่สร้างขึ้นใหม่ เราแนะนำให้ทำดังนี้
    • กำหนดการแบ่งงบประมาณเป็น 50/50% เพื่อให้เวอร์ชันทดสอบของแคมเปญมีสิทธิ์ 50% จากทั้งหมด ซึ่งน่าจะช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์ได้เร็วที่สุด โปรดทราบว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงการแบ่งงบประมาณไม่ได้เมื่อการทดสอบเริ่มทำงานไปแล้ว
    • ใช้การแบ่งฝั่งที่อิงตามคุกกี้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จะเห็นแคมเปญเพียงเวอร์ชันเดียว ไม่ว่าจะค้นหากี่ครั้งก็ตาม วิธีนี้ช่วยรับประกันได้ว่าปัจจัยอื่นๆ จะไม่ส่งผลต่อผลลัพธ์และอาจให้ข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้น
    • หากคุณใช้รายการกลุ่มเป้าหมาย ให้ตรวจดูว่ารายการดังกล่าวมีผู้ใช้อย่างน้อย 10,000 รายเพื่อให้มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์
    • เลือกวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดที่เหมาะสมเพื่อให้มีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพิ่มโอกาสที่จะพบผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญ

จากคนวงใน

  • ยิ่งแคมเปญได้รับการคลิกในอุปกรณ์เคลื่อนที่มาก การทดสอบก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญเร็วขึ้น
  • เมื่อสร้างแคมเปญร่าง ให้เปลี่ยนเฉพาะ URL สุดท้ายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และคงทุกอย่างไว้เหมือนเดิมเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด
  • หากทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับแคมเปญดั้งเดิม การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะไม่แสดงในแคมเปญทดสอบ (และในทางกลับกันด้วย) ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการเปลี่ยนแปลงราคาเสนอ ก็จะต้องเปลี่ยนแปลงราคาเสนอในแคมเปญดั้งเดิมรวมทั้งแคมเปญทดสอบด้วย อีกทั้งยังควรเปลี่ยนแปลงพร้อมกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผลการทดสอบบิดเบือน
  • ตั้งชื่อแคมเปญให้ชัดเจน (เช่น “ชื่อแคมเปญ_AMP” สำหรับแบบร่าง) เพื่อให้พบได้ง่ายในภายหลัง
  • เราแนะนำให้ใช้แบบร่างและการทดสอบเฉพาะเมื่อคุณกำลังอัปเดต URL สุดท้ายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งหมดในแคมเปญทดสอบ หากคุณเปลี่ยนแปลงเฉพาะ URL ในกลุ่มโฆษณากลุ่มเดียว เราขอแนะนำให้ย้ายกลุ่มโฆษณานั้นไปไว้ในแคมเปญใหม่ โดยหยุดกลุ่มโฆษณาในแคมเปญดั้งเดิมไว้ชั่วคราว แล้วเรียกใช้การทดสอบในแคมเปญใหม่

วิธีทำการทดสอบ A/B กับแคมเปญ AMP โดยใช้โฆษณารูปแบบต่างๆ

เมื่อใช้การทดสอบรูปแบบโฆษณา AMP คุณจะแบ่งกลุ่มผลการทดสอบตามอุปกรณ์เพื่อแยกดูเมตริกประสิทธิภาพบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงแคมเปญในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกการทดสอบ
  4. คลิกโฆษณารูปแบบต่างๆ
  5. เลือกแคมเปญที่ต้องการเรียกใช้โฆษณารูปแบบต่างๆ โปรดทราบว่าคุณจะสร้างรูปแบบโฆษณาหลายรายการสำหรับแคมเปญเดียวกันในช่วงวันที่เดียวกันไม่ได้
  6. หากต้องการสร้างโฆษณารูปแบบใหม่ ให้คลิกปุ่มบวก
  7. คลิกกรองโฆษณาหากต้องการจำกัดตัวเลือกให้แคบลง
  8. คลิกต่อไป
  9. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงภายใน "เลือกประเภทของรูปแบบที่คุณต้องการใช้กับโฆษณา" แล้วเลือกค้นหาและแทนที่
  10. ในช่อง “ป้อนข้อความที่จะค้นหา” ให้ป้อน URL บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่คุณต้องการแทนที่ด้วย URL ของ AMP ที่อัปเดต
  11. คลิกช่องรายการแบบเลื่อนลงทางด้านขวาของ URL ที่คุณเพิ่งป้อนไป แล้วเลือกใน URL สุดท้ายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  12. ในช่อง “ป้อนข้อความที่จะแทนที่” ให้ป้อน URL ของ AMP ที่อัปเดต
  13. คลิกต่อไป
  14. ป้อนชื่อให้กับรูปแบบ
  15. เลือกวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของการทดสอบ
  16. เลือกการแยกการเข้าชม เราขอแนะนำให้ใช้การแยกแบบ 50/50 เพื่อที่ว่ารูปแบบโฆษณาและโฆษณาดั้งเดิมจะได้เข้าสู่การประมูลในจำนวนครั้งที่เท่ากัน
  17. เมื่อรูปแบบโฆษณาสิ้นสุด ให้คลิกปุ่มกลุ่ม กลุ่ม ในแถบเมนู แล้วคลิกอุปกรณ์ในเมนูแบบเลื่อนลง "กลุ่ม"

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
11054942965412961117
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false