มูลค่าของ Conversion มักจะเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้งหลังจากที่ลูกค้าทำ Conversion
บทความนี้จะแนะนำให้คุณทราบถึงขั้นตอนการปรับเปลี่ยน Conversion ของ Google Ads ไม่ว่าจะเป็นการระบุค่าใหม่ให้กับ Conversion หรือการเพิกถอน Conversion ออกจากรายงานโดยสมบูรณ์
ก่อนเริ่มต้น
- หากต้องการปรับเปลี่ยน Conversion คุณควรติดตาม Conversion ด้วยรหัสคำสั่งซื้ออยู่ก่อนแล้ว โดยรหัสคำสั่งซื้อคือสิ่งที่จะช่วยให้ระบุ Conversion ได้อย่างเฉพาะเจาะจง ดูวิธีใช้รหัสคำสั่งซื้อกับ Conversion
- หากบัญชีดูแลจัดการหนึ่งกำลังติดตาม Conversion ของบัญชี บัญชีดูแลจัดการดังกล่าวจะต้องอัปโหลดการปรับ Conversion ทุกรายการ ดูวิธีอัปโหลด Conversion สำหรับหลายบัญชีจากไฟล์เดียว
- หลักเกณฑ์ของ Google Ads ไม่อนุญาตให้อัปโหลด Conversion ใหม่และการปรับ Conversion ในไฟล์เดียวกัน จึงต้องอัปโหลดแยกกัน
วิธีการ
ทำตามวิธีการด้านล่างเพื่อจัดเตรียมและนำเข้าข้อมูลการปรับเปลี่ยน Conversion
ขั้นตอนที่ 1 เตรียมข้อมูลที่จะนำเข้า
- ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อนนำเข้า คุณเปลี่ยนแปลงการปรับที่ไม่ถูกต้องหลังจากที่นำเข้าไฟล์แล้วไม่ได้ และจะต้องแก้ไขค่าการปรับที่ไม่ถูกต้องในไฟล์ แล้วนำเข้าอีกครั้ง หมายเหตุเพิ่มเติมที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้
- การเพิกถอนจะนำ Conversion ออกจากรายงานโดยสมบูรณ์
- คุณไม่สามารถปรับ Conversion ที่เพิกถอนแล้ว (จะไม่มีข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏขึ้น)
- หากจะเพิกถอน Conversion ที่นําเข้า คุณต้อง "เลิกทํา"
- คุณเพิ่ม Conversion ในเว็บไซต์กลับเข้าไปในรายงานไม่ได้หลังจากนำออกแล้ว
- หากต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้ดาวน์โหลดเทมเพลตการปรับ Conversion ในรูปแบบ Excel, CSV หรือ Google ชีต หรือดาวน์โหลดจาก Google Ads โดยตรงโดยทำดังนี้
หมายเหตุ: หากใช้แคมเปญโรงแรม คุณต้องดาวน์โหลดพารามิเตอร์เทมเพลตเฉพาะสำหรับ Conversion หรือเพิ่มพารามิเตอร์ลงในเทมเพลตที่มีอยู่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมข้อมูลที่จะนําเข้าสําหรับแคมเปญโรงแรม
- คลิกไอคอนเป้าหมาย ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในเมนูส่วน
- คลิกอัปโหลด
- คลิกปุ่มบวก
- คลิกดูเทมเพลต
- ค้นหาเทมเพลตสำหรับ "การปรับเปลี่ยน Conversion" และเลือกรูปแบบเทมเพลตที่ต้องการดาวน์โหลด
- ทำตามหลักเกณฑ์ในการอัปโหลดสเปรดชีตต่อไปนี้
- อย่านําคอลัมน์ใดๆ ในสเปรดชีตออก มิเช่นนั้นจะนําเข้าไม่สําเร็จ
- ตรวจสอบว่าข้อมูลไม่มีคอลัมน์เพิ่มเติมหรือข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล
- ป้อนเขตเวลาโดยใช้รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งต่อไปนี้
- ใส่รหัสเขตเวลาจากรายการนี้ เราขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในช่วงที่เปลี่ยนไปใช้เวลาออมแสง
- ป้อนค่าชดเชย GMT โดยการใส่เครื่องหมาย + หรือ - แล้วตามด้วยค่าต่างของเวลา 4 หลัก (เช่น ค่าชดเชยของนิวยอร์กคือ -0500 และของเบอร์ลินคือ +0100) หากคุณใช้เวลามาตรฐานกรีนิช (Greenwich Mean Time) ให้ป้อน +0000
- ต่อไปให้เพิ่มแถวใหม่สำหรับ Conversion แต่ละรายการและใส่ค่าในคอลัมน์ดังต่อไปนี้
- รหัสคำสั่งซื้อ: รหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับ Conversion ซึ่งควรเป็นรหัสเดียวกับที่บันทึกไว้พร้อมกับ Conversion เดิมของคุณ ดูวิธีใช้รหัสธุรกรรมเพื่อลดจำนวน Conversion ที่ซ้ำกัน
- หมายเหตุ: เราขอแนะนำให้ใช้รหัสคำสั่งซื้อสำหรับการปรับค่าใช้จ่าย แต่หากใช้รหัสคำสั่งซื้อไม่ได้ ก็ให้ใช้ Google Click ID (GCLID) ที่นำไปสู่ Conversion ออฟไลน์ที่อัปโหลดไว้ก่อนหน้านี้ และเวลาที่เกิด Conversion GCLID ควรเป็นการประทับเวลาเดียวกับเมื่อมีการสร้าง Conversion ออฟไลน์ขึ้น หากพารามิเตอร์ที่ระบุพร้อมกับ Conversion คือ GBRAID คุณจะใช้ได้เฉพาะรหัสคำสั่งซื้อเท่านั้น
- ชื่อ Conversion คือ ชื่อของการกระทำที่ถือเป็น Conversion (เช่น "การจองห้องพัก" หรือ "ยอดขายออนไลน์") ที่คุณกำลังใช้เพื่อติดตาม Conversion คุณจะต้องสะกดคำและใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ให้ตรงกับชื่อการกระทำที่ถือเป็น Conversion ที่สร้างไว้ในบัญชี Google Ads
- เวลาในการปรับ: วันที่และเวลาที่ปรับมูลค่าของ Conversion หรือเมื่อคุณดูข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง Conversion ดูรายการรูปแบบวันที่ที่ยอมรับ (เช่น MM/dd/yyyy HH:mm:ss) ในตารางด้านล่าง เพิ่มเขตเวลาลงในเวลาที่เกิด Conversion ได้โดยใช้รูปแบบ 1 ใน 4 แบบสุดท้ายที่แสดงในรายการ ใช้ค่าชดเชย GMT แทน "+z" ด้วยการใส่เครื่องหมาย + หรือ - ตามด้วยค่าต่างของเวลา 4 หลัก หรือใส่รหัสเขตเวลาจากรายการนี้แทน "zzzz" เวลาในการปรับต้องเกิดขึ้นหลังจากเวลาที่เกิด Conversion และก่อนเวลาอัปโหลด นอกจากนี้ เวลาระดับชั่วโมงและนาทีที่แน่นอนก็มีความสำคัญพอๆ กัน
- รหัสคำสั่งซื้อ: รหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับ Conversion ซึ่งควรเป็นรหัสเดียวกับที่บันทึกไว้พร้อมกับ Conversion เดิมของคุณ ดูวิธีใช้รหัสธุรกรรมเพื่อลดจำนวน Conversion ที่ซ้ำกัน
รูปแบบ |
ตัวอย่าง |
MM/dd/yyyy hh:mm:ss aa |
"08/14/2012 5:01:54 PM" |
MMM dd,yyyy hh:mm:ss aa |
"Aug 14, 2012 5:01:54 PM" |
MM/dd/yyyy HH:mm:ss |
"08/14/2012 17:01:54" |
yyyy-MM-dd HH:mm:ss |
"2012-08-14 13:00:00" |
yyyy-MM-ddTHH:mm:ss |
"2012-08-14T13:00:00" |
yyyy-MM-dd HH:mm:ss+z |
"2012-08-14 13:00:00+0500" |
yyyy-MM-ddTHH:mm:ss+z |
"2012-08-14T13:00:00-0100" |
yyyy-MM-dd HH:mm:ss zzzz |
"2012-08-14 13:00:00 America/Los_Angeles" |
yyyy-MM-ddTHH:mm:ss zzzz |
"2012-08-14T13:00:00 America/Los_Angeles" |
- ประเภทการปรับเปลี่ยน คือ ค่าที่บอก Google Ads ว่าคุณกำลังปรับเปลี่ยนมูลค่าของ Conversion ("ระบุค่าใหม่") หรือเพิกถอน Conversion ออกโดยสมบูรณ์ ("เพิกถอน")
- มูลค่าที่ปรับเปลี่ยน คือ ตัวเลขที่แสดงถึงมูลค่าใหม่ของ Conversion คุณไม่จําเป็นต้องป้อนค่าที่ปรับเปลี่ยนของ Conversion ที่เพิกถอน เนื่องจากระบบจะหักมูลค่าจากมูลค่า Conversion รวมของบัญชีโดยอัตโนมัติ หากมูลค่าการปรับที่ป้อนลดมูลค่าของ Conversion จนเหลือ 0 ระบบจะนำ Conversion ดังกล่าวออกจากรายงานโดยอัตโนมัติ
- สกุลเงินของมูลค่าที่ปรับ: สกุลเงินของการปรับ Conversion ใช้ในกรณีที่คุณรายงานมูลค่าการปรับเปลี่ยนในหลายสกุลเงิน หรือมีหลายบัญชีที่เรียกเก็บเงินในหลายสกุลเงิน ใช้รหัสสกุลเงินในรูปแบบ ISO 4217 ที่มี 3 อักขระ เช่น USD สำหรับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และ JPY สำหรับเยนญี่ปุ่น หากไม่ระบุค่า สกุลเงินจะมีค่าเริ่มต้นเป็นสกุลเงินที่คุณเลือกไว้ให้กับ Conversion ใน Google Ads หากคุณส่งการปรับเปลี่ยนโดยใช้สกุลเงินซึ่งต่างจากสกุลเงินของ Conversion เดิม ระบบจะแปลงสกุลเงินโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศรายวัน
- บันทึกการเปลี่ยนแปลงในไฟล์
ขั้นตอนที่ 2 นำเข้าการปรับเปลี่ยน Conversion
เมื่อแผ่นงาน Conversion พร้อมแล้ว ให้อัปโหลดด้วยวิธีเดียวกันกับที่อัปโหลด Conversion ผู้ลงโฆษณาที่จำเป็นต้องอัปเดต Conversion แบบเป็นโปรแกรมควรใช้ฟีเจอร์การอัปโหลดที่ตั้งเวลาไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้า Conversion
เกี่ยวกับการอัปโหลดการปรับหลายรายการ
เป็นไปได้ว่า Conversion หนึ่งอาจต้องได้รับการปรับเปลี่ยนมากกว่า 1 ครั้ง ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการส่งคืนสินค้า 2 รายการขึ้นไปในคำสั่งซื้อหนึ่งในเวลาต่างกัน หากคุณมีการปรับเปลี่ยน Conversion หนึ่งในสเปรดชีตมากกว่า 1 ครั้ง ระบบจะประมวลผลการปรับเปลี่ยนที่มีเวลาในการปรับเปลี่ยนอยู่ก่อนเป็นอันดับแรก
แต่หาก Conversion ถูกเพิกถอนหรือการปรับเปลี่ยนลดมูลค่าของ Conversion ลงจนเหลือ 0 ระบบจะนำ Conversion ดังกล่าวออกจากรายงาน และ Google Ads จะไม่ประมวลผลการปรับเปลี่ยนใดๆ ที่ตามมา
เลิกทําการเพิกถอน Conversion
หากคุณเพิกถอน Conversion หรือเปลี่ยนมูลค่าเป็น 0 แล้ว จะยกเลิกการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ อย่างไรก็ตาม มีวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นหากคุณใช้การตั้งค่า "ทุก Conversion" และต้องการ "ยกเลิกการเพิกถอน" การนำเข้า Conversion ออฟไลน์
วิธีการมีดังนี้
- อัปโหลดซ้ำโดยใช้การประทับเวลาที่ปรับแล้ว: หากต้องการ "เลิกทำ" การเพิกถอน Conversion ให้อัปโหลดข้อมูล Conversion เดียวกันที่มีการประทับเวลาแตกต่างกันเล็กน้อยซ้ำ (เช่น เพิ่ม 2-3 วินาทีในแต่ละรายการ)
จากนั้น Google Ads จะถือว่า Conversion ที่อัปโหลดซ้ำนี้เป็น Conversion "ใหม่" เนื่องจากเกิดขึ้นในเวลาที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้ ระบบจะเพิ่ม Conversion ดังกล่าวลงในรายงาน Conversion