ลิงก์ Smart Campaign กับ Google Analytics

  • ลิงก์บัญชี Google Analytics กับ Google Ads เพื่อติดตามการเข้าชมเว็บไซต์จากโฆษณา
  • ดูข้อมูล Google Analytics ของโฆษณาและประสิทธิภาพโฆษณาในภาพรวม Smart Campaign

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ท้ายวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


เมื่อใช้ Google Analytics และ Google Ads คุณจะวัดได้ว่าเว็บไซต์ทำงานได้ตรงตามความคาดหมายของธุรกิจมากน้อยเพียงใด วิธีหนึ่งในการวัดประสิทธิภาพของโฆษณาคือการติดตามกิจกรรมที่เสร็จสมบูรณ์แล้วในเว็บไซต์ (หรือที่เรียกว่า Conversion) ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจ เช่น การซื้อหรือการสมัครรับจดหมายข่าว

หากใช้ Google Analytics เพื่อติดตามการเข้าชมในเว็บไซต์อยู่แล้ว คุณจะลิงก์บัญชี Google Analytics กับบัญชี Google Ads ได้ เมื่อลิงก์ทั้ง 2 บัญชีเข้าด้วยกันแล้ว คุณจะเห็นเมตริก Google Analytics ที่มาจากโฆษณาในภาพรวมของ Smart Campaign

ข้อดีของการลิงก์ Google Analytics กับ Smart Campaign

Smart Campaign ใช้เทคโนโลยีและ AI ของ Google Ads เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงให้แก่ธุรกิจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ใช้เวลาติดตั้งเพียงเล็กน้อย และคุณก็ไม่ต้องคอยจัดการอยู่เรื่อยๆ การตั้งค่า Conversion ด้วย Google Analytics และการลิงก์ Google Analytics กับ Smart Campaign ช่วยให้ Smart Campaign ที่ทำงานด้วยระบบ AI มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในการช่วยให้ธุรกิจได้รับผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง

วิธีเริ่มต้นใช้งาน

1. ลิงก์บัญชี

หากต้องการลิงก์บัญชี Google Analytics กับบัญชี Google Ads ทั้ง 2 บัญชีนี้จะต้องใช้ที่อยู่อีเมลเดียวกันในการเข้าสู่ระบบ

หากมีบัญชี Google Analytics ที่เข้าสู่ระบบโดยใช้ที่อยู่อีเมลเดียวกันกับ Google Ads อยู่แล้ว เราจะแสดงตัวเลือกให้ลิงก์บัญชีในภาพรวมของ Smart Campaign หากยังไม่มีบัญชี Google Analytics เราสร้างให้คุณได้เลยใน Google Ads

หมายเหตุ

  • หากสร้างบัญชี Analytics ใหม่จาก Google Ads และเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้กฎระเบียบให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค (GDPR) หรือกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (CCPA) คุณต้องยอมรับข้อกำหนดการประมวลผลข้อมูลสำหรับข้อมูลการวิเคราะห์ด้วย โปรดลงชื่อเข้าใช้บัญชี Analytics เพื่ออ่านและยอมรับข้อกำหนดเหล่านั้น
  • Smart Campaign ที่ลิงก์กับ Google Analytics แล้วจะนำเข้าและเปิดใช้งาน Conversion สำหรับแคมเปญ Google Ads ทั้งหมด หากมี Smart Campaign หลายรายการ เมื่อลิงก์ Smart Campaign 1 รายการกับ Google Analytics แล้ว Smart Campaign อื่นๆ ทั้งหมดจะลิงก์ไปด้วย
  • หากแคมเปญ Google Ads ประเภทอื่นๆ (เช่น แคมเปญในเครือข่ายการค้นหา แคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์) ใช้ Smart Bidding สำหรับ Conversion อยู่แล้ว การนำเข้าและการเปิดใช้ Conversion สำหรับ Smart Campaign อาจส่งผลกระทบต่อการเสนอราคาของแคมเปญประเภทอื่นๆ เหล่านี้

    หากต้องการยกเว้นไม่ให้ Smart Bidding ของแคมเปญประเภทอื่นๆ ใช้ Conversion ให้ยกเลิกการเลือกแคมเปญเหล่านั้นในการตั้งค่ารวมใน Conversion

2. เพิ่มรหัสติดตาม Google Analytics ลงในเว็บไซต์

รหัสติดตาม

Google Analytics มีรหัสติดตามสำหรับเว็บไซต์แต่ละแห่งที่คุณต้องการติดตามการเข้าชม รหัสนี้อยู่ในรูปแบบสตริง เช่น UA-000000-01 คุณต้องเพิ่มรหัสติดตาม (หรือที่เรียกว่าข้อมูลโค้ด JavaScript ของ Google Analytics) ลงในเว็บไซต์แต่ละหน้า

ในขณะที่ตั้งค่า Analytics ใน Google Ads คุณจะดูรหัสติดตามของคุณได้ในส่วน "เชื่อมต่อเว็บไซต์"

เมื่อมีรหัสติดตามแล้ว ให้ไปที่ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ดูแลเว็บไซต์ แล้วค้นหาหน้าการตั้งค่าที่คุณจะป้อนรหัสติดตาม Google Analytics ได้

CMS บางระบบลดความซับซ้อนในการติดตั้งโค้ดติดตาม Analytics ด้วยการเสนอปลั๊กอินที่จะติดตั้งโค้ดในหน้าเว็บ โปรดดูวิธีการของแพลตฟอร์มของคุณในการเพิ่มรหัสติดตาม Analytics

ตัวอย่างวิธีการตั้งค่า Analytics สำหรับผู้ให้บริการเว็บไซต์ทั่วไป

แท็ก Analytics

หากได้ตั้งค่ารหัสติดตามไว้กับ CMS ที่ระบุไว้ด้านบน (เช่น Shopify, Squarespace) อย่างน้อย 1 แห่งแล้วก็ถือว่าเสร็จเรียบร้อย หากแก้ไขโค้ดเว็บไซต์ด้วยตนเอง คุณจะต้องเพิ่มแท็ก Google Analytics ลงในเว็บไซต์แต่ละหน้าด้วย

แท็ก Google Analytics เป็นข้อมูลโค้ด JavaScript ที่รวบรวมและส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ไปที่ Google Analytics ระบบสร้างแท็กนี้ให้กับเว็บไซต์ทุกแห่งหรือเว็บไซต์ทุกหน้า คุณจะวางข้อมูลโค้ดทั้งหมดที่ไม่มีการแก้ไขลงในทุกหน้าเว็บที่ต้องการติดตามได้ โดยใส่ข้อมูลโค้ดไว้หน้าแท็กปิด </head>

ดูวิธีตั้งค่าแท็ก Analytics ของเว็บไซต์ในศูนย์ช่วยเหลือของ Google Analytics

3. เพิ่มหรือแก้ไขเป้าหมายปลายทาง

คุณสามารถกําหนดเป้าหมายปลายทางเพื่อติดตามความถี่ที่ลูกค้าจะไปถึงหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์หลังจากคลิกที่โฆษณาของคุณ คุณควรเพิ่มเป้าหมายปลายทางลงในหน้าเว็บซึ่งแสดงการกระทําที่สําคัญ เช่น หน้ารายชื่อติดต่อ การซื้อ การลงทะเบียน หรือหน้าลงชื่อสมัครใช้ เป้าหมายปลายทางที่มีประสิทธิภาพจะข่วยวัดว่าโฆษณาดึงดูดลูกค้ามายังธุรกิจของคุณได้ดีเพียงใด

เมื่อเพิ่มเป้าหมายปลายทาง ระบบจะเพิ่มเป้าหมายนั้นลงในการตั้งค่า Google Analytics และรายงานในหน้าแดชบอร์ด Smart Campaign

ตัวอย่าง

คุณต้องการใช้โฆษณาเพื่อเพิ่มจํานวนการลงชื่อสมัครใช้ไปยังเว็บไซต์ "www.yourpage.com"

เมื่อใดก็ตามที่มีผู้ลงชื่อสมัครใช้เว็บไซต์ ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าเว็บที่มี URL “www.yourpage.com/finish-sign-up” การตั้งค่าเป้าหมายปลายทางที่มี URL ของหน้าเว็บนี้จะแสดงจํานวนลูกค้าที่ลงชื่อสมัครใช้เว็บไซต์ของคุณ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
10257079592927528778
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false