เปิดใช้ผลิตภัณฑ์ในร้านในแคมเปญ

ไอคอนที่กำหนดเองสำหรับส่วนหัวของบทความ Merchant Center แบบคลาสสิก

Step 8 of showing your local products on Google is setting up Google Ads for local inventory ads ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนที่ 9ข ของคู่มือการเริ่มต้นใช้งานสินค้าคงคลังในร้าน

แคมเปญ Smart Shopping ที่มีโฆษณายานพาหนะทุกแคมเปญที่มีอยู่จะอัปเกรดเป็น Performance Max ภายในเดือนกันยายน 2023 เพื่อให้คุณมีพื้นที่โฆษณาและรูปแบบเพิ่มขึ้นในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ บัญชีที่มีการอัปเกรดแคมเปญทั้งหมดจะสร้างแคมเปญ Smart Shopping ใหม่ไม่ได้อีกต่อไป ดูวิธีสร้างแคมเปญ Performance Max

บทความนี้อธิบายถึงวิธีตั้งค่าและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Performance Max หรือแคมเปญ Shopping เพื่อแสดงโฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน และตรวจสอบประสิทธิภาพของสินค้าคงคลังในร้าน

คุณปรับแต่งการตั้งค่าโฆษณาคลังผลิตภัณฑ์ในพื้นที่และปรับปรุงประสิทธิภาพได้หลายวิธี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์การเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน

ก่อนเริ่มต้น

วิธีการ

เปิดใช้โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านในแคมเปญ

เข้าสู่ระบบบัญชี Google Ads แล้วเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้

ตัวเลือกที่ 1: แคมเปญ Performance Max

  1. คลิกชื่อแคมเปญ Performance Max ที่มีอยู่ หรือสร้างแคมเปญ Performance Max ใหม่หากยังไม่มี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแคมเปญ Performance Max
  2. หากมีการตั้งค่าฟีดสินค้าคงคลังในร้านภายในบัญชี โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านจะแสดงโดยค่าเริ่มต้น หากมีฟีด Merchant Center ที่ลิงก์กับบัญชี Google Ads ให้เลือกบัญชี Merchant Center และประเทศสำหรับแคมเปญ Performance Max แล้วคลิกบันทึก

ตัวเลือกที่ 2: แคมเปญ Shopping

  1. คลิกชื่อแคมเปญ Shopping ที่มีอยู่หรือสร้างแคมเปญ Shopping ใหม่หากยังไม่มี
  2. ไปที่การตั้งค่า > การตั้งค่าแคมเปญ Shopping > การตั้งค่าเพิ่มเติม > ผลิตภัณฑ์ในร้าน จากนั้นเลือกช่อง "เปิดใช้โฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายในร้านค้าในพื้นที่" และคลิกบันทึก

แสดงสินค้าคงคลังในร้าน

ผลิตภัณฑ์ของคุณอาจปรากฎในโฆษณาได้หลายรูปแบบตามประเภทของสินค้าคงคลังที่คุณส่งไปยัง Google โดยคุณสามารถระบุรูปแบบโฆษณาที่ต้องการใช้สำหรับสินค้าคงคลังที่มีสิทธิ์ในแคมเปญ Shopping

เลือกรูปแบบโฆษณา

  สินค้าคงคลังออนไลน์เท่านั้น คลังผลิตภัณฑ์หลายช่องทาง สินค้าคงคลังในร้านเท่านั้น
เมื่อผู้เลือกซื้ออยู่ใกล้สถานที่ตั้งร้าน โฆษณา Shopping โฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน โฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน
เมื่อผู้เลือกซื้อไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่ตั้งร้าน โฆษณา Shopping โฆษณา Shopping  

ตรวจสอบประสิทธิภาพช่องทางในพื้นที่

หากโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่ขายในสถานที่ตั้งกิจการที่มีหน้าร้านจริงและฟีดผลิตภัณฑ์ในร้าน คุณจะดูรายงานประสิทธิภาพระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาสำหรับช่องทางการช็อปปิ้งในพื้นที่ได้เมื่อคุณแบ่งกลุ่มรายงานตามประเภทการคลิก ช่องทาง หรือความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง

แบ่งกลุ่มตามประเภทการคลิก

เมื่อคุณแบ่งกลุ่มรายงานตามประเภทการคลิก เราจะแสดงข้อมูลสำหรับการคลิกที่แตกต่างกัน 5 ประเภท

ประเภทการคลิก

ชื่อของประเภทการคลิก ความหมาย
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ออนไลน์ คลิกโฆษณาที่แสดงผลิตภัณฑ์ออนไลน์
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ท้องถิ่น การคลิกโฆษณาที่แสดงผลิตภัณฑ์ในร้าน
Shopping - การคลิกร้านค้าใน LIA - ในพื้นที่ การคลิกโฆษณาที่แสดงร้านค้าในพื้นที่
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ในร้านแบบหลายช่องทาง การคลิกส่วนในร้านของโฆษณาที่มี 2 ลิงก์ โดยลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ในร้านและอีกลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ออนไลน์
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ออนไลน์แบบหลายช่องทาง* การคลิกส่วนออนไลน์ของโฆษณาที่มี 2 ลิงก์ โดยลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ในร้านและอีกลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ออนไลน์

*ไม่แสดงประเภทการคลิกนี้แล้ว แต่คุณไปดูได้ในรายงานที่ผ่านมา

วิธีดูข้อมูลประสิทธิภาพ

  1. เลือกแคมเปญที่คุณสนใจใน Google Ads
  2. คลิกไอคอนกลุ่ม กลุ่ม จากมุมมองแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา
  3. เลือกประเภทการคลิกจากเมนูแบบเลื่อนลง

นอกจากนี้คุณยังดาวน์โหลดรายงานที่แสดงตัวเลือกกลุ่มรายการเดียวหรือหลายรายการได้หลังจากที่เพิ่มกลุ่มลงในแคมเปญแล้ว โดยทำดังนี้

  1. คลิกดาวน์โหลดที่ด้านขวาบนของหน้าจอ
  2. เลือกตัวเลือกเพิ่มเติม
  3. พิมพ์ชื่อกลุ่มที่คุณสนใจในกลุ่ม
  4. เลือกช่องเพื่อรวมแถวชื่อ ช่วง และสรุป
  5. คลิกดาวน์โหลด
นอกจากนี้ คุณยังใช้แท็บ "รายงาน" เพื่อสร้างรายงานที่กำหนดเองได้ด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างรายงานที่กำหนดเอง

ตั้งค่าตัวกรองสำหรับช่องทางและความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง

เมื่อเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ในร้านในแคมเปญ Shopping แล้ว คุณสามารถตั้งค่าตัวกรองหรือแยกย่อยสินค้าคงคลังตามช่องทางและความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง

  • "ช่องทาง" จะแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามการมีจำหน่ายทางออนไลน์หรือในท้องถิ่น
  • "ความเฉพาะตัวของช่องทาง" จะแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามการมีจำหน่ายในช่องทางใดช่องทางหนึ่งหรือทั้ง 2 ช่องทาง
  • หากคุณตั้งค่าตัวกรองสินค้าคงคลังสำหรับ "ช่องทาง" เป็น "ร้านค้าในพื้นที่" และ "ความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง" เป็น "ช่องทางเดียว" แคมเปญก็จะรวมผลิตภัณฑ์ที่ขายเฉพาะในร้านค้าในพื้นที่เท่านั้น โดยไม่รวมช่องทางออนไลน์
เคล็ดลับ: คุณสามารถแยกย่อยสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์ และเลือกราคาเสนอที่ต่างกันสำหรับช่องทางและความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง เช่น คุณสามารถแยกย่อยกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจำหน่ายในหลายช่องทางซึ่งมีราคาเสนอกำหนดไว้แล้ว จากนั้นจึงกำหนดราคาเสนอแยกต่างหากสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ปรากฏในช่องทางเดียวเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดระเบียบแคมเปญด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์

วิธีแบ่งกลุ่มรายงานตามช่องทางและความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง

  1. เลือกแคมเปญที่คุณสนใจใน Google Ads
  2. จากมุมมองแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา ให้คลิกรายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เดิมชื่อมิติข้อมูล)
  3. จากเมนู Shopping ให้เลือก Shopping - ช่องทาง หรือ Shopping - ความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง

หรือจะใช้แท็บ "รายงาน" เพื่อสร้างรายงานที่กำหนดเองก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างรายงานที่กำหนดเอง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16247301441558405390
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false