ขั้นตอนนี้คือขั้นตอนที่ 9ข ของคู่มือการเริ่มต้นใช้งานสินค้าคงคลังในร้าน
บทความนี้อธิบายถึงวิธีตั้งค่าและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Performance Max หรือแคมเปญ Shopping เพื่อแสดงโฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน และตรวจสอบประสิทธิภาพของสินค้าคงคลังในร้าน
ก่อนเริ่มต้น
- คุณต้องมีแคมเปญ Performance Max หรือแคมเปญ Shopping ที่ใช้งานอยู่ในบัญชี Google Ads เพื่อแสดงโฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน หากยังไม่มี ให้สร้างแคมเปญในบัญชี Google Ads
- หากต้องการตั้งค่าแคมเปญเพื่อโปรโมตสินค้าคงคลังในร้าน คุณจะต้องติดตั้งใช้งานโฆษณาสินค้าคงคลังในร้านให้เสร็จสมบูรณ์ หากยังไม่ได้ดำเนินการ ให้ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาสินค้าคงคลังในร้านเพื่อเริ่มต้นใช้งาน
- ลิงก์บัญชี Google Ads กับบัญชี Merchant Center เพื่อแสดงโฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลิงก์บัญชี Merchant Center กับบัญชี Google Ads
วิธีการ
เปิดใช้โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านในแคมเปญ
เข้าสู่ระบบบัญชี Google Ads แล้วเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งต่อไปนี้
ตัวเลือกที่ 1: แคมเปญ Performance Max
- คลิกชื่อแคมเปญ Performance Max ที่มีอยู่ หรือสร้างแคมเปญ Performance Max ใหม่หากยังไม่มี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแคมเปญ Performance Max
- หากมีการตั้งค่าฟีดสินค้าคงคลังในร้านภายในบัญชี โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านจะแสดงโดยค่าเริ่มต้น หากมีฟีด Merchant Center ที่ลิงก์กับบัญชี Google Ads ให้เลือกบัญชี Merchant Center และประเทศสำหรับแคมเปญ Performance Max แล้วคลิกบันทึก
ตัวเลือกที่ 2: แคมเปญ Shopping
- คลิกชื่อแคมเปญ Shopping ที่มีอยู่หรือสร้างแคมเปญ Shopping ใหม่หากยังไม่มี
- ไปที่การตั้งค่า > การตั้งค่าแคมเปญ Shopping > การตั้งค่าเพิ่มเติม > ผลิตภัณฑ์ในร้าน จากนั้นเลือกช่อง "เปิดใช้โฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายในร้านค้าในพื้นที่" และคลิกบันทึก
แสดงสินค้าคงคลังในร้าน
ผลิตภัณฑ์ของคุณอาจปรากฎในโฆษณาได้หลายรูปแบบตามประเภทของสินค้าคงคลังที่คุณส่งไปยัง Google โดยคุณสามารถระบุรูปแบบโฆษณาที่ต้องการใช้สำหรับสินค้าคงคลังที่มีสิทธิ์ในแคมเปญ Shopping
เลือกรูปแบบโฆษณา
สินค้าคงคลังออนไลน์เท่านั้น | คลังผลิตภัณฑ์หลายช่องทาง | สินค้าคงคลังในร้านเท่านั้น | |
เมื่อผู้เลือกซื้ออยู่ใกล้สถานที่ตั้งร้าน | โฆษณา Shopping | โฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน | โฆษณาสินค้าคงคลังในร้าน |
เมื่อผู้เลือกซื้อไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่ตั้งร้าน | โฆษณา Shopping | โฆษณา Shopping |
ตรวจสอบประสิทธิภาพช่องทางในพื้นที่
หากโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่ขายในสถานที่ตั้งกิจการที่มีหน้าร้านจริงและฟีดผลิตภัณฑ์ในร้าน คุณจะดูรายงานประสิทธิภาพระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาสำหรับช่องทางการช็อปปิ้งในพื้นที่ได้เมื่อคุณแบ่งกลุ่มรายงานตามประเภทการคลิก ช่องทาง หรือความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง
แบ่งกลุ่มตามประเภทการคลิก
เมื่อคุณแบ่งกลุ่มรายงานตามประเภทการคลิก เราจะแสดงข้อมูลสำหรับการคลิกที่แตกต่างกัน 5 ประเภท
ประเภทการคลิก
ชื่อของประเภทการคลิก | ความหมาย |
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ออนไลน์ | คลิกโฆษณาที่แสดงผลิตภัณฑ์ออนไลน์ |
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ท้องถิ่น | การคลิกโฆษณาที่แสดงผลิตภัณฑ์ในร้าน |
Shopping - การคลิกร้านค้าใน LIA - ในพื้นที่ | การคลิกโฆษณาที่แสดงร้านค้าในพื้นที่ |
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ในร้านแบบหลายช่องทาง | การคลิกส่วนในร้านของโฆษณาที่มี 2 ลิงก์ โดยลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ในร้านและอีกลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ออนไลน์ |
Shopping - ผลิตภัณฑ์ - ออนไลน์แบบหลายช่องทาง* | การคลิกส่วนออนไลน์ของโฆษณาที่มี 2 ลิงก์ โดยลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ในร้านและอีกลิงก์หนึ่งไปยังผลิตภัณฑ์ออนไลน์ |
*ไม่แสดงประเภทการคลิกนี้แล้ว แต่คุณไปดูได้ในรายงานที่ผ่านมา
วิธีดูข้อมูลประสิทธิภาพ
- เลือกแคมเปญที่คุณสนใจใน Google Ads
- คลิกไอคอนกลุ่ม จากมุมมองแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา
- เลือกประเภทการคลิกจากเมนูแบบเลื่อนลง
นอกจากนี้คุณยังดาวน์โหลดรายงานที่แสดงตัวเลือกกลุ่มรายการเดียวหรือหลายรายการได้หลังจากที่เพิ่มกลุ่มลงในแคมเปญแล้ว โดยทำดังนี้
- คลิกดาวน์โหลดที่ด้านขวาบนของหน้าจอ
- เลือกตัวเลือกเพิ่มเติม
- พิมพ์ชื่อกลุ่มที่คุณสนใจในกลุ่ม
- เลือกช่องเพื่อรวมแถวชื่อ ช่วง และสรุป
- คลิกดาวน์โหลด
ตั้งค่าตัวกรองสำหรับช่องทางและความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง
เมื่อเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ในร้านในแคมเปญ Shopping แล้ว คุณสามารถตั้งค่าตัวกรองหรือแยกย่อยสินค้าคงคลังตามช่องทางและความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง
- "ช่องทาง" จะแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามการมีจำหน่ายทางออนไลน์หรือในท้องถิ่น
- "ความเฉพาะตัวของช่องทาง" จะแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามการมีจำหน่ายในช่องทางใดช่องทางหนึ่งหรือทั้ง 2 ช่องทาง
- หากคุณตั้งค่าตัวกรองสินค้าคงคลังสำหรับ "ช่องทาง" เป็น "ร้านค้าในพื้นที่" และ "ความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง" เป็น "ช่องทางเดียว" แคมเปญก็จะรวมผลิตภัณฑ์ที่ขายเฉพาะในร้านค้าในพื้นที่เท่านั้น โดยไม่รวมช่องทางออนไลน์
วิธีแบ่งกลุ่มรายงานตามช่องทางและความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง
- เลือกแคมเปญที่คุณสนใจใน Google Ads
- จากมุมมองแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา ให้คลิกรายงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เดิมชื่อมิติข้อมูล)
- จากเมนู Shopping ให้เลือก Shopping - ช่องทาง หรือ Shopping - ความมีเอกสิทธิ์ของช่องทาง
หรือจะใช้แท็บ "รายงาน" เพื่อสร้างรายงานที่กำหนดเองก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างรายงานที่กำหนดเอง