เครื่องมือวัด Conversion ช่วยให้เห็นว่าการคลิกโฆษณานำไปสู่กิจกรรมของลูกค้าที่มีคุณค่าบนเว็บไซต์ เช่น การซื้อ การลงชื่อสมัครใช้ และการส่งแบบฟอร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน
ก่อนเริ่มต้น
สิ่งที่คุณต้องมีก่อนที่จะสามารถตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion บนเว็บไซต์ได้มีดังนี้
- เว็บไซต์: ใช้วางโค้ดเครื่องมือวัด Conversion ซึ่งเรียกว่า "แท็ก"
- ความสามารถในการแก้ไขเว็บไซต์: คุณหรือผู้ดูแลเว็บจะต้องเพิ่มแท็กลงในเว็บไซต์ได้
บทความนี้จะพาคุณไปดูวิธีการตั้งค่า หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion และเหตุผลที่ควรใช้ โปรดอ่านเกี่ยวกับเครื่องมือวัด Conversion
หรือหากไม่แน่ใจว่าเครื่องมือวัด Conversion ในเว็บไซต์จะเหมาะกับคุณหรือเปล่า คุณก็ยังดูวิธีการตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ชนิดต่างๆ ได้ที่นี่
วิธีการ
ขั้นตอนที่ 1: สร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
- คลิกไอคอนเครื่องมือ
ที่มุมขวาบน แล้วคลิก Conversion ในส่วน "การวัด"
โปรดทราบว่าคุณจะได้รับแจ้งให้ตรวจสอบและอัปเดตหมวดหมู่ Conversion ในระหว่างการอัปเดตการกระทําที่ถือเป็น Conversion โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมวดหมู่ Conversion ที่อัปเดต
- คลิกปุ่มบวก
- คลิกเว็บไซต์
- ในส่วนของหมวดหมู่ ให้เลือกประเภทของการกระทําที่คุณต้องการติดตาม หมวดหมู่เหล่านี้มีไว้สำหรับแยกประเภทการกระทำต่างๆ เป็นการขาย โอกาสในการขาย และกิจกรรมอื่นๆ
- ถัดจาก "ชื่อ Conversion" ให้ป้อนชื่อของ Conversion ที่คุณต้องการติดตาม เช่น "สมัครรับจดหมายข่าว" หรือ "ซื้อช่อดอกไม้งานแต่ง" วิธีนี้จะช่วยให้คุณจำการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ได้ในรายงาน Conversion ในภายหลัง
- ถัดจาก "หมวดหมู่" ให้เลือกคำอธิบายการกระทำที่ถือเป็น Conversion หมวดหมู่ช่วยให้แบ่งกลุ่ม Conversion ในรายงานได้ คุณจึงดู Conversion ที่ใกล้เคียงกันไปพร้อมกันได้
- ถัดจาก "มูลค่า" ให้เลือกวิธีติดตามมูลค่าของ Conversion แต่ละรายการ
- ใช้มูลค่าเดียวกันกับทุก Conversion ป้อนมูลค่าที่ Conversion แต่ละรายการมีต่อธุรกิจของคุณ
- ใช้มูลค่าต่างกันใน Conversion แต่ละรายการ ใช้ตัวเลือกนี้ในกรณี เช่น คุณติดตามการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีหลายราคา เมื่อเพิ่มแท็กเครื่องมือวัด Conversion ในภายหลัง คุณจะต้องปรับแต่งแท็กเพื่อติดตามมูลค่าเฉพาะธุรกรรม
- ไม่ใช้มูลค่า
- ถัดจาก "การนับ" ให้เลือกวิธีนับ Conversion เหล่านี้
- ครั้งเดียว การตั้งค่านี้เหมาะกับโอกาสในการขาย เช่น แบบฟอร์มลงชื่อสมัครใช้ในเว็บไซต์ ซึ่งในการคลิกโฆษณามีเพียง Conversion เดียวเท่านั้นที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณ
- ทุกครั้ง การตั้งค่านี้เหมาะกับการขาย เมื่อทุก Conversion มีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของคุณ
- คลิกกรอบเวลา Conversion การคลิกผ่าน เลือกจากเมนูแบบเลื่อนลงว่าคุณต้องการติดตาม Conversion เป็นระยะเวลาเท่าใดหลังจากมีการโต้ตอบกับโฆษณา สําหรับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหา แคมเปญ Shopping และแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 90 วัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรอบเวลา Conversion
- คลิกกรอบเวลา Conversion การดูผ่าน เลือกระยะเวลาที่ต้องการติดตาม Conversion การดูผ่านจากเมนูแบบเลื่อนลง สําหรับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหา แคมเปญ Shopping และแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ กรอบเวลานี้มีระยะเวลาได้ตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 30 วัน
- คลิกรวมใน "Conversion" การตั้งค่านี้ซึ่งเลือกไว้โดยค่าเริ่มต้นจะให้คุณตัดสินใจว่าจะรวมข้อมูลสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้ไว้ในคอลัมน์การรายงาน "Conversion" หรือไม่ หากคุณยกเลิกการเลือกการตั้งค่านี้ ข้อมูลจะยังรวมอยู่ในคอลัมน์ "Conversion ทั้งหมด" คุณอาจต้องยกเลิกการเลือกการตั้งค่านี้หากใช้ Smart Bidding และไม่ต้องการรวมการกระทำที่ถือเป็น Conversion โดยเฉพาะนี้ไว้ในกลยุทธ์การเสนอราคา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่า "รวมใน Conversion"
- คลิกสร้างและต่อไป
ตอนนี้ คุณจะเห็นหน้าจอที่แสดงว่าคุณได้สร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion แล้ว ทำตามวิธีการในส่วนถัดไปเพื่อตั้งค่าแท็ก
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าแท็กเครื่องมือวัด Conversion
เมื่อตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ในเว็บไซต์เป็นครั้งแรก คุณจะต้องเพิ่มข้อมูลโค้ด 2 รายการลงในเว็บไซต์ ได้แก่ แท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์และข้อมูลโค้ดเหตุการณ์
แท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์จะเพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ลงในรายการรีมาร์เก็ตติ้ง "ผู้เข้าชมทั้งหมด" (หากคุณตั้งค่ารีมาร์เก็ตติ้งไว้) และตั้งค่าคุกกี้ใหม่ในโดเมนซึ่งจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการคลิกโฆษณาที่นำผู้ชมมายังเว็บไซต์ โปรดทราบว่าแท็กเครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads จะใช้ข้อมูลการคลิกนี้เพื่อระบุแหล่งที่มาของ Conversion สำหรับแคมเปญ Google Ads ได้ โปรดแจ้งให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งต้องได้รับความยินยอมในกรณีที่กฎหมายกำหนด
คุณต้องติดตั้งแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ในเว็บไซต์ทุกๆ หน้า แต่ต้องมีแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์เพียงแท็กเดียวในบัญชี Google Ads แต่ละบัญชีข้อมูลโค้ดเหตุการณ์จะติดตามการกระทำที่ควรนับเป็น Conversion ติดตั้งข้อมูลโค้ดนี้ลงในหน้าเว็บไซต์ที่คุณต้องการติดตาม Conversion แต่ละการกระทำที่ถือเป็น Conversion จะมีข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกันของตัวเอง ขณะที่แท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์จะเหมือนกันในทุกการกระทำที่ถือเป็น Conversion ภายในบัญชี Google Ads
เลือกวิธีติดตั้งแท็กจาก 2 วิธี
ตัวเลือกที่ 1: ติดตั้งแท็กด้วยตนเอง
- เลือกตัวเลือกที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุดในส่วน "แท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์" และทำตามวิธีการสำหรับการติดตั้งแท็ก
- ฉันไม่ได้ติดตั้งแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ในเว็บไซต์ของฉัน: เลือกตัวเลือกนี้ หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณตั้งค่าแท็กสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในบัญชี และคุณไม่ได้ติดตั้งแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์จากผลิตภัณฑ์อื่นของ Google ตัวเลือกนี้จะแสดงแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์อย่างครบถ้วน หากต้องการติดตั้งแท็ก ให้คัดลอกโค้ดแท็กและวางไว้ระหว่างแท็ก <head></head> ของเว็บไซต์ทุกๆ หน้า
นี่คือตัวอย่างของแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ โดยที่ “AW-CONVERSION_ID” หมายถึงรหัส Conversion เฉพาะสำหรับบัญชี Google Ads เท่านั้น
<script async
src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=AW-CONVERSION_ID"></script>
<script>
window.dataLayer = window.dataLayer || [];
function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
gtag('js', new Date());
gtag('config', 'AW-CONVERSION_ID');
</script> -
ฉันได้ติดตั้งแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ในเว็บไซต์ของฉันจากผลิตภัณฑ์อื่นของ Google (เช่น Google Analytics) หรือจากบัญชี Google Ads บัญชีอื่นไว้แล้ว: ในกรณีนี้ คุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ลงในเว็บไซต์อีกครั้ง แต่คุณจะต้องเพิ่มคำสั่ง config (ส่วนของโค้ดที่มีรหัส Conversion) ไปยังทุกอินสแตนซ์ของแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ เพื่อให้เครื่องมือวัด Conversion ใช้งานได้กับบัญชีนี้ ตัวเลือกนี้จะแสดงคำสั่งดังกล่าว โดย “AW-CONVERSION_ID” หมายถึงรหัส Conversion ของบัญชี
gtag('config', 'AW-CONVERSION_ID');
เพิ่มคำสั่ง config ไปยังทุกอินสแตนซ์ของแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ในเว็บไซต์ของคุณทางด้านขวาเหนือแท็กปิดท้าย </script>
นี่คือตัวอย่างแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ที่กำหนดค่าสำหรับทั้ง Google Analytics และ Google Ads โดยคำสั่ง config สำหรับบัญชี Google Ads จะมีสีไฮไลต์ไว้
<script async
src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=GA_TRACKING_ID">
</script>
<script>
window.dataLayer = window.dataLayer || [ ] ;
function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
gtag( 'js', new Date () ) ;gtag( 'config', 'GA_TRACKING_ID');
gtag( 'config', 'AW-CONVERSION_ID');</script>
-
ฉันได้ติดตั้งแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ในเว็บไซต์ของฉันเมื่อตอนที่สร้างการกระทำที่ถือเป็น Conversion รายการอื่นในบัญชี Google Ads นี้: หากตัวเลือกนี้เหมาะกับคุณ ก็ไม่จำเป็นต้องเพิ่มแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ลงในเว็บไซต์อีกครั้ง เพียงแค่ตรวจสอบว่าแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ปรากฏในเว็บไซต์ทุกๆ หน้า และยืนยันว่าคำสั่ง
config
ในแต่ละอินสแตนซ์ของแท็กมีรหัส Conversion ของบัญชี คุณจะเห็นรหัส Conversion เมื่อเลือกตัวเลือกนี้
- ฉันไม่ได้ติดตั้งแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ในเว็บไซต์ของฉัน: เลือกตัวเลือกนี้ หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณตั้งค่าแท็กสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในบัญชี และคุณไม่ได้ติดตั้งแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์จากผลิตภัณฑ์อื่นของ Google ตัวเลือกนี้จะแสดงแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์อย่างครบถ้วน หากต้องการติดตั้งแท็ก ให้คัดลอกโค้ดแท็กและวางไว้ระหว่างแท็ก <head></head> ของเว็บไซต์ทุกๆ หน้า
- (ไม่บังคับ) แก้ไขแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ตามที่คุณต้องการ
-
หากคุณไม่ต้องการให้แท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์เพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ลงในรายการรีมาร์เก็ตติ้งในการโหลดหน้าเว็บเริ่มต้น ให้เพิ่มส่วนที่ไฮไลต์ด้านล่างลงในคำสั่ง 'config' ของแท็กติดทั่วเว็บไซต์ ดังนี้
gtag('config',' AW-CONVERSION_ID',{'send_page_view': false});
- หากไม่ต้องการให้แท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์กำหนดคุกกี้ของบุคคลที่หนึ่งในโดเมนของเว็บไซต์ ให้เพิ่มส่วนที่ไฮไลต์ด้านล่างลงในคำสั่ง
'config'
ของแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ ดังนี้
gtag('config',' AW-CONVERSION_ID',{'conversion_linker': false});
หมายเหตุ
แต่เราไม่แนะนำเพราะจะทำให้การวัด Conversion แม่นยำน้อยลง -
หากคุณต้องการปิดใช้การรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้ง ให้เพิ่มคำสั่ง gtag('set') ที่ไฮไลต์ลงในแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์เหนือคำสั่ง gtag('js') วิธีนี้จะปิดใช้การรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้งสำหรับบัญชี Google Ads ที่กำหนดค่าทั้งหมด
<script async
src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=AW-CONVERSION_ID"></script><script>
window.dataLayer = window.dataLayer || [];
function gtag(){dataLayer.push(arguments);}
gtag('set', 'allow_ad_personalization_signals', false);
gtag('js', new Date());
gtag('config', 'AW-CONVERSION_ID');
</script>
-
-
คัดลอกแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ จากนั้นทำตามวิธีการเพิ่มลงในเว็บไซต์
- ถัดจาก "ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์" เลือกว่าจะติดตาม Conversion ในการโหลดหน้าเว็บหรือคลิก
- การโหลดหน้าเว็บ: นับ Conversion เมื่อลูกค้าไปที่หน้า Conversion เช่น หน้ายืนยันการซื้อหรือการลงชื่อสมัครใช้ นี่คือตัวเลือกเริ่มต้นและใช้บ่อยที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของ Google
- คลิก: นับ Conversion เมื่อลูกค้าคลิกปุ่มหรือลิงก์ (เช่น ปุ่ม "ซื้อเลย")
- คัดลอกข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ จากนั้นทำตามวิธีการเพื่อเพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในเว็บไซต์ หรือคลิกดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดเพื่อเพิ่มในภายหลัง
- หากคุณกำลังติดตาม Conversion ตามการโหลดหน้าเว็บ ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บที่คุณกำลังติดตาม
- หากคุณกำลังติดตาม Conversion ตามการคลิก ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บที่มีปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการติดตามการคลิก
- คลิกถัดไป
- คลิกเสร็จสิ้น
-
หากคุณกำลังติดตามการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion ให้ทำตามวิธีการในหัวข้อติดตามการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion เพื่อเพิ่มส่วนเพิ่มเติมของโค้ดลงในปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการติดตาม จำเป็นต้องมีขั้นตอนนี้เพื่อให้เครื่องมือวัด Conversion ทำงานได้
ตัวเลือกที่ 2: ใช้ Google Tag Manager
Google Tag Manager คือระบบจัดการแท็กที่ช่วยให้คุณอัปเดตแท็กและข้อมูลโค้ดบนเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว คุณสามารถใช้ Google Tag Manager เพื่อติดตั้งแท็กเครื่องมือวัด Conversion ได้
- คัดลอกรหัส Conversion และป้ายกำกับ Conversion (ที่แสดงในแท็บนี้) สำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion
- ทำตามวิธีการเพื่อตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads ใน Google Tag Manager สำคัญ: อย่าลืมเพิ่มแท็ก Conversion Linker และกำหนดค่าให้เริ่มทำงานในหน้าเว็บทุกหน้า เพื่อให้มีการติดตามในเบราว์เซอร์ทั้งหมดอย่างถูกต้อง
- คลิกถัดไป
- คลิกเสร็จสิ้น
- หากคุณกำลังติดตามการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion คุณต้องทำตามขั้นตอนการตั้งค่าเพิ่มเติมใน Google Tag Manager ให้เสร็จสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีขั้นตอนนี้เพื่อให้เครื่องมือวัด Conversion ทำงานได้ เลือกตัวเลือกแบบใดแบบหนึ่งด้านล่าง
- พื้นฐาน: ตั้งค่าคลิกทริกเกอร์เพื่อให้แท็กเครื่องมือวัด Conversion เริ่มทำงานเมื่อเกิดการคลิกที่เกี่ยวข้องขึ้น
- ขั้นสูง: เพิ่มการเรียกใช้ฟังก์ชันลงในโค้ดสำหรับลิงก์ ปุ่ม หรือรูปภาพปุ่ม จากนั้น ตั้งค่าทริกเกอร์เหตุการณ์ที่กำหนดเอง เพื่อให้แท็กเครื่องมือวัด Conversion เริ่มทำงานเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น (ในกรณีนี้คือการคลิก)
เคล็ดลับ: ติดตั้งแท็กเครื่องมือวัด Conversion ด้วย Google Tag Manager
- รหัส Conversion
- ป้ายกำกับ Conversion
AW-CONVERSION_ID
หมายถึงรหัส Conversion ของบัญชีของคุณโดยเฉพาะ ส่วน AW-CONVERSION_LABEL
หมายถึง ป้ายกำกับ Conversion ซึ่งจะแตกต่างไปตามการกระทำที่ถือเป็น Conversion แต่ละรายการ
<!-- Event snippet for Example conversion page -->
<script>
gtag('event', 'conversion', {'send_to': 'AW-CONVERSION_ID/AW-CONVERSION_LABEL',
'value': 1.0,
'currency': 'USD'
});
</script>
แจ้งผู้เข้าชมเว็บไซต์เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล
โปรดให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลที่คุณรวบรวมไว้ในเว็บไซต์อย่างชัดเจนและครอบคลุม พร้อมทั้งต้องได้รับความยินยอมในการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด
การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการติดตามเว็บไซต์
Google มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด Google Ads รวบรวมข้อมูลในหน้าเว็บที่คุณใช้งานแท็กที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
โปรดแสดงให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและครอบคลุมเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณรวบรวมในเว็บไซต์ พร้อมทั้งต้องได้รับความยินยอมในการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด