เกี่ยวกับการจอง: ตำแหน่งของสื่อที่จองใน YouTube

ในฐานะผู้ลงโฆษณาหรือเอเจนซีโฆษณา คุณสามารถซื้อตําแหน่งโฆษณาที่ต้องการได้โดยใช้การจองเมื่อต้องการจ่ายตามจำนวนการแสดงผล (หรือที่เรียกว่า "ต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง" หรือ "CPM") แคมเปญแบบจองล่วงหน้ายังช่วยให้คุณซื้อการแสดงผลในราคาคงที่ได้อีกด้วย

การโฆษณาด้วยวิธีการจองเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการโปรโมตการรับรู้ถึงแบรนด์ นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ หรือสร้างแบรนด์ใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการ

 

เกี่ยวกับแคมเปญแบบจองล่วงหน้า

ตอนนี้คุณสามารถซื้อโฆษณาการจองใน YouTube ได้โดยตรงในการจองของ Google Ads หรือผ่านจองทันทีของ Display & Video 360 พูดคุยกับตัวแทนของ Google เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับสิทธิ์เข้าถึง

ตัวแทนของ Google ช่วยให้คุณเข้าถึงแคมเปญโฆษณา Masthead ที่ใช้ CPM ใน Google Ads ได้ โปรดติดต่อตัวแทนของ Google หากต้องการสร้างแคมเปญโฆษณา Masthead ที่ใช้ CPM ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างแคมเปญ YouTube Masthead ที่ใช้ CPM

ผลิตภัณฑ์การจองอื่นๆ ควรซื้อผ่านตัวแทนของ Google เช่นเดิม

 

ประโยชน์ของการโฆษณาด้วยวิธีการจอง

  • ควบคุมได้มากขึ้น: คุณซื้อการแสดงผลในอัตราคงที่ได้
  • มีผู้พบเห็นมาก: คุณจะได้แสดงโฆษณาที่ตำแหน่งบนสุดในฟีดบนหน้าแรกของ YouTube ผ่าน YouTube Masthead แน่นอน
  • พื้นที่โฆษณาพรีเมียม: คุณเข้าถึง YouTube Select และกำหนดเป้าหมายเนื้อหาพรีเมียมบน YouTube ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ YouTube Select
  • การรับรู้ถึงแบรนด์: คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างได้
 

การซื้อการลงโฆษณาแบบจองล่วงหน้า

ผู้ลงโฆษณาและเอเจนซีสามารถซื้อการลงโฆษณาแบบจองล่วงหน้าได้ในแบบต้นทุนคงที่ต่อการแสดงผลพันครั้ง คุณสามารถทํางานร่วมกับทีมโฆษณาของ Google หรือสร้างแคมเปญใน Google Ads หรือจองทันทีของ Display & Video 360 เพื่อให้ทราบอัตราโดยประมาณและเป้าหมายการแสดงผลของแคมเปญ

รูปแบบโฆษณาที่คุณสามารถซื้อได้มีดังนี้

  • โฆษณาในสตรีมแบบข้ามไม่ได้: รูปแบบที่ข้ามไม่ได้นี้จะเล่นก่อน ระหว่าง หรือหลังวิดีโอ เหมาะสำหรับการสื่อสารข้อความง่ายๆ ที่โดนใจและต้องการให้มีผู้พบเห็นมากๆ โฆษณานี้จะผลักดันให้เกิดการแสดงผลโดยไม่เพิ่มจำนวนการดูวิดีโอ โฆษณาวิดีโอแบบข้ามไม่ได้มีระยะเวลาสูงสุด 15 หรือ 30 วินาที สำหรับจองทันทีของ Display & Video 360 โฆษณาวิดีโอแบบข้ามไม่ได้มีระยะเวลาสูงสุด 60 วินาที ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลจองทันทีของ Display & Video 360 สำหรับ YouTube
  • โฆษณาในสตรีมแบบข้ามได้: โฆษณานี้จะปรากฏเมื่อผู้ใช้เริ่มวิดีโอ (โฆษณาตอนต้น) หรือระหว่างเนื้อหาแบบยาว และข้ามได้หลังผ่านไป 5 วินาที แม้จะไม่มีการจํากัดความยาวของโฆษณาในสตรีมแบบข้ามได้ แต่โดยปกติแล้ววิดีโอที่ยาวไม่เกิน 3 นาทีมีประสิทธิภาพดีกว่า เพื่อช่วยเพิ่มจำนวนการดูโฆษณาวิดีโอบน YouTube
  • โฆษณา Shorts: โฆษณาใน Shorts คือโฆษณาวิดีโอหรือโฆษณาแบบรูปภาพที่ข้ามได้ความยาว 6-60 วินาที ซึ่งปรากฏระหว่าง Shorts ในฟีด YouTube Shorts โฆษณา Shorts ที่เป็นส่วนหนึ่งของการจองพร้อมใช้งานใน YouTube Select Shorts โปรดติดต่อตัวแทนของ Google Ads เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้การจองเพื่อแสดงโฆษณา YouTube Shorts
  • โฆษณาบัมเปอร์: โฆษณาวิดีโอแบบข้ามไม่ได้ที่เล่นเป็นเวลา 6 วินาที ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างแคมเปญเพื่อการเข้าถึงแบบวิดีโอที่มีโฆษณาบัมเปอร์
  • โฆษณา Masthead: โฆษณาวิดีโอนี้จะปรากฏที่ด้านบนในหน้าแรกของ YouTube ฟีดบนหน้าแรกของ YouTube เป็นปลายทางที่สำคัญมากสำหรับผู้ชม โฆษณา Masthead จึงช่วยให้คุณเป็นธุรกิจแรกและสำคัญที่สุดในประสบการณ์การใช้หน้าแรก การซื้อโฆษณา Masthead คือการเข้าถึงที่มีการกำหนดเป้าหมายในแคมเปญซึ่งคุณควบคุมงบประมาณและความถี่ได้ โฆษณา Masthead มีให้บริการบน YouTube ทั้งในเดสก์ท็อป แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และแอป YouTube สำหรับทีวี ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ YouTube Masthead และวิธีสร้างแคมเปญ YouTube Masthead ที่ใช้ CPM
 

การกำหนดเป้าหมายโฆษณา

ต่อไปนี้คือตัวเลือกของเนื้อหาและการกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับโฆษณาแบบจองล่วงหน้าที่คุณสามารถซื้อได้

  • YouTube Select: รายการช่อง YouTube Select คือผลิตภัณฑ์การจองสำหรับลูกค้าที่มีสิทธิ์กำหนดเป้าหมายเป็นช่องยอดนิยม 5% แรกใน YouTube ซึ่งมีผู้ชมที่เป็นแฟนตัวยงในตลาดหนึ่งๆ รายการช่องจะมีแต่ช่องเท่านั้น คุณจะกำหนดรายการช่องเป็นเป้าหมายได้ต่อเมื่อสร้างแคมเปญเพื่อการเข้าถึงแบบจองล่วงหน้าพรีเมียมเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ YouTube Select
  • หัวข้อ: ผู้ลงโฆษณาเลือกได้จากหัวข้อวิดีโอต่างๆ ใน YouTube เช่น คุณอาจลงโฆษณาในสตรีมแบบจองล่วงหน้าในเนื้อหาสำหรับครอบครัว โฆษณา Masthead ไม่รองรับการกำหนดหัวข้อเป้าหมาย
  • ความสนใจ: ผู้ลงโฆษณากำหนดเป้าหมายเป็นผู้ชมที่สนใจเรื่องที่เจาะจงได้ เช่น กีฬาและงานอดิเรก โดยดูจากรูปแบบการเรียกดูของผู้ชมและเนื้อหาที่ดู
  • กลุ่มเป้าหมายตามกลุ่มความสนใจ: คุณเข้าถึงผู้ชมที่แสดงความสนใจเรื่องต่างๆ และผู้มีแนวโน้มที่จะดูเนื้อหาที่เกี่ยวข้องอีกครั้งได้ การกำหนดเป้าหมายประเภทนี้ยังช่วยในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งคล้ายกับกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญออฟไลน์ด้วย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเป้าหมายตามกลุ่มความสนใจที่กำหนดเองซึ่งคุณสร้างในบัญชี Google Ads ได้โดยตรง
  • ข้อมูลประชากร: คุณสามารถเข้าถึงผู้ที่มีแนวโน้มที่จะอยู่ในกลุ่มข้อมูลประชากรที่เลือกได้ เช่น เข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชีวิตในระยะยาวหรือความตั้งใจในการซื้อล่าสุด

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
5939675785874420827
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false