ภาษีในประเทศของคุณ

 

OOO Google (Google Russia) filed for bankruptcy in Russia in June 2022 and is no longer operating. On 18 October 2023, the bankruptcy court announced the start of the liquidation phase of Google Russia’s bankruptcy proceedings. During this phase, a court-appointed liquidator will manage Google Russia and its liquidation.

These insolvency proceedings are governed by the Insolvency Law of the Russian Federation. More information about these proceedings is available on the court’s website (link) and the official bankruptcy register (link).

ภาษีหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อาจมีผลบังคับสำหรับธุรกิจของคุณตามสถานที่ตั้งของธุรกิจ โปรดอ่านข้อมูลต่อไปนี้เพื่อให้เข้าใจผลบังคับใช้ในประเทศของคุณ หากต้องการดูข้อมูลของประเทศอื่น ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลงด้านบน

ภาษีจากการชำระเงินล่วงหน้า

ตามกฎระเบียบท้องถิ่น เราต้องเรียกเก็บภาษี ณ เวลาที่ชำระเงินล่วงหน้าในประเทศของคุณ คุณจะเห็นเส้นประใต้ข้อมูลการชำระเงินพร้อมรายละเอียดจำนวนเงินที่ชำระล่วงหน้า จำนวนภาษี และจำนวนเงินที่ชำระทั้งหมดในเคล็ดลับเครื่องมือ

Google Ireland Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2024 เป็นต้นไป เราจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 18% จากลูกค้า Google Ads ที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในยูกันดา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและการจัดสรรข้อมูลภาษีของคุณ

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบบริษัท (บัญชีประเภท "บุคคลธรรมดา") เราจะเริ่มเรียกเก็บ VAT 18% จากบริการดิจิทัล คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาในรูปแบบบริษัท (บัญชีประเภท "องค์กร") เราจะเริ่มเรียกเก็บ VAT 18% จากบริการดิจิทัล เว้นแต่ว่าคุณจะระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TIN) ของยูกันดาที่ถูกต้อง

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุนและแจ้ง TIN เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินตามนั้นได้

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยใช้วิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน ไอคอนการเรียกเก็บเงิน ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกการตั้งค่า
  3. คลิกลูกศรลงถัดจากรายละเอียดผู้ชำระเงินใน "การตั้งค่า"
  4. คลิกไอคอนดินสอ ใน "ข้อมูลภาษีของยูกันดา" แล้วใส่ TIN
  5. คลิกบันทึก
หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ภาษีหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อาจมีผลบังคับสำหรับธุรกิจของคุณตามสถานที่ตั้งของธุรกิจ โปรดอ่านข้อมูลต่อไปนี้เพื่อให้เข้าใจผลบังคับใช้ในประเทศของคุณ หากต้องการดูข้อมูลของประเทศอื่น ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลงด้านบน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2024 เราจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 14% จากบัญชี Google Ads ซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในอียิปต์

สำหรับลูกค้าที่ออกใบแจ้งหนี้รายเดือน หากคุณจดทะเบียน VAT ในอียิปต์ โปรดแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มให้เราทราบโดยใช้แบบฟอร์มนี้ สำหรับลูกค้าที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติและการชำระเงินด้วยตนเอง โปรดทำตามวิธีการต่อไปนี้

  1. คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน ไอคอนการเรียกเก็บเงิน ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกการตั้งค่า
  3. คลิกลูกศรลงข้าง "รายละเอียดผู้ชำระเงิน" ในหน้า "การตั้งค่า"
  4. คลิกไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของอียิปต์"
  5. ป้อนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในช่อง "หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของอียิปต์"
  6. คลิกบันทึก

นอกจากนี้ ลูกค้ายังใช้โปรไฟล์การชำระเงินเพื่ออัปเดตข้อมูลภาษีได้ด้วย

  1. ลงชื่อเข้าใช้การตั้งค่าศูนย์การชำระเงินของ Google
  2. คลิกไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของอียิปต์"
  3. ป้อนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในช่อง "หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของอียิปต์"
  4. คลิกบันทึก

บัญชีของคุณจัดการโดย Google Ireland Ltd

ใบแจ้งยอดรายเดือน

Google จัดทําใบแจ้งยอดในประเทศของคุณเป็นรายเดือน เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

Google Asia Pacific Pte. Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2022 ทุกการขายของ Google Ads ในกัมพูชาจะต้องชําระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% หากคุณไม่ได้แจ้งหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษี VAT (VAT TIN) ที่ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับทุกบัญชี Google Ads ซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในกัมพูชา

หากคุณแจ้ง VAT TIN ของกัมพูชาให้เราทราบ เราจะแสดง VAT TIN ในใบแจ้งหนี้ใบต่อๆ ไป

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยใช้วิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] ที่ด้านขวาบน แล้วเลือกการตั้งค่าในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. ในส่วน "VAT TIN ของกัมพูชา" ให้คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอแล้วป้อน VAT TIN ของคุณ
  4. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินผ่าน Google
  2. คลิกการตั้งค่าที่ด้านขวาบนของหน้า
  3. ในส่วน "VAT TIN ของกัมพูชา" ให้คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอแล้วป้อน VAT TIN ของคุณ

คลิกบันทึก

หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ผู้ลงโฆษณาในอาร์เจนตินา

ข้อกำหนดด้านภาษีอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าวิธีการชำระเงินของคุณตั้งไว้เป็นการแจ้งหนี้หรือการชำระเงินด้วยตนเอง โปรดดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวิธีการชำระเงินของคุณด้านล่าง

การชำระเงินด้วยตนเอง

วิธีคำนวณภาษีในการชำระเงินผ่าน Banelco หรือ PagoMisCuentas.com

เมื่อคุณชำระเงิน เราถือว่าคุณได้รวมจำนวนเงินที่ต้องการเพิ่มในบัญชีของคุณแล้ว รวมถึงเปอร์เซ็นต์จำนวนเงินที่ถูกต้องที่จะชำระเป็นค่าภาษีที่มีผลบังคับทั้งหมด เราอาจหักภาษีอย่างน้อย 1 รายการจากการชำระเงินผ่าน Banelco หรือ PagoMisCuentas.com ก่อนที่จะนำเงินที่เหลือเข้าบัญชี Google Ads ของคุณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะภาษีของคุณ

  • VAT 21%: เราใช้อัตรา VAT 21% กับการชำระเงินด้วยตนเองของผู้ลงโฆษณาทั้งหมด
  • VAT 3%: ภาษีนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อคุณจดทะเบียนกับรัฐบาลเพื่อชำระ VAT (IVA responsable inscripto) แต่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายและ VAT และไม่มีใบรับรองการยกเว้นสำหรับ VAT
  • GRT Perceptions: เราใช้ Perception สำหรับ GRT ในจังหวัดที่คุณจดทะเบียนเป็นธุรกิจและ Google เป็น Perception Agent เราต้องใช้เอกสารภาษีของคุณในการระบุสถานะ GRT ในแต่ละจังหวัด

คุณจะเห็น Perception แสดงในใบแจ้งหนี้รายเดือน เราคำนวณภาษี GRT ตามหมวดหมู่ VAT สถานะ GRT และปัจจัยอื่นๆ ที่แสดงในเอกสารภาษี GRT ของคุณสำหรับแต่ละจังหวัด (เช่น CM01, CM02, CM05) Perception เหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต ดังนั้นคุณจึงต้องแสดงเอกสารภาษี CM01, CM02 และ CM05 ที่อัปเดต ปัจจุบัน Google Argentina เก็บภาษีสำหรับ 7 จังหวัดต่อไปนี้

  • Buenos Aires City
  • บัวโนสไอเรสโพรวินซ์
  • คอร์เรียนเตซ
  • มิสซิออนเนส
  • นิวเกวน
  • ซันลูอิส
  • Chaco

เราจะพิจารณาว่าคุณต้องเสีย VAT และ/หรือ GRT Perception หรือไม่โดยดูจากหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเอกสารที่คุณกรอกไว้ขณะสร้างบัญชี เอกสารภาษีต่อไปนี้จะช่วยในการพิจารณาอัตราภาษีที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้

  • F.460/J (Inscripción AFIP) - เอกสารภาษีของรัฐบาลกลาง
  • CM01 / CM02 (Inscripción IIBB) - เอกสารภาษี GRT ระดับจังหวัด
  • CM05 - เอกสารภาษี GRT ระดับจังหวัด
  • Inscripción Ingresos Brutos (IIBB) ของท้องถิ่น
  • Exención en Ingresos Brutos หรือการยกเว้น GRT ในแต่ละจังหวัด
  • Exención IVA / Ganancias
  • Carta Certificado de Exclusión (ใบรับรองการยกเว้น)
  • ชื่อ Perception Agent (ตามจังหวัด)

หมายเหตุ

คุณจะต้องระบุเอกสารภาษีขณะสร้างบัญชี หากเราไม่มีเอกสารภาษีที่อัปเดต ข้อบังคับภาษีของรัฐบาลกลางและระดับจังหวัดกำหนดว่าเราจะต้องเรียกเก็บอัตราภาษีสูงสุดจากคุณ ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายรวมของคุณ

การรับใบเสร็จที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับการชำระเงินผ่าน Banelco หรือ PagoMisCuentas.com

Banelco จะออกใบเสร็จที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับทุกๆ การชำระเงินที่ดำเนินการโดยใช้เครือข่าย Banelco ในใบเสร็จจะมีรหัสควบคุม 4 หลักเพื่อรับรองความถูกต้องของใบเสร็จ

คุณจะได้รับใบเสร็จตามวิธีการหนึ่งใน 3 วิธีต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณชำระเงิน

  • จากตู้เอทีเอ็มที่คุณชำระเงิน
  • พิมพ์จากเว็บไซต์ PagoMisCuentas.com
  • พิมพ์จากเว็บไซต์ธนาคารออนไลน์ของธนาคารของคุณ
การได้รับใบแจ้งหนี้รายเดือนที่ถูกต้องตามกฎหมาย

Administración Federal de Ingresos Públicos (AFIP) ได้อนุญาตการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับ Google Argentina เป็นการชั่วคราว ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องเสียภาษีเงินได้หรือ VAT ในระหว่างช่วงเวลาต่อไปนี้

  • VAT: 1 มกราคม 2018 จนถึง 30 มิถุนายน 2018
  • ภาษีเงินได้: 1 มิถุนายน 2018 จนถึง 31 มีนาคม 2019

ระบบได้ส่งใบรับรองการยกเว้นภาษีให้กับลูกค้าทางอีเมลแล้ว โปรดแนบใบรับรองเหล่านี้เมื่อส่งการชำระเงินมาให้ Google

ประเภทใบแจ้งหนี้ที่คุณจะได้รับขึ้นอยู่กับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (CUIT หรือ DNI) ที่คุณกรอกไว้ในบัญชี หากต้องการรับใบแจ้งหนี้ที่มีรายการ VAT แยกต่างหาก คุณจะต้องลงชื่อสมัครใช้เป็นธุรกิจที่จดทะเบียน VAT โดยใช้ CUIT

  • คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ประเภท A หากป้อน CUIT ที่ถูกต้องสำหรับบริษัทที่จดทะเบียน VAT
  • สำหรับ DNI คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ประเภท B

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทใบแจ้งหนี้ในอาร์เจนตินา โปรดไปที่เว็บไซต์การออกใบแจ้งหนี้ AFIP อย่างเป็นทางการ

Google จะออกใบแจ้งหนี้ตามกฎหมายในช่วงวันที่ 3-5 ของแต่ละเดือน โดยรายงานค่าใช้จ่ายการโฆษณาของคุณซึ่งรวมถึงภาษีที่มีผลบังคับใช้ทั้งหมดสำหรับเดือนก่อนหน้าตามปฏิทิน คุณจะดูเวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์ในบัญชีได้ นอกจากนี้เราจะส่งใบแจ้งหนี้ไปยังที่อยู่อีเมลที่คุณระบุในการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินด้วย

การเปลี่ยนแปลงข้อมูลภาษีของคุณ
หากกรอกข้อมูลภาษีที่ไม่ถูกต้องในบัญชี Google Ads หรือข้อมูลภาษีเปลี่ยนแปลงไป โปรดอัปโหลดเอกสารที่ถูกต้อง ตามขั้นตอนดังนี้
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] ที่ด้านขวาบนแล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกการตั้งค่าที่ด้านซ้ายของหน้า
  4. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไข ในส่วน "ข้อมูลภาษีของอาร์เจนตินา" แล้วคลิกเพิ่มไฟล์เพื่ออัปโหลดเอกสารใหม่
  5. คลิกบันทึก

หากเข้าถึง "ข้อมูลภาษีของอาร์เจนตินา" และ/หรืออัปโหลดเอกสารไม่ได้ นั่นคือคุณอาจมีสิทธิ์การชำระเงินไม่เพียงพอ ให้ติดต่อผู้ดูแลระบบโปรไฟล์การชำระเงินของบัญชี Google Ads เพื่อให้สิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบหรือสิทธิ์แก้ไขแก่โปรไฟล์การชำระเงินนั้น

โปรดทราบว่า เราออกใบแจ้งหนี้ที่สร้างขึ้นก่อนที่ข้อมูลภาษีจะได้รับการอัปเดตในบัญชี Google Ads อีกครั้งไม่ได้

การยกเว้นภาษี

หากคุณได้รับการยกเว้นภาษี โปรดอัปโหลดใบรับรองขณะที่คุณสร้างบัญชี เพื่อที่เราจะได้นำมาพิจารณาในการคำนวณภาษีของคุณ หากคุณลืมอัปโหลดหรือได้รับสิทธิ์การยกเว้นใหม่ โปรดอัปโหลดใบรับรองในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน" ที่หน้าการตั้งค่า

การแจ้งหนี้

วิธีคำนวณภาษี

เราจะบวกภาษีไปในค่าโฆษณา และแสดงในประวัติการทำธุรกรรมและบนใบแจ้งหนี้รายเดือน เราคำนวณภาษีตามกฎหมายท้องถิ่น ดังนี้

  • VAT 21%: เราใช้อัตรา VAT 21% กับการชำระเงินทั้งหมด
  • GRT Perceptions: เราใช้ Perception สำหรับ GRT ในจังหวัดที่คุณจดทะเบียนเป็นธุรกิจและ Google เป็น Perception Agent เราต้องใช้เอกสารภาษีของคุณในการระบุสถานะ GRT ในแต่ละจังหวัด

คุณจะเห็น Perception แสดงในใบแจ้งหนี้รายเดือน เราคำนวณภาษี GRT ตามหมวดหมู่ VAT สถานะ GRT และปัจจัยอื่นๆ ที่แสดงในเอกสารภาษี GRT ของคุณสำหรับแต่ละจังหวัด (เช่น CM01, CM02, CM05) Perception เหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต ดังนั้นคุณจึงต้องแสดงเอกสารภาษี CM01, CM02 และ CM05 ที่อัปเดต ปัจจุบัน Google Argentina เก็บภาษีสำหรับ 7 จังหวัดต่อไปนี้

  • Buenos Aires City
  • บัวโนสไอเรสโพรวินซ์
  • คอร์เรียนเตซ
  • มิสซิออนเนส
  • นิวเกวน
  • ซันลูอิส
  • Chaco

เราจะพิจารณาว่าคุณต้องเสีย VAT และ/หรือ GRT Perception หรือไม่โดยดูจากหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและเอกสารที่คุณกรอกไว้ขณะสร้างบัญชี เอกสารภาษีต่อไปนี้จะช่วยในการพิจารณาอัตราภาษีที่เหมาะสมที่จะนำมาใช้

  • F.460/J (Inscripción AFIP) - เอกสารภาษีของรัฐบาลกลาง
  • CM01 / CM02 (Inscripción IIBB) - เอกสารภาษี GRT ระดับจังหวัด
  • CM05 - เอกสารภาษี GRT ระดับจังหวัด
  • Inscripción Ingresos Brutos (IIBB) ของท้องถิ่น
  • Exención en Ingresos Brutos หรือการยกเว้น GRT ในแต่ละจังหวัด
  • Exención IVA / Ganancias
  • Carta Certificado de Exclusión (ใบรับรองการยกเว้น)
  • ชื่อ Perception Agent (ตามจังหวัด)

หมายเหตุ

คุณจะต้องระบุเอกสารภาษีขณะสร้างบัญชี หากเราไม่มีเอกสารภาษีที่อัปเดต ข้อบังคับภาษีของรัฐบาลกลางและระดับจังหวัดกำหนดว่าเราจะต้องเรียกเก็บจากคุณในอัตราภาษีสูงสุด ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายรวมของคุณ

การได้รับใบแจ้งหนี้รายเดือนที่ถูกต้องตามกฎหมาย

Administración Federal de Ingresos Públicos (AFIP) ได้อนุญาตการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับ Google Argentina เป็นการชั่วคราว ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องเสียภาษีเงินได้หรือ VAT ในระหว่างช่วงเวลาต่อไปนี้

  • VAT: 1 มกราคม 2018 จนถึง 30 มิถุนายน 2018
  • ภาษีเงินได้: 1 มิถุนายน 2018 จนถึง 31 มีนาคม 2019

ระบบได้ส่งใบรับรองการยกเว้นภาษีให้กับลูกค้าทางอีเมลแล้ว โปรดแนบใบรับรองเหล่านี้เมื่อส่งการชำระเงินมาให้ Google

ประเภทใบแจ้งหนี้ที่จะได้รับขึ้นอยู่กับสถานะ VAT ของหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หากต้องการรับใบแจ้งหนี้ที่มีรายการ VAT แยกต่างหาก คุณควรลงชื่อสมัครใช้เป็นธุรกิจที่จดทะเบียน VAT โดยใช้ CUIT

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทใบแจ้งหนี้ในอาร์เจนตินา โปรดไปที่เว็บไซต์การออกใบแจ้งหนี้ AFIP อย่างเป็นทางการ

Google จะออกใบแจ้งหนี้ตามกฎหมายในช่วงวันที่ 3-5 ของแต่ละเดือน โดยรายงานค่าใช้จ่ายการโฆษณาของคุณซึ่งรวมถึงภาษีที่มีผลบังคับใช้ทั้งหมดสำหรับเดือนก่อนหน้าตามปฏิทิน คุณจะดูเวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์ในบัญชีได้ นอกจากนี้เราจะส่งใบแจ้งหนี้ไปยังที่อยู่อีเมลที่คุณระบุในการตั้งค่าการเรียกเก็บเงินด้วย

การเปลี่ยนแปลงข้อมูลภาษีของคุณ

หากกรอกข้อมูลภาษีที่ไม่ถูกต้องในบัญชี Google Ads หรือข้อมูลภาษีมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อเราพร้อมส่งข้อมูลภาษีที่ถูกต้องมาให้เรา

ผู้เชี่ยวชาญ Google Ads จะติดต่อคุณภายใน 2 วันทำการเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง

โปรดทราบว่า เราออกใบแจ้งหนี้ที่สร้างขึ้นก่อนที่ข้อมูลภาษีจะได้รับการอัปเดตในบัญชี Google Ads อีกครั้งไม่ได้

การยกเว้นภาษี

หากคุณได้รับการยกเว้นภาษี โปรดแสดงใบรับรองที่เหมาะสมขณะที่คุณสร้างวงเงินเครดิตใหม่ เพื่อที่เราจะได้นำมาพิจารณาในการคำนวณภาษีของคุณ หากลืมแสดงใบรับรองหรือได้รับสิทธิ์การยกเว้นใหม่ โปรดติดต่อผู้เชี่ยวชาญ Google Ads เพื่อตรวจสอบว่าข้อมูลได้รับการอัปเดตแล้ว

หากได้รับการยกเว้นภาษี GRT Perception โปรดส่งเอกสารภาษีที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น Carta Certificado de Exclusión หรือ Exención en Ingressos Brutos มาให้เราผ่านฟอร์มนี้

GRT Perception

GRT คือหมายเลขระบุรายได้รวม เมื่อคุณลงชื่อสมัครใช้ Google Ads คุณต้องกรอกรหัสหรือหมายเลข CUIT ของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องระบุข้อมูลลงในช่อง Gross Revenue Identification (GRT ID) เนื่องจากมีผู้ลงโฆษณาบางรายเท่านั้นที่จะต้องชำระ GRT

GRT คืออะไร

GRT ID คือหมายเลขระบุของภาษีเงินได้รวม ภาษีเงินได้รวมคือแหล่งรายได้หลักสำหรับหน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัด โดยทั่วไปแล้วภาษีจะคำนวณจากยอดขายเท่านั้น และจำนวนเงินภาษีจะแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด

ต้องกรอก GRT ที่ไหน

หากเลือก Banelco หรือ PagoMisCuentas.com เป็นวิธีการชำระเงินเมื่อลงชื่อสมัครใช้บัญชี Google Ads เราจะขอ DNI หรือ CUIT (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) ของคุณ หากเลือก CUIT คุณจะมีตัวเลือกให้กรอกรหัส GRT คุณต้องกรอกหมายเลข GRT โดยไม่เว้นวรรคหรือมีเครื่องหมายขีดคั่น และต้องอัปโหลดเอกสารสำหรับทั้ง VAT และ GRT ด้วย

จะทราบได้อย่างไรว่าคุณต้องชำระหรือไม่

สำหรับ GRT ของ Buenos Aires City ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อดูว่าบริษัทของคุณต้องชำระค่า GRT Perception หรือไม่ และหากต้องชำระ จะต้องชำระที่อัตราใด

  1. ไปที่ http://www.arba.gov.ar/
  2. กรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (CUIT) และรหัสผ่านของบริษัท หากคุณไม่ทราบรหัสผ่าน โปรดสอบถามแผนกการเงินของบริษัท
  3. เลือก Rol: contribuyente
  4. ในเมนูด้านซ้ายบนที่ชื่อ "Regimen de recaudación por" เลือก Consulta al padrón
  5. เลือกเดือนที่มีอัตราที่คุณต้องการดู
  6. อัตรา GRT Perception ที่ Google ใช้สำหรับการชำระเงินของคุณจะแสดงอยู่ในหัวข้อ "Alícuota de percepción"

สำหรับจังหวัดอื่น โปรดตรวจสอบกับหน่วยงานในท้องถิ่นของคุณ

ภาษีหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อาจมีผลบังคับกับธุรกิจของคุณตามสถานที่ตั้งของธุรกิจ โปรดอ่านข้อมูลต่อไปนี้เพื่อดูผลบังคับใช้ในประเทศของคุณ หากต้องการดูข้อมูลของประเทศอื่น ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลงด้านบน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2020 เป็นต้นไป Google จําเป็นต้องรวบรวมข้อมูลภาษีของคุณเพื่อพิจารณาความเกี่ยวข้องกับ VAT เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายท้องถิ่นในโคลอมเบีย หากไม่มีการให้ข้อมูลภาษี ระบบจะเพิ่ม VAT 19% ลงในใบแจ้งหนี้ของลูกค้า Google Ads ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป โปรดอัปเดตโปรไฟล์การชําระเงินเพื่อยืนยันว่าคุณเป็นผู้ลงทะเบียนในโคลอมเบียภายใต้ระเบียบทั่วไปเกี่ยวกับภาษี และส่งเอกสารที่จําเป็น (หากมี)

หมายเหตุ: Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีไม่ได้ หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณ

การชำระเงินอัตโนมัติ

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกการตั้งค่าใต้ "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของโคลอมเบีย" แล้วป้อนข้อมูลดังนี้
    • ใต้ "คุณลงทะเบียนภายใต้ระเบียบทั่วไปเกี่ยวกับภาษีหรือไม่" ให้เลือกใช่ หากลงทะเบียนแล้ว
    • ใต้ "โปรดอัปโหลดแบบฟอร์ม RUT (แบบฟอร์มลงทะเบียนภาษีเฉพาะ)" ให้อัปโหลดเอกสาร RUT ในรูปแบบ PDF
    • ใต้ "Numero de Identificación Tributaria (NIT)" ให้ป้อน NIT โคลอมเบีย
  4. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินด้วยบริการของ Google
  2. คลิกการตั้งค่าที่ด้านซ้ายบนของหน้า
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของโคลอมเบีย" แล้วป้อนข้อมูลดังนี้
    • ใต้ "คุณลงทะเบียนภายใต้ระเบียบทั่วไปเกี่ยวกับภาษีหรือไม่" ให้เลือกใช่ หากลงทะเบียนแล้ว
    • ใต้ "โปรดอัปโหลดแบบฟอร์ม RUT (แบบฟอร์มลงทะเบียนภาษีเฉพาะ)" ให้อัปโหลดเอกสาร RUT ในรูปแบบ PDF
    • ใต้ "Numero de Identificación Tributaria (NIT)" ให้ป้อน NIT โคลอมเบีย
  4. คลิกบันทึก

การแจ้งหนี้รายเดือน

ลูกค้าที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินตามนั้นได้

บทบาททางเศรษฐกิจที่สำคัญ (SEP)

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 เป็นต้นมา Google ได้เลือกจ่ายภาษีเงินได้ 3% ที่คิดจากยอดขายรวมให้แก่ลูกค้าในโคลอมเบียโดยไม่ต้องขอหักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้ ใบแจ้งหนี้สำหรับบริการดิจิทัลตามที่กำหนดโดยกฎระเบียบซึ่งออกตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 จึงไม่ต้องมีการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายและจำเป็นต้องชำระใบแจ้งหนี้เต็มจำนวน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

บัญชีของคุณจะได้รับการจัดการโดย Google Ireland Ltd. อย่างไรก็ตาม หากคุณได้รับแจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ Google Turkey (Google Reklamcılık ve Pazarlama Ltd. Şti) จะเป็นคู่สัญญาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม

ประเมิน VAT ด้วยตนเอง

ตรวจสอบกับหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นว่าคุณต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองในประเทศของคุณหรือไม่ หากต้องประเมิน คุณอาจขอความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาด้านภาษีหรือหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่น เนื่องจาก Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาแก่คุณได้

ใบแจ้งยอดรายเดือน

Google จัดทําใบแจ้งยอดในประเทศของคุณเป็นรายเดือน เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

บัญชีที่จัดการโดย Google Turkey (Google Reklamcılık ve Pazarlama Ltd. Şti)

บัญชี Google Ads ทั้งหมดที่จัดการโดย Google Turkey จะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามอัตรามาตรฐานของประเทศตุรกี ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามที่รัฐบาลเห็นสมควร

สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้

  • คุณจะต้องชำระ VAT ในอัตราปัจจุบันของตุรกีตามที่กฎหมายของตุรกีกำหนด (บัญชีของคุณจะได้รับการจัดการโดย Google Turkey)
  • หากคุณมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้น VAT ทั้งหมด โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง
  • หากคุณมีสิทธิ์ได้รับการหัก VAT ณ ที่จ่ายบางส่วน โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง

การยกเว้น VAT

หากคุณมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้น VAT 100% เราจะต้องขอใบรับรองการยกเว้น โปรดส่งเอกสารดังกล่าวโดยกรอกแบบฟอร์มนี้ให้ครบถ้วน

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากตัวแทนจำหน่ายของ Google Turkey

หากคุณเคยได้รับการแจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ รายการต่อไปนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบตามที่อ้างถึงในการแจ้งดังกล่าว Google Turkey เป็นคู่สัญญาของคุณในสัญญาที่มีผลบังคับใช้ต่อการจัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้จนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม

  • Google Ads
  • Authorized Buyers
  • Display & Video 360
  • Campaign Manager / Studio
  • Google Ad Manager (ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ที่ Google เรียกเก็บเงินจากคุณ)
  • Search Ads 360
  • ค้นเที่ยวบิน
  • Analytics/Analytics 360
  • Hotel Ads
  • โฆษณา YouTube
  • การจองใน YouTube
  • โฆษณา Waze

ภาษีหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อาจมีผลบังคับกับธุรกิจของคุณตามสถานที่ตั้งของธุรกิจ โปรดอ่านข้อมูลต่อไปนี้เพื่อดูผลบังคับใช้ในประเทศของคุณ หากต้องการดูข้อมูลของประเทศอื่น ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลงด้านบน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2020 เป็นต้นไป Google จําเป็นต้องรวบรวมข้อมูลภาษีของคุณเพื่อพิจารณาความเกี่ยวข้องกับ VAT เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายท้องถิ่นในชิลี หากไม่มีการให้ข้อมูลภาษี ระบบจะเพิ่ม VAT 19% ลงในใบแจ้งหนี้ของลูกค้า Google Ads ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป โปรดอัปเดตโปรไฟล์การชําระเงินเพื่อยืนยันว่าคุณเป็นผู้ลงทะเบียนในชิลีในฐานะผู้เสียภาษี VAT และคุณได้รับการยกเว้นภาษีเพิ่มเติม (Impuesto adicional)

หมายเหตุ: Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีไม่ได้ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้

การชำระเงินอัตโนมัติ

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกการตั้งค่าใต้ "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของชิลี" แล้วป้อนข้อมูลดังนี้
    • ใต้ "คุณลงทะเบียนเป็นผู้เสียภาษี VAT ในชิลีแล้วหรือไม่" ให้เลือกใช่หากลงทะเบียนแล้ว 
    • ใต้ "คุณได้รับการยกเว้นจากภาษีเพิ่มเติม (Impuesto adicional) หรือไม่" ให้เลือกใช่หากได้รับการยกเว้น
  4. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินผ่าน Google
  2. คลิกการตั้งค่าที่ด้านซ้ายของหน้า
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของชิลี" แล้วป้อนข้อมูลดังนี้
    • ใต้ "คุณลงทะเบียนเป็นผู้เสียภาษี VAT ในชิลีแล้วหรือไม่" ให้เลือกใช่หากลงทะเบียนแล้ว 
    • ใต้ "คุณได้รับการยกเว้นจากภาษีเพิ่มเติม (Impuesto adicional) หรือไม่" ให้เลือกใช่หากได้รับการยกเว้น
  4. คลิกบันทึก

การแจ้งหนี้รายเดือน 

ลูกค้าที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินตามนั้นได้

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในไต้หวัน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คือภาษี 5% จากสินค้าและบริการที่ชำระให้กับหน่วยงานด้านภาษีของไต้หวัน การตั้งค่าและวิธีการชำระเงินของคุณเป็นตัวกำหนดว่าคุณต้องชำระ VAT ในไต้หวันหรือไม่และชำระอย่างไร เลือกวิธีการหรือการตั้งค่าที่ใช้กับบัญชีของคุณด้านล่าง

การชำระเงินอัตโนมัติหรือด้วยตนเองโดยใช้บัตรเครดิต

หากชำระเงินสำหรับบัญชี Google Ads ด้วยบัตรเครดิต แสดงว่าคุณได้ลงนามข้อตกลงกับ Google Asia Pacific Pte. Ltd. และคุณไม่ต้องชำระ VAT

การชำระเงินด้วยตนเองโดยการโอนเงิน ชำระที่ร้านสะดวกซื้อ หรือที่ทำการไปรษณีย์

หากชำระเงินสำหรับบัญชี Google Ads โดยการโอนเงิน ชำระที่ร้านสะดวกซื้อ หรือที่ทำการไปรษณีย์ แสดงว่าคุณได้ลงนามข้อตกลงกับ Google Taiwan โดยมีเงื่อนไขว่าคุณต้องชำระ VAT ในการเรียกเก็บเงิน Google Ads เพื่อให้ครอบคลุมภาษีนี้ Google จะนำส่งเงินส่วนหนึ่งจากการชำระเงินของคุณแต่ละครั้งให้กับหน่วยงานด้านภาษีของไต้หวันโดยอัตโนมัติ เราจะส่ง Government Uniform Invoice (GUI) ให้คุณทางไปรษณีย์สำหรับการชำระเงินแต่ละครั้งโดยมีรายละเอียดของจำนวนเงินที่ชำระ VAT

วิธีคำนวณ VAT สำหรับการชำระเงินด้วยตนเองโดยการโอนเงิน ชำระที่ร้านสะดวกซื้อ หรือที่ทำการไปรษณีย์

นี่คือวิธีที่เราคำนวณการหัก VAT จากการชำระเงิน Google Ads ของคุณ

เมื่อคุณชำระเงิน เราจะถือว่าคุณได้รวมจำนวนเงินที่คุณต้องการให้เข้าบัญชี รวมถึง VAT มูลค่า 5% ของจำนวนเงินนี้ กล่าวคือ หากคุณชำระเงินจำนวน X เราจะแบ่งจำนวนเงินนี้เป็น Y และ 5% ของ Y เราจะเครดิตเข้าบัญชีของคุณเป็นจำนวน Y และชำระ VAT เป็นจำนวน 5% ของ Y

โดยเราจะใช้สมการต่อไปนี้

  • X = Y + (0.05 * Y)
  • X = 1.05 * Y
  • Y = X/1.05

ตัวอย่าง

สมมติว่าคุณชำระเงิน NTD 1,050 ในการพิจารณาจำนวนเงินเครดิตเข้าบัญชีของคุณ เราจะคำนวณดังนี้

  • Y = NTD 1,050/1.05
  • Y = NTD 1,000

เราจะใส่เครดิตเข้าบัญชีของคุณ NTD 1,000 และส่งเงินที่เหลือ NTD 50 ให้กับหน่วยงานด้านภาษีของรัฐบาลเพื่อเป็น VAT

การตั้งค่าการชำระเงินสำหรับวงเงินเครดิต (การแจ้งหนี้รายเดือน)

หากบัญชี Google Ads ใช้วงเงินเครดิต (การแจ้งหนี้รายเดือน) แสดงว่าคุณได้ลงนามข้อตกลงกับ Google Taiwan โดยมีเงื่อนไขว่าคุณต้องชำระ VAT ในการเรียกเก็บเงิน Google Ads การแจ้งหนี้รายเดือนจะมีการประเมินภาษี VAT และเราจะส่ง Government Uniform Invoice (GUI) พร้อมกับการแจ้งหนี้แต่ละครั้งโดยมีรายละเอียดของจำนวนเงินที่คุณชำระ VAT

เกี่ยวกับ Government Uniform Invoices (GUI)

Government Uniform Invoice (GUI) คืออะไร

องค์กรธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการในไต้หวันต้องออก Government Uniform Invoice (GUI) ให้กับผู้ซื้อในเวลาที่ซื้อ ตามที่ระบุไว้ในส่วน Time Limit for Issuing Sales Documentary Evidence ของกฎหมายภาษีธุรกิจมูลค่าเพิ่มและที่ไม่มีมูลค่าเพิ่มของไต้หวัน

เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ Google จะออก GUI ให้คุณทุกครั้งที่คุณชำระเงิน (นั่นคือการซื้อบริการโฆษณา) หากบัญชี Google Ads ของคุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้

  • มีที่อยู่ธุรกิจในไต้หวัน
  • ใช้สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (NTD)
  • ใช้การชำระเงินด้วยตนเองหรือวงเงินเครดิต (การแจ้งหนี้รายเดือน)
  • สร้างขึ้นหลังจากวันที่ระบุ

ผู้ลงโฆษณาซึ่งมีบัญชีที่ตรงกับเกณฑ์เหล่านี้ได้เซ็นสัญญากับ Google Taiwan แล้ว ผู้ลงโฆษณารายอื่นทั้งหมดได้เซ็นสัญญากับหน่วยงาน Google อื่นๆ และเราจะไม่ออก GUI ให้

จุดประสงค์หนึ่งของ GUI คือการติดตามภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทั้งหมดที่ธุรกิจหรือบุคคลธรรมดาชำระ คุณจึงควรเก็บ GUI ไว้เพื่อขอคืนภาษี

GUI ของคุณประกอบไปด้วยข้อมูลต่อไปนี้

  • รหัส GUI
  • ยอดขาย
  • VAT
  • จำนวนเงินรวม
  • หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณ หากเลือกธุรกิจในช่อง "สถานะภาษี" เมื่อสร้างบัญชี
  • รายละเอียดของบริการ (เช่น การโฆษณาออนไลน์)

และคุณควรทราบถึงสิ่งต่อไปนี้ด้วย

  • หากคุณเลือกธุรกิจในช่องสถานะภาษีตอนที่สร้างบัญชี เราจะออก GUI "รูปแบบพื้นฐานสำหรับธุรกิจ" ให้คุณ หากไม่ใช่ เราจะออก GUI "รูปแบบพื้นฐานสำหรับบุคคลธรรมดา" ให้คุณ
  • คุณจะได้รับ GUI 4 สัปดาห์หลังจากที่ชำระเงิน
  • ชื่อของ GUI จะเป็นชื่อบริษัทที่คุณกรอกใน "โปรไฟล์การชำระเงิน" ที่หน้าการตั้งค่า โดยคุณจะแก้ไขข้อมูลนี้เมื่อไรก็ได้
ความล่าช้าของ GUI

คุณจะได้รับ Government Uniform Invoice (GUI) ภายใน 4 สัปดาห์หลังจากการชำระเงิน จากนั้นหากคุณยังไม่ได้รับ GUI โปรดติดต่อเราและขอ GUI ใหม่

อาจเป็นไปได้ว่าจดหมายแจ้ง GUI ของคุณสูญหายระหว่างทาง แต่เพื่อความปลอดภัย โปรดตรวจดูว่าที่อยู่ในหน้า "โปรไฟล์การชำระเงิน" ของบัญชี Google Ads ของคุณถูกต้อง ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ https://ads.google.com
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. คลิกแก้ไขและทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น
  4. คลิกบันทึก
การเปลี่ยนชื่อบริษัทใน GUI

ชื่อบริษัทที่คุณกรอกใน "โปรไฟล์การชำระเงิน" ของบัญชีจะแสดงเป็นชื่อของ Government Uniform Invoice (GUI) หากต้องการเปลี่ยนชื่อ GUI โปรดทำตามวิธีการต่อไปนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ https://ads.google.com
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. ทำการเปลี่ยนแปลงในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน"
  4. คลิกบันทึก
หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีใน GUI

หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีจะแสดงใน GUI หากคุณเลือก "ธุรกิจ" ในช่อง "สถานะภาษี" เมื่อคุณสร้างบัญชี นอกจากนี้ คุณยังจะเห็นหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน" ของบัญชี Google Ads คุณไปที่ส่วนดังกล่าวได้โดยทำดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ https://ads.google.com
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า

โปรดทราบว่าเราให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT แก่คุณไม่ได้ หากคุณมีคำถามทั่วไปเกี่ยวกับ VAT โปรดติดต่อหน่วยงานด้านภาษีของไต้หวัน

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในจีน

VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) คือภาษีที่เก็บจากสินค้าและบริการเมื่อได้ขายสินค้าหรือให้บริการ ผู้ใช้ Google Ads ของ Google Advertising (Shanghai) ที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในประเทศจีนจะต้องชำระ VAT

นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2012 เป็นต้นไป Google Advertising (Shanghai) มีหน้าที่ต้องชำระ VAT ภายใต้โปรแกรมนำร่อง VAT ของเซี่ยงไฮ้ (Shanghai VAT Pilot Program) นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2012 เป็นต้นไป Google Advertising (Shanghai) จะเรียกเก็บและเก็บ VAT สำหรับบริการโฆษณาทั้งหมดที่ให้บริการ และจะออกเฉพาะ VAT Fapiao ให้กับผู้ลงโฆษณา จำนวนเงิน VAT จะแสดงอยู่ใน VAT Fapiao ที่ออกให้กับคุณ

Google Advertising (Shanghai) ให้คำแนะนำด้านภาษีไม่ได้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่หรือที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณหากคุณมีข้อสงสัยว่าโปรแกรมนำร่อง VAT ของเซี่ยงไฮ้มีผลต่อธุรกิจและภาระหน้าที่ในการเสียภาษีของคุณอย่างไร เพื่อพิจารณาสถานะ VAT ของคุณ หรือเพื่อพิจารณาข้อมูลที่ควรมีอยู่ใน VAT Fapiao ของคุณ

การเรียกเก็บ VAT

ภายใต้โปรแกรมนำร่อง VAT ของเซี่ยงไฮ้ (Shanghai VAT Pilot Program) Google Advertising (Shanghai) จำเป็นต้องเรียกเก็บ VAT 6% กับลูกค้าทั้งหมด แม้ว่าลูกค้าจะไม่ได้อยู่ในเซี่ยงไฮ้ก็ตาม และไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้ใช้การชำระเงินด้วยตนเอง ใบแจ้งหนี้จะแสดง VAT ที่เรียกเก็บในยอดเงินของใบแจ้งหนี้ที่อัตรา 6%

สำหรับลูกค้าที่ใช้การชำระเงินด้วยตนเอง Google จะหัก VAT 6% จากจำนวนเงินชำระล่วงหน้าของคุณ เช่น หากชำระเงินล่วงหน้า 1,000 CNY จำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชีจะเท่ากับ 943.40 CNY หลังจากหัก VAT 56.60 CNY

เกี่ยวกับ VAT Fapiao แบบพิเศษ

Google Advertising (Shanghai) จะออก VAT Fapiao แบบพิเศษให้ลูกค้าที่เป็นผู้ชำระ VAT ทั่วไป VAT Fapiao แบบพิเศษคือหลักฐานการชำระภาษีที่ช่วยให้คุณจะขอคืน VAT ซื้อได้ หากคุณจดทะเบียนเป็นผู้ชำระ VAT ทั่วไปกับหน่วยงานด้านภาษีอย่างถูกต้อง

Google Advertising (Shanghai) ต้องให้คุณส่งภาพสแกนใบรับรองการจดทะเบียนภาษี (หน้าแรกและหน้าถัดไปที่มีสถานะการจดทะเบียนภาษี VAT) จึงจะออก VAT Fapiao แบบพิเศษให้ได้ ประเภทของไฟล์ภาพสแกนใบรับรองการจดทะเบียนภาษีที่เรายอมรับได้แก่ PNG, GIF, JPEG และ TIFF โดยไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 5 MB

นอกจากนี้ ข้อมูลต่อไปนี้ที่คุณส่งให้จะแสดงอยู่ใน VAT Fapiao แบบพิเศษและต้องตรงกับใบรับรองการจดทะเบียนภาษีทุกจุด หากแสดงอยู่ในรายการ

  • ชื่อธุรกิจ
  • สถานะการจดทะเบียนภาษี VAT (ผู้ชำระ VAT ทั่วไป)
  • รหัสการจดทะเบียนภาษี
  • ที่อยู่จดทะเบียน
  • หมายเลขโทรศัพท์จดทะเบียน
  • รายละเอียดบัญชีธนาคาร (ชื่อธนาคาร หมายเลขบัญชี)

หากต้องการให้ส่ง VAT Fapiao แบบพิเศษไปยังที่อยู่อื่นที่ไม่ใช่ที่อยู่จดทะเบียน คุณก็ระบุที่อยู่สำหรับส่งไปรษณีย์อีกแห่งได้โดยแก้ไขบัญชีการชำระเงิน

หากข้อมูลที่คุณระบุไม่ตรงกับใบรับรองการจดทะเบียนภาษี หรือหากใบรับรองการจดทะเบียนภาษีที่สแกนของคุณไม่ถูกต้อง มีการดัดแปลง หรืออ่านไม่ได้ Google Advertising (Shanghai) จะออก VAT Fapiao แบบพิเศษให้แก่คุณไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้ เราจะส่งอีเมลถึงคุณเพื่อขอให้คุณแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือขาดหายไป เมื่อคุณทำการแก้ไขที่จำเป็นแล้ว เราจึงจะออก VAT Fapiao แบบพิเศษให้คุณได้

เกี่ยวกับ VAT Fapiao แบบทั่วไป

Google Advertising (Shanghai) จะออก VAT Fapiao แบบทั่วไปให้กับลูกค้าที่จดทะเบียนเป็นผู้ชำระ VAT ในอัตราลดหย่อน ผู้ที่ไม่ต้องชำระ VAT หรือบุคคลธรรมดา VAT Fapiao แบบทั่วไปคือหลักฐานการชำระภาษีอย่างเป็นทางการ แต่ใช้เพื่อขอคืน VAT ซื้อไม่ได้ ข้อมูลต่อไปนี้ที่คุณระบุไว้จะแสดงอยู่ใน VAT Fapiao แบบทั่วไป

  • ชื่อธุรกิจ
  • สถานะการจดทะเบียนภาษี VAT
  • รหัสการจดทะเบียนภาษี (ยกเว้นบุคคลธรรมดา)
  • ที่อยู่ทางไปรษณีย์
  • หมายเลขโทรศัพท์

การเลือกไม่ใช้ VAT Fapiao

หากคุณไม่ต้องการรับ VAT Fapiaos สำหรับกิจกรรมการโฆษณา คุณจะเลือกไม่ใช้ได้โดยการเลือกตัวเลือก “ไม่ต้องส่งใบกำกับภาษีให้ฉัน” ในโปรไฟล์การชำระเงินของคุณ Google Advertising (Shanghai) จะไม่ส่ง VAT Fapiao ให้คุณ หากคุณไม่เปลี่ยนแปลงตัวเลือกนี้

อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าหากคุณเลือกที่จะไม่รับ VAT Fapiao นั้น Google Advertising (Shanghai) ยังคงต้องเรียกเก็บ VAT 6% จากลูกค้าทั้งหมดและรายงานกิจกรรม VAT ไปยังหน่วยงานด้านภาษีอย่างถูกต้อง

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

เมื่อคุณสร้างบัญชี ระบบจะขอให้คุณยืนยันประเภทบัญชี วัตถุประสงค์ในการใช้งานบัญชี และสถานะภาษี การตั้งค่าเหล่านี้จะมีผลต่อวิธีที่คุณประเมินและรายงาน VAT การดําเนินการนี้เป็นแบบถาวรและจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้หลังจากคุณลงชื่อสมัครใช้การเรียกเก็บเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรเลือกอย่างรอบคอบ การตั้งค่าเหล่านี้อาจนําไปใช้สำหรับการยืนยันตัวตนของผู้ลงโฆษณาด้วย 

ประเภทบัญชี

สําหรับประเภทบัญชี คุณจะเลือกองค์กรหรือบุคคลธรรมดาก็ได้ 

องค์กร

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้สำหรับผู้อื่นที่ไม่ใช่ตนเองหรือใช้ชื่ออื่นนอกเหนือจากชื่อของคุณ  ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นตัวแทนของธุรกิจ องค์กร พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือสถาบันการศึกษา หรือเลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวภายใต้ชื่อทางการค้า

บุคคลธรรมดา

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้ด้วยชื่อของคุณเองและจะใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์ของคุณเอง  ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นผู้ประกอบการเพียงคนเดียวที่ลงชื่อสมัครใช้ในชื่อของคุณเองและเพื่อการใช้งานของคุณเอง หากจดทะเบียนเป็นแบบรายบุคคล คุณจะเพิ่มหรือนําผู้ใช้ออก รวมถึงเปลี่ยนสิทธิ์ในโปรไฟล์การชําระเงินไม่ได้

โปรดทราบว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2022 Google จะเริ่มเรียกเก็บภาษีโดยอ้อมต่อไปนี้จากลูกค้าบัญชีบุคคลธรรมดาที่อาศัยอยู่ในเขตแดนต่อไปนี้ของสเปน: 

ภูมิภาค

ลาส ปาลมาสและซานตาครูซ เด เตเรนิเฟ

เซวตาและเมลียา

อัตราภาษีโดยอ้อม (%)

7%

0.5%

วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

เลือกธุรกิจ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อธุรกิจหรือบริการเชิงพาณิชย์ การใช้งานทางธุรกิจหมายความว่าคุณต้องการรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการโฆษณา เช่น รายได้ ยอดขาย หรือการลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้น ในกรณีนี้รวมถึงแอฟฟิลิเอต กิจการเจ้าของคนเดียว ผู้ค้าที่ทำธุรกิจของตนเอง พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และอื่นๆ 

หรือเลือกไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อกิจกรรมทางการเมือง การกุศล หรือกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไรเท่านั้น 

หมายเหตุ: การตั้งค่าวัตถุประสงค์ในการใช้งานจะปรากฏระหว่างการลงชื่อสมัครใช้บัญชีในครั้งแรกเท่านั้น Google Ads ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจได้เฉพาะในสหภาพยุโรปเท่านั้น

ข้อมูลภาษี

การดำเนินการด้านภาษีจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณ การตั้งค่าสถานะภาษีและหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่บังคับ) จะปรากฏหลังจากที่คุณเลือกประเภทบัญชีและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน  หากคุณลงชื่อสมัครใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google การดำเนินการด้านภาษีสําหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจขึ้นอยู่กับสถานะภาษีในบางกรณี การตั้งค่า "วัตถุประสงค์ในการใช้งาน" เป็นการตั้งค่าถาวร และจะส่งผลต่อวิธีประเมินและรายงาน VAT 

สถานะภาษีองค์กรหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทองค์กร 

สถานะภาษีบุคคลธรรมดาหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทบุคคลธรรมดา 

Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ หากคุณมีคําถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

 

นานาน่ารู้

  • เราจะต้องขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณ
  • เราจะไม่เพิ่มการเรียกเก็บ VAT ลงในบัญชี เว้นแต่คุณจะเลือกวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็น "ไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์" ในระหว่างการลงชื่อสมัครใช้
  • คุณจะต้องรับผิดชอบการประเมินด้วยตนเองและชำระ VAT ตามอัตราท้องถิ่นของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปที่คุณอยู่ (ตามมาตรา 44 ของ EU Council Directive 2006/112/EC)

การเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

คุณจะเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ด้วยตัวเอง คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูวิธีการ

เปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. กรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน"
  4. คลิกบันทึก

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือผู้ใช้มักกรอกหมายเลขภาษีแทนหมายเลขจดทะเบียน VAT หมายเลขทั้งสองนี้แตกต่างกัน หมายเลขจดทะเบียน VAT ขึ้นต้นด้วยรหัสเฉพาะประเทศ ตามด้วยอักขระไม่เกิน 12 ตัว (ตัวอักษรหรือตัวเลข) โปรดไปที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรป หากต้องการตรวจสอบว่าหมายเลขการจดทะเบียน VAT ของคุณถูกต้องหรือไม่

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

หากระบบไม่เรียกเก็บ VAT ในค่าใช้จ่าย Google Ads คุณอาจต้องประเมิน VAT ด้วยตนเอง โปรดติดต่อขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณ

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

วิธีค้นหาใบกำกับภาษี VAT ในบัญชีของคุณมีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกเอกสารในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. คลิกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบไฟล์ที่ต้องการ
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี
  9. ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบกำกับภาษี VAT

  • ใบกำกับภาษี VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบกำกับภาษี VAT เดือนกันยายนจะปรากฏภายในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบกำกับภาษี VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการรับใบกำกับภาษี VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบกำกับภาษี

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบกำกับภาษีประมาณ 1-2 วัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบกำกับภาษี VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบกำกับภาษีถูกต้องตามกฎหมาย

ใบกำกับภาษีจากบัญชี Google Ads เป็นใบกำกับภาษีที่บันทึกไว้ ใบกำกับภาษีเหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราเรียกเก็บเงินหรือที่คุณชำระเงินให้ Google)

ใบกำกับภาษีนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบกำกับภาษีเหล่านี้

ใบกำกับภาษี VAT ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบกำกับภาษี VAT ที่ถูกต้องซึ่งมีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

ภาษีหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อาจมีผลบังคับกับธุรกิจของคุณตามสถานที่ตั้งของธุรกิจ อ่านต่อไปเพื่อดูเรื่องที่มีผลบังคับใช้ในประเทศของคุณ หากต้องการข้อมูลของประเทศอื่น ให้คลิกเมนูแบบเลื่อนลงด้านบน

Google Asia Pacific Pte. Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2024 ยอดขายทั้งหมดจาก Google Ads ในมาเลเซียจะต้องเสียภาษีขายและภาษีบริการ (SST) 8% (เพิ่มขึ้นจาก 6%) การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับบัญชี Google Ads ทั้งหมดซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในมาเลเซีย

หมายเหตุ: Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณไม่ได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ใบรับรองการมีถิ่นที่อยู่สำหรับเสียภาษี

ดาวน์โหลดใบรับรองการมีถิ่นที่อยู่เป็นไฟล์ .pdf ได้จากบทความนี้ เพียงคลิกลิงก์ที่เกี่ยวข้องด้านล่าง

หากต้องการใบรับรองแบบเก่า โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Google Ads

ใบรับรองการมีถิ่นที่อยู่ที่ Google มีให้นั้นออกให้โดยหน่วยงานด้านภาษีของไอร์แลนด์ในแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์เป็นภาษาอังกฤษ ใบรับรองในแบบฟอร์มนี้เป็นเอกสารที่ถูกต้องซึ่งมีผลกับหน่วยงานด้านภาษีของโปแลนด์

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

บัญชี Google Ads ทั้งหมดในประเทศไอร์แลนด์ต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามอัตราของประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงได้ตามการพิจารณาตามที่เห็นสมควรของรัฐบาลไอร์แลนด์

หากคุณอยู่ในไอร์แลนด์ การดำเนินการที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

  • คุณจะต้องชำระ VAT ตามอัตราของประเทศไอร์แลนด์ในปัจจุบันตามที่กฎหมายของไอร์แลนด์กำหนดเสมอ (บัญชีของคุณจะได้รับการจัดการโดย Google Ireland)
    • หากบัญชีของคุณใช้การชำระเงินอัตโนมัติ เราจะบวกค่าใช้จ่าย VAT ในค่าใช้จ่าย Google Ads 1 ครั้งทุกสิ้นเดือน เพื่อให้คุณชำระเงินในครั้งถัดไปที่มีการเรียกเก็บเงิน
    • หากใช้การชำระเงินด้วยตนเอง เราจะหักค่าใช้จ่าย VAT ออกจากยอดเงินของคุณก่อนที่เงินนั้นจะหมด 1 ครั้งทุกสิ้นเดือน
    • หากคุณได้รับการยกเว้นภาษี VAT 13b/56b โปรดระบุด้วยการทำเครื่องหมายในช่องใต้ "คุณมีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่" (คุณไปที่ตำแหน่งนี้เพื่อดูข้อมูลภาษีได้โดยคลิกที่ไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน") คุณจะต้องระบุข้อมูล VAT 13b/56b ด้วย

Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ ดังนั้น หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

การเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

คุณจะเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ด้วยตัวเอง คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูวิธีการ

เปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. มองหาส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน" เพื่อกรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  4. คลิกบันทึก

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือผู้ใช้มักกรอกหมายเลขภาษีแทนหมายเลขจดทะเบียน VAT หมายเลขทั้งสองนี้แตกต่างกัน หมายเลขจดทะเบียน VAT ขึ้นต้นด้วยรหัสเฉพาะประเทศ ตามด้วยอักขระไม่เกิน 12 ตัว (ตัวอักษรหรือตัวเลข) โปรดไปที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรป หากต้องการตรวจสอบว่าหมายเลขการจดทะเบียน VAT ของคุณถูกต้องหรือไม่

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับชุดใบแจ้งหนี้สองชุด คือ ชุดที่หนึ่งเมื่อคุณชําระเงินล่วงหน้าและอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป) หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้หนึ่งใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชําระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป

วิธีการค้นหาใบแจ้งหนี้ในบัญชีของคุณ มีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก เอกสาร ในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบแจ้งหนี้ VAT

  • ใบแจ้งหนี้ VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบแจ้งหนี้ VAT เดือนกันยายนจะปรากฏในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบแจ้งหนี้ VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการรับใบแจ้งหนี้ VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบแจ้งหนี้

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบแจ้งหนี้ประมาณหนึ่งหรือสองวัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบแจ้งหนี้ VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบแจ้งหนี้ถูกต้องตามกฎหมาย

ใบแจ้งหนี้จากบัญชี Google Ads เป็นใบแจ้งหนี้ที่บันทึกไว้ ใบแจ้งหนี้เหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราทำการเรียกเก็บเงินหรือคุณชำระเงินให้กับ Google)

ใบแจ้งหนี้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบแจ้งหนี้เหล่านี้

ใบแจ้งหนี้ VAT ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบแจ้งหนี้ VAT ที่ถูกต้องที่มีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากคุณมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

บัญชี Google Ads ทั้งหมดในประเทศแอฟริกาใต้ต้องชำระ VAT ตามอัตราของแอฟริกาใต้ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามการพิจารณาตามที่เห็นสมควรของรัฐบาลแอฟริกาใต้ หากคุณอยู่ในแอฟริกาใต้ การดำเนินการที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
  • คุณจะต้องชำระ VAT ตามอัตราของประเทศแอฟริกาใต้ในปัจจุบันเสมอ ตามที่กฎหมายของแอฟริกาใต้กำหนดไว้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2019
    • หากบัญชีของคุณใช้การชำระเงินอัตโนมัติ เราจะบวกค่าใช้จ่าย VAT ในค่าใช้จ่าย Google Ads 1 ครั้งทุกสิ้นเดือน เพื่อให้คุณชำระเงินในครั้งถัดไปที่มีการเรียกเก็บเงิน
    • หากใช้การชำระเงินด้วยตนเอง เราจะหักค่าใช้จ่าย VAT ออกจากยอดเงินของคุณก่อนที่เงินนั้นจะหมด 1 ครั้งทุกสิ้นเดือน
Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ ดังนั้นหากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร 

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 2 ชุด คือ ชุดหนึ่งเมื่อคุณชําระเงินล่วงหน้าและอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป) หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 1 ใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชําระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป

วิธีการค้นหาใบกํากับภาษีในบัญชีของคุณ มีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก เอกสาร ในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบกำกับภาษี VAT

  • ใบกำกับภาษี VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบกำกับภาษี VAT เดือนกันยายนจะปรากฏในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบกำกับภาษี VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการใบกำกับภาษี VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบแจ้งหนี้

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะคลาดเคลื่อนจากข้อมูลที่แสดงในใบแจ้งหนี้ประมาณหนึ่งหรือสองวัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบกำกับภาษี VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบกำกับภาษีถูกต้องตามกฎหมาย

ใบแจ้งหนี้จากบัญชี Google Ads เป็นใบแจ้งหนี้ที่บันทึกไว้ ใบแจ้งหนี้เหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน หรือก็คือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราทำการเรียกเก็บเงินหรือคุณชำระเงินให้กับ Google

ใบแจ้งหนี้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย โดยหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบแจ้งหนี้เหล่านี้

ใบแจ้งหนี้ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบแจ้งหนี้ VAT ที่ถูกต้องที่มีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2022 เป็นต้นไป Google จำเป็นต้องเรียกเก็บ VAT 7.5% จากลูกค้า Google Ads ทุกรายซึ่งมีที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงินในไนจีเรีย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น 

หลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้ Google จะเริ่มออกใบกำกับภาษี VAT ให้กับลูกค้าในไนจีเรียซึ่งจะพร้อมให้ดาวน์โหลดได้ในบัญชี Google Ads ของคุณ 

หากต้องการความช่วยเหลือ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่นหรือหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่น Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

วิธีค้นหาใบกำกับภาษี VAT ในบัญชีของคุณมีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอน "เครื่องมือและการตั้งค่า" แล้วเลือกเอกสารในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
    ไปที่นั่นเลย
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

ใบแจ้งยอดรายเดือน

นอกจาก VAT หรือใบกํากับภาษีแล้ว Google ยังมีใบแจ้งยอดรายเดือนด้วย เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

บัญชีของคุณได้รับการจัดการโดย Google Ireland Ltd

หากสถานะภาษีของบัญชีคือ "ธุรกิจ" โปรดสอบถามหน่วยงานจัดเก็บภาษีในพื้นที่ว่าคุณต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองหรือไม่ในประเทศของคุณ หากต้องประเมิน คุณอาจขอความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาด้านภาษีหรือหน่วยงานจัดเก็บภาษีในพื้นที่ 

ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2023 Google จะเริ่มเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 12% สําหรับบริการดิจิทัลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลต่อลูกค้าที่มีสถานะภาษี "บุคคล" และ "ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา" ภาษีใหม่จะแสดงในหน้าสรุปในส่วน "การเรียกเก็บเงินและการชําระเงิน" รวมทั้งในใบแจ้งยอดรายเดือน

Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณไม่ได้ หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณ

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

หากระบบไม่เรียกเก็บ VAT ในค่าใช้จ่าย Google Ads คุณอาจต้องประเมิน VAT ด้วยตนเอง โปรดติดต่อขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณ

ใบแจ้งยอดรายเดือน

นอกจาก VAT หรือใบกํากับภาษีแล้ว Google ยังมีใบแจ้งยอดรายเดือนด้วย เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

บัญชีของคุณได้รับการจัดการโดย Google Ireland Ltd

หากสถานะภาษีของบัญชีคือ "ธุรกิจ" โปรดสอบถามหน่วยงานจัดเก็บภาษีในพื้นที่ว่าคุณต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองหรือไม่ในประเทศของคุณ หากต้องประเมิน คุณอาจขอความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาด้านภาษีหรือหน่วยงานจัดเก็บภาษีในพื้นที่ 

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2021 Google จะเริ่มเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 20% สำหรับบริการดิจิทัลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลต่อลูกค้าที่มีสถานะภาษี "บุคคล" และ "ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา" 

ข้อมูลนี้จะแสดงในแท็บ "ธุรกรรม" ในส่วน "การเรียกเก็บเงินและการชําระเงิน" รวมทั้งในใบแจ้งยอดรายเดือน 

Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณไม่ได้ หากมีข้อสงสัยใดๆ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณ

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

หากระบบไม่เรียกเก็บ VAT ในค่าใช้จ่าย Google Ads คุณอาจต้องประเมิน VAT ด้วยตนเอง โปรดติดต่อขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณ

ใบแจ้งยอดรายเดือน

Google จัดทําใบแจ้งยอดในประเทศของคุณเป็นรายเดือน เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 Google จะเริ่มเรียกเก็บ VAT 19.25% จากลูกค้า Google Ads ซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในแคเมอรูน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายว่าด้วยเรื่องภาษี

ใบกํากับภาษีและใบแจ้งยอด 

หลังจากวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป ลูกค้า Google Ads ที่มีที่อยู่ธุรกิจในแคเมอรูนจะได้รับใบกํากับภาษีพร้อมกับใบแจ้งยอด ระบบจะสร้างใบกํากับภาษีตอนสิ้นเดือน คุณจะเห็นภาษี 19.25% มีผลกับกิจกรรมรายเดือน

หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ตัวแทนจำหน่ายของ Google Italy

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ

หากคุณเคยได้รับการแจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ รายการต่อไปนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบตามที่อ้างถึงในการแจ้งดังกล่าว Google Italy s.r.l. เป็นคู่สัญญาของสัญญาที่มีผลบังคับใช้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม

  • Google Ads
  • Authorized Buyers
  • Display & Video 360
  • Campaign Manager 360 และ Studio
  • Google Ad Manager (ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ที่ Google เรียกเก็บเงินจากคุณ)
  • Search Ads 360
  • Flight Search
  • Analytics และ Analytics 360
  • Hotel Ads
  • โฆษณา YouTube
  • การจองใน YouTube
  • โฆษณา Waze

ผู้ส่งออกเป็นประจำ

หากบริษัทมีคุณสมบัติเป็นผู้ส่งออกเป็นประจำและมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้น VAT คุณต้องส่งเอกสารแสดงเจตนา (DOI) ให้กับหน่วยงานด้านภาษีของอิตาลีโดยตรงทางอิเล็กทรอนิกส์ จากนั้น Google จะรับเอกสาร DOI ของผู้ส่งออกเป็นประจำที่ได้รับอนุมัติซึ่งมอบให้โดยหน่วยงานด้านภาษี จาก Cassetto Fiscale (ผู้สั่งจ่ายภาษี) และประมวลผลการยกเว้น VAT ตามที่ได้รับอนุญาต

การชำระเงินแบบแยกชำระ

หากบริษัทของคุณมีสิทธิ์ใช้การชำระเงินแบบแยกชำระซึ่งทำให้มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้น VAT ทาง Google จะพิจารณาสิทธิ์ใช้การชำระเงินประเภทนี้ของคุณโดยอัตโนมัติทุกเดือน โดยอ้างอิงรายการการได้รับสิทธิ์จากรัฐบาลสำหรับการชำระเงินแบบแยกชำระซึ่งเผยแพร่อยู่ที่นี่และที่นี่ เนื่องจากรายการการได้รับสิทธิ์จากรัฐบาลสำหรับการชำระเงินแบบแยกชำระนั้นอิงตามรหัสภาษี การเพิ่มรหัสภาษีในโปรไฟล์การชำระเงินจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ระบบของเราพิจารณาการมีสิทธิ์ใช้การชำระเงินแบบแยกชำระได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในกรณีที่รหัสภาษี (Codice Fiscale) ของคุณไม่เหมือนกับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Partita IVA) วิธีที่ 2 ในการพิจารณาการมีสิทธิ์ใช้การชำระเงินแบบแยกชำระคือการเปรียบเทียบชื่อบริษัทในโปรไฟล์การชำระเงินกับชื่อบริษัทในรายการการได้รับสิทธิ์จากรัฐบาลสำหรับการชำระเงินแบบแยกชำระ การระบุชื่อบริษัทในโปรไฟล์การชำระเงินให้ตรงกับชื่อในรายการดังกล่าวจะช่วยให้ระบบพิจารณาการมีสิทธิ์ใช้การชำระเงินแบบแยกชำระของคุณได้อย่างถูกต้อง

โปรดติดต่อเราเพื่อเพิ่มรหัสภาษีลงในโปรไฟล์การชำระเงิน

ซานมารีโนและนครรัฐวาติกัน

องค์กรซึ่งมีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในซานมารีโนและนครวาติกันได้รับการยกเว้น VAT ดังนั้น Google ต้องออกใบกำกับภาษีท้องถิ่นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งแสดง VAT 0% ให้กับลูกค้าทุกรายที่แจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) ระบบจะสร้างใบกำกับภาษีท้องถิ่นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะเมื่อมีการระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) ไว้ในโปรไฟล์การชำระเงินเท่านั้น

โปรดติดต่อเราเพื่อเพิ่มหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) ลงในโปรไฟล์การชำระเงิน

รหัส CUP/CIG สำหรับหน่วยงานบริหารรัฐกิจ (PA)

ในแง่ของภาษี การดำเนินการด้านภาษีสำหรับ PA ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และใบกำกับภาษีท้องถิ่นในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่มีรหัส CUP/CIG ยังคงใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม ลูกค้า PA บางรายต้องมีรหัสโครงการของรัฐบาล CUP/CIG ปรากฏในใบแจ้งหนี้จึงจะชำระเงินได้ คุณสามารถทำเครื่องหมายโปรไฟล์การชำระเงินว่าเป็น PA โดยระบุรหัส IPA 6 หลักและรหัส CUP หรือ CIG ที่เกี่ยวข้อง จากนั้นใบกำกับภาษีท้องถิ่นฉบับต่อๆ ไปจะมีรหัส CUP/CIG

โปรดติดต่อเราเพื่อแจ้งรหัส IPA 6 หลักและเพิ่มรหัส CUP/CIG ลงในโปรไฟล์การชำระเงิน

ผู้ลงโฆษณาในอเมริกาเหนือ

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาในอเมริกาเหนือและได้รับรายได้ทางธุรกิจจาก Google Ads คุณจะต้องระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TIN) ของ Google เมื่อยื่นแบบภาษี ข้อมูลของเรามีดังนี้

Google LLC
1600 Amphitheatre Pkwy
Mountain View, CA 94043
หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TIN) 77-0493581

หมายเหตุ: แต่ละรัฐมีภาษีเทศบาลท้องถิ่น ซึ่งปรับใช้ตามที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงินของลูกค้า โดยจะมีการประเมินและเรียกเก็บภาษีธุรกรรมจากบริการโฆษณาที่เกี่ยวข้องในช่วงสิ้นเดือน

ผู้ลงโฆษณาในอเมริกาเหนือ

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาในอเมริกาเหนือและได้รับรายได้ทางธุรกิจจาก Google Ads คุณจะต้องระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TIN) ของ Google เมื่อยื่นแบบภาษี ข้อมูลของเรามีดังนี้

Google LLC
1600 Amphitheatre Pkwy
Mountain View, CA 94043
หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (TIN) 77-0493581

GST/HST

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 มีการเรียกเก็บภาษี GST/HST จากลูกค้า Google Ads ทุกรายที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในแคนาดาซึ่งยังไม่ได้เพิ่มหมายเลขจดทะเบียน GST/HST ในโปรไฟล์การชำระเงิน 

โปรดปรึกษาหน่วยงานด้านภาษีในพื้นที่เกี่ยวกับอัตราภาษี GST/HST ระดับจังหวัดในปัจจุบัน

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุนของเราและแจ้งหมายเลขจดทะเบียน GST/HST เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินให้สอดคล้องกัน

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยทำตามวิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | gear [Icon] ที่ด้านขวาบน แล้วเลือกการตั้งค่าในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของแคนาดา" แล้วคลิกจัดการข้อมูลภาษี 
  4. ในหน้าถัดไป ให้คลิกเพิ่มข้อมูลภาษีในส่วน "ข้อมูลภาษีของแคนาดา" แล้วป้อนหมายเลขจดทะเบียน GST/HST ในช่อง "หมายเลขจดทะเบียนภาษี" ที่เหมาะสม (ไม่บังคับ)
  5. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินผ่าน Google
  2. คลิกการตั้งค่าที่ด้านขวาบนของหน้า
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของแคนาดา" แล้วคลิกจัดการข้อมูลภาษี 
  4. ในหน้าถัดไป ให้คลิกเพิ่มข้อมูลภาษีในส่วน "ข้อมูลภาษีของแคนาดา" แล้วป้อนหมายเลขจดทะเบียน GST/HST ในช่องหมายเลขจดทะเบียนภาษีที่เหมาะสม (ไม่บังคับ)
  5. คลิกบันทึก

QST ในควิเบก

อัตราภาษีขายของควิเบก (QST) คือ 6.975% และใช้กับลูกค้า Google Ads ทั้งหมดในควิเบกที่ยังไม่ได้เพิ่มหมายเลขจดทะเบียน QST ในโปรไฟล์การชำระเงิน

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุนและแจ้งหมายเลขจดทะเบียน QST เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินให้สอดคล้องกันได้

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีและแจ้งหมายเลขจดทะเบียน QST ได้้โดยใช้วิธีการข้างต้น

หมายเหตุ:

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาในฮาวายที่ใช้การชำระเงินด้วยตนเองหรือการชำระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับการประเมินภาษีและเรียกเก็บเงินในทุกสิ้นเดือน

บัญชีที่จัดการโดย Google Canada Corporation

บัญชี Google Ads ทั้งหมดที่จัดการโดย Google Canada จะต้องชําระภาษีการขายตามที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงินในบัญชีของคุณ  โปรดทราบว่าอัตราอาจเปลี่ยนแปลงไปตามการพิจารณาตามที่เห็นสมควรของรัฐบาล

สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้

  • คุณจะต้องชําระภาษีในอัตราปัจจุบันเสมอตามที่กฎหมายของแคนาดาได้กําหนดไว้ (บัญชีของคุณจะได้รับการจัดการโดย Google Canada)

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากตัวแทนจําหน่ายของ Google Canada

หากคุณเคยได้รับการแจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ รายการต่อไปนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบตามที่อ้างถึงในการแจ้งดังกล่าว Google Canada เป็นคู่สัญญาของคุณในสัญญาที่มีผลบังคับใช้ต่อการจัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้จนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม

  • Google Ads
  • Authorized Buyers
  • Display & Video 360
  • Campaign Manager 360
  • Google Ad Manager (ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการนั้นๆ ที่ Google เรียกเก็บเงินจากคุณ)
  • Search Ads 360
  • ค้นเที่ยวบิน
  • Google Analytics 360
  • Hotel Ads
  • โฆษณา YouTube
  • การจองใน YouTube
  • โฆษณา Waze

Google Asia Pacific Pte. Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2021 เป็นต้นไป VAT 15% จะมีผลบังคับใช้กับลูกค้า Google Ads ทั้งหมดซึ่งมีที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงินในบังกลาเทศที่ไม่ได้เพิ่มหมายเลขประจําตัวธุรกิจ (BIN) 13 หลักไว้ในโปรไฟล์การชําระเงิน

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุนและแจ้ง BIN เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินให้สอดคล้องกันได้

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยใช้วิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | gear [Icon] ที่ด้านขวาบน แล้วเลือกการตั้งค่าในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของบังกลาเทศ" แล้วป้อน BIN ในช่องหมายเลขประจําตัวธุรกิจที่เหมาะสม (ช่องที่ไม่บังคับ)
  4. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินผ่าน Google
  2. คลิกการตั้งค่าที่ด้านขวาบนของหน้า
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของบังกลาเทศ" แล้วป้อน BIN ในช่องหมายเลขประจําตัวธุรกิจที่เหมาะสม (ช่องที่ไม่บังคับ)
  4. คลิกบันทึก
หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 ทุกยอดขายของ Google Ads ในสิงคโปร์จะต้องเสียภาษีสินค้าและบริการ (GST) เพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 9% การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับทุกบัญชี Google Ads ซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในสิงคโปร์

หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

Google Asia Pacific Pte. Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2021 เป็นต้นไป VAT 7% จะมีผลบังคับใช้กับลูกค้า Google Ads ทั้งหมดซึ่งมีที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงินในไทยที่ไม่ได้เพิ่มหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของไทย 13 หลักไว้ในโปรไฟล์การชําระเงิน 

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุนและแจ้งหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของไทย เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอัปเดตโปรไฟล์การชําระเงินให้สอดคล้องกันได้

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยใช้วิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | gear [Icon] ที่ด้านขวาบน แล้วเลือกการตั้งค่าในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของไทย" แล้วกรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของไทยในช่องสำหรับหมายเลขจดทะเบียนภาษีซึ่งไม่บังคับให้กรอก
  4. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินผ่าน Google
  2. คลิกการตั้งค่าที่ด้านขวาบนของหน้า
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของไทย" แล้วกรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของไทยในช่องสำหรับหมายเลขจดทะเบียนภาษีซึ่งไม่บังคับให้กรอก
  4. คลิกบันทึก

หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

Google New Zealand Limited

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2018 เป็นต้นไป Google New Zealand Limited จะเป็นผู้ออกใบกำกับภาษีในฐานะตัวแทนจำหน่ายของบริการเหล่านี้ การขายของ Google Ads ทั้งหมดในนิวซีแลนด์จะต้องเสียภาษีสินค้าและบริการ (GST) 15% การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อบัญชี Google Ads ที่มีที่อยู่ธุรกิจในนิวซีแลนด์

หมายเหตุ:

Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณไม่ได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับชุดใบกำกับภาษี 2 ชุด คือ ชุดหนึ่งเมื่อคุณชําระเงินล่วงหน้า และอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป) หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบกำกับภาษี 1 ใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชําระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป

วิธีค้นหาใบกำกับภาษีในบัญชีของคุณ

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกเอกสารในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบกำกับภาษี VAT

  • ใบกำกับภาษี VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบกำกับภาษี VAT เดือนกันยายนจะปรากฏภายในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบกำกับภาษี VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการรับใบกำกับภาษี VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบกำกับภาษี

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบกำกับภาษีประมาณ 1-2 วัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบกำกับภาษี VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบกำกับภาษีถูกต้องตามกฎหมาย

ใบกำกับภาษีจากบัญชี Google Ads เป็นใบกำกับภาษีที่บันทึกไว้ ใบกำกับภาษีเหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราทำการเรียกเก็บเงินหรือคุณชำระเงินให้กับ Google)

ใบกำกับภาษีนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบกำกับภาษีเหล่านี้

ใบกำกับภาษีของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบกำกับภาษี VAT ที่ถูกต้องที่มีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

PT Google Indonesia

ใบแจ้งหนี้สําหรับทุกบัญชี Google Ads ซึ่งมีที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงินในอินโดนีเซียจะออกโดย PT Google Indonesia ในฐานะตัวแทนจําหน่ายของบริการต่างๆ และเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบด้านภาษีท้องถิ่น การขายโฆษณาทั้งหมดในอินโดนีเซียจะต้องเสีย VAT 12% ตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 เป็นต้นไป (เปลี่ยนจากอัตรา VAT 11% ในปี 2024)

สำหรับลูกค้าที่ต้องการหักภาษี ณ ที่จ่าย 2% เมื่อชำระเงิน คุณต้องส่งใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ("Bukti Potong") มาให้เราเพื่อไม่ให้มียอดค้างชำระในบัญชี คุณต้องส่งใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายมาให้เราก่อนถึงกำหนดชำระเงินตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้เชิงพาณิชย์ โปรดดูที่อยู่ด้านล่างนี้

หากใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายไม่มีคิวอาร์โค้ด คุณต้องส่งใบรับรองต้นฉบับไปยังที่อยู่ด้านล่างนี้ผ่านทาง POS Indonesia

  • หากคุณชำระค่าโฆษณาผ่านบัตรเครดิต/เดบิตหรือโอนผ่าน ATM ให้ใช้ที่อยู่ PO BOX 176 Cibinong 16900, Jl. Tegar Beriman No.7, Pakansari, Cibinong, Bogor, Jawa Barat 16914-Indonesia
  • หากคุณเป็นลูกค้าที่ออกใบแจ้งหนี้ ให้ใช้ที่อยู่ PO BOX 188 Cibinong 16900, Jl. Tegar Beriman No.7, Pakansari, Cibinong, Bogor, Jawa Barat 16914-Indonesia

หากใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายมีคิวอาร์โค้ด คุณก็ส่งไฟล์ใบรับรองนั้นให้ไปยังอีเมลด้านล่างได้โดยใช้หัวเรื่อง "ใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย PTGI ":

  • หากชำระค่าโฆษณาผ่านบัตรเครดิต/เดบิตหรือโอนผ่าน ATM ให้ใช้อีเมล eps-wht@google.com
  • หากคุณเป็นลูกค้าที่ออกใบแจ้งหนี้ ให้ใช้อีเมล collections@google.com

สำหรับลูกค้าที่มีสถานะผู้เก็บ VAT คุณต้องแสดงประกาศการจดทะเบียน (Surat Keterangan Terdaftar) ที่ออกโดยกระทรวงการคลังแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Kementerian Keuangan Republik Indonesia) คุณอัปโหลดสำเนาของเอกสารได้ที่ส่วน "การตั้งค่า" ของโปรไฟล์การชำระเงิน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะผู้เก็บ VAT

ข้อกำหนดเกี่ยวกับหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

ลูกค้าบุคคลธรรมดา

หากบัญชีเป็นประเภท "บุคคลธรรมดา" คุณจะต้องระบุหมายเลขประจำตัวผู้พำนักอาศัย ("Nomor Induk Kependudukan" หรือ "NIK") Google จะออก Faktur Pajak ที่ถูกต้องให้คุณไม่ได้หากคุณไม่ระบุ NIK ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ โปรดตรวจสอบว่าชื่อและที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในโปรไฟล์ตรงกับที่อยู่ที่จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานด้านภาษีของอินโดนีเซียสำหรับ NIK ของคุณทุกประการ

วิธีอัปเดต NIK

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. ในแผงการนำทางด้านซ้าย ให้คลิกการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกการตั้งค่า
  3. ในส่วนที่อยู่ ให้คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ อัปเดตที่อยู่ให้ตรงกับที่อยู่ที่จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานด้านภาษีของอินโดนีเซียสำหรับ NIK ของคุณ หากจำเป็น
  4. ในส่วน "ข้อมูลภาษีของอินโดนีเซีย" ให้คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ แล้วป้อน NIK ในช่อง "หมายเลขประจำตัวผู้พำนักอาศัย (NIK)"
  5. คลิกบันทึก

ลูกค้าองค์กร

หากบัญชีเป็นประเภท "องค์กร"

สําหรับผู้เสียภาษีที่เป็นสำนักงานใหญ่

ในเดือนมกราคม 2025 หมายเลข Nomor Pokok Wajib Pajak (NPWP) จะเปลี่ยนจาก 15 หลักเป็น 16 หลัก โดยเพิ่มตัวเลข "0" ไว้หน้า NPWP 15 หลักที่มีอยู่ หากคุณระบุ NPWP ที่ถูกต้องแล้ว Google จะอัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินโดยเพิ่มหมายเลข "0" นำหน้า NPWP 15 หลักที่มีอยู่ คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ

สําหรับผู้เสียภาษีที่เป็นสำนักงานสาขา

หากคุณเป็นผู้เสียภาษีที่เป็นสำนักงานสาขา คุณต้องระบุหมายเลข Nomor Identitas Tempat Kegiatan Usaha (NITKU) 22 หลักเพื่อรับเอกสาร Faktur Pajak จาก Google หมายเลข NITKU 22 หลักจะปรากฏใน Faktur Pajak เมื่อกฎระเบียบใหม่มีผลบังคับใช้ในปี 2025

นอกจากนี้ โปรดตรวจสอบว่าชื่อและที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในโปรไฟล์ตรงกับที่อยู่ที่จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานด้านภาษีของอินโดนีเซียสำหรับ NPWP หรือ NITKU ของคุณทุกประการ

หากคุณเป็นลูกค้าที่ออกใบแจ้งหนี้ โปรดติดต่อเราเพื่ออัปเดต NPWP หรือระบุ NITKU หากคุณไม่ใช่ลูกค้าที่ออกใบแจ้งหนี้ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. ในแผงการนำทางด้านซ้าย ให้คลิกการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกการตั้งค่า
  3. ในส่วน "ชื่อและที่อยู่" ให้คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ อัปเดตชื่อและที่อยู่ให้ตรงกับที่จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานด้านภาษีของอินโดนีเซียสำหรับ NPWP หรือ NITKU ของคุณ หากจำเป็น
  4. ในส่วน "ข้อมูลภาษีของอินโดนีเซีย" โปรดตรวจสอบว่าหมายเลข NPWP 15 หลักถูกต้อง
  5. หากต้องอัปเดต ให้คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ แล้วอัปเดต NPWP ในช่อง Nomor Pokok Wajib Pajak (NPWP) จากนั้นไปยังขั้นตอนที่ 7
  6. หากคุณเป็นลูกค้าสำนักงานสาขา ในส่วน "ข้อมูลภาษีของอินโดนีเซีย" ให้เลือกปุ่มตัวเลือกสำนักงานสาขา แล้วป้อนหมายเลข NITKU 22 หลักในช่อง Nomor Identitas Tempat Kegiatan Usaha (NITKU)
  7. คลิกบันทึก
หมายเหตุ: Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณไม่ได้ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

การชำระค่าธรรมเนียมสำหรับบริการดิจิทัลนอกประเทศที่ให้บริการโดย Google Asia Pacific Pte Ltd / Google Ireland Ltd ซึ่งคุณต้องชำระในหรือหลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 จะมีการคิดภาษี 5% ตามกฎหมายด้านการเงินของปากีสถานปี 2018 ในกรณีที่คุณอาจต้องชำระภาษีนี้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของโปรแกรม Google Ads ลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบภาษีหรือค่าบริการจากภาครัฐบาลที่ใช้บังคับในปากีสถานสำหรับบริการที่ใช้
ทั้งนี้พึงทราบว่า Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีหรือค่าบริการจากภาครัฐแก่คุณไม่ได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีและการชำระเงินของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้

ภาษีทางอ้อม

เนื่องจากสัญญาธุรกิจ Google Ads ได้จดทะเบียนกับ Google Asia Pacific Pte. Ltd. ในสิงคโปร์ จึงไม่เรียกเก็บภาษีทางอ้อมในท้องถิ่นจากกิจกรรมของ Google Ads ดังนั้นภาษีทางอ้อมจะไม่แสดงในใบแจ้งหนี้

Google Australia Pty Limited

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2016 เป็นต้นไป Google Australia Pty Limited จะเป็นผู้ออกใบแจ้งหนี้ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของบริการเหล่านี้ การขายของ Google Ads ทั้งหมดในออสเตรเลียจะต้องเสียภาษีสินค้าและบริการ (GST) 10% การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อบัญชี Google Ads ที่มีที่อยู่ธุรกิจในออสเตรเลีย

โปรดทราบว่า Google ให้คำแนะนำคุณในเรื่องเกี่ยวกับภาษีไม่ได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ 2 ชุด นั่นคือ ชุดหนึ่งเมื่อชำระเงินล่วงหน้าและอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" แล้ว) หากใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ 1 ใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" แล้ว

วิธีค้นหาใบแจ้งหนี้ในบัญชีมีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกเอกสารในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบแจ้งหนี้ VAT

  • ใบแจ้งหนี้ VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบแจ้งหนี้ VAT เดือนกันยายนจะปรากฏในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบแจ้งหนี้ VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร คุณจึงควรเผื่อเวลาในการรับใบแจ้งหนี้ VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบแจ้งหนี้

บางครั้งการเรียกเก็บเงินที่เห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนของส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบแจ้งหนี้ประมาณ 1-2 วัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบแจ้งหนี้ VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบแจ้งหนี้ถูกต้องตามกฎหมาย

ใบแจ้งหนี้จากบัญชี Google Ads เป็นใบแจ้งหนี้ที่บันทึกไว้ ใบแจ้งหนี้เหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราทำการเรียกเก็บเงินหรือคุณชำระเงินให้กับ Google)

ใบแจ้งหนี้นั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบแจ้งหนี้เหล่านี้

ใบแจ้งหนี้ VAT ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบแจ้งหนี้ VAT ที่ถูกต้องที่มีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

Google Japan G.K.

ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2019 เป็นต้นไป Google Japan G.K. จะเป็นผู้ออกใบแจ้งหนี้ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของบริการต่างๆ ซึ่งหมายความว่าการขายโฆษณาในญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีการบริโภคของญี่ปุ่น (JCT) 10% การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับบัญชี Google Ads ที่มีที่อยู่ธุรกิจในญี่ปุ่น


โปรดทราบว่า Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณไม่ได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ภาษีในอินเดีย

หากคุณอาศัยอยู่ในอินเดีย คุณจะต้องเสียภาษีสินค้าและบริการ (GST) จากการซื้อทั้งหมด

GST เป็นการจัดเก็บภาษีแบบทวิภาคที่แต่ละรัฐและรัฐบาลกลางของอินเดียต่างใช้เก็บภาษีสินค้าและบริการ

GST ประกอบด้วยภาษี 3 ประเภทคือ ภาษีระดับรัฐบาลกลาง ภาษีระดับรัฐ และภาษีรวม สถานที่ตั้งของ Google ที่ให้บริการและสถานที่ตั้งที่คุณซื้อจะเป็นตัวกำหนดภาษีที่ต้องจ่ายเมื่อทำการซื้อ โดยมีอัตราดังต่อไปนี้

  • อัตรา GST ระดับรัฐบาลกลาง (CGST): 9%
  • อัตรา GST ระดับรัฐ (SGST): 9%
  • อัตรา GST รวม (IGST): 18%
หมายเหตุ
  • ผู้ลงโฆษณาที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในรัฐหรยาณา (เช่น บริการภายในรัฐ) ระบบจะเรียกเก็บภาษีตามอัตรา CGST + SGST ส่วนผู้ลงโฆษณาที่เหลือจะถูกเรียกเก็บตามอัตรา IGST
  • GST สำหรับผู้ลงโฆษณา SEZ คือ 0%

หากคุณรับบริการจาก Google India Private Limited (GIPL) หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีจะเป็นตัวกำหนดภาษีที่ใช้กับการซื้อของคุณ บัญชีธุรกิจต้องมีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีสินค้าและบริการ (GSTIN) แต่บัญชีบุคคลธรรมดาจะมีหรือไม่ก็ได้

สถานที่ยื่น GSTIN

หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินแบบการแจ้งหนี้รายเดือน โปรดติดต่อผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้า หรืออีเมลหาเราเพื่อส่ง GSTIN

ผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ทั้งหมดสามารถกรอกข้อมูลได้โดยไปที่ "การเรียกเก็บเงินและการชำระเงิน" แล้วคลิก "การตั้งค่า" จากเมนูทางซ้าย จากนั้นไปที่ "โปรไฟล์การชำระเงิน" เพื่อกรอกหมายเลขประจำตัวที่เกี่ยวข้องในส่วน "ข้อมูลภาษีของอินเดีย"

สำหรับบัญชีที่ดำเนินการโดยเอเจนซี ให้ตรวจสอบว่าที่อยู่และ GST ที่ระบุตรงกับบริษัทและรัฐที่ชำระใบแจ้งหนี้และอ้าง GST แล้ว หากชื่อและที่อยู่ของบริษัทที่ "เรียกเก็บเงิน" ไม่เหมือนกับบริษัทที่ชำระใบแจ้งหนี้จริง ให้อัปเดตที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน

สําหรับบัญชีธุรกิจหรือบัญชีบุคคลธรรมดา ให้ตรวจสอบว่าที่อยู่และ GSTIN ที่ระบุเป็นของสถานที่ตั้งที่จะได้รับบริการ ซึ่งหมายความว่า GSTIN ควรตรงกับรัฐที่แสดงในที่อยู่ "สำหรับการเรียกเก็บเงิน" ของใบแจ้งหนี้ หากไม่ตรง ระบบจะถือว่าออกใบแจ้งหนี้ดังกล่าวให้กับลูกค้าที่ไม่ได้จดทะเบียนและรายงานด้วยข้อมูลดังกล่าวในแบบแสดงรายการ GST ของ Google

ข้อมูลนี้ช่วยให้ประเมินภาษีได้อย่างถูกต้อง

ข้อควรทราบ

  • ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินด้วยตนเองหรืออัตโนมัติจะได้รับการประเมินภาษีและการเรียกเก็บเงิน 1 ครั้งตอนสิ้นเดือนของทุกเดือน
  • Google ให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณไม่ได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของบริษัทหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้

เกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย (TDS)

ต้องมีการออกใบรับรอง TDS ทุกไตรมาส ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรของอินเดีย

ใบรับรองสำหรับไตรมาสที่สิ้นสุดในเดือนมิถุนายน กันยายน ธันวาคม และมีนาคมจะต้องออกในแบบฟอร์ม 16A ภายใน 15 วันนับจากวันครบกำหนดยื่นแบบแสดงรายการ TDS โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในวันที่ 15 สิงหาคม, 15 พฤศจิกายน, 15 กุมภาพันธ์ และ 15 มิถุนายน

ใบรับรอง TDS สำหรับปีงบประมาณก่อนหน้าจะไม่ได้รับการยอมรับ หากส่งมาหลังจากวันที่ 15 มิถุนายนของปีงบประมาณปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ใบรับรอง TDS สำหรับปีงบประมาณ 2021-2022 ควรส่งไม่เกินวันที่ 15 มิถุนายน 2022

หมายเลขบัญชีถาวรของ Google (PAN) คือ AACCG0527D และที่อยู่จดทะเบียนในใบรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (TDS) ควรเป็นที่อยู่นี้

Google India Pvt. Ltd.

No.3, RMZ Infinity, Tower E,

Old Madras Road, 4th & 5th Floor,

Bangalore - 560 016

การส่งใบรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (TDS)

หากบัญชีของคุณใช้การแจ้งหนี้รายเดือน โปรดส่งสำเนาดิจิทัลของใบรับรอง TDS ซึ่งอาจเป็นใบรับรองที่ลงชื่อแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือที่ลงลายมือชื่อแล้วสแกนเป็น PDF ไปที่ collections-in@google.com โดยตรง

หากบัญชีของคุณใช้การชำระเงินด้วยตนเองหรือการชำระเงินอัตโนมัติ โปรดส่งสำเนาดิจิทัลของใบรับรอง TDS ซึ่งอาจเป็นใบรับรองที่ลงชื่อแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือที่ลงลายมือชื่อแล้วสแกนเป็น PDF มาให้เราทางอีเมล บัญชีของคุณจะได้รับจำนวนเครดิตเมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว

TDS มีอัตราเท่าใด

อัตราปัจจุบันของ TDS สำหรับการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาให้ Google India Private Limited คือ 2% ซึ่งไม่รวม GST (ตามหนังสือเวียนฉบับที่ 23 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2017 ที่ออกโดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยภาษีทางตรง กระทรวงการคลัง และรัฐบาลอินเดีย) อย่างไรก็ตาม อัตราของ TDS จะเปลี่ยนแปลงไปตามระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล โปรดทราบว่า Google Ads ให้คำแนะนำด้านภาษีไม่ได้ หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TDS หรือข้อสงสัยด้านภาษีอื่นๆ โปรดปรึกษากับที่ปรึกษาด้านภาษี

คำประกาศภายใต้มาตรา 206AB ของกฎหมายภาษีเงินได้ปี 1961

Google ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของปีประเมินภาษี 2 ปี โดยเป็น 2 ปีก่อนหน้าปีที่ผ่านมาซึ่งมีการหักภาษี และเลยกำหนดการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ที่ระบุไว้ในมาตรา 139(1) ของกฎหมายภาษีเงินได้ปี 1961 ("กฎหมาย") มาแล้ว

ด้วยเหตุนี้ Google จึงไม่ใช่ "บุคคลที่ระบุ" ตามคำนิยามที่ระบุไว้ในบทบัญญัติของมาตรา 206AB ของกฎหมายภาษีเงินได้ปี 1961 ดังนั้นอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามที่ระบุจึงไม่มีผลบังคับใช้

ภาษีในรัสเซีย

เราจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 20% สำหรับค่าใช้จ่าย Google Ads ทั้งหมดจากผู้ลงโฆษณา Google Ads ทั้งหมดที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในรัสเซีย โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ

หากคุณอยู่ในสหพันธรัฐรัสเซีย การดำเนินการที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

  • ไม่ว่าคุณจะเลือกสถานะภาษีเป็น "ธุรกิจ" "ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา" หรือ "บุคคลธรรมดา" ก็ต้องชำระ VAT ตามอัตราของประเทศรัสเซียในปัจจุบันตามที่กฎหมายของรัสเซียกำหนดเสมอ (บัญชีของคุณจะได้รับการจัดการโดย Google Russia)
  • คุณดูการเรียกเก็บ VAT ได้โดยคลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก สรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ระบบจะเรียกเก็บ VAT ตามการใช้จริง

VAT ใน USN

ตามข้อกำหนดด้านภาษีในรัสเซีย หากอยู่ใน USN คุณจะไม่ต้องชำระค่า VAT สำหรับสินค้าและบริการที่ขายหรือซื้อ อย่างไรก็ตาม เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ภายใต้ระเบียบภาษีทั่วไป คุณจะชำระ VAT ที่รวมอยู่ในราคาของผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ เนื่องจาก OOO "Google" ดำเนินกิจการอยู่ภายใต้ระเบียบภาษีทั่วไป คุณจึงต้องชำระค่า VAT สำหรับ Google Ads ด้วย

โปรดทราบว่า Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ ดังนั้น หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

การเปลี่ยนสถานะภาษี

เมื่อลงชื่อสมัครใช้ Google Ads คุณจะต้องเลือกสถานะภาษี "ส่วนบุคคล" "ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา" หรือ "ธุรกิจ" หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงสถานะภาษี โปรดติดต่อเรา การเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกรรมที่ผ่านมาหรือเอกสารการทำบัญชีก่อนหน้านี้ และจะเริ่มมีผลนับจากวันที่เราทำการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

การแก้ไขข้อมูล VAT

หากต้องการตรวจสอบชื่อบริษัทหรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (INN และ KPP) ที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้รายเดือน ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกการตั้งค่า

อัปเดตหมายเลข KPP

หากหมายเลข KPP ของคุณเปลี่ยนแปลงไป คุณจะแก้ไขในบัญชีของคุณได้ หากต้องการอัปเดต KPP โปรดทำตามขั้นตอนด้านล่าง

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่ https://ads.google.com
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกการตั้งค่าจากเมนูด้านซ้าย แล้วมองหาส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน"
  4. คลิกไอคอนดินสอเพื่อแก้ไขและอัปเดต KPP จากนั้นคลิกบันทึกเมื่อทำเสร็จ

หมายเหตุ

เราจะเปลี่ยนแปลง KPP ได้หาก INN ของคุณยังเหมือนเดิม คุณจะเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและชื่อบริษัทที่จดทะเบียนไว้ไปใช้ชื่อบริษัทอื่นไม่ได้ หากต้องการใช้บัญชี Google Ads สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนบริษัทอื่น (มี INN อื่น) โปรดติดต่อเรา การเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกรรมที่ผ่านมาหรือเอกสารการทำบัญชีก่อนหน้านี้ และจะเริ่มมีผลนับจากวันที่เราทำการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

เปลี่ยนชื่อบริษัทของคุณ

หากชื่อบริษัทของคุณเปลี่ยนไป โปรดติดต่อเรา ในการอัปเดตข้อมูลนี้ เราต้องใช้ภาพสแกนใบรับรองภาษีซึ่งระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและชื่อบริษัทที่จดทะเบียนของคุณ เมื่อเราได้รับและยืนยันใบรับรองภาษีแล้ว เราจะเปลี่ยนชื่อบริษัทที่ปรากฏในบัญชี Google Ads และบนใบแจ้งหนี้รายเดือน และจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หมายเหตุ

เราจะเปลี่ยนแปลง KPP หรือชื่อบริษัทของคุณได้ต่อเมื่อ INN ของคุณยังเหมือนเดิมเท่านั้น คุณจะเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและชื่อบริษัทที่จดทะเบียนไว้ไปใช้ชื่อบริษัทอื่นไม่ได้ หากต้องการใช้บัญชี Google Ads สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนบริษัทอื่น (มี INN อื่น) โปรดติดต่อเรา การเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกรรมที่ผ่านมาหรือเอกสารการทำบัญชีก่อนหน้านี้ และจะเริ่มมีผลนับจากวันที่เราทำการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

แก้ไข INN ของคุณ

หากบัญชี Google Ads ของคุณมี INN (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) ไม่ถูกต้อง จะเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่เกิดจากการพิมพ์ผิดในขณะที่สร้างบัญชี Google Ads เท่านั้น โปรดติดต่อเรา และส่งภาพสแกนของสำเนาใบรับรองภาษีที่ระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณและชื่อบริษัทที่จดทะเบียน เมื่อเราได้รับและยืนยันใบรับรองภาษีแล้ว เราจะเปลี่ยน INN ที่ปรากฏในบัญชี Google Ads และบนใบแจ้งหนี้รายเดือน

หากต้องการใช้บัญชี Google Ads สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนบริษัทอื่น (มี INN อื่น) โปรดติดต่อเรา การเปลี่ยนแปลงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกรรมที่ผ่านมาหรือเอกสารการทำบัญชีก่อนหน้านี้ และจะเริ่มมีผลนับจากวันที่เราทำการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

เปลี่ยนที่อยู่ตามกฎหมายหรือที่อยู่ไปรษณีย์ของคุณ

หากที่อยู่ตามกฎหมายหรือที่อยู่ไปรษณีย์ของคุณเปลี่ยนแปลงไป ให้อัปเดตที่อยู่ด้วยวิธีต่อไปนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่ https://ads.google.com
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. หากต้องการอัปเดตที่อยู่ตามกฎหมาย ให้ไปที่ส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน" แล้วทำการเปลี่ยนแปลง คลิกบันทึกเมื่อทำเสร็จ
  4. หากต้องการอัปเดตที่อยู่จัดส่ง ให้ไปที่ส่วน "บัญชีการชำระเงิน" แล้วทำการเปลี่ยนแปลง คลิกบันทึกเมื่อทำเสร็จ

การคำนวณ VAT

คุณดูการเรียกเก็บ VAT ได้โดยคลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก สรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" แล้วคลิก ธุรกรรม จากเมนูทางซ้าย

วิธีคำนวณ VAT

การเรียกเก็บ VAT จะพิจารณาจากมูลค่าของคลิกและการแสดงผลที่เกิดขึ้นของคุณ

การใช้งาน + VAT = จำนวนเงินที่ชำระ

เวลาเรียกเก็บ VAT

อาจมีการเรียกเก็บ VAT 1 ครั้งเมื่อสิ้นเดือนตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนที่ให้บริการ

ตัวอย่าง

  • สมมติว่าบัญชี Google Ads ของคุณได้รับการชำระเงินมูลค่า RUB 100 ในวันที่ 10 มิถุนายน
  • เกิดการใช้งานขึ้นในแต่ละวันจนกระทั่งใช้การชำระเงิน RUB 100 ดังกล่าวจนหมดในวันที่ 25 มิถุนายน
  • รายการ VAT จะปรากฏในวันที่ 25 มิถุนายน โดยแสดงค่า VAT จากการชำระเงิน RUB 100

ตัวอย่าง

  • สมมติว่าบัญชี Google Ads ของคุณได้รับการชำระเงินมูลค่า RUB 100 ในวันที่ 25 มิถุนายน
  • ในช่วงสิ้นเดือนหรือวันที่ 30 มิถุนายน ใช้การชำระเงินไปแล้วทั้งสิ้น RUB 50 รายการ VAT จะปรากฏในวันที่ 30 มิถุนายน โดยแสดงค่า VAT จากการใช้งานมูลค่า RUB 50

โปรดทราบว่าการเรียกเก็บค่า VAT อาจรวมจำนวนเงินภาษีสำหรับการชำระเงินมากกว่า 1 รายการ หากใช้การชำระเงินมากกว่า 1 รายการจนหมด

VAT ในเครดิตส่งเสริมการขายหรือการปรับค่าใช้จ่าย

หากคุณได้รับรางวัลจากข้อเสนอโปรโมชันหรือการปรับเครดิตประเภทอื่นๆ VAT จะมีผลกับการใช้งานที่ชำระโดยเครดิตนี้โดยอัตโนมัติ คุณจะได้รับ VAT จำนวนนี้คืนทั้งหมดเมื่อใช้เครดิตจนหมด หรือคืนเงินบางส่วนในช่วงสิ้นเดือนของเดือนเดียวกันหากใช้เครดิตไปส่วนหนึ่งเท่านั้น

หากคุณมีปัญหาในการทำความเข้าใจเรื่องการเรียกเก็บค่า VAT โปรดติดต่อเรา

VAT และ "เครดิตที่เหลืออยู่"

หน้าสรุปมี 2 ส่วนที่ระบุยอดดุลในบัญชีของคุณ ดังนี้

  1. ส่วน "เครดิตที่เหลือของคุณ" เหนือตารางแสดงยอดเงินคงเหลือสำหรับกิจกรรมการโฆษณาและค่า VAT ในอนาคตโดยประมาณ ให้ตรวจสอบช่องนี้เพื่อประเมินยอดเงินที่เหลืออยู่ในบัญชี
  2. คอลัมน์ "ยอดคงเหลือ" ในตารางประวัติการทำธุรกรรม: แสดงยอดเงินคงเหลือในบัญชีโดยไม่รวมค่าใช้จ่าย VAT ในอนาคตโดยประมาณกับจำนวนเงินที่ไม่ได้ใช้

ราคาเสนอและงบประมาณที่คุณตั้งไว้ในแท็บ "แคมเปญ" จะไม่รวม VAT

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คือภาษี 10% จากสินค้าและบริการที่ชำระให้กับหน่วยงานด้านภาษีของเกาหลี วิธีการชำระเงินของคุณเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะต้องจ่าย VAT ในเกาหลีหรือไม่ และจ่ายอย่างไร 

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาที่เป็นบริษัท (ประเภทบัญชีคือ "องค์กร") และได้ระบุ BRN (หมายเลขทะเบียนธุรกิจ) ที่ถูกต้อง เราจะส่งใบกำกับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละเดือนให้กับคุณ ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อยื่นภาษีได้ หากวิธีการชำระเงินของคุณคือบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต คุณจะได้รับใบเสร็จบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตจากผู้ประมวลผลการชำระเงินด้วย

สำหรับผู้ลงโฆษณาที่เป็นบริษัทที่ได้รับทั้งใบกํากับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์และใบเสร็จบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ให้ใช้ใบกำกับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์ในการยื่นภาษีต่อไป

เลือกวิธีการชำระเงินที่ใช้กับบัญชีของคุณที่ด้านล่างนี้

การชําระเงินด้วยตนเองหรือการชำระเงินอัตโนมัติโดยใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต

หากคุณได้ลงนามในข้อตกลงกับ Google Asia Pacific Pte. Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2019 ตามกฎหมายท้องถิ่นของประเทศเกาหลีใต้ Google ได้เริ่มบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% ในทุกธุรกรรมแล้ว เว้นแต่ว่าคุณจะเป็นผู้ลงโฆษณาของบริษัท และได้ระบุหมายเลขจดทะเบียนธุรกิจที่ถูกต้องในรูปแบบ xxx-xx-xxxxx

หากคุณได้ลงนามในข้อตกลงกับ Google Korea LLC

เราจะบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% ในทุกธุรกรรม คุณจะเห็นมูลค่าของ VAT สําหรับค่าโฆษณาแสดงอยู่ในหน้า "ธุรกรรมที่มีการเรียกเก็บเงิน"

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาของบริษัทและได้ระบุหมายเลขทะเบียนธุรกิจที่ถูกต้อง คุณจะได้รับใบกํากับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละเดือน ซึ่งสามารถนําไปใช้เพื่อยื่นภาษีได้ภายใน 10 วันแรกของเดือนถัดไป MakeBill ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์การออกใบแจ้งหนี้ในพื้นที่ของ Google จะส่งอีเมลไปให้ผู้รับผิดชอบหลักสำหรับการเรียกเก็บเงินในบัญชีของคุณ ใบแจ้งหนี้นี้จะแสดงมูลค่าที่ใช้ในการคำนวณ VAT หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาที่เป็นบุคคลธรรมดา คุณจะไม่ได้รับใบกํากับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับใบเสร็จบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจากผู้ประมวลผลการชําระเงินของบัตรด้วย หากคุณได้รับทั้งใบกํากับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์และใบเสร็จบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ให้ยื่นภาษีโดยใช้ใบแจ้งหนี้ VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์

การอัปเดตข้อมูล VAT

คุณจะอัปเดตข้อมูล VAT ในบัญชีได้ตลอดเวลา โดยทำดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปในส่วน "การเรียกเก็บเงินและการชําระเงิน"
  3. คลิกการตั้งค่าทางด้านข้างของหน้า
  4. มองหา "โปรไฟล์การชำระเงิน" แล้วทำการเปลี่ยนแปลง
  5. คลิกบันทึกเมื่อทำเสร็จ
การชำระเงินด้วยตนเองโดยใช้ LG U+

เมื่อคุณทำการชำระเงินผ่าน LG U+ เราจะหักค่า VAT 10% ออกจากการชำระเงินของคุณโดยอัตโนมัติเพื่อนำมาใช้กับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่คาดไว้ จากนั้นเราจะแสดงโฆษณาของคุณด้วยจำนวนการชำระเงินที่เหลืออยู่ ขณะที่โฆษณาของคุณทำงาน เราจะจ่าย VAT ทุกเดือนตามค่าโฆษณาที่เกิดขึ้นในเดือนนั้น

ในหน้า "ธุรกรรมการเรียกเก็บเงิน" คุณจะเห็นมูลค่า VAT ของการชําระเงินแต่ละครั้ง หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาของบริษัท คุณจะได้รับใบกํากับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละเดือน ซึ่งสามารถนําไปใช้เพื่อยื่นภาษีได้ภายใน 10 วันแรกของเดือนถัดไป MakeBill ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์การออกใบแจ้งหนี้ในพื้นที่ของ Google จะส่งอีเมลไปให้ผู้รับผิดชอบหลักสำหรับการเรียกเก็บเงินในบัญชีของคุณ ใบแจ้งหนี้นี้จะแสดงมูลค่าที่ใช้ในการคำนวณ VAT หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาที่เป็นบุคคลธรรมดา คุณจะไม่ได้รับใบกํากับภาษี VAT แบบอิเล็กทรอนิกส์

โปรดทราบว่า LG U+ จะส่งใบเสร็จรับเงินสำหรับการชำระเงินแต่ละรายการให้คุณ ใบเสร็จนี้ใช้กับรายงาน VAT ไม่ได้

การอัปเดตข้อมูล VAT

คุณอัปเดตข้อมูล VAT ในบัญชีได้ทุกเมื่อโดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปในส่วน "การเรียกเก็บเงินและการชําระเงิน"
  3. คลิกการตั้งค่าทางด้านข้างของหน้า
  4. มองหา "โปรไฟล์การชำระเงิน" แล้วทำการเปลี่ยนแปลง
  5. คลิกบันทึกเมื่อทำเสร็จ
การตั้งค่าการชำระเงินสำหรับการแจ้งหนี้รายเดือน

หากคุณมีบัญชี Google Ads ในการแจ้งหนี้รายเดือนและใช้สกุลเงิน KRW เราจะเรียกเก็บ VAT 10% จากค่าโฆษณารายเดือน หากคุณไม่ได้ใช้สกุลเงิน KRW แสดงว่าคุณได้ลงนามข้อตกลงกับ Google Asia Pacific และต้องชําระ VAT หากไม่ได้ระบุหมายเลขทะเบียนธุรกิจที่ถูกต้อง

สำหรับลูกค้าที่ใช้สกุลเงิน KRW นั้น MakeBill ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์การแจ้งหนี้ในท้องถิ่นของ Google จะส่งอีเมลที่มีลิงก์ไปยังใบกำกับภาษีท้องถิ่นให้ผู้รับผิดชอบหลักเรื่องการเรียกเก็บเงินทุกเดือน หากต้องการอัปเดตข้อมูล VAT หรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่อีเมลที่ใช้รับใบกำกับภาษีท้องถิ่น โปรดติดต่อเรา

หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาในเม็กซิโกที่ใช้การชำระเงินด้วยตนเองหรือการแจ้งหนี้รายเดือน Google จะเรียกเก็บเงินคุณ 16% เพื่อให้ครอบคลุม Impuesto sobre Valor Agregado (IVA) ซึ่งวิธีการเรียกเก็บจะขึ้นอยู่กับการตั้งค่าการชำระเงินของคุณ คลิกลิงก์ที่เกี่ยวข้องด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

การตั้งค่าการชําระเงินสําหรับการแจ้งหนี้รายเดือน

หากใช้การแจ้งหนี้รายเดือน Google จะเพิ่มค่าใช้จ่าย 16% ในใบแจ้งหนี้ของคุณเพื่อให้ครอบคลุม IVA

การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ

เราจะเพิ่มภาษี Impuesto sobre Valor Agregado (IVA) 16% ในทุกธุรกรรม คุณจะเห็นจำนวนเงินที่แสดงไว้ของ VAT สําหรับค่าโฆษณาในหน้า "กิจกรรมที่มีการเรียกเก็บเงิน"

หากคุณระบุหมายเลข RFC (Registro Federal de Contribuyentes) ที่ถูกต้อง คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละเดือนภายใน 5 วันแรกของเดือนถัดไป Edicom ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์การออกใบแจ้งหนี้ในพื้นที่ของ Google จะส่งอีเมลใบแจ้งหนี้ไปให้ผู้ติดต่อสำหรับการเรียกเก็บเงินหลักในบัญชีของคุณ ใบแจ้งหนี้นี้จะแสดงมูลค่าที่ใช้ในการคำนวณ VAT 

นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับใบเสร็จบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตจากผู้ประมวลผลการชําระเงินของบัตรด้วย

การตั้งค่าการชำระเงินด้วยตนเอง

Google จะหัก 16% จากการชําระเงินด้วยตนเองทั้งหมดเพื่อให้ครอบคลุม IVA จากนั้น Google จะโอนเงินที่เหลือเข้าบัญชีของคุณ

เมื่อชำระเงิน Google ถือว่าคุณได้รวมจำนวนเงินที่ต้องการโอนเข้าบัญชีแล้ว รวมถึง 16% ของเงินจำนวนนี้เพื่อให้ครอบคลุม IVA

ซึ่งหมายความว่าหากคุณชำระเงินเป็นจำนวน X Google จะแบ่งเงินจำนวนดังกล่าวออกเป็น Y และ 16% ของ Y ซึ่งรวมกันแล้วเท่ากับ X Google จะโอนเงินจำนวน Y เข้าบัญชีของคุณและจ่าย 16% ของ Y เป็นภาษีให้แก่หน่วยงานด้านภาษีของเม็กซิโก

นี่คือสมการที่ Google ใช้ โดยที่ X คือจํานวนเงินที่คุณชําระ และ Y คือจํานวนเงินที่โอนเข้าบัญชีของคุณ

  • X = Y + (0.16 * Y)
    X = 1.16 * Y
    Y = X/1.16

ลองดูตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นต่อไปนี้

สมมติว่าคุณชำระเงินเป็นจำนวน $116 MXN ในการพิจารณาจำนวนเงินที่โอนเข้าบัญชี (Y) Google จะคำนวณดังนี้

  • Y = MXN 116/1.16
    Y = MXN 100

เราจะโอนเงินเข้าบัญชีเป็นจำนวน MXN 100 และส่งเงินที่เหลือ MXN 16 ให้กับหน่วยงานด้านภาษีของเม็กซิโก

วิธีเปลี่ยนแปลงข้อมูลภาษี

หากกรอกข้อมูลภาษีไม่ถูกต้อง โปรดติดต่อเราและส่งข้อมูลภาษีที่ถูกต้อง ผู้เชี่ยวชาญ Google Ads จะติดต่อคุณเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม เราออกใบแจ้งหนี้ที่สร้างขึ้นก่อนที่ข้อมูลภาษีจะได้รับการอัปเดตในบัญชี Google Ads ของคุณอีกครั้งไม่ได้

ภาษีในยูเครน

ผู้ลงโฆษณา Google ทั้งหมดที่ชำระเงินด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารและมีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในยูเครนต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 20% ตามอัตราของประเทศยูเครนในปัจจุบันตามที่กฎหมายของยูเครนกำหนด

หากบัญชีของคุณได้รับการจัดการโดย Google Ukraine ตามข้อกำหนดด้านภาษีในยูเครน เมื่อคุณซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทที่ดําเนินกิจการอยู่ภายใต้ระเบียบภาษีทั่วไป คุณจะชำระ VAT ที่รวมอยู่ในราคาของผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ เนื่องจาก "Google Ukraine" ดำเนินกิจการอยู่ภายใต้ระเบียบภาษีทั่วไป คุณจึงต้องชำระค่า VAT สำหรับ Google Ads ด้วย

หากบัญชีของคุณได้รับการจัดการโดย Google Ireland และคุณชําระเงินด้วยบัตรเครดิต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 Google จะเริ่มเรียกเก็บ VAT 20% จากลูกค้าที่มีสถานะภาษี "ส่วนบุคคล" รวมถึงลูกค้าที่มีสถานะภาษี "ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา" ซึ่งตั้งค่า "สถานะการจดทะเบียน VAT" เป็น "ไม่ได้ลงทะเบียน" ส่วนลูกค้าที่มีสถานะภาษี "ธุรกิจ" จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้จะเพิ่มหรืออัปเดตสถานะภาษีในบัญชี Google Ads ได้ 1 ครั้ง หากต้องมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ให้เลื่อนลงไปที่ส่วน "การเปลี่ยนสถานะการจดทะเบียน VAT" เพื่อดูวิธีเปลี่ยนสถานะการจดทะเบียน VAT 

คุณดูการเรียกเก็บ VAT ได้ในหน้า "ธุรกรรม" หรือ "สรุป" หากต้องการไปยังหน้าดังกล่าว ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"

โปรดทราบว่า Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ ดังนั้น หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

การเปลี่ยนสถานะภาษี

เมื่อคุณลงชื่อสมัครใช้ Google Ads คุณจะต้องเลือกสถานะภาษี "ส่วนบุคคล" "ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา" หรือ "ธุรกิจ" เมื่อคุณตัดสินใจเลือกแล้ว จะเปลี่ยนไปใช้สถานะอื่นไม่ได้ ตัวอย่างเช่น หากเลือก "ส่วนบุคคล" คุณจะเปลี่ยนสถานะเป็น "ธุรกิจ" แทนไม่ได้

หากต้องเปลี่ยนสถานะภาษี โปรดปิดบัญชี Google Ads ที่มีอยู่และสร้างบัญชีใหม่ที่มีสถานะที่ต้องการ ใช้ที่อยู่อีเมลอื่นในการสร้างบัญชีใหม่นี้ หรือหากต้องการใช้อีเมลเดิม คุณจะต้องเปลี่ยนอีเมลนั้นในบัญชี Google Ads ที่มีอยู่ก่อนจะปิดบัญชีนั้น

การแก้ไขข้อมูล VAT

หากต้องการตรวจสอบชื่อบริษัท ที่อยู่ตามกฎหมาย หรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (EDRPOU) ที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้รายเดือน ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกการตั้งค่าที่ด้านซ้ายมือ

การเปลี่ยนชื่อตามกฎหมายของบริษัท

หากชื่อบริษัทของคุณเปลี่ยนไป โปรดติดต่อเรา ในการอัปเดตข้อมูลนี้ เราต้องการภาพสแกนของเอกสารการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน และที่อยู่ตามกฎหมาย เมื่อได้รับเอกสารการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้ว เราจะเปลี่ยนชื่อบริษัทที่ปรากฏในบัญชี Google Ads และบนเอกสารทางบัญชี เราจะแจ้งให้คุณทราบหลังดำเนินการ หลังจากทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว คุณก็ร้องขอให้แก้ไขเอกสารที่ออกให้ก่อนหน้านี้ซึ่งแสดงชื่อและ EDRPOU ที่แก้ไขแล้วได้

หมายเหตุ

เราจะเปลี่ยนชื่อบริษัทได้ต่อเมื่อ EDRPOU ของคุณยังเหมือนเดิมเท่านั้น คุณจะเปลี่ยนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและชื่อบริษัทที่จดทะเบียนไว้ไปใช้ชื่อบริษัทอื่นไม่ได้ หากต้องการใช้บัญชี Google Ads สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนบริษัทอื่น (มี IIN อื่น) โปรดสร้างบัญชีอีกบัญชีหนึ่ง

การแก้ไข EDRPOU

หากบัญชี Google Ads ของคุณมี EDRPOU หรือ IIN (หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี) ไม่ถูกต้อง จะเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่เกิดจากการพิมพ์ผิดในขณะที่สร้างบัญชี Google Ads เท่านั้น โปรดติดต่อเรา และส่งภาพสแกนของสำเนาใบรับรองภาษีที่ระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณและชื่อบริษัทที่จดทะเบียน เมื่อเราได้รับและยืนยันใบรับรองภาษีของคุณแล้ว เราจะแก้ไข IIN หรือ EDRPOU ที่ปรากฏในบัญชี Google Ads และในเอกสารทางบัญชีของคุณในอนาคต กรณีนี้คุณจะขอฉบับแก้ไขของเอกสารที่ออกก่อนหน้านี้ไม่ได้ IIN หรือ EDRPOU ที่ถูกต้องจะแสดงเฉพาะบนเอกสารที่ออกหลังจากมีการแก้ไขแล้วเท่านั้น

หากต้องการใช้บัญชี Google Ads สำหรับบริษัทที่จดทะเบียนบริษัทอื่น (มี IIN หรือ EDRPOU อื่น) โปรดสร้างบัญชีอีกบัญชีหนึ่ง

การเปลี่ยนสถานะการจดทะเบียน VAT

หากสถานะการจดทะเบียน VAT เปลี่ยนแปลงไป โปรดติดต่อเรา คุณจะต้องส่งภาพสแกนของสำเนาใบรับรองภาษีที่ระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของคุณ ชื่อบริษัทที่จดทะเบียน และสถานะการจดทะเบียนภาษี VAT เมื่อเราได้รับและตรวจสอบใบรับรองภาษีแล้ว เราจะเปลี่ยนสถานะในบัญชี Google Ads ของคุณ การเปลี่ยนแปลงจะปรากฏในเอกสารทางบัญชีของคุณในอนาคต กรณีนี้คุณจะขอฉบับแก้ไขของเอกสารที่ออกก่อนหน้านี้ไม่ได้

การเปลี่ยนที่อยู่ตามกฎหมายหรือที่อยู่ไปรษณีย์ของคุณ

หากที่อยู่ตามกฎหมายหรือที่อยู่ไปรษณีย์ของคุณเปลี่ยนแปลงไป ให้อัปเดตที่อยู่ด้วยวิธีต่อไปนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่ https://ads.google.com
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. หากต้องการอัปเดตที่อยู่ตามกฎหมาย ให้ไปที่หน้าการตั้งค่า แล้วมองหา "โปรไฟล์การชำระเงิน" คลิกบันทึกเมื่อทำเสร็จ
  4. หากต้องการอัปเดตที่อยู่จัดส่ง ให้ไปที่ส่วน "บัญชีการชำระเงิน" แล้วทำการเปลี่ยนแปลง คลิกบันทึกเมื่อทำเสร็จ

เกี่ยวกับ VAT

วิธีคำนวณ VAT

VAT จะคำนวณโดยพิจารณาจากมูลค่าของค่าโฆษณา เช่น คลิกหรือการแสดงผลที่เกิดขึ้น

ค่าโฆษณา + VAT = จำนวนเงินที่ชำระ

เวลาเรียกเก็บ VAT

จะมีการเรียกเก็บ VAT เมื่อ

  • ทันทีที่มีการใช้การชำระเงินจนหมดในบัญชี หรือ
  • ตอนสิ้นเดือน หากมีการใช้การชำระเงินไปบางส่วนเท่านั้น

ตัวอย่าง: การชำระเงินที่ใช้จ่ายทั้งหมดใน 1 เดือน

สมมติว่าบัญชี Google Ads ของคุณได้รับการชำระเงินมูลค่า UAH 200 ในวันที่ 10 มิถุนายน

  • เกิดค่าโฆษณาขึ้นในแต่ละวันจนกระทั่งใช้การชำระเงิน UAH 200 ดังกล่าวจนหมดในวันที่ 25 มิถุนายน
  • รายการ VAT จะปรากฏในวันที่ 25 มิถุนายนบนหน้าการเรียกเก็บเงินหลักของคุณ โดยแสดงค่า VAT จากการชำระเงิน UAH 200

ตัวอย่าง: การชำระเงินที่ใช้จ่ายไปบางส่วนใน 1 เดือน

สมมติว่าบัญชี Google Ads ของคุณได้รับการชำระเงินมูลค่า UAH 200 ในวันที่ 10 มิถุนายน

  • ในช่วงสิ้นเดือนหรือวันที่ 30 มิถุนายน การชำระเงินใช้ไปแล้วเพียง UAH 100 รายการ VAT จะปรากฏในวันที่ 30 มิถุนายนบนหน้าการเรียกเก็บเงินหลักของคุณ โดยแสดงค่า VAT จากค่าโฆษณามูลค่า UAH 100
  • สมมติว่ายอดเงินคงเหลือของการชำระเงินดังกล่าวใช้ไปจนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม รายการ VAT จะปรากฏในวันที่ 3 กรกฎาคมบนหน้าการเรียกเก็บเงินหลักของคุณ โดยแสดงค่า VAT จากยอดเงิน UAH 100 ที่เหลือ

โปรดทราบว่าการเรียกเก็บค่า VAT อาจครอบคลุมถึงจำนวนเงินภาษีสำหรับการชำระเงินมากกว่า 1 รายการ หากใช้การชำระเงินมากกว่า 1 รายการจนหมดในวันเดียว

หากคุณมีปัญหาในการทำความเข้าใจเรื่องการเรียกเก็บค่า VAT โปรดติดต่อเรา

VAT ในการปรับค่าใช้จ่ายหรือเครดิตส่งเสริมการขาย

หากคุณมีเครดิตจากข้อเสนอส่งเสริมการขายหรือการปรับเครดิตประเภทอื่นๆ VAT จะมีผลกับค่าโฆษณาที่ชำระโดยเครดิตนี้โดยอัตโนมัติก่อน จากนั้น เมื่อเครดิตใช้ไปจนหมด คุณจะได้รับเงินค่า VAT ที่หักออกคืนมาที่บัญชีของคุณ หากมีการใช้เครดิตเพียงส่วนหนึ่ง คุณจะได้รับค่า VAT ที่หักออกคืนส่วนหนึ่งในช่วงสิ้นเดือนของเดือนเดียวกัน

VAT และ "ยอดดุลปัจจุบัน" ของบัญชี

หากต้องการดูยอดดุลปัจจุบัน ให้ไปที่หน้า "ธุรกรรม" หรือ "สรุป" ของการเรียกเก็บเงินโดยคลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" คุณจะเห็นตำแหน่งที่แสดงยอดดุลของบัญชี ดังนี้

  1. สรุป: ส่วน "ยอดดุล" ของคุณจะแสดงยอดดุลที่นำไปใช้กับกิจกรรมการโฆษณาในอนาคตได้ทั้งหมด
    • ช่อง "เครดิตที่เหลือ" จะแสดงยอดดุลสำหรับกิจกรรมการโฆษณาและค่า VAT ในอนาคตโดยประมาณ ให้ตรวจสอบช่องนี้เพื่อประเมินยอดเงินที่เหลืออยู่ในบัญชีของคุณ
  2. ธุรกรรม: คอลัมน์ "ยอดดุล" ในตารางประวัติการทำธุรกรรมจะแสดงยอดดุลในบัญชีของคุณ (คำนวณโดยหักยอดเงินในคอลัมน์ "เครดิต" ออกจากยอดเงินในคอลัมน์ "เดบิต") โดยไม่รวมค่า VAT ในอนาคตโดยประมาณของยอดชำระเงินที่ยังไม่ได้ใช้

ราคาเสนอและงบประมาณที่คุณตั้งไว้ในแคมเปญจะไม่รวม VAT

ขั้นตอนถัดไป

หมายเหตุ

หากคุณไม่เห็นประเทศของคุณในรายการ นั่นหมายความว่าเราไม่มีข้อมูลภาษีสำหรับประเทศนั้น โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ภาษีท้องถิ่นของคุณเพื่อรับข้อมูลนี้

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

เมื่อคุณสร้างบัญชี ระบบจะขอให้คุณยืนยันประเภทบัญชี วัตถุประสงค์ในการใช้งานบัญชี และสถานะภาษี การตั้งค่าเหล่านี้จะมีผลต่อวิธีที่คุณประเมินและรายงาน VAT การดําเนินการนี้เป็นแบบถาวรและจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้หลังจากคุณลงชื่อสมัครใช้การเรียกเก็บเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรเลือกอย่างรอบคอบ การตั้งค่าเหล่านี้อาจนําไปใช้สำหรับการยืนยันตัวตนของผู้ลงโฆษณาด้วย

บัญชีของคุณได้รับการจัดการโดย Google Ireland Limited อย่างไรก็ตาม หากคุณได้รับแจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ Google France SARL จะเป็นคู่สัญญาสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากตัวแทนจําหน่ายของ Google France

หากคุณเคยได้รับการแจ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ รายการต่อไปนี้คือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบตามที่อ้างถึงในการแจ้งดังกล่าว Google France SARL เป็นคู่สัญญาของคุณในสัญญาที่มีผลบังคับใช้ต่อการจัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้จนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม

  • Google Ads
  • Authorized Buyers
  • Display & Video 360
  • Campaign Manager 360
  • Google Ad Manager (ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการนั้นๆ ที่ Google เรียกเก็บเงินจากคุณ)
  • Search Ads 360
  • ค้นหาเที่ยวบิน
  • Google Analytics 360
  • Hotel Ads
  • โฆษณา YouTube
  • การจองใน YouTube
  • โฆษณา Waze

บัญชีที่จัดการโดย Google France SARL

บัญชี Google Ads ทั้งหมดที่จัดการโดย Google France SARL จะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามอัตรามาตรฐานของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามที่รัฐบาลเห็นสมควร

ด้านล่างนี้คืออัตรา VAT ที่แตกต่างกันสําหรับมหานครและเขตแดนอื่นๆ ของฝรั่งเศส

 

ที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน

อัตรา VAT ที่ใช้

ฝรั่งเศส

20%

หมู่เกาะคอร์ซิกา

กัวเดอลุป

8.5%

มาร์ตินีก 

หมู่เกาะเรอูนียง

เฟรนช์เกียนา มายอต

0%

แซงปิแยร์และมีเกอลง

ประเภทบัญชี

สําหรับประเภทบัญชี คุณจะเลือกองค์กรหรือบุคคลธรรมดาก็ได้

องค์กร

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้สำหรับผู้อื่นที่ไม่ใช่ตนเองหรือใช้ชื่ออื่นนอกเหนือจากชื่อของคุณ ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นตัวแทนของธุรกิจ องค์กร พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือสถาบันการศึกษา หรือเลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวภายใต้ชื่อทางการค้า

บุคคลธรรมดา

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้ด้วยชื่อของคุณเองและจะใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์ของคุณเอง ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นผู้ประกอบการเพียงคนเดียวที่ลงชื่อสมัครใช้ในชื่อของคุณเองและเพื่อการใช้งานของคุณเอง หากจดทะเบียนเป็นแบบรายบุคคล คุณจะเพิ่มหรือนําผู้ใช้ออก รวมถึงเปลี่ยนสิทธิ์ในโปรไฟล์การชําระเงินไม่ได้

วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

เลือกธุรกิจ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อธุรกิจหรือบริการเชิงพาณิชย์ การใช้งานทางธุรกิจหมายความว่าคุณต้องการรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการโฆษณา เช่น รายได้ ยอดขาย หรือการลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้น ในกรณีนี้รวมถึงแอฟฟิลิเอต กิจการเจ้าของคนเดียว ผู้ค้าที่ทำธุรกิจของตนเอง พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และอื่นๆ

หรือเลือกไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อกิจกรรมทางการเมือง การกุศล หรือกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไรเท่านั้น

หมายเหตุ: การตั้งค่าวัตถุประสงค์ในการใช้งานจะปรากฏระหว่างการลงชื่อสมัครใช้บัญชีในครั้งแรกเท่านั้น ควรใช้ Google Ads เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจเป็นหลักในสหภาพยุโรป

ข้อมูลภาษี

การดำเนินการด้านภาษีจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณ การตั้งค่าสถานะภาษีและหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่บังคับ) จะปรากฏหลังจากที่คุณเลือกประเภทบัญชีและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หากคุณลงชื่อสมัครใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google การดำเนินการด้านภาษีสําหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจขึ้นอยู่กับสถานะภาษีในบางกรณี การตั้งค่า "วัตถุประสงค์ในการใช้งาน" เป็นการตั้งค่าถาวร และจะส่งผลต่อวิธีประเมินและรายงาน VAT

สถานะภาษีองค์กรหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทองค์กร

สถานะภาษีบุคคลธรรมดาหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทบุคคลธรรมดา

Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ หากคุณมีคําถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

ประเมิน VAT ด้วยตนเอง

ตรวจสอบกับหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นว่าคุณต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองในประเทศของคุณหรือไม่ หากต้องประเมิน คุณอาจขอความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาด้านภาษีหรือหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่น เนื่องจาก Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาแก่คุณได้

นานาน่ารู้

  • หากบัญชีของคุณจัดการโดย Google France SARL เราต้องใช้หมายเลข VAT, SIRET หรือ SIREN โดยขึ้นอยู่กับสถานะภาษีของคุณ
  • หากบัญชีของคุณจัดการโดย Google Ireland Limited ให้ทําดังนี้
    • เราจะไม่เพิ่มการเรียกเก็บ VAT ลงในบัญชี เว้นแต่คุณจะเลือกวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็น "ไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์" ในระหว่างการลงชื่อสมัครใช้
    • คุณจะต้องรับผิดชอบการประเมินด้วยตนเองและชำระ VAT ตามอัตราท้องถิ่นของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปที่คุณอยู่ (ตามมาตรา 44 ของ EU Council Directive 2006/112/EC)

การเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

คุณจะเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ด้วยตัวเอง คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูวิธีการ

เปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. กรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน"
  4. คลิกบันทึก

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือผู้ใช้มักกรอกหมายเลขภาษีแทนหมายเลขจดทะเบียน VAT หมายเลขทั้งสองนี้แตกต่างกัน หมายเลขจดทะเบียน VAT ขึ้นต้นด้วยรหัสเฉพาะประเทศ ตามด้วยอักขระไม่เกิน 12 ตัว (ตัวอักษรหรือตัวเลข) โปรดไปที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรป หากต้องการตรวจสอบว่าหมายเลขการจดทะเบียน VAT ของคุณถูกต้องหรือไม่

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 2 ชุด คือ ชุดหนึ่งเมื่อคุณชําระเงินล่วงหน้าและอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป) หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 1 ใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชําระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป

วิธีการค้นหาใบกํากับภาษีในบัญชีของคุณ มีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก เอกสาร ในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบกำกับภาษี VAT

  • ใบกำกับภาษี VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบกำกับภาษี VAT เดือนกันยายนจะปรากฏในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบกำกับภาษี VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการใบกำกับภาษี VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบกำกับภาษี

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบกำกับภาษีประมาณหนึ่งหรือสองวัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบกำกับภาษี VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบกำกับภาษีถูกต้องตามกฎหมาย

ใบกำกับภาษีจากบัญชี Google Ads เป็นใบกำกับภาษีที่บันทึกไว้ ใบกำกับภาษีเหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราเรียกเก็บเงินหรือที่คุณชำระเงินให้ Google)

ใบกำกับภาษีนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบกำกับภาษีเหล่านี้

ใบกำกับภาษี VAT ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบกำกับภาษี VAT ที่ถูกต้องซึ่งมีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

เอสโตเนียได้เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 20% (ในปัจจุบัน) เป็น 22% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจส่งผลต่อบัญชี Google Ads ที่มีที่อยู่ธุรกิจในเอสโตเนีย 

เมื่อคุณสร้างบัญชี ระบบจะขอให้คุณยืนยันประเภทบัญชี วัตถุประสงค์ในการใช้งานบัญชี และสถานะภาษี การตั้งค่าเหล่านี้จะมีผลต่อวิธีที่คุณประเมินและรายงาน VAT การดําเนินการนี้เป็นแบบถาวรและจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้หลังจากคุณลงชื่อสมัครใช้การเรียกเก็บเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรเลือกอย่างรอบคอบ การตั้งค่าเหล่านี้อาจนําไปใช้สำหรับการยืนยันตัวตนของผู้ลงโฆษณาด้วย

ประเภทบัญชี

สําหรับประเภทบัญชี คุณจะเลือกองค์กรหรือบุคคลธรรมดาก็ได้

องค์กร

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้สำหรับผู้อื่นที่ไม่ใช่ตนเองหรือใช้ชื่ออื่นนอกเหนือจากชื่อของคุณ ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นตัวแทนของธุรกิจ องค์กร พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือสถาบันการศึกษา หรือเลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวภายใต้ชื่อทางการค้า

บุคคลธรรมดา

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้ด้วยชื่อของคุณเองและจะใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์ของคุณเอง ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นผู้ประกอบการเพียงคนเดียวที่ลงชื่อสมัครใช้ในชื่อของคุณเองและเพื่อการใช้งานของคุณเอง หากจดทะเบียนเป็นแบบรายบุคคล คุณจะเพิ่มหรือนําผู้ใช้ออก รวมถึงเปลี่ยนสิทธิ์ในโปรไฟล์การชําระเงินไม่ได้

วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

เลือกธุรกิจ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อธุรกิจหรือบริการเชิงพาณิชย์ การใช้งานทางธุรกิจหมายความว่าคุณต้องการรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการโฆษณา เช่น รายได้ ยอดขาย หรือการลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้น ในกรณีนี้รวมถึงแอฟฟิลิเอต กิจการเจ้าของคนเดียว ผู้ค้าที่ทำธุรกิจของตนเอง พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และอื่นๆ

หรือเลือกไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อกิจกรรมทางการเมือง การกุศล หรือกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไรเท่านั้น

หมายเหตุ: การตั้งค่าวัตถุประสงค์ในการใช้งานจะปรากฏระหว่างการลงชื่อสมัครใช้บัญชีในครั้งแรกเท่านั้น ควรใช้ Google Ads เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจเป็นหลักในสหภาพยุโรป

ข้อมูลภาษี

การดำเนินการด้านภาษีจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณ การตั้งค่าสถานะภาษีและหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่บังคับ) จะปรากฏหลังจากที่คุณเลือกประเภทบัญชีและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หากคุณลงชื่อสมัครใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google การดำเนินการด้านภาษีสําหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจขึ้นอยู่กับสถานะภาษีในบางกรณี การตั้งค่า "วัตถุประสงค์ในการใช้งาน" เป็นการตั้งค่าถาวร และจะส่งผลต่อวิธีประเมินและรายงาน VAT

สถานะภาษีองค์กรหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทองค์กร

สถานะภาษีบุคคลธรรมดาหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทบุคคลธรรมดา

Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ หากคุณมีคําถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

 

นานาน่ารู้

  • เราจะต้องขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณ
  • เราจะไม่เพิ่มการเรียกเก็บ VAT ลงในบัญชี เว้นแต่คุณจะเลือกวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็น "ไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์" ในระหว่างการลงชื่อสมัครใช้
  • คุณจะต้องรับผิดชอบการประเมินด้วยตนเองและชำระ VAT ตามอัตราท้องถิ่นของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปที่คุณอยู่ (ตามมาตรา 44 ของ EU Council Directive 2006/112/EC)

การเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

คุณจะเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ด้วยตัวเอง คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูวิธีการ

เปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. กรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน"
  4. คลิกบันทึก

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือผู้ใช้มักกรอกหมายเลขภาษีแทนหมายเลขจดทะเบียน VAT หมายเลขทั้งสองนี้แตกต่างกัน หมายเลขจดทะเบียน VAT ขึ้นต้นด้วยรหัสเฉพาะประเทศ ตามด้วยอักขระไม่เกิน 12 ตัว (ตัวอักษรหรือตัวเลข) โปรดไปที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรป หากต้องการตรวจสอบว่าหมายเลขการจดทะเบียน VAT ของคุณถูกต้องหรือไม่

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

คุณจะต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองโดยใช้อัตรา VAT ปัจจุบันของประเทศสมาชิกของคุณ โปรดติดต่อสำนักงานภาษีในท้องถิ่นเพื่อขอคำแนะนำ

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 2 ชุด คือ ชุดหนึ่งเมื่อคุณชําระเงินล่วงหน้าและอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป) หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 1 ใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชําระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป

วิธีการค้นหาใบกํากับภาษีในบัญชีของคุณ มีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก เอกสาร ในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบกำกับภาษี VAT

  • ใบกำกับภาษี VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบกำกับภาษี VAT เดือนกันยายนจะปรากฏในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบกำกับภาษี VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการใบกำกับภาษี VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบกำกับภาษี

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบกำกับภาษีประมาณหนึ่งหรือสองวัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบกำกับภาษี VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบกำกับภาษีถูกต้องตามกฎหมาย

ใบกำกับภาษีจากบัญชี Google Ads เป็นใบกำกับภาษีที่บันทึกไว้ ใบกำกับภาษีเหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราเรียกเก็บเงินหรือที่คุณชำระเงินให้ Google)

ใบกำกับภาษีนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบกำกับภาษีเหล่านี้

ใบกำกับภาษี VAT ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบกำกับภาษี VAT ที่ถูกต้องซึ่งมีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

หมายเหตุ: ลักเซมเบิร์กได้เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 16% เป็น 17% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจส่งผลต่อบัญชี Google Ads ที่มีที่อยู่ธุรกิจในลักเซมเบิร์ก

เมื่อคุณสร้างบัญชี ระบบจะขอให้คุณยืนยันประเภทบัญชี วัตถุประสงค์ในการใช้งานบัญชี และสถานะภาษี การตั้งค่าเหล่านี้จะมีผลต่อวิธีที่คุณประเมินและรายงาน VAT การดําเนินการนี้เป็นแบบถาวรและจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้หลังจากคุณลงชื่อสมัครใช้การเรียกเก็บเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรเลือกอย่างรอบคอบ การตั้งค่าเหล่านี้อาจนําไปใช้สำหรับการยืนยันตัวตนของผู้ลงโฆษณาด้วย

ประเภทบัญชี

สําหรับประเภทบัญชี คุณจะเลือกองค์กรหรือบุคคลธรรมดาก็ได้

องค์กร

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้สำหรับผู้อื่นที่ไม่ใช่ตนเองหรือใช้ชื่ออื่นนอกเหนือจากชื่อของคุณ ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นตัวแทนของธุรกิจ องค์กร พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือสถาบันการศึกษา หรือเลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวภายใต้ชื่อทางการค้า

บุคคลธรรมดา

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้ด้วยชื่อของคุณเองและจะใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์ของคุณเอง ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นผู้ประกอบการเพียงคนเดียวที่ลงชื่อสมัครใช้ในชื่อของคุณเองและเพื่อการใช้งานของคุณเอง หากจดทะเบียนเป็นแบบรายบุคคล คุณจะเพิ่มหรือนําผู้ใช้ออก รวมถึงเปลี่ยนสิทธิ์ในโปรไฟล์การชําระเงินไม่ได้

วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

เลือกธุรกิจ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อธุรกิจหรือบริการเชิงพาณิชย์ การใช้งานทางธุรกิจหมายความว่าคุณต้องการรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการโฆษณา เช่น รายได้ ยอดขาย หรือการลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้น ในกรณีนี้รวมถึงแอฟฟิลิเอต กิจการเจ้าของคนเดียว ผู้ค้าที่ทำธุรกิจของตนเอง พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และอื่นๆ

หรือเลือกไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อกิจกรรมทางการเมือง การกุศล หรือกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไรเท่านั้น

หมายเหตุ: การตั้งค่าวัตถุประสงค์ในการใช้งานจะปรากฏระหว่างการลงชื่อสมัครใช้บัญชีในครั้งแรกเท่านั้น ควรใช้ Google Ads เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจเป็นหลักในสหภาพยุโรป

ข้อมูลภาษี

การดำเนินการด้านภาษีจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณ การตั้งค่าสถานะภาษีและหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่บังคับ) จะปรากฏหลังจากที่คุณเลือกประเภทบัญชีและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หากคุณลงชื่อสมัครใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google การดำเนินการด้านภาษีสําหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจขึ้นอยู่กับสถานะภาษีในบางกรณี การตั้งค่า "วัตถุประสงค์ในการใช้งาน" เป็นการตั้งค่าถาวร และจะส่งผลต่อวิธีประเมินและรายงาน VAT

สถานะภาษีองค์กรหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทองค์กร

สถานะภาษีบุคคลธรรมดาหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทบุคคลธรรมดา

Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ หากคุณมีคําถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

 

นานาน่ารู้

  • เราจะต้องขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณ
  • เราจะไม่เพิ่มการเรียกเก็บ VAT ลงในบัญชี เว้นแต่คุณจะเลือกวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็น "ไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์" ในระหว่างการลงชื่อสมัครใช้
  • คุณจะต้องรับผิดชอบการประเมินด้วยตนเองและชำระ VAT ตามอัตราท้องถิ่นของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปที่คุณอยู่ (ตามมาตรา 44 ของ EU Council Directive 2006/112/EC)

การเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

คุณจะเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ด้วยตัวเอง คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูวิธีการ

เปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. กรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน"
  4. คลิกบันทึก

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือผู้ใช้มักกรอกหมายเลขภาษีแทนหมายเลขจดทะเบียน VAT หมายเลขทั้งสองนี้แตกต่างกัน หมายเลขจดทะเบียน VAT ขึ้นต้นด้วยรหัสเฉพาะประเทศ ตามด้วยอักขระไม่เกิน 12 ตัว (ตัวอักษรหรือตัวเลข) โปรดไปที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรป หากต้องการตรวจสอบว่าหมายเลขการจดทะเบียน VAT ของคุณถูกต้องหรือไม่

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

คุณจะต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองโดยใช้อัตรา VAT ปัจจุบันของประเทศสมาชิกของคุณ โปรดติดต่อสำนักงานภาษีในท้องถิ่นเพื่อขอคำแนะนำ

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 2 ชุด คือ ชุดหนึ่งเมื่อคุณชําระเงินล่วงหน้าและอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป) หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 1 ใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชําระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป

วิธีการค้นหาใบกํากับภาษีในบัญชีของคุณ มีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก เอกสาร ในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบกำกับภาษี VAT

  • ใบกำกับภาษี VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบกำกับภาษี VAT เดือนกันยายนจะปรากฏในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบกำกับภาษี VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการใบกำกับภาษี VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบกำกับภาษี

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบกำกับภาษีประมาณหนึ่งหรือสองวัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบกำกับภาษี VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบกำกับภาษีถูกต้องตามกฎหมาย

ใบกำกับภาษีจากบัญชี Google Ads เป็นใบกำกับภาษีที่บันทึกไว้ ใบกำกับภาษีเหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราเรียกเก็บเงินหรือที่คุณชำระเงินให้ Google)

ใบกำกับภาษีนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบกำกับภาษีเหล่านี้

ใบกำกับภาษี VAT ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบกำกับภาษี VAT ที่ถูกต้องซึ่งมีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

Google Ireland Limited

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

เมื่อคุณสร้างบัญชี ระบบจะขอให้คุณยืนยันประเภทบัญชี วัตถุประสงค์ในการใช้งานบัญชี และสถานะภาษี การตั้งค่าเหล่านี้จะมีผลต่อวิธีที่คุณประเมินและรายงาน VAT การดําเนินการนี้เป็นแบบถาวรและจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้หลังจากคุณลงชื่อสมัครใช้การเรียกเก็บเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณจึงควรเลือกอย่างรอบคอบ การตั้งค่าเหล่านี้อาจนําไปใช้สำหรับการยืนยันตัวตนของผู้ลงโฆษณาด้วย

ประเภทบัญชี

สําหรับประเภทบัญชี คุณจะเลือกองค์กรหรือบุคคลธรรมดาก็ได้

องค์กร

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้สำหรับผู้อื่นที่ไม่ใช่ตนเองหรือใช้ชื่ออื่นนอกเหนือจากชื่อของคุณ ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นตัวแทนของธุรกิจ องค์กร พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือสถาบันการศึกษา หรือเลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวภายใต้ชื่อทางการค้า

บุคคลธรรมดา

เลือกการตั้งค่านี้หากคุณลงชื่อสมัครใช้ด้วยชื่อของคุณเองและจะใช้บัญชีดังกล่าวเพื่อจุดประสงค์ของคุณเอง ตัวอย่างเช่น เลือกการตั้งค่านี้หากคุณเป็นผู้ประกอบการเพียงคนเดียวที่ลงชื่อสมัครใช้ในชื่อของคุณเองและเพื่อการใช้งานของคุณเอง หากจดทะเบียนเป็นแบบรายบุคคล คุณจะเพิ่มหรือนําผู้ใช้ออก รวมถึงเปลี่ยนสิทธิ์ในโปรไฟล์การชําระเงินไม่ได้

วัตถุประสงค์ในการใช้งาน

เลือกธุรกิจ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อธุรกิจหรือบริการเชิงพาณิชย์ การใช้งานทางธุรกิจหมายความว่าคุณต้องการรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการโฆษณา เช่น รายได้ ยอดขาย หรือการลงทะเบียนที่เพิ่มขึ้น ในกรณีนี้รวมถึงแอฟฟิลิเอต กิจการเจ้าของคนเดียว ผู้ค้าที่ทำธุรกิจของตนเอง พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และอื่นๆ

หรือเลือกไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์ หากมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานเพื่อกิจกรรมทางการเมือง การกุศล หรือกิจกรรมที่ไม่แสวงหากำไรเท่านั้น

หมายเหตุ: การตั้งค่าวัตถุประสงค์ในการใช้งานจะปรากฏระหว่างการลงชื่อสมัครใช้บัญชีในครั้งแรกเท่านั้น ควรใช้ Google Ads เพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจเป็นหลักในสหภาพยุโรป

ข้อมูลภาษี

การดำเนินการด้านภาษีจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณ การตั้งค่าสถานะภาษีและหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่บังคับ) จะปรากฏหลังจากที่คุณเลือกประเภทบัญชีและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หากคุณลงชื่อสมัครใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google การดำเนินการด้านภาษีสําหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาจขึ้นอยู่กับสถานะภาษีในบางกรณี การตั้งค่า "วัตถุประสงค์ในการใช้งาน" เป็นการตั้งค่าถาวร และจะส่งผลต่อวิธีประเมินและรายงาน VAT

สถานะภาษีองค์กรหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทองค์กร

สถานะภาษีบุคคลธรรมดาหมายความว่าหมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีที่คุณกรอกเชื่อมโยงกับบัญชีประเภทบุคคลธรรมดา

Google ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ VAT ไม่ได้ หากคุณมีคําถามเกี่ยวกับการจดทะเบียน VAT โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือเจ้าหน้าที่สรรพากร

 

นานาน่ารู้

  • เราจะต้องขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของคุณ
  • เราจะไม่เพิ่มการเรียกเก็บ VAT ลงในบัญชี เว้นแต่คุณจะเลือกวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็น "ไม่ใช่ธุรกิจแต่มีสิทธิ์" ในระหว่างการลงชื่อสมัครใช้
  • คุณจะต้องรับผิดชอบการประเมินด้วยตนเองและชำระ VAT ตามอัตราท้องถิ่นของประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรปที่คุณอยู่ (ตามมาตรา 44 ของ EU Council Directive 2006/112/EC)

การเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

คุณจะเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ด้วยตัวเอง คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูวิธีการ

เปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือ Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือกสรุปการเรียกเก็บเงินในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" จากนั้นคลิกลิงก์การตั้งค่าที่ด้านข้างของหน้า
  3. กรอกหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในส่วน "โปรไฟล์การชำระเงิน"
  4. คลิกบันทึก

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยก็คือผู้ใช้มักกรอกหมายเลขภาษีแทนหมายเลขจดทะเบียน VAT หมายเลขทั้งสองนี้แตกต่างกัน หมายเลขจดทะเบียน VAT ขึ้นต้นด้วยรหัสเฉพาะประเทศ ตามด้วยอักขระไม่เกิน 12 ตัว (ตัวอักษรหรือตัวเลข) โปรดไปที่เว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการยุโรป หากต้องการตรวจสอบว่าหมายเลขการจดทะเบียน VAT ของคุณถูกต้องหรือไม่

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

คุณจะต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองโดยใช้อัตรา VAT ปัจจุบันของประเทศสมาชิกของคุณ โปรดติดต่อสำนักงานภาษีในท้องถิ่นเพื่อขอคำแนะนำ

ค้นหาและดาวน์โหลดใบกํากับภาษี VAT

โปรดทราบว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีในประเทศของคุณ ณ เวลาที่ชำระเงิน หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินด้วยตนเอง คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 2 ชุด คือ ชุดหนึ่งเมื่อคุณชําระเงินล่วงหน้าและอีกชุดหนึ่งตอนสิ้นเดือน (ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชำระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป) หากคุณใช้ตัวเลือกการชําระเงินอัตโนมัติ คุณจะได้รับใบกํากับภาษี 1 ใบตอนสิ้นเดือน ซึ่งจะไม่แสดงส่วน "บันทึกค่าใช้จ่ายและภาษี" และ "บันทึกการชําระเงินที่ได้รับ" อีกต่อไป

วิธีการค้นหาใบกํากับภาษีในบัญชีของคุณ มีดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] แล้วเลือก เอกสาร ในส่วน "การเรียกเก็บเงิน" ไปที่การเรียกเก็บเงิน
  3. ในแถบด้านบน ให้เลือกเอกสารภาษีและเอกสารตามกฎหมาย
  4. ในตาราง ให้เลือกช่องทางด้านซ้ายของใบกำกับภาษีที่ต้องการดาวน์โหลด
    • หากต้องการเลือกเอกสารทั้งหมดที่ปรากฏในตาราง ให้เลือกช่องทางซ้ายบนสุดของตาราง
  5. เลือกดาวน์โหลดที่เลือกไว้
  6. เลือกรูปแบบที่ต้องการใช้เพื่อดาวน์โหลดใบกำกับภาษี
  7. เลือกดาวน์โหลด
  8. หรือเลือกดาวน์โหลดที่ท้ายแถวแต่ละแถวที่มีใบกำกับภาษี

ใบกํากับภาษีท้องถิ่นจะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติในรูปแบบ PDF เพื่อให้คุณดูหรือพิมพ์

การแสดงใบกำกับภาษี VAT

  • ใบกำกับภาษี VAT ของแต่ละเดือนจะปรากฏขึ้นตั้งแต่วันทำการที่ 5 ของเดือนถัดไป ตัวอย่างเช่น ใบกำกับภาษี VAT เดือนกันยายนจะปรากฏในวันที่ 5 ตุลาคม ระบบจะไม่สร้างใบกำกับภาษี VAT ในวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดธนาคาร ดังนั้น คุณจึงควรเผื่อเวลาในการใบกำกับภาษี VAT สำหรับช่วงดังกล่าวด้วย

ความคลาดเคลื่อนระหว่างกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนกับใบกำกับภาษี

ในบางครั้ง การเรียกเก็บเงินที่คุณเห็นในกิจกรรมการเรียกเก็บเงินรายเดือนในส่วน "สรุป" จะปิดนับยอดช้ากว่าข้อมูลที่แสดงในใบกำกับภาษีประมาณหนึ่งหรือสองวัน กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจาก Google Ads และธนาคารทำงานในระบบที่แตกต่างกัน การชำระเงินและการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไป

หากคุณได้รับการปรับค่าใช้จ่ายบัญชีหรือเครดิตและใช้เครดิตนั้นภายในรอบการเรียกเก็บเงินเดียวกัน อาจทำให้ใบกำกับภาษี VAT ต่างจากประวัติการทำธุรกรรมของคุณได้เช่นกัน

ใบกำกับภาษีถูกต้องตามกฎหมาย

ใบกำกับภาษีจากบัญชี Google Ads เป็นใบกำกับภาษีที่บันทึกไว้ ใบกำกับภาษีเหล่านี้จะแสดงคำขอการชำระเงิน (นั่นคือ จะรวมบรรทัดรายการทุกครั้งที่เราเรียกเก็บเงินหรือที่คุณชำระเงินให้ Google)

ใบกำกับภาษีนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งหมายความว่าหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณจะยอมรับใบกำกับภาษีเหล่านี้

ใบกำกับภาษี VAT ของเราได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านภาษีหลายแห่งว่าเป็นใบกำกับภาษี VAT ที่ถูกต้องซึ่งมีข้อมูลการหัก VAT รวมอยู่ด้วย และไม่ต้องมีตราประทับพิเศษหรือลายเซ็น

หากมีคำถาม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในท้องถิ่น

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

บัญชีของคุณได้รับบริการจาก Google Ireland Ltd. แต่ Google จะไม่เรียกเก็บ VAT ถ้าที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินของคุณไม่ได้อยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป

ตรวจสอบกับหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นว่าคุณต้องประเมิน VAT ด้วยตนเองในประเทศของคุณหรือไม่ หากใช่ คุณจะต้องดำเนินการโดยรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่นหรือที่ปรึกษาด้านภาษี Google แนะนำคุณไม่ได้

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

หากระบบไม่เรียกเก็บ VAT ในค่าใช้จ่าย Google Ads คุณอาจต้องประเมิน VAT ด้วยตนเอง โปรดติดต่อขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณ

ใบแจ้งยอดรายเดือน

Google จัดทําใบแจ้งยอดในประเทศของคุณเป็นรายเดือน เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2024 เป็นต้นไป Google จะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 12% สำหรับบริการอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดที่ลูกค้าในคีร์กีซสถานซื้อ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านภาษีท้องถิ่นในคีร์กีซสถาน

คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ กับบัญชี Google Ads

คุณจะเห็นการเรียกเก็บ VAT ในหน้าการเรียกเก็บเงินของ Google Ads และใบแจ้งหนี้ที่สร้างขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป

หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2024 จะมีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 15% จากบัญชี Google Ads ซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในซิมบับเว

สำหรับลูกค้าที่ออกใบแจ้งหนี้รายเดือน หากคุณจดทะเบียน VAT ในซิมบับเว โปรดแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มให้เราทราบที่นี่ สำหรับลูกค้าที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติและการชำระเงินด้วยตนเอง โปรดทำตามวิธีการด้านล่าง

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. ในแผงการนำทางด้านซ้าย ให้คลิกการเรียกเก็บเงิน แล้วคลิกการตั้งค่า
  3. คลิกลูกศรลงข้าง "รายละเอียดผู้ชำระเงิน" ในหน้า "การตั้งค่า"
  4. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไข ในส่วน "ข้อมูลภาษีของซิมบับเว"
  5. ในช่อง "หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของซิมบับเว" ให้ป้อนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  6. คลิกบันทึก

นอกจากนี้ คุณยังใช้โปรไฟล์การชำระเงินเพื่ออัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยทำดังนี้

  1. ลงชื่อเข้าใช้การตั้งค่าศูนย์การชำระเงินของ Google
  2. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไข ในส่วน "ข้อมูลภาษีของซิมบับเว"
  3. ในช่อง "หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของซิมบับเว" ให้ป้อนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
  4. คลิกบันทึก

บัญชีของคุณได้รับการจัดการโดย Google Ireland Ltd

ใบแจ้งยอดรายเดือน

Google จัดทําใบแจ้งยอดในประเทศของคุณเป็นรายเดือน เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 Google จะเริ่มเรียกเก็บภาษี 16% จากลูกค้าซึ่งมีที่อยู่สําหรับการเรียกเก็บเงินในเคนยา เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายท้องถิ่นว่าด้วยเรื่องภาษี

ลูกค้าต้องแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (หมายเลข PIN) ในบัญชี Google Ads เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านความถูกต้องของใบแจ้งหนี้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการหักคืนค่าใช้จ่าย VAT

ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023 ลูกค้า Google Ads ในเคนยาจะเริ่มได้รับใบกํากับภาษีซึ่งระบุหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (หมายเลข PIN) โดยมีการคิดภาษี 16%

หากมีคําถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภาษีนี้ โปรดติดต่อที่ปรึกษาด้านภาษีหรือหน่วยงานด้านภาษีในท้องถิ่น Google ไม่สามารถแนะนำคุณได้

การประเมิน VAT ด้วยตนเอง

หากระบบไม่เรียกเก็บ VAT ในค่าใช้จ่าย Google Ads คุณอาจต้องประเมิน VAT ด้วยตนเอง โปรดติดต่อขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ด้านภาษีในท้องถิ่นของคุณ

ใบแจ้งยอดรายเดือน

Google จัดทําใบแจ้งยอดในประเทศของคุณเป็นรายเดือน เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

Google Asia Pacific Pte. Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป ยอดขายของ Google Ads ทั้งหมดในเวียดนามจะต้องรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 5% โดยคิดจากยอดรวมก่อนหักค่าใช้จ่าย ยอดนี้จะคำนวณจากปริมาณการใช้งานหารด้วย 0.95

ยกตัวอย่าง หากมียอดเรียกเก็บค่าโฆษณา Google Ads จำนวน US$100 ใบแจ้งหนี้ของ Google จะแจกแจงยอดค่าใช้จ่ายดังนี้

 

จํานวนเงิน (US$)

ค่าโฆษณา

100.00

VAT (5%)*

5.26

จํานวนเงินทั้งหมดที่ลูกค้าชําระ

105.26

*รายได้ที่รวม VAT แล้ว = $100 / (100% - 5%) = $105.26 โดยมียอด VAT = 5% x $105.26 = $5.26


การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับบัญชี Google Ads ทุกบัญชีซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในเวียดนาม

หากคุณมีรหัสภาษีของเวียดนามและต้องการพิมพ์รหัสดังกล่าวในใบแจ้งหนี้ โปรดทําตามวิธีการด้านล่างเพื่อกรอกรหัสภาษีในระบบ

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนต้องติดต่อทีมสนับสนุนของ Google Ads และแจ้งรหัสภาษีของเวียดนาม เพื่อที่ผู้เชี่ยวชาญของเราจะสามารถอัปเดตโปรไฟล์การชําระเงินให้สอดคล้องกันได้

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยใช้วิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads
  2. คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า Google Ads | เครื่องมือ [Icon] ที่ด้านขวาบน แล้วเลือกการตั้งค่าในส่วน "การเรียกเก็บเงิน"
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของเวียดนาม" แล้วป้อนรหัสภาษีของเวียดนามในช่องที่เหมาะสม
  4. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินผ่าน Google
  2. คลิกการตั้งค่าที่ด้านขวาบนของหน้า
  3. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของเวียดนาม" แล้วป้อนรหัสภาษีของเวียดนามในช่องที่เหมาะสม
  4. คลิกบันทึก
หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

Google Asia Pacific Pte. Ltd.

เนื่องจากสัญญาธุรกิจ Google Ads ของคุณจดทะเบียนกับ Google Asia Pacific Pte. Ltd. คุณจึงไม่ต้องชำระภาษีท้องถิ่นสำหรับกิจกรรม Google Ads ภาษีเหล่านี้จะไม่แสดงในใบแจ้งหนี้ของคุณ

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสถานะของ Google Ads

ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2024 เราจะเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% จากบัญชี Google Ads ซึ่งมีที่อยู่ธุรกิจในลาว

สำหรับลูกค้าที่ออกใบแจ้งหนี้รายเดือน หากคุณจดทะเบียน VAT ในลาว โปรดแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มให้เราทราบโดยใช้แบบฟอร์มนี้ สำหรับลูกค้าที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติและการชำระเงินด้วยตนเอง ลูกค้าสามารถทำตามวิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีใน Google Ads

  1. คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน ไอคอนการเรียกเก็บเงิน ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกการตั้งค่า
  3. คลิกลูกศรลงข้าง "รายละเอียดผู้ชำระเงิน" ในหน้า "การตั้งค่า"
  4. คลิกไอคอนดินสอ ไอคอนดินสอ / ไอคอนแก้ไข ในส่วน "ข้อมูลภาษีของลาว"
  5. ป้อนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในช่อง "หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของลาว"
  6. คลิกบันทึก

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

นอกจากนี้ ลูกค้ายังใช้โปรไฟล์การชำระเงินเพื่ออัปเดตข้อมูลภาษีได้ด้วย

  1. ลงชื่อเข้าใช้การตั้งค่าศูนย์การชำระเงินของ Google
  2. คลิกไอคอนดินสอ ไอคอนดินสอ / ไอคอนแก้ไข ในส่วน "ข้อมูลภาษีของลาว"
  3. ป้อนหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในช่อง "หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มของลาว"
  4. คลิกบันทึก

ใบแจ้งยอดรายเดือน

Google จัดทําใบแจ้งยอดในประเทศของคุณเป็นรายเดือน เอกสารเหล่านี้แสดงข้อมูลสรุปกิจกรรมการเรียกเก็บเงินตามช่วงเวลาที่ระบุไว้ในเอกสาร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบแจ้งยอด

หากมีคำถามเรื่องใบแจ้งยอดรายเดือนเกี่ยวกับการยื่นภาษี โปรดติดต่อขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติกรหรือที่ปรึกษาด้านภาษีในพื้นที่

Google Asia Pacific Pte. Ltd.

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 เป็นต้นไป เราจะเรียกเก็บ VAT 13% จากลูกค้า Google Ads ทุกรายที่มีที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงินในเนปาล เว้นแต่คุณจะประกาศว่าใช้บริการเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ และ Google มีหมายเลขบัญชีถาวรของเนปาล (PAN) ของคุณแล้ว

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การแจ้งหนี้รายเดือนแจ้ง PAN ในแบบฟอร์มนี้ได้ที่นี่

ผู้ลงโฆษณาที่ใช้การชำระเงินอัตโนมัติหรือการชำระเงินด้วยตนเองสามารถอัปเดตข้อมูลภาษีได้โดยใช้วิธีการด้านล่าง

อัปเดตข้อมูลภาษีในศูนย์การชำระเงินของ Google

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชีการชำระเงินผ่าน Google

สำหรับบัญชีบุคคลธรรมดา โปรดทำตามวิธีการด้านล่าง

  1. คลิกไอคอนรูปดินสอในส่วน "ข้อมูลภาษีของเนปาล"
  2. หากคุณใช้บริการของ Google เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและมี PAN ของเนปาล ให้เลือกสถานะภาษีเป็นผู้ประกอบการบุคคลธรรมดา เลือกช่องทำเครื่องหมายประกาศ จากนั้นกรอกข้อมูลภาษีในส่วน "PAN ของเนปาล"
  3. คลิกบันทึก

สำหรับบัญชีขององค์กร โปรดทำตามวิธีการด้านล่าง

  1. คลิกไอคอนดินสอ แก้ไขการตั้งค่า ไอคอนดินสอ ในส่วน "ข้อมูลภาษีของเนปาล" เลือกช่องทำเครื่องหมายการประกาศ จากนั้นกรอกข้อมูลภาษีในส่วน "PAN ของเนปาล"
  2. คลิกบันทึก
หมายเหตุ: Google ไม่สามารถให้คำปรึกษาด้านภาษีแก่คุณได้ โปรดติดต่อผู้ให้คำปรึกษาด้านภาษีของคุณหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับภาษีนี้

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
7750963323588607265
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false