เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ Conversion ของแอปใน Google Ads

บทความนี้จะอธิบายสาเหตุที่ Conversion ของแอปใน Google Ads อาจมีความคลาดเคลื่อน แต่ไม่ได้กล่าวถึงความคลาดเคลื่อนของ Conversion ของแอประหว่างหน้าแดชบอร์ด App Attribution Partner กับ Google Ads หรือความคลาดเคลื่อนของ Conversion ของแอประหว่าง Google Ads กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตาม Conversion ของแอปด้วย App Attribution Partner

คุณติดตาม Conversion ของแอปได้จาก 3 แหล่งที่มาต่อไปนี้

  • พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 (หรือ Firebase)
  • Google Play
  • การวิเคราะห์แอปจากบุคคลที่สาม

ภาพแสดงตัวเลือกเครื่องมือวัด Conversion ใน Google Ads

การที่แอปวัดเหตุการณ์ผู้ใช้เดียวกัน (เช่น การติดตั้ง) เป็น Conversion ที่แตกต่างกันในแหล่งที่มาเหล่านี้ใน Google Ads ถือเป็นเรื่องปกติ Conversion ดังกล่าวอาจมีความคลาดเคลื่อนตามปัจจัยต่างๆ แหล่งที่มาที่พบบ่อยที่สุดในการเปรียบเทียบคือ Firebase และการวิเคราะห์แอปจากบุคคลที่สาม

ภาพสาธิตวิธีแสดงแหล่งที่มาของ Conversion ใน Google Ads

วิธีเปรียบเทียบ Conversion 2 รายการใน Google Ads

การเปรียบเทียบการกระทําที่ถือเป็น Conversion ของแอป 2 รายการใน Google Ads จะทำโดยวิเคราะห์จํานวน Conversion ที่ได้รับจากแต่ละรายการ นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบ Conversion ของแอป 2 รายการใน Google Ads คุณต้องตรวจสอบก่อนว่าการตั้งค่าของ Conversion เหล่านั้นตรงกัน จากนั้นจึงเปรียบเทียบการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบจํานวนและการตั้งค่า Conversion โดยทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย Goals Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในเมนูส่วน
  3. คลิกสรุป

ภาพแสดงวิธีดู Conversion ใน Google Ads

  1. คลิกดูการกระทําที่ถือเป็น Conversion ทั้งหมดที่ด้านขวาบน

ภาพแสดงวิธีดูการกระทําที่ถือเป็น Conversion ทั้งหมดใน Google Ads

  1. คลิกคอลัมน์เพื่อเพิ่มคอลัมน์ที่อาจทําให้เกิดความคลาดเคลื่อนลงในมุมมอง
  2. เพิ่มคอลัมน์ที่มีเครื่องหมายถูกสีน้ำเงินในมุมมองด้านล่าง ซึ่งได้แก่
  • จำนวน
  • กรอบเวลา Conversion การคลิกผ่าน
  • กรอบเวลา Conversion การดูผ่าน
  • กรอบเวลา Conversion การดูอย่างมีส่วนร่วม

ภาพแสดงวิธีแก้ไขคอลัมน์การกระทำที่ถือเป็น Conversion ใน Google Ads

  1. เปรียบเทียบคอลัมน์ที่เพิ่มในขั้นตอนก่อนหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกัน ความแตกต่างของการตั้งค่า Conversion อาจทําให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้

ภาพแสดงวิธีเปรียบเทียบคอลัมน์ในการตั้งค่า Conversion ของ Google Ads

  1. หลังจากยืนยันว่าการตั้งค่าตรงกันแล้ว ให้เปรียบเทียบคอลัมน์ใดก็ได้ต่อไปนี้เพื่อหาความคลาดเคลื่อน
  • Conv. ทั้งหมด
  • Conv. ทั้งหมด (ตามเวลาที่เกิด Conv.)

วิธีลดความคลาดเคลื่อนระหว่าง Conversion ของแอปใน Google Ads

ความคลาดเคลื่อนที่พบบ่อยระหว่าง Firebase กับบุคคลที่สาม

ด้านล่างนี้อธิบายสาเหตุทั่วไปบางประการที่ทําให้เกิดความคลาดเคลื่อนและวิธีลดโอกาสที่จะเกิดความคลาดเคลื่อน

ไม่ได้นําเข้าการกระทําที่ถือเป็น Conversion ไปยัง Google Ads

ยืนยันว่านําเข้าเหตุการณ์ไปยังบัญชี Google Ads ที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อดูรายการเหตุการณ์ที่นําเข้า
หมายเหตุ: วิธีการด้านล่างเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ใช้ Google Ads ที่ได้รับการออกแบบใหม่ หากต้องการใช้การออกแบบก่อนหน้า ให้คลิกไอคอน "ลักษณะที่ปรากฏ" แล้วเลือกใช้การออกแบบก่อนหน้า หากคุณใช้ Google Ads เวอร์ชันก่อนหน้าอยู่ ให้ดูแผนที่อ้างอิงฉบับย่อ หรือใช้แถบค้นหาในแผงการนำทางด้านบนของ Google Ads เพื่อค้นหาหน้าเว็บที่ต้องการ
  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย Goals Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในเมนูส่วน
  3. คลิกสรุป
  4. คลิกดูการกระทําที่ถือเป็น Conversion ทั้งหมดที่ด้านขวาบน
  5. ในเมนูหน้าเว็บย่อย ให้เปลี่ยน "สถานะ" เป็นทั้งหมด

ภาพแสดงวิธีดูสถานะการกระทําที่ถือเป็น Conversion ใน Google Ads

หากการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่กําลังตรวจสอบไม่อยู่ในรายการ แสดงว่าไม่มีการนำเข้าไปยัง Google Ads ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อดูรายการเหตุการณ์ที่ไม่ได้นําเข้าไปยัง Google Ads

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย Goals Icon
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในเมนูส่วน
  3. คลิกสรุป แล้วคลิก + การกระทําที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  4. เลือกแอปและวิธีติดตาม Conversion ของแอป
  5. คลิกต่อไป

เหตุการณ์ที่ยังไม่ได้นําเข้าไปยัง Google Ads จะแสดงในหน้าถัดไป

การตั้งค่า Conversion ไม่สอดคล้องกัน

  1. เปิดการกระทําที่ถือเป็น Conversion แต่ละรายการในแท็บเบราว์เซอร์ใหม่และเปรียบเทียบการตั้งค่าต่อไปนี้

การตั้งค่า Conversion ที่ไม่ตรงกันอาจเป็นสาเหตุให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน ลองปรับการตั้งค่าให้ตรงกันแล้วกลับมาตรวจสอบภายหลังว่าความคลาดเคลื่อนลดลงหรือไม่

ความคลาดเคลื่อนใน first_opens

โดยค่าเริ่มต้น Conversion ของแอปจาก Firebase จะนับการติดตั้งอีกครั้งเป็นการติดตั้ง แต่ในหลายกรณี ผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามอาจใช้กรอบเวลาการระบุแหล่งที่มาอีกครั้งโดยค่าเริ่มต้น ซึ่งจะนับการติดตั้งอีกครั้งเป็นการติดตั้งต่อเมื่อกรอบเวลาการระบุแหล่งที่มาอีกครั้งผ่านไปแล้ว
หมายเหตุ: หากพบความคลาดเคลื่อนใน first_opens โปรดยืนยันกับตัวแทนของ Google ว่ามีการใช้กรอบเวลาการติดตั้งอีกครั้งกับเหตุการณ์ Firebase ที่ตรงกับกรอบเวลาการติดตั้งอีกครั้งซึ่งกำหนดไว้ในการวิเคราะห์ของบุคคลที่สามหรือไม่

ความคลาดเคลื่อนใน session_starts

ระยะเวลาขั้นต่ำที่จําเป็นระหว่างเซสชันแอปของผู้ใช้ซึ่งจะนับเป็น session_start อาจแตกต่างกันระหว่าง Conversion ของ Firebase กับ Conversion ของบุคคลที่สาม ตัวอย่างเช่น หากกำหนดเวลาไว้ที่ 30 นาทีและผู้ใช้เปิดแอปทุก 5 นาทีในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ระบบจะนับเป็นเซสชันเดียวเนื่องจากไม่มีการหยุดพักระหว่างช่วงเวลาที่มีการใช้งานนานพอที่จะบันทึกเป็นเซสชันใหม่ โดยค่าเริ่มต้น ระยะหมดเวลาเซสชันสําหรับ Conversion ของ Firebase ตั้งไว้ที่ 30 นาที แต่คุณสามารถปรับได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Firebase Analytics

ตรวจสอบการกําหนดค่าของบุคคลที่สามว่าตรงกับการตั้งค่า Firebase

มูลค่า Conversion และรหัสสกุลเงินที่ขาดหายไป

เมื่อเปรียบเทียบมูลค่า Conversion ให้ตรวจสอบว่าระบบส่งเหตุการณ์ที่มีประเภทสกุลเงินและรหัสสกุลเงินเดียวกันในคําสั่ง ping ที่ส่งไปยัง Google Ads ขอแนะนําให้เปรียบเทียบจํานวน Conversion แทนมูลค่า Conversion เมื่อเปรียบเทียบ Conversion

ตัวอย่างเช่น หากมีเหตุการณ์ Conversion ในแอปที่มีมูลค่า 100 และ Conversion 1 รายการหายไปใน Conversion รายการใดรายการหนึ่งจาก 2 รายการ มูลค่าจะต่างกัน 100 ซึ่งทําให้ดูเหมือนว่ามีความคลาดเคลื่อนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่แนะนําให้ปรับยอดตามมูลค่า แต่จำนวน Conversion ควรเป็นปัจจัยหลักในการปรับยอด

ไม่มีคำสั่ง ping ของ Conversion ในการวิเคราะห์แอปจากบุคคลที่สาม

ผู้ให้บริการวิเคราะห์แอปบุคคลที่สามควรส่งคําสั่ง ping ของ Conversion ทั้งหมดไปยัง Google Ads เพื่อลดความคลาดเคลื่อน หากคําสั่ง ping ของ Conversion จากบุคคลที่สามขาดหายไปไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ระบบจะนับ Conversion ของบุคคลที่สามได้ต่ำกว่าและอาจทําให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ ตรรกะในการระบุแหล่งที่มาล่วงหน้าว่า Conversion ใดควรใช้การระบุแหล่งที่มาของ Google (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบของ App Attribution Partner) และการกรองล่วงหน้าหรือรวบรวม Conversion ของบุคคลที่สาม (พบได้บ่อยเมื่อส่งแบบเซิร์ฟเวอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์) ทําให้เกิดการวัดเหตุการณ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย หรือปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับการใช้การติดตามของบุคคลที่สาม

ความคลาดเคลื่อนที่พบบ่อยกับ Google Play

การติดตั้งจาก Google Play

หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบการติดตั้งจาก Google Play กับ first_opens การติดตามการติดตั้งจาก Google Play จะเริ่มเมื่อผู้ที่โต้ตอบกับโฆษณาดาวน์โหลดแอปจาก Google Play Store ส่วน first_opens นั้นช่วยให้คุณติดตามได้ว่าผู้ที่โต้ตอบกับโฆษณาเปิดแอปครั้งแรกเมื่อใดหลังจากที่ติดตั้ง มีเหตุผลหลายประการ (เช่น ขนาดไฟล์แอปหรือพฤติกรรมของผู้ใช้) ที่ผู้ใช้บางรายอาจไม่เปิดแอปทันทีหลังจากที่ติดตั้ง

การซื้อในแอปของ Google Play

Google Play ติดตามการซื้อในแอป แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ Google Play ไม่ได้รวมการซื้อที่ไม่สําเร็จ อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ของบุคคลที่สามอาจติดตามการซื้อเมื่อผู้ใช้คลิกปุ่มซื้อโดยไม่ตรวจสอบว่าการทำธุรกรรมสําเร็จหรือไม่

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
248606040497902473
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false