เมื่อเปิดสิทธิ์บางอย่าง Google Fit จะติดตามกิจกรรมต่างๆ รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายและกิจกรรมของคุณได้ดีขึ้น เช่น หากอุปกรณ์สูญหาย คุณเปลี่ยนการตั้งค่า Google Fit ในอุปกรณ์นั้นจากอุปกรณ์อื่นได้
เปิดการติดตามกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย
เมื่อเปิดการติดตามกิจกรรม Fit จะรับรู้กิจกรรมต่างๆ ได้ เช่น จำนวนก้าวและจำนวนรอบที่ทำกิจกรรม
หากปิดไว้ Google Fit จะติดตามกิจกรรมของคุณโดยอัตโนมัติไม่ได้ โดยคุณจะพบเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่ป้อนด้วยตนเองหรือที่ติดตามโดยแอปที่เชื่อมต่อแล้ว
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์ Android
- แตะแอปและการแจ้งเตือน
Google Fit
- แตะสิทธิ์
- เปิด Google Fit
- แตะโปรไฟล์ที่ด้านล่าง
- แตะ "การตั้งค่า"
ที่ด้านบน
- ในส่วน "ค่ากำหนดการติดตาม" ให้เปิดหรือปิดติดตามกิจกรรมของคุณ
Google Fit 
ที่ด้านบนเปลี่ยนการติดตามตำแหน่ง
Google Fit จะใช้ตำแหน่งเพื่อติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น การวิ่งและการขี่จักรยาน รวมถึงแสดงแผนที่ของกิจกรรม หากปิดไว้ Google Fit จะใช้ตำแหน่งเพื่อติดตามกิจกรรมไม่ได้
สำคัญ: Fit จะไม่บันทึกข้อมูลตำแหน่งของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี (หรืออายุตามเกณฑ์ในประเทศของคุณ)
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์ Android
- แตะแอปและการแจ้งเตือน
Google Fit
- แตะสิทธิ์
- เลือกวิธีที่ต้องการให้ติดตามตำแหน่งของคุณ ดังนี้
- อนุญาตหรืออนุญาตตลอด: Google Fit จะติดตามตําแหน่งแม้ไม่ได้เปิดแอป วิธีนี้จะทําให้ Google Fit ติดตามกิจกรรมได้โดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อคุณออกไปเดินเล่น
- อนุญาตขณะใช้แอปอยู่เท่านั้น: Google Fit จะใช้ตำแหน่งหลังจากคุณเปิดแอปเท่านั้น วิธีนี้จะทำให้ Google Fit ติดตามตำแหน่งเฉพาะเมื่อคุณเลือก
- (Android 11 เท่านั้น) ถามทุกครั้ง: Google Fit จะขอสิทธิ์ในการติดตามตําแหน่งทุกครั้งที่คุณใช้แอป
- ปฏิเสธ: ปิดการติดตามตำแหน่งโดยสิ้นเชิง หากเลือกตัวเลือกนี้ ให้ข้าม 4 ขั้นตอนถัดไป
- เปิด Google Fit
ในโทรศัพท์
- แตะโปรไฟล์ที่ด้านล่าง
- แตะ "การตั้งค่า"
- ในส่วน "ค่ากำหนดการติดตาม" ให้เลือกวิธีที่ต้องการให้ติดตามตำแหน่งของคุณ และเปิดหรือปิดการตั้งค่าบางอย่างเหล่านี้
- ติดตามกิจกรรมของคุณ
- ใช้ตำแหน่งของคุณ
- รวมแผนที่สำหรับทุกกิจกรรม
Google Fit เคล็ดลับ: ในโทรศัพท์ที่ใช้ Android 11 หากไม่ได้เปิดการติดตามกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายและไม่ได้ใช้แอปเป็นเวลา 90 วัน Google Fit จะเปลี่ยนกลับไปเป็นปฏิเสธและจะไม่ใช้ตําแหน่งของคุณเพื่อติดตามกิจกรรม
ลบสิทธิ์สําหรับข้อมูลของคุณ
- เปิดแอป Google Fit
- แตะโปรไฟล์
- หากต้องการควบคุมพื้นที่เก็บข้อมูล ให้เปิดหรือปิดสิ่งต่อไปนี้
- จัดเก็บข้อมูลสัญญาณชีพ เช่น
- อัตราการเต้นของหัวใจ
- อัตราการเต้นของหัวใจขณะพัก
- อัตราการหายใจ
- น้ำตาลกลูโคสในเลือด
- ความอิ่มตัวของออกซิเจน
- อุณหภูมิ
- ความดันโลหิต
- จัดเก็บข้อมูลการติดตามรอบเดือน
- จัดเก็บข้อมูลสัญญาณชีพ เช่น
เคล็ดลับ
- การเปลี่ยนสิทธิ์สำหรับข้อมูลจะส่งผลต่อการติดตามข้อมูลต่อไป หากต้องการลบข้อมูลที่ผ่านมา ให้ลบข้อมูลออกจาก Google Fit
- เมื่อคุณลบข้อมูลกิจกรรม การนอนหลับ หรือข้อมูลการหายใจพร้อมคําแนะนํา จะเป็นการลบรายการที่เกี่ยวข้องออกจากบันทึกของคุณด้วย
เปลี่ยนสิทธิ์ของกล้อง
- เปิดแอป Google Fit
- แตะโปรไฟล์
- เปิดหรือปิดเก็บข้อมูลค่าสัญญาณชีพ
เปลี่ยนการตั้งค่าในอุปกรณ์อื่นๆ
เปลี่ยนสิทธิ์ของ Google Fit ในนาฬิกา Wear OSหากใช้ Google Fit ในนาฬิกา Wear OS คุณจะปิดการติดตามกิจกรรมและตำแหน่งในนาฬิกาได้
ปิดการติดตามกิจกรรม
- หากหน้าจอมืด ให้แตะหน้าจอเพื่อให้นาฬิกาทำงาน
- เปิด Google Fit
- เลื่อนและแตะการตั้งค่า
- แตะออกจากระบบ
ปิดการติดตามตำแหน่ง
สำคัญ: Fit จะไม่บันทึกข้อมูลตำแหน่งของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี (หรืออายุตามเกณฑ์ในประเทศของคุณ)
- หากหน้าจอมืด ให้แตะหน้าจอเพื่อให้นาฬิกาทำงาน
- เลื่อนลงจากด้านบนของหน้าจอ
- แตะการตั้งค่า
- ค้นหาและแตะ Google Fit
- ปิดตำแหน่ง
- เปิด Google Fit
- แตะโปรไฟล์ที่ด้านล่าง
- แตะ "การตั้งค่า"
- ในส่วน "ค่ากำหนดการติดตาม" ให้แตะการตั้งค่าสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ
- เลือกอุปกรณ์
- หากเลือกอุปกรณ์ Android: ในส่วน "ติดตามกิจกรรมของคุณ" หรือ "ใช้ตำแหน่งของคุณ" ให้แตะปิดใช้
- หากเลือกอุปกรณ์ iOS: ในส่วน "เชื่อมต่อ Google Fit กับ Health" ให้แตะยกเลิกการเชื่อมต่อ
- หากเลือกอุปกรณ์ Android: ในส่วน "ติดตามกิจกรรมของคุณ" หรือ "ใช้ตำแหน่งของคุณ" ให้แตะปิดใช้