บทความนี้มีไว้สำหรับผู้ดูแลระบบ โปรดดูที่นี่สำหรับครู
หากต้องการใช้ฟีเจอร์การผสานรวม SIS ครูทุกคนจะต้องมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้
- ใบอนุญาต Google Workspace for Education Plus
- ใบอนุญาต Teaching and Learning Upgrade
ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2024 เป็นต้นไป คุณต้องมีใบอนุญาตอย่างใดอย่างหนึ่งจึงจะใช้ฟีเจอร์ส่งออกคะแนนได้
หากระบบข้อมูลของนักเรียน (SIS) ผสานรวมอยู่กับ Classroom ผ่าน One Roster API คุณจะเชื่อมต่อ Classroom กับ SIS ได้ หลังจากตั้งค่าการเชื่อมต่อแล้ว ครูจะลิงก์ชั้นเรียนและใช้ฟีเจอร์การผสานรวม SIS เพื่อนำเข้าบัญชีรายชื่อนักเรียนและส่งออกคะแนนไปยัง SIS ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์การผสานรวม SIS
เราจะให้บริการสนับสนุนแก่ลูกค้าที่ใช้โซลูชันการให้บริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ซึ่งผู้ให้บริการ SIS โฮสต์และจัดการอย่างเต็มรูปแบบเท่านั้น เราขอแนะนำให้คุณอนุญาตให้ Google แชร์ข้อมูลกับ SIS ในหน้าจอการกำหนดค่าของคอนโซลผู้ดูแลระบบโดยเลือกช่อง "เปิดใช้การรองรับ SIS: อนุญาตให้ Google แชร์ชื่อโดเมนของคุณกับ <SIS>" เพื่อวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ
สำคัญ: การผสานรวม SIS พร้อมให้บริการแก่พาร์ทเนอร์หลายราย โดยขณะนี้กำลังดำเนินการให้พร้อมใช้งานสำหรับพาร์ทเนอร์ SIS รายอื่นๆ ดูข้อมูลเกี่ยวกับสถานะพาร์ทเนอร์การผสานรวม SIS
คุณต้องมีข้อมูลต่อไปนี้จากพาร์ทเนอร์ SIS หากต้องการเชื่อมต่อ
- URL โฮสต์
- คีย์การเข้าถึง
- รหัสลับ
เชื่อมต่อ Classroom กับ SIS
ทำตามวิธีการสำหรับ SIS ของคุณ
คุณสมบัติในการใช้บริการ
คุณสามารถเชื่อมต่อ Classroom กับ Infinite Campus ได้ หากมีคุณสมบัติดังนี้
- ใช้ Infinite Campus ร่วมกับใบอนุญาต Campus Learning
- ใช้โซลูชัน SaaS ที่ Infinite Campus โฮสต์และจัดการอย่างเต็มรูปแบบ
Google ไม่สามารถให้การสนับสนุนได้หากเขตการศึกษาของคุณใช้งานในลักษณะดังนี้
- ใช้ซอฟต์แวร์ Infinite Campus ผ่านการใช้งานภายในองค์กร
- Infinite Campus ไม่ได้จัดการติดตั้งใช้งานบนระบบคลาวด์โดยตรง เช่น เครื่องเสมือนใน AWS/GCP
ผู้ดูแลระบบที่มีคำถามเกี่ยวกับการตั้งค่าเบื้องต้นในพอร์ทัล Infinite Campus สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยใช้ช่องทางต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1: รับข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth
- ลงชื่อเข้าใช้หน้าผู้ดูแลระบบ Infinite Campus
- ค้นหาและเลือก Digital Learning Applications
- คลิก Add application
- ในส่วน Browse Applications ให้คลิก Google Classroom
- ไม่บังคับ: หาก Browse Applications ไม่ปรากฏขึ้น ให้ตรวจสอบใบอนุญาต Campus Learning ด้วยวิธีต่อไปนี้
- ค้นหาและเลือก Campus Learning Licensing จากนั้นตรวจสอบสถานะใบอนุญาตของคุณที่มุมขวาบน
- หากไม่มีใบอนุญาต คุณสามารถขอใบอนุญาตชั่วคราวสำหรับใช้งานได้ 45 วันแต่จะขอได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
- หากมีใบอนุญาตแล้ว แต่ยังสร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบไม่ได้ โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Campus
-
คลิก Generate New OneRoster Connection
-
เลือก OneRoster 1.2
-
บันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth ต่อไปนี้ไว้เพื่อใช้ในขั้นตอนถัดไป
- คีย์ผู้ใช้ (รหัส OAuth)
- ข้อมูลลับของผู้ใช้ (ข้อมูลลับของ OAuth)
- URL ฐานของ OneRoster (URL โฮสต์)
ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Classroom
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- ถัดจาก "เลือก SIS" ให้คลิกลูกศรลง
- เลือก SIS
- คลิกเชื่อมต่อกับ Google
- ในส่วน "การตั้งค่า SIS" ให้คลิกเชื่อมต่อ
- ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth ที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1 ด้านบน
- URL โฮสต์
- คีย์การเข้าถึง
- รหัสลับ
- หากต้องการอนุญาตให้ Google แชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS โปรดเลือกช่องถัดจาก "เปิดใช้การรองรับ SIS"
- เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ ระบบจะแชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS เพื่อช่วยวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ
- คลิกให้สิทธิ์
- หากเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด ให้รีเฟรชหน้าดังกล่าว
หากพบปัญหาในการตั้งค่า Infinite Campus โปรดติดต่อช่องทางต่อไปนี้
คุณสมบัติ
คุณเชื่อมต่อ Classroom กับ Skyward SMS 2.0 ได้ หากมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นเขตการศึกษาที่ใช้ Skyward 2.0 ที่มีใบอนุญาต LMS API
- ใช้โซลูชัน SaaS ที่ Skyward โฮสต์และจัดการอย่างเต็มรูปแบบ
ลูกค้าภายในองค์กรใช้การผสานรวม SIS ได้ แต่จะไม่มีสิทธิ์รับการสนับสนุนจาก Google
หากมีคำถามเกี่ยวกับการตั้งค่าเบื้องต้นในพอร์ทัล Skyward โปรดติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าของ Skyward
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่า Google เป็นพาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการของ OneRoster และรับข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth
- ที่หน้า Product Setup ของ Skyward ในส่วน "System" ให้คลิก Product Setup (PS) Contact Access (CA)
- ในส่วน "Security" (SE) และ "Subgroup Users" (US) ให้เลือก Secured User (SU) คลิก Add
- ในส่วน "Add Secured User" ให้เลือกประเภทชื่อที่จะติดตามสำหรับผู้ให้บริการ แล้วป้อนชื่อให้ Google เช่น ป้อนชื่อองค์กรว่า Google
เคล็ดลับ: จดชื่อไว้เพื่อใช้ในภายหลัง
- คลิก Add Entered Name to Secured Users เพื่อดำเนินการต่อ
- ในส่วน "Security Information" ให้คลิก Account Information โดยข้อมูลสำหรับการเข้าสู่ระบบในชื่อ "GOOGLE" คือคีย์ API
- คลิก Save
- ใน Secured Users List ให้หาชื่อที่คุณป้อนไว้ด้านบนในขั้นตอนที่ 3
- ตรวจสอบว่าชื่อระบุไว้ว่าเป็น Active Secured User (Y)
- คลิก API ที่มุมล่างขวา
- ในหน้าต่าง API Access ให้คลิก Generate a New Secret จากนั้นจดคีย์และข้อมูลลับไว้ เราจะใช้ข้อมูลนี้ร่วมกับ URL ของ API เพื่อเชื่อมต่อกับ Classroom
- หลังจากสร้างข้อมูลลับใหม่แล้ว ให้กลับไปที่หน้า Product Setup ของ Skyward แล้วไปที่ "Product Setup" (PS) "Contact Access" (CA) "District Setup" (DS) "Configuration" (CF) เลือก API Configuration (AP)
- บันทึกข้อมูลที่อยู่ในช่อง Application URL และ Authentication URL ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเฉพาะสําหรับเขตของคุณ หากไม่มีข้อมูลในช่อง Application URL ให้ติดต่อทีมสนับสนุนของ Skyward
เคล็ดลับ: URL ของ OneRoster API จะมีค่าเท่ากับ URL ของแอปพลิเคชัน (Application URL) ซึ่งเป็นค่าเฉพาะสำหรับเขตการศึกษาของคุณและปลายทาง OneRoster (มีค่าเท่ากับ /ims/oneroster/v1p1/ เสมอ) เช่น
ตัวอย่าง URL ของแอปพลิเคชัน | https://esdemo1.skyward.com |
---|---|
ปลายทางแบบทางการของ OneRoster | /ims/oneroster/v1p1/ |
ตัวอย่าง URL ของ OneRoster API |
https://esdemo1.skyward.com/api/ims/oneroster/v1p1/ |
- ในส่วน "OneRoster API Line Item Configuration" ให้ตั้งค่า "Default Category" เป็น Assignments หรือเลือกตัวเลือกอื่น
เคล็ดลับ: ระบบจะเติมค่า Default Category สําหรับงานที่ส่งออกจาก Classroom ลงในสมุดพก Skyward หากไม่มีส่วน Default Category ในรายการ โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Skyward - บันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth สำหรับ Classroom รายการต่อไปนี้ไว้เพื่อใช้ในขั้นตอนถัดไป
- คีย์ (คีย์การเข้าถึง)
- ข้อมูลลับ (รหัสลับ)
- URL ของ OneRoster API (URL โฮสต์)
- คลิก Save
ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Classroom
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- ถัดจาก "เลือก SIS" ให้คลิกลูกศรลง
- เลือก SIS
- คลิกเชื่อมต่อกับ Google
- ในส่วน "การตั้งค่า SIS" ให้คลิกเชื่อมต่อ
- ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth ที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1 ด้านบน
- URL โฮสต์
- คีย์การเข้าถึง
- รหัสลับ
- หากต้องการอนุญาตให้ Google แชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS โปรดเลือกช่องถัดจาก "เปิดใช้การรองรับ SIS"
- เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ ระบบจะแชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS เพื่อช่วยวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ
- คลิกให้สิทธิ์
- หากเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด ให้รีเฟรชหน้าดังกล่าว
คุณสมบัติในการใช้บริการ
คุณสามารถเชื่อมต่อ Classroom กับ Skyward Qmlativ ได้เมื่อมีคุณสมบัติดังนี้
- คุณเป็นเขตการศึกษาซึ่งใช้ Skyward Qmlativ ที่มีใบอนุญาต OneRoster® API
- คุณใช้โซลูชัน SaaS ที่ Skyward โฮสต์และจัดการอย่างเต็มรูปแบบ
- คุณเป็นเขตการศึกษาที่มีโฮสติ้ง Skyward Qmlativ ของตนเอง
ลูกค้าที่ใช้โซลูชันภายในองค์กรหรือโซลูชันที่โฮสต์ด้วยตนเองสามารถใช้การผสานรวม SIS ได้ แต่จะขอรับความช่วยเหลือจากทีมสนับสนุนของ Google ไม่ได้
หากมีคําถามเกี่ยวกับการตั้งค่าเบื้องต้นในพอร์ทัล Skyward โปรดติดต่อทีมสนับสนุนลูกค้าของ Skyward
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่า Google ด้วยการเข้าถึงการผสานรวมและรับข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth
- กำหนดค่าผู้ให้บริการ One Roster ดังนี้
- จากเมนู Skyward Qmlativ ให้เลือก Administrative Access API
- คลิก Vendor
- ค้นหา "Google" ในรายการ
- หาก "Google" ไม่อยู่ในรายการ ให้ทำดังนี้
- คลิก Add One Roster Vendor
- ในเวิร์กโฟลว์ "Add One Roster Vendor" ให้ป้อน
Google
- หาก "Google" ไม่อยู่ในรายการ ให้ทำดังนี้
- คลิก Save
- กำหนดค่า One Roster ดังนี้
- จากเมนู Skyward Qmlativ ให้เลือก Administrative Access API
- คลิก One Roster Configuration
- ค้นหาแถวที่มีรหัส "GGLCL" และผู้ให้บริการ "Google"
- หากไม่เห็น "GGLCL" ให้ทำดังนี้
- คลิก Add One Roster Configuration
- ในส่วน "Add One Roster Configuration" ให้ตั้งค่า "One Roster Vendor" เป็น Google
- ในช่อง "Code" ให้ป้อน
GGLCL
- ในช่อง "Description" ให้ป้อน
Google Classroom
- ในตัวเลือก "District" ให้เลือกเขตของคุณ
- เลือกช่องข้าง "Allow Grade Pass Back"
- หากกำหนดค่าหมวดหมู่เริ่มต้นสำหรับ "Grade Pass Back" ไว้แล้ว คุณจะเลือกหมวดหมู่ดังกล่าวได้จากตัวเลือก "Default Category"
- หากไม่เห็น "GGLCL" ให้ทำดังนี้
- คลิก Save
- ตั้งค่าการเข้าถึงการผสานรวมและสร้างข้อมูลลับดังนี้
- จากเมนู Skyward Qmlativ ให้เลือก Administrative Access API Integration
- ค้นหาแถวที่มีชื่อผู้ให้บริการว่า "Google Dev Team" และชื่อผลิตภัณฑ์ "Google Classroom"
- หากต้องการค้นหาการผสานรวม ให้คลิก Open Integration Accesses
- คลิก Add Integration Access
- กรอกข้อมูลในเวิร์กโฟลว์ "Add Integration Access"
- ในช่อง "Name" ให้ป้อนชื่อการเข้าถึงการผสานรวม เช่น "Google Classroom"
- ในช่อง "Key" ให้ป้อน
GOOGLE
- ในช่อง "Authentication Type" ให้เลือก OA2 – OAuth 2.0
- เลือกช่องข้าง "Is Active"
- ตั้งค่า "Effective Date" เป็นวันที่ที่ต้องการเริ่มต้นการเข้าถึง
- หากต้องการให้วันที่มีผลเริ่มต้นขึ้นทันที ให้ปล่อยค่าเริ่มต้นไว้ตามเดิม
- ตั้งค่า "Expiration Date" เป็นวันที่ที่ต้องการให้การเข้าถึงหมดอายุ วันที่นี้จะตั้งค่าเป็น 1 ปีนับจากวันที่มีผลโดยค่าเริ่มต้น แต่ก็นำออกได้หากคุณต้องการ
- Skyward แนะนำให้สร้างการเข้าถึงการผสานรวมใหม่สำหรับแต่ละปีการศึกษาเป็นอย่างต่ำเพื่อความปลอดภัย หากต้องการอนุญาตการเปลี่ยนนี้ คุณอาจสร้างเรคคอร์ดการเข้าถึงการผสานรวมหลายรายการซึ่งวันที่มีผลและวันที่หมดอายุทับซ้อนกันได้ โดยเรคคอร์ดเหล่านี้จะมีคีย์หรือข้อมูลลับที่แตกต่างกัน
- ในส่วน "Configuration" ให้ค้นหาตัวเลือก "OneRoster Configuration"
- เลือกรหัส GGLCL และผู้ให้บริการ Google
- คลิก Save
- ใน "Configuration" ให้ตรวจสอบว่าจำนวน "Successful Record" เป็น "1"
- คลิก Generate Secret
- หากต้องการคัดลอกคีย์การเข้าถึงการผสานรวมและข้อมูลลับไปยังคลิปบอร์ด ให้คลิก Copy
- เก็บข้อมูลในที่ที่คุณเข้าถึงได้ เนื่องจากคุณจะไม่สามารถดูรายละเอียดเหล่านี้ได้ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณสร้างข้อมูลลับใหม่ด้วยเวิร์กโฟลว์ "Generate Secret" ระบบจะแทนที่ข้อมูลลับเดิมด้วยข้อมูลลับใหม่ที่คุณกำหนดไว้
- คลิก Run Process Close
- สร้างข้อมูลลับดังนี้
- จากเมนู Skyward Qmlativ ให้เลือก Administrative Access API
- คลิก Integration
- ค้นหาแถวที่มีชื่อผู้ให้บริการว่า "Google Dev Team" และชื่อผลิตภัณฑ์ "Google Classroom"
- หากต้องการค้นหาการผสานรวม ให้คลิก Open Integration Accesses
- เลือกการเข้าถึงการผสานรวมที่ต้องการสร้างข้อมูลลับ
- คลิก Menu arrow button Generate Secret
- หากต้องการคัดลอกคีย์การเข้าถึงการผสานรวมและข้อมูลลับไปยังคลิปบอร์ด ให้คลิก Copy ในเวิร์กโฟลว์ "Generate Secret"
- เนื่องจากคุณจะเข้าถึงข้อมูลนี้ในภายหลังไม่ได้ โปรดเก็บข้อมูลไว้เพื่อให้ดูได้ตลอด อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณสร้างข้อมูลลับใหม่ด้วยเวิร์กโฟลว์ "Generate Secret" ข้อมูลลับใหม่จะแทนที่ข้อมูลลับเดิม
- คลิก Run Process Close
เคล็ดลับ: URL ของ OneRoster® API จะมีค่าเท่ากับ URL ของแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นค่าเฉพาะสำหรับเขตของคุณที่มี "API" อยู่ที่ส่วนท้ายและปลายทาง OneRoster® (มีค่าเท่ากับ /ims/oneroster/v1p1 เสมอ) เช่น
ตัวอย่าง URL ของแอปพลิเคชัน | https://demo.skyward.com/demo |
---|---|
ตัวอย่าง URL ของ API | https://demo.skyward.com/demoAPI |
ปลายทางแบบทางการของ OneRoster® | /ims/oneroster/v1p1/ |
ตัวอย่าง URL ของ OneRoster® API |
https://demo.skyward.com/demoapi/ims/oneroster/v1p1/ |
ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Classroom
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- ถัดจาก "เลือก SIS" ให้คลิกลูกศรลง
- เลือก SIS
- คลิกเชื่อมต่อกับ Google
- ในส่วน "การตั้งค่า SIS" ให้คลิกเชื่อมต่อ
- ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth ที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1 ด้านบน
- URL โฮสต์
- คีย์การเข้าถึง
- รหัสลับ
- หากต้องการอนุญาตให้ Google แชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS โปรดเลือกช่องถัดจาก "เปิดใช้การรองรับ SIS"
- เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ ระบบจะแชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS เพื่อช่วยวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ
- คลิกให้สิทธิ์
- หากเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด ให้รีเฟรชหน้าดังกล่าว
คุณสมบัติในการใช้บริการ
เขตการศึกษาของคุณจะเชื่อมต่อ Classroom กับ Aspen ได้หากคุณมีคุณสมบัติดังนี้
- ใช้ Follett Aspen เวอร์ชัน 6.2 ขึ้นไป
- ใช้โซลูชัน SaaS ซึ่งโฮสต์และจัดการโดย Follett Aspen อย่างเต็มรูปแบบ
ผู้ดูแลระบบที่มีคําถามเกี่ยวกับการตั้งค่าเริ่มต้นสําหรับ Aspen จะดําเนินการต่อไปนี้ได้
- ติดต่อผู้ดูแลระบบ SIS ที่ได้รับอนุญาตของเขตการศึกษา
- ติดต่อฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคของ Aspen ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ Pando
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่า One Roster และรับข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth
- ลงชื่อเข้าใช้ Pando ในฐานะผู้ดูแลระบบ Aspen
- ในส่วน "Home" ทางด้านซ้าย ให้คลิก Community General API Connections Page
- ในส่วน "Resources" ให้เลือกโฟลเดอร์ "Setup and Aspen Configuration"
- ทำตามวิธีการในบทความ
- หลังจากตั้งค่า Aspen แล้ว ให้จดตัวระบุไคลเอ็นต์และคีย์รหัสลับไคลเอ็นต์ไว้
ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Classroom
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- ถัดจาก "เลือก SIS" ให้คลิกลูกศรลง
- เลือก SIS
- คลิกเชื่อมต่อกับ Google
- ในส่วน "การตั้งค่า SIS" ให้คลิกเชื่อมต่อ
- ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth ที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1 ด้านบน
- URL โฮสต์
- คีย์การเข้าถึง
- รหัสลับ
- หากต้องการอนุญาตให้ Google แชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS โปรดเลือกช่องถัดจาก "เปิดใช้การรองรับ SIS"
- เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ ระบบจะแชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS เพื่อช่วยวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ
- คลิกให้สิทธิ์
- หากเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด ให้รีเฟรชหน้าดังกล่าว
คุณสมบัติในการใช้บริการ
- คุณสามารถเชื่อมต่อ Classroom กับ SIS ของ PowerSchool ได้หากมี PowerSchool Universal Rostering Connector ที่เปิดใช้ฟังก์ชันการอ่านหรือเขียน
- เราขอแนะนำให้ใช้ SIS ของ PowerSchool เวอร์ชัน 24.5.1.0 ขึ้นไปเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
- Google ไม่สามารถให้การสนับสนุนได้หากเขตการศึกษาของคุณใช้งานระบบคลาวด์ที่ไม่ได้จัดการโดย PowerSchool โดยตรง เช่น เครื่องเสมือนใน AWS หรือ GCP
- เราขอแนะนำให้ใช้โซลูชัน SaaS ที่ PowerSchool โฮสต์และจัดการอย่างเต็มรูปแบบเพื่อประสบการณ์ด้านการสนับสนุนที่ดีที่สุด
- ผู้ดูแลระบบที่มีคำถามเกี่ยวกับการตั้งค่าเริ่มต้นในพอร์ทัล SIS ของ PowerSchool สามารถติดต่อทีมสนับสนุน SIS ของ PowerSchool ได้
ขั้นตอนที่ 1: รับข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth
หากต้องการให้ SIS ของ PowerSchool มีสิทธิ์การเขียนใน Universal Rostering คุณต้องดำเนินการลงทะเบียนด้วยตนเองให้เสร็จสมบูรณ์ก่อน วิดีโอและวิธีการเหล่านี้มีไว้เพื่อแนะนำผู้ดูแลระบบด้านเทคนิคเกี่ยวกับกระบวนการใน PowerSchool Community
- คุณต้องติดตั้งปลั๊กอิน Google Universal Rostering ใน SIS ของ PowerSchool ก่อนจึงจะซิงค์ข้อมูลได้ ซึ่งคุณจะดาวน์โหลดปลั๊กอินได้โดยใช้ลิงก์ด้านล่างและเข้าถึงระบบภายใน SIS ของ PowerSchool
- ดาวน์โหลด Google Universal Connector
- ลงชื่อเข้าใช้แอปพลิเคชัน SIS ของ PowerSchool
- ในส่วน "การจัดการระบบ" ให้เลือกเซิร์ฟเวอร์ การกำหนดค่าปลั๊กอิน
- ติดตั้งปลั๊กอิน Google Universal Connector โดยทำดังนี้
- คลิกติดตั้งในส่วน "การกำหนดค่าการจัดการปลั๊กอิน"
- เคล็ดลับ: หากติดตั้ง Google Universal Connector ไว้แล้ว ให้เลือกปลั๊กอินที่มีอยู่ อัปเดต
- เลือกไฟล์ปลั๊กอิน Google Universal Connector เพื่อติดตั้ง โดยทำดังนี้
- เมื่ออยู่ในหน้า "ติดตั้งปลั๊กอิน" ให้เลือกไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดด้วยลิงก์ในขั้นตอนก่อนหน้า แล้วเลือกติดตั้ง
- ใน "การกำหนดค่าการจัดการปลั๊กอิน" ภายใน SIS ของ PowerSchool ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายเพื่อเปิดใช้ปลั๊กอิน Google Universal Connector
- สร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อใช้ใน Google Classroom
- เมื่อติดตั้งปลั๊กอินแล้ว ให้เลือกปลั๊กอินเพื่อเข้าถึงหน้าสรุป หน้าสรุปจะมี "ClientID" และ "ClientSecret"
- บันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth ต่อไปนี้ไว้เพื่อใช้ในขั้นตอนถัดไป
- คีย์ผู้ใช้ (รหัส OAuth): ป้อน "ClientID" จากขั้นตอนด้านบน
- ข้อมูลลับของผู้ใช้ (ข้อมูลลับของ OAuth): ป้อน "ClientSecret" จากขั้นตอนด้านบน
- URL ฐานของ OneRoster (URL โฮสต์): ป้อน "https://sis.powerschool.com/api/ims/oneroster/v1p1"
ขั้นตอนที่ 2: เชื่อมต่อ Classroom
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- ถัดจาก "เลือก SIS" ให้คลิกลูกศรลง
- เลือก SIS
- คลิกเชื่อมต่อกับ Google
- ในส่วน "การตั้งค่า SIS" ให้คลิกเชื่อมต่อ
- ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบ OAuth ที่คุณบันทึกไว้ในขั้นตอนที่ 1 ด้านบน
- URL โฮสต์
- คีย์การเข้าถึง
- รหัสลับ
- หากต้องการอนุญาตให้ Google แชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS โปรดเลือกช่องถัดจาก "เปิดใช้การรองรับ SIS"
- เมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ ระบบจะแชร์ชื่อโดเมนของคุณกับผู้ให้บริการ SIS เพื่อช่วยวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ
- คลิกให้สิทธิ์
- หากเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด ให้รีเฟรชหน้าดังกล่าว
หากพบปัญหาในการตั้งค่า SIS ของ PowerSchool โปรดติดต่อทีมสนับสนุน SIS ของ PowerSchool
ทำงานอื่นๆ ให้เสร็จสมบูรณ์
เปิดใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูล* สำหรับการเชื่อมต่อ SIS ที่มีอยู่แล้วเท่านั้น
ไปที่หน้าการกำหนดค่า SIS อีกครั้งเพื่อตรวจสอบ รวมถึงยืนยันฟีเจอร์นำเข้าและส่งออกข้อมูล
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- กล่องโต้ตอบจะแจ้งให้คุณรับทราบเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่
- คลิกบันทึกและรับทราบ
เมื่อเปิดใช้การสนับสนุน Google อาจแชร์ชื่อโดเมนของคุณกับ SIS เพื่อช่วยวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- เลือกช่องถัดจาก "เปิดใช้การสนับสนุน"
- ระบบจะบันทึกตัวเลือกของคุณโดยอัตโนมัติและสามารถอัปเดตได้ทุกเมื่อ
- ไปที่ classroom.google.com/admin
- ในส่วน "ตั้งค่า SIS" ให้คลิกนำออก ยกเลิกการเชื่อมต่อ
SIS | สถานะ |
---|---|
Infinite Campus | พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้ Infinite Campus ที่มีใบอนุญาต Campus Learning หากคุณไม่มีใบอนุญาต Campus Learning โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ SIS เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม |
Skyward SMS 2.0 | พร้อมให้บริการสําหรับเขตการศึกษาซึ่งใช้ Skyward SMS 2.0 ที่มีใบอนุญาต LMS API หากคุณไม่มีใบอนุญาต LMS API โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ SIS เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม |
Skyward Qmlativ | พร้อมให้บริการสำหรับเขตการศึกษาซึ่งใช้ Skyward Qmlativ ที่มีใบอนุญาต OneRoster® API หากคุณไม่มีใบอนุญาต OneRoster® API โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ SIS เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม |
Follett Aspen | พร้อมให้บริการสำหรับเขตการศึกษาซึ่งใช้ Aspen เวอร์ชัน 6.2 ขึ้นไป |
SIS ของ PowerSchool | เราขอแนะนำให้ใช้ SIS ของ PowerSchool เวอร์ชัน 24.5.1.0 ขึ้นไปเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด |
SIS ของคุณอาจไม่ปรากฏในรายการ เรายังคงเปิดรับพาร์ทเนอร์ SIS บางระบบที่เป็นไปตามข้อกำหนด OneRoster อยู่อย่างต่อเนื่อง หากสนใจเข้าร่วมโครงการนำร่องในอนาคต โปรดกรอกแบบฟอร์มแสดงความสนใจในการผสานรวม SIS
หาก SIS ของคุณไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของ OneRoster ให้ใช้ Classroom API สำหรับฟีเจอร์การผสานรวมแทน ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Classroom API
สำคัญ: การส่งแบบฟอร์มไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะได้เข้าร่วมโครงการหรือผสานรวมระบบ
ฟีเจอร์การผสานรวม SIS พร้อมให้บริการสำหรับผู้ให้บริการ SIS ที่ระบุไว้ ทั้งนี้มีเพียงลูกค้าที่ใช้โซลูชัน SaaS ซึ่งโฮสต์และจัดการโดยผู้ให้บริการ SIS อย่างเต็มรูปแบบเท่านั้นที่สามารถขอรับความช่วยเหลือจากทีมสนับสนุนของ Google ได้ เราจะให้บริการอย่างเต็มที่เกี่ยวกับการกำหนดค่าการติดตั้งใช้งานอื่นๆ เช่น การโฮสต์ด้วยตนเอง ตามเอกสารประกอบที่คุณให้มาในศูนย์ช่วยเหลือ
คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าระบบรองรับ SIS ของคุณหรือไม่ ค้นหาว่าการใช้งาน SIS ของคุณได้รับการจัดการและอยู่ในระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการ SIS หรือไม่
หากไม่แน่ใจ ให้ทำดังนี้
- ครู: ติดต่อผู้ดูแลระบบ
- ผู้ดูแลระบบ: ติดต่อทีมสนับสนุนของ SIS
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ส่งออกคะแนนไปยัง SIS (สําหรับครู)
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผสานรวม SIS สำหรับครู
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผสานรวม SIS สำหรับผู้ดูแลระบบ
- เริ่มต้นใช้งานการนำเข้าบัญชีรายชื่อใน SIS
Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง