Google ไดรฟ์จะช่วยลดความซับซ้อนของโครงสร้างไฟล์และโฟลเดอร์ซึ่งได้รับการจัดเก็บไว้ในหลายตำแหน่งโดยการแทนที่ด้วยทางลัด
ก่อนหน้านี้คุณสามารถจัดเก็บไฟล์และโฟลเดอร์ไว้ในหลายตําแหน่งในไดรฟ์ของฉัน ซึ่งการใช้ทางลัดจะช่วยให้โครงสร้างไฟล์และโฟลเดอร์มีความซับซ้อนน้อยลงและทำให้ผู้ใช้เข้าถึงรายการได้ง่าย นอกจากนี้คุณยังค้นหาและจัดระเบียบไฟล์กับโฟลเดอร์ใน Google ไดรฟ์ได้ง่ายขึ้นและเก็บเวอร์ชันต้นฉบับไว้ในที่เดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นหาไฟล์และโฟลเดอร์โดยใช้ทางลัด
ขั้นตอนการแทนที่ที่จะเกิดขึ้น
- กระบวนการแทนที่จะเริ่มในปี 2022 โดยคุณจะได้รับการแจ้งเตือนใน Google ไดรฟ์ 2-3 สัปดาห์ก่อนที่การแทนที่จะเริ่มต้น
- กระบวนการนี้จะแทนที่ไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดซึ่งได้รับการจัดเก็บไว้ในหลายตำแหน่ง ยกเว้นเพียงตำแหน่งเดียว โดยระบบจะแทนที่ไฟล์และโฟลเดอร์เหล่านั้นด้วยทางลัด
- การตัดสินใจแทนที่จะขึ้นอยู่กับการเป็นเจ้าของไฟล์และโฟลเดอร์เดิม ตลอดจนสิทธิ์เข้าถึงและกิจกรรมในโฟลเดอร์อื่นๆ ทั้งหมดเพื่อให้การทํางานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
- เมื่อมีการแทนที่ การตั้งค่าการแชร์และการเป็นเจ้าของไฟล์กับโฟลเดอร์จะไม่เปลี่ยนแปลง
- การแทนที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและคุณหรือผู้ดูแลระบบ Workspace จะไม่ต้องดําเนินการใดๆ
- คุณเลือกไม่ใช้การแทนที่ไม่ได้
สําคัญ: หลังจากแทนที่ สิทธิ์ของไฟล์ต้นฉบับจะไม่อัปเดตโดยอัตโนมัติเมื่อคุณสร้างทางลัด ดังนั้นอย่าลืมให้สิทธิ์ผู้ใช้ใหม่ในการเข้าถึงไฟล์ต้นฉบับ หากใช้ Google ไดรฟ์ในที่ทํางานหรือโรงเรียน คุณจะลองใช้ Google Groups เพื่อการควบคุมและความปลอดภัยที่มากขึ้นได้ในขณะที่แชร์ไฟล์และโฟลเดอร์
คำถามที่พบบ่อย
ทำไมไดรฟ์จึงแทนที่ไฟล์และโฟลเดอร์ในตำแหน่งต่างๆทางลัดจะทําให้โครงสร้างไฟล์และโฟลเดอร์ในไดรฟ์ซับซ้อนน้อยลง โดยการสร้างตัวชี้ไปยังไฟล์และโฟลเดอร์ แทนที่จะต้องจัดเก็บไฟล์และโฟลเดอร์ไว้ในหลายตําแหน่ง การทําเช่นนี้จะช่วยให้เข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์ได้ง่าย ทั้งยังลดความสับสนที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ การจัดการ และการอัปเดตไฟล์และโฟลเดอร์ เมื่อมีการแทนที่ การตั้งค่าการแชร์และการเป็นเจ้าของไฟล์กับโฟลเดอร์จะไม่เปลี่ยนแปลง
ระบบจะแทนที่ไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดซึ่งได้รับการจัดเก็บไว้ในหลายตำแหน่งด้วยทางลัด ยกเว้นเพียงตำแหน่งเดียว
คุณจะได้รับการแจ้งเตือนใน Google ไดรฟ์เมื่อการแทนที่เสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งยังดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ทางลัดได้ด้วย
คุณสามารถใช้การค้นหาขั้นสูงเพื่อค้นหาไฟล์ที่ถูกแทนที่ได้
- เปิด Google ไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์
- พิมพ์
is:replacedในแถบค้นหาที่ด้านบน - กด Enter บนแป้นพิมพ์
ได้ หากต้องการย้ายไฟล์หรือโฟลเดอร์ต้นฉบับไปยังตําแหน่งอื่น คุณก็สามารถย้ายไฟล์ของคุณใน Google ไดรฟ์ได้ นอกจากนี้คุณยังสร้างทางลัดใหม่ได้ด้วย
ระบบอาจจะไม่แสดงไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่แชร์ซึ่งคุณเป็นเจ้าของต่อทุกคน หากไฟล์ดังกล่าวอยู่ในโฟลเดอร์ที่แชร์ โดยไดรฟ์จะแทนที่รายการเหล่านี้ด้วยทางลัด ผู้ใช้จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงรายการเหล่านี้ แต่ทุกคนที่มีสิทธิ์เข้าถึงจะมองเห็นชื่อไฟล์ได้
หากคุณใช้ Google ไดรฟ์สําหรับที่ทํางานหรือสถานศึกษา ผู้ดูแลระบบจะเป็นคนเลือกว่าต้องการสร้างทางลัดสําหรับไฟล์และโฟลเดอร์ที่แชร์เฉพาะกับบางคนหรือบางกลุ่มเท่านั้นหรือไม่ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับไฟล์และโฟลเดอร์บางรายการ โปรดติดต่อผู้ดูแลระบบ
หากคุณใช้บัญชี Google สําหรับการใช้งานส่วนตัว (เช่น @gmail.com) ก็สามารถเลือกได้ว่าจะสร้างทางลัดสําหรับรายการซึ่งไม่ได้แสดงต่อสมาชิกทุกคนในโฟลเดอร์ที่แชร์หรือไม่
- เปิด Google ไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์
- ที่ด้านบน ให้คลิกการตั้งค่า
การตั้งค่า
- ข้าง "ตัวเลือกสำหรับแทนที่รายการด้วยทางลัด" ให้เลือกแทนที่ด้วยทางลัดหรือไม่ต้องแทนที่ด้วยทางลัด
การตั้งค่า- ไปที่ Google ไดรฟ์ในคอมพิวเตอร์
- คลิกไฟล์หรือโฟลเดอร์ระดับบน
- ที่ด้านขวาบน ให้คลิกดูรายละเอียด
กิจกรรม
กิจกรรมไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปจะย้ายโฟลเดอร์เวอร์ชันออฟไลน์รวมถึงเนื้อหาในโฟลเดอร์นั้นๆ ไปยังถังขยะ
สําคัญ: Windows Files Explorer จะไม่จัดเรียงทางลัดด้วยโฟลเดอร์ ทางลัดใหม่จึงอาจปรากฏขึ้นในลําดับที่แตกต่างไปในโปรแกรมเรียกดูไฟล์
สําคัญ: หากคุณกู้คืนโฟลเดอร์ที่ถูกลบจากถังขยะ ไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปจะไม่อัปเดตโฟลเดอร์ดังกล่าว
- ไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปจะยังคงแสดงโฟลเดอร์เป็นทางลัดในรายการไฟล์
- โฟลเดอร์จะเปลี่ยนเส้นทางแบบสัมบูรณ์และย้ายไปที่โฟลเดอร์ "shortcuts-target-by-id" ในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป ทางลัดระบบไฟล์ในเครื่องไปยังตําแหน่งใหม่จะแทนที่ไดเรกทอรีหลักเดิม คือ .lnk สําหรับ Windows, Alias สําหรับ Mac หรือ Symlink สําหรับ Mac
- เมื่อใช้แอปพลิเคชันภายนอกกับไดรฟ์ โปรดตรวจสอบว่าแอปพลิเคชันเข้าถึงโฟลเดอตามเส้นทางที่ถูกต้อง
- โฟลเดอร์จะไม่พร้อมใช้งานแบบออฟไลน์โดยอัตโนมัติ
- หากคุณสตรีมไฟล์และต้องการให้โฟลเดอร์กับเนื้อหาใช้งานได้แบบออฟไลน์ ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์เพื่อเปลี่ยนค่ากำหนด