ภาพรวมลําดับชั้นของ Google Analytics
Google Analytics ได้รับการจัดระเบียบตามลําดับชั้นดังนี้
- องค์กร (ไม่บังคับ)
- บัญชี Analytics
- พร็อพเพอร์ตี้ Analytics
- บัญชี Analytics
คุณให้สิทธิ์แก่ผู้ใช้ที่ระดับองค์กร บัญชี และพร็อพเพอร์ตี้ รวมทั้งให้สิทธิ์แก่ผู้ใช้ในแต่ละระดับได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการผู้ใช้ที่ระดับองค์กรและระดับบัญชี/พร็อพเพอร์ตี้
การกำหนดค่าองค์กร
ผลิตภัณฑ์และผู้ใช้จะรวมอยู่ในองค์กร องค์กรเป็นตัวแทนของบริษัทซึ่งจะทำให้คุณเข้าถึงบัญชีผลิตภัณฑ์ของบริษัท (เช่น Analytics, Tag Manager, Optimize) รวมถึงจัดการสิทธิ์ของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์และการผสานรวมข้ามผลิตภัณฑ์ได้ โดยคุณจะเข้าถึงองค์กรได้ที่ marketingplatform.google.com/home
ตัวอย่างเช่น องค์กรอาจมีการกําหนดค่าต่อไปนี้
- องค์กร
- บัญชี Analytics
- พร็อพเพอร์ตี้ Analytics
- บัญชี Google Tag Manager
- บัญชี Google Optimize
- บัญชี Analytics
องค์กรเป็นตัวเลือกที่ไม่บังคับ แต่แนะนำให้ใช้เนื่องจากประโยชน์ที่คุณจะได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์กร
บัญชี Analytics
บัญชีนี้เป็นประตูสู่การใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Analytics และเป็นเหมือนที่เก็บรวบรวมพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ของคุณ คุณมีบัญชี Analytics ได้อย่างน้อย 1 บัญชี (สูงสุดไม่เกิน 100 บัญชี) แต่ละบัญชีจะมีพร็อพเพอร์ตี้ได้สูงสุด 2,000 รายการ
คุณจะจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบัญชีและพร็อพเพอร์ตี้อย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับคุณ คุณอาจใช้ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่งอย่าง 1 บัญชี/1 พร็อพเพอร์ตี้ หรืออาจใช้ความสัมพันธ์แบบ 1 ต่อหลายรายการอย่าง 1 บัญชี/หลายพร็อพเพอร์ตี้ก็ได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดโครงสร้างบัญชี
เมื่อสร้างบัญชี คุณจะมีตัวเลือกในการเพิ่มบัญชีไว้ในองค์กรที่มีอยู่
ระบบจะระบุผู้ใช้ Analytics ด้วยอีเมล Google อีเมลเหล่านี้อาจเป็นอีเมลสำหรับบัญชี Google เช่น Gmail หรืออาจเป็นอีเมลสำหรับบัญชี Google Workspace ที่เชื่อมโยงกับแต่ละธุรกิจ
คุณลงชื่อเข้าใช้ Analytics ที่ google.com/analytics โดยใช้อีเมลและรหัสผ่าน Google ของคุณ เมื่อลงชื่อเข้าใช้ คุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีและพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับอีเมลของคุณ
หากคุณมีสิทธิ์ในระดับบัญชี คุณจะเห็นพร็อพเพอร์ตี้ทั้งหมดในบัญชีนั้น หากคุณมีสิทธิ์เฉพาะชุดย่อยของพร็อพเพอร์ตี้ คุณจะเห็นแค่พร็อพเพอร์ตี้เหล่านั้น และสตรีมข้อมูลของพร็อพเพอร์ตี้
พร็อพเพอร์ตี้ Analytics
โดยเป็นที่เก็บรายงานตามข้อมูลที่คุณรวบรวมจากแอปและเว็บไซต์ คุณสามารถสร้างพร็อพเพอร์ตี้ได้สูงสุด 2,000 รายการในบัญชี
Google Analytics 4
พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 แสดงถึงแอปและ/หรือเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น อาจมีแอปเกมที่คุณขายผ่าน Google Play และ App Store และคุณอาจมีเว็บไซต์การตลาดของแอปดังกล่าว คุณสามารถสร้างพร็อพเพอร์ตี้ที่แสดงเฉพาะแอป หรือแอปและเว็บไซต์ได้
เมื่อใช้พร็อพเพอร์ตี้เพื่อแสดงถึงแอป พร็อพเพอร์ตี้ควรแสดงแอปพลิเคชันแบบลอจิคัลเดียว เช่น เกมเดียว แอปพลิเคชันแบบลอจิคัลเดียวดังกล่าวอาจเป็นเกมเดียวกันในแพลตฟอร์มต่างๆ (เช่น Android และ iOS)
พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 ใช้แนวคิดของสตรีมข้อมูลแยกต่างหาก (ดูด้านล่าง) สําหรับทัชพอยต์ของลูกค้าที่ส่งข้อมูลไปยังพร็อพเพอร์ตี้
พร็อพเพอร์ตี้ 360
หากเป็นลูกค้า Analytics 360 คุณจะสร้างพร็อพเพอร์ตี้เพิ่มเติม 2 ได้อีกประเภท ดังนี้
- พร็อพเพอร์ตี้ย่อย: ได้รับข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้อื่น 1 รายการ ข้อมูลในพร็อพเพอร์ตี้ย่อยมักจะ (แต่ไม่จำเป็นต้อง) เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพร็อพเพอร์ตี้ย่อย
- พร็อพเพอร์ตี้ควบรวม: ได้รับข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้อื่นหลายรายการ พร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมแสดงมุมมองอย่างกว้างของธุรกิจในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ หรือภูมิภาคต่างๆ โดยการรวบรวมข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้แหล่งที่มาหลายรายการไว้เป็นพร็อพเพอร์ตี้ภาพรวมรายการเดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพร็อพเพอร์ตี้ควบรวม
สตรีมข้อมูล (พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4)
พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 แต่ละรายการมีสตรีมข้อมูลได้สูงสุด 50 รายการ (สตรีมข้อมูลแอปและเว็บใดๆ รวมกัน โดยจำกัดให้มีสตรีมข้อมูลแอปได้ไม่เกิน 30 รายการ)
สตรีมข้อมูลคือการส่งข้อมูลจากทัชพอยต์ของลูกค้า (เช่น แอป เว็บไซต์) ไปยัง Analytics
เมื่อคุณสร้างสตรีมข้อมูล Analytics จะสร้างข้อมูลโค้ดที่คุณเพิ่มลงในแอปหรือเว็บไซต์เพื่อรวบรวมข้อมูลนั้น ระบบจะรวบรวมข้อมูลนับตั้งแต่เวลาที่คุณเพิ่มโค้ด และข้อมูลดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานของรายงาน
หากคุณรวบรวมข้อมูลสําหรับแอปพลิเคชันแบบลอจิคัลเดียวในหลายๆ แพลตฟอร์ม เช่น Android และ iOS คุณจะสร้างสตรีมข้อมูลสําหรับแต่ละแพลตฟอร์ม (เช่น สตรีมข้อมูลหนึ่งสําหรับแอปเกมใน Google Play และสตรีมข้อมูลอีกรายการหนึ่งสําหรับแอปเกมใน App Store)
หากคุณลบสตรีมข้อมูล Analytics จะเก็บรักษาข้อมูลประวัติ แต่จะไม่มีการประมวลผลข้อมูลนั้นเพิ่มเติมอีก และคุณจะใช้ข้อมูลนั้นในตัวกรองรายงานไม่ได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเพิ่มสตรีมลงในพร็อพเพอร์ตี้ Analyticss
การสลับระหว่างบัญชีกับพร็อพเพอร์ตี้
Analytics สะดวกต่อการสลับใช้บัญชีและพร็อพเพอร์ตี้ต่างๆ ที่คุณเข้าถึงได้ผ่านเมนูแบบง่ายๆ ในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
เปรียบเทียบลำดับชั้นของ Analytics และ Firebase
Analytics | Firebase |
---|---|
บัญชี | (ไม่มีระดับเทียบเคียง) |
พร็อพเพอร์ตี้ | โปรเจ็กต์ |
สตรีมข้อมูล | แอป |